‘สิงคโปร์’ กำลังเจอปัญหาขาดเเคลน ‘เเรงงานต่างชาติ’ หลังการอนุมัติเดินทางเข้าประเทศเป็นไปอย่างล่าช้า จากมาตรการควบคุมชายเเดนที่ ‘เข้มงวด’ มากขึ้น ส่งผลให้บรรดาบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง การขนส่งทางทะเลและภาคการผลิต ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
Lawrence Wong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดการโควิด-19 ของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างใหม่ๆ จำนวนมากอาจจะล่าช้าออกไปอีก 1 ปีหรือมากกว่านั้น ขณะที่บริษัทในภาคการขนส่งทางทะเลและภาคการผลิต จะต้องสูญเสีย ‘โอกาสทางธุรกิจใหม่’
โดยบริษัทใดก็ตาม หากต้องการนำเข้าแรงงานต่างชาติจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูง จะต้องเผชิญกับ ‘ความล่าช้าอย่างมาก’ เเละรอการอนุมัติการเข้าประเทศนานกว่า 6 เดือน ซึ่งข้อจำกัดใหม่นี้ มีผลบังคับใช้กับทุกประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ยกเว้นออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, บรูไน, จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง และมาเก๊า
“สิ่งที่น่ากังวลคือ การที่บริษัทต่างๆ ต้องเจอความยากลำบากหรือถูกบังคับให้ปิดกิจการ จะส่งผลให้ชาวสิงคโปร์ตกงานมากขึ้นตามไปด้วย”
หอพักจำนวนมากที่เป็นสถานที่พักอาศัยของแรงงานต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชียใต้เป็นศูนย์กลางของการระบาดของโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว เเละเมื่อช่วงปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลเพิ่งกักตัวเพื่อดูอาการแรงงานต่างด้าวราว 1,200 คนในโรงงานแห่งหนึ่ง หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ในกลุ่มแรงงานชายที่คิดว่าหายดีจากการติดเชื้อเเล้ว
สิงคโปร์ เป็นหนึ่งในประเทศที่จัดการโควิด-19 ได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งตอนนี้กำลังเร่งกระจายวัคซีนของ Pfizer เเละ Moderna ให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ยังต้อง ‘ใช้เวลา’ ในการโน้มน้าวให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน เนื่องจากการพบผู้ติดเชื้อในประเทศน้อย ทำให้หลายคนยังลังเล ไม่ตื่นตัว เเละมีความกังวลเกี่ยวกับมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสและผลข้างเคียงจากวัคซีนที่เร่งรีบในการพัฒนา
โดยล่าสุดประชาชนสิงคโปร์ราว 1.8 ล้านคน ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส (ณ วันที่ 9 พฤษภาคม) หรือคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของประชากร
- จับตา ‘ออสเตรเลีย-สิงคโปร์-อินเดีย’ เศรษฐกิจกลับมา ‘สดใส’ โตไวหลังวิกฤตโรคระบาด
- นายกฯ สิงคโปร์ เล็ง ‘เปิดประเทศ’ ให้เดินทาง ‘ท่องเที่ยว’ ได้ ภายในสิ้นปีนี้