-
“แอลจี” รุกหนักตลาด “แอร์” ตั้งเป้าเติบโต 30% ขอขึ้นเป็นอันดับ 5 เน้นเจาะกลุ่มแอร์ประหยัดพลังงานกลุ่มกลางบนขึ้นไป
-
คาดการณ์ปี 2567 แอร์ยังขายดีต่อเนื่อง จากอากาศที่ส่อแววร้อนจัดและการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า ทำให้ผู้บริโภคหันหาตัวเลือกแอร์ประหยัดพลังงานทดแทนตัวเดิม
-
ด้านภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าคาดเติบโตดับเบิลดิจิต แอลจีตั้งเป้ายอดขายรวมโต 10%
ตลาดเครื่องปรับอากาศน่าจะเดือดต่ออีกปีจากสภาพอากาศร้อนจัด “อำนาจ สิงหจันทร์” หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพตลาดแอร์ย้อนหลังในช่วงปี 2563-65 เป็นช่วงที่แอร์ชะลอการเติบโต จนกระทั่งปี 2566 แอร์กลับมาทะยานยอดขายพุ่งถึง 26.8% จากสภาพอากาศร้อนจัดเมื่อปีก่อน
มาถึงปี 2567 อำนาจคาดว่าตลาดเครื่องปรับอากาศน่าจะเติบโตต่อได้ถึง 20% คิดเป็นมูลค่ารวม 34,300 ล้านบาท เนื่องจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1) อากาศร้อนจัด มีการคาดการณ์อุณหภูมิสูงสุดอาจขึ้นไปแตะ 45 องศาเซลเซียสในหน้าร้อนนี้ และ 2) ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ปรับเป็น 4.88 บาทต่อหน่วย
ทั้ง 2 ปัจจัยรวมกันจะดึงดูดทั้งกลุ่มผู้บริโภคประเภทติดตั้งใหม่ให้ติดแอร์เพื่อสู้อากาศร้อน และกลุ่มผู้บริโภคเปลี่ยนแอร์เครื่องใหม่ (replacement) หันมาใช้แอร์ประหยัดพลังงานเพื่อสู้ค่าไฟแพง
แอร์ “แอลจี” ขอโตเกินตลาดที่ 30% เน้นเจาะกลุ่มกลางบน
อำนาจกล่าวต่อว่า ด้านกลยุทธ์ของ “แอลจี” ในปีนี้จะยังคงเจาะตลาดกลุ่มกลางบนขึ้นไปและกลุ่มแอร์ประหยัดพลังงานซึ่งเป็นพอร์ตหลักของแอลจี โดยเน้นการขาย “นวัตกรรม” มากกว่าการทำสงครามราคา ขายด้วยมูลค่ามากกว่าเน้นปริมาณยูนิตขาย
ทำให้ปีนี้แอลจีรุกหนักส่งสินค้าเครื่องปรับอากาศใหม่ 5 ซีรีส์ มีไฮไลต์รุ่น “LG DUAL COOL ELITE” (รุ่น HPQ) ที่มาพร้อมฟังก์ชันนวัตกรรมใหม่ เช่น บานพับ 2 บาน สามารถเลือกส่งลมเป็นมุมตรง ลมแอร์ไม่เป่าตัว ทำให้รู้สึกสบายตัวกว่า, ระบบ Human Detection ตรวจจับหากไม่มีคนอยู่ในห้อง แอร์จะปิดเครื่องอัตโนมัติ, ระบบ Window Detection ตรวจจับหากมีการเปิดหน้าต่าง แอร์จะเร่งความร้อนขึ้น เพื่อไม่ให้เปลืองพลังงาน ช่วยประหยัดค่าไฟ
อำนาจอธิบายว่า จากอินไซต์ผู้บริโภคของแอลจีพบว่า ผู้เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศจะใส่ใจ 3 ปัจจัยแรกสุด คือ ประหยัดพลังงาน, ดูแลสุขอนามัย และสร้างความสบายตัวในการใช้ ทำให้การพัฒนาสินค้าของแอลจีทำมาเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้ โดยแอร์รุ่น LG DUAL COOL ELITE ขนาด 13,000 BTU จะจำหน่ายในราคา 39,900 บาท ถือเป็นแอร์ที่บุกตลาดระดับไฮเอนด์
เป้าหมายของกลุ่มแอร์แอลจีปีนี้ ตั้งเป้าจะโต 30% สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด คาดสร้างยอดขายได้ 2,600 ล้านบาท โดยอำนาจมองว่าลักษณะตลาดปีนี้น่าจะสอดคล้องกับพอร์ตสินค้าที่แอลจีมี นั่นคือการเติบโตจะเกิดขึ้นในกลุ่มแอร์ระดับกลางบนขึ้นไป และเน้นฟังก์ชันประหยัดพลังงาน
ส่วนมาร์เก็ตแชร์ในตลาด ปี 2566 แอลจีมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 5.7% เป็นอันดับ 8 ของตลาดแอร์ แต่ปี 2567 จากการเติบโตจะทำให้มาร์เก็ตแชร์ขึ้นมาเป็น 7.5% และน่าจะขยับไปอยู่อันดับ 5 สำเร็จ
ยอดขายรวม “แอลจี” วางเป้าโต 10%
สำหรับภาพรวมตลาด “เครื่องใช้ไฟฟ้า” ในปี 2567 อำนาจคาดว่าน่าจะโต “ดับเบิลดิจิต” จากปีก่อนที่มีมูลค่าตลาด 80,000 ล้านบาท (*ข้อมูลรวมเฉพาะกลุ่มแอร์ ทีวี ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า)
ส่วนเป้าหมายของ “แอลจี” วางเป้ายอดขายโต 10% มูลค่าเพิ่มเป็น 13,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันพอร์ตเครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจีแบ่งสัดส่วนยอดขายมาจาก 42% กลุ่มเครื่องซักผ้า 33% กลุ่มโทรทัศน์ 13% กลุ่มเครื่องปรับอากาศ และ 12% กลุ่มตู้เย็น
ในแต่ละกลุ่มสินค้า แอลจีถือว่าเป็นอันดับ 1 แข็งแกร่งในตลาดเครื่องซักผ้า ส่วนกลุ่มทีวีเป็นแบรนด์อันดับ 1-2 ขึ้นลงผลัดกันกับคู่แข่ง ขณะที่กลุ่มตู้เย็นอยู่ในอันดับ 3-4 ทำให้ “แอร์” คือกลุ่มที่แอลจีเน้นการเติบโตสูงมาก
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
- ยักษ์หลับกลับมาแล้ว! ‘โตชิบา’ ทุ่มงบสร้างแบรนด์เพิ่ม 3 เท่า พร้อมใช้ ‘พรีเซ็นเตอร์’ ในรอบ 10 ปี หวังซื้อใจวัยรุ่น
- “อาร์เซลิก ฮิตาชิ” วางเป้าขึ้น Top 3 เครื่องใช้ไฟฟ้า ย้ำไม่มีแผนย้ายฐานผลิตแม้ค่าแรงอาจปรับขึ้น