Worry-Free Beauty สกินแคร์คลีนบิวตี้ สไตล์ “ลาล่า-วิลาสินี” อดีตผู้บริหาร Yves Rocher

“วิลาสินี ภาณุรัตน์” อดีต CMO มือการตลาดของ Yves Rocher สกินแคร์จากฝรั่งเศส ได้ผันตัวจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ มาปั้นแบรนด์ของตัวเอง ผุด Worry-Free Beauty วางจุดยืนเป็นคลีนบิวตี้ ในราคาจับต้องได้

ปั้นคลีนบิวตี้ด้วยตัวเอง

เทรนด์ของสวยรักษ์โลกยังคงเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าในช่วงหลายปีมานี้ ทั้งแบรนด์ระดับโกลบอล หรือแบรนด์เล็กๆ แบบ SME ต่างปรับตัวเพื่อรับกับกระแสนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแพ็กเกจจิ้งที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงส่วนผสมต่างๆ ที่สร้างความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ ไม่มีการทดลองกับสัตว์

“วิลาสินี ภาณุรัตน์” หรือ ลาล่า เป็นอีกหนึ่งผู้คร่ำหวอดในวงการสกินแคร์มายาวนาน ก่อนหน้านี้เธอดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท อีฟโรเช่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือแบรนด์ Yves Rocher ที่หลายคนรู้จัก

วิลาสินี ภาณุรัตน์
วิลาสินี ภาณุรัตน์

วิลาสินีอยู่ที่ Yves Rocher ประมาณ 2-3 ปี เธอได้ปลุกปั้นแบรนด์จนเป็นที่รู้จักมากขึ้น และในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ต่างๆ หรือคีย์ แมสเสจต่างๆ จะพูดเรือ่งสิ่งแวดล้อมมากขึ้น วางจุดยืนให้แบรดน์เป็น “สวยรักษ์โลก” มากที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นการปรับแพ็กเกจจิ้งเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการห่อพลาสติกในตัวสินค้า เปลี่ยนเป็นกระดาษแทน ใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิล มีจุด Refill สินค้า เพื่อลดการใช้แพ็กเกจจิ้ง รวมไปถึงส่วนผสมของสกินแคร์ ที่ลดการรบกวนสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด

จะเห็นได้ว่าวิลาสินีค่อนข้างมี Passion กับการทำกรีนบิวตี้มาโดยตลอด ล่าสุดวิลาสินีได้ผันตัวจาก CMO ของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ เพื่อมาปั้นแบรนด์ของตัวเอง ได้เปิดตัว Worry-Free Beauty (วอรี่-ฟรี บิวตี้) วางจุดยืนเป็นคลีนบิวตี้ในราคาที่จับต้องได้

ต้องโปร่งใส ตรวจสอบที่มาสินค้าได้

คำว่าคลีนบิวตี้ของแบรนด์นี้ ยึดคำนิยามความคลีนที่ทางแบรนด์มีต่อผู้บริโภคว่าต้องโปร่งใส ปลอดภัย ให้ประโยชน์สูงสุด และปราศจากความกังวล มีความเชื่อว่ายิ่งในยุคนี้มีการแข่งขันที่สูงขึ้น แบรนด์ที่มีจุดยืนชัดเจนจะได้ใจผู้บริโภคมากที่สุด

ยิ่งในยุคนี้ผู้บริโภครุ่นใหม่ไม่ได้เลือกแบรนด์จากแค่สินค้าอย่างเดียว แต่ยังมองถึงเรื่องราว และที่มาของแบรนด์ด้วย ถ้าใส่สตอรี่ในเรื่องสิ่งแวดล้อม ยิ่งได้ใจผู้บริโภคเข้าไปใหญ่

worry free beauty

วิลาสินี ภาณุรัตน์ Chief Cheerleader & CREATOR แบรนด์วอรี่-ฟรี บิวตี้ กล่าวว่า

“ตัวเองอยู่ในวงการมาสักระยะหนึ่งแล้ว ได้ทำและเห็นอะไรมาค่อนข้างมาก จนถึงตอนนี้เกิดเป็นความตั้งใจที่อยากจะปรับมาตรฐานของวงการบิวตี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยต้องการให้สินค้าที่แบรนด์นำเสนอออกไปนั้นต้องจริงใจ และให้เกียรติลูกค้าที่สุด ด้วยการเปิดเผยรายละเอียดที่ถูกต้อง ครบถ้วน และมีความโปร่งใส คัดสรรส่วนผสมที่ปลอดภัยมีคุณภาพตามคำกล่าวอ้าง และยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม มีการเล่าที่มาของสินค้าอย่างชัดเจน”

“การตีโจทย์คำว่าคลีนบิวตี้ของเรานั้น แตกต่างจากคนอื่น เราไม่ได้ต่อต้าน non-clean หรือไม่ได้สื่อสารว่าสารเคมีทุกตัวนั้นไม่ดี เราจึงต้องทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่าย เราตีโจทย์ว่าคลีนบิวตี้ คือ การปราศจากสิ่งที่เป็นอันตราย หรือมีโอกาสที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้บริโภค ดังนั้น ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์จะต้องเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง  “Transparency” คือ Commitment แรกที่เราเลือกใช้”

ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดได้ด้วยตนเอง สินค้าทุกตัวจะมี QR code อยู่ที่ฉลากผลิตภัณฑ์ เมื่อลูกค้าสแกนก็จะเชื่อมต่อไปที่ w clean beauty standard ทันที สามารถตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ รายละเอียดของส่วนประกอบต่างๆ รวมถึงสาเหตุที่เลือกใส่ส่วนประกอบนั้นๆ หรือสาเหตุที่หลีกเลี่ยง

จะเรียกว่า Yes List กับ No List  เพื่อให้ได้ดังคุณสมบัติที่เราบอกไป โดยต้องไม่เกินความเป็นจริง หรือหลอกลวง ซึ่งถือเป็น trademark

กลุ่มสินค้าของ Worry-Free Beauty จะมี 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ สกินแคร์, Personal Care และอาหารเสริม โดยเน้นที่กลุ่มสกินแคร์เป็นกลุ่มใหญ่ มีราคาดังต่อไปนี้

  • Serum 899 บาท
  • Cream 799 บาท
  • Body Lotion 399 บาท
  • Shower 199 บาท
  • Anti-hair Loss Shampoo 399 บาท
  • Hair food Conditioner 399 บาท
  • Detox Jelly 699 บาท (10 ซอง/กล่อง)