อัตราเกิดทรุดฮวบ! กระทบบริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นเลิกผลิตไลน์สินค้า “ผ้าอ้อมเด็ก” หันมาผลิตแต่ “ผ้าอ้อมผู้ใหญ่”

Photo : Shutterstock
“Oji Nepia” บริษัทผู้ผลิตสินค้าผ้าอ้อมสำเร็จรูปในญี่ปุ่น ประกาศยกเลิกการผลิตสินค้าประเภท “ผ้าอ้อมเด็ก” หันมาผลิตเฉพาะ “ผ้าอ้อมผู้ใหญ่” เท่านั้น หลังจากอัตราการเกิดในญี่ปุ่นทรุดเร็วกว่าที่คาด โดยเมื่อปี 2023 มีเด็กทารกเกิดใหม่เพียง 758,631 คน และสังคมญี่ปุ่นกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ

Oji Nepia บริษัทลูกของเครือธุรกิจ Oji Holdings ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสินค้า “ผ้าอ้อมสำเร็จรูป” รายใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมาว่า โรงงานภายในประเทศของบริษัทจะ “เลิกผลิต” สินค้าประเภท “ผ้าอ้อมเด็ก” ตั้งแต่เดือนกันยายน 2024

การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้บริษัทยกเลิกแบรนด์สินค้า Whito และ Genki! ของบริษัทไปด้วย ซึ่งบริษัทตัดสินใจเช่นนี้เพราะดีมานด์ที่ลดลงอย่างมาก เทียบกับเมื่อปี 2001 บริษัทสามารถขายผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปได้ปีละ 700 ล้านชิ้น แต่เมื่อปี 2023 ตัวเลขนี้ลดเหลือเพียง 400 ล้านชิ้นต่อปีเท่านั้น

ตัวเลขยอดขายผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปมีแนวโน้มจะลดลงอีกในอนาคต เพราะจากสถิติที่ประกาศโดยรัฐบาลญี่ปุ่นพบว่าปี 2023 มีเด็กทารกเกิดใหม่เพียง 758,631 คน เป็นสถิติที่ต่ำที่สุดที่เคยมีมา ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าผิดไปจากที่คาดอีกด้วย เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นเคยประเมินว่าจำนวนทารกเกิดใหม่จะไม่ร่วงลงมาต่ำกว่า 800,000 คนต่อปีจนกว่าจะถึงปี 2030

ฝั่งทารกเกิดใหม่น้อยกว่าจำนวนผู้เสียชีวิต โดยปีที่แล้วมีประชากรชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต 1.59 ล้านคน และเมื่อย้อนไปถึงปี 2022 พบว่าประชากรญี่ปุ่นที่มีอายุไม่เกิน 15 ปีนั้นมีเพียง 12% ของประชากรรวม ขณะที่คนญี่ปุ่นที่อายุ 65 ปีขึ้นไปกลับคิดเป็นเกือบ 30% ของประชากร

เมื่อเป็นเช่นนี้ แทนที่จะผลิตสินค้าตอบสนองกลุ่มทารก Oji จึงเปลี่ยนมาโฟกัสการผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์โครงสร้างประชากรของญี่ปุ่นแทน นั่นคือการผลิต “ผ้าอ้อมผู้ใหญ่” ซึ่งน่าจะมีดีมานด์เติบโตขึ้นเรื่อยๆ

Oji แจ้งอีกด้วยว่า การหยุดผลิตสินค้าผ้าอ้อมเด็กจะหยุดเฉพาะในโรงงานที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ส่วนโรงงานที่บริษัทมีในต่างประเทศ​คือ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย จะยังคงผลิตผ้าอ้อมเด็กต่อไป รวมถึงจะผลักดันยอดขายผ้าอ้อมเด็กในต่างประเทศมากขึ้นด้วย

จากอัตราการเกิดที่ลดลงของญี่ปุ่น ทำให้จำนวนประชากรญี่ปุ่นที่เคยขึ้นไปสูงสุด 128.1 ล้านคนเมื่อปี 2010 ปัจจุบันลดลงมาเหลือ 125 ล้านคนเท่านั้น และมีการคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรจะลดจนเหลือเพียง 88 ล้านคนภายในปี 2065

แน่นอนว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีความพยายามมากมายที่จะกระตุ้นให้คู่รักมีลูกกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินอุดหนุนมากขึ้น หรือกระตุ้นการให้วันลาคลอดและเลี้ยงดูบุตรเพิ่มขึ้น แต่เห็นได้ว่าความพยายามของรัฐดูจะไม่เป็นผลเท่าใดนัก

แม้แต่รัฐมนตรี “ฟูมิโอะ คิชิดะ” ก็เคยพูดถึงปัญหานี้ว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอย่างมาก ตัวเขาเองกับภรรยานั้นมีลูกถึง 3 คน ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยประเทศที่มีลูกเพียงครอบครัวละ 1.3 คนเท่านั้น

Source