“แสนสิริ” ต่อยอดเรื่อง “ความหลากหลายและความเท่าเทียม” ของแบรนด์ จับมือห้องเสื้อสูทดัง VVON SUGUNNASIL ออกแบบ YOUniform ที่รับฟังความต้องการจริงของ “พนักงานขาย” และลูกค้า ออกมาเป็น 6 ลุคที่สวมใส่สบาย ไร้เพศ (genderless) และใส่สวยทุกรูปร่าง (body positivity)
ปีนี้ “แสนสิริ” รุกหนักยิ่งขึ้นในการสื่อสารแบรนด์ โดยต้องการแสดงออกให้เห็นทุก touchpoint ว่าแบรนด์ใส่ใจ ต้องการให้แคมเปญ YOU Are Made For Life ไม่ใช่แค่แคมเปญ แต่เป็นคุณค่าหลักของแบรนด์
จุดยืนที่แสนสิริต้องการสื่อสาร คือการสนับสนุน “ความหลากหลายและความเท่าเทียม” ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นด้านเพศ อายุ รูปร่าง ฯลฯ ซึ่งบริษัทค่อยๆ เสนอคอนเซ็ปต์นี้มานานกว่า 5 ปี กว่าที่จะเห็นได้เด่นชัดในตลาดและสะท้อนเป็นยอดขาย (สามารถอ่านบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับจุดยืนด้านความหลากหลายและเท่าเทียมของแสนสิริได้ที่นี่)
สำหรับการตอกย้ำจุดยืนแบรนด์อีกหนึ่ง touchpoint ล่าสุดแสนสิริมีแคมเปญ YOUniform คือการยกเครื่องชุด “ยูนิฟอร์ม” พนักงานขายใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับจุดยืนของแบรนด์ และแก้ปัญหาให้กับเซลส์ซึ่งถือเป็นหน้าด่านที่ต้องพบปะกับลูกค้าโดยตรง
โดยแบรนด์ที่แสนสิริเลือกร่วมงานด้วยคือห้องเสื้อแบรนด์ VVON SUGUNNASIL ซึ่งเชี่ยวชาญการตัดสูท เชิ้ต กางเกงที่ใส่ได้ทุกเพศ ดีไซน์ออกมาเป็น 6 ลุค YOUniform ใหม่ของบริษัทที่เริ่มใช้ทุกไซต์โครงการทั่วประเทศแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ครอบคลุมพนักงานขายกว่า 270 คน
“สมฤทัย พรหมจรรย์” Brand Manager บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเลือกแบรนด์ VVON SUGUNNASIL ในครั้งนี้ เพราะเห็นว่า DNA ของแบรนด์มีความใกล้เคียงกัน แสนสิริเองเป็นแบรนด์ที่เคยถูกมองว่าพัฒนาเฉพาะสินค้าระดับพรีเมียม แต่ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าระดับกลางและลงไปถึงระดับเข้าถึงได้ง่าย (affordable) เช่นเดียวกับ VVON SUGUNNASIL ที่แจ้งเกิดจากการตัดเย็บสูทแบบ tailor-made ระดับไฮเอนด์ แต่ล่าสุดมีการเปิดคอลเล็กชัน ready-to-wear แล้ว เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงง่ายขึ้น
สมฤทัยกล่าวว่า ปกติยูนิฟอร์มพนักงานขายจะมีการเปลี่ยนทุกๆ 2-3 ปี และจะมีเพียง 2-3 ลุค แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แสนสิริจะมีถึง 6 ลุคให้เลือก และรับฟังพนักงานขายที่เป็นผู้สวมใส่จริงก่อนจะออกแบบชุดออกมา
ชุดเดิมไม่เหมาะกับการใช้งานจริง
“ทัตวร สุกัณศีล” เจ้าของและผู้ก่อตั้งแบรนด์ VVON SUGUNNASIL อธิบายการทำงานกับแสนสิริว่า ทีมเริ่มต้นจากการพูดคุยวิจัยความต้องการพนักงานขายก่อน และพบว่ายูนิฟอร์มเดิมของเซลส์อาจไม่เหมาะกับหน้างานมากนัก เพราะลักษณะชุดที่เคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก และไม่เหมาะกับอากาศร้อนของเมืองไทย ขณะเดียวกัน โจทย์ใหม่ของแสนสิริต้องการให้ชุดยูนิฟอร์มแสดงออกถึงความใส่ใจต่อรูปร่างทุกแบบของพนักงาน
สมฤทัยเสริมว่า ขณะเดียวกันฝั่งลูกค้าก็มี feedback กับชุดยูนิฟอร์มแบบเก่า เพราะแสนสิริเริ่มหันไปจับคอนโดฯ ต่ำล้าน หรือทาวน์เฮาส์ราคา 2-3 ล้านบาท แต่ชุดกลับดูเป็นทางการเกินไป
“เมื่อเข้าไปเจอบรรยากาศชุดสูทพนักงานขายแบบนั้น เขาถามเลยว่า ‘น้อง..อย่างพี่จะซื้อไหวเหรอ’ ทั้งๆ ที่ลูกค้ามีกำลังซื้อ แต่ลูกค้าเกร็งและไม่กล้าถามอะไร ทำให้เราเห็นแล้วว่าชุดเราไม่สามารถ One size fit all ได้ เราต้องมีการแบ่งเป็นหลายๆ แบบ” สมฤทัยกล่าว
6 ลุคตอบโจทย์ทุกเซ็กเมนต์ และทุกรูปร่าง
เมื่อได้โจทย์ดังกล่าวมาแล้ว ทัตวรจึงสร้างสรรค์ออกมาเป็นชุด 6 ลุคที่แตกต่างกัน แต่จะมีแนวคิดหลักเหมือนกันคือเป็นคัตติ้งใส่สบาย โอเวอร์ไซส์เล็กน้อยเพื่อพรางทุกรูปร่าง และเนื้อผ้าจะเป็นผ้าระบายอากาศ ไม่ยับง่าย ทนทาน โดยแบ่งกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
- กลุ่ม Formal : ใช้สูทสีน้ำเงินเป็นหลัก เชิ้ตสีฟ้าสด และติดเข็มกลัดสีส้ม กลุ่มนี้มีทั้งหมด 4 ลุค ได้แก่
– ชุดสูทชายและชุดสูทหญิงแขนยาว กางเกงทรงตรง แต่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าตัวในมีความยาวแขนถึงข้อศอกเท่านั้น ตัวสูทจะมีลักษณะเป็นแจ็คเก็ตไม่เข้ารูปที่ใส่สบายมากขึ้น
– ชุดเดรสยาวสีน้ำเงิน ทรงแขนโค้งเล็กน้อย สามารถตั้งคอปกเพิ่มความชิคได้ ตอบสนองผู้หญิงที่ชื่นชอบกระโปรง
– ชุดสำหรับสตรีที่มีรูปร่างใหญ่ ออกแบบเสื้อให้เป็นแขนสามส่วน เจาะช่องสำหรับสอดเข็มขัดเพื่อสร้างสัดส่วนแต่ยังช่วยพรางหุ่นด้านหลัง สร้างความมั่นใจแบบ Real-size Beauty
- กลุ่ม Casual : ใช้สูทสีน้ำเงินอมเทา เชิ้ตสีเขียวเข้ม และติดเข็มกลัดสีฟ้า กลุ่มนี้มี 2 ลุค ได้แก่
– ชุดสูทชายแขนสามส่วน แต่เป็นรูปแบบแจ็คเก็ตสีน้ำเงินอมเทา ด้านในเป็นเชิ้ตแขนสามส่วนสีเขียวเข้ม เสื้อและกางเกงทรงตรงใส่สบายเช่นกัน
– ชุดเสื้อกางเกงผู้หญิง ฝั่งผู้หญิงจะใส่เชิ้ตแขนสามส่วนสีเขียวโดยไม่มีสูท แต่เป็นเชิ้ตยาวที่คลุมรูปร่าง และมีเข็มขัดเส้นเล็ก พร้อมกับกางเกงทรงบอลลูนโปร่งสบาย
สมฤทัยระบุว่า การแบ่งกลุ่มชุดใช้งาน ในโครงการเซ็กเมนต์ลักชัวรี เซลส์จะใส่ชุดในกลุ่ม Formal ทั้งหมด ขณะที่กลุ่มโครงการระดับกลาง เซลส์สามารถเลือกใส่ผสมผสานทั้ง Formal และ Casual สลับกัน โดยชุดที่เป็นสูท สามารถถอดสูทออกเหลือเฉพาะเชิ้ตได้ ขณะที่โครงการเข้าถึงได้ง่าย จะเน้นให้ใส่เป็นแบบ Casual หรือถอดสูทออก เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น
เมื่อถามถึงการใส่ชุดตามเพศที่ตนเองสะดวกใจ สมฤทัยกล่าวว่า บริษัทสนับสนุนเต็มที่ตามคอนเซ็ปต์ส่งเสริม LGBTQ+ โดยยกตัวอย่างพนักงานขายทรานส์เมน/ทรานส์วีเมนของแสนสิริ ก็เลือกที่จะใส่ชุดตามเพศที่ต้องการได้แล้ว โดยบริษัทไม่ได้กังวลกับผลตอบรับของลูกค้า เพราะเชื่อว่าสังคมเปิดใจยอมรับมากขึ้น เห็นได้ว่าพนักงานทรานส์ก็สามารถปิดยอดขายได้ปกติ
“เราหวังว่าพนักงานจะมีความสุขในการทำงานมากขึ้นจากตัวเลือกชุดใหม่ที่มีหลายแบบ และคาดว่าลูกค้าเราจะยังสัมผัสถึงความเป็นมืออาชีพของพนักงาน สามารถแนะนำโครงการ แนะนำสินเชื่อได้ แต่รู้สึกว่าพนักงานเราเข้าถึงง่ายขึ้นผ่านชุด YOUniform นี้” สมฤทัยกล่าวปิดท้าย