เราเที่ยวด้วยกัน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 25 Dec 2020 11:16:37 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 มอง ‘ท่องเที่ยวไทย’ ปี 2021 ยังเหนื่อย คนเที่ยวน้อย-ใช้จ่ายลด เเข่ง ‘เเย่งลูกค้า’ ดุเดือด https://positioningmag.com/1312134 Fri, 25 Dec 2020 09:47:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312134 ธุรกิจท่องเที่ยวไทยต้องกัดฟันสู้กันอีกยาว ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง เจอระบาดรอบใหม่ซ้ำเติม ต้องล็อกดาวน์ในหลายจังหวัด ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวลดลง เเต่ผู้ประกอบการต้องเเข่งขัน “เเย่งลูกค้า” กันรุนเเรงขึ้น 

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) วิเคราะห์ว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทย ในช่วงที่ผ่านมา มีการทยอยฟื้นตัวจากการท่องเที่ยวของคนไทยด้วยกันเอง แต่ทั้งจำนวนและรายได้ ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อนหน้า

อีกทั้งการฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมายังไม่ทั่วถึงโดยจังหวัดที่คนไทยนิยมท่องเที่ยวอยู่แล้ว ในอดีตก็ยังเป็นกลุ่มที่สามารถฟื้นตัวได้ดีกว่า

คนไทยเที่ยวน้อยลง จ่ายน้อยลง

โดยล่าสุด จำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยในช่วงเดือนตุลาคม ยังต่ำกว่าในช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าถึง -34.5% (หดตัวน้อยลงจาก -38.1% ในไตรมาส 3)

ขณะที่รายได้ที่มาจากนักท่องเที่ยวคนไทยก็ต่ำกว่าอยู่ถึง -49.2% (หดตัวน้อยลงจาก -57.2% ในไตรมาส 3) ซึ่งการที่รายได้ มีการหดตัวมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวนั้น หมายความว่า นอกจากคนไทยจะเดินทางท่องเที่ยวน้อยลงแล้ว ยังใช้จ่ายต่อคนเฉลี่ยลดลงอีกด้วย

จากข้อมูลการสำรวจ ภาวะเศรษฐกิจและสังคมของภาคครัวเรือนไทยของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ครัวเรือนไทยใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3.9% ต่อปี แม้การใช้จ่ายในภาพรวมจะชะลอลง -0.5% ต่อปี การเข้ามาของโรคระบาดจึงเป็นการสะดุดลงของแนวโน้มการขยายตัวของการท่องเที่ยวของคนไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

Photo : Shutterstock

แม้จะเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในเดือนตุลาคม แต่ก็ยังเป็นจำนวนที่น้อยมากเพียง 1,201 คนเท่านั้น หรือคิดเป็นเพียง 0.04% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมในเดือนเดียวกันของปีก่อน

EIC คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2564 
จะอยู่ที่ราว 8.5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่จะเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง

เราเที่ยวด้วยกัน “ดี” เเต่ยังไม่ทั่วถึง 

ในภาวะที่ซบเซานี้ การมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ถือว่ามีส่วนช่วยภาคการท่องเที่ยวในประเทศ โดย ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2563 มีจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการแล้ว 6.4 ล้านคน และมีผู้ใช้สิทธิ์จองที่พัก
ที่ชำระเงินแล้วจำนวน 4 ล้านสิทธิ์ จาก 5 ล้านสิทธิ์ คิดเป็นมูลค่าห้องพักที่จอง 10,961 ล้านบาท

“การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศมีลักษณะที่ไม่ทั่วถึง ซึ่งจังหวัดที่มีการฟื้นตัวได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมักเป็นจังหวัดยอดนิยม
ของคนไทยอยู่แล้ว” 

ในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม (ข้อมูลล่าสุด) จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเฉลี่ย
หดตัวที่ -37.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

EIC มองว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยผ่านพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศยังไม่ครอบคลุม โดยจังหวัดที่มีการฟื้นตัวได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมักเป็นจังหวัดยอดนิยม เช่น เชียงใหม่ เพชรบุรี ชลบุรี ฯลฯ

โดยในช่วงต้นไตรมาสที่ 4 ทิศทางการฟื้นตัวของจังหวัดท่องเที่ยวที่ “ไกลจากกรุงเทพฯ” เริ่มปรับดีขึ้น หลังนักท่องเที่ยว
เริ่มมีความเชื่อมั่นในการโดยสารด้วยเครื่องบินมากขึ้น โดยมองว่า ต้นไตรมาสที่ 4 เห็นทิศทางการฟื้นตัวของจังหวัดท่องเที่ยวที่ไกลจากกรุงเทพฯ เริ่มปรับดีขึ้น

ส่วนกรณี “สมุทรสาคร” ส่งผลโดยตรงต่อการท่องเที่ยวช่วงปลายปี และกระทบความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการควบคุมโรคของภาครัฐเริ่มลดลง ซึ่งหลายส่วนประกาศงดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงปลายปี เเละการพบผู้ติดเชื้อที่กระจายอยู่ในหลายจังหวัดอาจส่งผลให้ประชาชนบางส่วนตัดสินใจเลื่อนทริปท่องเที่ยวช่วงปลายปี จากความกังวลต่อการแพร่ระบาดในสถานที่ต่างๆ และการขาดความมั่นใจในการเดินทางด้วยเครื่องบินและการขนส่งสาธารณะภาคพื้นดิน

ที่มา : SCB EIC

จับตา “ท่องเที่ยวไทย” ปีหน้า 

EIC มองว่าธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย ในปี 2564 ยังมีอีกหลายความท้าทาย ตามปัจจัยต่อไปนี้

  • ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของ COVID-19 

ประเมินว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะได้รับวัคซีนเป็นวงกว้างและเข้าสู่ภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd immunity) ได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 “ไทยน่าจะมีการเริ่มฉีดในช่วงกลางปีหน้า และจะเข้าสู่ภาวะคุ้มกันหมู่
ได้ภายในครึ่งแรกของปี 2565”

EIC มองว่า ถึงแม้จะต้องใช้เวลา
อีกระยะหนึ่งกว่าที่ไทยจะได้รับวัคซีน แต่ภาครัฐและผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวก็ควรมีการเตรียมพร้อมสำหรับการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนจัดสรรวัคซีนให้ทั่วถึงแก่บุคลากร
ภาคการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนและสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงการวางระบบตรวจสอบข้อมูล
ด้านสุขอนามัย และข้อมูลการฉีดวัคซีนที่อาจจำเป็นมากขึ้นในการท่องเที่ยวในช่วงหลังจากนี้

  • กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวที่ซบเซา

เป็นปัจจัยที่เกิดจากผลกระทบของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการประคับประคองการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวไปอีกระยะหนึ่ง 
การขยายระยะเวลาของ “เราเที่ยวด้วยกัน” หรือการออกแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวใหม่ ๆ จึงมีส่วนสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงต้นปีหน้า ภายใต้สมมติฐานว่า ไทยจะสามารถควบคุมการระบาดระลอกใหม่นี้ได้

  • การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว 

ต้องระมัดระวังเรื่องสุขอนามัยที่เพิ่มมากขึ้น การหลีกเลี่ยงสถานที่ที่แออัด การมองหาโปรโมชันที่จูงใจ คุ้มค่ากับราคาในภาวะที่กำลังซื้อมีจำกัด

  • การแข่งขันระหว่างธุรกิจท่องเที่ยวด้วยกันที่รุนแรงมากขึ้น

เกิดการเเข่งขันดุเดือด ทั้งในด้านการลดราคาและการนำเสนอโปรโมชัน
จูงใจต่าง ๆ ที่น่าจะยังมีอยู่ต่อไปในภาวะที่อุปสงค์การเข้าพักต่ำลงจากการหายไปของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในขณะที่อุปทานห้องพักมีเท่าเดิม จนกว่าจะเริ่มมีปัจจัยสนับสนุนด้านความต้องการเข้าพักจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา

อ่านเพิ่มเติม : Travel Bubble ความหวังใหม่กระตุ้นท่องเที่ยว “ฮ่องกง-สิงคโปร์” สะดุด ต้องเลื่อนยาวไป “ปีหน้า”

 

 

]]>
1312134
“ศรีพันวา” อัตราเข้าพักฟื้น 50-70% “เราเที่ยวด้วยกัน” ดันยอดจองที่พัก 4 เดือน 34 ล้านบาท https://positioningmag.com/1302591 Wed, 21 Oct 2020 09:12:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1302591 ธุรกิจโรงแรม “ศรีพันวา-บาบา บีช” ในเครือชาญอิสสระ ฟื้นตัวดี อัตราเข้าพัก 50-70% แต่ยังตรึงราคาลด 15% ไปยาวๆ ถึงสิ้นปี สำหรับแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของภาครัฐช่วยได้ โดยเฉพาะศรีพันวาที่มียอดจองจากแคมเปญนี้สะสม 2,800 คืน คิดเป็นมูลค่า 34 ล้านบาท เหตุดราม่าการเมืองไม่กระทบ อัปเดตโครงการศรีพันวา ไห่หนาน ดีเลย์ยาวไม่มีกำหนด

“ดิฐวัฒน์ อิสสระ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยี สารสนเทศ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ เปิดเผยถึงธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าของบริษัท กลุ่มธุรกิจโรงแรม “ศรีพันวา” และ “บาบา บีช” ขณะนี้ฟื้นตัวได้ดี หลังจากช่วงก่อนหน้านี้ต้องปิดให้บริการตามคำสั่งภาครัฐ เพื่อควบคุมการระบาดของโรค COVID-19

แบ่งตามทำเลโรงแรม สำหรับ บาบา บีช คลับ หัวหิน ฟื้นตัวได้ดีที่สุด โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 60-70% คึกคักที่สุดในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มครอบครัวที่ต้องการสถานที่พักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ และมีจำนวนยูนิตในโครงการน้อยเพื่อไม่ให้แออัด ทำให้บาบา บีช คลับ หัวหินตอบโจทย์ได้ดี

โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต รับอานิสงส์ “เราเที่ยวด้วยกัน” คนใชสิทธิ์จองเข้าพักจำนวนมาก

ส่วนโรงแรม ศรีพันวา ภูเก็ต นั้น มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 50-60% เป็นจุดที่ได้อานิสงส์จากแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของภาครัฐมาก โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2563 มีผู้มาใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันที่โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ตสะสม 2,800 คืน คิดเป็นมูลค่ารวม 34 ล้านบาท

สำหรับ บาบา บีช คลับ นาใต้ ซึ่งอยู่ในจังหวัดพังงานั้น เพิ่งเริ่มกลับมาให้บริการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 จึงยังประเมินไม่ได้ว่ามีอัตราเข้าพักมากน้อยเพียงใด

ดิฐวัฒน์กล่าวต่อว่า ประเด็น ‘ดราม่า’ ทางการเมืองที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ไม่เกิดผลกระทบทันทีต่อยอดจองในช่วงเวลาดังกล่าว ยังมีนักท่องเที่ยวเข้าพักตามปกติ

 

ตรึงราคาลดต่อเนื่องถึงสิ้นปี

อัตราเข้าพักฟื้นตัวแล้ว แต่ราคายังไม่สามารถปรับขึ้นได้ โดยดิฐวัฒน์กล่าวว่า โรงแรมทุกแห่งในเครือขณะนี้มีการลดราคาประมาณ 15% จากปีก่อน (ราคาก่อนใช้โปรโมชันแคมเปญเราเที่ยวด้วยกัน)

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาราคาโรงแรมยังเป็นช่วงโลว์ซีซัน ตามปกติโรงแรมจะขึ้นราคาได้ถึง 2-3 เท่าตัวในช่วงไฮซีซันปลายปี โดยเฉพาะช่วงคริสต์มาสจนถึงปีใหม่ แต่มองว่าปีนี้น่าจะขึ้นราคาไม่ได้ ยังคงต้องตรึงราคาในระดับนี้ไว้ต่อไป เพราะต้องการเกาะกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยซึ่งตอบรับดีกับราคาปัจจุบัน

บาบา บีช คลับ หัวหิน

ส่วนการเข้ามาของกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบ Long Stay Visa ดิฐวัฒน์ระบุว่า มีการศึกษาแนวทางเช่นกันว่าถ้าหากจะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีข้อปฏิบัติอย่างไร แต่ยังไม่มีนโยบายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพัก เพราะกังวลว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวไทยที่พักอยู่ในขณะนี้

จากสถานการณ์โรงแรมปิดยาว 3 เดือน ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 และราคาห้องพักที่ไม่สามารถดันได้สูงเท่าปกติ ทำให้ บริษัท ศรีพันวา แมเนจเมนท์ จำกัด ทำหนังสือขอผ่อนผันชำระค่าเช่าต่อกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา โดยของดเว้นชำระค่าเช่า 2 เดือน คือเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2563 และขอเลื่อนการชำระค่าเช่า 4 เดือนคือ เดือนกุมภาพันธ์, มีนาคม, มิถุนายน และกรกฎาคม 2563 ออกไปอีกเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งกองทรัสต์ฯ ได้อนุมัติแล้ว

 

โรงแรมศรีพันวา ไห่หนานดีเลย์เปิดบริการ

ด้านสถานการณ์ โรงแรมศรีพันวา ไห่หนาน ประเทศจีน ซึ่งศรีพันวาเซ็นสัญญาเป็นที่ปรึกษาการพัฒนา ออกแบบ และให้บริการกับ บริษัท จุนฟา เรียลเอสเตท จำกัด เจ้าของโปรเจกต์ผู้ลงทุน ดิฐวัฒน์อัปเดตว่าขณะนี้โครงการในไห่หนานก็ต้องดีเลย์ออกไปเช่นกัน

เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ส่งให้รัฐบาลจีนเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบหลายประการ และกระทบกับตัวโครงการ เช่น เพิ่มระยะ set back ของพื้นที่ก่อสร้างจากแนวเขตที่ดิน ปรับสัดส่วนส่วนเรสซิเดนซ์วิลล่าเพื่อขายนักลงทุน
สามารถเปิดขายได้จำนวนหลังน้อยลง โดยคาดว่าเป็นเพราะรัฐบาลจีนต้องการลดความร้อนแรงในการลงทุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ลง

ภาพจำลอง โครงการโรงแรมศรีพันวา ไห่หนาน ประเทศจีน

แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้ร่วมลงทุน เป็นผู้รับให้คำปรึกษาและเตรียมจะเข้าไปบริหารในฐานะเชนโรงแรม แต่การดีเลย์การก่อสร้างเหล่านี้ทำให้ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยจากเดิมที่โรงแรมจะเปิดบริการปลายปีนี้ อาจต้องเลื่อนก่อนและยังไม่มีกำหนดใหม่

รายได้จากธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่า ทั้งโรงแรมและออฟฟิศ ปกติจะคิดเป็นสัดส่วนราว 25% ของรายได้รวมของเครือชาญอิสสระ แต่ปีนี้ดูเหมือนรายได้ส่วนนี้จะต้องรับศึกหนัก แม้จะเห็นสัญญาณฟื้นตัว แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่เคยเป็นมา

]]>
1302591
“เมืองรอง” มาแรง! อโกด้าเปิดสถิติคนไทยเที่ยวในประเทศต้องการสถานที่ “แปลกใหม่” สูงขึ้น https://positioningmag.com/1299995 Mon, 05 Oct 2020 10:12:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1299995
  • อโกด้า เปิดพฤติกรรมการท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย มีแนวโน้มจองโรงแรม “หรูขึ้น” หลังงบท่องเที่ยวเหลือเพราะออกเที่ยวต่างประเทศไม่ได้
  • กลุ่มจังหวัด “เมืองรอง” มีโอกาสสูงขึ้น เพราะคนไทยต้องการสถานที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยไปมาก่อน ยกตัวอย่างที่มาแรง เช่น เกาะกูด จันทบุรี นครศรีธรรมราช ฯลฯ
  • “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้ผลในการผลักดันธุรกิจท่องเที่ยว โดยมีการจองมากกว่า 1 ล้านคืนแล้วในแคมเปญนี้ แต่ถ้าหากยังไม่มีวัคซีนรักษาโรค COVID-19 และนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเข้าประเทศได้ตามปกติ เชื่อว่าการท่องเที่ยวไทยจะยังไม่ฟื้นเต็มที่
  • “จอห์น บราวน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อโกด้า ประเทศไทย เปิดข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยและพฤติกรรมท่องเที่ยวของคนไทยหลังผ่านสถานการณ์ COVID-19 จอห์นมองว่า อโกด้ารวมถึงทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน และสถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้น คาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/63

    ในประเทศไทย อย่างที่ทราบกันดีว่าต้องหันมาพึ่งท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก เพราะประเทศไทยยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามปกติ แม้จะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวรูปแบบวีซ่าระยะยาวแล้ว แต่ก็น่าจะยังเป็นสัดส่วนที่น้อย เปรียบเทียบกับช่วงก่อน COVID-19 ที่การจองห้องพักในไทยกับอโกด้า 50% เป็นคนไทย และ 50% เป็นชาวต่างชาติ ขณะนี้การจองของชาวต่างชาติมีน้อยมาก ทำให้สัดส่วนเป็นคนไทย 90% และต่างชาติ 10%

    ด้านกลุ่มพาร์ตเนอร์โรงแรมของบริษัท 53,000 แห่งทั่วประเทศ ยังไม่พบการถอนการลงทะเบียนกับอโกด้า แต่มีบางส่วนที่ปิดชั่วคราวในเดือนเมษายน และกำลังทยอยกลับมาเปิดให้บริการ

     

    จองที่พักหรูขึ้นเพราะงบเหลือ

    เมื่อคนไทยคือลูกค้าหลัก ทำให้การทำความเข้าใจพฤติกรรมท่องเที่ยวของคนไทยสำคัญมาก จอห์นเปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้คนไทยเลือกที่พักด้วยปัจจัย 3 ประการคือ

    1) ที่พักมีความสะอาด ปลอดภัยจากโรคระบาด COVID-19
    2) ยืดหยุ่นในการจอง สามารถยกเลิกหรือเลื่อนได้ เนื่องจากลูกค้ายังกังวลว่าอาจเกิดการระบาดซ้ำก่อนที่จะถึงกำหนดทริปท่องเที่ยวของตน
    3) ราคาถูกกว่าปกติ เป็นประเด็นสำคัญมากในเวลานี้ที่เศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา

    คนไทยนิยมจองห้องพักในโรงแรมระดับหรูขึ้นกว่าเดิม ชดเชยที่ไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะต้องการโปรโมชันราคาคุ้มค่า แต่คนไทยที่ออกท่องเที่ยวก็มีพฤติกรรมใช้จ่ายมากกว่าที่เคยโดยมักจะเลือกที่พักที่มีระดับสูงขึ้น เช่น เคยเลือกโรงแรม 3 ดาวขยับมาเป็น 4 ดาว ซึ่งอโกด้าวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะคนไทยไม่สามารถออกเที่ยวต่างประเทศได้ ทำให้ “งบเหลือ” และนำเงินมาใช้จ่ายกับที่พักที่ดีขึ้น

     

    คนไทยนิยมเที่ยวเมืองรองสูงขึ้น

    ด้านจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทยที่มีการจองเข้าพักระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-31 ธันวาคม 2563 (เก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563) 10 อันดับแรก ได้แก่

    1) กรุงเทพมหานคร
    2) พัทยา
    3) เชียงใหม่
    4) หัวหิน/ชะอำ
    5) ภูเก็ต
    6) เขาใหญ่
    7) ชลบุรี
    8) กาญจนบุรี
    9) กระบี่
    10) ระยอง

    บริเวณโดยรอบวัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช
    “ไอ้ไข่วัดเจดีย์” กลายเป็นจุดดึงดูดใหม่จนนครศรีธรรมราชขึ้นแท่นเมืองรองมาแรงวันนี้ (photo : mgronline.com)

    อย่างไรก็ตาม จอห์นระบุว่ามีบางเมืองที่อยู่ในกลุ่ม “เมืองรอง” ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเช่น “เกาะกูด” ที่เข้าไปติด Top 10 จุดหมายปลายทางที่คนไทยค้นหามากที่สุดในอโกด้า นอกจากนี้จะมีจังหวัดที่มาแรง เช่น นครศรีธรรมราช จันทบุรี นครนายก ขอนแก่น อุดรธานี

    “คาดว่าเป็นเพราะคนไทยที่ไปต่างประเทศไม่ได้จะเริ่มมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในประเทศแทน” จอห์นกล่าว “ดังนั้นอโกด้ากำลังพยายามหาพาร์ตเนอร์โรงแรมเพิ่มในจุดที่เห็นว่าลูกค้าค้นหามากขึ้น และโชคดีที่อโกด้ามีพาร์ตเนอร์ในพื้นที่เมืองรองอยู่บ้างแล้ว ทำให้ได้ประโยชน์จากเทรนด์นี้”

     

    “เราเที่ยวด้วยกัน” ช่วยพยุง แต่ถ้าไร้ต่างชาติก็ยังไม่ฟื้นเต็มที่

    ขณะที่ดีมานด์การท่องเที่ยวคนไทยยังมีอยู่ แต่ก็ต้องได้รับการกระตุ้นด้วย ซึ่งจอห์นให้ความเห็นว่าแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของภาครัฐสามารถกระตุ้นดีมานด์ได้สำเร็จ จนถึงปัจจุบันมีการจองผ่านแคมเปญนี้ไปแล้วมากกว่า 1 ล้านคืน โดย “อโกด้า” เป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์หลักในการใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกัน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของการใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกันที่จองผ่านอโกด้า

    ทั้งนี้ อโกด้าไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชันกับโรงแรมเมื่อลูกค้าจองผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน (ปกติจะมีการเก็บค่าคอมมิชชัน 10-15%) และงานนี้เป็นงานอาสาพัฒนาแพลตฟอร์มให้รัฐบาลโดยไม่รับเงินสนับสนุน ด้วยแนวคิดของพนักงานอโกด้าที่นำเสนอทีมผู้บริหารเองว่า บริษัทควรเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ บริษัทจึงตัดสินใจส่งทีมโปรแกรมเมอร์ราว 12 คนช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มฟรี และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แคมเปญเปิดตัวได้เร็ว

    จอห์น บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อโกด้า ประเทศไทย

    อย่างไรก็ตาม แม้เราเที่ยวด้วยกันจะได้ผล และคนไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากยิ่งกว่าช่วงเดียวกันของปี 2562 แต่จอห์นกล่าวว่า ยังไม่สามารถครอบคลุมส่วนที่หายไปเพราะขาดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้

    เนื่องจากพฤติกรรมการเที่ยวต่างกัน ขณะที่ชาวต่างชาติมักจะพักผ่อนนาน 1-2 สัปดาห์ต่อทริป แต่คนไทยมักจะจองห้องพักเพียง 1-2 คืนต่อทริป ทำให้นักท่องเที่ยวหนึ่งคนมีกำลังซื้อต่ำกว่าในการเที่ยวหนึ่งครั้ง

    “มองว่าต้องมีวัคซีนเท่านั้น จึงจะทำให้การท่องเที่ยวไทยกลับไปเป็นปกติเท่ากับปี 2562” จอห์นกล่าวถึงอนาคตระยะยาวของธุรกิจนี้

    สำหรับบริษัทอโกด้าเอง ได้ผ่านจุดที่ยากที่สุดคือกระบวนการ “ลดต้นทุน” ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเลย์ออฟพนักงานบางส่วน ลดเงินเดือนผู้บริหาร ลดงบการตลาด งดกิจกรรมของพนักงาน ลดพื้นที่เช่าออฟฟิศ ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะเดินต่อได้ โดยจอห์นมองว่าถ้ายังไม่มีวัคซีนใน 1-2 ปีนี้ บริษัทก็อยู่ในจุดที่อยู่ตัวพอจะดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ

    ]]>
    1299995
    จริงใจ เชื่อได้ กับ.. “แอสเซนด์ แทรเวิล-Ascend Travel” แพลตฟอร์มท่องเที่ยวและระบบจองที่พักครบวงจรสัญชาติไทย เร่งสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้ไปต่อ ประกาศร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” https://positioningmag.com/1290394 Fri, 31 Jul 2020 10:43:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1290394 ชวนจองที่พักออนไลน์ แบบการันตีราคาสุทธิ เห็นเท่าไหร่..จ่ายเท่านั้น มีใบกำกับภาษีถูกต้อง

    กรุงเทพฯ 30 กรกฎาคม 2563 แอสเซนด์ แทรเวิล ผู้ให้บริการท่องเที่ยวและระบบจองที่พักสัญชาติไทยแบบครบวงจร www.ascendtravel.com เปิดตัวร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ชูจุดเด่นเข้าใจพฤติกรรมการเที่ยวของคนไทย นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาระบบบริการสำรองที่พัก จองง่าย สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมห้องพักทุกระดับ การันตีเห็นราคาสุทธิปรากฏเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น พร้อมออกใบกำกับภาษีที่สามารถเรียกเบิกคืนได้เทียบเท่าใบกำกับภาษีของโรงแรม ตลอดจนเพิ่มช่องทางให้รีวิวสิ่งลี้ลับและสัตว์รบกวนจากประสบการณ์ตรงของผู้เข้าพัก รวมถึงช่วยผู้ประกอบการด้านบริหารจัดการจองและรับเงินค่าห้องพักได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจเสริมมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้เฟื่องฟูอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด-19
    นายเกริกพงศ์ งาทวีสุข ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอสเซนด์ แทรเวิล จำกัด กล่าวว่า “แอสเซนด์ แทรเวิล เป็นบริษัทท่องเที่ยวและระบบจองที่พักดิจิทัลสัญชาติไทย รู้สึกภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” นำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในเครือแอสเซนด์ กรุ๊ปมาร่วมยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวของชาวไทยให้มีความสุข และสะดวกสบายอย่างแท้จริงมากยิ่งขึ้น โดยแอสเซนด์ แทรเวิล มุ่งมั่นให้บริการจัดการการเดินทางและที่พักอย่างครบวงจรมาตั้งแต่ปี 2559 และได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาร่วมวิเคราะห์ข้อมูลการจองที่พักทำให้เข้าใจถึงพฤติกรรมและความต้องการในด้านการท่องเที่ยวของคนไทยได้เป็นอย่างดี ว่าปัจจัยหลักของที่พักที่ได้รับความนิยมในการจอง คือเรื่องคุณภาพของการให้บริการ ความน่าเชื่อถือ จริงใจและราคาสมเหตุสมผล โดยเมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” แอสเซนด์ แทรเวิล จึงพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงตามนโยบายภาครัฐเพื่อช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการช่วยผู้ประกอบการโรงแรมไทย และธุรกิจการท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ และให้คนไทยเที่ยวเมืองไทยได้อย่างสบายใจตั้งแต่ขั้นตอนจองที่พัก โดยนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาแพลตฟอร์มให้มีฟังก์ชันใช้งานง่าย สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งยังเน้นสร้างความไว้วางใจด้วยราคาสุทธิ เห็นเท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น พร้อมออกใบกำกับภาษีได้ถูกต้องตามกฎหมายไทย สามารถเรียกเบิกคืนได้เทียบเท่าใบกำกับภาษีของโรงแรม ตลอดจนเพิ่มฟีเจอร์พิเศษที่ให้แชร์ประสบการณ์จริงจากผู้เข้าพักในเรื่องความเชื่อ สิ่งเร้นลับ และสัตว์รบกวน ซึ่งไม่เคยมีในแพลตฟอร์มอื่นมาก่อน”

    “นอกจากนี้ แอสเซนด์ แทรเวิล ยังพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขนาดกลางและเล็ก เปิดให้ทุกรายเข้าร่วมโครงการผ่านแพลตฟอร์มโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ http://www.ascendtravel.com และคลิกไอคอน ‘เข้าร่วมกับเรา’ หรือโทร 02-020-2351 เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ขยายตลาดของตัวเองไปสู่กลุ่มลูกค้าองค์กรของ แอสเซนด์ แทรเวิล ได้อีกด้วย” นายเกริกพงศ์กล่าวสรุป

    ]]>
    1290394
    ขั้นตอนลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com 15 ก.ค. นี้ ลดราคาที่พักสูงสุด 3,000 บาท https://positioningmag.com/1287374 Sat, 11 Jul 2020 17:21:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1287374 จากกรณี ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว หลังจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มีระยะเวลาทำโครงการ 4 เดือน ตั้งแต่ 1 .. – 31 .. 63 ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกันเป็นการเปลี่ยนชื่อใหม่จากการรวมโครงการเราไปเที่ยวกันและเที่ยวปันสุขให้อยู่ในโครงการเดียว

    โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร โฮมสเตย์ สถานที่ท่องเที่ยว โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ในวันที่ 10 ..นี้ ผ่านแพลตฟอร์ม www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ที่ทางธนาคารกรุงไทยได้ดำเนินการจัดทำไว้ โดยแนะให้ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก รีบลงทะเบียนเข้าร่วมเพื่อรองรับมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ

    แพกเกจเราเที่ยวด้วยกัน เป็นการฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยการสนับสนุนค่าที่พักและค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) ในอัตรา 40% ของค่าที่พัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน ในการเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมและโฮมสเตย์ที่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    นักท่องเที่ยวจะได้รับ E-Voucher คืนละ 600 บาท ใช้จ่ายเป็นค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในลักษณะร่วมจ่ายเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนการใช้จ่ายในอัตรา 40% โครงการจำกัดจำนวนสิทธิอยู่ที่ 5 ล้านห้อง โดยประชาชนแต่ละคนสามารถจองได้ไม่เกิน 5 ห้อง/คืน/คน ผ่านช่องทางโดยตรงของโรงแรมก็ได้ หรือจองผ่านบริการจองที่พักตั๋วเครื่องบินออนไลน์ (OTA) ที่เข้าร่วมรายการ

    ในส่วนของสายการบิน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินบางส่วนในลักษณะการจ่ายคืน (Redeem) สำหรับผู้จองที่พักที่เดินทางโดยสายการบิน โดยผู้จองที่พักจะต้องดำเนินการจองและชำระค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเต็มจำนวนผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบิน และรัฐบาลจะจ่ายเงินคืนในอัตรา 40% ของค่าบัตรโดยสาร แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง เข้าสู่แอปพลิเคชันเป๋าตังของผู้จองที่พัก ภายหลังการเช็กเอาต์ สามารถนำไปใช้จ่ายหรือถอนเงินสดได้โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา

    ในวันที่ 10 ..นี้ เว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com จะเปิดให้ประชาชนเข้ามาดูรายชื่อ พร้อมค้นหาโรงแรมที่พักที่เข้าร่วมโครงการเพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวลงทะเบียนรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 15 ..นี้ โดยแนะให้ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก รีบลงทะเบียนเข้าร่วมเพื่อรองรับมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ

    ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนเราเที่ยวด้วยกัน ทางรัฐบาลได้กำหนดคุณสมบัติของประชาชน และเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมใช้สิทธิที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เริ่มวันที่ 15 ..นี้ โดยมีขั้นตอนลงทะเบียนดังนี้

    คุณสมบัติของประชาชนที่จะลงทะเบียนรับสิทธิ

    • เป็นบุคคลสัญชาติไทย
    • อายุ 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
    • มีบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ ท่องเที่ยว ที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ
    • อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าต้องใช้สิทธิในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง ซึ่งการลงทะเบียนขอแนะนำให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังมาเตรียมไว้

    สำหรับ 7 ขั้นตอน ลงทะเบียน “www.เราเที่ยวด้วยกัน.com” มีดังนี้

    1. ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน.com (เมื่อลงทะเบียนเสร็จ จะได้รับ SMS ยืนยันตอบกลับไม่เกิน 3 วัน)

    2. ติดตั้งแอปพลิเคชันเป๋าตัง (หากมีอยู่แล้ว สามารถใช้ต่อได้เลย)

    3. จองโรงแรมไม่เกิน 5 ห้อง/คืน/คน (เมื่อวางแผนท่องเที่ยวเรียบร้อย ให้จองโรงแรมได้หลายช่องทาง เช่น จองผ่านโรงแรมโดยตรง, Agoda, Traveloka เป็นต้น)

    4. จ่ายเงินผ่านเป๋าตัง 60% ของค่าห้อง (ไม่สามารถยกเลิกได้) (สามารถจ่ายด้วยหลายวิธี เช่น การโอนเงิน, เครดิตการ์ด)

    5. CHECK IN เช็กอิน (จะได้รับ E-Voucher 600 บาท/คืน เวลา 17.00 . ของทุกวันที่เราเช็กอิน ซึ่งจะได้รับสูงสุด 5 คืน)

    6. CHECK OUT เช็กเอาต์ (E-Voucher จะหมดอายุในเวลา 24.00 . ของวันที่เช็กเอาต์)

    7. ได้รับเงินคืนค่าเครื่องบิน 40% ไม่เกิน 1,000 บาท ผ่านเป๋าตัง กรอก BOOKING NO. ใน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ได้รับสิทธิ 2 คน/ห้อง กำหนดโอนเงินทุกวันที่ 15 และวันที่ 30

    ]]>
    1287374
    ไขข้อสงสัย www.เราเที่ยวด้วยกัน.com สำหรับผู้ประกอบการ-ประชาชน-แอปฯ เป๋าตังรับส่วนลด https://positioningmag.com/1286445 Fri, 03 Jul 2020 08:48:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1286445 มาเเล้วกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ หลัง COVID-19 ผ่าน 3 โครงการ รวมวงเงิน 22,400 ล้านบาท ได้แก่ ท่องเที่ยวปันสุข เราเที่ยวไปด้วยกัน ท่องเที่ยวกำลังใจ ที่จะดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคมตุลาคมนี้ 

    ล่าสุดรัฐบาลเปิดลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ให้โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ตั้งเเต่วันที่ 1 .. ที่ผ่านมา ขณะที่ประชาชนทั่วไป รอลงทะเบียนในวันที่ 15 ..นี้ ผู้สนใจต้องดาวน์โหลดเเอปพลิเคชันเป๋าตังรอไว้ เพื่อใช้จ่ายค่าที่พัก เช็กอิน รับส่วนลดร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว แถมขอคืนค่าตั๋วเครื่องบินได้ 40% สูงสุด 1,000 บาทต่อที่นั่ง มีแค่ 2 ล้านสิทธิเท่านั้น

    วันนี้ Positioning รวบรวมข้อสงสัย คำถามที่พบบ่อย “เราเที่ยวด้วยกัน” ทั้งฝั่งผู้ประกอบการร้านค้า โรงเเรม สถานที่ท่องเที่ยว ประชาชนทั่วไปเเละการใช้เป๋าตังเป็นข้อควรรู้ก่อนลงทะเบียน มาให้อ่านก่อน…

    ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร-สถานที่ท่องเที่ยว

    1. ผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ที่สนใจเข้าร่วมโครงการต้องทำอย่างไร

    คำตอบ: มีบัญชีธนาคารกรุงไทย

    • สมัครใช้บริการแอปพลิเคชันถุงเงิน
    • ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการที่ เราเที่ยวด้วยกัน.com
    • กรณีประสงค์ใช้แอปพลิเคชันถุงเงินรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต สามารถยื่นความประสงค์ได้
    • กรณีผู้ประกอบการโรงแรม/ที่พัก สมัครใช้บริการระบบชำระเงินออนไลน์ (Payment Service Provider) หรือผู้ให้บริการ Online Travel Agency กับผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ

    2. ผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ที่มีหลายสาขาต้องลงทะเบียนแยกเป็นรายสาขาหรือไม่

    คำตอบ: การลงทะเบียนผู้ประกอบการต้องมีหมายเลข TAX ID และบัญชีรับเงินในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและสมัครแอปพลิเคชันถุงเงิน กรณีมีสาขามากกว่า 1 สาขา ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนแยกสาขา

     

    3.ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง เมื่อเข้าร่วมโครงการ

    คำตอบ:

    • ได้เพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์กิจการผ่านทางเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com
    • มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการสนับสนุนของภาครัฐให้ประชาชนออกมาท่องเที่ยวแบบ New Normal

    4.ผู้ประกอบการที่มาลงทะเบียน จะทราบผลการลงทะเบียนจากช่องทางใด

    คำตอบ: ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ที่ผ่านเกณฑ์และไม่ผ่านเกณฑ์เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับ SMS แจ้งผลจากชื่อผู้ส่ง “TTogether”

    5. ผู้ลงทะเบียนต้องเป็นเจ้าของกิจการเท่านั้นหรือไม่

    คำตอบ: ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซด์ ต้องเป็นเจ้าของกิจการ หรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของกิจการ ให้ทำการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ โดยยืนยันตัวตนด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ ผ่านรหัส OTP ที่ทำการลงทะเบียน

    6.ผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ที่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (TAX ID) 1 หมายเลข สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้กี่ครั้ง

    คำตอบ: สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ครั้งเดียว และเมื่อลงทะเบียนสำเร็จจะไม่สามารถลงทะเบียนซ้ำได้

    7. โรงเเรมในเครือสามารถลงทะเบียนได้เองหรือไม่ 

    • กรณีที่มีหมายเลข TAX ID และบัญชีกรุงไทย เฉพาะสาขา สามารถเลือกลงทะเบียนแยกได้
    • กรณีที่ไม่มีหมายเลข TAX ID และบัญชีกรุงไทย เฉพาะสาขา โรงแรมสามารถเลือกลงทะเบียนครั้งเดียวได้ และเพิ่มสาขาในระบบจัดการข้อมูลกิจการโดยเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์มือถือแต่ละสาขาในการใช้ระบบแอปพลิเคชันถุงเงิน

    สำหรับประชาชน 

    • มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
    • อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
      * ประชาชนจะได้รับสิทธิเมื่อท่องเที่ยว กิน และนอน ในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง

    1.การใช้สิทธิสามารถใช้สิทธิได้ทุกจังหวัดยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้านใช่หรือไม่

    คำตอบ : ประชาชนที่ลงทะเบียนรับสิทธิ สามารถเดินทางท่องเที่ยวทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้านตนเอง

    2. สิทธิส่วนลดค่าที่พัก (40%) และสิทธิใช้จ่ายซื้อของจากร้านอาหาร/สถานที่ท่องเที่ยว (600 บาท/วัน) มีกําหนดระยะเวลาหรือไม่ว่าหมด อายุภายในกี่วัน

    คำตอบ: บัตรกำนัลส่วนลดโรงแรมและอาหาร/สถานที่ท่องเที่ยวจะมีอายุการใช้งานถึง 23.59 น. ของวันที่จอง เช็กเอาต์ ที่พัก

    3. สิทธิต่อประชาชน 1 คน สามารถจองห้องพักได้ครั้งละกี่ห้อง มีจํากัดหรือไม่

    คำตอบ: ประชาชนมีสิทธิ 1 คนต่อ 5 ห้อง/คืน ซึ่งสามารถจองกี่ครั้งก็ได้ แต่ใช้สิทธิส่วนลดห้องพักได้ไม่เกิน 5 ห้องคืน

    4. สิทธิใช้จ่ายซื้อของจากร้านค้า (600 บาท/วัน) สามารถกดออกมาเป็นเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีได้หรือไม่

    คำตอบ: บัตรกำนัลส่วนลดอาหารไม่สามารถโอนออกหรือใช้เป็นเงินสดได้

    5. กรณีประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการ จ่ายชําระค่าจองที่พัก (60%) แล้วมีการยกเลิกการจอง จะต้องแจ้งอะไรกับทางภาครัฐหรือไม่ สิทธิยังคงไปใช้จองที่ใหม่ได้อีกหรือไม่

    คำตอบ: ตามเงื่อนไขของโครงการ เมื่อทำการจองที่พักและชำระเงินส่วน 60% แล้วจะไม่สามารถยกเลิกและเปลี่ยนการจองได้

    6. ประชาชนที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ จะสามารถจองโรงแรมผ่านช่องทางใดได้บ้าง

    คำตอบ:

    • Online Travel Agency (OTA) ได้แก่ Agoda , Traveloka
    • Website โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ (ถ้ามี)
    • www.เราเที่ยวด้วยกัน.com โดยไปที่ค้นหากิจการโรงแรม
    • ช่องทางติดต่ออื่นๆ ที่โรงแรมมี เช่น Line , Facebook , เบอร์โทรศัพท์

    7. ช่องทางการลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางไหนบ้าง และจํากัดจํานวนผู้ลงทะเบียนหรือไม่ 

    คำตอบ: ประชาชนและร้านค้า สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ ที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เท่านั้น ไม่จำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียน

    8. จะตรวจสอบผลการลงทะเบียนอย่างไรและทําการแจ้งผลผ่านช่องทางไหน หากไม่มี e-mail สามารถลงทะเบียนได้ไหม 

    คำตอบ: สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้จาก sms ระบบจะส่ง sms แจ้งผลจากชื่อผู้ส่ง “TTogether” แจ้งไปยังเบอร์ที่รับรหัส OTP

    นักท่องเที่ยวไทยพร้อมกลับมาเที่ยวในประเทศเร็วๆ นี้ (Photo by Thanakorn Phanthura from Pexels)

    คำถามเกี่ยวกับ “แอปฯ เป๋าตัง”

    1. กรณีที่มี แอปฯ เป๋าตัง อยู่แล้ว จะต้องลงทะเบียนใหม่หรือไม่

    คำตอบ: ประชาชนที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ต้องลงทะเบียนรับสิทธิที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ก่อนจึงจะสามารถใช้สิทธิบนแอปฯ เป๋าตังได้

    2. กรณีที่เดิมเคยใช้ แอปฯ เป๋าตัง แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดิมแล้ว จะเข้าใช้งาน แอปฯ เป๋าตัง ได้อย่างไร

    คำตอบ:สามารถแก้ไขปัญหา ได้ 3 วิธี ได้แก่

    • สามารถเข้าใช้งานด้วยการผูกบัญชีกรุงไทย
    • สามารถเข้าใช้งาน G-wallet ด้วยการรับรหัส OTP จากเบอร์ที่ลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อยืนยันตัวตน
    • ติดต่อเบอร์ 02-111-1144 หรือสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ

    3. เมื่อจองโรงแรมเรียบร้อยแล้ว จะทราบได้อย่างไรว่าได้รับการยืนยันจากโรงแรม

    คำตอบ: สามารถตรวจสอบผลยืนยันการจองโรงแรมที่แอปฯ เป๋าตัง จากการแจ้งเตือนบนแอปฯ ซึ่งประชาชนสามารถทำการตรวจสอบรายละเอียดส่วนลดจากสิทธิที่ได้รับ และชำระเงินได้ที่ Payment Link บนแอปฯ

    4. จะทราบได้อย่างไร ว่า E-voucher โรงแรมที่จองสามารถใช้งานได้ในวันไหน

    คำตอบ: สามารถทราบได้หลังจากที่ประชาชนชำระเงินส่วน 60% ที่จองโรงแรมสำเร็จ และตรวจสอบ E-voucher บนแอปฯ เป๋าตัง ที่เมนู G-wallet

    5. ประชาชนจะได้รับบัตรกำนัล ส่วนลดค่าอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวอย่างไร

    คำตอบ: ประชาชน ต้องทำการจองโรงแรมพร้อมชำระเงินส่วน 60% สำเร็จ และเดินทางไปเข้าพักที่โรงแรม เมื่อทำการเช็กอิน ที่พักเรียบร้อย ระบบจะแสดงคูปองส่วนลดอาหาร/ท่องเที่ยว บนแอปฯ เป๋าตังให้ใช้งานเวลา 17.00 น. ในวันเช็กอิน

    6. คูปองอาหารมีวันหมดอายุหรือไม่

    คำตอบ: คูปองส่วนลดค่าอาหาร/สถานที่ท่องเที่ยว จะมีอายุการใช้งานถึงวันเช็กเอาต์ก่อนเที่ยงคืน

    7. E-Voucher โรงแรมที่ได้รับ สามารถเปลี่ยนแปลงวันเข้าพัก หรือ ยกเลิกได้หรือไม่

    คำตอบ: ผู้ที่ได้รับสิทธิส่วนลดโรงแรมเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเข้าพัก หรือ ยกเลิกการจองได้

    8. หลังจากที่โรงแรมส่ง Payment Link เพื่อยืนยันการจอง ประชาชนต้องเข้าไปชำระเงินภายในกี่วัน

    คำตอบ: ประชาชนที่ได้รับ Payment Link บนแอปฯ เป๋าตัง สามารถชำระเงินเพื่อยืนยันการจองได้ภายในวันถัดไป (T+1)

    9. E-Voucher ที่ได้รับจากการจองโรงแรม จะมีหมดอายุวันไหน

    คำตอบ: ส่วนลดค่าโรงแรมจะหมดอายุ ตามวันที่จองที่พัก

     

     

    ]]>
    1286445