SoftBank – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 16 May 2024 14:14:47 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 SoftBank พัฒนาระบบ AI ช่วย Call Center รับสาย ‘ลูกค้าอารมณ์เสีย’ บริษัทเชื่อว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย https://positioningmag.com/1473948 Thu, 16 May 2024 13:32:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1473948 Call Center ที่ว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ต้องแบกความเครียดไม่น้อย โดยเฉพาะปัญหาสำคัญอย่างการรับสายลูกค้าที่หงุดหงิดและอารมณ์เสีย แต่ล่าสุดในประเทศญี่ปุ่น บริษัทอย่าง SoftBank กำลังพัฒนา AI เพื่อที่จะรับมือกับปัญหานี้แล้ว

SoftBank บริษัทโทรคมนาคมในญี่ปุ่น กำลังอยู่ในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อที่จะแก้ปัญหาให้กับพนักงาน Call Center ซึ่งแบกรับความเครียดจากการรับสายลูกค้าที่หงุดหงิดและอารมณ์เสีย และมีการทดสอบเทคโนโลยีดังกล่าวภายในบริษัทแล้ว

บริษัทได้กล่าวว่า “กำลังพัฒนาโซลูชันที่สามารถเปลี่ยนเสียงของลูกค้าให้เป็นน้ำเสียงสนทนาที่สงบ และส่งมอบให้กับพนักงานของเราโดยใช้เทคโนโลยีการจดจำอารมณ์และการประมวลผลเสียงจากการใช้ AI”

SoftBank ยังเชื่อว่าด้วยการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้จะทำให้บริษัทสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้ขณะเดียวกัน Call Center ของบริษัทเองก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีบริการสำหรับลูกค้าในด้านต่างๆ ในระดับดีมาก แต่ในช่วงที่ผ่านมาผู้ให้บริการลูกค้าทั้งทางตรงหรือแม้แต่ผ่าน Call Center เริ่มเพิ่มมากขึ้นจากตัวของลูกค้าเอง ทำให้หลายบริษัทเริ่มหันมาใส่ใจกับพนักงานเพิ่มมากขึ้น

UA Zensen ได้สำรวจพนักงานจากสหภาพแรงงานมากถึง 3,000 รายพบว่าพนักงานถูกกระทำจากลูกค้าไม่ดีเพิ่มจำนวนมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการพูดจา ไปจนถึงพฤติกรรมที่ไม่ดี และมีพนักงานต้องถึงกับรับการปรึกษาด้านจิตเวชจากเรื่องเหล่านี้มาแล้ว

โดยบริษัทกำลังทดสอบ AI ดังกล่าวเป็นการภายในและจะนำมาใช้อย่างเป็นทางการในปี 2025 และจะนำระบบดังกล่าวไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2026 ซึ่งตรงปรัชญาหนึ่งของ SoftBank ที่ลงไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทเชื่อว่าการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาจะสร้างความสุขให้กับทุกคน

ที่มา – Reuters, Business Insider

]]>
1473948
เขากลับมาแล้ว! Masayoshi Son เตรียมตั้งกองทุนเกี่ยวกับชิปด้าน AI มูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ https://positioningmag.com/1463264 Tue, 20 Feb 2024 03:24:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1463264 Masayoshi Son ซึ่งเป็น CEO ของ SoftBank เตรียมตั้งกองทุนเกี่ยวกับชิปด้าน AI มูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยเน้นลงทุนในบริษัทชิปที่เกี่ยวข้องกับด้าน AI โดยเฉพาะ และขอเป็นผู้ท้าชิงในอุตสาหกรรมดังกล่าวกับ Nvidia ซึ่งครองตลาดชิปเร่งการประมวลผล AI อยู่ในเวลานี้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Masayoshi Son ซึ่งเป็น CEO ของ SoftBank เตรียมที่จะจัดตั้งกองทุนเพื่อที่จะลงทุนในด้านการผลิตชิปสำหรับเร่งการประมวลผลด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะ คาดว่าขนาดของกองทุนนั้นจะใหญ่มากถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 3.6 ล้านล้านบาท

โครงการดังกล่าวมีชื่อเรียกภายในบริษัทว่า Izanagi โดยกองทุนดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้ ARM บริษัทออกแบบชิปที่ SoftBank เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สามารถที่จะเป็นผู้ท้าชิงในอุตสาหกรรมดังกล่าวกับ Nvidia ซึ่งครองตลาดชิปเร่งการประมวลผล AI อยู่ในเวลานี้

สำหรับการจัดตั้งกองทุนนั้นคาดว่าเม็ดเงินราวๆ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะมาจาก SoftBank ซึ่งมีเม็ดเงินเหลือเฝืออยู่ในบริษัทอยู่แล้ว ขณะที่ 70,000 ล้านเหรียญคาดว่าจะมาจากนักลงทุนในตะวันออกกลาง

ถ้าหาก SoftBank ตั้งกองทุนได้สำเร็จก็จะกลายเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทด้าน AI กองทุนใหญ่กองหนึ่งของโลก ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทประสบความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุนขนาดยักษ์อย่าง SoftBank Vision Fund ที่ลงทุนในสตาร์ทอัพมาแล้ว

ความต้องการในการผลิตชิปเร่งการประมวลผล AI เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นทั้งบริษัทในสหรัฐอเมริกาอย่าง OpenAI เองก็มีแผนที่จะระดมทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิป หรือแม้แต่บริษัทจีนอย่าง Huawei เองก็ต้องให้ความสำคัญกับการผลิตชิปสำหรับ AI ก่อนด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้ CEO ของ SoftBank มีความสนใจในเรื่องของ AI อย่างมาก และมีการพูดคุยกับ CEO ของ OpenAI อย่าง Sam Altman บ่อยครั้ง นอกจากนี้เขายังเคยกล่าวเรื่องเทคโนโลยี AI กับชาวญี่ปุ่นว่า “จะนำมันมาใช้หรือถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกครั้ง” มาแล้ว

]]>
1463264
CEO ของ SoftBank กล่าวกับชาวญี่ปุ่นเรื่องของ AI “จะนำมันมาใช้หรือถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกครั้ง” https://positioningmag.com/1446632 Sun, 08 Oct 2023 09:45:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1446632 Masayoshi Son ผู้บริหารสูงสุดของ SoftBank ได้กล่าวกับชาวญี่ปุ่นว่าควรจะนำ AI เข้ามาใช้งานและยอมรับมัน และชาวญี่ปุ่นไม่ควรทำซ้ำความผิดพลาดในอดีต นอกจากนี้เขายังมองว่า AI จะมีความสามารถมากกว่ามนุษย์ภายใน 10 ปีนี้ได้

Masayoshi Son ซึ่งเป็น CEO ของ SoftBank บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของญี่ปุ่น รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งกองทุนที่ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Vision Fund ได้กล่าวกับลูกค้าชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ผู้บริหาร หรือแม้แต่ผู้ประกอบการว่า AI กำลังจะเข้ามามีส่วนในชีวิตประจำวัน โดยเปรียบเหมือนเป็นการปฏิวัติโดย AI

CEO รายดังกล่าวได้กล่าวกับชาวญี่ปุ่นในงาน SoftBank World ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานเป็นบริษัทญี่ปุ่นซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตัวเขาเองไม่ค่อยได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทที่ได้รับผลจากการขาดทุนของ Vision Fund ในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงต้องการผลักดัน IPO ของบริษัทออกแบบชิปอย่าง ARM เข้าตลาดให้สำเร็จ

เขากล่าวว่า “ชาวญี่ปุ่นตื่นได้แล้ว ผมอยากยืนเคียงข้างวิวัฒนาการ ผมไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” เขาได้กล่าวเสริมว่าชาวญี่ปุ่นไม่ควรทำซ้ำความผิดพลาดในอดีต โดยเฉพาะยุคอินเทอร์เน็ต ซึ่งหลายบริษัทได้ต่อต้าน เนื่องจากกลัวว่าข้อมูลจะรั่วไหลและความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

หัวเรือใหญ่ของ SoftBank เชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ทั่วไปจะเหนือกว่าปัญญาของมนุษย์ในเกือบทุกด้านนั้นจะเกิดขึ้นได้จริงภายใน 10 ปี โดยเขากล่าวว่าเขาเห็นความสามารถของมันเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาอย่างมาก และในบางด้านนั้นความสามารถของ AI ได้เหนือกว่ามนุษย์ไปแล้ว

CEO ของ SoftBank ยังได้เรียกร้องให้บริษัทญี่ปุ่นนำ AI มาใช้งาน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทญี่ปุ่นได้สั่งแบนหรือกำลังพิจารณาที่จะแบนการใช้งาน โดยเฉพาะ Generative AI เช่น ChatGPT ฯลฯ ที่กำลังเข้ามามีส่วนในชีวิตประจำวันมากขึ้น เนื่องจากความสามารถของมัน เพราะไม่งั้นแล้วญี่ปุ่นก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ SoftBank ได้จับมือกับ OpenAI เพื่อให้บริการแชทบอท AI สำหรับภาคธุรกิจในญี่ปุ่นที่ต้องการนำระบบดังกล่าวมาใช้งาน และเขาเองก็ได้พูดคุยกับ Sam Altman ซึ่งเป็น CEO ของ OpenAI บ่อยครั้ง และมีข่าวว่าบริษัทสนใจที่จะลงทุนในบริษัทแม่ของ ChatGPT ด้วย

เขาได้กล่าวเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า การห้ามใช้ AI ก็เหมือนกับการพูดว่า ห้ามขับรถ หรือห้ามใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม การเข้ามาของ AI นั้นกำลังจะเกิดขึ้น

ที่มา – Reuters, Bloomberg, ABC News

]]>
1446632
SoftBank จับมือบริษัทแม่ OYO เปิดเชนโรงแรมระดับ 4-5 ดาวแบรนด์ใหม่ในชื่อ “Sunday” https://positioningmag.com/1445225 Fri, 22 Sep 2023 07:40:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445225 SoftBank บริษัทลงทุนจากญี่ปุ่น จับมือ Oravel บริษัทแม่ของเชนโรงแรมบัดเจ็ท OYO จากอินเดีย ลงทุนขยายเชนโรงแรมระดับ 4-5 ดาวแบรนด์ใหม่ในชื่อ “Sunday” เริ่มต้นเจาะตลาดเมืองเทียร์ 2 ของอินเดีย

การร่วมทุนของ SoftBank และ Oravel จะอยู่ภายใต้บริษัทใหม่คือ “Mountainia” เป็นผู้บริหารโรงแรมเชน “Sunday” เน้นเจาะตลาดเมืองเทียร์ 2 ที่กำลังเติบโตของ “อินเดีย”

โดย Sunday เริ่มต้นเปิดตัวโรงแรมแห่งแรกแล้วที่เมือง “ชัยปุระ” จำนวนห้องพัก 90 ห้อง พร้อมด้วยร้านอาหาร บาร์ สปา และห้องประชุม

Mountainia คาดว่าจะเปิดโรงแรม Sunday เพิ่มอีก 4 แห่งได้ภายในสิ้นปีนี้

“ตลาดการท่องเที่ยวระดับพรีเมียมในอินเดียนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว และลูกค้ากำลังต้องการที่พักระดับไฮเอนด์ โดยเมืองระดับเทียร์ 1 ที่ยังไม่มีรถไฟฟ้าและเมืองระดับเทียร์ 2 นั้นน่าสนใจเพราะเป็นตลาดที่สมดุลในด้านการลงทุน เมืองอยู่ในช่วงที่กำลังเติบโต ขณะที่กลุ่มโรงแรมระดับพรีเมียมยังแข่งขันไม่สูงนัก รวมถึงสินทรัพย์โรงแรมในเมืองเหล่านี้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ราคาดี” แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวกับสำนักข่าว Your Story

บริษัทจอยต์เวนเจอร์แห่งนี้จะดูแลเรื่องการลงทุน ส่วนการบริหารเชนโรงแรม Sunday จะบริหารโดยทีมของ Oravel

การร่วมทุนครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองบริษัทมีการร่วมทุนกัน เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยจับมือกันเปิดตัวเชนโรงแรม Tabist ในญี่ปุ่นมาแล้ว โดย Tabist จะเน้นจับตลาดบริหารโรงแรมเก่าแก่ (เรียวกัง) และโรงแรมขนาดเล็กในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ SoftBank เองถือเป็นผู้ร่วมลงทุนในเชนโรงแรม “OYO” ของ Oravel ด้วย โดยโรงแรม OYO เป็นเชนโรงแรมบัดเจ็ทที่ใช้กลยุทธ์เจาะตลาดโรงแรมขนาดเล็กให้เข้ามาอยู่ในเชนเพื่อเพิ่มยอดจองห้องพัก เชนโรงแรม OYO เริ่มขยายกิจการเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2019

Source

]]>
1445225
SoftBank สนใจลงทุนในบริษัทแม่ของ ChatGPT และหาบริษัทเทคโนโลยีด้าน AI เพื่อลงทุนเพิ่ม https://positioningmag.com/1444590 Mon, 18 Sep 2023 07:52:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1444590 SoftBank สนใจลงทุนในบริษัทแม่ของ ChatGPT และหาบริษัทเทคโนโลยีด้าน AI เพื่อลงทุนเพิ่มเติม หลังจากที่เทคโนโลยีดังกล่าวนั้นได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์หรือช่วยงานประจำวัน

Financial Times รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า SoftBank บริษัทโทรคมนาคมรวมถึงบริษัทที่เน้นการลงทุนในบริษัทไอที สนใจที่จะลงทุนใน OpenAI เจ้าของบริการแชทบอทระบบ AI อย่าง ChatGPT หลังจากนี้ รวมถึงบริษัทอื่นในด้าน AI

แหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวรายงานว่า SoftBank สนใจในการลงทุนบริษัทที่พัฒนาด้าน AI โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินสำหรับการลงทุนมากถึงหลักพันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้นหลังจากการเข้าซื้อขายของหุ้น ARM ในตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับ ChatGPT ของ OpenAI นั้นใช้โครงสร้างปัญญาประดิษฐ์รูปแบบหนึ่งที่ใช้สำหรับสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ได้อย่างหลากหลาย หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Generative AI ซึ่งแชทบอทดังกล่าวสามารถสร้างสรรค์หรือช่วยงานประจำวันตั้งแต่การแก้ไขภาษาจนถึงการเขียนโค้ด หรือแม้แต่การเขียนเรียงความหรือบทกวี

บริการดังกล่าวของ ChatGPT ได้รับความนิยมทั่วโลกจนมีผู้ใช้งาน 100 ล้านรายต่อเดือนในเดือนมกราคม และความร้อนแรงดังกล่าวยังทำให้บริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Alphabet บริษัทแม่ของ Google ต้องเข็นแชทบอท AI ในชื่อว่า Bard ออกมาแข่ง หรือแม้แต่บริษัทเทคโนโลยีในจีนอย่าง Baidu ก็ต้องออกบริการดังกล่าวมาเช่นกัน

OpenAI ได้รับเงินลงทุนจาก Microsoft ไปมากถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยกัน รวมถึงนักลงทุนรายอื่น ทำให้คาดว่ามูลค่ากิจการนั้นใกล้แตะ 27,000 ถึง 29,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยใกล้แตะ 1 ล้านล้านบาทแล้ว

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่าน Masayoshi Son เคยกล่าวว่า ตัวเขาเองเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานของ ChatGPT “อย่างหนักหน่วง” นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่าง Son กับ CEO ของ OpenAI อย่าง Sam Altman อยู่ในขั้นดีมาก เนื่องจากทั้งสองได้พูดคุยระหว่างกันเกือบทุกวัน

ขณะเดียวกัน SoftBank เองก็ได้จับมือกับ OpenAI เพื่อให้บริการแชทบอท AI สำหรับภาคธุรกิจในญี่ปุ่นที่ต้องการนำระบบดังกล่าวมาใช้งาน

เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา OpenAI เข้าของแชทบอท ChatGPT คาดการณ์รายได้ในช่วง 1 ปีหลังจากนี้จะมีมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 35,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าคาดการณ์ของบริษัทในตอนแรกถึง 5 เท่าด้วยซ้ำ เนื่องจากภาคธุรกิจได้ใช้งาน AI ของบริษัทมากขึ้น

แหล่งข่าวของ Financial Times ยังกล่าวว่า Masayoshi Son ได้เริ่มหาบริษัทเทคโนโลยีด้าน AI ลงทุนเพิ่มเติม และมองว่าบริษัทกลับมาอยู่ในโหมดเชิงรุกมากขึ้น หลังจากภาพพจน์ของบริษัทดูดีมากขึ้นหลังจากในปีที่ผ่านมากลุ่มเทคโนโลยีเองมีความซบเซาจากสภาวะเศรษฐกิจไม่เป็นใจ

ไม่เพียงเท่านี้ กระแสการเข้ามาของ AI ยังทำให้คาดว่าเม็ดเงินที่ลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าวจะมากถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐด้วยกัน ซึ่ง SoftBank มองว่าเป็นโอกาสสำคัญของบริษัทที่จะลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้อง

]]>
1444590
SoftBank นำ Arm บริษัทออกแบบชิปเข้า IPO ช่วงเดือนกันยายนนี้ คาดมูลค่าบริษัทสูงถึง 2 ล้านล้านบาท https://positioningmag.com/1440223 Tue, 08 Aug 2023 11:44:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1440223 สื่อธุรกิจของญี่ปุ่นอย่าง Nikkei Asia รายงานว่า SoftBank เตรียมนำ Arm บริษัทออกแบบชิปจากประเทศอังกฤษเข้า IPO ในตลาดหุ้นช่วงเดือนกันยายนนี้ คาดว่ามูลค่าธุรกิจจะสูงมากถึง 2 ล้านล้านบาท

Nikkei Asia รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า SoftBank บริษัทด้านโทรคมนาคมและยังเป็นบริษัทลงทุนในด้านเทคโนโลยีต่างๆ เตรียมนำ Arm บริษัทออกแบบชิปเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) โดยคาดว่ามูลค่าบริษัทจะสูงมากถึง 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 2 ล้านล้านบาท

โดย Arm จะยื่นเอกสารไฟลิ่งให้กับ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ และคาดว่าบริษัทออกแบบชิปรายนี้จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในช่วงเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Apple Samsung Intel Nvidia เตรียมตบเท้าเข้าร่วมลงทุนในบริษัทออกแบบชิปรายดังกล่าวด้วย

สำหรับสัดส่วนผู้ถือหุ้นของ Arm นั้นประกอบไปด้วย SoftBank ถือหุ้นในสัดส่วน 75% และกองทุน Vision Fund ถือหุ้นอีก 25% คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะขายหุ้นออกมาสัดส่วน 10-15% หลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว

Arm ซึ่งบริษัทสัญชาติอังกฤษ นั้นเป็นผู้ออกแบบชิปประมวลผล มีผู้ที่ใช้การออกแบบชิปทั่วโลกตั้งแต่สหรัฐอเมริกาจนถึงประเทศจีน มีลูกค้ารายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Apple Samsung Qualcomm หรือแม้แต่ Huawei ซึ่งชิปที่บริษัทเหล่านี้ใช้งานจากการออกแบบพิมพ์เขียวของ Arm มีทั้งชิปประมวลผล ไปจนถึงชิปใช้งานเฉพาะทาง

ปัจจุบันมีการใช้การออกแบบของ Arm ในชิปโทรศัพท์มือถือในท้องตลาดเป็นสัดส่วนสูงมากถึง 90%

SoftBank ได้ซื้อกิจการของผู้ออกแบบชิปรายนี้ออกจากตลาดหุ้นอังกฤษในปี 2016 มูลค่ามากถึง 31,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากความสำคัญของบริษัทในอนาคต

ในปี 2020 นั้น SoftBank มีความพยายามขายกิจการให้กับผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia เป็นมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ท้ายที่สุดบริษัทโดนหน่วยงานกำกับดูแลจากหลายประเทศขวางไว้ รวมถึงคู่แข่งหรือแม้แต่ลูกค้าอย่าง Qualcomm ไปจนถึง Huawei เนื่องจากกังวลว่าเมื่อ Arm ตกอยู่ภายใต้ยักษ์ใหญ่ Nvidia จะทำให้การเข้าถึงการออกแบบชิปยากมากขึ้น

เรื่องของปัจจัยการออกแบบดังกล่าวนี้ที่เชื่อกันว่า เป็นเหตุผลหลักทำให้ SoftBank ซื้อกิจการ Arm จนกลายเป็นดีลมูลค่ามหาศาล จนท้ายที่สุดบริษัทก็ได้นำกลับเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นอีกรอบภายในระยะเวลา 7 ปี ซึ่งคาดว่ามูลค่าการระดมทุนนั้นจะมากที่สุดบริษัทหนึ่งในปี 2023 นี้

]]>
1440223
‘SoftBank’ เตรียมปลดพนักงานกองทุน ‘Vision Fund’ รอบใหม่อีก 30% https://positioningmag.com/1433922 Tue, 13 Jun 2023 09:00:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433922 ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป คอร์ป (SoftBank) หนึ่งในองค์กรที่ลงทุนกับบริษัทเทคโนโลยีมากที่สุดในโลก กำลังวางแผน ปลดพนักงานรอบใหม่ โดยเจาะจงไปที่กองทุน Vision Fund ที่ยังขาดทุนหนัก

ย้อนไปช่วงเดือนพฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา Softbank ได้ดำเนินการปลดพนักงานในกองทุน Vision Fund จำนวน 20% หรือประมาณ 150 คน และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2023) ว่าขาดทุนไปถึง 3.2 หมื่นล้านเยน จากรายได้รวม 1.695 ล้านล้านเยน หากนับเฉพาะส่วนการลงทุนในกองทุน Vision Fund ขาดทุนถึง 3.16 แสนล้านเยน

จากผลขาดทุนดังกล่าว ทาง Yoshimitsu Goto ซีเอฟโอ ของบริษัทก็ได้ออกมาระบุว่า SoftBank อยู่ในโหมดตั้งรับ เน้นต่อยอดการลงทุนปัจจุบัน และลดการลงทุนใหม่ โดยล่าสุด มีข่าวออกมาว่า กองทุน Vision Fund กำลังจะ ปลดคนระลอกใหม่ ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า

การปลดพนักงานในรอบนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อพนักงานมากถึง 30% จากจำนวนพนักงานทั้งหมดของ Vision Fund ที่มีประมาณ 349 คน ตามการรายงานของบริษัท ณ สิ้นเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม SoftBank ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าวที่หลุดออกมา

สำหรับ SoftBank นั้นถือเป็นบริษัทนักลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีมากที่สุดของโลก แต่จากหลาย ๆ ปัจจัยในช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยุโรป และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้กองทุน Vision Fund ขาดทุนอย่างหนัก โดยที่ผ่านมา บริษัทได้ลดความเสียหายจากการขาดทุนจากการลงทุนที่ด้วยการ ลดการถือหุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง

Source

]]>
1433922
ยับเยิน! ‘SoftBank’ ขาดทุน 2.16 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกร่วงหนัก https://positioningmag.com/1395597 Tue, 09 Aug 2022 08:03:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1395597 นับเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่ของหน่วยลงทุน Vision Fund ของ Softbank บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติญี่ปุ่น เนื่องจากผลงานการลงทุนในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ (เมษายน-มิถุนายน) ขาดทุนอย่างหนักเนื่องจากหุ้นด้านเทคโนโลยียังคงได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

กองทุน Vision Fund ของบริษัท SoftBank ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 เพื่อลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี ขาดทุนหนัก ถึง 2.16 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.93 ล้านล้านเยน ซึ่งถือเป็นการขาดทุนหนักสุดอันกับ 2 ของกองทุน Vision Fund โดยการขาดทุนดังกล่าวสวนทางกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ที่สามารถกวาดกำไรสุทธิถึง 7.61 แสนล้านเยน

สาเหตุที่ทำให้ Vision Fund ขาดทุนหนักมาจากการตกต่ำของหุ้นเทคโนโลยีที่เคยมีการเติบโตสูง อันเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางอื่น ๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

“เราเห็นการลดลงของราคาหุ้นของบริษัทพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากแนวโน้มราคาหุ้นทั่วโลกที่ลดลงเนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งได้รับแรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น” Masayoshi Son ผู้ก่อตั้งของ SoftBank และผู้อยู่เบื้องหลัง Vision Fund กล่าว

Masayoshi ยังกล่าวอีกว่า จากนี้บริษัทจะเข้าสู่โหมด ป้องกัน และ เข้มงวด ในด้านการลงทุนมากขึ้น เพื่อเก็บเงินสดไว้ใช้ในช่วงภาวะขาลงทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ปีงบประมาณที่ผ่านมาขาดทุนไปแล้วถึง 3.5 ล้านล้านเยน เนื่องจากบริษัทลงทุนในสตาร์ทอัพมากกว่าที่ควรจะเป็น และการประเมินมูลค่าธุรกิจก็อยู่ในภาวะฟองสบู่

Source

]]>
1395597
‘GM’ ทุ่ม 2.1 พันล้านซื้อหุ้น Cruise ของ ‘SoftBank’ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับ https://positioningmag.com/1378239 Sun, 20 Mar 2022 09:03:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1378239 ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่แข่งกันพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแล้ว แต่กำลังแข่งขันกันพัฒนา เทคโนโลยีไร้คนขับ ด้วย โดยล่าสุด ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่าง General Motors หรือ GM ก็กำลังซื้อหุ้นมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ของ SoftBank ที่ลงทุนใน Cruise ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนด้านรถยนต์ไร้คนขับ

ย้อนไปปี 2018 SoftBank ได้เข้าลงทุนใน Cruise ด้วยมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ และมีแผนจะลงทุนเพิ่มอีก 1,350 ล้านดอลลาร์ เมื่อ Cruise สามารถให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ ต่อมา Cruise ได้ทดสอบให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับและยื่นขอใบอนุญาต และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Cruise เผยว่า SoftBank จะลงทุนเพิ่ม 1,350 ล้านดอลลาร์ ตามแผนที่เคยประกาศไว้

แต่เนื่องจาก SoftBank มีปัญหาเรื่องหนี้สิ้น จึงได้เริ่มทยอยขายหุ้นที่เคยลงทุนในบริษัท Alibaba และ T-Mobile รวมถึงตัดสินใจขาย ARM ให้กับ Nvidia ในปี 2020 แต่ดีลดังกล่าวไม่สำเร็จ ทำให้ GM ได้ซื้อหุ้น Cruise มูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์จาก Softbank พร้อมกับจะลงทุนในการลงทุนอีก 1.35 พันล้านดอลลาร์ แทน SoftBank ที่เคยประกาศแผนไว้

ทั้งนี้ GM ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนใน Cruise อยู่แล้ว และนอกจากนี้ยังมี Microsoft, Walmart และ Honda ที่ร่วมลงทุนด้วย ซึ่งการซื้อหุ้นของ SoftBank ทำให้ GM มีสัดส่วนผู้ถือหุ้น 80% สามารถบริหารจัดการ Cruise ในการพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติได้อย่างเต็มที่ และอาจเพิ่มมูลค่าบริษัทด้วยการเสนอขายหุ้น IPO ในอนาคต

Cruise ทำให้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองกลายเป็นจริงและเป็นผู้นำในเส้นทางสู่การแชร์รถอัตโนมัติและการส่งมอบในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสร้างมูลค่าที่สำคัญสำหรับทั้งผู้ถือหุ้นของ GM และผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ Cruise” GM กล่าวในแถลงการณ์

ย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว GM ได้ประกาศแผนการที่จะเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์อัตโนมัติอีกประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ รวมเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์จนถึงปี 2025 โดย Mary Barra หัวหน้า GM กล่าวว่า เป้าหมายของ GM ก็คือ “การมีโลกที่ไม่มีการชน ไม่มีการปล่อยมลพิษ และความแออัดเป็นศูนย์”

Source

]]>
1378239
Hyundai ปิดดีลซื้อกิจการ Boston Dynamics สำเร็จ ลุยพัฒนา ‘หุ่นยนต์’ เสริมการสัญจรอัจฉริยะ https://positioningmag.com/1338200 Tue, 22 Jun 2021 09:34:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1338200 อีกความเคลื่อนไหวของวงการยานยนต์เเห่งอนาคต เมื่อ Hyundai ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ ปิดดีลเข้าซื้อกิจการ Boston Dynamics สำเร็จ ขึ้นถือหุ้นใหญ่ 80% ด้วยมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 หมื่นล้านบาท) เตรียมต่อยอดพัฒนาหุ่นยนต์ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ยกระดับการสัญจรอัจฉริยะ

‘Boston Dynamics’ ก่อตั้งเมื่อปี 1992 เป็นธุรกิจที่แยกออกมาจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) โดยในปี 2013 ทาง Google ได้เข้ามาซื้อกิจการเป็นเจ้าเเรก ต่อมาได้ขายให้กลุ่ม SoftBank จากญี่ปุ่นในช่วงปี 2017

ทั้งนี้ หลังการเข้ามาของ Hyundai ทาง SoftBank จะยังคงถือหุ้นอยู่ราว 20%

Boston Dynamics โด่งดังมาจากการพัฒนา ‘Spot’ หุ่นยนต์สุนัขสีเหลืองขาลุย ที่สามารถสำรวจพื้นที่ต่างๆ เข้าไปในที่เเคบเเละมืด เเละปีนที่สูงในอย่างคล่องเเคล่ว ถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม อย่างธุรกิจขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ สำรวจป่า เหมืองเเร่ หรือเเม้กระทั่งตอนจับคนไม่ใส่หน้ากากในช่วงโควิด-19

นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว ‘Stretch’ หุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของบริษัท ที่ออกแบบมาเฉพาะ สำหรับคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า

การเข้าซื้อกิจการ Boston Dynamics ของ Hyundai ในครั้งนี้ มีเป้าหมายใหญ่ คือการสร้าง ‘Robotics Value Chain’ ที่ครอบคลุมเครือข่ายทั้งการผลิตส่วนประกอบเเละสร้างหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติต่างๆ

พร้อมทรานส์ฟอร์มบริษัทสู่ผู้ให้บริการโซลูชัน ‘Smart Mobility’ การสัญจรอัจฉริยะ รองรับเทรนด์ในอนาคต ซึ่งก่อนหน้านี้ Hyundai ได้ทุ่มลงทุนไปในหลายเทคโนโลยี เช่น ระบบขับเคลื่อนด้วยตนเอง ปัญญาประดิษฐ์ โรงงานอัจฉริยะ ฯลฯ

ในด้านวิทยาการหุ่นยนต์ บริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนและส่งเสริมความปลอดภัย เพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติ

ข้อตกลงนี้คาดว่าจะช่วยให้ Hyundai และ Boston Dynamics ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของกันและกัน ทั้งในด้านการผลิต โลจิสติกส์ การและระบบอัตโนมัติ ขยายไลน์สินค้า การบริการ และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก

เมื่อไม่นานมานี้  Boston Dynamics ถูกวิจารณ์เรื่องการนำหุ่นยนต์สุนัข Spot ไปใช้ในกองทัพ เเต่อย่างไรก็ตาม ในคลิปโปรโมตความร่วมมือใหม่ล่าสุดกับ Hyundai จะเป็นการนำหุ่นยนต์สุนัขมาช่วยนำทางสำหรับคนตาบอดและเป็นผู้ช่วยในโรงพยาบาล เป็นต้น

 

ที่มา : Engadget , Techcrunch , hyundainews 

]]>
1338200