หลังจากที่สหรัฐฯ ได้คลายมาตรการล็อกดาวน์ลง ทำให้ความต้องการเดินทางทางอากาศเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณดีของสายการบินต่าง ๆ แต่ปัจจุบันการระบาดกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในภาคใต้ของสหรัฐฯ ส่งผลให้ความต้องการเดินทางด้วยเครื่องบินลดลง
การเดินทางทางอากาศเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับต่ำสุดในรอบกว่าห้าทศวรรษในเดือนเมษายน แต่สายการบินกำลังเผชิญกับความต้องการที่ลดลงเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่, คำสั่งกักกันผู้เดินทางมาถึงนิวยอร์กและที่อื่น ๆ รวมถึงความล่าช้าในการเปิดบางรัฐ จากสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 กรกฎาคม มีคน 4.65 ล้านคนผ่านจุดตรวจที่สนามบินของสหรัฐฯ ซึ่งลดลงมากกว่า 4% จากสัปดาห์ก่อนหน้าและถือว่าเป็นการลดลงสัปดาห์แรกตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ขณะที่ช่วงฤดูร้อนถือเป็นช่วงสำคัญอย่างยิ่งต่อรายได้ของสายการบิน
สายการบินเดลต้าแอร์ไลน์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะลดจำนวนเที่ยวบินเพิ่มเติมที่วางแผนไว้ในเดือนหน้าเป็น 500 เที่ยวบินต่อวัน ขณะที่ความต้องการเดินทางเพื่อธุรกิจยังไม่กลับมา
“ความต้องการได้หยุดชะงักลงเมื่อไวรัสระบาดขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในภาคใต้ ขณะที่หลายรัฐทางเหนือก็มีมาตรการกักกันเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยทั้งสองนี้ทำให้ผู้บริโภคหยุดชะงัก”
ด้ายผู้บริหารระดับสูงของ American Airlines เตือนพนักงาน 25,000 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า งานของพวกเขามีความเสี่ยง เมื่อเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลกลางหมดอายุในวันที่ 1 ตุลาคม
“รายรับจากผู้โดยสารของเราในเดือนมิถุนายน นั้นต่ำกว่า 80% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 และด้วยอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นและหลายรัฐประกาศการกักกันโรคอีกครั้งทำให้ความต้องการการเดินทางทางอากาศช้าลงอีกครั้ง”
ทั้งนี้ หุ้นสายการบินลดลงในเช้าวันจันทร์โดยสหรัฐฯ ลดลง -3% และ Delta Airlines ลดลง -2.5%