เที่ยวยุโรป – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 11 Jul 2022 13:11:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เหตุผลที่สนามบิน-สายการบิน “ยุโรป” สุดโกลาหล ยกเลิกไฟลท์-เที่ยวบินดีเลย์เพียบ https://positioningmag.com/1392204 Mon, 11 Jul 2022 12:05:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1392204 สายการบินมีการยกเลิกไฟลท์หลายหมื่นเที่ยวบินตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 ผู้โดยสารมากมายถูกทิ้งไว้กลางทาง ภาพการต่อคิวยาวเหยียด หรือกระเป๋าเดินทางถูกทิ้งไว้ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลกลายเป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไป เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ใน “ยุโรป” ดูจะโกลาหลหนักกว่าทวีปอื่นๆ

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 สายการบินอเมริกันมีการยกเลิกไฟลท์บินไปกว่า 21,000 เที่ยวบิน หรือคิดเป็น 2.7% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด

แต่จำนวนเที่ยวบินยกเลิกของฝั่งสหรัฐฯ ก็ยังไม่เท่ากับไฟลท์ยกเลิกของฝั่งยุโรปซึ่งมากกว่าเป็นเท่าตัว จากการเก็บข้อมูลของบริษัท RadarBox.com ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2022 ในหมู่สนามบินที่แย่ที่สุดของยุโรป 10 แห่ง มีการยกเลิกเที่ยวบินสะสม 64,100 เที่ยวบิน ระหว่าง 3 เดือนดังกล่าว

ทำไมยุโรปถึงอาการหนักในการ “เท” ผู้โดยสาร? คำตอบคือ 2 เหตุผลนี้

 

1.พนักงานไม่พอ รับสมัครกลับมาไม่ทัน แถมยังมี “สไตรค์”

สายการบินอเมริกันมีการปลดพนักงานออกในช่วงโรคระบาดเหมือนกัน แต่สายการบินอเมริกันมีการเตรียมตัวกลับสู่โลกปกติได้เร็วกว่า โดยเริ่มรับสมัครงานพนักงานกลับมาตั้งแต่กลางปี 2021

นโยบายของฝั่งสหรัฐฯ ที่กลับมารับพนักงานเร็ว ก็เป็นเพราะการเดินทางภายในประเทศของสหรัฐฯ ทำได้ง่ายกว่า ด้วยกฎเกณฑ์ด้านโรคระบาดสำหรับการเดินทางระหว่างรัฐนั้นไม่เข้มงวดมากนัก เทียบกับในยุโรปแล้ว มีการควบคุมเข้มงวดกว่าเพราะเป็นการเดินทางระหว่างประเทศ ดังนั้น จำนวนเที่ยวบินฝั่งสหรัฐฯ จึงดีดกลับมาเร็วกว่า ต้องการพนักงานเพิ่มมาตั้งแต่ปีก่อน

ยุโรป สนามบิน โกลาหล
สัมภาระของผู้โดยสารถูกวางเกะกะไว้บริเวณเบลท์สัมภาระ สนามบินสคิปโฮล เนื่องจากขาดพนักงานดูแล ภาพจากวันที่ 12 มิ.ย. 2022 (Photo: Shutterstock)

ขณะที่ฝั่งยุโรปนั้น ในช่วง COVID-19 มีการปลดคนสูงสุด 191,000 คนทั่วยุโรป รวมทั้งพนักงานบนเครื่องบินและพนักงานภาคพื้นในสนามบิน เฉพาะพนักงานในสนามบินนั้น การเลย์ออฟทั้งหมดคิดเป็น 58.5% ของพนักงานทั้งหมด จากข้อมูลที่ศึกษาโดย สมาพันธ์แรงงานด้านการขนส่งแห่งยุโรป

เมื่อขณะนี้การท่องเที่ยวเพิ่งจะพุ่งทะยานกลับมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด จึงไม่มีพนักงานเพียงพอ ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลการสแกนสัมภาระ ความปลอดภัย หรือกระทั่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

อีกทั้งการรับสมัครงานพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการบิน ยังต้องผ่านการตรวจสอบประวัติเพื่อความปลอดภัยหลายอย่างซึ่งใช้เวลา ขณะที่เงื่อนไขการทำงานก็ไม่ค่อยจูงใจแรงงานเท่าไหร่

Ryan Air หนึ่งใสสายการบินที่เผชิญปัญหาพนักงานสไตรค์ (Photo: Markus Winkler/ Pexels)

ยกตัวอย่างสนามบินฮีทโธรว์ของอังกฤษ เพิ่งจะเริ่มรับสมัครงานกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 และกว่าจะทยอยบรรจุพนักงานได้เท่ากับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ก็คาดว่าจะต้องรอถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

ซ้ำร้าย พนักงานที่ยังทำงานอยู่ขณะนี้ก็มีสไตรค์ นัดหยุดงานประท้วงบ่อยครั้ง เพราะเงื่อนไขการทำงานหนักหน่วง และยังได้ค่าจ้างแบบยุคโรคระบาดที่ถูกตัดเงินเดือนไปมาก ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน Ryanair, Easyjet, Lufthansa หรือ สนามบิน สคิปโฮล ในเนเธอร์แลนด์ สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ในฝรั่งเศส ต่างก็เคยเกิดพนักงานสไตรค์มาแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอีกเรื่อยๆ ในสายการบินอื่นหรือสนามบินอื่น

 

2. “ยุโรป” คือศูนย์รวมการเดินทาง

พนักงานไม่พอ แต่ยุโรปคือศูนย์รวมแห่งการเดินทางท่องเที่ยว ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2022 ยุโรปมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น 280% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ถ้าเทียบกันแล้ว สหรัฐฯ มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพิ่ม 117% เทียบกับปีก่อน เห็นได้ว่ายุโรปต้องรับภาระหนักมากกว่า

ทำไมนักท่องเที่ยวจึงพร้อมใจกันมา? เรื่องนี้เป็นเพราะยุโรปเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดด้านโรคระบาดก่อนทวีปอื่น ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูร้อนของยุโรป จุดหมายปลายทาง 31 แห่งของยุโรปไม่มีกฎด้าน COVID-19 ในการเข้าสู่ดินแดนโดยสิ้นเชิง

ภาคท่องเที่ยวต้องการจะต้อนรับผู้มาเยือน แต่ซัพพลายด้านการเดินทางไม่พร้อมจะรับดีมานด์เหล่านี้เลย

สนามบินใหญ่ๆ ของยุโรป เช่น สคิปโฮล ในอัมสเตอร์ดัม หรือ ฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน ต่างวอนขอให้สายการบินช่วยลดจำนวนเที่ยวบินลง บางสายการบินเรียกได้ว่าถูกบังคับให้ตัดไฟลท์ออก ซึ่งทำให้ผู้โดยสารไม่พอใจอย่างมาก

โชคร้ายหน่อยที่สถานการณ์เหล่านี้คงไม่จบในเร็ววัน จนกว่าจะพ้นฤดูร้อนซึ่งเป็นหน้าท่องเที่ยว เพราะผู้โดยสารยังคงเพิ่มจำนวนขึ้น และเจ้าหน้าที่ก็ไม่เพียงพอ แม้จะมีการรับสมัครงานเพิ่มขึ้นแต่ก็เทรนไม่ทันในตำแหน่งที่ต้องใช้เวลาฝึก เช่น ความปลอดภัย การจัดการสัมภาระ ทำให้ผู้โดยสารที่ต้องการจะบินเข้าออกยุโรปในช่วงฤดูร้อนของที่นั่น อาจต้องเตรียมใจหากจะเกิดเที่ยวบินดีเลย์หรือยกเลิกไฟลท์ขึ้น

Source: Euronews, Reuters

]]>
1392204
เตรียมใจรับ ‘ตั๋วบินยุโรป’ เเพงขึ้น หลังสหรัฐฯ คลายข้อจำกัดการเดินทาง https://positioningmag.com/1352821 Tue, 21 Sep 2021 08:54:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1352821 สหรัฐฯ กำลังจะผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางเข้าออกประเทศ สำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบโดสเเล้วตั้งแต่เดือนพ.. เป็นต้นไป อาจมีส่วนทำให้ราคาตั๋วเที่ยวบินโดยสารระหว่างสหรัฐฯ กับยุโรป ‘เเพงขึ้น’ จากดีมานด์ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังต้องออกโปรขายตั๋วถูกมานานในช่วงวิกฤตโรคระบาด

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จาก 33 ประเทศ ซึ่งรวมทั้งอังกฤษ จีน และประเทศในสหภาพยุโรปเดินทางเข้าออก สหรัฐฯ ได้

กฎที่ผ่อนคลายมากขึ้นนี้ คาดว่าจะกระตุ้นความต้องการในการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และเส้นทางระหว่างประเทศอื่นๆ มากขึ้น

นับเป็นข่าวดีของธุรกิจสายการบิน ที่จะได้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซันปลายปี หลังจากยอดขายตกต่ำมานาน ตั้งเเต่เกิดโรคโควิด-19 โดยมีการประเมินว่า ความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาตั๋วโดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

ยกตัวอย่างเช่น เที่ยวบินไป-กลับระหว่างสหรัฐฯ เเละสหราชอาณาจักร มีการปรับราคาขึ้นมาอยู่ที่ 565 ดอลลาร์ โดย Hopper บริษัทติดตามราคาตั๋วโดยสาร ระบุว่า เป็นราคาที่ปรับขึ้นเเบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบ 5 ปี ขณะที่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ราคาตั๋วไปกลับสหรัฐฯยุโรปลดราคาลงจากปกติมากกว่า 15%

Adit Damodaran นักเศรษฐศาสตร์ของ Hopper ประเมินว่า ราคาตั๋วเครื่องบินในเส้นทางยุโรปสหรัฐอเมริกา จะเเพงขึ้นเล็กน้อย จากปริมาณนักเดินทางเเละความต้องการที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางสายการบินต่างๆ ยังไม่เปิดเผยว่าจะมีการเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อรองรับการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางของสหรัฐฯ หรือไม่ เเต่ที่ผ่านมาก็มีการเปิดให้บริการเพิ่มในประเทศจุดหมายปลายทางสำคัญๆ อย่างไอซ์แลนด์ โครเอเชีย และกรีซ หลังประเทศเหล่านี้เริ่มอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ มาเยือนได้เมื่อช่วงต้นปี

 

ที่มา : CNBC

]]>
1352821
‘ยุโรป’ เตรียมเปิดประตูรับ ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว เร็วสุดช่วงมิ.ย.นี้ https://positioningmag.com/1330398 Tue, 04 May 2021 10:10:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1330398 คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (อีซีเเนะประเทศสมาชิกทั้ง 27 ประเทศ เตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสเเล้ว โดยจะต้องเป็นวัคซีนยี่ห้อที่ได้รับการรับรองจากสหภาพยุโรป

ถึงเวลาฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของยุโรป เเละการข้ามพรมแดนอย่างปลอดภัยให้กลับมาอีกครั้ง” Ursula von der Leyen ประธานอีซี ระบุ

ขณะนี้สหภาพยุโรป (อียู) อนุญาตให้เฉพาะนักเดินทางจากประเทศที่มีอัตราการระบาดต่ำ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ เเละสิงคโปร์ สามารถเดินทางเข้าประเทศในอียูได้ โดยต้องผ่านการตรวจหาโควิด-19 เเละกักตัวก่อน เเต่ยังไม่กำหนดว่าต้องฉีดวัคซีนแล้ว

โดยหวังว่าข้อเสนอการเปิดประเทศรับชาวต่างชาติให้มากขึ้นนี้ จะช่วยกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งประเทศสมาชิกอาจจะเปิดรับชาวต่างชาติที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว เป็นเวลา ’14 วันก่อนที่จะเดินทางมาถึงยุโรป

หรือชาติสมาชิกอียูอาจจะขอทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมถึงสามารถสั่งให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องกักตัวตามกำหนด หรือจะทำทั้ง 2 อย่างก็ได้

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการอียูเสนอให้มีกลไกฉุกเฉินเพื่อระงับการเปิดรับชาวต่างชาติได้ทันที หากมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือพบไวรัสกลายพันธุ์ในประเทศนั้นๆ

โดยการอนุญาตให้บุคคลที่ฉีดวัคซีนครบโดส’ นั้นจะต้องเป็นวัคซีนยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอียู เเละต่อไปอาจจะเพิ่มวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ ที่องค์การอนามัยโลกรับรองด้วย

ปัจจุบัน ยุโรปมีการรับรองวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ ,โมเดอร์นา, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตราเซเนกา

ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวยังต้องให้ชาติสมาชิกอียูอนุมัติ หากผ่านการเห็นชอบเเล้ว คาดว่าจะนำมาใช้ได้เร็วที่สุดในช่วงเดือนมิ.. ปีนี้ 

 

ที่มา : CNN , BBC

 

]]>
1330398
EU อนุญาตให้ผู้เดินทางจาก 11 ประเทศปลอดภัย เข้ายุโรปได้ รวมไทยด้วย https://positioningmag.com/1291909 Mon, 10 Aug 2020 13:00:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1291909 EU ประกาศอนุญาตให้ผู้เดินทางจาก 11 ประเทศนอกสหภาพยุโรป สามารถเดินทางเข้ายุโรปได้ โดยในรายชื่อดังกล่าวมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย หลังทบทวนสถานการณ์ทางระบาดวิทยาและมาตรการควบคุมโรคระบาดทั่วโลก

คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the EU) เปิดเผย 11 รายชื่อประเทศปลอดภัย (Safe List) ที่ได้รับยกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดใช้ชั่วคราวในการเดินทางเข้ายุโรป โดยมีผลเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ถือว่าประกาศฉบับนี้ มีจำนวนประเทศน้อยที่สุด นับตั้งแต่ EU ริเริ่มข้อเสนอดังกล่าวเมื่อช่วงปลายเดือนมิ..ที่ผ่านมา

สำหรับรายชื่อประเทศปลอดภัยล่าสุด ประกอบด้วย 11 ประเทศ ดังนี้

  • ออสเตรเลีย
  • แคนาดา
  • จอร์เจีย
  • ญี่ปุ่น
  • นิวซีแลนด์
  • รวันดา
  • เกาหลีใต้
  • ไทย
  • ตูนิเซีย
  • อุรุกวัย
  • จีน (อนุญาตให้ผู้อาศัยในจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน EU ได้ หากจีนยอมรับผู้เดินทางจาก EU เช่นกัน)

คณะมนตรีฯ จะมีการปรับปรุงข้อมูลรายชื่อประเทศปลอดภัยในทุกๆ 2 สัปดาห์ เเต่การปรับข้อมูลครั้งก่อนเกิดขึ้นเพียงช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางระบาดวิทยาและมาตรการควบคุมโรคระบาดที่เกิดขึ้น ซึ่งหากประเทศใดในรายชื่อมีเเนวโน้มสถานการณ์ที่เเย่ลง ก็จะมีการพิจารณาใหม่อย่างรวดเร็ว

อย่างเช่น EU เพิ่งถอดชื่อโมร็อกโกออกจากรายการประเทศปลอดภัย (Safe List) ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ายุโรปไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังมีการตรวจพบตรวจพบผู้ป่วยโรค COVID-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 1 พันราย (ณ วันที่ 8 ส.ค.) ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่นราย

ทั้งนี้ การยกเลิกข้อจำกัดดังกล่าวไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย และคำตัดสินใจของประเทศสมาชิก EU ถือเป็นที่สิ้นสุด

 

ที่มา : Council of the EU , Xinhua

 

 

]]>
1291909