ประชุมออนไลน์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 30 Sep 2022 05:56:38 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ผลสำรวจเผย 78% ของนักธุรกิจพร้อมสำหรับ ‘Metaverse’ https://positioningmag.com/1402621 Fri, 30 Sep 2022 05:11:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1402621 การศึกษาระดับโลกจาก Ciena ได้ทำการสำรวจถึง นักธุรกิจ 15,000 คนทั่วโลก ว่ามีความพร้อมแค่ไหนที่จะทำงานร่วมกันในโลกเสมือนจริงหรือ Metaverse ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่หลังโลกเผชิญกับการระบาดของ COVID-19

จากผลการวิจัยพบว่า 96% ของผู้ตอบแบบสำรวจเห็นคุณค่าของการประชุมเสมือนจริง และมากกว่า 78% กล่าวว่าพวกเขาจะเข้าร่วมกับ Metaverse หรือใน ประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น เพื่อทำกิจกรรม อาทิ การเข้าร่วมประชุม

นอกจากนี้ 87% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกยืนยันว่าพวกเขาจะ รู้สึกสบายใจ ที่จะจัดการประชุมในพื้นที่เสมือนจริง อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยของบางประเทศนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก อาทิ อินเดียที่สูงถึง 97% และในฟิลิปปินส์อยู่ที่ 94% ส่วนญี่ปุ่นกลับมีเพียง 57%

ทั้งนี้ จากผลการวิจัย ระบุว่า 2 ประโยชน์สูงสุดของการประชุมเสมือนคือ การทำงานร่วมกัน และ ความสะดวกที่ดีขึ้นในระดับโลก เมื่อพูดถึงการเลือกอวาตาร์สำหรับโลกเสมือนจริง โดย 35% จะเลือกอวาตาร์ที่สะท้อนตัวตนในโลกแห่งความเป็นจริง ส่วนอีก 22% จะเลือกเวอร์ชันในอุดมคติ และมีเพียง 10% เท่านั้นที่จะเลือก บุคคลที่มีชื่อเสียง

นอกจากนี้ 71% มองว่า Metaverse จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางปฏิบัติในการทำงานที่มีอยู่จริง และ 40% คิดว่าธุรกิจของพวกเขาจะย้ายจากสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันแบบดั้งเดิม ไปเป็นแพลตฟอร์มที่สมจริงในอีกสองปีข้างหน้า

แม้จะมีความสนใจเพิ่มขึ้นในหมู่คนทำงาน แต่อุปสรรคในการใช้งาน Metaverse ที่คนยังกลัวคือ ความน่าเชื่อถือ ความพร้อมของเครือข่าย และมองว่าแพลตฟอร์ม Metaverse ยังไม่พร้อมใช้งานในวงกว้าง

“เห็นได้ชัดว่าโลกธุรกิจพร้อมที่จะเปลี่ยนไปใช้ Metaverse และเริ่มใช้สภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่สมจริงยิ่งขึ้นสำหรับการทำงานร่วมกัน แต่ความน่าเชื่อถือ และเครือข่ายอาจถูกมองว่าเป็นอุปสรรคในการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน ซึ่งผู้ให้บริการทราบดีว่ามีความต้องการ ดังนั้น ต้องลงทุนและทดสอบเพื่อทำให้เครือข่ายเร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และทำให้พวกเขาใกล้ชิดกับผู้ใช้มากขึ้น” Steve Alexander รองประธานอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Ciena กล่าว

]]>
1402621
HSBC ลอง ‘Zoom-free Friday’ งดประชุมทุกวันศุกร์ ลดความเหนื่อยล้าเกินไป เมื่อต้องทำงานที่บ้าน https://positioningmag.com/1331829 Wed, 12 May 2021 11:08:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1331829 สถาบันการเงินรายใหญ่อย่าง HSBC ปรับกลยุทธ์ทำงานเเบบใหม่ รับเทรนด์ Remote Working ทดลอง Zoom-free Fridayงดประชุมออนไลน์ทุกวันศุกร์เพื่อลดความเครียด ความเหนื่อยล้าเกินไปของพนักงานที่ต้องทำงานจากบ้าน

การมาของโควิด-19 ทำให้หลายองค์กรต้องเปลี่ยนรูปเเบบการทำงาน ลดการใช้ออฟฟิศเเละหันมาประชุมออนไลน์มากขึ้น

HSBC ก็เตรียมลดขนาดพื้นที่สำนักงานลงกว่า 40% ภายหลังการระบาดใหญ่ พร้อมด้วยแผนการลดต้นทุนที่จะปลดพนักงานลงถึง 35,000 ตำเเหน่ง

สำหรับโครงการ Zoom-free Friday งดประชุมออนไลน์ทุกวันศุกร์โดยเฉพาะช่วงบ่ายนั้น จะเริ่มใช้กับพนักงานบางส่วนในสหราชอาณาจักรก่อน เเละให้พนักงานสามารถเอาช่วงเวลานั้นไปทำงานอย่างอื่นได้

ความสำคัญของ Work-life balance ในองค์กร ถูกจุดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ Jonathan Frostick พนักงานระดับผู้จัดการ วัย 45 ปีของ HSBC ทำงานหนักจนป่วยเป็นโรคหัวใจวาย เเละต้องเข้าโรงพยาบาลเเบบกะทันหัน

เขาได้เเชร์เรื่องราวลงใน LinkedIn ส่วนตัว ถึงความเหนื่อยล้าจากการประชุมที่มากเกินไป คิดถึงเเต่เรื่องงานอยู่ตลอดเวลา ขณะที่พักรักษาตัวอยู่นั้น เขาก็คิดขึ้นได้ว่าต่อไปนี้ ฉันจะไม่ใช้เวลาทั้งวันไปกับ Zoom อีกต่อไป

โดยโพสต์ดังกล่าว มีผู้คนมาร่วมเเสดงความคิดเห็นกว่า 11,000 คอมเมนต์ ผู้ใช้เเพลตฟอร์มคนหนึ่ง ระบุว่าบริษัทต่างๆ กดดันให้พนักงานทำงานเกินขีดจำกัด โดยไม่คำนึงถึงความเป็นอยู่เเละชีวิตส่วนตัว

Photo : Shutterstock

การเเพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องถูกจำกัดการเดินทาง หลายบริษัทงดให้พนักงานเดินทางมาที่ออฟฟิศ เเละให้ทำงานเเบบ Remote Working จากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ ในเเต่ละวันเเพลตฟอร์มประชุมออนไลน์อย่าง Zoom , Microsoft Teams , Google Meet ฯลฯ จึงกลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญให้พนักงานสามารถพบปะกันเเละสื่อสารงานต่างๆ ได้

อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งก็ทำให้เกิด ‘Zoom fatigue’ หรือความเหนื่อยล้าจากการประชุมผ่าน Zoom โดยพบว่าพนักงานจำนวนมากมีความกังวลเพิ่มขึ้น เมื่อการงานได้รุกล้ำชีวิตส่วนตัวภายในบ้าน

เเม้เเต่ ‘อีริค หยวน’ ผู้ก่อตั้งเเพลตฟอร์ม Zoom ก็เปิดใจว่า เขาเองก็รู้สึกเหนื่อยจากประชุมออนไลน์ที่ไม่มีกำหนดเวลาเเละมากเกินไป

ก่อนหน้านี้ Citibank ได้ออกนโยบาย ‘ห้ามประชุมทุกวันศุกร์’ เพราะความไม่ชัดเจนของเส้นแบ่งระหว่างที่บ้านกับที่ทำงาน รวมถึงบริษัทหลายแห่งก็มีนโยบาย ‘จำกัดเวลาประชุมออนไลน์’ ออกมาเช่นเดียวกัน

ด้านทางเลือกการทำงานเเบบ ‘ไฮบริด’ ออฟฟิศผสมออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจไม่น้อย อย่าง KPMG บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านบัญชี ก็อนุญาตให้พนักงานกว่า 16,000 คน สามารถ ‘เลิกก่อนเวลา’ ได้หนึ่งวันต่อสัปดาห์

 

ที่มา : BBC , Telegraph

]]>
1331829
เราอยู่ในยุคที่ Zoom แพลตฟอร์มประชุมทางไกล มีมูลค่าบริษัทสูงกว่า Exxon บริษัทน้ำมัน! https://positioningmag.com/1303935 Sat, 31 Oct 2020 06:20:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1303935 Zoom แจ้งเกิดแบบเบิ้มๆ ในช่วงล็อกดาวน์จากโรคระบาด COVID-19 และปัจจุบันมูลค่าบริษัทพุ่งทะยานจนสูงกว่า ExxonMobil หนึ่งในบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว สะท้อนชัดว่าธุรกิจเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่น้ำมันในฐานะธุรกิจขาขึ้น

จากการประเมินเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2020 บริษัท Zoom มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.39 แสนล้านเหรียญสหรัฐแล้ว เทียบกับบริษัท ExxonMobil ที่มีมูลค่าตลาด 1.389 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยการเติบโตของ Zoom ถือว่าพุ่งทะยานได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะเมื่อต้นปี 2020 บริษัทนี้ยังมีมูลค่าตลาดเพียง 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

Exxon เองเพิ่งประกาศเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทจะเลย์ออฟพนักงาน 14,000 ตำแหน่งทั่วโลก (1,900 คนในจำนวนดังกล่าวเป็นพนักงานในสหรัฐฯ) เป็นความพยายามครั้งล่าสุดที่จะลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับทั้งอุตสาหกรรมน้ำมัน

ขณะที่ “อีริค หยวน” ผู้ก่อตั้ง Zoom กลับมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวภายในเวลาเพียง 3 เดือน เขาถูกจัดอยู่ในลิสต์เศรษฐีที่รวยที่สุดในสหรัฐฯ 400 คน หรือ Forbes 400 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2020 โดยขณะนั้นเขามีสินทรัพย์ 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ต่อมาในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 เขามีสินทรัพย์เพิ่มเป็น 2.13 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

อีริค หยวน ขึ้นเป็นวิทยากรในงาน Dropbox Work In Progress Conference ปี 2019 (photo: Matt Winkelmeyer/Getty Images for Dropbox)

แน่นอนว่าสินทรัพย์ของเขาเพิ่มขึ้นก็เพราะ Zoom ธุรกิจที่โตเร็วติดจรวด เมื่อคนทำงานจำนวนมากยังพึ่งพิงการประชุมทางไกลอย่างต่อเนื่อง และ Zoom เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เบียดแย่งตลาดผู้ใช้กลุ่มนี้มาได้ จนราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 600% ภายในรอบ 1 ปี

ในแง่ผลประกอบการของบริษัทช่วงไตรมาส 2 ของปีประกอบการ สิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2020 บริษัทรายงานรายได้ที่ 663.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 500.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทยังคาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อเนื่องด้วย แม้ว่าโรคระบาดจะคลี่คลายสถานการณ์ไปแล้วในหลายตลาด โดยตั้งเป้าทำรายได้ช่วงไตรมาส 3 ของปีประกอบการ สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2020 ไว้ที่ 690 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมประเมินรอบปีประกอบการนี้ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2021 ว่าจะทำรายได้แตะ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับรอบปีก่อนที่ทำรายได้ 623 ล้านเหรียญ เป็นการเติบโตเกือบ 300%

อีริค หยวนไม่ใช่คนเดียวที่อู้ฟู่ขึ้นมากจากผลสำเร็จของบริษัท “เคลลี่ สเตคเคลเบิร์ก” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Zoom มีสินทรัพย์เพิ่มเป็น 340 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว และกลายเป็นเศรษฐีหญิงหน้าใหม่ที่สร้างฐานะขึ้นมาด้วยตนเองของสหรัฐอเมริกา

Source

]]>
1303935
สิงคโปร์ ห้ามครูใช้ Zoom ในการเรียนการสอน หลังโดนเเฮกเกอร์ป่วน ปล่อยภาพไม่เหมาะสม https://positioningmag.com/1272859 Sun, 12 Apr 2020 10:08:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1272859 กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ ห้ามครูใช้ Zoom เเอปพลิเคชันประชุมผ่านวิดีโอที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนี้ สำหรับการเรียนการสอนของโรงเรียนที่บ้านหรือโฮมสคูลอย่างเป็นทางการ หลังเกิดเหตุไม่เหมาะสม

สื่อท้องถิ่น รายงานว่า สัปดาห์เเรกของการเรียนที่บ้านในช่วงมาตรการปิดเมืองของสิงคโปร์ เกิดกรณีมีภาพอนาจาร ปรากฎขึ้นบนหน้าจอเเละชายเเปลกหน้าเเสดงความเห็นลามก ระหว่างการสตรีมคาบเรียนวิชาภูมิศาสตร์ ที่มีนักเรียนหญิงกำลังเรียนอยู่

บริษัท Zoom Video Communications Inc กำลังประสบปัญหาเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการใช้เเอปพลิเคชัน Zoom หลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว โดยจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 200 ล้านคน ตั้งแต่เดือน มี.ค. เมื่อผู้คนทั่วโลกต้องเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต สำนักงานและโรงเรียนทั่วโลก หันมาทำงานเเบบ Work from Home หรือเรียนจากบ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

“สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมาก” Aaron Loh เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของกระทรวงศึกษาธิการระบุ พร้อมจะมีการเเจ้งตำรวจให้ดำเนินการสืบสวนต่อไป อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว

“เพื่อเป็นการป้องกันไว้ล่วงหน้า ครูของเราทุกคนจะต้องระงับการใช้งาน Zoom จนกว่าปัญหาความปลอดภัยจะหมดไป”

โดยทางการสิงคโปร์ เเนะนำให้ครูผู้สอนกำหนดให้นักเรียนต้องล็อกอินอย่างปลอดภัยทุกครั้งก่อนเข้าห้องเรียนออนไลน์ เเละห้ามเเชร์ลิงก์ให้กับบุคคลอื่น

ด้าน Janine Pelosi หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Zoom ระบุคำเเถลงขอโทษในอีเมลว่า บริษัทเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเละจะมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องมือการศึกษาบนเเพลตฟอร์มที่ปลอดภัยต่อไป

ก่อนหน้านี้ ไต้หวันและเยอรมนี มีคำสั่งห้ามใช้ Zoom ในหน่วยงานรัฐเเละการเรียนออนไลน์ไปแล้ว ขณะที่กูเกิลก็ประกาศห้ามใช้เเอปฯ นี้ กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในองค์กร มาตั้งเเต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม : ไต้หวัน สั่งห้ามหน่วยงานรัฐ ประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom จากความกังวลเรื่องความปลอดภัย

Zoom กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ใช้ในเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เช่น ไม่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ซึ่งอาจจะทำให้โดนดักฟังหรือสอดเเนมข้อมูล รวมถึงการกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลให้ต้องผ่านประเทศจีน อีกทั้งยังมีปัญหา Zoom-bombing ที่มี “แขกไม่ได้รับเชิญ” ปรากฏตัวออกมาระหว่างการประชุมออนไลน์ เป็นต้น

สำหรับการแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้ ทาง Zoom ได้เปิดตัวแผน 90 วัน เพื่อยกระดับความปลอดภัยเเละความเป็นส่วนตัว เเละได้ดึงตัว Alex Stamos อดีตหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Facebook มาร่วมงานในฐานะที่ปรึกษา

ทั้งนี้ การเเข่งขันเพื่อชิงตลาดของแอปพลิเคชันประชุมทางไกลกำลังดุเดือด เมื่อ Zoom ต้องเจอคู่แข่งรายใหญ่ที่ก่อตั้งมานานอย่าง WebEx ของ Cisco, Google Hangouts และ Microsoft Teams เเต่ด้วยความที่ Zoom
ใช้งานง่ายจึงทำให้เข้าถึงผู้คนได้มากกว่าในช่วงวิกฤต COVID-19 โดย Zoom ได้กลายมาเป็นหนึ่งในแอปฯ ที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดบน App Store

ที่มา : Reuters , BBC 

 

]]>
1272859
อ่าน 8 คำแนะนำ “การประชุมออนไลน์” ให้คุณ Work from Home อย่างโปร https://positioningmag.com/1272765 Fri, 10 Apr 2020 13:49:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1272765 การจัดประชุมออนไลน์อาจเป็นเรื่องใหม่ที่หลายคนไม่คุ้นเคย นอกจากเรื่องทางเทคนิคอย่างวิธีดาวน์โหลดและใช้งานแต่ละโปรแกรมที่ต้องมาหัดเรียนรู้กันใหม่ บรรยากาศและมารยาทในการประชุมยังเปลี่ยนไปด้วย เพราะกลายเป็นว่าทุกคนนั่งอยู่หลังจอที่บ้านแทนที่จะเป็นห้องประชุม

Positioning รวบรวมคำแนะนำจากหลายแหล่ง เพื่อให้คุณสามารถจัดการประชุมและร่วมประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เปลืองเวลาการทำงาน ไม่อึดอัดใจ ทำงานแบบ Work from Home ได้อย่างมีความสุข

1.อย่าใส่ชุดนอน

มารยาทพื้นฐานสุดๆ ที่หลายคนมองข้ามไป เพราะการทำงานจากบ้านทำให้รู้สึกสบายๆ จนเผลอใส่ชุดนอน ชุดออกกำลังกาย หรือชุดอยู่บ้านที่ไม่เป็นทางการเกินไปเข้าประชุมออนไลน์ แต่ที่จริงแล้ว แม้จะเป็นการประชุมออนไลน์ก็ยังนับว่าเป็นการพบปะเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า ดังนั้นควรจะแต่งตัวรัดกุมสักหน่อย อย่างน้อยแค่ครึ่งท่อนบนก็ยังดี

2.เลือกพื้นหลังเรียบๆ

ก่อนการประชุมควรตรวจสอบมุมกล้องว่าด้านหลังของเราจะเห็นอะไรบ้าง คงไม่ดีแน่ถ้าให้เพื่อนร่วมงานได้เห็นกองเสื้อผ้าล้นตะกร้าด้านหลัง และถ้าจะให้ดีที่สุด ควรเลือกมุมกล้องที่มองเห็นด้านหลังเป็นสีพื้นเรียบๆ เพื่อให้ไม่เบี่ยงเบนความสนใจเพื่อนร่วมงาน แต่ถ้าหากหามุมในบ้านไม่ได้ อาจจะลองเปลี่ยน Virtual Background ดูเพื่อปกปิดความยุ่งเหยิงของบ้าน

3.ทำความคุ้นเคยกับโปรแกรม

ใช่ว่าแต่ละคนจะใช้แค่โปรแกรมเดียวในการประชุม เพราะบางครั้งการประชุมกับคนภายนอกบริษัทอาจจะใช้โปรแกรมที่แตกต่างจากเราได้ ดังนั้น ควรจะฝึกใช้แต่ละโปรแกรมให้คล่องก่อนประชุมจริง โดยอาจจะนัดเพื่อนหรือคนในครอบครัวมาลองทดสอบระบบกล้อง จัดแสงไฟให้เราดูดีเวลาออกกล้อง ทดสอบไมค์ว่าเสียงก้องหรือไม่ หาปุ่มแบ่งปันหน้าจอ (share screen) ฯลฯ เมื่อถึงเวลาประชุมจริงจะได้ดูน่าเชื่อถือ และไม่เสียเวลาทุกฝ่าย

นอกจากนี้ การทดลองใช้บ่อยครั้งยังทำให้เราคุ้นเคยกับการอยู่หน้ากล้อง (และเห็นหน้าตัวเองในจอ) เวลาประชุมด้วย

4.ปิดไมค์เมื่อไม่ใช้ ปิดการแจ้งเตือนโปรแกรมอื่น

เรื่องเล็กๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่ ใครก็ตามที่ไม่ได้กำลังพูดอยู่ควรปิดไมค์ไว้เสมอเพื่อไม่ให้เสียงเข้าไปรบกวนผู้พูด เสียงหนึ่งที่มักจะเล็ดรอดเข้าไปคือการพิมพ์บนแป้นพิมพ์ ถึงแม้จะเป็นเสียงเบาๆ แต่รบกวนสมาธิผู้พูดอย่างมาก

อีกสิ่งหนึ่งที่ควรปิดคือ “การแจ้งเตือน” (notifications) ของโปรแกรมอื่นๆ นอกจากจะมีเสียงลอดเข้ามาเวลาเราพูดแล้วอาจจะเกิดอาการ ‘โป๊ะ’ ได้ด้วยถ้าหากเรากำลัง share screen อยู่ ลองนึกภาพข้อความจากแฟนหรือเพื่อนใน Line ที่เด้งขึ้นมาตอนเรากำลังนำเสนอผลงานดูสิ…

5.นัดประชุมเท่าที่จำเป็นและกระชับเวลา

การประชุมออนไลน์นั้นดูง่ายและสะดวกสบาย เพราะคิดกันว่าในเวลางานทุกคนจะต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือบางองค์กรจะนัดประชุมออนไลน์ทุกวัน วันละหลายครั้ง เพื่อตรวจสอบว่าพนักงานทำงานอยู่หรือเปล่า จนกลายเป็นว่าการทำงานจากบ้านต้องเข้าประชุมบ่อยกว่าเวลาอยู่ออฟฟิศเสียอีก

การนัดประชุมบ่อยๆ โดยไม่มีเหตุจำเป็นนั้นทำให้ทุกคนเสียเวลาทำงานโดยใช่เหตุ ดังนั้นก่อนจะนัดประชุมแต่ละครั้งควรมีประเด็นการประชุมที่สมควร และควรกำหนดเวลาการประชุมให้ชัดเจน หากเป็นการนัดนำเสนองาน ควรจัดสรรเวลาให้แต่ละคนล่วงหน้าเหมือนกับการประชุมปกติ เพื่อไม่ให้การประชุมยืดเยื้อ

6.ใช้มารยาทการประชุมแบบเดียวกับในออฟฟิศ

ทำงานอยู่บ้าน

ถ้าเรากำลังประชุมอยู่ในห้องประชุมที่ออฟฟิศ เราคงไม่นั่งไถลตัวในโซฟาหรือแอบเล่น Facebook การประชุมออนไลน์ก็เช่นกัน หากสายตาของเราไม่จับจ้องที่หน้าจอ แอบสลับหน้าจอไปเล่น Facebook หรือแอบทำงานไปด้วย ผู้ร่วมประชุมก็สามารถจับสังเกตได้เช่นกันและสังเกตได้ง่ายยิ่งกว่าเวลาประชุมในห้องด้วย

สำหรับการอภิปรายที่มีการผลัดกันแสดงความเห็น การประชุมออนไลน์อาจจะลำบากหน่อยเพราะสมาชิกการประชุมอาจจะพูดขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่รู้ตัว ควรมีคนที่เป็น host จัดประชุมที่คอยแจกคิวว่าให้ใครได้พูดก่อนหลัง หรือเราสามารถยกมือก่อนพูดได้เหมือนกับในห้องประชุม หากทุกคนเปิดหน้ากล้องอยู่แล้ว

7.มีความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น เพราะบ้านไม่เหมือนออฟฟิศ

น้อยคนที่จะมีห้องทำงานอยู่ในบ้าน และสามารถจัดการชีวิตแบบตัดขาดเรื่องในบ้านไปได้โดยสิ้นเชิงในเวลางาน ดังนั้นการประชุมออนไลน์จึงอาจจะมีสิ่งรบกวนจากฝั่งเพื่อนร่วมการประชุมหรือฝั่งของเราเองก็ตาม

ในการประชุมออนไลน์แต่ละครั้งจึงต้องอาศัยความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมงานสูงขึ้น โดยอาจจะให้แต่ละคนชี้แจงสั้นๆ ก่อนเริ่มประชุมได้ว่าวันนี้อาจจะมีสิ่งรบกวนอะไรได้บ้าง เช่น สัตว์เลี้ยง ลูกๆ เสียงการจราจร เสียงแม่บ้านทำความสะอาดบ้าน ฯลฯ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อกัน

8.ระมัดระวังข้อมูลลับ

ข้อเสียอย่างหนึ่งของการประชุมออนไลน์คือ ถ้าเรา share screen เอกสารหรือพรีเซนเทชั่นขึ้นหน้าจอ เราไม่อาจทราบได้เลยว่าผู้ร่วมประชุมแคปเจอร์หน้าจอเก็บไว้หรือเปล่า ไม่เหมือนกับการประชุมในห้องที่ถ้าหากมีคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป เราจะต้องสังเกตเห็น ดังนั้นถ้าเป็นข้อมูลลับ ควรจะระมัดระวังในการ share screen

 

Source: The Guardian, World Economic Forum, Forbes

]]>
1272765
ไต้หวัน สั่งห้ามหน่วยงานรัฐ ประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom จากความกังวลเรื่องความปลอดภัย https://positioningmag.com/1272181 Wed, 08 Apr 2020 03:47:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1272181 รัฐบาลไต้หวัน เเจ้งต่อหน่วยงานของรัฐให้เลิกใช้งาน Zoom เเอปพลิเคชันประชุมผ่านวิดีโอที่กำลังฮอตฮิตในช่วงการเเพร่ระบาดของ COVID-19 หลังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

จำนวนผู้ใช้ Zoom เพิ่มขึ้นเเบบก้าวกระโดดเป็นมากกว่า 200 ล้านคน ตั้งแต่เดือน มี.ค. เมื่อผู้คนทั่วโลกต้องเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต ทำงานเเบบ Work from Home เเละเหล่านักเรียนนักศึกษาต้องเรียนผ่านวิดีโอออนไลน์

“หน่วยงานใดที่ต้องการประชุมผ่านวิดีโอออนไลน์ ไม่ควรใช้งานแอปพลิเคชันของบริษัทที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย เช่น Zoom” คณะรัฐมนตรีไต้หวันระบุในแถลงการณ์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน
ว่าเหตุใดถึงห้ามใช้

หลังจากนั้นทางกระทรวงศึกษาธิการไต้หวัน ยืนยันว่ามีคำสั่งห้ามใช้ Zoom สำหรับการเรียนการสอนออนไลน์แล้ว โดยไต้หวันถือเป็นหนึ่งในรัฐบาลรายแรกๆ ของโลกที่แนะนำอย่างเป็นทางการให้หลีกเลี่ยงการใช้ Zoom ก่อนหน้านี้ FBI หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ ก็มีคำเตือนให้ระวังการใช้แอปพลิเคชันนี้เช่นกัน

Zoom กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ใช้ในเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เช่น ไม่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ซึ่งอาจจะทำให้โดนดักฟังหรือสอดเเนมข้อมูล อีกทั้งยังมีปัญหา Zoom-bombing ที่มี “แขกไม่ได้รับเชิญ” ปรากฏตัวออกมาระหว่างการประชุมออนไลน์ เป็นต้น

ด้าน “เอริค หยวน” ซีอีโอของ Zoom Video Communications Inc. ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อผู้ใช้ในข้อบกพร่องต่างๆ เเละบอกว่าทีมงานของบริษัทกำลังเร่งพัฒนาเเละแก้ไขปัญหาเหล่านี้

แพลตฟอร์มประชุมทางไกล Zoom

การเเข่งขันเพื่อชิงตลาดของแอปพลิเคชันประชุมทางไกลกำลังดุเดือด เมื่อ Zoom ต้องเจอคู่แข่งรายใหญ่ที่ก่อตั้งมานานอย่าง WebEx ของ Cisco, Google Hangouts และ Microsoft Teams เเต่ด้วยความที่ Zoom ใช้งานง่ายจึงทำให้เข้าถึงผู้คนได้มากกว่าในช่วงวิกฤต COVID-19 เช่นนี้ โดย Zoom ได้กลายมาเป็นหนึ่งในแอปฯ ที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดบน App Store

หลังถูกตั้งคำถามเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน ทำให้วานนี้ (7 เม.ย.) ราคาหุ้นของ Zoom ลดลงถึง 7% คิดเป็นการเสียมูลค่าตลาดเกือบ 1 ใน 3 นับตั้งแต่ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นมาอย่างมากในช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
โดย Zoom เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น NASDAQ เมื่อเดือนเมษายน 2562 และเป็นหนึ่งในหุ้นไม่กี่ตัวที่รอดพ้นหายนะทางเศรษฐกิจจากไวรัส COVID-19

Bloomberg รายงานว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นของ Zoom ก่อนหน้านี้ทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ “อีริค หยวน” ชาวจีนผู้ก่อตั้งบริษัท Zoom เพิ่มขึ้นถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เขามีทรัพย์สินสุทธิรวม 5.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ แล้วในปี 2563 และเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 274 ของโลก

ที่มา : Reuters

]]>
1272181