ไวรัสกลายพันธุ์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 27 Nov 2021 02:37:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เรารู้อะไรแล้วบ้างเกี่ยวกับ “ไวรัส” COVID-19 กลายพันธุ์จาก “แอฟริกาใต้” https://positioningmag.com/1364114 Fri, 26 Nov 2021 16:00:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1364114 ไวรัสโรคระบาด COVID-19 กลายพันธุ์ชนิดใหม่จาก “แอฟริกาใต้” สร้างความกังวลไปทั่วโลก เรารู้อะไรแล้วบ้างเกี่ยวกับไวรัสตัวนี้ และเราควรกังวลมากน้อยแค่ไหน

 

1) มีการกลายพันธุ์อย่างหนัก

ไวรัสพันธุ์นี้ใช้ชื่อว่า B.1.1.529 และองค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งรหัสชื่อให้มันเรียบร้อยว่า “โอไมครอน”

ศาสตราจารย์ตูลิโอ เดอ โอลิเวียร่า ผู้อำนวยการ ศูนย์การตอบสนองและนวัตกรรมต่อโรคระบาดแอฟริกาใต้ กล่าวถึงไวรัสตัวนี้ว่า “มีการกลายพันธุ์แบบกลุ่มที่ผิดปกติ” และ “มีความแตกต่างอย่างมาก” จากไวรัสกลายพันธุ์อื่นๆ ที่เคยระบาด

“ไวรัสกลายพันธุ์ตัวนี้ทำให้เราแปลกใจ มันพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด และมีการกลายพันธุ์มากกว่าที่เราคาด” เดอ โอลิเวียร่ากล่าว

B.1.1.529 มีการกลายพันธุ์ถึง 50 ตำแหน่ง และ 30 ตำแหน่งในนั้นเกิดขึ้นที่หนามโปรตีน ซึ่งเป็นจุดโจมตีของวัคซีนหลายชนิดเพื่อทำลายไม่ให้ไวรัสเข้ามาในเซลล์ร่างกายของเราได้

ต้องย้ำอีกครั้งว่า ไวรัสตัวนี้มีหน้าตาที่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับตัวต้นฉบับจากอู่ฮั่น ประเทศจีน หมายความว่า วัคซีนที่พัฒนามาเพื่อจัดการไวรัสแบบเก่าน่าจะไม่มีประสิทธิภาพกับไวรัสพันธุ์นี้

 

2) กลายพันธุ์ในจุดที่ทำให้ระบาดง่ายขึ้น

บางจุดของการกลายพันธุ์เป็นตำแหน่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสายพันธุ์อื่น เช่น จุด N501Y ที่ถูกประเมินว่าเป็นตำแหน่งที่ทำให้ไวรัสระบาดง่ายขึ้น เพราะทำให้แอนติบอดี้ไม่รู้จักตัวไวรัส วัคซีนจึงมีประสิทธิภาพลดลง

ฟรองซัว บัลลูซ์ ผู้อำนวยการ สถาบันพันธุกรรมแห่ง University College of London มองว่า ความเสี่ยงสูงสุดจากการกลายพันธุ์ครั้งนี้คือ ไวรัสอาจจะทำให้ผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อแล้วเกิดติดเชื้อซ้ำมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ต้องตื่นตูมไป เพราะการศึกษาบนงานวิจัยอาจจะดูน่ากลัวแต่ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน เหมือนกับสายพันธุ์เบตาที่ทางทฤษฎีแล้วหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด แต่กลับกลายเป็นสายพันธุ์เดลตาซึ่งเป็นพันธุ์ที่แพร่ได้เร็วที่สุดที่ครองโลกอยู่ในขณะนี้

 

3) มีผู้ติดเชื้อแล้ว 77 คน

ขณะนี้มีรายงานการติดเชื้อแล้ว 77 คน จากจังหวัด Guateng ในประเทศแอฟริกาใต้, ประเทศบอตสวานา, และเกาะฮ่องกง

มีการคาดการณ์ว่าผู้ติดเชื้อน่าจะมีมากกว่านี้ และเป็นไปได้ว่าอาจจะระบาดทั่วประเทศแอฟริกาใต้แล้ว รวมถึงน่าจะเป็นสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการระบาดระลอกที่สี่ขึ้นภายในประเทศแอฟริกาใต้

สำหรับเคสในฮ่องกง พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย รายหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่บินตรงมาจากแอฟริกาใต้ อีกรายเป็นชาวแคนาดาที่กักตัวอยู่ในสถานกักตัวชั้นเดียวกัน

 

4) หลายประเทศทยอยประกาศ “แบน” ห้ามเข้า

ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 2021 สหราชอาณาจักร ประกาศให้ 6 ประเทศทวีปแอฟริกาใต้อยู่ใน “ลิสต์สีแดง” ได้แก่ แอฟริกาใต้ นามิเบีย เลโซโท บอตสวานา เอสวาตินี และซิมบับเว ทำให้เที่ยวบินจากประเทศเหล่านี้ถูกระงับตั้งแต่เที่ยงวันของวันที่ 26 พ.ย. 2021

ตามด้วย ฝรั่งเศส และ อิตาลี ประกาศห้ามผู้เดินทางจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกาเข้าประเทศเป็นการชั่วคราว

สิงคโปร์ มาเลเซีย บาห์เรน และ อิสราเอล แบนผู้ที่ไม่ได้ถือสัญชาติหรือสิทธิพำนักระยะยาวที่เดินทางจาก 7 ประเทศ เดินทางข้ามพรมแดน ได้แก่ แอฟริกาใต้ นามิเบีย เลโซโท บอตสวาน่า เอสวาตินี ซิมบับเว และโมซัมบิก

ขณะที่ อินเดีย สั่งการสกรีนคนเดินทางจากพื้นที่ที่มีการติดเชื้อ B.1.1.529 เป็นพิเศษ และจะมีการประชุมด่วนในวันที่ 29 พ.ย.นี้

มีความเป็นไปได้ด้วยว่า สหภาพยุโรป (EU) จะประกาศแบนการเดินทางด้วยเครื่องบินจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกา จากถ้อยแถลงของ เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่ระบุว่าจะมีการพูดคุยและประกาศฉุกเฉินร่วมกับประเทศสมาชิก

แน่นอนว่าประเทศแอฟริกาใต้ไม่พอใจนักที่อังกฤษเดินเกมเร็ว เร่งปิดประเทศ ทั้งที่ WHO ยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ เนื่องจากมองว่าเป็นการทำลายภาคท่องเที่ยวระหว่างประเทศ โดยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวแอฟริกาใต้เข้าสู่อังกฤษวันละ 500-700 คน และน่าจะเพิ่มมากขึ้นช่วงคริสต์มาส

 

สิ่งที่เรา “ยังไม่รู้” ณ ขณะนี้คือไวรัสพันธุ์ใหม่จะแพร่ได้เร็วกว่าเดลตาหรือไม่ จะเกิดโรครุนแรงกว่าหรือไม่ หรือทำให้มีอาการแปลกไปกว่าเดิมหรือไม่ รวมถึงจะแพร่ระบาดได้มากหรือไม่ในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง เนื่องจากศูนย์กลางระบาดปัจจุบันคือที่แอฟริกาใต้ มีประชากรรับวัคซีนครบโดสแล้วเพียง 24%

ที่มา: BBC, CNN, AP, Financial Times

]]>
1364114
“รัสเซีย-สหรัฐฯ” สองประเทศที่มีคน “ปฏิเสธวัคซีน” มากที่สุด นักวิทย์เกรงเกิดไวรัสกลายพันธุ์ https://positioningmag.com/1350407 Mon, 06 Sep 2021 08:33:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1350407 บริษัทวิจัยสำรวจความคิดเห็นประชากรใน 15 ประเทศ พบว่า “รัสเซีย” และ “สหรัฐฯ” คือสองประเทศที่มีคนปฏิเสธหรือลังเลที่จะเข้ารับวัคซีนป้องกัน COVID-19 สูงที่สุด นักวิทยาศาสตร์กังวล ประเทศที่ประชากรมีอัตราเข้ารับวัคซีนช้าลง และประเทศยากจนที่เข้าถึงวัคซีนได้น้อย จะเป็นแหล่งเพาะไวรัสกลายพันธุ์

Morning Consult บริษัทวิจัยและที่ปรึกษา ติดตามความคิดเห็นของประชากรใน 15 ประเทศเกี่ยวกับการรับวัคซีน โดยมีการสุ่มสอบถามทุกสัปดาห์ เก็บตัวอย่างรวมกว่า 75,000 ตัวอย่าง เริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021

บริษัทมีคำถามสั้นๆ ในการเก็บข้อมูลคือ “คุณได้รับวัคซีนแล้วหรือยัง?” และมีคำตอบให้เลือก 4 ข้อคือ “ได้รับแล้ว” “ยัง แต่มีแผนจะรับวัคซีนในอนาคต” “ยัง และยังไม่แน่ใจว่าจะเข้ารับวัคซีนหรือไม่” และ “ยัง และวางแผนว่าจะไม่เข้ารับวัคซีน”

รอบการสอบถามครั้งล่าสุดคือ ระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคม 2021 พบว่า “รัสเซีย” ยังคงเป็นประเทศอันดับ 1 ที่มีผู้ตอบว่าจะไม่รับวัคซีนและไม่แน่ใจว่าจะรับวัคซีนหรือไม่รวมกันเป็นอัตราส่วนสูงที่สุด โดยสูงถึง 43% ของกลุ่มตัวอย่าง

รองลงมาเป็นอันดับ 2 คือ “สหรัฐอเมริกา” ซึ่งมีผู้ที่จะไม่รับวัคซีนและคนที่ยังไม่แน่ใจรวมกันเป็นอัตราส่วน 27%

ผลสำรวจระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคม 2021

ค่าเฉลี่ยของทั้ง 15 ประเทศรวมกัน สำหรับกลุ่มที่จะไม่รับวัคซีนและไม่แน่ใจอยู่ที่ 14% โดยมีประเทศที่มีคนกลุ่มนี้เกินค่าเฉลี่ย นอกจากรัสเซียกับสหรัฐฯ คือ เยอรมนี (19%) ออสเตรเลีย (18%) ญี่ปุ่น (17%) เกาหลีใต้ (16%) และแคนาดา (15%)

ส่วนประเทศที่มีคนไม่รับวัคซีนและคนที่ยังไม่แน่ใจ เท่ากับหรือน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ได้แก่ ฝรั่งเศส (14%) อิตาลี (14%) สหราชอาณาจักร (12%) สเปน (9%) บราซิล (8%) เม็กซิโก (8%) อินเดีย (6%) และจีน (2%)

 

เหตุผลหลัก “กลัวผลข้างเคียง”

ที่ผ่านมาเรามักจะเข้าใจว่าคนที่ปฏิเสธวัคซีนเป็นกลุ่มต่อต้านวัคซีนทุกชนิดหรือที่เรียกว่า Anti-Vaxxer แต่การสำรวจนี้ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วเหตุผลหลักเป็นประเด็นอื่น

อีกหนึ่งคำถามจากงานวิจัยคือถามว่ากลุ่มที่ปฏิเสธไม่รับวัคซีนหรือลังเลใจ ทำไมจึงคิดเช่นนั้น ผลปรากฏว่าเหตุผลอันดับ 1 และ 2 ของทุกประเทศ คือ “กลัวผลข้างเคียงจากวัคซีน” และ “กังวลว่าการวิจัยวัคซีนพัฒนาเร็วเกินไป”

ผลสำรวจระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคม 2021

ส่วนเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้คนไม่รับวัคซีน เช่น มองว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ไว้ใจบริษัทผู้ผลิตวัคซีน มองว่าตนเองมีความเสี่ยงน้อยที่จะติดเชื้อโรค COVID-19

 

กลุ่มคนไม่รับวัคซีน และประเทศยากจน น่ากังวลสูง

ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดกำลังกังวลกับอัตราการฉีดวัคซีนในโลกที่ช้าลง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่ประชากรปฏิเสธวัคซีนเป็นอัตราสูง อย่างรัสเซียและสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มประเทศยากจนที่เข้าถึงวัคซีนได้ยาก โดยข้อมูลจาก Our World in Data ระบุว่าประเทศรายได้น้อย มีประชากรที่รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดสเพียง 1.8% ของประชากรทั้งหมด เทียบกับค่าเฉลี่ยโลกอยู่ที่ 40.3%

แม้แต่ในประเทศแถบยุโรปก็มีปัญหาซ่อนอยู่ โดย ดร.ฮานส์ คลูจ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคยุโรป องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า คนที่มีรายได้ต่ำและกลางค่อนต่ำในกลุ่มประเทศยุโรป เข้าถึงวัคซีนครบโดสแล้วเพียงแค่ 6%

ปฏิเสธวัคซีน
กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการฉีดวัคซีนและข้อบังคับให้สวมหน้ากากอนามัย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2021 ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยส์เซียนา (Photo : Shutterstock)

การไม่ได้รับวัคซีนไม่ใช่ความเสี่ยงของคนคนเดียว แต่เป็นความเสี่ยงร่วมกันของคนทั้งโลก เพราะอาจจะทำให้มีการระบาดมากขึ้น และนำไปสู่การเกิดไวรัสกลายพันธุ์เพิ่มขึ้น

คลูจกล่าวว่า ใน 53 ประเทศแถบยุโรป รวมรัสเซียและประเทศโดยรอบ มี 33 ประเทศที่เกิดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ภายในรอบ 14 วันที่ผ่านมา

ขณะที่สำนักข่าว CNBC ให้ข้อมูลสถานการณ์ในสหรัฐฯ ซึ่งถูกไวรัสสายพันธุ์เดลตาโจมตีเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่ารัฐที่ติดเชื้อมากคือรัฐที่มีอัตราประชากรปฏิเสธวัคซีนสูง เช่น หลุยส์เซียนา ไอดาโฮ มิสซิสซิปปี เป็นต้น

Source: Morning Consult, CNBC

]]>
1350407
‘ญี่ปุ่น’ เล็งให้ผู้เดินทางจากต่างประเทศทุกคน ต้องตรวจ ‘โควิดกลายพันธุ์’ https://positioningmag.com/1324318 Sun, 21 Mar 2021 11:31:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1324318 ทางการญี่ปุ่น เตรียมพิจารณาใช้มาตรการให้ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศทุกคนต้องตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์จากเดิมที่กำหนดเฉพาะเป็นรายประเทศ

ปัจจุบัน ผู้ที่เดินทางมาจาก 24 ประเทศที่พบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ จะต้องตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม หลังจากเข้าญี่ปุ่นมาแล้ว 3 วัน นอกจากนี้ ทางการยังเฝ้าติดตามว่าทุกคนปฏิบัติตามมาตรการกักตัว 14 วันอย่างเคร่งครัดหรือไม่

Norihisa Tamura รัฐมนตรีสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับ NHK ว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาที่จะจับมือกับบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน เพื่อติดตามผู้ที่กักตัวเองในบ้านหรือที่พักอาศัย เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาปฏิบัติตามกฎ

วานนี้ (20 มี..) รัฐบาลญี่ปุ่น กำหนดให้ทุกคนที่เดินทางผ่าน 7 ประเทศ อย่างเอสโตเนีย สาธารณรัฐเช็ก ปากีสถาน ฮังการี โปแลนด์ ลักเซมเบิร์ก และเลบานอน ต้องตรวจหาเชื้อกลายพันธุ์เพิ่ม เเละมีระบบเฝ้าระวังเช่นเดียวกับประเทศที่ถูกประกาศไปก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน COVID019  ในเขตมหานครโตเกียว และจังหวัดใกล้เคียง โดยขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงร่วมกิจกรรมที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง งดออกไปนอกบ้านหากไม่จำเป็น เเละให้ร้านอาหารและบาร์ปิดภายในเวลา 20.00 .

 

ที่มา : Nikkei , Kyodo 

]]>
1324318
“อิตาลี” ประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ หลัง COVID-19 ตัวกลายพันธุ์ระบาดหนัก https://positioningmag.com/1323392 Sun, 14 Mar 2021 15:41:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1323392 อิตาลีกำลังเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ ด้วยรัฐบาลหวังควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่โหมกระพือรุนแรงขึ้นมาอีกรอบ ผลจากการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์

ราวครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 20 แคว้นของอิตาลี ในนั้นรวมถึงแคว้นซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงโรม เมืองมิลาน และเมืองเวนิซ จะเข้าสู่ข้อจำกัดรอบใหม่สกัดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 มี.. และมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน จากร่างกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากิ ในวันศุกร์ที่ 12 มี..

ในภูมิภาคต่างๆ ที่ถูกกำหนดในฐานะโซนสีแดง (red zone)” ประชาชนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน ยกเว้นแต่ออกมาทำงานหรือเหตุผลด้านสุขภาพ ร้านค้าต่างๆ ที่ไม่มีความจำเป็นจะถูกปิด ส่วนโซนสีส้ม (orange zone)” ประชาชนจะถูกห้ามเดินทางออกจากเมืองและแคว้นของตนเอง ยกเว้นแต่ไปทำงานหรือเหตุผลทางสุขภาพ โดยบาร์และร้านอาหารจะสามารถเปิดบริการได้เฉพาะแบบส่งถึงบ้านและสั่งซื้อกลับบ้านเท่านั้น

แคว้นต่างๆ จะถูกกำหนดเป็นโซนสีแดงหรือสีส้มขึ้นอยู่กับระดับของการแพร่ระบาด โดยภูมิภาคใดก็ตามที่มีเคสผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่รายสัปดาห์ มากกว่า 250 คนต่อประชากร 100,000 คน จะเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์โดยอัตโนมัติ นั่นหมายความว่าแคว้นอื่นๆ ก็มีโอกาสดำดิ่งเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เช่นกันในช่วงเวลาดังกล่าว

กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีบอกว่า เป้าหมายของมาตรการนี้คือฉุดค่า R อัตราความสามารถที่ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งๆ แพร่กระจายไวรัสสู่คนอื่นๆ ให้ลดลงเหลือ 1

มาริโอ ดรากิ นายกรัฐมนตรีอิตาลี

นอกจากนี้แล้วในช่วงสุดสัปดาห์วันอีสเตอร์ รัฐบาลอิตาลีกำลังพิจารณากำหนดให้ทั่วประเทศเป็นโซนสีแดงและจะอยู่ภายใต้มาตการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 3 เมษายน ถึง 5 เมษายน

มาริโอ ดรากิ นายกรัฐมนตรีอิตาลี บอกว่ามาตรการรอบใหม่สกัดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีความจำเป็น เพราะว่าเคราะห์ร้ายที่เรากำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่หนึ่งปีหลังจากโรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น

เวลานี้ค่า R ของประเทศอยู่ที่ 1.6 เนื่องจากตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสหนักหน่วงยิ่งขึ้น

กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีบอกว่า ตัวกลายพันธุ์ B.1.1.7 ซึ่งพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศ ขณะเดียวกันพวกเขาก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพบกลุ่มก้อนเล็กๆ ของผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์จากบราซิล

เบื้องต้นพบว่าตัวกลายพันธุ์สหราชอาณาจักรแพร่ระบาดง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า ก่อนผลการศึกษาในสหราชอาณาจักร ซึ่งเผยแพร่ในวารสารการแพทย์บริติช (British Medical Journal) จะระบุว่ามันมีความร้ายแรงมากกว่าด้วยเช่นกัน

ส่วนตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในบราซิล หรือที่เรียกว่า P.1 แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิม 2.2 เท่า และสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการเคยติด COVID-19 ได้ถึง 61% อ้างอิงจากโมเดลการศึกษาหนึ่ง ที่เผยแพร่โดยคณะวิจัยในบราซิลและสหราชอาณาจักรเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

อิตาลีเคยล็อกดาวน์ทั่วประเทศมาแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2020 และนับตั้งแต่นั้นก็มีการล็อกดาวน์ระดับท้องถิ่นตามแคว้นต่างๆ เป็นระยะๆ ทั่วประเทศ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิตาลีพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 150,175 คน เพิ่มขึ้นจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้นเกือบ 15%

ในวันพฤหัสบดีที่ 11 มี.. อิตาลี รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 25,000 คน สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ก่อนเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 26,000 เคสในวันศุกร์ที่ 12 มี..

ควบคู่ไปกับมาตรการล็อกดาวน์ นายกรัฐมนตรีอิตาลีให้สัญญาว่าจะเร่งโครงการฉีดวัคซีนของประเทศ แม้ดินแดนแห่งนี้ได้ระงับใช้วัคซีนล็อตหนึ่งของแอสตร้าเซนเนก้า หลังพบชายคนหนึ่งในซิซิลี เสียชีวิตจากอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หนึ่งวันหลังได้รับวัคซีนโดสแรก

Source

]]>
1323392
เจออีก! “ญี่ปุ่น” พบไวรัส COVID-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ เจอในนักเดินทางจากบราซิล https://positioningmag.com/1313606 Mon, 11 Jan 2021 05:12:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1313606 สายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ถูกตรวจเจอในนักเดินทาง 4 คน ที่มาจากรัฐอามาโซนัสของบราซิล จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค. ถือเป็นตัวกลายพันธุ์ใหม่ล่าสุดที่พบ

เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นรายหนึ่ง เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีต่อตัวกลายพันธุ์ใหม่ล่าสุดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งต่างจากตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร และแอฟริกาใต้ ที่ผลักจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากมันแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า

“ณ ตอนนี้ ยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่พบในบุคคลที่เดินทางมาจากบราซิลนั้น แพร่กระจายเชื้อได้ง่าย” ทาคาจิ วาคิตะ ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติกล่าว

กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุว่า ในบรรดานักเดินทาง 4 คน ที่เดินทางมาถึงสนามบินฮาเนดะของกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 2 มกราคม ชายคนหนึ่งอายุ 40 ปีเศษๆ มีปัญหาด้านการหายใจ ผู้หญิงในวัย 30 ปีเศษๆ ปวดศีรษะและเจ็บคอ ชายวัยรุ่นมีไข้ และคนสุดท้ายเป็นหญิงสาววัยรุ่น ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ

นักเดินทางทั้งหมดอยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรคที่สนามบินของกรุงโตเกียว ตามการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขบราซิล

หลังจากพบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 พุ่งขึ้นอย่างมาก ญี่ปุ่นตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับกรุงโตเกียวและอีก 3 จังหวัดที่อยู่ติดกับเมืองหลวงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ม.ค.

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า จนถึงตอนนี้ ทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อ 289,000 คน ในนั้นเสียชีวิต 4,061 ราย

Source

]]>
1313606
ระทึก! “เวียดนาม” พบผู้ป่วย COVID-19 สายพันธุ์อังกฤษกลายพันธุ์รายแรก https://positioningmag.com/1312749 Sat, 02 Jan 2021 14:25:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312749 กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ที่กำลังแพ่รระบาดในอังกฤษเป็นรายแรก

COVID-19 สายพันธุ์นี้ถูกพบในหญิงวัย 44 ปีที่กลับมากจากอังกฤษ เธอถูกกักตัวระหว่างขาเข้าและถูกยืนยันพบเชื้อไวรัสเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม

“นักวิจัยทำการหาลำดับดีเอ็นเอจากตัวอย่างของผู้ป่วยและพบสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ‘VOC 202012/01” กระทรวงฯ ระบุ

สายพันธุ์ดังกล่าวมีการกลายพันธุ์ของยีนที่ตามทฤษฎีแล้ว สามารถทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดระหว่างคนสู่คนได้ง่ายขึ้น

หลายประเทศทั่วโลกปิดช่องทางเดินทางไปยังอังกฤษเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หลายคน กล่าวว่า สามารถติดต่อง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม 40-70%

เวียดนามยังคงเปิดเที่ยวบินขนส่งพลเมืองที่ติดอยู่ในอังกฤษกลับบ้านท่ามกลางการแพร่ระบาด

ด้วยมาตรการกักตัวและติดตามอย่างเข้มงวด เวียดนามสามารถจำกัดวงการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วกว่าหลายประเทศในเอเชีย ประเทศนี้พบผู้ติดเชื้อ 1,474 รายและเสียชีวิต 35 ราย

Source

]]>
1312749
ไต้หวัน “ปิดพรมแดน” ห้ามต่างชาติเข้า คุม COVID-19 กลายพันธุ์ เร่งเพิ่มโรงแรม ASQ 10,000 ห้อง https://positioningmag.com/1312691 Fri, 01 Jan 2021 09:14:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312691 ตามมาติดๆไต้หวันยกระดับคุมเข้มสกัดไวรัส COVID-19 กลายพันธุ์ ห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าเมือง ตั้งเเต่วันที่ 1 .. 2564 เป็นต้นไป เร่งเพิ่มโรงแรม ASQ อีก 10,000 ห้อง เตรียมรับมือการระบาดระลอกใหม่

ศูนย์บัญชาการโรคระบาดไต้หวัน ประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมระหว่างพรมแดนสูงสุด ห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าไต้หวันเป็นการชั่วคราว ยกเว้นผู้ที่มีใบถิ่นที่อยู่ (ARC ) หรือได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ มีผลตั้งเเต่วันที่ 1 .. 2564 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 .. เป็นต้นไป ชาวไต้หวันที่เดินทางกลับเข้าประเทศจำเป็นต้องกักตัวในที่พักอาศัยต้องอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น หรืออาศัยอยู่กับผู้เดินทางเข้ามาพร้อมกัน และต้องลงนามในใบรับรอง ส่วนคนที่ไม่ได้ออกนอกประเทศจะไม่สามารถอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเดียวกันกับผู้ที่อยู่ระหว่างการกักตัวได้

มาตรการดังกล่าว มีขึ้นหลังตรวจพบชาวไต้หวันติดเชื้อ COVID-19 กลายพันธุ์จากประเทศอังกฤษรายแรก ที่เดินทางมาถึงไต้หวันด้วยเที่ยวบินจากอังกฤษของสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งในเที่ยวบินนี้ผู้โดยสารทั้งหมด 114 คน เเละมี 3 คน ติดเชื้อ COVID-19 ในจำนวนนี้มี 1 คนที่ได้รับการยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์และกำลังแพร่ระบาดอยู่ในหลายประเทศ

การเเพร่ระบาดของ COVID-19 น่ากังวลขึ้นอีกครั้ง หลังมีการพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “ชนิดกลายพันธุ์” ครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงเดือนก.ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้เร็วขึ้นอีก 70% โดยสายพันธุ์ใหม่ที่พบในสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ยังเป็นคนละชนิดกันด้วย

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินโดนีเซีย ก็เริ่มเเบนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2021 เเละมีผลเรื่อยไป 14 วัน เป็นอย่างน้อย เพื่อป้องกัน COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ ที่มีการตรวจพบเเล้วในหลายประเทศ อย่าง อังกฤษ เเอฟริกาใต้ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย เเคนาดาเเละไนจีเรีย

ส่วนญี่ปุ่น ได้สั่งห้ามผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 28 .เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนมกราคม “เป็นอย่างน้อย” 

รัฐบาลไต้หวัน เเถลงว่า ทางการจะเร่งดำเนินการส่งเสริมให้โรงแรมทั่วไปปรับมาเป็นสถานที่กักตัวทางเลือก (Alternative State Quarantine หรือ ASQ) เพิ่มขึ้นอีก 10,000 ห้อง ให้ได้ภายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564  

 

 

ที่มา : TaiwanNews , RTI

]]>
1312691
“อังกฤษ” ขยายล็อกดาวน์ ครอบคลุมพลเมือง 44 ล้านราย หลังไวรัสกลายพันธุ์พุ่งไม่หยุด https://positioningmag.com/1312634 Thu, 31 Dec 2020 07:45:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312634 บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร สั่งประชาชนอีกหลายล้านคนในอังกฤษ ให้ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ข้อจำกัดอันเข้มเข้นตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. เป็นต้นไป ในความเคลื่อนไหวตอบโต้ตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังระบาดในอัตราที่รวดเร็วอย่างมากทั่วประเทศ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดติดเชื้อรายวันของประเทศเกิน 50,000 ราย 2 วันติดต่อกัน

จำนวนผู้ติดเชื้อในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งแพร่กระจายเชื้อง่ายกว่าไวรัสตัวดั้งเดิมถึง 70%

สหราชอาณาจักร รายงานพบผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 อีก 981 คนในวันพุธที่ 30 ธ.ค. ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมพุ่งเกิน 72,500 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชิ้อรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิน 50,000 คน 2 วันติดต่อกัน ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,432,88 คน

รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุว่าพลเมือง 3 ใน 4 ของอังกฤษ จะอยู่ในข้อจำกัดระดับสูงสุด ตั้งแต่ 00.01 น. ของวันพฤหัสบดีที่  31 ธ.ค. เป็นต้นไป ครอบคลุมประชากร  44.1 ล้านคน โดยในพื้นที่ดังกล่าว สถานบริการต่างๆ และห้างร้านที่ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบริการ และไม่อนุญาตให้ผู้คนจากต่างครอบครัวรวมตัวในที่เดียวกัน

“เราต้องเผชิญหน้ากับความจริงว่าอัตราการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กลายพันธุ์ บังคับใช้เราต้องใช้มาตรการที่เข้มเข้นขึ้นในบางพื้นที่” จอห์นสันกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมกับเรียกร้องประชาชนอยู่แต่ในบ้านในค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 31 ธ.ค. หลีกเลี่ยงออกไปเฉลิมฉลองคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในสถานที่สาธารณะทั้งหลาย

สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในชาติที่มีผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 สูงสุดในยุโรป และเศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากวิกฤตโรคระบาดใหญ่ ทั้งนี้พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ของปี 2020 อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ที่มีระดับความเข้มข้นต่างกันไป เพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ล้นโรงพยาบาล

แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักร ระบุว่าโรงพยาบาลต่างๆ ของประเทศกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักหน่วง ด้วยจำนวนผู้คนที่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับไวรัสในห้องไอซียู เพิ่มสูงขึ้นพอๆ กับเมื่อครั้งที่เผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกแรก

“เคราะห์ร้าย ตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาดทั่วอังกฤษ และเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอย่างรวดเร็ว” เขาบอกกับรัฐสภา “เพราะฉะนั้น มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องบังคับใช้เทียร์ 4 ในพื้นที่กว้างขวางขึ้นกว่าเดิม”

ลอนดอนและพื้นที่โดยรอบถูกยกระดับเข้าสู่มาตรการควบคุมระดับเทียร์ 4 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ส่วนแถบ มิดแลนด์, ทางตะวันออกเฉียงเหนือ, บางพื้นที่ของตะวันตกเฉียงเหนือและบางพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ จะเข้าสู่ระดับเทียร์ 4 เช่นกันในวันพฤหัสบดีที่ 31 ธ.ค.

]]>
1312634
รัฐบาลอินโดฯ ห้าม “ชาวต่างชาติ” เข้าประเทศชั่วคราว สกัด COVID-19 กลายพันธุ์ https://positioningmag.com/1312411 Tue, 29 Dec 2020 07:21:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312411 รัฐบาลอินโดนีเซีย ยกระดับคุมเข้มสกัดไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สั่งห้ามชาวต่างชาติจากทุกประเทศ เดินทางเข้าเมือง เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งเเต่วันปีใหม่นี้

อินโดนีเซีย เตรียมแบนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2021 เเละมีผลเรื่อยไป 14 วันเป็นอย่างน้อยเพื่อป้องกัน COVID-19 “สายพันธุ์ใหม่” ที่กลายพันธุ์มาจากอังกฤษเเละเเอฟริกาใต้ ที่มีการตรวจพบเเล้วในหลายประเทศ อย่าง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย เเคนาดาเเละไนจีเรีย

ก่อนหน้านี้ มีการสั่งระงับการเข้าเมืองของนักเดินทางจากสหราชอาณาจักร เข้มงวดกับผู้ที่เดินทางมาจากยุโรปและออสเตรเลีย เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของไวรัสดังกล่าว

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียห้ามนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคนเข้าประเทศ แต่มีการยกเว้นในบางกรณีสำหรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจ เเต่กฎระเบียบใหม่นี้ มีผลบังคับใช้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ

มาตรการดังกล่าว จะยกเว้นสำหรับเจ้าหน้าที่การทูต เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ พลเมืองอินโดนีเซียและชาวต่างชาติ ซึ่งมีใบอนุญาตพำนักถาวรในอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม บุคคลกลุ่มนี้ต้องแสดงเอกสารตามที่กำหนดโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าพนักงานควบคุมโรค ตลอดจนการต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวตามระยะเวลาที่รัฐกำหนด

ด้านญี่ปุ่นเตรียมแบนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 28 .เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนมกราคม “เป็นอย่างน้อย” หลังพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 “สายพันธุ์ใหม่” ที่กลายพันธุ์มาจากอังกฤษ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

การเเพร่ระบาดของ COVID-19 น่ากังวลขึ้นอีกครั้ง หลังมีการพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “ชนิดกลายพันธุ์” ครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงเดือนก.ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้เร็วขึ้นอีก 70% โดยสายพันธุ์ใหม่ที่พบในสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ยังเป็นคนละชนิดกันด้วย

อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ต้องเผชิญกับการเเพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างรุนเเรง โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมที่ยืนยันแล้วเกือบ 720,000 รายและเสียชีวิต 21,500 รายนับว่ามีจำนวนสูงที่สุดในอาเซียน

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นอีก เมื่อมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น จนมีปัญหาเตียงผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลบนเกาะชวา

 

ที่มา : Reuters , Jakarta Post

]]>
1312411
ญี่ปุ่น “ปิดประเทศ” ห้ามต่างชาติเดินทางเข้าถึงสิ้นเดือน ม.ค.ปีหน้า ผวาเจอ COVID-19 กลายพันธุ์ https://positioningmag.com/1312228 Sun, 27 Dec 2020 10:48:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312228 รัฐบาลญี่ปุ่น ประกาศห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไปจนถึงวันที่ 31 .. 2021 หลังมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธ์ุถึง 7 คน

โดยญี่ปุ่นเตรียมแบนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 28 .เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนมกราคม เป็นอย่างน้อยหลังพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 “สายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์มาจากอังกฤษ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ด้านพลเมืองญี่ปุ่น และชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตพำนักถาวร หากประสงค์เดินทางกลับเข้าประเทศ ต้องแสดงใบตรวจคัดกรอง COVID-19 ว่ามีผลเป็นลบ เป็นเวลาอย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และเมื่อเดินทางมาถึงต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

รัฐบาลญี่ปุ่น ยังแนะนำให้ผู้คนอยู่บ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะกลัวว่าการเดินทางหรือการนัดร่วมตัวกันของหมู่คน อาจจะเป็นปัจจัยให้สถานการณ์การระบาดของไวรัสรุนเเรงไปมากกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเตรียมพิจารณารับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ เเบบ “จำกัดจำนวน” เเละ “มีข้อจำกัด” ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพงานโตเกียวโอลิมปิก 

Photo : Shutterstock

โดยญี่ปุ่นมีเเผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว ด้วยการเริ่มเปิดรับ “กรุ๊ปทัวร์ต่างชาติขนาดเล็ก ก่อน เเละมีเเนวโน้มว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศในเอเชีย ที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-1ได้เป็นอย่างดีแล้ว อย่างเช่น จีน ไต้หวัน 

เเละมีข้อจำกัดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นลบ พร้อมแจ้งรายละเอียดตารางการเดินทางก่อนเข้าญี่ปุ่น เมื่อเข้ามาเเล้วทุกคนจะต้องว่าจ้างมีไกด์นำทางที่ถูกกฎหมาย เเละต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันติดตามตัวและรายงานสุขภาพทุกวัน

อย่างไรก็ตาม การเเพร่ระบาดของ COVID-19 ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง หลังมีความกังวลเกี่ยวกับการพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “ชนิดกลายพันธุ์” ครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงเดือนก.ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้เร็วขึ้นอีก 70% โดยสายพันธุ์ใหม่ที่พบในสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ยังเป็นคนละชนิดกันด้วย

ก่อนหน้านี้ ทางการฮ่องกง เพิ่งจะยกระดับด้วยการ “เพิ่มวันกักตัว” ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศให้เป็น 21 วัน จากเดิม 14 วัน

ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ในเยอรมัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ สวีเดน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ ทำให้นานาชาติมากกว่า 50 ทั่วโลก ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษเดินทางเข้าประเทศเป็นการชั่วคราวเเล้ว

 

ที่มา : Nikkei , Bloomberg

]]>
1312228