EasyJet จะเก็บค่า “สัมภาระเหนือศีรษะ” จุดกระเเสวิจารณ์ “เพิ่มค่าตั๋ว” จากลูกค้าในยามวิกฤต

Photo : Shutterstock

EasyJet สายการบินราคาประหยัดของอังกฤษ ประกาศกฎใหม่ จะเริ่มเก็บค่าบริการสำหรับสัมภาระที่ผู้โดยสารนำติดตัวขึ้นไปบนเครื่องบินที่ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ

ประเด็นนี้ กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ของอังกฤษ หลายคนมองว่าเป็นข้ออ้างที่สายการบินจะเอาเปรียบลูกค้าด้วยการเพิ่มค่าตั๋วเพื่อหารายได้ในยามวิกฤต COVID-19 ส่วนฝ่ายสนับสนุน มองว่าจะช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระให้เพียงพอ และลดปัญหาการขนสัมภาระเกินความพอดีได้ 

ขณะที่ EasyJet ระบุว่า นโยบายเก็บค่าสัมภาระดังกล่าว เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารเอง เพราะจะทำให้เที่ยวบินตรงเวลามากขึ้น เนื่องจากหนึ่งในสาเหตุทำให้เครื่องบินดีเลย์ก็มาจากการจัดสัมภาระ

โดยผู้โดยสารที่ต้องการจะนำสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องบิน (ไม่ได้โหลดใต้เครื่อง) ที่มีขนาดไม่เกิน 56 x 45 x 25 เซนติเมตร จะต้องจ่ายค่าตั๋วเพิ่มขึ้น จากเดิมไม่คิดค่าบริการ ซึ่งราคาใหม่จะแพงกว่าค่าตั๋วโดยสารสำหรับเที่ยวบินปกติประมาณ 7.99-29.99 ปอนด์ (ราว 345 บาท) ไปจนถึง 29.99 ปอนด์ (ราว 1,200 บาท) สำหรับเที่ยวบินทางไกล

อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเเบบ Flexi Fare หรือลูกค้าประจำผู้เป็นสมาชิกที่ใช้บริการของสายการบินบ่อย จะยังคงสามารถหิ้วกระเป๋าขนาดเล็กขึ้นไปบนห้องโดยสารของเครื่องบินได้

โดยจะเตรียมบังคับใช้นโยบายนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ปี 2021 เป็นต้นไป ขณะที่ผู้โดยสารจะยังคงโหลดกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ลงใต้เครื่องบิน ได้ฟรี 1 ใบตามปกติ

ด้านคู่เเข่งในธุรกิจการบินอังกฤษอย่าง Ryanair ยังอนุญาตให้ผู้โดยสารถือกระเป๋าถือขนาดเล็กขึ้นเครื่องได้ 1 ใบโดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ส่วนตั๋วโดยสารราคาถูกที่สุดของสายการบิน British Airways อนุญาตให้นำกระเป๋าถือขนาดใหญ่และขนาดเล็กขึ้นเครื่องได้อย่างละ 1 ใบ

EasyJet มีผลกระกอบการประจำปีนี้ (ถึงวันที่ 30 กันยายน) “ขาดทุนเป็นครั้งเเรกในรอบ 25 ปี จากผลกระทบการเเพร่ระบาดของ COVID-19 โดยมีการขาดทุนราว 1.27 พันล้านปอนด์

Johan Lundgren ซีอีโอของ EasyJet กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาวนี้ สายการบินจะลดเที่ยวบินลงกว่า 80% ท่ามกลางข้อจำกัดในการเดินทางภายใต้มาตรการควบคุมโรคระบาดของรัฐบาลอังกฤษเเละประเทศอื่นๆ ส่วนการพัฒนาของวัคซีนที่ใกล้ได้ใช้จริงนั้นมองจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจการบินกลับมาฟื้นตัวเเละเเข็งเเกร่งได้อีกครั้ง

 

ที่มา : BBC , the guardian