ช่วงเวลานี้ดูเหมือนว่ากระแสไฮโซจะออกฤทธิ์เสียจนแย่งงานดารานักร้องกันเป็นว่าเล่น ไหนจะผันตัวเองมาเป็นดารา นักร้อง แม้กระทั่งพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้า ลองไล่เรียงดูกันว่าไฮโซไหนบ้างที่อวดโฉมผ่านหน้าจอทีวีกับงานโฆษณาไปแล้วบ้าง เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการทำการตลาดที่นำไฮโซมาเพิ่มเติมค่าให้แบรนด์ดู upgrade ขึ้นหรือให้เหมาะกับ positioning ของแบรนด์นั้นๆ Dove ดูเหมือนจะเข้าหาไฮโซเป็นหลักจากการทำ testimonial ผ่าน TVC ซึ่ง Dove วาง positioning เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมระดับพรีเมี่ยมเพื่อชนกับ Pantene ของ P&G ดังนั้นการสื่อสารผ่านไฮโซย่อมทำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงความนัยนี้ได้ไม่ยาก ผึ้ง-สุดารำไพ สุนทรรังสี (จาง) PR Director จาก Arc Worldwide (ประเทศไทย) หน่วยงานของลีโอเบอร์เน็ท ก็เป็นสาวสังคมที่เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ Dove...
เกือบทุกฝีก้าวของบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม หรือกลุ่มคนชั้นสูงที่ถูกเรียกขานให้ฐานะ “ไฮโซ!!” มักจะได้รับความสนใจ และถูกจับตามองจากคนหมู่มากตลอดเวลา ส่งผลให้ “ผู้ค้าไอที” หลายค่ายเห็นโอกาสที่จะสร้างแบรนด์สินค้าผ่านบุคคลเหล่านี้ ด้วยการนำสินค้าไปให้กลุ่มไฮโซทดลองใช้ เพื่อเป็นผู้สร้าง Trend Setter ให้เกิดกระแสความนิยมในสังคมมากขึ้น “ณรงค์ อิงค์ธเนศ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะแวลลูซิสเต็มส์ จำกัด ผู้ค้าส่ง iPod รายเดียวในไทย บอกว่า “ในช่วงเริ่มต้นทำตลาด iPod อุปกรณ์น้องใหม่ของค่าย Apple ที่มีบุคลิกแตกต่างไปจากสินค้าเดิมนั้น จำเป็นต้องสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และเกิดกระแสการใช้งานในสังคมมากขึ้น จึงเลือกสร้างแบรนด์ผ่านไฮโซ!!” เหตุผลที่ iPod เลือก “สมศักดิ์...
“ปารีส ฮิลตัน” จัดเป็นกรณีศึกษาที่คลาสสิกที่สุด ชื่อเสียงของเธอถูกนำไปต่อยอด ให้กับสินค้าที่ต้องการสร้างแบรนด์ พ่วงกับความเป็น celebrity ที่นำไปสู่ความสำเร็จและโอกาสไปสู่ด้านอื่นๆ ให้กับชีวิตของเธอ ชื่อเสียงของเธอในช่วงแรก จัดเป็นสาวไฮโซสุดหรู ออกงานปาร์ตี้บ่อยครั้ง และเป็นหลานปู่ของมหาเศรษฐีเจ้าของเครือโรงแรมใหญ่ ฮิลตัน อินเตอร์เนชั่นแนล ช่วงนั้นเธอมักออกงานคู่กันระหว่างปารีสกับนิคกี้ ฮิลตัน น้องสาว ทำให้วงสังคมระดับสูงทั้งที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปตื่นเต้นกับภาพสาวน้อยสวยใสทั้งคู่ ความสนใจในช่วงนั้นทำให้สองพี่น้องฮอตในช่วงเวลาสั้นๆ แต่วิธีการสร้างข่าวและข่าวที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่องของคนพี่ ทำให้ positioning ที่เกิดขึ้นระหว่างพี่น้องต่างกันจากตอนต้นอย่างสิ้นเชิง กับภาพสาวน้อยแสนดี ขี้เล่น สูงโปร่ง และผมบลอนด์ยาว การเป็นสาวรักสนุก ฉาบฉวย และคบผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เมื่อ “ปารีส” เริ่มมีข่าวความสัมพันธ์กับคนดังอย่าง ลิโอดาโด ดิคาปริโอ, เอ็ดเวิร์ด...
แม้จะสิ้นบุญเซเลบริตี้รุ่นลายครามอย่างเจ้าป้ากอแก้ว ประกายวิล ณ อยุธยา ไปแล้วแต่วันนี้การที่จะหาคนดังที่รุ่นใกล้ๆกันจะมาบอกเล่าให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงความเป็นจริงในสังคมเซเลบริตี้ตั้งแต่อดีต ถึง ปัจจุบัน คงไม่มีใครอื่นใดนอกเหนือจาก วี มาร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายประชาสัมพันธ์และโฆษณา นิตยสาร Hi ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเซเลบริตี้ที่คลุกคลีอยู่กับวงการไฮโซมานานพอ ๆ กับเจ้าป้ากอแก้ว พื้นฐานวี มาร์ เป็นผู้หญิงไทยไปพบรักสามีฝรั่งมิสเตอร์ สจ๊วต มาร์ ซึ่งมีเชื้อสายความเป็นผู้ดีอังกฤษเก่า คนสมัยเมื่อ 20-30 ปี ก่อนการที่ผู้หญิงไทยได้แต่งงานกับคนต่างชาติถือเป็นเรื่อง Talk of the town แต่เมื่อคิดลงหลักปักฐานที่จะรักกับสามีตาน้ำข้าว พูดไทยไม่ชัด แถมมีดีกรีความเป็นผู้ดีอังกฤษเก่า ก็ไม่ทำให้ผู้หญิงไทยคนนี้หวั่นไหวไปตามคำพูดของคนในสังคม...
เมื่อต้องพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ “ไฮโซ” หากไม่กล่าวถึง “ไฮโซขนานแท้” หรือ “ไฮโซตัวจริง” อย่าง “เจ้าป้า” หรือเจ้ากอแก้ว ประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ผู้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของบุคลแวดวงสังคม “ไฮโซ” ของเมืองไทย…เรื่องราวนี้ก็คงจะไม่สมบูรณ์นัก รากศัพท์ดั้งเดิมของคำว่า “ไฮโซ” ที่พูดกันทุกวันนี้ มาจากคำว่า “High Society” หมายถึง บุคคลที่ใช้ชีวิตอย่างมีระดับหรือบุคคลที่อยู่สังคมชั้นสูง โดยส่วนมากมักจะสืบทอดเชื้อสายมาจากเจ้านายหรือเชื้อพระวงศ์ในสมัยก่อน ด้วยคำนิยามนี้เองที่ทำให้ทุกคนต่างยอมรับว่า เจ้าป้า คือ “ไฮโซพันธุ์แท้” เจ้าป้าเป็นพระธิดาของเจ้าหญิงศิริประกาย ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ 9 เจ้าป้าเป็นนักเรียนประจำที่โรงเรียนมาแตร์เดอีฯ ซึ่งเป็นอีกโรงเรียนยอดฮิตของตระกูลไฮโซที่มีบุตรสาวก็ว่าได้ จากนั้นก็บินไปเรียนเรื่องมารยาทการเข้าสังคมในต่างแดน ก่อนจะกลับมาเป็นสาวไฮโซสุดมั่นที่เป็นทั้งดาราและนางแบบ ซึ่งเปรี้ยวและฮ็อตที่สุดแห่งยุค ด้วยคุณสมบัติข้างต้น บวกกับนิสัยรักสวยรักงาม...
วินาทีนี้เซเลบริตี้มาดพิธีกรที่ขายดี ต้องยกนิ้วให้กับ ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา หรือ หนุงหนิง เป็นเพราะนามสกุลกุญชร ณ อยุธยา หรือไม่ ที่อาจเป็นสะพานข้ามให้เธอได้เข้ามาเดินกรีดกรายอยู่ในแวดวงบันเทิง งานสังคม เหมือนเดินอยู่บนเส้นทางที่โปรยไปด้วยกลีบกุหลาบโดยไม่ต้องออกแรงตบชิงแย่งตีกับใคร ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา ถือว่าได้แจ้งเกิดการเป็นเซเลบริตี้มาดพิธีกรหน้าใหม่ในงานประชุมโอเปกที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ งานนั้นมีการบรรจุชื่อศรัยฉัตรให้เป็น 1 ใน 7 พิธีกร ที่ต้องรับหน้าที่กล่าวต้อนรับผู้นำจากนานาประเทศ ด้วยความสามารถที่พูดภาษาอังกฤษบวกกับบุคลิกที่สวย ดูโดดเด่น มีความน่าเชื่อถือ ไม่ต่างไปจากดารานักแสดงระดับแถวหน้าในเมืองไทย แม้ที่ผ่านมาคนในสังคมมักตีค่าของคนตรงนามสกุลว่าเป็นลูกหลานคนดังของใคร ขณะที่เธอแม้จะพ่วงท้ายด้วยนามสกุลกุญชร ณ อยุธยา แต่พยายามใช้ทักษะความสามารถในการทำงานให้เห็นเพื่อไม่ให้ใครมาตีหน้าว่าเซเลบริตี้ตระกูลนี้ไม่เอาถ่าน งานหนักไม่สู้งานเบาไม่เอา และ งานโอเปกก็เป็นเวทีแจ้งเกิดของเธอในครั้งนั้น เพราะวันนั้นเธอสามารถชงเรื่องเข้าประเด็นได้เป็นอย่างดีไม่ต่างไปจากพิธีกรมืออาชีพคนอื่น...
ถ้าจะยกตำแหน่งเซเรบริตี้แรกรุ่นที่ขายดีสุด ฮอตสุดฮิตชนิดงานไหลมาเทไม่ขาดสาย ทั้งงานบันเทิง ถ่ายแบบโฆษณา พรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้า และยังไม่นับรวมงานสังคม เวลานี้เป็นใครอื่นไม่ได้ทั้งนั้นต้องเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์วัย 20 ปี ปวริศา เพ็ญชาติ หรือหนูแหวน เพื่อเป็นการยืนยันอุณหภูมิความร้อนแรงของสาวน้อยคนนี้ POSITIONING ฉบับนี้ได้รับเกียรติจากหนูแหวนให้ไปติดตามดูเธอทำภารกิจตั้งแต่เวลาเช้ายันพลบค่ำ ลุกขึ้นจากเตียงนอน ตั้งแต่เช้า ถ้าไม่ติดงานถ่ายแบบโฆษณา หรือ ภารกิจเร่งด่วนบนถนนสายบันเทิงและงานสังคมที่ไหน หนูแหวนจะให้โชเฟอร์ที่บ้านเหยียบคันเร่งมาส่งที่หน้าตึกยูเอ็น องค์กรสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก เพื่อฝึกงาน เนื่องจากหนูแหวนกำลังเรียนปีสุดท้ายอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเศรษฐศาสตร์ ภาคอินเตอร์เนชั่นแนล การฝึกงานอยู่ที่ตึกยูเอ็นหนูแหวนก็จะใช้ชีวิตปกติเหมือนนักศึกษาฝึกงานทั่วไป ทำงานส่งแฟ๊กซ์ พิมพ์จดหมาย โทรศัพท์ติดต่อลูกค้า ทำได้หมดเว้นแต่วันไหนต้องไปถ่ายแบบโฆษณา ออกรายการโทรทัศน์ ก็จะขออนุญาตลาครึ่งวัน หรือ เต็มวัน เพื่อจะไปสานฝันที่เธอได้ตกหลุมรักงานด้านบันเทิงไปแล้ว...
ขึ้นชื่อว่าเป็นไฮโซที่เปรี้ยวไม่แพ้ใคร คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงสังคมมานานมากกว่า 15 ปี ทำให้ชื่อของ “สมศักดิ์ ชลาชล” เจ้าของร้านตัดผมชลาชล ร้าน Q-cut และ Salon De Bangkok ปรากฏเป็นข่าวครึกโครมอยู่เสมอ และยิ่งมีเพื่อนร่วมก๊วนอย่าง “ดารุณี กฤตบุญญาลัย” ด้วยแล้ว การขยับตัวทำอะไรก็ดูจะเป็นเรื่องฮือฮาไม่น้อย โดยเฉพาะกับการตอบรับเข้าร่วม “เล่น” ในรายการไฮโซบ้านนอก ที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า real or fake “ร้านเรากำลังไปได้สวย กำลัง peak ไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะต้องไปเล่นรายการนี้ ไม่ได้มองว่ามันจะช่วยเกื้อหนุนธุรกิจอะไร ทำเพราะอยากทำเห็นว่ามีประโยชน์...
หากพูดถึงบุคคลในวงสังคม หรือ “ไฮโซ”... ใบหน้าแรกที่คุ้นเคยและถูกนึกถึงในวูบแรกมากที่สุด คงหนีไม่พ้น “ดารุณี กฤตบุญญาลัย” สาวสังคมที่ออกงานบ่อยที่สุดคนหนึ่ง และเรียกแสงแฟลชจากช่างภาพได้มากที่สุดด้วยเช่นกัน จนหลายคนจัดเธอเป็น “celeb” ของสาวสังคมรุ่นใหญ่ เมื่อทีม POSITIONING ไปดักเจอเธอตามงานสังคมโดยไม่นัดหมาย ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง และขอไปบุกบ้าน โดยใช้เวลาครึ่งวันติดตามเธอ... บ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ของเธอ กำลังถ่ายทำรายการ “พ่อครัวตัวน้อย” จนเสร็จเราจึงได้สัมภาษณ์เธอ แต่ทว่าเป็นการสัมภาษณ์บนรถของเธอ ระหว่างเดินทางไปทำผมและแต่งหน้า เพื่อเตรียมออกงานเลี้ยงของบริษัท เวิร์ค พอยท์ ก่อนเธอจะเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ ในคืนวันเดียวกัน “พี่ไม่ใช่ไฮโซ แต่พี่สามารถเข้าสังคมของพวกเขาเหล่านั้นได้ เพราะสถานภาพของเราที่มีธุรกิจ มีการศึกษา และสังคมที่เราค่อยๆ เจอ ที่ผ่านมา มันทำให้เราเข้าไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างกลมกลืน เท่านั้นเอง”...
หนุ่มสังคมผู้นี้เป็นเจ้าของแบรนด์ “อนันดา” โครงการบ้านหรูที่เน้นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เป็นจุดขาย เมื่อปีที่ผ่านมา ชานนท์เป็นหนุ่มสังคมสุดฮอตอีกคนที่ปรากฏตัวตามสื่อหลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ หรือหนุ่มสไตล์ดีที่ได้รับเชิญออกงานสังคมบ่อยครั้ง แต่มาปีนี้ ชานนท์เริ่มเฟด (fade) ออกจากงานสังคมด้วยเหตุผลว่า “มันน่าเบื่อ ผมว่า มันมีอย่างอื่นที่มันน่าสนใจกว่าเยอะ ซึ่งผมก็ค้นพบจุดยืนในสิ่งที่อยากเป็นหรืออยากทำแล้ว ก็น่าจะไปใช้เวลาค้นหาเส้นทางชีวิตตรงนั้นดีกว่า เพราะมันยังต้องใช้เวลาปรับอีกเยอะ” เพราะเชื่อว่าชีวิตคนเราสั้นนัก ชานนท์จึงต้องการใช้เวลาว่างที่มีเหลือจากการทำงาน ไปโฟกัสในสิ่งที่อยากทำ อย่างไรก็ดี ชานนท์ยอมรับว่า การออกงานสังคมถือเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดมุมมองของโลก โดยเฉพาะโลกธุรกิจที่อาจช่วยสร้างสายสัมพันธ์ทางธุรกิจใหม่ๆ ได้ แต่เขาไม่เชื่อว่า business connection ที่แท้จริงจะมาจากการออกงานสังคม “ผมเชื่อว่า คนที่เป็น real people เขาไม่ได้ต้องการธุรกิจจากตรงนี้ และเชื่อว่าถ้าคนมันมีชะตาที่จะต้องดีลกันทางธุรกิจ สักวันก็ต้องได้รู้จักกัน” ...









