Taiwan – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 21 May 2024 12:00:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 TSMC และ ASML สามารถสั่งปิดเครื่องผลิตชิปรุ่นไฮเทคไม่ให้ทำงานได้ทันที ในกรณีถ้าจีนบุกไต้หวันขึ้นมาจริงๆ https://positioningmag.com/1474601 Tue, 21 May 2024 09:19:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1474601 นักวิเคราะห์หลายแห่งได้มองว่าการที่จีนบุกไต้หวันนั้น ส่วนหนึ่งมาจากไต้หวันมีเทคโลยีการผลิตชิปที่ทันสมัยซึ่งเป็นสิ่งที่จีนไม่มี แต่ล่าสุดมีรายงานข่าวจาก Bloomberg ว่าถ้าหากจีนบุกไต้หวันขึ้นมาจริงๆ เครื่องผลิตชิปไฮเทคเหล่านี้จะถูกปิดการทำงานทันที และไม่สามารถใข้งานได้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน และ ASML ผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปนั้นสามารถที่จะสั่งปิดการทำงานของเครื่องผลิตชิปรุ่นไฮเทคอย่างรุ่น EUV ได้ทันทีถ้าหากจีนมีการบุกเกาะไต้หวัน

แหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวชี้ว่า ตัวแทนของ ASML ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับประธานของ TSMC เคยกล่าวว่าถ้าหากจีนได้ใช้กำลังทางทหารแล้วก็จะไม่สามารถทำการผลิตชิปที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงได้

เครื่องผลิตชิปรุ่นไฮเทคอย่างรุ่น EUV ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับขนาดรถบัสขนาดใหญ่ 1 คันของ ASML นั้นสามารถที่จะผลิตชิปขนาดต่ำกว่า 5 นาโนเมตรลงมาได้ เช่น ขนาด 3 นาโนเมตร ซึ่งชิปเหล่านี้มีความไฮเทค กินพลังงานต่ำ ประสิทธิภาพสูงกว่าชิปทั่วไปหลายเท่าตัว

ปัจจุบันการผลิตชิปในระดับ 5 นาโนเมตรลงมา แหล่งการผลิตที่ใหญ่ที่สุดคือไต้หวัน ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 90%

ในขณะที่จีนสามารถผลิตชิปได้ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตรเท่านั้น โดยใช้เครื่องผลิตชิป DUV ของ ASML ซึ่งไม่สามารถผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตไฮเทคได้ ส่งผลทำให้จีนมีความพยายามอย่างมากในการที่จะผลิตชิปที่ทันสมัยกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนเม็ดเงิน หรือแม้แต่การวิจัย

นอกจากนี้ในรายงานดังกล่าวยังได้กล่าวถึงเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลในกรณีถ้าหากจีนได้บุกไต้หวันกับเนเธอร์แลนด์ซึ่งมีสำนักงานและโรงงานผลิตเครื่องผลิตชิปของ ASML รวมถึงไต้หวัน ว่าจะมีวิธีการใดที่จะทำให้จีนนั้นไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการผลิตชิปรุ่นใหม่ โดยเฉพาะชิปที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง

ASML ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ถูกรัฐบาลหลายประเทศเข้าแทรกแซง เนื่องจากบริษัทเป็นเพียงบริษัทเดียวในโลกที่สามารถผลิตเครื่องผลิตชิปที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้ามากที่สุด (ณ ช่วงเวลานี้) โดยสหรัฐฯ ได้กดดันผ่านรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ไม่ให้ขายหรือแม้แต่ซ่อมบำรุงเครื่องผลิตชิปให้กับจีนอีกต่อไป ขณะที่จีนเองก็กดดันบริษัทให้ขายหรือแม้แต่มีการเข้าบำรุงดูแลเครื่องผลิตชิป

ขณะที่เนเธอร์แลนด์ได้มีการทดสอบโมเดลจำลองว่าถ้าหากจีนบุกไต้หวันจริงๆ จะมีความเสี่ยงด้านใดบ้าง ซึ่ง 1 ในปัจจัยเสี่ยงคือเครื่องผลิตชิปจาก ASML นั่นเอง และปัจจุบัน ASML มีลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทนั่นก็คือ TSMC

]]>
1474601
ญี่ปุ่นอาจเป็นฮับในการผลิตชิปอีกประเทศ หลัง TSMC สนใจตั้งโรงงานเพิ่ม มีเทคโนโลยีการผลิต 3 นาโนเมตร https://positioningmag.com/1452628 Tue, 21 Nov 2023 05:14:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452628 TSMC ยักษ์ใหญ่การผลิตชิปจากไต้หวัน กำลังสนใจที่จะตั้งโรงงานในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติมจาก 2 โรงงานแรก ซึ่งโรงงานแห่งใหม่จะมีเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ 3 นาโนเมตร ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในเวลานี้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน กำลังพิจารณาการตั้งโรงงานแห่งที่ 3 ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติม และบริษัทเริ่มบอกแผนการดังกล่าวให้กับลูกค้ารายใหญ่อย่าง Apple และ Nvidia แล้ว

โรงงานดังกล่าวของ TSMC นั้นจะอยู่ในเมืองคุมาโมโตะ ซึ่งใกล้กับโรงงานแห่งแรกและแห่งที่สองซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในเวลานี้ และโรงงานผลิตชิปแห่งที่ 3 นี้จะมีเทคโนโลยีการผลิตชิป 3 นาโนเมตรอยู่ด้วย โดยชื่อรหัสของโรงงานดังกล่าวคือ TSMC Fab-23 Phase 3

นอกจากนี้สื่อรายดังกล่าวยังรายงานว่า TSMC ได้เริ่มพูดคุยแผนการดังกล่าวกับบริษัทที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Apple รวมถึง Nvidia แล้ว

สำหรับเทคโนโลยีของโรงงานที่ 3 ถ้าหากแล้วเสร็จจะถือว่ามีความทันสมัยที่สุดในญี่ปุ่น โดยโรงงานแรกของ TSMC นั้นใช้เทคโนโลยีในการผลิตชิปที่ 28 และ 22 นาโนเมตร ขณะที่โรงงานแห่งที่สองจะใช้เทคโนโลยีการผลิตชิปที่ 6 นาโนเมตร ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2027

การตั้งโรงงานในประเทศญี่ปุ่นแห่งที่ 3 ของ TSMC ยังจะทำให้ญี่ปุ่นกำลังจะกลายเป็นแหล่งการผลิตชิปโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอีกแห่งในทวีปเอเชีย ที่ปัจจุบันมีเพียงแค่ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ เท่านั้น

ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นได้ชักชวนให้ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศมาแล้ว โดยผ่านเม็ดเงินสนับสนุน ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามาตั้งฐานการผลิต ไม่ว่าจะเป็น Micron หรือแม้แต่ Samsung ขณะเดียวกันรัฐบาลยังผลักดันผู้ผลิตชิปในประเทศอย่าง Radius ที่เป็นการร่วมทุนของบริษัทญี่ปุ่น ที่มีความพยายามจะผลิตชิปโดยใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตร

ขณะที่ TSMC ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปรายนี้ก็ได้กระจายฐานการผลิตออกนอกไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รวมถึงในเยอรมัน ซึ่งรัฐบาลหลายแห่งได้ให้เม็ดเงินสนับสนุนในการตั้งโรงงานในประเทศของตน เพื่อที่จะกระจายความเสี่ยงในเรื่องของ Supply Chain

อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวได้กล่าวว่าช่วงเวลาในการเริ่มก่อสร้างนั้นยังไม่ชัดเจน ซึ่งแผนการดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

]]>
1452628
TSMC ติดโผ 10 บริษัทใหญ่ที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย หลังมูลค่าหุ้นแตะ 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ https://positioningmag.com/1433961 Wed, 14 Jun 2023 05:03:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433961 TSMC ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจากไต้หวัน ล่าสุดบริษัทสามารถติด 1 ใน 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้แล้ว โดยเขี่ยยักษ์ใหญ่อีกรายอย่าง Visa ลงจากตำแหน่ง นอกจากนี้บริษัทยังเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่สุดในเอเชีย แซงหน้า Tencent แล้วอีกด้วย

โดยมูลค่าของบริษัทจากไต้หวันรายนี้อยู่ที่ 553,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 17 ล้านล้านบาท หลังจากที่ราคาหุ้นของ TSMC มีราคาเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี 2023 จนถึงวันนี้ถึง 32.22% ทำให้บริษัทติดอันดับ 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกทันที

สำหรับจุดเด่นของ TSMC คือเทคโนโลยีการผลิตชิปที่นำหน้าคู่แข่งรายอื่น ไม่ว่าจะเป็น Samsung ที่เป็นคู่แข่งที่มีความสูสีมากสุด และทิ้งห่าง Intel ไปไม่เห็นฝุ่น ทำให้บริษัทอื่นอย่าง Apple หรือ Nvidia ได้จ้างให้ผู้ผลิตชิปจากไต้หวันรายนี้ผลิตชิปให้

นอกจากนี้การเข้ามาของเทคโนโลยี AI ยังทำให้ความต้องการผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูงเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะใช้ในการฝึกฝน AI และเก็บข้อมูลต่างๆ ทำให้ TSMC ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนได้

มูลค่าบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกล่าสุดนั้นมี 8 บริษัทที่มาจากสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Apple ที่ยังครองแชมป์บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองลงมาคือ Microsoft มีเพียง 2 บริษัทที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกานั่นก็คือ Saudi Aramco ผู้ผลิตน้ำมันจากซาอุดีอาระเบีย และ TSMC จากไต้หวัน

 

]]>
1433961
ไปต่อไม่รอแล้วนะ TSMC เริ่มทดลองผลิตชิป 2 นาโนเมตรแล้ว คาดผลิตจำนวนมากได้ภายในปี 2025 https://positioningmag.com/1433247 Tue, 06 Jun 2023 12:42:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433247 TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน ล่าสุดได้ทดลองผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 2 นาโนเมตรแล้ว และคาดว่าจะมีการผลิตจำนวนมากได้ภายในปี 2025 โดยคาดว่าลูกค้ากลุ่มแรกของบริษัทจะเป็นลูกค้ารายใหญ่อย่าง Apple รวมถึง Nvidia

สื่อธุรกิจในไต้หวันอย่าง Economic Daily News ได้รายงานข่าวว่า TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ได้เตรียมเริ่มเดินสายการผลิตชิประดับ 2 นาโนเมตรแล้ว และคาดว่าจะผลิตชิปได้เป็นจำนวนมากในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2025 และจะมีการใช้เทคโนโลยีการผลิตเล็กกว่า 2 นาโนเมตรได้ภายในปี 2026

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นตามมาหลังจากในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับ 3 นาโนเมตรในระดับจำนวนมากได้แล้ว

สำหรับชิปที่ใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรจะใช้พลังงานต่ำลงกว่าชิปที่ใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตร ไม่น้อยกว่า 25% และมีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงกว่าถึง 15% ซึ่งคาดว่าลูกค้ากลุ่มแรกๆ ที่จะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวก็คือ Apple และ Nvidia

เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรที่ TSMC ใช้งานนั้นได้ใช้วิศวกรเพื่อการพัฒนาและวิจัยเทคโนโลยีดังกล่าวมากถึง 1,000 ราย ซึ่งโรงงานที่ผลิตจะอยู่ในภาคใต้ของไต้หวัน

ขณะเดียวกันยังมีข่าวว่า TSMC จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้เพื่อรีดประสิทธิภาพในการผลิตให้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการใช้พลังงานในการผลิต หรือแม้แต่ความแม่นยำในการผลิตนั้นดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้กำไรของบริษัทสูงมากขึ้น

ปัจจุบันคำสั่งซื้อของ Apple และ Nvidia คิดเป็นสัดส่วนรายได้มากกว่า 1 ใน 4 ของรายได้รวมของ TSMC ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี TSMC ได้ออกมากล่าวว่าการวิจัยและพัฒนาการผลิตชิปโดยใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรนั้นยังเป็นไปตามเป้าเวลาของบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังกล่าวว่าชิปที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตดังกล่าวจะผลิตได้จำนวนมากได้ภายในปี 2025 ซึ่งตรงกับรายงานของสื่อรายดังกล่าว

ข่าวที่ออกมาดังกล่าวยังเป็นแรงกดดันต่อคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Samsung ที่เป็นคู่แข่งรายสำคัญในการผลิตชิปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Intel หรือ GlobalFoundries ฯลฯ ไม่สามารถที่จะแข่งขันกับ TSMC ได้เนื่องจากไม่สามารถไล่ตามเทคโนโลยีการผลิตได้ทัน

]]>
1433247
TSMC เจรจาเพื่อรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเยอรมันสูงถึง 50% เพื่อสร้างโรงงานในประเทศ https://positioningmag.com/1432153 Sat, 27 May 2023 07:51:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1432153 ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจากไต้หวันอย่าง TSMC ได้เจรจาเพื่อรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเยอรมันสูงถึง 50% เพื่อสร้างโรงงานในประเทศเยอรมัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาสหภาพยุโรปได้ผลักดันแผนการดังกล่าว เพื่อที่จะทำให้ EU ฮับในด้านเซมิคอนดักเตอร์อีกแห่ง

สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า TSMC ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจากไต้หวัน ได้พูดคุยกับรัฐบาลเยอรมัน เพื่อที่จะขอรับเงินอุดหนุนในการมาตั้งโรงงานในประเทศเยอรมัน ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินอุดหนุนที่ทางบริษัทจากไต้หวันได้ขอนั้นอาจสูงถึง 50% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด

โดยโรงงานของ TSMC คาดว่าจะตั้งในเมือง Dresden คาดว่าจะใช้เงินก่อสร้างโรงงานดังกล่าวมากถึง 10,000 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว 372,777 ล้านบาท ทำให้บริษัทจากไต้หวันรายดังกล่าวได้ขอรับเงินอุดหนุนจากเยอรมัน รวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเพื่อที่จะสร้างโรงงานดังกล่าวให้สำเร็จได้

ขณะเดียวกันรัฐบาลเยอรมันกำลังเจรจากับบริษัทอื่น ได้แก่ Bosch และ Infineon Technologies รวมถึง NXP Semiconductors ในเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อที่จะมีการตั้งโรงงานในเยอรมัน ซึ่งหลายบริษัทนั้นเป็นซัพพลายเออร์ของ TSMC ด้วย

กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวในแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวว่าอยู่ในขั้นตอนการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างใกล้ชิดกับ TSMC โดยมีจุดประสงค์เพื่อหารือร่วมกันเกี่ยวกับข้อตกลงเบื้องต้นสำหรับการตัดสินใจลงทุน

ก่อนหน้านี้ทาง สหภาพยุโรป (EU) เตรียมงบลงทุนก้อนใหญ่มากถึง 43,000 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1.6 ล้านล้านบาท ภายใต้ข้อตกลง “EU Chips Act” หวังที่จะเป็นฮับในด้านเซมิคอนดักเตอร์อีกแห่ง โดยงบที่ลงทุนไปดังกล่าวคาดหวังว่าจะทำให้ยุโรปครองส่วนแบ่งในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ได้ราวๆ 20% ภายในปี 2030

อย่างไรก็ดีคาดว่าเม็ดเงินอุดหนุนที่รัฐบาลเยอรมันที่ให้กับ TSMC คาดว่าจะให้สัดส่วนเท่ากับรัฐบาลญี่ปุ่นที่ช่วยเหลือ TSMC ในการตั้งโรงงานในแดนอาทิตย์อุทัยที่สัดส่วน 40% ของมูลค่าการลงทุน

ถ้าหาก TSMC ได้มาตั้งโรงงานอีกแห่งในทวีปยุโรปจริงๆ จะถือว่าเป็นความสำเร็จของสหภาพยุโรปที่ทำให้ยักษ์ใหญ่ผลิตชิปจากไต้หวันสามารถมาตั้งโรงงานในทวีปนี้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้กระจายฐานการผลิตนอกจากในไต้หวันมาแล้ว

]]>
1432153
LHFG ชูกลยุทธ์เน้นรายได้จากกลุ่มลูกค้ารายย่อย มองสินเชื่อรวมโตได้ 8-10% ในปีนี้ https://positioningmag.com/1421559 Fri, 03 Mar 2023 04:22:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1421559 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประกาศกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2023 นี้ โดยโฟกัสรายได้หลักมายังกลุ่มลูกค้ารายย่อย รวมถึง SME เพื่อที่จะกระจายรายได้ นอกจากนี้การย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมายังอาเซียนยังส่งผลดีต่อกลุ่มฯ เนื่องจากปริมาณธุรกรรมเพิ่มมากขึ้น

ฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องราว 3.7% โดยได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวการจ้างงานและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น คาดว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาไทยอาจสูงถึง 25.5 ล้านคน อย่างไรก็ดี หลังจากที่ตัวเลข GDP ได้ประกาศออกมาเติบโตเหลือแค่ 2.6% อาจทำให้ทางกลุ่มฯ ปรับตัวเลข GDP ใหม่ได้

ทางด้านอัตราเงินเฟ้อของไทยคาดว่าจะทยอยปรับลดลงตามราคาพลังงาน อย่างไรก็ดี LHFG ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เช่น การฟื้นตัวของรายได้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจบางกลุ่มที่เปราะบาง การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

นอกจากนี้ทาง LHFG ยังมีมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยอ้างอิงจากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มองว่าเศรษฐกิจโต 2.9% มองว่าหลายพื้นที่ทั่วโลกเศรษฐกิจจะมีโอกาสชะลอตัวลง แต่ก็มีโอกาสว่าจีนอาจฟื้นตัว ซึ่งเศรษฐกิจไทยนั้นพึ่งพาสภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างมาก

ในปี 2022 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของ LHFG มีกำไรสุทธิ 1,579 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย

กลยุทธ์ของธนาคารปี 2023 นี้ LHFG จะเน้นการเติบโตพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดี หรือ กลุ่ม Higher Yield ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรายย่อย หรือแม้แต่ SME รวมถึงการจับมือกับพันธมิตร เช่น บริษัท E-commerce ในการปล่อยสินเชื่อ ทางกลุ่มฯ คาดว่าสินเชื่อรวมจะเติบโตในช่วง 8-10% ในการขายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่อง (Cross Selling) ผลิตภัณฑ์ของธนาคาร รวมถึงการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม

นอกจากนี้การย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศจีน ยังสร้างผลดีให้กับกลุ่มฯ โดยเฉพาะลูกค้าจากไต้หวันที่เป็นกลุ่มภาคการผลิต ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เคมีภัณฑ์ ฯลฯ เนื่องจากปริมาณธุรกรรม และสินเชื่อที่เติบโตมากขึ้น หลังจากที่ทางกลุ่มฯ มองว่าลูกค้ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับธุรกิจในกลุ่มอย่าง บริษัทหลักทรัพย์นั้นจะเพิ่มช่องทางบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงผนวกบริการผ่าน Mobile Banking ของ LH Bank ส่วนธุรกิจบริหารกองทุนรวม กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นไปที่กองทุนส่วนบุคคลทั้งในส่วนสถาบันและลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง

ทางกลุ่มฯ ยังได้กล่าวถึงการพัฒนารวมถึงใช้ช่องทาง Digital มากขึ้น โดยในระยะยาวธนาคารคาดว่าช่องทางดิจิทัลจะเป็นช่องทางหลักมากถึง 90%

โดยแผนระยะยาวในปี 2027 ทางกลุ่มฯ คาดว่าสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าบริษัทรายใหญ่ 35% ลูกค้า SME 30% ลูกค้ารายย่อย 30% ลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น 4 เท่าจากปัจจุบัน

]]>
1421559
TSMC เริ่มผลิตชิปเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรจำนวนมากแล้ว ชี้ความต้องการลูกค้าสูง https://positioningmag.com/1414317 Fri, 30 Dec 2022 07:03:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1414317 ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจากไต้หวันอย่าง TSMC ได้ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุด 3 นาโนเมตรให้กับลูกค้าจำนวนมากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมที่จะสร้างโรงงานผลิตชิปด้วยเทคโลยี 2 นาโนเมตรหลังจากนี้ ขณะเดียวกันประธานบริษัทยืนยันถึงความต้องการลูกค้าที่ต้องการชิปที่มีเทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัยที่มีจำนวนมากด้วย

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกจากไต้หวัน ได้ประกาศความสำเร็จในการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรจำนวนมากเป็นที่สำเร็จแล้ว และบริษัทยังกล่าวว่าเตรียมที่จะขยายกำลังการผลิตหลังจากนี้ หลังจากความต้องการของลูกค้าสูง

ความต้องการชิปที่เทคโนโลยี 3 นาโนเมตรนั้นมาจากเทคโนโลยี 5G ที่ต้องการความรวดเร็วในการประมวลผล รวมถึงชิปประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น ชิปของการ์ดจอ เป็นต้น โดยเทคโนโลยีการผลิต 3 นาโนเมตรนี้สามารถลดการใช้พลังงานจากเทคโนโลยี 5 นาโนเมตรถึง 35%

ลูกค้ารายใหญ่ของ TSMC นั้นต่างต้องการชิปที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น Apple ที่ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่สุดของบริษัท รองลงมาคือ Nvidia และ AMD ที่แต่ละบริษัทต่างรอคิวที่จะใช้เทคโนโลยีล่าสุดนี้ในการผลิตชิปรุ่นใหม่

ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวันรายนี้มีโรงงานหลักที่มีเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดอยู่ในไต้หวันหลายโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร หรือ 5 นาโนเมตร และมีแผนในการขยายการผลิตชิปออกนอกไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา รวมถึงล่าสุดมีแผนที่จะตั้งโรงงานผลิตชิปบนทวีปยุโรปอีกด้วย

Mark Liu ประธานของ TSMC ได้กล่าวว่าการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรนี้จะสามารถสร้างสินค้าให้กับผู้บริโภคได้ใช้งานซึ่งมีมูลค่าตลาดจากการผลิตชิปรุ่นดังกล่าวนี้มากถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลา 5 ปี และเขายืนยันถึงความต้องการลูกค้าที่ต้องการชิปที่มีเทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัยที่มีจำนวนมากด้วย

ปัจจุบันกำลังการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดนั้นอยู่ในไต้หวันด้วยสัดส่วนมากถึง 90%

ไม่เพียงเท่านี้บริษัทยังเตรียมที่จะผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรหลังจากนี้ โดยเตรียมสร้างโรงงานในภาคกลางและภาคเหนือของไต้หวัน และยังยืนยันว่ากำลังการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดส่วนใหญ่จะยังอยู่ในไต้หวัน ไม่ใช่ที่ต่างประเทศแต่อย่างใด

]]>
1414317
TSMC เตรียมใช้โรงงานที่สหรัฐฯ ผลิตชิป 3 นาโนเมตร หลัง Apple ต้องการสินค้าจำนวนมาก https://positioningmag.com/1410763 Thu, 01 Dec 2022 11:33:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1410763 สำนักข่าวต่างประเทศทั้ง Reuters และ Bloomberg รายงานว่า บริษัทผลิตชิปจากไต้หวันอย่าง TSMC เตรียมที่จะเปลี่ยนแผนการผลิตชิปที่โรงงานในสหรัฐอเมริกา จากเดิมที่จะใช้เทคโนโลยีการผลิต 5 นาโนเมตร แต่ล่าสุดด้วยความต้องการจากลูกค้ารายสำคัญอย่าง Apple ที่ต้องการชิปจำนวนมาก ทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนแผนการดังกล่าว

โรงงานในรัฐแอริโซนาที่ TSMC ลงทุนมากถึง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ไฮเทคกว่านั่นก็คือการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรเพิ่มเติมด้วย โดยโรงงานผลิตชิปนี้จะตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานแรกของ TSMC ซึ่งใช้เทคโนโลยี 5 นาโนเมตร

ปัจจัยที่ทำให้ TSMC เปลี่ยนใจเนื่องจาก Apple ได้กล่าวว่าจะใช้ชิปของ TSMC ในโรงงานที่สหรัฐอเมริกาในการผลิตสินค้าของบริษัท ซึ่งปัจจุบันยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีรายนี้ถือว่าเป็นลูกค้าสำคัญและทำรายได้ให้กับ TSMC มากถึง 1 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น AMD รวมถึง Nvidia ซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญรองลงมาจาก Apple ขอให้ TSMC เปลี่ยนแผนเพิ่มการผลิตชิป 3 นาโนเมตรในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมองว่าในปี 2024 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โรงงานเริ่มผลิตชิปได้นั้น เทคโนโลยี 5 นาโนเมตรในช่วงเวลาดังกล่าวถือว่าล้าสมัยไปแล้ว

โดยโรงงานของ TSMC ในสหรัฐอเมริกา ได้สิทธิประโยชน์จากกฎหมายหนุนศักยภาพผลิตชิปคอมพิวเตอร์ (Chips Act) ที่รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนเม็ดเงินมากถึง 52,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ไปตั้งฐานการผลิตในประเทศ เพื่อที่จะลดปัญหา Supply Chain หยุดชะงัก รวมถึงทำให้สหรัฐอเมริกากลับมาเป็นผู้นำด้านการผลิตชิปในอนาคต

ในช่วงสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ โรงงานในรัฐแอริโซนาของ TSMC จะมีบุคคลสำคัญอย่าง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไปเยี่ยมชมการก่อสร้าง คาดว่าจะมีแขกระดับ VIP ซึ่งรวมถึง CEO บริษัทต่างๆ ที่เป็นลูกค้าของ TSMC ที่ได้กล่าวไปข้างต้นไปเยี่ยมชมด้วยเช่นกัน

ที่มา – Bloomberg, Reuters [1], [2]

]]>
1410763
ผลสำรวจเผย อาเซียนคือเป้าหมายของบริษัทไต้หวันที่เตรียมย้ายฐานการผลิตจากจีน https://positioningmag.com/1403743 Sun, 09 Oct 2022 08:37:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1403743 ผลสำรวจจากศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS) ได้จัดทำผลสำรวจบริษัทไต้หวันที่มีฐานการผลิตในประเทศจีนในช่วงเดือนกรกฎาคม ก่อนการเยือนของ แนนซี่ เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่าบริษัทไต้หวันมีแผนที่จะย้ายการผลิตออกจากประเทศจีน และหลายบริษัทเองได้ย้ายกำลังการผลิตออกจากจีนบางส่วนแล้ว

รายงานของ CSIS ได้ชี้ว่าเป้าหมายของบริษัทไต้หวันที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนนั่นก็คือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือการย้ายกลับไต้หวัน รวมถึงย้ายไปยังประเทศในเอเชียเหนือ อย่าง ญี่ปุ่น หรือแม้แต่เกาหลีใต้

ไม่เพียงเท่านี้ในรายงานฉบับนี้ยังชี้ถึงการทำธุรกิจในประเทศจีนนั้นแม้ว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ประเทศจีนเพื่อลงทุนอย่างมหาศาล แต่การดำเนินธุรกิจในประเทศจีนเองกลับไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด รวมถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีนก็ทำให้หลายบริษัทในไต้หวันที่มีการลงทุนในจีนก็เริ่มที่จะทนไม่ไหวกับนโยบายนี้

การที่บริษัทไต้หวันสนใจมาลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นส่วนหนึ่งนั้นเป็นผลมาจากความพยายามของรัฐบาลที่ผลักดันนโยบาย New Southbound Policy ที่เปิดความร่วมมือใหม่ๆ กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุน ไปจนถึงการท่องเที่ยว ฯลฯ

สำหรับนโยบายด้านการค้าที่บริษัทไต้หวันต้องการมากที่สุดคือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งถือเป็นความตกลงการค้าเสรีที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยจีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงอาเซียน รองลงมาคือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ที่มีสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เป็นประเทศหลักในข้อตกลงดังกล่าว

ด้านมุมมองที่บริษัทในไต้หวันมองว่าการที่จะทำให้ไต้หวันยังได้เปรียบและเป็นผู้นำด้านต่างๆ ได้คือไต้หวันจะต้องมีการวิจัยและพัฒนาด้านต่างๆ ในแผ่นดินของไต้หวัน รองลงมาคือห้ามส่งออกด้านเทคโนโลยี รวมถึงการห้ามบริษัทจีนไม่ให้ลงทุนในไต้หวัน

ที่มา – รายงานของ CSIS

]]>
1403743
สหรัฐฯ-ไต้หวัน เปิดการเจรจาด้านการค้าอย่างเป็นทางการแล้ว https://positioningmag.com/1396644 Thu, 18 Aug 2022 05:30:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1396644 สหรัฐอเมริกาและไต้หวันเริ่มการเจรจาการค้าอย่างเป็นทางการแล้วภายใต้แผนความคิดริเริ่มใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาณสนับสนุนไต้หวัน หลังจากที่ความตึงเครียดของ 2 มหาอำนาจทั้งสหรัฐฯ และจีน เพิ่มมากขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

ผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่าการเจรจาการค้ากับไต้หวันจะเพิ่มปริมาณการค้า ความร่วมมือด้านการกำกับดูแล และครอบคลุมตั้งแต่ด้านการเกษตร ด้านแรงงาน ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านเทคโนโลยี เป็นต้น หรือแม้แต่การลดกำแพงด้านการค้าลง

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีแผนการริเริ่มด้านการค้าในศตวรรษที่ 21 เพียงไม่กี่วันหลังจากฝ่ายบริหารของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศไม่รวมไต้หวันอยู่ในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกที่มีประเทศต่างๆ เข้าร่วมแล้วกว่า 13 ประเทศ

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับไต้หวันนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หรือแม้แต่การไปเยือนไต้หวันของสมาชิกสภาคองเกรส 5 ราย ส่งผลทำให้ทางฝั่งของจีนแสดงความไม่พอใจสหรัฐอเมริกาในเรื่องนโยบายจีนเดียว

คาดว่าการเจรจาในรอบแรกของทั้ง 2 ฝ่ายคาดว่าจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ 

ที่มา – ABC, Reuters

]]>
1396644