โบกมือลาอุตฯการบินไปอีกราย เมื่อสายการบินราคาประหยัดอย่าง “Tigerair Australia” ประกาศหยุดกิจการหลังดำเนินธุรกิจมากว่า 13 ปี สาเหตุหลักมาจากผลกระทบของ COVID-19 ที่สะเทือนการเดินทางของคนทั่วโลก
Tigerair Australia ระบุในเเถลงการณ์ว่า นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว ด้วยผลกระทบอย่างรุนเเรงจากการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้สายการบินมีความจำเป็นต้องหยุดกิจการ หลังเปิดให้บริการมานาน 13 ปี ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้นำเสนอทางเลือกของการเดินทางราคาประหยัดให้กับลูกค้ามากกว่า 30 ล้านคน เเละขอขอบคุณทุกคนที่คอยให้การสนับสนุนตลอดมา
ความต้องการในการเดินทางของผู้คนลดลงอย่างมาก จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เพียงพอต่อการเปิดให้บริการต่อได้ โดยคู่เเข่งรายสำคัญอย่าง Jetstar ก็กำลังประสบปัญหานี้เช่นกัน ทั้งนี้ Tigerair Australia ต้องหยุดบินมาตั้งเเต่เดือนมี.ค.
สำหรับสายการบินโลว์คอสต์ Tigerair Australia เป็นบริษัทลูกของสายการบินใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลียอย่าง Virgin Australia ที่กลายเป็นสายการบินแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย–เเปซิฟิก ที่เข้าสู่กระบวนการ “ล้มละลาย” ในช่วงวิกฤต COVID-19 ตั้งเเต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมาจึงต้องมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่
- การล้มละลาย Virgin Australia เป็นสัญญาณ “อันตรายขั้นวิกฤต” ของธุรกิจสายการบินทั่วโลก
- New Normal ธุรกิจสายการบิน “การเดินทางที่ไม่เหมือนเดิม” จุดเปลี่ยน Low-Cost Airlines
โดยเเผนการฟื้นฟูกิจการในเครือ Virgin ภายใต้เข้าของใหม่ bain capital จะมีการปลดพนักงานออกราว 1 ใน 3 ของทั้งหมดราว 3,000 คน รวมถึงการยุบธุรกิจย่อยอย่าง Tigerair Australia ด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังคงเก็บใบอนุญาตทำการบินไว้ เผื่อในอนาคตจะสามารถกลับมา “ฟื้นกิจการ” ได้อีกครั้ง เมื่อสถานการณ์โลกเข้าสู่ภาวะปกติ เเละการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่
ยังคงมีอีกหลายสายการบินที่ยังมีความเสี่ยงจะล้มละลายเเละปิดกิจการในช่วงนี้ โดยทางสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ออกมาปรับคาดการณ์ใหม่ว่า ธุรกิจการบินจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด เเละต้องรอไปจนถึงปี 2024 กว่าที่จำนวนผู้โดยสารทั่วโลกจะกลับมาเท่าช่วงก่อนโรคระบาด โดยการฟื้นตัวของการเดินทางระยะสั้น จะฟื้นตัวเร็วกว่าการเดินทางระยะไกล เเละคาดว่าจำนวนผู้โดยสารทางอากาศทั่วโลกจะลดลง 55% เมื่อเทียบกับปี 2019 เเย่กว่าที่คาดไว้ในเดือนเมษายนที่ 46%
ขณะที่ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทราฟฟิกของผู้โดยสารลดลง 86.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าดีขึ้นจากการหดตัวถึง 91% ในเดือนพฤษภาคม หลังได้รับอานิสงส์การเดินทางที่เพิ่มขึ้นบ้างในตลาดจีน เเละเเม้อัตราการเดินทางทางอากาศได้ผ่านจุดต่ำสุดไปเเล้ว เเต่อุตสาหกรรมการบินจะกลับมาฟื้นตัวอย่างช้าๆ เเละยังถือว่าอ่อนแออยู่มาก
- อุตสาหกรรมการบิน “ฟื้นตัวช้า” IATA คาดต้องรอถึงปี 2024 กว่าจะกลับมาได้เท่าช่วงก่อน COVID-19
- ปิดฉาก “ราชินีแห่งท้องฟ้า” เลิกผลิต Boeing 747 ในปี 2022 จากพิษไวรัส–เทรนด์ประหยัดพลังงาน
ที่มา : Tigerair Australia , flightglobal