แบรนด์รังนก ปรับลุ้ค เลือก “ญาญ่า” แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่

หลังจากที่แบรนด์รังนก เลือกใช้ “แนวคู่รัก” มาเป็น “แบรนด์ เลิฟ แอมบาสเดอร์” ต่อเนื่องมาหลายปี เริ่มตั้งแต่ปี 2542 แพท-สุธาสินี พุทธินันท์ และสามี มาร์ค-แกรี่ โรดดิเกส อ้อม-พิยะดา และ จนมาถึงคู่ของ แอ๊ฟ และสงกรานต์ เตชะณรงค์

ล่าสุด บริษัทเซเรบอส ประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่าย แบรนด์รังนกได้เปลี่ยนแนวใหม่ หันมาเลือก “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” ดาราสาววัยรุ่นมาเป็น “แบรนด์ แอมบาสเดอร์”คนใหม่ เพื่อต้องการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัย เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคนี้มากขึ้น 

แบรนด์รังนกมองว่า “ญาญ่า” เป็นดาราที่ 1. มีภาพลักษณ์ดี สดใส 2. เป็นคนที่ห่วงใยคนรอบข้างจนสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างญาญ่าและแฟนคลับ พี่น้อง ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และเด็กๆ  ซึ่งนอกจากจะตรงกับภาพลักษณ์ของ “แบรนด์รังนกแท้” ที่วางจุดยืนของแบรนด์ เป็นเรื่องของความรัก ความห่วงใยมาตลอด ยังทำให้การตีความเรื่องของความรัก ไม่จำกัดเฉพาะ “คู่รัก” เท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงความรักหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระหว่าง พ่อแม่ พี่น้อง หรือเพื่อนซี้

อย่างในช่วงเทศกาลวันแม่ ที่เรียกว่าเป็นช่วง “เทศกาลขายดี” ของแบรนด์รังนก ซึ่งจะมียอดขายเพิ่มกว่าปกติ 5-10%  แบรนด์จึงนำเอาความรักระหว่าง “แม่ลูก” คือ ญาญ่าและแม่ มานำเสนอ เพื่อตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์รังนก ที่ลูกมักจะซื้อเป็นของขวัญให้แม่ เพื่อขอบคุณความรักยิ่งใหญ่ของแม่ ซึ่งเป็น “แมสเสจ” ที่แบรนด์นำมาใช้ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์รังนกในปัจจุบัน แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ (1).กลุ่มผู้ซื้อเพื่อให้เป็นของขวัญ (Gift Shopper) ชายและหญิง อายุ 25 ปีขึ้นไป จะซื้อเป็นของขวัญให้กับคนที่รัก ในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ และ (2). กลุ่มผู้ซื้อให้คนในครอบครัว (Family care taker) คือ หญิง อายุ 45 ปี ขึ้นไป เป็นคุณแม่ที่ซื้อให้คนในครอบครัว

จากพฤติกรรมการซื้อรังนกดังกล่าว  สะท้อนให้เห็นว่า การซื้อให้กับคนรักคีย์แมสเสจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแม่ที่ซื้อให้ลูก และกลุ่มชายและหญิงอายุ 25 ปี ที่ซื้อให้กับคนรักในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายสำคัญของแบรนด์รังนกครั้งนี้

โดยที่แบรนด์ได้ตั้งงบประมาณในการทำกิจกรรมการตลาด 60 ล้านบาท ในการทำการตลาด ทั้ง above the line & below the lineเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น สื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณากลางแจ้ง วิทยุ และสื่อดิจิตอล ตลอดในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อกระตุ้นยอดให้เพิ่มขึ้น 5-10%