ผู้ประกอบการทำใจ “ฮ่องกง” เตรียมแบนสินค้าผสมสาร CBD จาก “กัญชา” ก่อนถึงปี 2023 เนื่องจากรัฐมองว่า CBD อาจแปรสภาพเป็น THC ได้ทั้งโดยเจตนาและโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ธุรกิจต่างๆ จะคัดค้านแล้ว แต่แนวโน้มสูงที่ผู้ประกอบการด้านกัญชาจะต้องปิดกิจการ
สินค้าอาหารเครื่องดื่มที่ผสมสาร CBD จากกัญชาถือเป็นสินค้าที่ยังไม่มีการควบคุมโดยเฉพาะในฮ่องกง ต่างจากสาร THC จากกัญชาที่ถือเป็นสารเสพติดผิดกฎหมาย ทำให้สินค้าผสมสาร CBD เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากคาเฟ่และร้านค้า CBD แห่งแรกในชื่อ “Found” ที่เปิดบริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 หลังจากนั้นมีร้านค้า คาเฟ่ สินค้าต่างๆ ตามมาอีกจำนวนมาก เช่น กาแฟหรือเบียร์ผสม CBD
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรัฐบาลฮ่องกงเตรียมร่างกฎหมายเพื่อ “แบน” สาร CBD ด้วยเช่นกัน และคาดว่าจะออกกฎหมายได้ก่อนถึงปี 2023 ทำให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องตกอยู่ในความโกลาหล
“เมื่อฮ่องกงเกิดการแบน CBD อย่างสมบูรณ์ เราคงถูกบีบให้ส่งแบรนด์ Found ขึ้นหิ้ง ไม่สามารถนำมาขายได้อีก” Fiachra Mullen ซีเอ็มโอบริษัท Altum International ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน Found และเป็นซัพพลายเออร์สินค้าผสม CBD ให้กับธุรกิจอื่นๆ ทั่วเกาะฮ่องกง กล่าว
CBD นั้นเป็นสารจากกัญชาที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ผู้บริโภคหลายรายให้ความเห็นว่าสารนี้มีส่วนช่วยให้คลายกังวล คลายเครียด ลดความเจ็บปวดทางกาย และในระดับโลกแล้ว สาร CBD ได้กลายมาเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงหลายปีมานี้ หลังจากถูกนำไปใช้ผสมในสินค้าหลายชนิด เช่น ขนม เยลลี่ น้ำมัน เครื่องสำอาง และเป็นสารที่ได้รับการเปลี่ยนสถานะให้ถูกกฎหมายแล้วในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรปบางส่วน ประเทศไทย ญี่ปุ่น เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้ว จีนแผ่นดินใหญ่เพิ่งจะออกกฎหมายแบนสาร CBD จากกัญชา และอาจจะเป็นต้นแบบให้ฮ่องกงปฏิบัติตาม
รัฐกังวลการเปลี่ยน CBD เป็น THC
รัฐบาลฮ่องกงชี้ว่า สาร CBD นั้นสามารถสลายตัวตามธรรมชาติ หรือถูกเปลี่ยนแปลงโดยเจตนาให้กลายเป็นสาร THC ได้ และสาร THC นี้เองที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท แบบที่ผู้สูบกัญชารู้สึกกันนั่นคืออาการ ‘high’ เคลิบเคลิ้ม และสารนี้เป็นกลุ่มที่ผิดกฎหมายในฮ่องกงอยู่แล้ว
Dr.Albert KK Chung ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่คณะจิตวิทยา University of Hong Kong ระบุว่า ความร้อนสูงหรือแสงอาทิตย์สามารถสลายเปลี่ยน CBD ให้กลายเป็น THC ได้
“ถ้าคุณมี CBD ที่ไม่ได้เก็บรักษาอย่างถูกต้อง มันอาจเกิดการสลายตัวดังกล่าวได้” Chung กล่าว และย้ำอีกครั้งว่าการรับประทานสาร THC อาจทำให้เกิดอาการทางจิตหรือผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารได้
ผู้ประกอบการแจง ‘ดูแลได้’ …แต่รัฐคงไม่ถอย
Mullen กล่าวว่า Altum มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ของตนก่อนถึง 4 รอบในแล็บ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสาร THC หลุดออกไปสู่ลูกค้า
ขณะที่ Tammy Tam ผู้ร่วมก่อตั้งเบียร์ยี่ห้อ plantB ซึ่งเป็นเบียร์ผสมสาร CBD ก็กล่าวเช่นกันว่า บริษัทของเธอใช้ผลิตภัณฑ์สารผสมที่ได้รับการรับรองแล้วว่าปลอด THC รวมถึงบริษัททำงานในระดับที่เข้มข้นยิ่งกว่าข้อกำหนดของรัฐเสียอีก
ผู้บริโภคที่เลือกใช้ CBD นั้นก็เพื่อความหวังว่าจะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ลดความเจ็บปวดจากโรค หรือทำให้รู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้นโดยทั่วไป มีงานวิจัยล่าสุดชิ้นหนึ่งพบว่าสารชนิดนี้ช่วยลดความรุนแรงของโรควิตกกังวลในคนหนุ่มสาวได้ แต่ Chung แย้งว่ายังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอว่ามีประโยชน์จริง และมองว่าส่วนใหญ่ในโลกที่อนุญาตให้ใช้สาร CBD เพื่อการรักษานั้น ก็จะใช้มันเพื่อรักษาอาการของโรคที่พบเห็นได้ยากเท่านั้น เช่น โรคลมชักขั้นรุนแรง
Dr.Calvin Ho ผู้อำนวยการร่วมของ HKU’s Centre for Medical Ethics and Law คาดว่ารัฐบาลฮ่องกงจะแบน CBD ด้วยเหตุผลในการปฏิบัติจริง “ด้วยความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ รัฐบาลน่าจะเลือกหนทางแบบปลอดภัยไว้ก่อน” เขากล่าว
หลังจากกรอบการออกกฎหมายได้รับคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นภายในสิ้นปี 2022 นี้ ธุรกิจที่เกี่ยวกับ CBD บนเกาะฮ่องกงน่าจะเรียกได้ว่ามาถึงจุดจบ
“เรามีรายได้ทางนี้ทางเดียว” Tam จาก plantB กล่าว “การแบนจะทำให้เราไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากปิดกิจการ”