ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่าน มีการเคลื่อนไหวในตลาดร้านค้าปลีกเพื่อสุขภาพและความงาม หรือ Health&Beauty Store มากอยู่พอสมควร มีทั้งรายใหม่จากต่างประเทศเข้ามาอย่าง มัตสึคิโยะ และผู้เล่นหน้าเดิมให้ตลาด แต่ก็สร้างกระแสได้อยู่อย่างร้านอีฟแอนด์บอย ทำให้ตลาดดูมีสีสันขึ้นมา
วัตสันที่เป็นผู้เล่นเบอร์เก๋าที่ทำตลาดมายาวนานและครองเบอร์หนึ่งในตลาด ก็ต้องปรับตัวอยู่พอสมควร โดยที่ในปีนี้ยังคงเน้นขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง แต่จะเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ ที่เรียกว่า G7 ที่วัตสันได้นำร่องเปิดบริการเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา
คอนเซ็ปต์ร้านใหม่นี้เรียกว่าเป็นอีกอาวุธชั้นดีที่ทำให้วัตสันมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด การขยายสาขาในปีนี้อีก 50-55 สาขาจึงจะเป็นคอนเซ็ปต์นี้หมด ด้วยงบลงทุน 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ใช้ 400 ล้านบาท ขยายไป 50 สาขา
สาขาใหม่ในปีนี้ยังคงเน้นทำเลในกรุงเทพฯ หัวเมืองต่างๆ แต่จะเน้นในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม เพราะได้รับอิทธิพลจากนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่พอสมควร ทำให้ตอนนี้วัตสันมีสาขาในแหล่งท่องเที่ยวราว 15% และเอาใจกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วยสร้างโซนโดยเฉพาะ และมีป้ายที่เป็นภาษาจีน
ร็อด เร้าท์ลี่ย์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยสาขาคอนเซ็ปต์ใหม่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น การนำเสนอสินค้าดีขึ้น ทำให้สร้างประสบการณ์ในการซื้อของผู้บริโภคดีขึ้นเช่นกัน ทำให้รายของวัตสันเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ในปีนี้การขยายสาขาจึงไปในคอนเซ็ปต์ใหม่ทั้งหมด และมีการปรับปรุงสาขาเดิมด้วย“
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่วัตสันผลักดันมาตลอดในช่วงหลายปีมานี้ก็คือสินค้า Own Brand ในชื่อแบรนด์วัตสัน เน้นเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศต่างอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เป็นต้น ปัจจุบันมีจำนวน 750 รายการ ในปีนี้จะมีการเพิ่มอีก 200 รายการ ซึ่งสินค้าแบรนด์วัตสันมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นเรื่อน ในปีที่ผ่านมามีการเติบโต 30% แต่สามารถสร้างกำไรได้ดีกว่าสินค้าประเภทอื่น
ในส่วนของรายได้ในปีนี้ยังคงตั้งเป้าการเติบโตที่ 2 หลักอยู่ ในช่วง 4-5 ปีมานี้ได้เติบโต 2 หลักมาตลอดเช่นกัน