ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังเป็นเทรนด์ที่เติบโตต่อเนื่อง ปี 2561 มูลค่าอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์และขนส่งพัสดุทั้งรายเก่า–ผู้เล่นใหม่ ต่างปรับกลยุทธ์ให้บริการดึงดูดผู้ค้าออนไลน์และลูกค้าทั่วไปใช้บริการ เมื่อร้านค้าออนไลน์เปิดกัน 24 ชั่วโมง ธุรกิจขนส่งก็ต้องพร้อมให้เซอร์วิส
ในยุคโซเชียลมีเดียบูม มีคนสนใจเป็น “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” กันมากขึ้น แต่มักมีปัญหาไม่สามารถไปส่งของในเวลาที่เปิดทำการปกติของร้านหรือสาขาส่งพัสดุได้
ที่ผ่านมา “ไปรษณีย์ไทย” จึงได้เปิดบริการสาขา “กลางคืน” หลายพื้นที่ เช่น จุดที่เปิดให้บริการถึง 23.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ ได้แก่ สามเสนใน, สำเหร่, จระเข้บัว และนนทบุรี
ส่วน “สาขาเดอะสตรีท” รัชดาฯ ขยายเวลาให้บริการถึงเที่ยงคืน (08.00 – 24.00 น.) เพื่อให้บริการพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการส่งของในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ
ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีสาขาให้บริการจนถึง 19.00 น. และถึง 24.00 น. ด้วยกัน 177 แห่ง ในจำนวนนี้เปิดถึง 20.00 น. กว่า 120 แห่ง โดยไม่มีวันหยุด
นอกจากนี้ยังมีจุดที่เปิดบริการรับฝาก 24 ชั่วโมง ได้แก่ ที่ทำการไปรษณีย์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายในอาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเคาน์เตอร์บริการศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ หลักสี่ ซอยแจ้งวัฒนะ 5
รวมทั้งเปิด “จุดบริการส่งพัสดุและบริการส่งด่วน EMS ในประเทศ 24 ชั่วโมง” ที่ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส เพื่อให้ลูกค้าและผู้ค้าออนไลน์ส่งสินค้าได้ทั้งวัน นำร่องเปิดบริการพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 500 สาขา ก่อนขยายไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นๆ อีกกว่า 700 สาขาทั่วประเทศภายในปีนี้
นอกจากนี้ยังขยายตู้ iBox บริการ 24 ชั่วโมง เอาใจขาช้อปออนไลน์รับ-ส่งได้ไม่จำกัดเวลา ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 63 แห่ง ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคซื้อขายออนไลน์สามารถใช้รับสิ่งของโดยไม่ต้องไปไปรษณีย์
ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจโลจิสติกส์แข่งเดือด ต้องถือเป็นการปรับตัวให้บริการตอบโจทย์ผู้ค้าออนไลน์ของผู้นำโลจิสติกส์ “ไปรษณีย์ไทย” ปี 2561 ยังครองส่วนแบ่งในธุรกิจจัดส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซสูงสุด 54 – 55% ของตลาด มีจำนวนพัสดุจัดส่ง 310 ล้านชิ้น จากปริมาณรวม 580 ล้านชิ้น.
ข่าวเกี่ยวเนื่อง