“Innisfree” เตรียมปิดสาขาครึ่งหนึ่งใน “จีน” ผลกระทบคนจีนหันไปใช้ “เครื่องสำอาง” ท้องถิ่น

ร้าน Innisfree x Tmall ในเมืองหางโจว ประเทศจีน (Photo: Shutterstock)
Amorepacific เจ้าของเครื่องสำอางเกาหลีสารพัดแบรนด์ เตรียมปิดหน้าสาขาออฟไลน์ใน “จีน” ลงอีก โดยเฉพาะแบรนด์ Innisfree ที่จะปิดตัวลงครึ่งหนึ่ง หลังผลประกอบการหดแรงจากทั้งวิกฤตโรคระบาดและคนจีนหันไปนิยมแบรนด์จีนมากขึ้น โดยบริษัทจะเปลี่ยนแผนไปผลักดันแบรนด์ไฮเอนด์อย่าง Salwhasoo แทน

สำนักข่าว The Korea Herald รายงานการทยอยปิดหน้าร้านออฟไลน์ในจีนของ Amorepacific เครือเครื่องสำอางเกาหลีใต้รายใหญ่ โดยเมื่อปี 2019 เครือนี้เคยมีหน้าสาขาของทุกแบรนด์รวมกันถึง 1,280 สาขา แต่หลังเผชิญโรคระบาด COVID-19 บริษัทมีสาขาของแบรนด์ลดเหลือประมาณ 800 สาขาเมื่อปี 2020

Amorepacific เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางมากมาย เช่น Innisfree, Etude, Mamonde, Laneige, IOPE, Hera, Salwhasoo

แต่แบรนด์ที่น่าจะรับผลกระทบหนักที่สุดในจีนคือ Innisfree ที่ลดจากจำนวนสาขา 610 แห่งเมื่อปี 2019 เหลือเพียง 280 สาขาเมื่อปี 2020 และคาดว่าปี 2022 นี้จำนวนสาขาจะลงไปเหลือ 140 สาขาเท่านั้น

ความนิยมสินค้าเครื่องสำอางเกาหลีในจีนหดตัวลง

ยอดขายในจีนของ Innisfree ลดลงไปถึง 50% เมื่อไตรมาส 3/2021 ส่วนหนึ่งเนื่องจากชาวจีนหันไปนิยมเครื่องสำอางแบรนด์จีนเองมากขึ้น หลังกระแส C-Beauty มาแรง เครื่องสำอางท้องถิ่นพัฒนาคุณภาพขึ้นมาจนทัดเทียมหรือดีกว่าแบรนด์ต่างประเทศในระดับเดียวกันไปแล้ว

“C-Beauty เป็นกระแสมาแรงมากในกลุ่มเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้า ผู้บริโภคชาวจีนหันมานิยมแบรนด์ราคาประหยัดของจีนเองมากขึ้นเมื่อต้องการแต่งหน้า ส่วนสกินแคร์จะยังนิยมแบรนด์ต่างประเทศราคาสูงในระดับไฮเอนด์” จองโซฮยอน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Kyobo กล่าว

อย่างไรก็ตาม การลดหน้าสาขาออฟไลน์ของ Amorepacific บริษัทระบุว่า ถือเป็นนโยบายของบริษัทแม่อยู่แล้ว เป็นกลยุทธ์ที่จะหันไปเน้นผลักดันแบรนด์ไฮเอนด์กับการจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซแทน โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะดันยอดขายผ่านอีคอมเมิร์ซในจีนขึ้นอีก 30% ในปีนี้ จากการทำคอนเทนต์ใน TikTok และ Kuaishou สองแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสุดฮิต

สกินแคร์ไฮเอนด์ Salwhasoo จะเป็นแบรนด์ที่บริษัทแม่เน้นผลักดันมากขึ้นในจีน

บริษัทยังจะผลักดันแบรนด์ Salwhasoo มากขึ้น เพราะเป็นแบรนด์สกินแคร์ไฮเอนด์ที่ตรงกับความต้องการผู้บริโภคจีน สินค้าของ Salwhasoo จะถูกนำไปวางร่วมกับหน้าสาขาของ Innisfree ที่เหลืออยู่ ส่วนสินค้าราคาประหยัดที่มีอัตรากำไรต่ำ เช่น มาส์กหน้า, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า จะถูกลดการวางจำหน่ายในจีน

ก่อนหน้านี้ Etude House อีกแบรนด์หนึ่งในเครือก็เคยปิดสาขาทั้งหมด 58 สาขาในจีนไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 แม้ว่าทางบริษัท Amorepacific จะยืนยันว่าเป็นการปรับแผน แต่ตัวเลขยอดขายในต่างประเทศที่ลดลง 9.2% เมื่อไตรมาส 3/2021 ก็สะท้อนให้เห็นเทรนด์ที่หดตัวลง

Perfect Diary แบรนด์จีนมาแรง นำกระแส C-Beauty

การหดตัวของเครื่องสำอางเกาหลีไม่ได้เกิดขึ้นกับ Amorepacific เจ้าเดียว ก่อนหน้านี้เครื่องสำอางเกาหลีเป็นที่นิยมอย่างมากในจีนเพราะการส่งออกวัฒนธรรมผ่านซีรีส์เกาหลีและศิลปินดารา แต่ช่วงหลังปี 2017 เป็นต้นมา แบรนด์จีนเริ่มตีตื้นขึ้นจนผู้บริโภคเห็นว่าคุณภาพสินค้าดีกว่าแบรนด์ต่างประเทศ ในราคาที่ถูกกว่า และแบรนด์จีนยังตามผู้บริโภคได้เร็วกว่า เข้าไปโปรโมตผ่านโซเชียลดัง เช่น Douyin (TikTok ของจีน) ก่อนที่แบรนด์ต่างประเทศจะตามได้ทัน

ข้อมูลจากบริษัท Tmall.com แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีน พบว่ายอดขายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางที่ขายผ่านแพลตฟอร์มนี้เมื่อปี 2019 แบ่งเป็นยอดขายจากแบรนด์จีนท้องถิ่นถึง 61% ส่วนอีก 39% คือแบรนด์ต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ตลาดเครื่องสำอางของจีนยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่แบรนด์ต่างประเทศยังคงจับจ้อง โดยบริษัทวิจัย iiMedia คาดว่าตลาดเครื่องสำอางในจีนจะมีมูลค่าถึงเกือบ 5 แสนล้านหยวนภายในปี 2022 (ประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท)

Source: The Korea Herald/Retail in Asia, Global Times