Taiwan – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 21 Nov 2023 06:04:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ญี่ปุ่นอาจเป็นฮับในการผลิตชิปอีกประเทศ หลัง TSMC สนใจตั้งโรงงานเพิ่ม มีเทคโนโลยีการผลิต 3 นาโนเมตร https://positioningmag.com/1452628 Tue, 21 Nov 2023 05:14:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452628 TSMC ยักษ์ใหญ่การผลิตชิปจากไต้หวัน กำลังสนใจที่จะตั้งโรงงานในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติมจาก 2 โรงงานแรก ซึ่งโรงงานแห่งใหม่จะมีเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ 3 นาโนเมตร ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในเวลานี้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน กำลังพิจารณาการตั้งโรงงานแห่งที่ 3 ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติม และบริษัทเริ่มบอกแผนการดังกล่าวให้กับลูกค้ารายใหญ่อย่าง Apple และ Nvidia แล้ว

โรงงานดังกล่าวของ TSMC นั้นจะอยู่ในเมืองคุมาโมโตะ ซึ่งใกล้กับโรงงานแห่งแรกและแห่งที่สองซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในเวลานี้ และโรงงานผลิตชิปแห่งที่ 3 นี้จะมีเทคโนโลยีการผลิตชิป 3 นาโนเมตรอยู่ด้วย โดยชื่อรหัสของโรงงานดังกล่าวคือ TSMC Fab-23 Phase 3

นอกจากนี้สื่อรายดังกล่าวยังรายงานว่า TSMC ได้เริ่มพูดคุยแผนการดังกล่าวกับบริษัทที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Apple รวมถึง Nvidia แล้ว

สำหรับเทคโนโลยีของโรงงานที่ 3 ถ้าหากแล้วเสร็จจะถือว่ามีความทันสมัยที่สุดในญี่ปุ่น โดยโรงงานแรกของ TSMC นั้นใช้เทคโนโลยีในการผลิตชิปที่ 28 และ 22 นาโนเมตร ขณะที่โรงงานแห่งที่สองจะใช้เทคโนโลยีการผลิตชิปที่ 6 นาโนเมตร ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2027

การตั้งโรงงานในประเทศญี่ปุ่นแห่งที่ 3 ของ TSMC ยังจะทำให้ญี่ปุ่นกำลังจะกลายเป็นแหล่งการผลิตชิปโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอีกแห่งในทวีปเอเชีย ที่ปัจจุบันมีเพียงแค่ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ เท่านั้น

ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นได้ชักชวนให้ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศมาแล้ว โดยผ่านเม็ดเงินสนับสนุน ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามาตั้งฐานการผลิต ไม่ว่าจะเป็น Micron หรือแม้แต่ Samsung ขณะเดียวกันรัฐบาลยังผลักดันผู้ผลิตชิปในประเทศอย่าง Radius ที่เป็นการร่วมทุนของบริษัทญี่ปุ่น ที่มีความพยายามจะผลิตชิปโดยใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตร

ขณะที่ TSMC ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปรายนี้ก็ได้กระจายฐานการผลิตออกนอกไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รวมถึงในเยอรมัน ซึ่งรัฐบาลหลายแห่งได้ให้เม็ดเงินสนับสนุนในการตั้งโรงงานในประเทศของตน เพื่อที่จะกระจายความเสี่ยงในเรื่องของ Supply Chain

อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวได้กล่าวว่าช่วงเวลาในการเริ่มก่อสร้างนั้นยังไม่ชัดเจน ซึ่งแผนการดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

]]>
1452628
TSMC ติดโผ 10 บริษัทใหญ่ที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย หลังมูลค่าหุ้นแตะ 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ https://positioningmag.com/1433961 Wed, 14 Jun 2023 05:03:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433961 TSMC ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจากไต้หวัน ล่าสุดบริษัทสามารถติด 1 ใน 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้แล้ว โดยเขี่ยยักษ์ใหญ่อีกรายอย่าง Visa ลงจากตำแหน่ง นอกจากนี้บริษัทยังเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่สุดในเอเชีย แซงหน้า Tencent แล้วอีกด้วย

โดยมูลค่าของบริษัทจากไต้หวันรายนี้อยู่ที่ 553,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 17 ล้านล้านบาท หลังจากที่ราคาหุ้นของ TSMC มีราคาเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี 2023 จนถึงวันนี้ถึง 32.22% ทำให้บริษัทติดอันดับ 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกทันที

สำหรับจุดเด่นของ TSMC คือเทคโนโลยีการผลิตชิปที่นำหน้าคู่แข่งรายอื่น ไม่ว่าจะเป็น Samsung ที่เป็นคู่แข่งที่มีความสูสีมากสุด และทิ้งห่าง Intel ไปไม่เห็นฝุ่น ทำให้บริษัทอื่นอย่าง Apple หรือ Nvidia ได้จ้างให้ผู้ผลิตชิปจากไต้หวันรายนี้ผลิตชิปให้

นอกจากนี้การเข้ามาของเทคโนโลยี AI ยังทำให้ความต้องการผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูงเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะใช้ในการฝึกฝน AI และเก็บข้อมูลต่างๆ ทำให้ TSMC ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนได้

มูลค่าบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกล่าสุดนั้นมี 8 บริษัทที่มาจากสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Apple ที่ยังครองแชมป์บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองลงมาคือ Microsoft มีเพียง 2 บริษัทที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกานั่นก็คือ Saudi Aramco ผู้ผลิตน้ำมันจากซาอุดีอาระเบีย และ TSMC จากไต้หวัน

 

]]>
1433961
ไปต่อไม่รอแล้วนะ TSMC เริ่มทดลองผลิตชิป 2 นาโนเมตรแล้ว คาดผลิตจำนวนมากได้ภายในปี 2025 https://positioningmag.com/1433247 Tue, 06 Jun 2023 12:42:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1433247 TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน ล่าสุดได้ทดลองผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 2 นาโนเมตรแล้ว และคาดว่าจะมีการผลิตจำนวนมากได้ภายในปี 2025 โดยคาดว่าลูกค้ากลุ่มแรกของบริษัทจะเป็นลูกค้ารายใหญ่อย่าง Apple รวมถึง Nvidia

สื่อธุรกิจในไต้หวันอย่าง Economic Daily News ได้รายงานข่าวว่า TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ได้เตรียมเริ่มเดินสายการผลิตชิประดับ 2 นาโนเมตรแล้ว และคาดว่าจะผลิตชิปได้เป็นจำนวนมากในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2025 และจะมีการใช้เทคโนโลยีการผลิตเล็กกว่า 2 นาโนเมตรได้ภายในปี 2026

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นตามมาหลังจากในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับ 3 นาโนเมตรในระดับจำนวนมากได้แล้ว

สำหรับชิปที่ใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรจะใช้พลังงานต่ำลงกว่าชิปที่ใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตร ไม่น้อยกว่า 25% และมีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงกว่าถึง 15% ซึ่งคาดว่าลูกค้ากลุ่มแรกๆ ที่จะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวก็คือ Apple และ Nvidia

เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรที่ TSMC ใช้งานนั้นได้ใช้วิศวกรเพื่อการพัฒนาและวิจัยเทคโนโลยีดังกล่าวมากถึง 1,000 ราย ซึ่งโรงงานที่ผลิตจะอยู่ในภาคใต้ของไต้หวัน

ขณะเดียวกันยังมีข่าวว่า TSMC จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้เพื่อรีดประสิทธิภาพในการผลิตให้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการใช้พลังงานในการผลิต หรือแม้แต่ความแม่นยำในการผลิตนั้นดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้กำไรของบริษัทสูงมากขึ้น

ปัจจุบันคำสั่งซื้อของ Apple และ Nvidia คิดเป็นสัดส่วนรายได้มากกว่า 1 ใน 4 ของรายได้รวมของ TSMC ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี TSMC ได้ออกมากล่าวว่าการวิจัยและพัฒนาการผลิตชิปโดยใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรนั้นยังเป็นไปตามเป้าเวลาของบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังกล่าวว่าชิปที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตดังกล่าวจะผลิตได้จำนวนมากได้ภายในปี 2025 ซึ่งตรงกับรายงานของสื่อรายดังกล่าว

ข่าวที่ออกมาดังกล่าวยังเป็นแรงกดดันต่อคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Samsung ที่เป็นคู่แข่งรายสำคัญในการผลิตชิปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Intel หรือ GlobalFoundries ฯลฯ ไม่สามารถที่จะแข่งขันกับ TSMC ได้เนื่องจากไม่สามารถไล่ตามเทคโนโลยีการผลิตได้ทัน

]]>
1433247
TSMC เจรจาเพื่อรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเยอรมันสูงถึง 50% เพื่อสร้างโรงงานในประเทศ https://positioningmag.com/1432153 Sat, 27 May 2023 07:51:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1432153 ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจากไต้หวันอย่าง TSMC ได้เจรจาเพื่อรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเยอรมันสูงถึง 50% เพื่อสร้างโรงงานในประเทศเยอรมัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาสหภาพยุโรปได้ผลักดันแผนการดังกล่าว เพื่อที่จะทำให้ EU ฮับในด้านเซมิคอนดักเตอร์อีกแห่ง

สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า TSMC ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจากไต้หวัน ได้พูดคุยกับรัฐบาลเยอรมัน เพื่อที่จะขอรับเงินอุดหนุนในการมาตั้งโรงงานในประเทศเยอรมัน ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินอุดหนุนที่ทางบริษัทจากไต้หวันได้ขอนั้นอาจสูงถึง 50% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด

โดยโรงงานของ TSMC คาดว่าจะตั้งในเมือง Dresden คาดว่าจะใช้เงินก่อสร้างโรงงานดังกล่าวมากถึง 10,000 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว 372,777 ล้านบาท ทำให้บริษัทจากไต้หวันรายดังกล่าวได้ขอรับเงินอุดหนุนจากเยอรมัน รวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเพื่อที่จะสร้างโรงงานดังกล่าวให้สำเร็จได้

ขณะเดียวกันรัฐบาลเยอรมันกำลังเจรจากับบริษัทอื่น ได้แก่ Bosch และ Infineon Technologies รวมถึง NXP Semiconductors ในเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อที่จะมีการตั้งโรงงานในเยอรมัน ซึ่งหลายบริษัทนั้นเป็นซัพพลายเออร์ของ TSMC ด้วย

กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวในแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวว่าอยู่ในขั้นตอนการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างใกล้ชิดกับ TSMC โดยมีจุดประสงค์เพื่อหารือร่วมกันเกี่ยวกับข้อตกลงเบื้องต้นสำหรับการตัดสินใจลงทุน

ก่อนหน้านี้ทาง สหภาพยุโรป (EU) เตรียมงบลงทุนก้อนใหญ่มากถึง 43,000 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1.6 ล้านล้านบาท ภายใต้ข้อตกลง “EU Chips Act” หวังที่จะเป็นฮับในด้านเซมิคอนดักเตอร์อีกแห่ง โดยงบที่ลงทุนไปดังกล่าวคาดหวังว่าจะทำให้ยุโรปครองส่วนแบ่งในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ได้ราวๆ 20% ภายในปี 2030

อย่างไรก็ดีคาดว่าเม็ดเงินอุดหนุนที่รัฐบาลเยอรมันที่ให้กับ TSMC คาดว่าจะให้สัดส่วนเท่ากับรัฐบาลญี่ปุ่นที่ช่วยเหลือ TSMC ในการตั้งโรงงานในแดนอาทิตย์อุทัยที่สัดส่วน 40% ของมูลค่าการลงทุน

ถ้าหาก TSMC ได้มาตั้งโรงงานอีกแห่งในทวีปยุโรปจริงๆ จะถือว่าเป็นความสำเร็จของสหภาพยุโรปที่ทำให้ยักษ์ใหญ่ผลิตชิปจากไต้หวันสามารถมาตั้งโรงงานในทวีปนี้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้กระจายฐานการผลิตนอกจากในไต้หวันมาแล้ว

]]>
1432153
LHFG ชูกลยุทธ์เน้นรายได้จากกลุ่มลูกค้ารายย่อย มองสินเชื่อรวมโตได้ 8-10% ในปีนี้ https://positioningmag.com/1421559 Fri, 03 Mar 2023 04:22:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1421559 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประกาศกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2023 นี้ โดยโฟกัสรายได้หลักมายังกลุ่มลูกค้ารายย่อย รวมถึง SME เพื่อที่จะกระจายรายได้ นอกจากนี้การย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมายังอาเซียนยังส่งผลดีต่อกลุ่มฯ เนื่องจากปริมาณธุรกรรมเพิ่มมากขึ้น

ฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องราว 3.7% โดยได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวการจ้างงานและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น คาดว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาไทยอาจสูงถึง 25.5 ล้านคน อย่างไรก็ดี หลังจากที่ตัวเลข GDP ได้ประกาศออกมาเติบโตเหลือแค่ 2.6% อาจทำให้ทางกลุ่มฯ ปรับตัวเลข GDP ใหม่ได้

ทางด้านอัตราเงินเฟ้อของไทยคาดว่าจะทยอยปรับลดลงตามราคาพลังงาน อย่างไรก็ดี LHFG ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เช่น การฟื้นตัวของรายได้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจบางกลุ่มที่เปราะบาง การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

นอกจากนี้ทาง LHFG ยังมีมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยอ้างอิงจากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มองว่าเศรษฐกิจโต 2.9% มองว่าหลายพื้นที่ทั่วโลกเศรษฐกิจจะมีโอกาสชะลอตัวลง แต่ก็มีโอกาสว่าจีนอาจฟื้นตัว ซึ่งเศรษฐกิจไทยนั้นพึ่งพาสภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างมาก

ในปี 2022 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของ LHFG มีกำไรสุทธิ 1,579 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย

กลยุทธ์ของธนาคารปี 2023 นี้ LHFG จะเน้นการเติบโตพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดี หรือ กลุ่ม Higher Yield ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรายย่อย หรือแม้แต่ SME รวมถึงการจับมือกับพันธมิตร เช่น บริษัท E-commerce ในการปล่อยสินเชื่อ ทางกลุ่มฯ คาดว่าสินเชื่อรวมจะเติบโตในช่วง 8-10% ในการขายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่อง (Cross Selling) ผลิตภัณฑ์ของธนาคาร รวมถึงการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม

นอกจากนี้การย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศจีน ยังสร้างผลดีให้กับกลุ่มฯ โดยเฉพาะลูกค้าจากไต้หวันที่เป็นกลุ่มภาคการผลิต ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เคมีภัณฑ์ ฯลฯ เนื่องจากปริมาณธุรกรรม และสินเชื่อที่เติบโตมากขึ้น หลังจากที่ทางกลุ่มฯ มองว่าลูกค้ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับธุรกิจในกลุ่มอย่าง บริษัทหลักทรัพย์นั้นจะเพิ่มช่องทางบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงผนวกบริการผ่าน Mobile Banking ของ LH Bank ส่วนธุรกิจบริหารกองทุนรวม กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นไปที่กองทุนส่วนบุคคลทั้งในส่วนสถาบันและลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง

ทางกลุ่มฯ ยังได้กล่าวถึงการพัฒนารวมถึงใช้ช่องทาง Digital มากขึ้น โดยในระยะยาวธนาคารคาดว่าช่องทางดิจิทัลจะเป็นช่องทางหลักมากถึง 90%

โดยแผนระยะยาวในปี 2027 ทางกลุ่มฯ คาดว่าสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าบริษัทรายใหญ่ 35% ลูกค้า SME 30% ลูกค้ารายย่อย 30% ลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น 4 เท่าจากปัจจุบัน

]]>
1421559
TSMC เริ่มผลิตชิปเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรจำนวนมากแล้ว ชี้ความต้องการลูกค้าสูง https://positioningmag.com/1414317 Fri, 30 Dec 2022 07:03:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1414317 ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจากไต้หวันอย่าง TSMC ได้ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุด 3 นาโนเมตรให้กับลูกค้าจำนวนมากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมที่จะสร้างโรงงานผลิตชิปด้วยเทคโลยี 2 นาโนเมตรหลังจากนี้ ขณะเดียวกันประธานบริษัทยืนยันถึงความต้องการลูกค้าที่ต้องการชิปที่มีเทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัยที่มีจำนวนมากด้วย

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกจากไต้หวัน ได้ประกาศความสำเร็จในการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรจำนวนมากเป็นที่สำเร็จแล้ว และบริษัทยังกล่าวว่าเตรียมที่จะขยายกำลังการผลิตหลังจากนี้ หลังจากความต้องการของลูกค้าสูง

ความต้องการชิปที่เทคโนโลยี 3 นาโนเมตรนั้นมาจากเทคโนโลยี 5G ที่ต้องการความรวดเร็วในการประมวลผล รวมถึงชิปประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น ชิปของการ์ดจอ เป็นต้น โดยเทคโนโลยีการผลิต 3 นาโนเมตรนี้สามารถลดการใช้พลังงานจากเทคโนโลยี 5 นาโนเมตรถึง 35%

ลูกค้ารายใหญ่ของ TSMC นั้นต่างต้องการชิปที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น Apple ที่ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่สุดของบริษัท รองลงมาคือ Nvidia และ AMD ที่แต่ละบริษัทต่างรอคิวที่จะใช้เทคโนโลยีล่าสุดนี้ในการผลิตชิปรุ่นใหม่

ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวันรายนี้มีโรงงานหลักที่มีเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดอยู่ในไต้หวันหลายโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร หรือ 5 นาโนเมตร และมีแผนในการขยายการผลิตชิปออกนอกไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา รวมถึงล่าสุดมีแผนที่จะตั้งโรงงานผลิตชิปบนทวีปยุโรปอีกด้วย

Mark Liu ประธานของ TSMC ได้กล่าวว่าการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรนี้จะสามารถสร้างสินค้าให้กับผู้บริโภคได้ใช้งานซึ่งมีมูลค่าตลาดจากการผลิตชิปรุ่นดังกล่าวนี้มากถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลา 5 ปี และเขายืนยันถึงความต้องการลูกค้าที่ต้องการชิปที่มีเทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัยที่มีจำนวนมากด้วย

ปัจจุบันกำลังการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดนั้นอยู่ในไต้หวันด้วยสัดส่วนมากถึง 90%

ไม่เพียงเท่านี้บริษัทยังเตรียมที่จะผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรหลังจากนี้ โดยเตรียมสร้างโรงงานในภาคกลางและภาคเหนือของไต้หวัน และยังยืนยันว่ากำลังการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดส่วนใหญ่จะยังอยู่ในไต้หวัน ไม่ใช่ที่ต่างประเทศแต่อย่างใด

]]>
1414317
TSMC เตรียมใช้โรงงานที่สหรัฐฯ ผลิตชิป 3 นาโนเมตร หลัง Apple ต้องการสินค้าจำนวนมาก https://positioningmag.com/1410763 Thu, 01 Dec 2022 11:33:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1410763 สำนักข่าวต่างประเทศทั้ง Reuters และ Bloomberg รายงานว่า บริษัทผลิตชิปจากไต้หวันอย่าง TSMC เตรียมที่จะเปลี่ยนแผนการผลิตชิปที่โรงงานในสหรัฐอเมริกา จากเดิมที่จะใช้เทคโนโลยีการผลิต 5 นาโนเมตร แต่ล่าสุดด้วยความต้องการจากลูกค้ารายสำคัญอย่าง Apple ที่ต้องการชิปจำนวนมาก ทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนแผนการดังกล่าว

โรงงานในรัฐแอริโซนาที่ TSMC ลงทุนมากถึง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ไฮเทคกว่านั่นก็คือการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรเพิ่มเติมด้วย โดยโรงงานผลิตชิปนี้จะตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานแรกของ TSMC ซึ่งใช้เทคโนโลยี 5 นาโนเมตร

ปัจจัยที่ทำให้ TSMC เปลี่ยนใจเนื่องจาก Apple ได้กล่าวว่าจะใช้ชิปของ TSMC ในโรงงานที่สหรัฐอเมริกาในการผลิตสินค้าของบริษัท ซึ่งปัจจุบันยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีรายนี้ถือว่าเป็นลูกค้าสำคัญและทำรายได้ให้กับ TSMC มากถึง 1 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น AMD รวมถึง Nvidia ซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญรองลงมาจาก Apple ขอให้ TSMC เปลี่ยนแผนเพิ่มการผลิตชิป 3 นาโนเมตรในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมองว่าในปี 2024 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โรงงานเริ่มผลิตชิปได้นั้น เทคโนโลยี 5 นาโนเมตรในช่วงเวลาดังกล่าวถือว่าล้าสมัยไปแล้ว

โดยโรงงานของ TSMC ในสหรัฐอเมริกา ได้สิทธิประโยชน์จากกฎหมายหนุนศักยภาพผลิตชิปคอมพิวเตอร์ (Chips Act) ที่รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนเม็ดเงินมากถึง 52,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ไปตั้งฐานการผลิตในประเทศ เพื่อที่จะลดปัญหา Supply Chain หยุดชะงัก รวมถึงทำให้สหรัฐอเมริกากลับมาเป็นผู้นำด้านการผลิตชิปในอนาคต

ในช่วงสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ โรงงานในรัฐแอริโซนาของ TSMC จะมีบุคคลสำคัญอย่าง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไปเยี่ยมชมการก่อสร้าง คาดว่าจะมีแขกระดับ VIP ซึ่งรวมถึง CEO บริษัทต่างๆ ที่เป็นลูกค้าของ TSMC ที่ได้กล่าวไปข้างต้นไปเยี่ยมชมด้วยเช่นกัน

ที่มา – Bloomberg, Reuters [1], [2]

]]>
1410763
ผลสำรวจเผย อาเซียนคือเป้าหมายของบริษัทไต้หวันที่เตรียมย้ายฐานการผลิตจากจีน https://positioningmag.com/1403743 Sun, 09 Oct 2022 08:37:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1403743 ผลสำรวจจากศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS) ได้จัดทำผลสำรวจบริษัทไต้หวันที่มีฐานการผลิตในประเทศจีนในช่วงเดือนกรกฎาคม ก่อนการเยือนของ แนนซี่ เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่าบริษัทไต้หวันมีแผนที่จะย้ายการผลิตออกจากประเทศจีน และหลายบริษัทเองได้ย้ายกำลังการผลิตออกจากจีนบางส่วนแล้ว

รายงานของ CSIS ได้ชี้ว่าเป้าหมายของบริษัทไต้หวันที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนนั่นก็คือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือการย้ายกลับไต้หวัน รวมถึงย้ายไปยังประเทศในเอเชียเหนือ อย่าง ญี่ปุ่น หรือแม้แต่เกาหลีใต้

ไม่เพียงเท่านี้ในรายงานฉบับนี้ยังชี้ถึงการทำธุรกิจในประเทศจีนนั้นแม้ว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ประเทศจีนเพื่อลงทุนอย่างมหาศาล แต่การดำเนินธุรกิจในประเทศจีนเองกลับไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด รวมถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีนก็ทำให้หลายบริษัทในไต้หวันที่มีการลงทุนในจีนก็เริ่มที่จะทนไม่ไหวกับนโยบายนี้

การที่บริษัทไต้หวันสนใจมาลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นส่วนหนึ่งนั้นเป็นผลมาจากความพยายามของรัฐบาลที่ผลักดันนโยบาย New Southbound Policy ที่เปิดความร่วมมือใหม่ๆ กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุน ไปจนถึงการท่องเที่ยว ฯลฯ

สำหรับนโยบายด้านการค้าที่บริษัทไต้หวันต้องการมากที่สุดคือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งถือเป็นความตกลงการค้าเสรีที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยจีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงอาเซียน รองลงมาคือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ที่มีสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เป็นประเทศหลักในข้อตกลงดังกล่าว

ด้านมุมมองที่บริษัทในไต้หวันมองว่าการที่จะทำให้ไต้หวันยังได้เปรียบและเป็นผู้นำด้านต่างๆ ได้คือไต้หวันจะต้องมีการวิจัยและพัฒนาด้านต่างๆ ในแผ่นดินของไต้หวัน รองลงมาคือห้ามส่งออกด้านเทคโนโลยี รวมถึงการห้ามบริษัทจีนไม่ให้ลงทุนในไต้หวัน

ที่มา – รายงานของ CSIS

]]>
1403743
สหรัฐฯ-ไต้หวัน เปิดการเจรจาด้านการค้าอย่างเป็นทางการแล้ว https://positioningmag.com/1396644 Thu, 18 Aug 2022 05:30:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1396644 สหรัฐอเมริกาและไต้หวันเริ่มการเจรจาการค้าอย่างเป็นทางการแล้วภายใต้แผนความคิดริเริ่มใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาณสนับสนุนไต้หวัน หลังจากที่ความตึงเครียดของ 2 มหาอำนาจทั้งสหรัฐฯ และจีน เพิ่มมากขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

ผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่าการเจรจาการค้ากับไต้หวันจะเพิ่มปริมาณการค้า ความร่วมมือด้านการกำกับดูแล และครอบคลุมตั้งแต่ด้านการเกษตร ด้านแรงงาน ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านเทคโนโลยี เป็นต้น หรือแม้แต่การลดกำแพงด้านการค้าลง

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีแผนการริเริ่มด้านการค้าในศตวรรษที่ 21 เพียงไม่กี่วันหลังจากฝ่ายบริหารของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศไม่รวมไต้หวันอยู่ในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกที่มีประเทศต่างๆ เข้าร่วมแล้วกว่า 13 ประเทศ

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับไต้หวันนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หรือแม้แต่การไปเยือนไต้หวันของสมาชิกสภาคองเกรส 5 ราย ส่งผลทำให้ทางฝั่งของจีนแสดงความไม่พอใจสหรัฐอเมริกาในเรื่องนโยบายจีนเดียว

คาดว่าการเจรจาในรอบแรกของทั้ง 2 ฝ่ายคาดว่าจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ 

ที่มา – ABC, Reuters

]]>
1396644
LHFG ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าไต้หวัน ดันพอร์ตสินเชื่อรายย่อยโตภายใน 3 ปี https://positioningmag.com/1395420 Mon, 08 Aug 2022 09:40:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1395420 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHFG) เผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2565 กำไรจากการดำเนินงานเติบโต 3.4% สินเชื่อเติบโต 8.9% ครึ่งปีหลังของปี 2022 เตรียมรุกตลาดสินเชื่อบุคคล เน้น Digital Transformation รวมถึงเพิ่มฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทจากไต้หวัน

LHFG ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ว่าภาพรวมธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยรวมถึงการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จากแนวโน้มที่ดีขึ้นของสถานการณ์ การระบาดของโควิด-19 โดยครึ่งปีแรกกลุ่มฯ มีอัตราเติบโตของสินเชื่อ 8.9% และมีกำไรสุทธิ 745 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ครึ่งปีหลังของปี 2022 นั้น ทาง LHFG ยังคงเน้นในเรื่องของ Digital Transformation รวมถึงการพัฒนา Digital Infrastructure และ Platform เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และสอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้า

ขณะที่กลยุทธ์ของแต่ละหน่วยธุรกิจของ LHFG นั้น ทางด้านธุรกิจธนาคาร ชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) ได้เปิดเผยว่าทางกลุ่มเตรียมที่จะปรับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อของ LH Bank ให้เป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมและกลุ่มลูกค้าบริษัทในสัดส่วน 50-50 ภายใน 3 ปี จากเดิมที่สัดส่วน 10-90 โดยเธอมองว่าการปรับพอร์ตสินเชื่อจะทำให้ธนาคารมีรายได้ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น

โดย LH Bank เตรียมที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อยรวมถึงธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมมากกว่าเดิมในครึ่งปีหลังของปี 2022 และยังจะจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆ ในการปล่อยสินเชื่อที่เป็น Digital Lending อีกด้วย

สำหรับธุรกิจบริหารจัดการกองทุน มนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ได้เปิดเผยว่าทาง LH Fund ได้เตรียมที่จะออกกองทุนใหม่ๆ เช่น กองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์นอกตลาด หรือ Private Equity Fund และกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด หรือ Private Real Assets Fund เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

กานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Securities) กลยุทธ์ของบริษัทยังคงเน้นขยายฐานลูกค้าจากการใช้ Big Data การเพิ่มช่องทางบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ตลอดจนนำความเชี่ยวชาญของ CTBC Bank ผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มมาช่วยพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ

นอกจากนี้ ฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการของ LHFG ได้เปิดเผยว่าว่าความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวันจะเป็นโอกาสทำให้ผู้ประกอบการไต้หวันนั้นย้ายการผลิตมาที่ไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสของกลุ่มฯ และจำนวนลูกค้าไต้หวันกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

]]>
1395420