Spotify – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 24 Apr 2024 09:55:28 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Spotify ทำกำไรเป็นสถิติอีกครั้ง หลังบริษัทงัดแผนลดต้นทุน ปลดพนักงานบางส่วน และขึ้นราคาแพ็กเกจ https://positioningmag.com/1470918 Wed, 24 Apr 2024 09:55:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470918 สปอติฟาย (Spotify) ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 โดยบริษัทมีกำไรทำสถิติอีกครั้ง จากมาตรการไม่ว่าจะเป็น การลดต้นทุน การปลดพนักงาน หรือแม้แต่การขึ้นราคาแพ็กเกจ จากแรงกดดันของนักลงทุน เพื่อบริษัทจะได้กลับมามีกำไรได้อย่างสม่ำเสมออีกครั้ง 

Spotify ประกาศผลประกอบการของไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โดยบริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 168 ล้านยูโร ขณะที่กำไรขั้นต้นของบริษัทได้แตะหลัก 1,000 ล้านยูโรเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งผลกำไรดังกล่าวนั้นมาจากกลยุทธ์ของบริษัทที่ลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และปรับราคาแพ็กเกจ

ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เร่งในการลดต้นทุน เช่น การปลดพนักงาน 1,500 รายช่วงปลายปี 2023 ซึ่ง Daniel Ek ผู้บริหารสูงสุดของ Spotify เคยกล่าวว่าบริษัทมีพนักงานมากเกินไป และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ทำให้บริษัทต้องกลับมารีดไขมันองค์กรให้มีประสิทธิภาพอีกครั้ง

นอกจากนี้ Spotify ยังได้งัดแผนการสำคัญคือการประกาศขึ้นราคาแพ็กเกจทั่วโลกในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2023 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อที่จะสามารถส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ฟังเพลง รวมถึงศิลปิน ซึ่งประกาศดังกล่าวนี้มีผลต่อผู้ใช้งานทั่วโลก

ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีผู้ใช้งานเติบโตเพิ่ม 14% ทำให้บริษัทมีสมาชิกทั้งหมด 239 ล้านคน มีรายได้รวม 3,600 ล้านยูโร และมีกำไรขั้นต้นแตะ 1,000 ล้านยูโร ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วอยู่ที่ 168 ล้านยูโร

สาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทต้องเร่งแผนในการปรับขึ้นราคาแพ็กเกจ หรือแม้แต่การลดต้นทุน ก็คือ แรงกดดันจากนักลงทุนที่ต้องการที่จะให้บริษัทกลับมามีกำไรอีกครั้ง หลังจากที่บริษัทมีผลประกอบการรายปีขาดทุนนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา แม้ว่าจำนวนผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

ขณะเดียวกันเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทยังมีแผนที่จะปรับขึ้นราคาในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เพื่มเติมด้วย ซึ่งประเทศดังกล่าวถือเป็นตลาดหลักของ Spotify

ข้อมูลจาก S&P Global Market Intelligence ได้รวบรวมข้อมูลจากนักวิเคราะห์ ชี้ว่าภายในปีนี้บริษัทจะกลับมามีกำไรได้เต็มปี ซึ่งแตกต่างกับในอดีตที่บริษัทไม่สามารถทำกำไรได้ตลอด

]]>
1470918
“Spotify” เตรียมขึ้นราคา! นำร่อง 5 ประเทศภายในสิ้นเดือนนี้ หลังถูกบีบให้เร่งทำกำไร https://positioningmag.com/1469261 Fri, 05 Apr 2024 06:54:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469261 สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า “Spotify” จะปรับขึ้นราคาใน 5 ประเทศที่เป็นตลาดหลักภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ และจะปรับขึ้นในตลาดสหรัฐฯ เป็นเป้าหมายต่อไป คาดเป็นความเคลื่อนไหวหลังบริษัทถูกบีบให้ทำกำไร

ราคาหุ้นของ Spotify พุ่งขึ้นทันที 8% หลังมีการรายงานว่า สตรีมมิ่งเพลงชื่อดังเจ้านี้เตรียมจะปรับขึ้นราคาในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย

Bloomberg รายงานจากแหล่งข่าววงในที่เกี่ยวข้องว่า Spotify จะขึ้นราคาใน 5 ประเทศหลัก เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ปากีสถาน โดยจะขึ้นประมาณ 1-2 เหรียญสหรัฐต่อเดือน ก่อนที่จะขึ้นราคาในตลาดสหรัฐฯ เป็นประเทศต่อไปภายในปีนี้

สาเหตุที่ Spotify จะใช้ในการขึ้นราคา คือเรื่องต้นทุนการจัดการ “หนังสือเสียง” (Audiobook) ที่สูงขึ้น โดยปัจจุบัน Spotify ถือเป็นผู้เล่นอันดับ 2 ในตลาดหนังสือเสียงรองจาก Audible

แพ็กเกจราคาสมาชิกพรีเมียม Spotify ในสหรัฐฯ เพิ่งจะปรับขึ้นมารอบหนึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 ขณะนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หากมีการปรับขึ้นราคาน่าจะทำให้ขึ้นมาอยู่ที่ 11.99-12.99 เหรียญต่อเดือน แพ็กเกจราคานี้ลูกค้าสมาชิกจะสามารถฟังเพลงและพอดคาสต์ได้ไม่จำกัด ส่วนหนังสือเสียงมีโควตาให้ฟังได้ 15 ชั่วโมงต่อเดือน

รายงานข่าวยังแจ้งด้วยว่า Spotify อาจจะมีการเพิ่มแผนแพ็กเกจใหม่ด้วย โดยเสริมแผนราคาสมาชิก 11 เหรียญต่อเดือน เป็นแพ็กเกจกลุ่มราคาที่ไม่ได้รับโควตาฟังหนังสือเสียง ฟังได้เฉพาะเพลงและพอดคาสต์

ในตลาดสตรีมมิ่งเพลงและเสียง Spotify ต้องแข่งขันกับคู่แข่งหลักอย่าง Apple และ YouTube Music และสภาวะเบื้องหลังการทำธุรกิจ คาดกันว่าบริษัทได้รับแรงกดดันสูงมากจากนักลงทุนว่าจะต้องเริ่ม “ทำกำไร” ให้ได้ ทำให้ปีที่ผ่านมามีการปรับขึ้นราคาไปแล้วครั้งหนึ่งจากที่ไม่ได้ปรับมาหลายปี รวมถึงมีการเลย์ออฟพนักงานเพื่อลดต้นทุน

นอกจากการเพิ่มราคาและลดต้นทุนแล้ว มีรายงานข่าวด้วยว่า Spotify จะเริ่มเข็นแพ็กเกจ “ซูพรีเมียม” ออกมาในเร็วๆ นี้ แพ็กเกจนี้เป็นการสตรีมมิ่งเพลงแบบคุณภาพสูง หรือ Lossless Streaming โดยมีผู้ใช้ Spotify บางรายสังเกตเห็นว่าแอปฯ เริ่มทดลองติดโลโก้ Dolby Atmos แล้ว ทำให้คาดกันว่าจะมีแพ็กเกจระดับสูงออกมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการฟังเพลงผ่านเครื่องเสียงหรือหูฟังคุณภาพ

ที่มา: CNBC, The Verge

]]>
1469261
Apple โดนสหภาพยุโรปปรับเป็นเงินก้อนใหญ่เกือบ 70,000 ล้านบาท จากประเด็นผูกขาด App Store https://positioningmag.com/1465072 Tue, 05 Mar 2024 03:45:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1465072 สหภาพยุโรปปรับเงิน Apple มากถึง 1,800 ล้านยูโร จากประเด็นผูกขาด App Store หลังจากที่ Spotify ได้ร้องเรียนการขัดขวางไม่ให้แจ้งผู้ใช้งานว่าสามารถจ่ายเงินค่าบริการจากนอกแพลตฟอร์มได้ ซึ่งเม็ดเงินค่าปรับดังกล่าวสูงกว่าที่คาดไว้

Apple ถูกสหภาพยุโรปปรับเป็นเงินมากถึง 1,800 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 70,000 ล้านบาท จากข้อหาที่ผูกขาด App Store และขัดขวางไม่ให้คู่แข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการ Music Streaming รายอื่นสามารถแจ้งผู้ใช้งานได้ว่าสามารถจ่ายเงินค่าบริการจากนอกแพลตฟอร์มได้

ปัจจุบัน Apple ห้ามแอปประเภท Music Streaming แจ้งผู้ใช้งาน iOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone และ iPad ว่าสามารถสมัครสมาชิกด้านนอกแอปที่มีราคาถูกกว่าการสมัครผ่านแอปใน iOS ได้ ซึ่งถ้าหากมีการสมัครผ่านแอปโดยตรงนั้นจะโดน Apple หักค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 30% ทำให้ผู้พัฒนาแอปหลายรายไม่พอใจ

ขณะเดียวกันค่าปรับดังกล่าวยังสูงกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ ซึ่งในตอนแรกคาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ 500 ล้านยูโรเท่านั้น

คำตัดสินดังกล่าวมาจากข้อกล่าวหาที่ Spotify ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรปถึงพฤติกรรมของ Apple ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เช่น การขวางไม่ให้อัปเดตตัวแอป เนื่องจากบริษัทให้ผู้ใช้งานรายใหม่สมัครสมาชิกนอกแอปฯ ของตัวเองจะได้ฟังเพลงฟรี 3 เดือนในราคา 0.99 เหรียญเท่านั้น

Margrethe Vestager กรรมาธิการการแข่งขันของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า Apple ใช้ตำแหน่งที่โดดเด่นในทางที่ผิดมานานนับ 10 ปี หลังจากนี้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ จะต้องยกเลิกข้อจำกัดที่มีอยู่ทั้งหมด

รายได้จาก App Store นั้นถือว่าเป็นรายได้สำคัญของ Apple ปัจจุบันรายได้ในส่วนดังกล่าวนั้นมีสัดส่วนมากกว่า 20% ของรายได้รวมของบริษัทแล้ว

ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปเท่านั้นที่มองถึงเรื่องการผูกขาด App Store แต่หน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศเองเริ่มบีบ Apple หรือแม้แต่ Google ให้เปิดเสรีมากขึ้น เนื่องจากมองว่าผู้เล่นรายอื่นควรที่จะเข้ามาแข่งขันได้ เช่น ในกรณีของญี่ปุ่น เป็นต้น

ทางฝั่งของ Apple กล่าวว่าจะอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว และมองว่าผลการตัดสินนั้นผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือฝั่งของ Spotify ซึ่งได้เข้าพบกับคณะกรรมาธิการยุโรปมากถึง 65 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา และมองว่าบริษัทไม่ได้ผูกขาดบริการ Music Streaming เนื่องจาก Spotify มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 56% ในทวีปยุโรป

ที่มา – BBC, CNN, The Guardian

]]>
1465072
Spotify โวย Apple เตรียมโขกค่าคอมมิชชั่นถึง 27% หลังศาลสั่งให้เปิดเสรี App Store หรือบริการเก็บเงินจากเจ้าอื่นก็ตาม https://positioningmag.com/1459630 Sun, 21 Jan 2024 14:35:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1459630 ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงอย่าง Spotify ได้โวยที่ Apple เตรียมโขกค่าคอมมิชชั่นถึง 27% แม้ผู้ใช้งานจะใช้ Store หรือบริการเก็บเงินจากผู้ให้บริการอื่นก็ตาม โดยผู้ผลิต iPhone ได้ให้เหตุผลถึงนักพัฒนาจะได้ประโยชน์จากบริการของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด หรือแม้แต่การดูแลความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน

Spotify บริการสตรีมมิ่งเพลงรายใหญ่ ได้โวยกรณีที่ Apple เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นสูงถึง 27% แม้ว่า Apple จะไฟเขียวให้แอปพลิเคชันอื่นสามารถใช้ผู้บริการเก็บเงิน หรือแม้แต่ผ่าน App Store ของผู้พัฒนารายอื่นก็ตาม และต้องการที่จะให้รัฐบาลอังกฤษขวาง Apple ในกรณีดังกล่าว

บริการสตรีมมิ่งเพลงรายนี้ได้กล่าวว่าพฤติกรรมดังกล่าวของ Apple ถือว่า ‘อุกอาจ’ และเน้นปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง โดย Spotify เตรียมเรียกร้องให้รัฐบาลของอังกฤษจัดการในเรื่องนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ยักษ์ใหญ่รายดังกล่าวเรียกเก็บค่าค่าคอมมิชชั่นกับผู้พัฒนาโปรแกรมรายอื่นเช่นกัน

Apple ได้เริ่มให้ผู้พัฒนาโปรแกรมใช้บริการ App Store หรือแม้แต่ผู้ให้บริการเก็บเงินรายอื่น หลังจากที่ Epic Games ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกม Fortnite ได้ฟ้องร้องถึงการไม่อนุญาตให้ผู้พัฒนาลงโปรแกรมผ่าน App Store ของผู้พัฒนารายอื่น รวมถึงยังเก็บเงินค่าธรรมเนียมมากถึง 30%

ต่อมา Apple ได้ปรับปรุงเงื่อนไขโดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักพัฒนารายใหญ่ๆ มากถึง 30% บน App Store ขณะที่นักพัฒนารายเล็กจะจ่ายค่าธรรมเนียมประมาณ 15% และนักพัฒนารายย่อยซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 85% ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ เลยให้กับบริษัท

แต่หลังจากการพิจารณาคดีของศาลระหว่าง Apple กับ Epic Games ศาลได้สั่งให้ Apple ห้ามจำกัดตัวเลือกในการชำระเงิน ขณะเดียวกัน Apple เองได้แก้เกมในกรณีดังกล่าวในสหรัฐอเมริกาและบางประเทศ โดยเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 27% โดยให้เหตุผลว่านักพัฒนาจะได้ประโยชน์จากบริการของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด หรือแม้แต่การดูแลความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน

ก่อนหน้านี้หน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศเองเริ่มบีบ Apple หรือแม้แต่ Google ในบริการในส่วนของ App Store หรือแม้แต่บริการจ่ายเงิน เนื่องจากมองว่าผู้เล่นรายอื่นควรที่จะเข้ามาแข่งขันได้ โดยประเทศที่เริ่มเข้ามาสนใจในกรณีดังกล่าว เช่น ญี่ปุ่น หรือ สหภาพยุโรป

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Spotify ได้โวยยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี ในเดือนตุลาคมปี 2023 ที่ผ่านมาผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงรายนี้ได้กล่าวถึงบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Apple และ Google ว่าพยายามเป็นหน้าด่านของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต 4,000 ล้านคนทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมกักขังโลกอินเตอร์เน็ตในระดับ ‘บ้าคลั่ง’ มาแล้ว

ที่มา – BBC News

]]>
1459630
เลย์ออฟอีก! “Spotify” ปลดพนักงานรอบสิ้นปีอีก 1,500 คน ลีนองค์กรเพื่อหันมามุ่งทำกำไร https://positioningmag.com/1454437 Mon, 04 Dec 2023 12:04:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1454437 “Spotify” ประกาศเลย์ออฟพนักงาน 1,500 คน คิดเป็น 17% ของทั้งบริษัท เป็นการปลดพนักงานรอบที่ 3 ของปีตามกลยุทธ์ “ลีนองค์กร” ลดต้นทุนเพื่อมุ่งทำกำไร

Daniel Ek ซีอีโอ Spotify ออกบันทึกข้อความถึงพนักงานบริษัทว่า บริษัทตัดสินใจปลดพนักงานเพิ่มเติมอีกเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทต้องปรับทิศมา “ลีนองค์กร” รีดไขมันตัดต้นทุนภายใน

“วันนี้เรายังมีพนักงานมากเกินไปที่ทำหน้าที่สนับสนุนการทำงาน ช่วยงานของคนอื่นอีกที มากกว่าจะเป็นตำแหน่งงานที่สร้างโอกาสสำคัญต่อบริษัท” Ek กล่าวในบันทึกข้อความ “หลังจากบริษัทเราเติบโตขึ้น เรากลับเดินออกห่างจากแก่นหลักขององค์กรที่ต้องมีไหวพริบฉับไว”

การเลย์ออฟครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปีของ Spotify เมื่อเดือนมกราคมบริษัทประกาศเลย์ออฟพนักงาน 6% ของบริษัทหรือประมาณ 600 คน จากนั้นเมื่อเดือนมิถุนายนก็ปลดออกอีก 200 คนโดยเป็นพนักงานในแผนกพอดคาสต์ทั้งหมด

จากการประกาศผลการดำเนินงานรอบล่าสุด Spotify มีพนักงานรวม 9,241 คน ก่อนที่จะมาประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ถึง 1,500 คนนี้

แดเนียล เอ็ก ซีอีโอ Spotify (Photo by Antoine Antoniol/Getty Images)

นอกจากการตัดต้นทุนด้วยการลดจำนวนพนักงานแล้ว บริษัทยังพยายามสร้างรายได้ให้มากขึ้นในระยะหลัง ผ่านการขึ้นราคาแพ็กเกจสมาชิกในหลายๆ ประเทศ

The Wall Street Journal รายงานว่า ย้อนไปในช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก Spotify มีการเพิ่มจำนวนพนักงานเกือบเท่าตัวในเวลาเพียง 3 ปี โดยซีอีโอ Ek ระบุในตอนนั้นว่าบริษัทต้องมีการขยายตัวเพราะสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนแปลง

ปกติแล้ว Spotify มักจะให้ความสำคัญกับการเร่งเติบโตมากกว่าการทำกำไร แต่ในระยะหลังกลุ่มนักลงทุนเบื้องหลังบริษัทเริ่มจะผลักดันให้บริษัทต้องทำกำไรให้ได้ โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมานี้ที่มีการกดดันหนัก ทำให้เมื่อไตรมาสล่าสุดบริษัทสามารถทำกำไรได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม หากรวม 9 เดือนแรกของปี 2023 บริษัทก็ยังขาดทุนอยู่ 462 ล้านยูโร (ประมาณ 17,500 ล้านบาท)

สำหรับพนักงานที่ถูกเลย์ออฟในรอบนี้จะได้รับค่าชดเชยเทียบเท่าเงินเดือน 5 เดือน และยังได้รับสวัสดิการประกันสุขภาพเป็นเวลา 5 เดือนเช่นกัน

Source

]]>
1454437
Spotify ประกาศใช้ AI ของ Google เพื่อแนะนำ Podcast และ Audiobooks ให้โดนใจผู้ฟังมากขึ้น https://positioningmag.com/1452278 Thu, 16 Nov 2023 17:39:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452278 Spotify ได้ประกาศขยายความร่วมมือกับ Google ในการนำระบบ AI เข้ามาใช้เพื่อที่จะแนะนำ Podcast และ Audiobooks ให้ถูกใจผู้ฟังมากขึ้น หลังจากที่บริษัทได้นำเทคโนโลยี AI มาเป็น DJ ช่วยแนะนำในการฟังเพลงมาแล้ว

Spotify ได้ประกาศขยายความร่วมมือกับ Google ในการนำระบบ AI เข้ามาใช้เพื่อที่จะแนะนำ Podcast และ Audiobooks ให้ถูกใจผู้ฟังมากขึ้น

บริษัทสตรีมมิ่งเพลงรายนี้ได้ใช้ระบบ Google Cloud’s LLMs โดยระบบดังกล่าวจะวิเคราะห์ Podcast จำนวน 5 ล้านชุด และ Audiobooks ถึง 350,000 ชุด เพื่อที่จะนำข้อมูลไม่ว่าจะเป็นผู้จัดทำ หรือแม้แต่คำบรรยาย ไปประมวลผลเพื่อที่จะส่งผลลัพธ์ให้กับผู้ใช้งานได้แม่นยำมากขึ้น

นอกจากนี้ระบบ AI ดังกล่าวยังช่วยระบุเนื้อหาที่เป็นอันตราย แต่ Spotify ไม่ได้กล่าวลงรายละเอียดแต่อย่างใด

สำหรับความร่วมมือดังกล่าวของทั้ง 2 ฝ่ายไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ Spotify ประกาศใช้บริการระบบ Cloud ของ Google แต่เพียงเจ้าเดียวมาแล้วนับตั้งแต่ปี 2016 นอกจากนี้ยักษ์ใหญ่บริการสตรีมมิ่งเพลงรายนี้ได้ใช้บริการอื่นๆ ของ Google เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่เพียงเท่านี้ทั้ง 2 บริษัทประกาศว่าจะมีความร่วมมือด้านวิศวกรรมเพื่อที่จะทำให้บริการของ Spotify ดีมากยิ่งขึ้น ผ่านการใช้ Cloud ของ Google ด้วย

โดย Spotify ได้เริ่มต้นนำอัลกอริธึมแนะนำเพลงให้กับผู้ใช้งานเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะนำเทคโนโลยี AI มาเป็น DJ โดยใช้ข้อมูลจากเพลงที่ผู้ใช้งานฟังบ่อยๆ

ขณะเดียวกัน Spotify ได้มองหาวิธีการเพิ่มรายได้อื่นๆ นอกจากการสตรีมมิ่งเพลง ซึ่งการนำระบบ AI มาแนะนำ Podcast รวมถึง Audiobooks ให้ถูกใจผู้ฟังมากขึ้น ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการดังกล่าวดัวย

ที่มา – Reuters, The Verge

]]>
1452278
“Spotify” เปิดฟีเจอร์ใหม่ใช้ AI เลียนเสียงนักจัด “พอดคาสต์” เพื่อแปลงรายการเป็นภาษาอื่น https://positioningmag.com/1445638 Tue, 26 Sep 2023 12:21:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445638 สตรีมมิ่งเจ้าดัง “Spotify” ประกาศเปิดใช้ฟีเจอร์ใหม่ ใช้ AI เลียนเสียงพิธีกรรายการ “พอดคาสต์” เพื่อใช้เสียงสังเคราะห์ของพิธีกรในการแปลรายการเป็นภาษาอื่น ทำให้เข้าถึงผู้ฟังได้กว้างขึ้น โดยจะเริ่มจากการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาสเปน เยอรมัน และฝรั่งเศส

Spotify ระบุว่า ฟีเจอร์นี้ใช้เทคโนโลยีของ OpenAI (บริษัทเจ้าของ ChatGPT) ซึ่งสามารถ “เลียนเสียง” ได้ผ่านการฟังผู้พูดเพียงไม่กี่ประโยค ทำให้ Spotify เลือกนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับการแปลพอดคาสต์ พร้อมกับเลียนเสียงของนักจัดพอดคาสต์ด้วย เพื่อให้ผู้ฟังยังสัมผัสได้ถึงลักษณะเฉพาะและธรรมชาติของพิธีกรรายการ

เบื้องต้นบริษัทจะทดลองฟีเจอร์นี้กับนักจัดพอดคาสต์จำนวนหนึ่ง เช่น Dax Shepard, Monica Padman, Lex Fridman,  Steven Bartlett และ Bill Simmons และจะมีการแปลทั้งตอนที่จัดไปแล้วและตอนใหม่

Spotify แจ้งว่า จะมีการแปลพอดคาสต์ภาษาอังกฤษเหล่านี้เป็นภาษาสเปน เยอรมัน และฝรั่งเศส โดยเลือก 3 ภาษานี้เพราะเป็นภาษาที่มีคนฟังพอดคาสต์มากที่สุด หากไม่นับภาษาอังกฤษ

ฟีเจอร์ฟังพอดคาสต์เวอร์ชันแปลและเลียนเสียงโดย AI จะเปิดฟังได้ทั้งสมาชิกที่ใช้งานฟรีและชำระเงิน

Spotify ขอสงวนไม่แจ้งมูลค่าการลงทุนกับฟีเจอร์นี้ แต่โปรเจกต์นี้จะเป็นโปรเจกต์ใหญ่ จะมีการนำไปใช้บริการนักจัดพอดคาสต์ทั่วโลก

ที่มา: CNBC

 

เพิ่มเติม:
Dax Shepard และ Monica Padman จัดรายการพอดคาสต์ชื่อ Armchair Expert เป็นรายการสัมภาษณ์คนดัง นักข่าว และนักวิชาการ
Lex Fridman เริ่มต้นจัดรายการพอดคาสต์เกี่ยวกับ AI ก่อนจะผันตัวมาทำรายการสัมภาษณ์คนดังทุกแขนง ตั้งแต่นักร้อง นักการเมือง จนถึงนักธุรกิจ
Steven Bartlett ผู้ประกอบการที่ผันตัวมาทำพอดคาสต์รายการชื่อ The Diary of a CEO สัมภาษณ์นักธุรกิจ ในปี 2021 รายการนี้เป็นพอดคาสต์เกี่ยวกับธุรกิจที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในทวีปยุโรป
Bill Simmons เจ้าของเว็บไซต์ The Ringer รายการพอดคาสต์ของเขาเติบโตมาจากการพูดคุยเกี่ยวกับวงการกีฬา

]]>
1445638
Spotify ประกาศขึ้นราคาครั้งแรกในรอบหลายปี แพ็กเกจ Family อยู่ที่ 219 บาท แต่ Individual ราคาเดิม https://positioningmag.com/1438841 Mon, 24 Jul 2023 13:09:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1438841 Spotify ได้ประกาศขึ้นราคาแพ็กเกจครั้งแรกในรอบหลายปี โดยในไทยปรับราคาแพ็กเกจขึ้นไม่เกิน 20 บาทต่อเดือน โดยการปรับราคาของบริษัทนั้นถือว่าเป็นไปตามคู่แข่งที่ได้ปรับราคาไปเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา 

Spotify ประกาศว่าบริษัทได้ปรับราคาแพ็กเกจครั้งแรกในรอบ 12 ปีตั้งแต่เปิดบริการเป็นต้นมาในปี 2008 โดยบริษัทได้ให้เหตุผลว่าเพื่อที่จะสามารถส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ฟังเพลง รวมถึงศิลปิน ซึ่งประกาศดังกล่าวนี้มีผลต่อผู้ใช้งานทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันบริษัทได้ประกาศปรับราคาแพ็กเกจสำหรับในลูกค้าในสหรัฐอเมริกามาแล้ว

สำหรับแพ็กเกจต่างๆ มีผลดังนี้ (ราคาของในประเทศไทย)

  • แพ็กเกจ Single ยังคงราคาเท่าเดิม
  • แพ็กเกจ Duo ใช้งานได้ 2 บัญชี เพิ่มราคาเป็น 189 บาทต่อเดือน (เพิ่มขึ้น 20 บาท จากเดิม 169 บาท)
  • แพ็กเกจ Family ที่ใช้งานได้ 6 บัญชี เพิ่มราคาเป็น 219 บาทต่อเดือน (เพิ่มขึ้น 10 บาท จากเดิม 219 บาท)

สำหรับการประกาศเพิ่มราคาของบริการสตรีมมิ่งเพลงนั้น Apple ได้ประกาศเพิ่มราคาในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา ตามมาด้วย Amazon Music รวมถึง Tidal และ Youtube Music

ก่อนหน้านี้ Daniel Ek ซึ่งเป็น CEO ของ Spotify ได้กล่าวว่าบริษัทพร้อมที่จะประกาศขึ้นค่าบริการในช่วงการประกาศผลประกอบการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และปัจจุบันบริษัทมีผู้สมัครสมาชิกแบบเสียเงินราวๆ 210 ล้านคน เพิ่มมากขึ้นกว่า 15% จากปี 2021

ผลประกอบการของ Spotify ในปี 2022 ที่ผ่านมานั้นมีรายได้รวม 11,727 ล้านยูโร แต่ขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 430 ล้านยูโร โดย CEO ของบริษัทได้กล่าวว่าบริษัทได้เน้นลงทุนในเรื่องต่างๆ ที่จะทำให้บริษัทสามารถดึงดูดลูกค้าได้ ก่อนที่ท้ายที่สุดบริษัทจะต้องปรับขึ้นราคาแพ็กเกจ

โดยหลังจากนี้บริษัทจะส่งอีเมล์ให้กับลูกค้าถึงการปรับขึ้นราคาแพ็กเกจหลังจากนี้ และการปรับราคาขึ้นครั้งนี้ยังส่งผลดีต่อค่ายเพลงหลายค่ายที่จะได้รับส่วนแบ่งจาก Spotify มากขึ้น 

ที่มา – CNN, Engadget

]]>
1438841
ปรับโครงสร้างอีก! “Spotify” เลย์ออฟพนักงานเพิ่ม 200 คนในแผนก “พอดคาสต์” https://positioningmag.com/1433253 Tue, 06 Jun 2023 11:53:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433253 เพียงไม่กี่เดือนหลัง Spotify ประกาศปรับโครงสร้างเลย์ออฟพนักงานไปในรอบก่อน รอบนี้จะมีการปลดพนักงานอีกครั้งจำนวน 200 คน โดยปลดเฉพาะในแผนก “พอดคาสต์”

Sahar Elhabashi หัวหน้าแผนกพอดคาสต์ของ Spotify ส่งแจ้งเตือนภายในบริษัทว่า บริษัทกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลให้ต้องปลดพนักงาน 2% ของบริษัท หรือคิดเป็นจำนวน 200 ตำแหน่ง โดยขณะที่มีการแจ้งเตือนนี้ พนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับจดหมายแจ้งให้ติดต่อแผนกบุคคลเรียบร้อยแล้ว

“เรากำลังพยายามขยายความเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตพอดคาสต์ชั้นนำทั่วโลก โดยจะมีการดูแลพัฒนาแต่ละรายการและครีเอเตอร์แต่ละคนอย่างใกล้ชิด โครงสร้างพื้นฐานเช่นนี้จะทำให้เราสนับสนุนชุมชนครีเอเตอร์ได้ดีขึ้น” Elhabashi เขียนในแจ้งเตือน

“อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนั้นจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ในหลายเดือนที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของเราทำงานร่วมกับฝ่ายบุคคลเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรสำหรับนโยบายที่จะทำต่อจากนี้ ผลจากการปรับเปลี่ยน ทำให้เราต้องตัดสินใจครั้งสำคัญอย่างยากยิ่งในการปรับทีมและลดตำแหน่งในแผนกพอดคาสต์ทั่วโลกประมาณ 200 ตำแหน่ง หรือประมาณ 2% ของจำนวนพนักงานทั้งบริษัท”

Spotify สัญญาว่าพนักงานที่ได้รับผลกระทบถูกเลย์ออฟทั้งหมด จะได้แพ็กเกจชดเชยการให้ออกที่เหมาะสม และได้รับการสนับสนุนการช่วยหางานใหม่

ย้อนไปเมื่อปี 2019 แอปพลิเคชันแห่งนี้เคยเสี่ยงครั้งใหญ่ในการลงทุนกับ “พอดคาสต์” โดยเน้นเรื่องการดึงเอ๊กซ์คลูซีฟคอนเทนต์มาลงในแอปฯ ในปีนั้นบริษัทเข้าซื้อกิจการเครือข่ายพอดคาสต์ชื่อดังคือ Parcast และ Gimlet Media โดยใช้เม็ดเงินเทกโอเวอร์ 56 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,900 ล้านบาท) และ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,900 ล้านบาท) ตามลำดับ ถือเป็นการลงทุนที่สูงมากสำหรับ Spotify

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Spotify ดูจะเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ด้านการทำออริจินอล คอนเทนต์ที่ลงเฉพาะในแอปฯ ตนเองแล้ว โดยมีการรวบบริษัททั้ง Parcast และ Gimlet เข้ามารวมกับ Spotify Studios ไปเลย บางรายการที่เป็นที่นิยมจะยังได้รับการสนับสนุนให้ไปต่อ แต่มี 11 รายการที่ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปีที่แล้ว และทำให้พนักงานแผนกพอดคาสต์ถูกเลย์ออฟไปแล้ว 5% ของแผนก

จากการประกาศเลย์ออฟ ทำให้บริษัทแย้มข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับแผนกพอดคาสต์ว่า ปัจจุบันมีผู้ฟังพอดคาสต์บน Spotify กว่า 100 ล้านคนทั่วโลก โดยมีรายการอยู่บนแอปฯ มากกว่า 5 ล้านรายการ รวมถึงรายได้จากโฆษณาบนพอดคาสต์เติบโตได้แบบ “ดับเบิลดิจิต” ในช่วงระหว่างปี 2021-2022

Elhabashi บอกว่า เป้าหมายต่อไปของแผนกพอดคาสต์คือต้องการจะสร้างคุณค่าให้กับครีเอเตอร์ (และผู้ฟัง) ได้มากขึ้น และจะต้องเริ่มจากการสร้างฐานผู้ฟังขนาดใหญ่ มีการบริโภคคอนเทนต์พอดคาสต์ให้มากที่สุดที่ทำได้ ด้วยการสร้างนวัตกรรมรูปแบบใหม่ รวมถึงทำให้ครีเอเตอร์ประสบความสำเร็จให้มากกว่านี้

Source

]]>
1433253
Spotify เตรียมประกาศ “เลย์ออฟ” ภายในสัปดาห์นี้ อีกหนึ่งเทคคัมปะนีระดับโลกที่ปลดพนักงาน https://positioningmag.com/1416334 Mon, 23 Jan 2023 10:34:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1416334 ยักษ์ใหญ่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งดนตรีจากสวีเดน Spotify มีแผน “เลย์ออฟ” พนักงานภายในสัปดาห์นี้ เติมบัญชีรายชื่อเทคคัมปะนีระดับโลกที่มีการปลดพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น Apple, Google, Microsoft, Amazon ฯลฯ

สำนักข่าว Bloomberg รายงานจากแหล่งข่าววงในว่า Spotify มีแผนจะประกาศเลย์ออฟภายในสัปดาห์นี้ ส่วนจำนวนที่จะปลดออกนั้นยังอยู่ระหว่างพิจารณา

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Spotify รายงานว่าบริษัทมีพนักงานรวม 9,800 คน และปีที่ผ่านมามีการปลดพนักงานน้อยมากเพียง 38 คนเท่านั้น โดยเป็นการปลดในแผนกสตูดิโอพอดคาสต์ Gimlet Media และ Parcast ในเครือบริษัท

อย่างไรก็ตาม สัญญาณการจ้างงานที่ Spotify ก็เริ่มเห็นภาพเชิงลบมาตั้งแต่กลางปี 2022 หลังจาก “แดเนียล เอ็ค” ซีอีโอของบริษัทยืนยันว่าบริษัทจะลดจำนวนตำแหน่งงานจ้างใหม่ลง 25% เพราะต้องการดำเนินธุรกิจแบบระมัดระวังมากขึ้น

เทรนด์การปลดพนักงานของเทคคัมปะนีเกิดขึ้นทั่วโลกตั้งแต่ปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาที่ลดลง และความหวั่นเกรงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจจะเกิดขึ้น ประกอบกับบริษัทเทคโนโลยีส่วนมากมีการเพิ่มจำนวนคนรวดเร็วในระหว่างเกิดโรคระบาด ทำให้การปลดพนักงานเป็นเหมือนการดึงขนาดองค์กรให้กลับมาสู่จุดสมดุลมากขึ้น

บริษัทยักษ์ใหญ่หลายราย เช่น Alphabet, Amazon, Microsoft, Meta, Twitter, Apple ต่างมีการประกาศปลดพนักงานไปแล้ว รวมถึงบริษัทเทคที่มีขนาดรองๆ ลงมา เช่น Coinbase บริษัทด้านคริปโตเคเรนซีก็มีการประกาศเลย์ออฟ 20% ของบริษัท

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Layoffs.fyi ซึ่งติดตามดาต้าเรื่องการเลย์ออฟในกลุ่มบริษัทเทค พบว่าเฉพาะปี 2023 เปิดมาไม่ถึงเดือนดี ทั่วโลกมีการปลดพนักงานสายเทคไปแล้วมากกว่า 55,000 คน

Source

]]>
1416334