มูลค่าหุ้นของบริษัทเทคยักษ์ใหญ่เเดนมังกรอย่าง Tencent ลดฮวบทันทีกว่า 3.46 หมื่นล้านเหรียญ (ราว 1 ล้านล้านบาท) พร้อมกับค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เเห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ห้ามการทำธุรกรรมใดๆ กับแอปพลิเคชัน WeChat ในดินเเดนอเมริกา มีผลใน 45 วัน
โดยคำสั่งดังกล่าวออกมาในเวลาเดียวกันที่ Microsoft บริษัทใหญ่สัญชาติอเมริกัน กำลังเจรจาเรื่องซื้อกิจการในสหรัฐฯ ของแอปพลิเคชันจีนยอดนิยมอย่าง TikTok ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ ก็กำหนดเส้นตายให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นในวันที่ 15 ก.ย.นี้เช่นกัน ท่ามกลางความตึงเครียดของศึกเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ เเละจีน
สำหรับ TikTok เป็นแอปพลิเคชันสำหรับแชร์วิดีโอสั้น ๆ ที่ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมากในช่วงการเเพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นของบริษัท ByteDance ของจีน ส่วนแอปพลิเคชันส่งข้อความ Wechat เป็นธุรกิจของ Tencent เครือบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่มี “หม่า ฮั่วเถิง” มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของจีนเป็นเจ้าของ
โดยวันนี้ (7 ส.ค.) ราคาหุ้นของ Tencent Holdings ร่วงลงหนักอยู่ในช่วงระหว่าง 4-10 % ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงช่วงเช้า ทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทตามราคาตลาดหายไปทันที 3.46 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตามรายงานของ Bloomberg
นอกจาก Tencent แล้ว หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆ ของจีนก็ถูกกดดันให้ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้น Alibaba และ JD.com ดิ่งลงมากที่สุด 6.7% และ 5% ในช่วงระหว่างวัน
ขณะเดียวกัน คำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดังกล่าว ยังส่งผลต่อ “ค่าเงินหยวน” ของจีน ให้อ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ ซึ่งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับขอบเขตของคำสั่งนี้ สร้างความสับสนให้กับนักลงทุน เเละยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ย่ำแย่ลงไปอีก จากประเด็นสงครามการค้าที่ยืดเยื้อเเละมรสุม COVID-19
ในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า การใช้แอปพลิเคชันที่พัฒนาและมีบริษัทในจีนเป็นเจ้าของอย่างแพร่หลายในอเมริกานั้น ถือเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ นโยบายต่างประเทศ และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
โดยทรัมป์ มองว่าแอปพลิเคชันทั้งสองเป็น “ภัยคุกคาม“ และในคำสั่งพิเศษที่เขาเป็นผู้ลงนาม ก็มีการห้ามการทำธุรกรรมใดๆ ที่ไม่เฉพาะเจาะจงกับเจ้าของชาวจีนของแอปพลิเคชันหรือบริษัทย่อยของกิจการเหล่านี้ด้วย
ความเคลื่อนไหวนี้ ไม่ได้กระทบกับเเค่กับบริษัทจีนอย่าง ByteDance เเละ Tencent เท่านั้น เเต่ยังสะเทือนไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ที่มีความสัมพันธ์เเละลงทุนร่วมกันกับทุนจีนด้วย โดยปัจจุบัน Tencent มีหุ้นใน Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังโด่งดังของ Elon Musk รวมไปถึง Epic Games บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และ Spotify สตรีมมิ่งเพลงยอดนิยม ซึ่งต่อไปจะมีผลต่อความไม่เเน่นอนต่อเเผนการขยายลงทุนในต่างประเทศเเละข้อตกลงการควบรวมกิจการต่างๆ