สองเทคยักษ์ใหญ่เกาหลี ‘ฮุนได–เเอลจี’ ทุ่มทุน 1.1 ล้านดอลลาร์ ปักหลักสร้างโรงงานผลิตเเบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าใน ‘อินโดนีเซีย’
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด กล่าวยกย่องว่า ‘นี่เป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนไปสู่การเป็นประเทศเเห่งเทคโนโลยี’
โดย ‘แอลจี เอเนอร์จี โซลูชั่น’ ประกาศร่วมทุนกับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่าง ‘ฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป’ เริ่มเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) บนพื้นที่ทางตะวันตกของเกาะชวา อินโดนีเซีย
คิม จงฮยอน ซีอีโอของแอลจี เอเนอร์จี กล่าวว่า โรงงานที่อินโดนีเซียแห่งนี้ จะเป็นฐานการผลิตหลักในการตีตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ไม่ใช่เเค่ในอาเซียนเท่านั้น
โดยจะจะผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยี NCMA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาขึ้นโดยแอลจี ใช้นิกเกิลเป็นองค์ประกอบหลักในการผลิตแบตเตอรี่ถึง 90% คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2024 เเละจะนำไปใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ของฮุนไดเเละ Kia
กำลังการผลิตเซลล์แบตเตอรี่เบื้องต้นจะอยู่ที่ 10 GWh หรือเพียงพอสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 150,000 คันต่อปีขณะเดียวกัน ฮุนไดก็กำลังสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในบริเวณใกล้เคียง โดยจะเริ่มผลิตในปีหน้า
อินโดนีเซียกำลังเป็นที่ดึงดูดของบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตเเร่นิกเกิลรายใหญ่ที่สุดของโลก เเละมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 46% เป็น 550,000 ตันต่อปี (ข้อมูลปี 2020) เเละต้องการเป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของวงการรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก
ทั้งนี้ โรงงานแบตเตอรี่เเห่งนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนกว่า 9,800 ล้านดอลลาร์ ที่รัฐบาลอินโดนีเซียร่วมลงนามกับแอลจี เมื่อเดือน ธ.ค. 2020 เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ในประเทศแบบ ‘ครบวงจร’ ตั้งเเต่โรงถลุงนิกเกิล โรงงานผลิตสารตั้งต้นในการผลิตแบตเตอรี่ และโรงงานรีไซเคิล
ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ระบุว่า การก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งใหม่นี้ ชี้ให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาล ในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของประเทศ เพื่อให้หลุดพ้นกับดักการเป็นเพียงผู้ผลิตวัตถุดิบ
“หมดยุคทองของสินค้าโภคภัณฑ์แล้ว เราต้องเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ จากการผลิตวัตถุดิบ ไปสู่อุตสาหกรรมขั้นปลาย โดยอาศัยการพัฒนาเทคโนโลยีเเละนวัตกรรมต่างๆ”
โดยผู้นำอินโดนีเซีย มองว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ในประเทศจะดึงดูดการลงทุนของต่างชาติ เพื่อสนับสนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในท้องถิ่น รวมถึงรถจักรยานยนต์และรถประจำทางด้วย
- GM ปรับสู่ “รถไฟฟ้า-รถยนต์ไร้คนขับ” จริงจัง ทุ่ม 8.2 แสนล้าน มุ่งผลิต EV ให้ได้ 40% ในปี 2025
- กระแสรักษ์โลกกำลังเปลี่ยน ‘ทองแดง’ ให้กลายเป็น ‘บ่อน้ำมัน’ แห่งใหม่
ที่มา : Nikkei Asia , hyundai