แคมเปญ “Home is Everything” ปั้นแบรนด์ “เอสซี แอสเสท” เป็น “พลังใจ” ในยุควิกฤต

“เอสซี แอสเสท” เปิดแคมเปญ “Home is Everything” ส่งมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง รีเมคเพลง “Home” สื่อสารแบรนด์บ้านเดี่ยวเป็นพลังใจให้ผู้บริโภคในภาวะวิกฤต หวังครองแชมป์ตลาดบ้านเดี่ยวในระยะยาว เผยมุมมองคนเลือกซื้อบ้านหลังเผชิญ COVID-19 “พื้นที่ในบ้าน” สำคัญยิ่งกว่าทำเล คนเร่งการตัดสินใจซื้อบ้านแนวราบ ทำให้ยอดขายครึ่งปีแรกเอสซี แอสเสทโต 20%

“ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่…” เชื่อว่าเนื้อเพลงท่อนนี้หากดังขึ้นมาเมื่อไหร่ คนส่วนใหญ่จะยังคงจดจำได้และร้องต่อได้ ทำให้ “เอสซี แอสเสท” หยิบมาเป็นคีย์หลักในการทำแคมเปญ “Home is Everything” เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในห้วงเวลาวิกฤตที่คนคิดถึง “บ้าน” และคนในครอบครัวมากยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา

เพลง “Home” นั้นขับร้องโดย “โอ๋-ธีร์ ไชยเดช” แต่ในเวอร์ชันใหม่สำหรับประกอบโฆษณาของเอสซี แอสเสท มีเสียงของนักร้องหญิง “แซมมี่-ภัคธีมา ชิลเลอร์” ร่วมฟีทเจอริ่งด้วย พร้อมปรับท่วงทำนองให้มีความสดใสและอบอุ่นมากขึ้น

เนื้อหาในหนังโฆษณาฉายภาพของ “ครอบครัว” หลายรูปแบบ ทั้งครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูก ลูกที่ต้องแยกห่างจากคุณพ่อคุณแม่เพราะ COVID-19 ครอบครัวที่มีเพื่อนอยู่ร่วมกันหลายคน คู่ชีวิต LGBTQ คุณป้าที่อยู่กับแมวที่รัก หรือสาวโสดที่อยู่คนเดียว แต่ละคนให้ความหมายของ “บ้าน” ในแบบต่างๆ กันซึ่งสัมผัสกับหัวใจคนดู

feedback หลายคนที่รับชมโฆษณารู้สึกซาบซึ้งกินใจ คิดถึงบ้านและครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ หลังจากปล่อยแคมเปญทุกช่องทางตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 โฆษณา Home is Everything มีผู้ชมบน YouTube ทะลุ 1 ล้านครั้ง และผู้ชมบน Facebook เกือบ 5 แสนครั้ง

 

ให้แบรนด์เป็น “พลังใจ”

โฉมชฎา กุลดิลก” หัวหน้าสายงานกลยุทธ์แบรนด์องค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเบื้องหลังโฆษณาชุดนี้ว่า มาจากการทำโฟกัสกรุ๊ปมาตลอด 7 ปี มักจะมีผู้เข้าร่วมการทำวิจัยตอบคำถามว่า “บ้านมีความหมายว่าอย่างไรสำหรับคุณ” ด้วยเพลงเพลงนี้เสมอ

ที่ผ่านมา เอสซี แอสเสทยังไม่เคยหยิบไอเดียนี้มาใช้จนกระทั่งเกิดวิกฤต COVID-19 ซึ่งทำให้เพลงนี้เหมาะกับสถานการณ์อย่างที่สุด

แคมเปญ Home is Everything

“เราคาดหวังว่า เมื่อชมโฆษณานี้แล้วจะทำให้แบรนด์เราไปปรากฏใกล้ๆ กับความรู้สึกของการมี ‘พลังใจ’ เมื่ออยากจะมีบ้านสักหลังที่จะเป็นกำลังใจให้ตนเอง แม้วันนี้คุณอาจจะยังไม่ได้อยากซื้อบ้าน แต่ถ้าวันหนึ่งที่คุณอยากจะมีบ้าน ก็อยากให้เราไปอยู่ในใจ” โฉมชฎากล่าว

จุดประสงค์ของโฆษณาชุดนี้จึงเป็นการสร้าง Brand Awareness ในระยะยาว โดยใช้มิวสิก มาร์เก็ตติ้งที่พิสูจน์ได้มาตลอดว่าเหมาะกับการสร้างการจดจำ ผนวกกับการวางตำแหน่งแบรนด์อย่างระมัดระวังในเวลาที่คนอ่อนไหว โดยให้แบรนด์อยู่ในจุดที่เป็นความหวังของคน แต่ยังสร้างความรู้สึกว่าแบรนด์ ‘สู้และเผชิญกับทุกอย่างไปด้วยกัน’ ด้วยเช่นกัน

 

แก้แบรนด์ “เอสซี แอสเสท” ติดภาพความ “แพง”

เมื่อพูดถึงบ้านเอสซี แอสเสท ในเชิงบวกแล้วคนนึกถึงอะไร? “ณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์” หัวหน้าสายงานการตลาด บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มองว่า “บ้านเอสซีฯ” มักจะให้ภาพบ้านที่พื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านครบตอบโจทย์ มีเทคโนโลยี และการก่อสร้างรวมถึงบริการหลังการขายที่ดี

Verve รามคำแหง-วงแหวน ทาวน์โฮมราคาเริ่ม 3.89 ล้านบาท

เมื่อมีข้อดีแล้วก็มีจุดอ่อนเช่นกัน โดยโฉมชฎามองความท้าทายของแบรนด์ว่า ภาพบ้านเอสซีฯ มักจะมาพร้อมกับ “ราคาที่สูง” ซึ่งในอดีตนั้นอาจจะใช่เพราะบริษัทเคยสร้างเฉพาะบ้านราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปมาก่อน แต่ปัจจุบันบ้านเอสซีฯ ลงมาเล่นในราคาเริ่ม 4 ล้านบาทสำหรับบ้านแฝด และมีทาวน์โฮมราคาเริ่ม 3 ล้านบาทด้วย

ภาพในโฆษณาจึงพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ว่าเอสซี แอสเสทเป็น ‘Home For All’ มีครอบครัวหลายแบบที่เป็นลูกบ้าน และการสื่อสารยุคใหม่ของเอสซีฯ จะเห็นได้ว่าพยายามใช้ภาษาไทยมากขึ้น จากสมัยก่อนจะนิยมภาษาอังกฤษ ใช้เพลงประกอบโฆษณาให้แมสขึ้น เพื่อให้คนจดจำว่าเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย

 

พื้นที่ พื้นที่ พื้นที่

นอกจากอินไซต์ของคนยุค COVID-19 จะให้โจทย์เรื่องอารมณ์ความรู้สึกแล้ว พฤติกรรมการอยู่อาศัยก็เปลี่ยนไป โดยณัฏฐกิตติ์ระบุว่า มี 4 เรื่องที่คนซื้อบ้านยุคนี้ต้องการ คือ

1.พื้นที่ธรรมชาติ เพราะคนอยู่หน้าจอมากขึ้น จึงต้องการพื้นที่สีเขียวในบ้านเพื่อพักตา
2.อยู่สบายทุกคน เพราะสมาชิกครอบครัวอยู่บ้านพร้อมกันมากขึ้น ทุกคนต่างต้องการพื้นที่ส่วนตัวเมื่อเรียน ทำงาน พักผ่อน
3.พื้นที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ เพราะความไม่แน่นอนของชีวิต ทำให้คนต้องการพื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้เสมอ
4.ประหยัดพลังงาน เพราะยิ่งอยู่บ้านมาก ค่าไฟฟ้ายิ่งพุ่ง

“ยุคนี้สำคัญที่สุดเลยเมื่อคนมาดูบ้านคือ พื้นที่ใช้สอยในบ้าน คนยอมที่จะอยู่ไกลเมืองมากขึ้น ถ้าได้พื้นที่ใหญ่ขึ้น ทำเลกลายเป็นเรื่องรองกว่าพื้นที่ในบ้านแล้ว” ณัฏฐกิตติ์กล่าว

“โฉมชฎา กุลดิลก” หัวหน้าสายงานกลยุทธ์แบรนด์องค์กร และ “ณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์” หัวหน้าสายงานการตลาด บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

 

“บ้านเดี่ยว” ขายดี เอสซีฯ ขอครองตลาดเบอร์ 1

ในแง่ยอดขาย ณัฏฐกิตติ์กล่าวว่า “บ้านเดี่ยว” กลับยิ่งขายดีขึ้นกว่าปีก่อน แม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 จะยังไม่ดีขึ้น และผู้บริโภคอยู่ในอารมณ์ที่ไม่สดใส เนื่องจากบ้านเป็นปัจจัยสี่ของคน

“ปีก่อนมีชะงักบ้านหลังเกิดระบาดรอบแรก แต่หลังจากนั้นก็กลับมาปกติ และ 6 เดือนแรกของปีนี้ยอดขายเราโตขึ้นกว่าปีก่อน 20% ด้วย เพราะบ้านเป็นสิ่งจำเป็น ยิ่งอยู่บ้านกันหมดยิ่งทำให้คนต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นเดี๋ยวนี้ จากเดิมอาจเป็นแผนจะซื้อบ้านในอีกปีสองปี ก็กลายเป็นต้องตัดสินใจซื้อเลย” ณัฏฐกิตติ์กล่าว

สำหรับแคมเปญ Home is Everything จะมีการทำโปรโมชันพ่วงไปด้วยเพื่อเร่งยอดขาย โดยให้ส่วนลดสูงสุด 7 ล้านบาท มีโครงการแนวราบเข้าร่วม 44 โครงการ วางเป้าหมายยอดขายภายใต้แคมเปญ 4,000 ล้านบาทภายใน 2 เดือน

โดยเอสซี แอสเสทวางเป้าเป็นเบอร์ 1 ในตลาดบ้านเดี่ยวให้ได้ภายใน 2 ปี ช่วงไตรมาส 1 ของปี 2564 เอสซีฯ ขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 แล้ว แต่จะต้องรักษาไว้ให้ได้ รวมถึงต้องการจะเป็น Top of Mind ในใจลูกค้าเมื่อคิดถึง “บ้านเดี่ยว” ด้วย