IPO – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 20 Sep 2024 05:52:28 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดเส้นทาง 11 ปี ‘โอ้กะจู๋’ ขายผักจนได้ดี OR มาซื้อหุ้น พร้อมสยายปีกเข้าตลาดหลักทรัพย์ https://positioningmag.com/1491105 Fri, 20 Sep 2024 03:51:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1491105 จากข้อมูลของ Databridge Market Research เผยว่า ตลาดอาหารสุขภาพทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 8.8 แสนล้านเหรียญฯ ในปี 2566 และมีการคาดการณ์ว่าจะโตเป็น 1.82 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2574

รวมถึง ข้อมูลจากงานวิจัยของ IMARC Group (2023) พบว่า แนวโน้มตลาดอาหารอนาคต หรืออาหารจากพืชทั่วโลกจะมีอัตราการเติบโต 12.11% ในช่วงปี 2566-2571 ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์อาหารในปัจจุบัน ที่ผู้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจและบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น 

และหากจะพูดถึงร้านอาหารสุขภาพในไทย ‘โอ้กะจู๋’ จากบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่หลายคนนึกถึง เพราะด้วยชื่อแบรนด์ที่แปลก และมีสาขาเยอะ ทำให้หาทานได้ง่าย และเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างมาแรงแห่งยุคแบรนด์หนึ่งเลยทีเดียว

ที่มาที่ไปของโอ้กะจู๋ เริ่มต้นจาก “อู๋-ชลากร เอกชัยพัฒนกุล” กับ “โจ้-จิรายุทธ ภูวพูนพล” สองเพื่อนซี้ชาวเชียงใหม่ที่มีพื้นฐานครบครัวเป็นเกษตรกรและมีความสนใจในเรื่องการปลูกผักแบบผสมผสานเกษตรสมัยใหม่กับวิธีการเกษตรแบบดั้งเดิม จากการที่ได้ไปทัศนศึกษาที่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในสมัยที่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย จนเกิดแรงบันดาลใจที่จะลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรร่วมกัน  

กระทั่งเรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัย ความสนใจและความฝันยังไม่จางหาย ผนวกกับเจอปัญหาเวลาไปซื้อผักที่ตลาดแล้วอยากได้ผักปลอดสารพิษมาทำทานในครอบครัว ซึ่งในสมัยนั้นผู้ผลิตผักปลอดสารในเชียงใหม่นั้นมีน้อยมาก ทำให้ทั้งคู่จับมือมาธุรกิจฟาร์มผักออแกนิกส์กันในปี 2553 บนพื้นที่เพาะปลูกของครอบครัวที่มีขนาด 1 ไร่เศษ ก่อนขยับขยายนำผักที่มีเยอะจนกินจนแจกไม่หมดไปส่งขายในตลาด 

ขายผักจนได้ดี อัพสเกลเปิดร้านอาหาร

แม้รายได้จากการปลูกผักส่งขายจะไม่ได้แย่ แต่ก็ประสบปัญหาคนไม่ค่อยซื้อ เพราะผักที่นำไปขายนั้นมีเศษดินเศษหญ้าที่คนที่รับซื้อบอกว่าดูแลยาก ทำให้ทั้งคู่กลับมาคิดหาทางออก ก่อนที่ในปี 2556 ได้ตกลงปลงใจเปิดเป็นร้านเล็กๆ ขึ้นมาในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ชื่อว่า ‘โอ้กะจู๋’ ที่ผวนคำมาจาก อู๋กับโจ้ ที่เป็นชื่อของทั้งคู่นั่นเอง แม้ชื่ออาจจะดูทะลึ่งตึงตัง แต่ก็ทำให้คนทั่วไปจดจำได้อย่างดี พร้อมกับจัดตั้งบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ขึ้น และก็ได้ “ต้อง-วรเดช สุชัยบุญศิริ” เข้ามาเป็นกำลังเสริมในการทำธุรกิจ 

ซึ่งผลตอบรับที่ได้จากการเปิดร้านนั้นดีมาก จนขยายสาขาเพิ่มเป็นสาขาที่ 2 ในตัวเมืองเชียงใหม่ ย่านนิ่มซิตี้เดลี่ ทำให้ได้รับความนิยมขึ้นไปอีก จนมีลูกค้าจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวกรุงเทพฯ มาใช้บริการบ่อย เกิดเป็นเสียงเรียกร้องให้ โอ้กะจู๋ มาตั้งรกรากเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ บ้าง ทำให้ในปี 2560 โอ้กะจู๋ สาขาสยามสแควร์วัน ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นสาขาที่ 3 นั่นเอง

และในปี 2561 – 2563 เวลาเพียง 3 ปี โอ้กะจู๋ มีสาขาเพิ่มรวมเป็น 13 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงการเปิดร้านในรูปแบบ Delivery เป็นครั้งแรก เนื่องจากเป็นช่วงโควิด-19 ที่มีมาตรการไม่ให้ลูกค้านั่งทานอาหารในร้าน ทำให้โอ้กะจู๋สามารถผ่านวิกฤตในครั้งนั้นมาได้ด้วยดี

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ OR มาซื้อหุ้น

จนในปี 2564 ถือเป็นจุดเปลี่ยนและโอกาสครั้งใหญ่ของโอ้กะจู๋ เพราะ OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นในโอ้กะจู๋กว่า 20% เพราะ OR เองก็ต้องการกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจน้ำมัน ในการลงทุนกับธุรกิจค้าปลีก และไลฟ์สไตล์มากขึ้น 

การได้เข้าไปอยู่ในครอบครัว OR ก็ทำให้โอ้กะจู๋ได้ขยายกิจการเข้าไปเปิดร้านใน PTT Station และมีจำนวนสาขาทั้งหมด 16 สาขา ก่อนที่ในปี 2565 โอ้กะจู๋ได้ขยายธุรกิจโดยการพัฒนาสินค้าเพื่อนำเข้าไปจัดจำหน่ายใน Cafe Amazon อีก 7 สาขา รวมเป็น 23 สาขา 

และในปี 2566 ขยายร้านไปยังภาคตะวันออกในพัทยา ชลบุรี และระยอง ทำให้มีสาขาในประเทศรวมกันทั้งหมด 33 สาขา พร้อมตั้งเป้าขยายสาขาไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามจังหวัดและหัวเมืองที่สำคัญ ภายในปี 2567 และตั้งเป้าให้โอ้กะจู๋มีสาขาครบ 67 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2571 

และหากมาดูรายได้รวมและกำไรสุทธิของบริษัทคร่าวๆ 5 ปีย้อนหลัง โดย

  • ปี 2562 รายได้ 643,046,569 บาท มีกำไรสุทธิ 79,831,262 บาท
  • ปี 2563 รายได้ 836,802,908 บาท มีกำไรสุทธิ 33,088,223 บาท
  • ปี 2564 รายได้ 803,016,024 บาท มีกำไรสุทธิ -83,379,787 บาท
  • ปี 2565 รายได้ 1,214,905,550 บาท มีกำไรสุทธิ 38,317,764 บาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,716,847,079 บาท มีกำไรสุทธิ 140,647,983 บาท

ปัจจุบันรายได้หลักมาจากธุรกิจร้านโอ้กะจู๋กว่า 98% โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อครั้งอยู่ที่ 450 บาท โดยเป็นรายได้ที่มาจากฐานสมาชิกของร้านกว่า 25% จากปี 2566 ที่มีฐานสมาชิก 20% เฉลี่ยยอดใช้จ่ายต่อคนต่อปีอยู่ที่ 13,000 บาท 

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,110.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 778.0 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 102.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 73.9 ล้านบาท 

นอกจากนั้น โอ้กะจู๋ ยังมีการแตกแบรนด์ออกมาเพิ่มอีก 2 แบรนด์ในปีนี้ คือ Ohkajhu Wrap & Roll ธุรกิจอาหารพร้อมทาน (Grab&Go) ที่มีอยู่ด้วยกัน 1 สาขาถ้วน และ Oh! Juice ธุรกิจน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ ที่มีถึง 6 สาขา เรียกได้ว่าบริษัทฯ มีอัตราการขยายตัวของธุรกิจค่อนข้างไว

ตลาดเชนร้านสลัดในไทยก็ร้อนระอุไม่แพ้ตลาดอื่นๆ เพราะด้วยเทรนด์ดูแลสุขภาพ คนไทยนิยมทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น ทำให้แบรนด์สลัดเป็นที่นิยม โดยที่มีผู้เล่นใหญ่อีก 2 รายด้วยกัน อย่าง โจนส์สลัด (บริษัท โจนส์สลัด จำกัด) ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2556 ปัจจุบันมี 34 สาขา และมีการแตกแบรนด์เพิ่ม 2 แบรนด์คือ ผงสลัดชงดื่ม และ สมุนตุ๋น ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ที่มีอยู่ด้วยกัน 1 สาขา และ สลัด แฟคตอรี่ (บริษัท กรีน ฟู้ด แฟคทอรี่ จำกัด) ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2556 ปัจจุบันมีสาขาอยู่ 38 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมถึงมีการแตกไลน์แบรนด์ ชาดา เครื่องดื่มสมุนไพรจากใบเชียงดา มาเพิ่มเติม

สยายปีกเข้าตลาดฯ รองรับการเติบโต

จุดแข็งของโอ้กะจู๋ คือการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงการพัฒนาสูตรอาหาร และเครื่องดื่ม โดยร่วมกับฝ่ายการตลาดที่ศึกษาพฤติกรรม ความต้องการ และกระแสนิยมของผู้บริโภค ทำให้บริษัทฯ สามารถออกเมนูใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่หลากหลาย และแตกต่างจากอาหารเพื่อสุขภาพทั่วไป และแม้จะส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม และยอดขายจากสาขาที่เปิดเพิ่มเติม 

แต่บริษัทฯ ก็ยังมีความต้องการในการขยายขีดจำกัดในการเติบโต ทำให้ล่าสุด ประกาศตัวว่ากำลังจะ IPO หรือพาบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด เข้าตลาดหลักทรัพย์ กลายเป็นบริษัทมหาชน กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปที่ราคา 6.70 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) 24.13 เท่า

ซึ่งเมื่อพิจารณาผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง ราคา 6.70 บาทต่อหุ้น ก็ถือเป็นราคาที่เหมาะสมที่สะท้อนพื้นฐานและศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ โดยเตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 23 – 25 กันยายน 2567 โดยคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนและซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือนตุลาคมนี้ 

โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ไปใช้ขยายสาขา สร้างครัวกลางแห่งใหม่ เพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และต่อยอดการเป็นพันธมิตรกับ OR ก็ได้ส่งบริษัทลูกอย่าง บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด (Modulus) มาทำสัญญาซื้อขายหุ้น เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นที่ 20% เอาไว้ และคาดว่า ผู้บริโภคอาจจะได้เห็นความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เหมาะสม และตรงกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อวางจำหน่ายในร้าน Café Amazon ต่อไปในอนาคต

]]>
1491105
Bloomberg รายงาน ‘สยามพิวรรธน์’ อาจเข้า IPO ก่อนสิ้นปีนี้ คาดระดมทุนสูงสุดถึง 27,000 ล้านบาท https://positioningmag.com/1467100 Thu, 21 Mar 2024 08:13:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1467100 สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวว่า ‘สยามพิวรรธน์’ เจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังของไทย อาจเข้า IPO ในตลาดหุ้นไทยก่อนสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าจะระดมทุนมากถึง 27,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า สยามพิวรรธน์ เจ้าของห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร ได้เตรียมที่จะ IPO เข้าตลาดหุ้นไทยภายในช่วงสิ้นปี 2024 นี้ หลังจากที่บริษัทได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินในประเทศไทยเมื่อช่วงไตรมาส 3 ของปี 2023 ที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวล่าสุดนั้น แหล่งข่าวของ Bloomberg รายงานข่าวว่า สยามพิวรรธน์ ได้ติดต่อสถาบันการเงินต่างประเทศหลายแห่งให้ยื่นข้อเสนอในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน หรือแม้แต่เป็นผู้รับประกันการจัดจำหน่าย เพื่อที่จะเข้า IPO ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงก่อนสิ้นปีนี้

ขณะที่ยอดการระดมทุนนั้นแหล่งข่าวรายดังกล่าวยังคาดว่าจะอยู่ที่ 500-750 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยสูง  สุดราวๆ 27,000 ล้านบาท

สาเหตุที่ทำให้สยามพิวรรธน์เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ฟื้นตัวหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด นอกจากนี้แผนการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยยังทำให้บริษัทสามารถนำเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นนำไปต่อยอดในโครงการในประเทศไทย หรือแม้แต่ต่างประเทศได้ในภายหลัง

ถ้าหากบริษัทสามารถระดมทุนในตลาดหุ้นไทยได้สำเร็จ จะทำให้เป็นการระดมทุนที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย นับตั้งแต่ บมจ. ไทยประกันชีวิต เข้า IPO ในตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา

ปัจจุบันสยามพิวรรธน์ เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังในกรุงเทพมหานคร เช่น Siam Discovery Siam Center Siam Paragon รวมถึง Icon Siam นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

ในช่วงเดือนกันยายนของปี 2023 ที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ ได้แต่งตั้งบริษัท หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อช่วยปรับโครงสร้างและวางแผนทางการเงิน รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ในอนาคตมาแล้ว

]]>
1467100
Shein สนใจ IPO ในตลาดหุ้นลอนดอน สิงคโปร์ หรือฮ่องกง แทนที่สหรัฐฯ เนื่องจากมีโอกาสโดนขวางสูง https://positioningmag.com/1464148 Wed, 28 Feb 2024 03:44:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1464148 Shein แบรนด์เสื้อผ้า Fast Fashion จากประเทศจีนสนใจที่จะ IPO เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยเปลี่ยนเป้าจากเดิมในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมแผนสำรองในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ รวมถึงฮ่องกงด้วย

Shein แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นชื่อดังจากจีน สนใจที่จะเข้า IPO เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยเปลี่ยนเป้าจากเดิมในสหรัฐอเมริกา และถ้าหากแผนดังกล่าวเกิดขึ้นจริงคาดว่าจะเป็นดีลการระดมทุนที่ใหญ่ที่สุดของเกาะอังกฤษในรอบเกือบ 20 ปี

คาดว่า Shein จะระดมทุนมากถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ดีลการระดมทุนดังกล่าวใหญ่ที่สุดของเกาะอังกฤษนับตั้งแต่ปี 2005 ที่บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียอย่าง Rosneft เคยระดมทุน

สำหรับ Shein นั้นก่อตั้งโดย Chris Xu ในปี 2012 ปัจจุบันธุรกิจฟาสต์แฟชั่นจากประเทศจีนรายนี้คาดว่ามีมูลค่าสูงมากถึง 66,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 2.3 ล้านล้านบาท โดยธุรกิจนั้นเน้นขายเสื้อผ้า Fast Fashion เน้นราคาถูก ซึ่งสามารถเจาะตลาดในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาได้

ในปี 2023 ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนมีมูลค่าการระดมทุนเพียงแค่ 790 ล้านปอนด์เท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปีด้วย การที่ Shein สนใจเข้าระดมทุนนั้นทำให้สร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นอีกทาง

นอกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนแล้ว Shein เองยังดูตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ หรือแม้แต่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เป็นทางเลือกด้วย

สาเหตุที่ทำให้ Shein เลือกตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนเป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หรือ Nasdaq เองนั้นมีโอกาสที่จะโดนขวาง แม้ว่าบริษัทจะยื่นไฟลิ่งแล้วก็ตาม แต่นักการเมืองสหรัฐฯ หลายรายได้พยายามขวางบริษัทไม่ให้เข้า IPO เนื่องจากมีข้อกล่าวหาว่าบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์

ไม่เพียงแค่ข้อกล่าวหาในการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ แต่ Shein ยังมีข้อกล่าวหาที่ว่าละเมิดลิขสิทธิ์แบรนด์อื่นๆ และบริษัทได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวทั้งหมด

ขณะเดียวกัน Donald Tang ซึ่งเป็นประธานบริษัท ได้เข้าพูดคุยกับ Jeremy Hunt รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษ ว่าบริษัทสนใจที่จะเข้าระดมทุนในเกาะอังกฤษ

อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงการคลังของอังกฤษ ได้กล่าวว่า “รัฐบาลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่เป็นเพียงแต่ละบริษัทเท่านั้นที่จะตัดสินใจว่าจะนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นที่ไหน” และยังกล่าวเสริมว่าอังกฤษนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์ให้บริษัทต่างๆ เข้ามาระดมทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น

ที่มา – Bloomberg, The Guardian, Business Insider

]]>
1464148
Shein ยื่นไฟลิ่งขอ IPO ในสหรัฐอเมริกาแล้ว คาดมูลค่าบริษัทอาจสูงถึง 2.3 ล้านล้านบาท https://positioningmag.com/1453720 Tue, 28 Nov 2023 09:11:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1453720 Shein แบรนด์เสื้อผ้า Fast Fashion จากประเทศจีนได้แจ้งว่าบริษัทได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อขอเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาแบบลับ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่ามูลค่าบริษัทล่าสุดจะสูงถึง 2.3 ล้านล้านบาท

Shein แบรนด์เสื้อผ้าจากจีนได้ประกาศว่าได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อที่จะขอเข้าระดมทุน (IPO) ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากสื่อในประเทศจีนอย่าง Shanghai Securities Journal รวมถึงสื่อต่างประเทศอย่าง Reuters และ CNBC รายงานข่าวดังกล่าว

ทาง CNBC ได้อ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ว่า ถ้าหากไฟลิ่งของ Shein ได้รับไฟเขียวจาก ก.ล.ต. ของสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้จะมีการระดมทุนต่อ โดยคาดว่าระยะเวลาจะอยู่ภายในปี 2024 และบริษัทได้ที่ปรึกษาทางการเงินหลายแห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา Shein มีแผนที่จะ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มาแล้ว แต่ได้เลื่อนออกไปเนื่องจากสภาวะตลาด

สำหรับ Shein นั้นก่อตั้งโดย Chris Xu ในปี 2012 ปัจจุบันธุรกิจฟาสต์แฟชั่นจากประเทศจีนรายนี้คาดว่ามีมูลค่าสูงมากถึง 66,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 2.3 ล้านล้านบาท โดยธุรกิจนั้นเน้นขายเสื้อผ้า Fast Fashion เน้นราคาถูก ซึ่งสามารถเจาะตลาดในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาได้

ในเดือนเมษายนปี 2022 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับเงินลงทุนก้อนใหญ่มากถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้มูลค่าของบริษัทพุ่งทะยานไปถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่มูลค่าบริษัทจะลดลงตามสภาวะตลาดและเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่สดใสมากนัก

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2022 ที่ผ่านมานั้นบริษัทมีรายได้ 22,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่ารายได้ของแบรนด์ Fast Fashion ในยุโรปอย่าง H&M รวมถึง Inditex ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ดังอย่าง Zara รวมกันด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ดีแบรนด์จากจีนรายดังกล่าวยังมีข้อกล่าวหาที่ว่าละเมิดลิขสิทธิ์แบรนด์อื่นๆ หรือแม้แต่แต่การใช้ฝ้ายจากแรงงานชาวอุยกูร์ซึ่งท้ายที่สุดบริษัทได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวทั้งหมด

การเข้ามาระดมทุนในสหรัฐอเมริกานั้นถือว่าท้าทายไม่น้อย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาปริมาณการ IPO ในตลาดสหรัฐฯ ลดลง และยังรวมถึงผลตอบแทนของหุ้นที่เข้าตลาดนั้นสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ขณะเดียวกันก็ยังวัดใจว่าหน่วยงานกำกับดูแลทั้งในจีนหรือสหรัฐฯ​ จะไฟเขียวให้บริษัทจีนรายนี้เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หรือไม่ เนื่องจากความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศ

ที่มา – Reuters, CNBC

]]>
1453720
Bloomberg รายงาน Line Man Wongnai เตรียม IPO ปีหน้า ระดมทุนเกือบ 11,000 ล้านบาท https://positioningmag.com/1445676 Wed, 27 Sep 2023 04:51:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445676 สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนว่า Line Man Wongnai อาจเข้าระดมทุนในปีหน้า ไวกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ในปี 2025 ล่าสุดบริษัทกำลังหาวาณิชธนกิจจากต่างประเทศ เพื่อช่วยในการระดมทุนเพิ่มเติมด้วย

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Line Man Wongnai บริการส่งอาหารรายใหญ่ของไทย ได้เตรียม IPO เข้าตลาดหุ้นไทยในปีหน้า (2024) และจะระดมทุนมากถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 11,000 ล้านบาท

ความเคลื่อนไหวของแหล่งข่าวดังกล่าวได้กล่าวว่า Line Man Wongnai ได้ที่ปรึกษาทางการเงินในไทยประกอบไปด้วยธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ขณะเดียวกันก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการหาวาณิชธนกิจจากต่างประเทศ เพื่อช่วยในการระดมทุนจากนักลงทุนสถาบันที่อยู่ในต่างประเทศ

สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าว Reuters ที่ได้สัมภาษณ์ ชอง อิน ยัง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LINE MAN Wongnai ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว 

ถ้าหากอ้างอิงเม็ดเงินในการระดมทุนแล้ว Line Man Wongnai อาจติด 1 ใน 10 ของการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยในรอบหลายปี และอาจสร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นไทย เนื่องจากมีบริษัทแพลตฟอร์มเข้ามาระดมทุน

ก่อนหน้านี้ไม่นาน Line Man Wongnai ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการ Rabbit LINE Pay ร่วมกับ LINE ซึ่งดีลดังกล่าวถือเป็นดีลในการซื้อกิจการต่อจากการซื้อกิจการ Food Story สตาร์ทอัพไทยผู้พัฒนาระบบ POS (Point of Sale)

อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวของสำนักข่าวดังกล่าวได้กล่าวว่า ดีลดังกล่าวยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น เม็ดเงินในการระดมทุน รวมถึงระยะเวลาในการเข้าตลาดอาจเปลี่ยนแปลงไปได้ ขณะที่ตัวแทนของบริษัทได้กล่าวกับ Bloomberg ว่าบริษัทมีแผนที่จะ IPO ในปี 2025 แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ แต่อย่างใด

]]>
1445676
Reuters รายงาน LINE MAN Wongnai ตั้งเป้า IPO ภายในปี 2025 และอาจระดมทุนในตลาดหุ้นอื่นด้วย https://positioningmag.com/1443167 Fri, 01 Sep 2023 05:33:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1443167 สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า LINE MAN Wongnai ตั้งเป้า IPO ภายในปี 2025 และอาจระดมทุนในตลาดหุ้นอื่นด้วย ซึ่งล่าสุดบริษัทได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว และอาจเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ถ้าหากมีนักลงทุนสนใจมากพอ

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าว โดยอ้างอิงจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารของ LINE MAN Wongnai ว่าผู้ให้บริการส่งอาหารรายใหญ่ของไทยรายนี้เตรียม IPO ภายในปี 2025 และอาจระดมทุนในตลาดหุ้นอื่นๆ ถ้าหากนักลงทุนสนใจ

สื่อรายดังกล่าวได้สัมภาษณ์ ชอง อิน ยัง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LINE MAN Wongnai โดยล่าสุดบริษัทได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว และตั้งเป้า IPO ภายในปี 2025 คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงพิจารณาเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นอื่นเช่น สหรัฐอเมริกา ถ้าหากนักลงทุนสนใจจำนวนมากพอ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตามมาหลังจากที่บริษัทได้ซื้อกิจการ FoodStory รวมถึง Rabbit Line Pay

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม ยอด ชินสุภัคกุล CEO ของ LINE MAN Wongnai ได้กล่าวว่า แพลตฟอร์มยังไม่ถึงจุดคืนทุน แต่ปัจจุบันถือว่าอยู่ไม่ไกลซึ่งเป็นไปได้ที่จะคืนทุนได้ภายในปี 2023 นี้ ซึ่งส่วนที่ขาดทุนอยู่คือ Food Delivery และในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าบริษัทจะทำ IPO

อย่างไรก็ดีในรายงาน Reuters ได้ชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยมีกฎเกณฑ์ด้านภาษีที่เอื้ออำนวย แต่ความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นไทยนั้นได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงความผันผวนของตลาด ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทที่คาดว่าจะ IPO ไม่ว่าจะเป็น BigC รวมถึง SCG Chemical ต่างชะลอการ IPO ในตลาดหุ้นไทยไปก่อน เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย

]]>
1443167
บริษัทชานมไข่มุกในจีน 6 เจ้าใหญ่มีแผนที่จะ IPO ในตลาดหุ้น ระดมทุนเพื่อขยายสาขาทั้งในและนอกประเทศ https://positioningmag.com/1438806 Tue, 25 Jul 2023 09:46:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1438806 บริษัทชานมไข่มุก 6 เจ้าใหญ่ในจีนเตรียมที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยคาดว่าจะระดมทุนเพื่อนำไปขยายสาขาทั้งในประเทศและนอกประเทศจีน ซึ่งตลาดหุ้นที่บริษัทเหล่านี้จะเข้าไปนั้นมีทั้งฮ่องกงและสหรัฐอเมริกา

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า 6 บริษัทชานมไข่มุกในประเทศจีน ซึ่งบางรายมีสาขาในประเทศไทยด้วยนั้น เตรียมที่จะเข้า IPO เพื่อระดมทุนในตลาดหุ้น โดยตลาดหุ้นที่เข้าระดมทุนนั้นมีทั้งในสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ในฮ่องกง

บริษัทชานมไข่มุกเริ่มระดมทุนดังกล่าวนี้เนื่องจากในช่วงเวลานี้ทางการจีนมีมุมมองที่ผ่อนคลายเกี่ยวกับการที่บริษัทจีนไประดมทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ต้องการขยายสาขาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานกำกับดูแลของจีนห้ามไม่ให้บริษัทประเภทนี้เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นภายในประเทศจีน

โดยบริษัทชานมไข่มุกที่เตรียม IPO ได้แก่

  • Mixue มีสาขาทั้งสิ้น 28,000 สาขา รวมถึงที่ไทยด้วย ยังไม่ทราบว่าจะ IPO ที่ไหน
  • GoodMe มีสาขาทั้งสิ้น 6,700 สาขา โดยที่จะ IPO ในฮ่องกง
  • ChaBaiDao มีสาขาทั้งสิ้น 6,000 สาขา โดยที่จะ IPO ในฮ่องกง
  • Auntea Jenny มีสาขาทั้งสิ้น 6,000 สาขา โดยที่จะ IPO ในฮ่องกง
  • Chagee มีสาขาทั้งสิ้น 1,860 สาขา รวมถึงที่ไทยด้วย โดยที่จะ IPO ในสหรัฐอเมริกา
  • XSQ Tea Chagee มีสาขาทั้งสิ้น 1,600 สาขา โดยที่จะ IPO ในฮ่องกง

หลายบริษัทในรายงานของ Bloomberg ได้เริ่มว่าจ้างสถาบันการเงินต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น Citi และ Goldman Sachs หรือแม้แต่ Bank of Americai ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงวาณิชธนกิจในประเทศจีนอย่าง CICC ฯลฯ ให้ช่วยเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุน

เป้าหมายของการระดมทุนของบริษัทชานมไข่มุกในจีนนั้นต้องการนำเม็ดเงินที่ได้ไปขยายสาขาต่อทั้งในและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะระดมทุนในช่วง 300-500 ล้านเหรียญสหรัฐ ยกเว้น Mixue ที่มีข่าวลือในปี 2021 ว่าอาจระดมทุนมากกว่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็ได้พับแผนลงไป

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้มีบริษัทชานมไข่มุกในจีนอย่าง Nayuki ได้เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมา แต่ราคาของหุ้นนั้นตกลงมามากกว่า 70% หลังจากเข้า IPO แสดงให้เห็นถึงการแข็งขันของตลาดชานมไข่มุกจีนที่ถือว่าสูงจนทำให้หลายรายต้องออกมาขยายสาขานอกประเทศจีนด้วย

]]>
1438806
แบรนด์รองเท้าชื่อดัง Birkenstock อาจ IPO เข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ คาดมูลค่ากิจการอาจสูงถึง 2.2 แสนล้านบาท https://positioningmag.com/1437187 Mon, 10 Jul 2023 05:20:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1437187 แบรนด์รองเท้าแตะชื่อดังอย่าง Birkenstock กำลังอาจเข้า IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ​ ในช่วงปี 2024 หลังจากที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของแบรนด์ดังกล่าวได้ร่วมมือกับที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ในขณะนี้ คาดว่ามูลค่ากิจการอาจสูงได้ถึง 220,000 ล้านบาท

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า L Catterton ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนในบริษัทนอกตลาดหุ้น ได้พิจารณาที่จะนำกิจการผู้ผลิตรองเท้าชื่อดังอย่าง Birkenstock เข้าระดมทุน (IPO) ในตลาดหุ้น โดยคาดว่ามูลค่ากิจการอาจสูงถึง 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 210,960 ล้านบาท

L Catterton ได้เริ่มทำงานร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Goldman Sachs รวมถึง JPMorgan ในการเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น ซึ่งแหล่งข่าวของสื่อธุรกิจรายนี้คาดว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะอยู่ภายในช่วงปีหน้า (ปี 2024)

ในปี 2021 ทาง L Catterton ได้ซื้อหุ้นของกิจการ Birkenstock บางส่วนจากตระกูลผู้ก่อตั้งโดยไม่เปิดเผยมูลค่าของธุรกรรม แต่สื่อธุรกิจอย่าง Bloomberg คาดว่ามูลค่ากิจการในช่วงนั้นสูงถึง 4,900 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทลงทุนในบริษันนอกตลาดหุ้น L Catterton นั้นก่อตั้งในปี 2016 ซึ่งหนึ่งในเจ้าของร่วมคือ LVMH ผู้ผลิตสินค้าหรูแบรนด์เนมหลายยี่ห้อ โดยร่วมทุนกับ Catterton โดยกิจการของ L Catterton ลงทุนในหลายกิจการ เช่น กิจการร้านอาหารหรูอย่าง CÉ LA VI กิจการฟิตเนสในประเทศจีน Will’s Group ไปจนถึง Boll & Branch ผู้ผลิตสินค้าตกแต่งบ้าน

สำหรับ Birkenstock เป็นแบรนด์เก่าแก่เกือบ 250 ปี ซึ่งสินค้าที่รู้จักกันดีก็คือรองเท้าแตะที่ได้รับความนิยม รวมถึงความทนทานของสินค้า และในช่วงยุคต่อมาแบรนด์รองเท้ารายนี้ได้รับความนิยมจากคนมีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นดาราอย่าง Leonardo Di Caprio นางแบบชื่อดังอย่าง Heidi Klum หรือแม้แต่ Steve Jobs ก็ใส่รองเท้าแบรนด์นี้มาเป็นเวลาหลายสิบปี

แบรนด์ผู้ผลิตรองเท้าแตะรายนี้ยังเคยจับมือร่วมกับแบรนด์ระดับไฮเอนด์ไม่ว่าจะเป็น Dior หรือ Valentino มาแล้ว โดยสินค้าที่ Birkenstock ร่วมมือกับแบรนด์หรูบางแบรนด์นั้นมีราคาสูงถึง 1,280 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 45,000 บาท

]]>
1437187
Bloomberg รายงาน Alibaba พิจารณาเตรียมนำ Lazada และ Aliexpress เข้า IPO ในช่วงปีหน้า https://positioningmag.com/1429557 Thu, 04 May 2023 12:51:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1429557 ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากจีนอย่าง Alibaba มีข่าวว่าเตรียมที่จะนำธุรกิจ E-commerce ในต่างประเทศ ที่นำโดย Aliexpress และ Lazada เข้า IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะเข้าตลาดหุ้นในช่วงปีหน้า หลังจากที่บริษัทได้ประกาศแยกธุรกิจออกมาเป็น 6 หน่วยธุรกิจไม่นานมานี้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Alibaba บริษัทเทคโนโลยีจากจีน เตรียมนำธุรกิจ E-commerce ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Aliexpress และ Lazada ฯลฯ เข้าระดมทุนในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าช่วงเวลา IPO นั้นจะอยู่ในช่วงปีหน้า

แผนการดังกล่าวของ Alibaba นั้นตามมาหลังจากที่บริษัทได้ประกาศแยกธุรกิจออกมาเป็น 6 หน่วยธุรกิจด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนส่ง ธุรกิจ E-commerce ทั้งในจีนและนอกประเทศจีน ธุรกิจความบันเทิง ฯลฯ และธุรกิจดังกล่าวนี้จะมีทีมและบอร์ดผู้บริหารเป็นของตัวเอง

ธุรกิจ E-commerce ในต่างประเทศของ Alibaba นั้นนักวิเคราะห์ต่างให้มูลค่าธุรกิจแตกต่างกันไป โดยนักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley คาดว่ามูลค่ากิจการจะอยู่ที่ 29,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์จาก CICC วาณิชธนกิจในจีนคาดว่ามูลค่ากิจการจะอยู่ที่ 39,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ Alibaba เองมีแผนที่นำธุรกิจอย่าง Lazada เข้า IPO มาแล้ว แต่ก็ได้พับแผนดังกล่าวไป รวมถึงมีแผนการระดมทุนเพิ่มเติมแต่ก็พับแผนไปเช่นกัน

ข้อมูลจาก Bloomberg ได้วิเคราะห์ว่ารายได้ของธุรกิจ E-commerce ในต่างประเทศของ Alibaba ในปี 2022 อยู่ที่ 9,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 7.2% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท

อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวรายดังกล่าวได้ชี้ว่าขั้นตอนดังกล่าวอยู่ในการพิจารณาขั้นต้นเท่านั้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และตัวแทนของธุรกิจ E-commerce ในต่างประเทศของ Alibaba ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวว่าบริษัทยังไม่มีแผน IPO แต่อย่างใด

]]>
1429557
ซีพีเอฟเตรียม IPO ธุรกิจอาหารภายใต้ชื่อ CPFGS หลังยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดฯ เรียบร้อย https://positioningmag.com/1427270 Wed, 12 Apr 2023 04:36:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1427270 บมจ. ซีพีเอฟ โกลบอลฟู้ด โซลูชั่น หรือ CPFGS บริษัทย่อยของกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อ IPO โดยจะนำหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 30% ออกจำหน่ายให้กับนักลงทุนที่สนใจ

บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ได้แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทย่อย บมจ. ซีพีเอฟ โกลบอลฟู้ด โซลูชั่น ได้ยื่นไฟลิ่งกับ ก.ล.ต. เพื่อที่จะนำ ซีพีเอฟ โกลบอลฟู้ด โซลูชั่น เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะนำหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 30% ออกจำหน่ายให้กับประชาชนครั้งแรก

สำหรับธุรกิจของ CPFGS นั้นเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของ CPF ภายในประเทศไทยและจำหน่ายไปยังต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Distributor And Exporter) สำหรับผลิตภัณฑ์จากฐานการผลิตของ CPF ในประเทศไทย และบริษัทยังมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่จัดหาจากภายนอกให้กับผู้บริโภคทั่วไป รวมถึงลูกค้าเชิงพาณิชย์ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง (HoReCa) 

แบรนด์สินค้าที่ CPFGS จัดจำหน่ายอยู่ เช่น CP Butcher BKP Super Chef  Meat Zero เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทยังมีธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยภายใต้กิจการห้าดาวและกิจการร้านอาหารเชสเตอร์ ศูนย์อาหารฟู้ดเวิลด์ รวมถึงธุรกิจขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ Jerhigh และ Jinny

สำหรับผลประกอบการในปี 2022 ที่ผ่านมา CPFGS มีรายได้รวมทั้งสิ้น 170,830 ล้านบาท และมีกำไรสำหรับปีจำนวน 6,173 ล้านบาท

]]>
1427270