นิวซีเเลนด์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 14 Apr 2022 01:48:38 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘นิวซีเเลนด์’ ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% สู่ระดับ 1.5% สูงสุดในรอบ 22 ปี หวังสกัดเงินเฟ้อ https://positioningmag.com/1381537 Wed, 13 Apr 2022 07:45:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1381537 ธนาคารกลางนิวซีเเลนด์ ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในรอบ 22 ปี ส่งสัญญาณว่าผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกกำลังเพิ่มความพยายามที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่ม 0.50% สู่ระดับ 1.50% สูงสุดในรอบ 22 ปี นับตั้งแต่ปี 2000 โดยเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ติดต่อกัน เพื่อลดผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

RBNZ ระบุในเเถลงการณ์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะทำให้เกิดความยืดหยุ่นด้านนโยบายเพิ่มขึ้นในอนาคต ท่ามกลางภาวะแวดล้อมของเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนสูง

อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกกำลังเร่งตัวขึ้น ท่ามกลางการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและผลกระทบของการรุกรานยูเครนของรัสเซียที่มีต่อราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ โดยในนิวซีแลนด์และแคนาดาได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ที่ 8.5% สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1981

การรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้อัตราเงินเฟ้อแย่ลง ขณะเดียวกันก็กระทบต่อความเชื่อมั่นและทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจชะลอลง หลังเพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19

นิวซีแลนด์ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดที่สุด โดยมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางแคนาดา เตรียมจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.5% สู่ระดับ 1% ในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายต่างจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนพ..ที่จะถึงนี้ หลังเริ่มมีสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกรอบ เเละอาจจะปรับขึ้น 0.5% หากสถานการณ์มีความจำเป็น

Jarrod Kerr หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Kiwibank มองว่า เฟดก็กำลังจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% เช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหาอัตราเงินเฟ้อ

 

ที่มา : Bloomberg , nikkei 

]]>
1381537
นิวซีเเลนด์ มุ่งฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนครบโดส เเตะ 90% ก่อน ถึงจะยกเลิกล็อกดาวน์ https://positioningmag.com/1357982 Fri, 22 Oct 2021 12:44:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1357982 นายกฯ นิวซีแลนด์ ประกาศเป้าหมายฉีดวัคซีนครบโดสให้ได้ 90% ก่อน ถึงจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบ

นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ระบุว่า เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนโควิดครบสองเข็ม ครอบคลุมประชากรอายุ 12 ปีขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 90% เเล้ว นิวซีเเลนด์จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ทั้งหมด รวมถึงเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงต้นปี 2022 นี้ด้วย

โดยรัฐบาลมีเงินช่วยเหลือภาคธุรกิจกิจการต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากการล็อกดาวน์ พร้อมเร่งสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้ชนเผ่าพื้นเมืองที่ขณะนี้มีอัตราการฉีดน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ ในประเทศ

ปัจจุบัน นิวซีแลนด์มีประชากรทั้งหมดราว 4.8 ล้านคน ระดมฉีดวัคซีนครบโดสไปแล้วกว่า 68% ขณะที่ประชากรราว 86% ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว โดยนิวซีแลนด์เลือกใช้วัคซีนของ Pfizer–BioNTech เพียงยี่ห้อเดียว

ก่อนหน้านี้ นิวซีเเลนด์ ได้ล้มเลิกกลยุทธ์ ‘Zero-Covid’ พร้อมกับยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ได้ ท่ามกลางความไม่เเน่นอนของไวรัสกลายพันธุ์ โดยจะหันมาใช้แนวทางอยู่ร่วมกันกับโควิดเเทน และจะผ่อนคลายมาตรการเป็นระยะๆ เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น

ดังนั้น หลังจากเปลี่ยนแนวทาง’ การควบคุมโรคที่ดำเนินมายาวนาน นิวซีเเลนด์จะใช้ ‘วัคซีน’ ป้องกันโควิดมาเป็นตัวสนับสนุนแนวทางใหม่ 

เมื่อเเต่ละพื้นที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่สองทะลุ 90% เเล้ว ผู้คนก็ยังจำเป็นต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน เพื่อเข้าใช้บริการและสถานที่ชุมนุมต่างๆ อย่าง บาร์ ร้านอาหาร และสถานที่ออกกำลังกาย

ทั้งนี้ ความเข้มงวดในประกาศใช้มาตรการต่างๆ จะเเบ่งตามพื้นที่เป็นสีๆ คือ เขียว ส้มและแดง โดยในพื้นที่สีเขียวบรรดาร้านค้าส่วนใหญ่ จะสามารถเปิดทำการได้ตามปกติ ส่วนพื้นที่สีส้ม ประชาชนอาจจะต้องสวมหน้ากากอนามัยเเละมีการเว้นระยะห่างทางสังคม เเละพื้นที่สีแดงจะมีการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น เช่นจำกัดการชุมนุม กำหนดเวลาเปิด-ปิดร้าน ฯลฯ

เเละแน่นอนว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว จะมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวันน้อยกว่ากลุ่มคนที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบโดส เพราะจะต้องเจอเงื่อนไขทางสังคมต่างๆ ในการใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ในช่วงวิกฤตโควิด

สำหรับสถานการณ์โควิดในนิวซีเเลนด์ ล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อสะสมราว 5,450 ราย เสียชีวิตแล้ว 28 ราย 

 

ที่มา : Reuters , AFP , ABC News 

 

]]>
1357982
นิวซีเเลนด์ เลิกใช้กลยุทธ์ Zero-Covid คุมยอดป่วยเป็นศูนย์ ‘ทำได้ยาก’ เพราะเดลตา https://positioningmag.com/1354663 Mon, 04 Oct 2021 11:13:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1354663 นิวซีเเลนด์ ล้มเลิกกลยุทธ์ ‘Zero-Covid’ พร้อมยอมรับว่าเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ได้ ท่ามกลางความไม่เเน่นอนของไวรัสกลายพันธุ์ โดยจะหันมาใช้แนวทางอยู่ร่วมกันกับโควิด และผ่อนคลายมาตรการเป็นระยะๆ เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ เเถลงถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ ว่าจากสถานการณ์โรคระบาดในครั้งนี้ ที่มีโควิดสายพันธุ์เดลตาเป็นตัวแปรสำคัญ ทำให้เเผนการที่จะคุมยอดผู้ป่วยโควิดให้เป็นศูนย์นั้นทำได้ยากมาก

โดยนิวซีเเลนด์ เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่สามารถทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ลดลงเหลือศูนย์ได้ในปีที่แล้ว จนกระทั่งเมื่อช่วงกลางเดือนส.. ที่ผ่านมา มีการการระบาดระลอกใหม่ของสายพันธุ์เดลตาที่เเพร่เชื้อได้ง่ายเเละรวดเร็วกว่าเดิม

ดังนั้น เวลานี้รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนแนวทางการควบคุมโรคที่ดำเนินมายาวนาน โดยจะมีวัคซีนป้องกันโควิดมาเป็นตัวสนับสนุนแนวทางใหม่ 

เเละเป็นที่เเน่ชัดเเล้วว่า การที่รัฐใช้มาตรการคุมเข้มเป็นเวลานานนั้น ไม่สามารถทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อเป็นศูนย์ได้อีกต่อไป

ในปีที่แล้ว นโยบายการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในเเต่ละพื้นที่ของนิวซีแลนด์ เพื่อควบคุมไวรัสโคโรนา ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจ เเละมีส่วนช่วยทำให้อาร์เดิร์น ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสมัยที่ 2 แต่การจัดหาวัคซีนที่ล่าช้าและการระบาดของเดลตาที่มีอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ทำให้ความนิยมของเธอเริ่มลดลง

โดยผู้นำนิวซีเเลนด์ ระบุว่าการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดจะสิ้นสุดลงเมื่อ 90% ของประชากรได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสเเล้ว

จากปัจจุบัน ที่มีชาวนิวซีแลนด์ประมาณ 2 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว หรือคิดเป็น 48% ของประชากรที่อยู่ในเกณฑ์

สำหรับการผ่อนคลายมาตรการในโอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่กลางเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เเละมีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 1.7 ล้านคน จะได้รับการผ่อนคลายเป็นระยะๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.นี้

โดยประชาชนในเมืองโอ๊คแลนด์ จะสามารถออกนอกบ้านเพื่อพบปะครอบครัวหรือเพื่อนฝูงได้ไม่เกิน 10 คน ไปชายหาดและสวนสาธารณะได้ ส่วนโรงเรียนเด็กปฐมวัยจะได้รับอนุญาตให้เปิดสอนได้ เเละร้านที่ให้บริการซื้อกลับบ้าน สามารถกลับมาเปิดต่อได้ เเต่ต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัยที่จำเป็น

สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในนิวซีเเลนด์วันนี้ (4 ..) เพิ่มขึ้น 29 ราย ทำให้ยอดสะสมของระลอกครั้งล่าสุดที่ 1,357 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเมืองโอ๊คแลนด์ที่ล็อกดาวน์มาเกือบ 50 วันแล้ว โดยรวมนิวซีแลนด์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสะสม นับตั้งเเต่เกิดโรคระบาดราว 4,300 คน และผู้เสียชีวิตเพียง 27 คนเท่านั้น

 

ที่มา : Reuters , AFP

]]>
1354663
มรสุม ปี 2020 สุดยอด “ผู้นำหญิง” เฉิดฉายในเกมการเมืองโลก https://positioningmag.com/1312563 Thu, 31 Dec 2020 09:18:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312563 ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลอดปี 2020’ ทั่วโลกต้องเผชิญมรสุมโรคระบาดครั้งใหญ่ มาซัดกระหน่ำเเบบไม่หยุดหย่อน เเละจะส่งผลกระทบทุกภาคส่วน ต่อเนื่องไปอีกหลายปี

การมาของ COVID-19 ได้พลิกวิถีชีวิตของผู้คนไปเเบบคาดไม่ถึง เมื่อการเดินทางที่เคยไปไหนก็ได้ทั่วโลกกลับหยุดชะงัก ยอดผู้ติดเชื้อสะสมที่ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องหวั่นวิตกกับการกลายพันธุ์ที่มาซ้ำเติมระหว่างรอวัคซีน ทำให้เศรษฐกิจโลกที่ทรุดอยู่เเล้ว ต้องทรุดหนักลงไปอีก รัฐบาลในเเต่ละประเทศต้องต่อสู้กับการบริหารจัดการวิกฤต

ช่วงมรสุมที่ต้องเจอกับสารพัดความท้าทายตลอดปี 2020 นี้ เป็นช่วงเวลาที่ผู้นำหญิงได้เเสดงศักยภาพอันโดดเด่นในการบริหารประเทศ ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากประชาคมโลกไม่น้อย เเละผลงานของพวกเธอจะยังเฉิดฉายต่อไปในปี 2021 อย่างเเน่นอน

Positioning รวบรวมสุดยอดผู้นำหญิง’ (บางส่วน) ที่มีบทบาทสำคัญในเกมการเมืองโลกตลอดช่วงปีที่ผ่านมา

อังเกลา แมร์เคิล : เยอรมนี

เริ่มต้นกับสุดยอดหญิงเเกร่งอย่างอังเกลา แมร์เคิล’ (Angela Merkel) นายกรัฐมนตรีเเห่งเยอรมนี ผู้ได้รับการตัดอันดับจากนิตยสาร Forbes ให้เป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน 

เยอรมนีถือเป็นประเทศผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันโครงการเศรษฐกิจเเละสังคมต่างๆ รวมไปถึงข้อตกลงดีลเบร็กซิตการเเยกตัวของสหราชอาณาจักร ที่เพิ่งบรรลุไปหมาดๆ จบมหากาพย์ยืดเยื้อยาวถึง 4 ปี

อ่านรายละเอียด : สรุป 10 ข้อสำคัญปิดดีล Brexit” อังกฤษ-EU

ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด แมร์เคิลต้องเเบกภาระหนักอึ้ง จากสถานการณ์ในเยอรมนีนั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อต้องติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดของโลก โดยยอดล่าสุดอยู่ที่ราว 1.29 ล้านราย รักษาหายแล้ว 9.5 แสนราย 

ที่ผ่านมา เยอรมนีใช้มาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรป หลังจากผ่านการระบาดในช่วงเเรก เเละตอนนี้กำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดอีกระลอก เมื่อเริ่มพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเป็นจำนวนมากกว่าการระบาดช่วงฤดูใบไม้ผลิถึง 3 เท่า

อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน

ดังนั้น รัฐบาลเยอรมนี จึงขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ด้วยการสั่งปิดร้านค้าที่ไม่จำเป็น รวมถึงให้มีการเรียนการสอนผ่านทางออนไลน์ ไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 10 มกราคม 2021

ในช่วงมรสุม แมร์เคิล ชนะใจประชาชนด้วยการพูดคุยอย่างเปิดเผยว่าประเทศชาติกำลังเผชิญความท้าทายอะไรอยู่ โดยในช่วงเเรกๆ ที่เกิดการเเพร่ระบาด เธอได้ออกมายอมรับอย่างรวดเร็วว่า COVID-19 เป็นภัยที่ร้ายแรงมากต้องรีบจัดให้มีการตรวจหาเชื้อติดตามและกักตัวผู้ติดเชื้อ

EU ได้เริ่มฉีดวัคซีน COVID-19 แล้ว เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.. ที่ผ่านมา โดยเริ่มเเจกจ่ายให้กลุ่มเปราะบาง และบุคลากรการแพทย์ก่อน ซึ่งคุณยายวัย 101 ปีได้รับเป็นคนแรกในเยอรมนี

สิ่งที่น่าจับตามองในปี 2021 คือการประกาศวางมือทางการเมืองของเเมร์เคิล ที่กำลังก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังหมดวาระลงในปีหน้านี้ ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการเมืองยุโรป ต้องติดตามกันว่าจะเป็นไปในทิศทางใด

จาซินดา อาร์เดิร์น : นิวซีเเลนด์ 

โดดเด่นทั้งบุคลิกเเละผลงาน ต้องมอบมงให้จาซินดา อาร์เดิร์น” (Jacinda Ardern) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่ได้รับคำชมจากนานาชาติอย่างล้นหลาม เเละการชื่นชมชมจากประชาชนในประเทศ ด้วยการเลือกให้ชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2

ตลอดการทำงานในตำเเหน่งผู้นำประเทศ เธอได้ดำเนินนโยบายต่างๆ ที่หลากหลายเเละเเปลกใหม่ทั้งการรับมือผู้ก่อการร้ายที่นำไปสู่การปฏิรูปกฎหมายครอบครองอาวุธปืน การส่งเสริมสิ่งเเวดล้อมผลักดันปัญหาสภาพอากาศในเวทีโลก การสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ เเละการสร้างงานต่างๆ

เเละในขณะที่ประเทศต้องรับมือกับโรคระบาด อาร์เดิร์นก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดไม่เเพ้ใคร

โดยนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ตั้งใจจะหยุดการแพร่ระบาดโดยสิ้นเชิง ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ตอนที่ผู้เสียชีวิตในประเทศมีแค่ 6 รายเท่านั้น เพื่อเดินหน้าตรวจและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งในช่วงกลางปี 2020 นิวซีเเลนด์มียอดผู้ติดเชื้อใหม่เป็นศูนย์เเละติดลิสต์เป็นหนึ่งในประเทศที่จัดการโรคระบาดได้ดีที่สุด

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ (Photo by Hagen Hopkins/Getty Images)

นิวซีแลนด์ ได้สั่งจองวัคซีน COVD-19 มากเพียงพอต่อประชากรภายในประเทศทั้งหมดราว 5 ล้านเเล้ว โดยต่อไปจะมีการเเบ่งปันวัคซีนส่วนต่างไปให้ประเทศใกล้เคียงด้วย

รัฐบาลนิวซีแลนด์เพิ่งให้ไฟเขียวข้อตกลง Travel Bubble กับออสเตรเลีย ภายในไตรมาสแรกปี 2021 เป็นความพยายามครั้งใหม่ หลังจากเคยคุยกันมาหลายรอบแต่เป็นอันพับแผนเพราะการระบาดซ้ำ โดยข้อตกลงนี้สำคัญกับภาคท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ ซึ่งมีลูกค้าต่างประเทศเป็นชาวออสเตรเลียเกือบ 50%

ซานนา มาริน : ฟินเเลนด์ 

นี่คือยุคของคนรุ่นใหม่ของจริงกับซานนา มาริน (Sanna Marin) นายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลก วัย 34 ปี จากฟินแลนด์ เธอเดินหน้าสนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศ จัดตั้งรัฐบาลผสมที่ล้วนมีผู้หญิงเป็นผู้นำพรรค ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองโลก

มารินได้เสนอตารางการทำงานแบบใหม่ โดยแบ่งให้ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ในเวลา 6 ชั่วโมง/วัน เพื่อให้คนงานใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น

ก่อนที่เธอจะเป็นนายกรัฐมนตรี มารินเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของฟินแลนด์ ในขณะที่อยู่ในตำแหน่งดังกล่าว Marin สนับสนุนให้มีเวลาทำงานน้อยลง เพื่อปรับปรุงความสามัคคีและผลผลิตของพนักงาน ขณะที่ปัจจุบันฟินแลนด์ทำงานแปดชั่วโมงต่อวัน ห้าวันต่อสัปดาห์

ซานนา มาริน นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์

ฉันเชื่อว่าผู้คนควรใช้เวลากับครอบครัว คนที่รัก งานอดิเรก และใช้เวลากับด้านอื่นๆ ของชีวิต เช่น วัฒนธรรม และนี่อาจเป็นขั้นต่อไปสำหรับชีวิตการทำงานของเรา

ในช่วงการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ก็สร้างความท้าทายให้ผู้นำรุ่นใหม่ไม่น้อย เเต่ฟินแลนด์ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับเสียงชื่นชมในการรับมือ COVID-19 อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันก่อน ทางการระบุว่า พลเมืองฟินแลนด์อย่างน้อย 1 คนที่เพิ่งเดินทางกลับจากสหราชอาณาจักร ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโรค COVID-19  กลายพันธุ์ก็ต้องรอดูว่ารัฐบาลภายใต้การนำของซานนา มารินจะจัดการวิกฤตนี้ต่อไปอย่างไร

ไช่อิงเหวิน : ไต้หวัน 

เราคงคุ้นเคยกับชื่อของไช่อิงเหวิน(Tsai Ing-wen) ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของไต้หวัน ที่ขึ้นชื่อในความเเข็งเเกร่ง ด้วยการการดำเนินนโยบายแข็งกร้าวต่อจีนแผ่นดินใหญ่พยายามผลักดันให้ไต้หวันมีบทบาท เเละเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก รวมถึงการประกาศให้ไต้หวันใช้กฎหมายสมรสเพศเดียวกันเป็นชาติแรกในเอเชีย 

โดยเมื่อต้นที่ผ่านมา ไช่อิงเหวิน ชนะเลือกตั้งด้วยคะเเนนเสียงท่วมท้น นั่งเก้าอี้ผู้นำไต้หวันต่อเป็นสมัยที่ 2

ความท้าทายในปีนี้ของไช่อิงเหวิน นอกเหนือจากการเล่นการเมืองเเห่งอำนาจเเล้ว เธอยังต้องเจอวิกฤตการระบาดของ COVID-19 ที่ค่อนข้างสาหัสทีเดียว ในช่วงเเรกไต้หวันได้รับการยกย่องว่าจัดการโรคระบาดได้ดีลำดับต้นๆ ของโลก ก่อนจะมีการระบาดซ้ำในเวลาต่อมา

ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน (Photo by Clicks Images/Getty Images)

เเผนการรับมือ COVID-19 ของไต้หวัน ที่สำคัญคือการตื่นตัว และไม่นั่งอยู่เฉยๆ จากนั้นไต้หวันใช้วิธีรุกด้วยการตั้งศูนย์บัญชาการกลาง Central Epidemic Command Center ศูนย์ CDC นี้ทำให้ไต้หวันสามารถเดินมาตรการและตัดสินใจได้เร็วทันการณ์ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจจับและติดตามผู้ติดเชื้อแบบไม่คลาดสายตา

ขณะเดียวกัน ไต้หวันทำได้ดีคือการเตรียมพร้อมด้านอุปกรณ์ หน้ากากที่ไต้หวันไม่ขาดตลาดและมีราคาตั้งที่ 16 เซ็นต์ต่อแผ่นเท่านั้น (ราว 0.17 บาท) ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้ต่อสาธารณชนอย่างทั่วถึง คู่ไปกับภาคประชาชนที่ลงมือดูแลตัวเอง ตรวจวัดอุณหภูมิลูกหลานตั้งแต่ที่บ้าน แล้วรายงานให้ครูทราบเมื่อเดินทางมาถึงโรงเรียน ทั้งหมดนี้ไต้หวันทำได้เพราะการเรียนรู้จากประสบการณ์ล้วนๆ

อ่านเพิ่มเติม : กรณีศึกษา: ถอด 8 บทเรียน ทำไมไต้หวันคุม COVID-19 ได้อยู่หมัด!

ไช่อิงเหวิน เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ที่จะมีบทบาทสำคัญต่อเกมการเมืองโลก เรื่อยไปอย่างน้อยจนถึงปี 2024 เเน่นอน

คามาลา แฮร์ริส : สหรัฐอเมริกา 

ตั้งเเต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ใครๆ ก็คงจับตาการเมืองฉากใหม่ของอเมริกา

คามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) สร้างประวัติศาสตร์ เป็นสตรีคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เเละยังเป็นลูกครึ่งเอเชียคนแรก และชาวอเมริกันผิวสีคนแรกที่ได้ครองตำแหน่งนี้ด้วย

จากอัยการเขตหญิงคนแรกของซานฟรานซิสโก สู่การขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศเบอร์สอง “แฮร์ริสจุดประกายความหวังในโลกการเมืองของผู้หญิงอีกครั้ง หลังฮิลลารี คลินตันพ่ายแพ้ให้แก่ประธานาธิบดีทรัมป์ ในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน

แม้ว่าฉันจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ทำงานนี้ แต่ฉันจะต้องไม่ใช่คนสุดท้าย

คามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Photo : Twitter / @KamalaHarris )

หลังรู้ผลว่าชนะเลือกตั้ง แฮร์ริส ได้กล่าวยกย่องผู้หญิงหลากหลายเชื้อชาติและสีผิวในอเมริกา ที่ช่วยต่อสู้ให้ผู้หญิงผิวสีในอเมริกาได้มีวันนี้ ประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศ และสิทธิที่จะได้แสดงความคิดเห็นหรือร่วมลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยเธอบอกว่า เด็กผู้หญิงทุกคนที่กำลังดูอยู่ จะเห็นว่านี่คือประเทศแห่งความเป็นไปได้

โจ ไบเดนเพิ่มความหลากหลายทางเพศในคณะทำงานระดับสูงของเขา ด้วยการเปิดตัวทีมสื่อสารหญิงล้วน (4 คนในนั้นเป็นผู้หญิงผิวดำ) ทีมเศรษฐกิจหญิงแกร่ง นำโดยอดีตประธานเฟดอย่างจาเน็ต เยลเลนเเละดึง ส.ส. หญิงอายุน้อยมานั่งกระทรวงแรงงาน นี่คือความต้องการพลิกการเมืองจากยุคของโดนัลด์ ทรัมป์

รอดูกันว่า ปี 2021 การเปลี่ยนเเปลงด้วยพลังหญิงในรัฐบาลมหาอำนาจอย่างอเมริกา จะสร้างแรงกระเพื่อมได้มากน้อยเพียงใด

 

]]>
1312563
นายกฯ นิวซีเเลนด์ นำทีมครม. หั่นเงินเดือน 20% นาน 6 เดือน ช่วยชาติสู้ COVID-19 https://positioningmag.com/1273557 Wed, 15 Apr 2020 08:52:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1273557 นายกหญิงเเห่งนิวซีเเลนด์ พร้อมคณะรัฐมนตรีเเละข้าราชการระดับสูง เเสดงสปิริตพร้อมใจตัดเงินเดือน 20% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัส COVID-19

สำนักงาน ห้างร้าน เเละโรงเรียนในนิวซีเเลนด์ต้องปิดชั่วคราวในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจของประเทศต้องหยุดชะงัก ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด

“นี่คือสิ่งที่เราช่วยได้ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงช่วย” Jacinda Ardern นายกรัฐมนตรีนิวซีเเลนด์ วัย 39 ปีกล่าว

โดยการตัดสินใจนี้จะไม่มีผลต่อฐานะการเงินโดยรวมของรัฐบาล แต่เป็นการแสดงออกถึง “ความเป็นผู้นำ” เเละความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับประชาชน ที่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของ COVID-19 จะมีผลกระทบกับชาวนิวซีแลนด์ไปอีกสักระยะ ซึ่งผู้นำนิวซีเเลนด์ ย้ำว่าจะไม่เสนอให้ลดเงินเดือนข้าราชการเเบบถ้วนหน้า เพราะส่วนใหญ่เป็นคนทำงานในเเนวหน้า อย่างบุคลากรทางการแพทย์และตำรวจ

AFP ระบุว่า นายกรัฐมนตรีนิวซีเเลนด์ มีเงินเดือนเฉลี่ยปีละ 4.7 เเสนดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 9.28 ล้านบาท) ซึ่งการประกาศลดเงินเดือน 20% เป็นเวลา 6 เดือนครั้งนี้ ทำให้เธอขายรายได้ไป 47,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 928,000 บาท)

ด้านสถานการณ์ COVID-19 ในนิวซีเเลนด์ล่าสุดในวันนี้ (15 เม.ย.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 20 ราย ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 1,386 ราย เเละมียอดมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 9 ราย คาดว่ารัฐบาลจะตัดสินใจในสัปดาห์หน้าว่าจะยืดมาตรการล็อกดาวน์ “ระดับ 4” จากเดิมที่ประกาศไว้ 1 เดือนออกไปอีกหรือไม่ ซึ่งอาจจะทำให้อัตราการว่างงานจะเพิ่มสูงจาก 4% ไปเป็น 17.5-26%

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้อีดฉีดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤต covid-19 ทั้งการชดเชยเงินเดือนและสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กไปแล้วราว 20,000 ล้านเหรียญนิวซีแลนด์ (ราว 3.9 เเสนล้านบาท) โดยกำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่จะออกมาเร็วๆ นี้

Grant Robertson รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า แผนงบประมาณที่จะแถลงต่อรัฐสภาในครั้งต่อไปจะมุ่งเน้นที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลัก เพื่อลดอัตราการว่างงานให้เหลือต่ำกว่า 10% และกลับมาที่ 5% ให้ได้ในปี 2021

ที่มา : Reuters , AFP , channelnewsasia

 

]]>
1273557
บินถูกก็นอนสบายได้! เเอร์นิวซีเเลนด์ เปิดตัว Skynest “เตียงนอน 3 ชั้น” บนเที่ยวบินชั้นประหยัด https://positioningmag.com/1265931 Wed, 26 Feb 2020 09:47:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1265931 ถึงมีงบน้อยเเต่ก็ “นอนบนเตียง” ในเครื่องบินได้เเล้ว ล่าสุดสายการบิน Air New Zealand เปิดตัว Economy Skynest ห้องโดยสารบนเครื่องบินชั้นประหยัดเเบบใหม่ มีเตียง 3 ชั้นเหมือนนอนในโรงแรมแคปซูล ซึ่งจะเริ่มทดสอบใช้เดือน ต.ค.นี้ กับเที่ยวบินยาว 16-18 ชั่วโมงในเส้นทางนครนิวยอร์ก-โอ๊กแลนด์ที่กำลังจะเปิดใหม่ หลังจากนั้นสายการบินจะตัดสินใจอีกทีว่าจะเปิดให้บริการทั่วไปหรือไม่ 

Economy Skynest เป็นห้องโดยสารต้นเเบบที่พัฒนาโดยศูนย์นวัตกรรม Hangar 22 หนึ่งในหน่วยงานของสายการบินนี้ โดยเป็นการต่อยอดความสำเร็จจาก “Economy Skycouch” ที่ช่วยให้ครอบครัวหรือผู้ที่จองที่นั่งติดกันสามารถเปลี่ยนที่นั่งชั้นประหยัด 3 เก้าอี้ให้กลายเป็นเตียงเดี่ยวได้ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ

สำหรับ Economy Skynest นี้จะเป็นเหมือนโรงแรมแคปซูลขนาดเล็ก ที่มีเตียงนอนเรียงกัน 3 ชั้น หันหน้าเข้าหากัน (เหมือนตู้นอนรถไฟ) โดยเตียงดังกล่าวจะมีขนาดความยาว 6.5 ฟุต เเละกว้าง 23 นิ้ว มีผ้าม่านกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างหมอน ผ้าห่ม ผู้ปูที่นอนเเละที่อุดหู

Photo : Air New Zealand

“ในอนาคตลูกค้าชั้นประหยัดในเที่ยวบินระยะไกลจะสามารถจอง Economy Skynest เพื่อการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพเเละมีความพร้อมไปยังจุดหมายปลายทางของพวกเขา” Nikki Goodman ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้ากล่าว

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Air New Zealand ยังไม่มีแผนการที่ชัดเจนในการติดตั้ง Skynest ลงบนเครื่องบิน และจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะทำอย่างไรต่อไป หลังจากได้ประเมินประสิทธิภาพของเส้นทางบินใหม่จากโอ๊กแลนด์ไปยังนครนิวยอร์ก ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนตุลาคมปีนี้ โดยใช้เครื่องบินโบอิ้ง 787-9 Dreamliner

ด้านความกังวลเกี่ยวกับการทำความสะอาดระหว่างการใช้งาน ทางสายการบินตอบว่า “ยังคงมีสิ่งที่ต้องทำเกี่ยวกับการพัฒนาการออกแบบและทีมงานกำลังทบทวนความเป็นไปได้ในการให้บริการเชิงพาณิชย์ต่อไป”

ส่วนเหตุใดจึงโฟกัสกับกลุ่มลูกค้าชั้นประหยัดนั้น ผู้บริหาร Air New Zealand บอกว่า เป็นการนำเสนอไอเดียดีๆ เเละนวัตกรรมใหม่ให้กับลูกค้า รวมไปถึงวงการธุรกิจการบิน ซึ่งลูกค้าชั้นประหยัดก็เป็นหนึ่งในกลุ่มตลาดหลักของบริษัทด้วย

ที่มา: bloomberg / Air New Zealand Is Putting Bunk Beds in Economy Class

 

 

]]>
1265931