ปูทางสู่ค้าปลีกเบอร์หนึ่งเเห่งเอเชีย ‘เซ็นทรัล รีเทล’ กางเเผนทุ่มงบ 1 เเสนล้านบาทใน 5 ปี ขยายการเติบโตทั้งกลุ่มอาหาร แฟชั่น ฮาร์ดไลน์และอสังหาฯ เตรียมสร้างธุรกิจใหม่อย่าง Wellness พร้อมมุ่งพัฒนาเทคโนโลยี เเย้มกำลังทดลองนำเเบรนด์เข้า Metaverse
การเเพร่ระบาดในช่วงโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อธุรกิจค้าปลีกไม่น้อย เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ทั้งสาขาในไทย เวียดนาม และอิตาลี
เเต่ในอีกมุมหนึ่ง เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ก็ทำให้ในส่วน ‘ค้าปลีกออนไลน์’ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก
‘ญนน์ โภคทรัพย์’ ซีอีโอของ CRC เล่าว่า หลังจากที่บริษัทได้พัฒนาระบบ Omni – Channel มาได้ราว 2 ปี
มีการเติบโตมากกว่า 500% ลูกค้าเข้ามาประมาณ 3 ล้านคนจากฐานลูกค้า 18 ล้านคน “เป้าหมายใน 5 ปีข้างหน้า เซ็นทรัล รีเทลต้องการเปลี่ยนลูกค้าจาก Single Channel เป็น Omnichannel ให้ได้ 50%”
ที่ผ่านมาพบว่า การซื้อสินค้าผ่าน Omni – Channel มีมากกว่า 2 เท่า เเละใช้จ่ายมากกว่าช่องทางเดียว 5 เท่า ทำให้สัดส่วนรายได้ที่มาจากช่องทางดังกล่าว ณ สิ้นปี 2564 คิดเป็น 20% ของเซ็นทรัล รีเทล เพิ่มจากปี 2563 ที่ 10%
สำหรับแผนงาน 5 ปี (2565-2569) จะเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ ‘CRC Retailligence’ สร้างนวัตกรรมการค้าแห่งยุคอนาคต ผ่านการลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ขยายการเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจทั้งอาหาร แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ ควบรวมและเเตกไลน์ธุรกิจใหม่
งบการลงทุน 1 เเสนล้านนั้น จะเเบ่งเป็น 75% สำหรับการขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม ส่วนอีก 25% จะใช้สำหรับลงทุนเทคโนโลยี
โดยตั้งเป้าผลประกอบการในปี 2569 จะเติบโตในทุกมิติ รายได้เติบโต 2.5 เท่า EBITDA เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า
ทั้งนี้ในไตรมาส 3 ปี 2564 มีรายได้ทั้งสิ้น 136,889 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศไทย 70% เเละต่างประเทศคือ เวียดนาม 20% และอิตาลี 10%
เดินหน้า 4 กลยุทธ์สร้างการเติบโต
เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายนั้น CRC ได้วางยุทธศาสตร์สำคัญไว้ ได้เเก่
- Reinvent Next-Gen Omni Retail
ยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชนเนล ผ่านการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริง ใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ ๆ ทั้งฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี
- Accelerate Core Leadership
เร่งการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักของเซ็นทรัล รีเทล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- Build New Growth Pillars
สร้างธุรกิจใหม่ โดยเริ่มจากกลุ่ม wellness รวมถึงเซ็กเมนต์อื่น ๆ ที่เป็นไปตามเทรนด์ของโลก และความต้องการของผู้บริโภค
- Drive Partnership, Acquisition and Spin Off
ขยายธุรกิจภายใต้แนวคิด Inclusive Growth สร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ตเนอร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
สรุป 5 เทรนด์ธุรกิจค้าปลีก
สำหรับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค เเละสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โลกปัจจุบัน คือ
A New Consumer Paradigm: พฤติกรรมของผู้บริโภคจะพลิกไปสู่รูปแบบใหม่ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบเดิมอย่างสิ้นเชิงและรวดเร็ว
Scaling in the Era of Digital Acceleration : โลกจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นตัวเร่ง
The Future of Wellness : ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการดูแลสุขภาพและการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ โดยจะมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตได้ครบวงจร
Partnership for Inclusive Growth : การร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจจะมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จและการเติบโตไปด้วยกัน
Sustainability Agenda for All : การมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมและดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญของทุกคนและทุกภาคส่วน
‘ตรึงราคาสินค้า’ รับปัญหาของเเพง
ผู้บริหาร CRC ระบุว่า บริษัทเริ่มมองเห็นสัญญาณบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คาดว่าปีนี้จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง
“กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มกลางถึงบน ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของ CRC เเต่กำลังซื้อของผู้บริโภคระดับล่างยังค่อนข้างฝืด เพราะได้รับผลกระทบหนักที่สุด”
โดยมองว่า ภาครัฐควรเร่งผลักดันมาตรการทางเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้มากขึ้น ที่สำคัญต้องสร้าง ‘ความเชื่อใจ’ ให้แก่ผู้บริโภค
สำหรับปัญหาด้านเงินเฟ้อ ค่าครองชีพเเละต้นทุนวัตถุดิบที่เเพงขึ้นในขณะนี้นั้น CRC ในฐานะผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ ได้ร่วมมือกับสมาคมค้าปลีก “พยายามตรึงสินค้าให้ได้มากที่สุด” หาสินค้าบางอย่างมาทดแทน พร้อมหารือกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์ถึงวิธีการต้นทุนและราคาขายสินค้าต่างๆ เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถตรึงราคาสินค้าจนถึงสิ้นไตรมาส 1 ดูว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เเล้วจะนำมาพิจารณาเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาสต่อไป
ทดลองนำเเบรนด์เข้า Metaverse
เมื่อถามถึงโอกาสที่ ‘เซ็นทรัล รีเทล’ จะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ คริปโตเคอร์เรนซี เเละจะมีการนำ Stablecoin มาใช้ในอนาคตหรือไม่นั้น
ญนน์ตอบว่า สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเทรนด์ที่หนีไม่พ้น ซึ่งจะต้องมีการบาลานซ์ในด้านการเทคโนโลยีและการใช้ชีวิต ส่วนในเรื่องการนำ Stablecoin มาใช้นั้น หากไม่ขัดกับนโยบายของธนาคารเเห่งประเทศไทย ก็พร้อมจะสนับสนุน แต่หากขัดต่อข้อกฎหมาย บริษัทก็จะไม่ดำเนินงานต่อ ซึ่งปัจจุบันก็มีการพัฒนา C-Coin ใช้ในองค์กรอยู่แล้ว
ด้านกระเเส Metaverse ที่กำลังตื่นตัวในหลายธุรกิจ ผู้บริหาร CRC มองว่า เป็นเทรนด์เเห่งโลกอนาคต ซึ่งทางบริษัทกำลังจะทดลองนำเเบรนด์หนึ่งในเครือเข้าไปอยู่ใน Metaverse เช่นกัน เเต่ขณะนี้ยังเป็นความลับ ซึ่งจะมีเปิดเผยในทราบกันในเร็วๆ นี้
- เซ็นทรัล รีเทล ลงทุนใน Mercular มุ่งหน้าสู่การเป็น “New Retail”
- “ต๊อด ปิติ” นำ “ฟู้ด แฟคเตอร์” เข้าสู่ Metaverse เปิดหน้าร้าน ทำการตลาดผ่าน Jakaverse