ซูเปอร์คาร์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 27 Aug 2024 11:33:51 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก” คอนโดฯ “ซูเปอร์คาร์” ทั้งตึกมีแค่ 22 ยูนิต – แพงสุดยูนิตละ 1,400 ล้านบาท! https://positioningmag.com/1487549 Tue, 27 Aug 2024 09:52:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1487549 “อนันดาฯ” เปิดตัวโครงการ “ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก” (Porsche Design Tower Bangkok) คอนโดฯ Branded Residence จากแบรนด์รถ “ซูเปอร์คาร์” แห่งแรกในเอเชียและแห่งที่ 3 ของโลก ปักทำเลซอยสุขุมวิท 38 (ทองหล่อ) มีเพียง 22 ยูนิตให้ครอบครอง ราคาเริ่ม 525 ล้านบาท สูงสุด 1,400 ล้านบาท!

“ชานนท์ เรืองกฤตยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดตัวโครงการระดับอัลตราลักชัวรี “ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก” (Porsche Design Tower Bangkok) ซึ่งเป็น Branded Residence ที่ดีไซน์โดย “Porsche” แห่งแรกในเอเชีย และแห่งที่ 3 ของโลกต่อจากที่ไมอามี สหรัฐอเมริกา และที่สตุทการ์ท เยอรมนี

ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 38 ย่านทองหล่อ ออกแบบเป็นคอนโดมิเนียมสูง 21 ชั้น และทั้งตึกมีเพียง 22 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 525 ตร.ม. สูงสุด 1,135 ตร.ม. และเป็นห้องชุดแบบดูเพล็กซ์​ (2 ชั้น) หรือ เพนต์เฮาส์ควอดเพล็กซ์ (4 ชั้น)

ภายนอกอาคาร
แพสชัน สเปซ บริเวณที่ลูกบ้านสามารถนำรถมาจอดเป็นคอลเล็กชันจัดแสดงได้

ไฮไลต์ของโครงการอยู่ที่ “แพสชัน สเปซ” ซึ่งเป็นพื้นที่จอดรถ “ซูเปอร์คาร์” ส่วนตัว เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยใช้เป็นจุดจัดแสดงคอลเล็กชันรถยนต์คันโปรด หรือของสะสมอื่นๆ ที่ชื่นชอบ เปรียบเหมือนมีแกลลอรีหรือพิพิธภัณฑ์เฉพาะบุคคลในพื้นที่กว้างขวาง 100-335 ตร.ม.

พื้นที่แพสชัน สเปซนี้สามารถนำรถซูเปอร์คาร์วิ่งขึ้นมาจอดได้โดยตรง เพราะมีการออกแบบทางลาด ‘The Loop’ ให้รถซูเปอร์คาร์ขับขึ้นได้สะดวก

ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก
เข้าถึงแพสชัน สเปซ ได้ด้วย The Loop ทางลาดที่ทำมาเพื่อซูเปอร์คาร์

รวมถึงมีองค์ประกอบตึกที่ได้แรงบันดาลใจจาก Porsche เช่น ยอดตึก ‘The Crown’ เป็นเส้นสีแดงจากไฟท้ายของรถสปอร์ต Porsche หรือ ผนังกระจกห้องชุดที่เปิดออกสู่ระเบียงและสระว่ายน้ำ จะเปิดแบบบานพับขึ้นด้านบน เหมือนกับระบบ ‘Kinetic Move’ ในรถยนต์รุ่น 911 Targa

ยอดตึกประดับด้วยเส้นสายสีแดง
ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก
ประตูระเบียงแบบ Kinetic Move

บริษัทอนันดาฯ แถลงเปิดราคาเฉลี่ยต่อยูนิตของ ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก เริ่มที่ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 525 ล้านบาท) จนถึงสูงสุด 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) หรือสนนราคาเริ่มตารางเมตรละ 1 ล้านบาท รวมทั้งโครงการมูลค่าแตะ 15,000 ล้านบาทซึ่งถือเป็นโครงการมูลค่าสูงที่สุดที่อนันดาฯ เคยพัฒนามา

อนันดาฯ วางแผนการก่อสร้างโครงการนี้ จะเริ่มการก่อสร้างได้ในปี 2568 และพร้อมส่งมอบในปี 2571

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจจองห้องชุดในโครงการนี้จะต้องติดต่อส่งข้อมูลแสดงความสนใจเข้ามาก่อน เนื่องจากโครงการถือเป็นสินค้าในระดับสากลที่จะเปิดโอกาสให้กับลูกค้าทั่วโลก อนันดาฯ และ Porsche จะต้องมีการคัดกรองจากฐานลูกค้าของ Volkswagen AG บริษัทแม่ของ Porsche ด้วย (*Volkswagen AG เป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์หรูหลายแบรนด์ เช่น Porsche, Lamborghini, Bentley, Audi)

  • “สิงห์ เอสเตท” เนรมิตสวรรค์กลางทะเล “ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์” รีสอร์ตครบวงจรตอบโจทย์ตลาดหรู-กลุ่มไมซ์
  • “มหกรรมบ้านคอนโด” หวังกระตุ้นยอดขายต้นปี’67 ไฟต์บังคับ “เศรษฐกิจ K-Shape” เอื้อตลาดบ้านหรู

ชานนท์ระบุว่า โครงการนี้ยังคงยึดหลักกฎหมายการครอบครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติไม่เกิน 49% ของคอนโดฯ ตามปกติ หากมีความสนใจจากลูกค้าต่างชาติเกินสัดส่วนดังกล่าว จะมีการพิจารณาสัญญาเป็นให้เช่าระยะยาวต่อไป

]]>
1487549
“10 & Only” บ้านหรูร้อยล้านจากเมเจอร์ฯ ผสาน “โรงรถ 2 ชั้น” ไว้ในบ้าน เอาใจกลุ่มนักสะสมรถ https://positioningmag.com/1438539 Fri, 21 Jul 2023 08:53:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1438539 “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” เปิดตัวโครงการสุดหรู “10 & Only” (เทน แอนด์ โอนลี่) พัฒนาการ 20 บ้านเดี่ยว 3-4 ชั้น ราคา 80-130 ล้านบาท ไฮไลต์ฟังก์ชัน “โรงรถ” ที่สามารถจอดได้ 5-12 คันต่อหลัง และมีพื้นที่จอดแบบ ‘Duplex’ ด้านในตัวบ้าน ผสานพื้นที่กับบริเวณเลาจน์ห้องสังสรรค์ เจาะกลุ่มนักสะสมรถ

ตามแผนที่แถลงไว้ตั้งแต่ต้นปี 2566 ว่าปีนี้ “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” จะมีการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี เซ็กเมนต์สูงสุดที่บริษัทเคยพัฒนามา ล่าสุด “เพชรลดา พูลวรลักษณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมเจอร์ฯ ประกาศความพร้อมแล้วว่า โครงการ “10 & Only” (เทน แอนด์ โอนลี่) บ้านเดี่ยวราคา 80-130 ล้านบาท เตรียมเปิดจองช่วงเดือนสิงหาคมนี้

โครงการ 10 & Only เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีเพียง 10 หลังตามชื่อโครงการ ทำเลตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 20 โดยใช้แรงบันดาลใจกลิ่นอายจากอาคาร “บาร์เซโลนา พาวิลเลียน” ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Ludwig Mies van der Rohe เจ้าของคอนเซ็ปต์การออกแบบ “Less is More” มีฐานการออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ผสมกลิ่นอายความคลาสสิกเข้ามาให้เกิดความลงตัว และทำให้เป็น “Timeless Design” ที่ไม่ล้าสมัยเมื่อเวลาผ่านไป

“เพชรลดา พูลวรลักษณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์

สวรรค์นักสะสมรถ

บ้านในโครงการนี้จะเป็นบ้านเดี่ยว 3 ขนาด สูง 3-4 ชั้น ที่ดินขนาดตั้งแต่ 91-114 ตารางวา เป็นบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ได้ 3 เจนเนอเรชัน

แต่ไฮไลต์ที่แท้จริงของ 10 & Only อยู่ที่ “โรงรถ” เพราะบ้านแต่ละหลังมีที่จอดรถขั้นต่ำ 5 คัน และต่อเติมให้จอดได้สูงสุด 12 คัน เหมาะกับบ้านคนรักรถ

10 & Only
บ้านเดี่ยว 4 ชั้น หลังขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ 10 & Only

ที่สำคัญคือ จะมีพื้นที่จอดรถส่วนหนึ่งที่เป็น Duplex และเข้าไปอยู่ภายในบ้าน ที่จอดรถ 2 ชั้นนี้จะเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เลาจน์ห้องสังสรรค์รับแขก ขนาบอีกด้านด้วยสระว่ายน้ำ เป็นโซน “Duplex Supercar Lounge” ออกแบบเพื่อเป็นพื้นที่ในฝันของนักสะสมรถ โดยเฉพาะซูเปอร์คาร์ รถคลาสสิก รถหรูที่มีความพิเศษ ควรค่าแก่การจัดแสดงในพื้นที่บ้านเพื่อให้เจ้าของได้ชื่นชมทุกวัน และสามารถชวนเพื่อนๆ มาชื่นชมด้วยกันได้

เพชรลดากล่าวว่า บ้านหลังนี้คิดจากอินไซต์คนรักรถที่ “มีรถเท่าไหร่ก็คงไม่พอ” และต้องการพื้นที่ไว้แสดงรถ ส่วนพื้นที่โรงรถปกติก็จะต้องมีที่จอดให้กับรถบ้าน รถตู้ครอบครัว พร้อมจุดชาร์จ EV รองรับเทคโนโลยีอนาคต

 10 & Only
Duplex Supercar Lounge ภายในบ้านโครงการ 10 & Only

ภายในบ้านยังมีเทคโนโลยีเพื่อ “สุขภาพ” และความสะดวกสบายต่างๆ ด้วย เช่น ระบบบ้านเย็น, บ้านปลอดฝุ่น, ระบบ Home automation ซึ่งระบบบ้านเย็นและปลอดฝุ่นนี้จะเป็นผลดีกับการเก็บรักษารถในบ้านด้วย

 

บ้านหรูร้อยล้านขายดี ผู้ซื้อไม่มีปัญหา

10 & Only จะเริ่มก่อสร้างภายในไตรมาส 4 ปีนี้ และคาดว่าจะสร้างเสร็จครบทั้งโครงการภายในไตรมาส 4 ปี 2567 โอนกรรมสิทธิ์พร้อมกันทั้งโครงการ เพื่อไม่ให้การก่อสร้างรบกวนการอยู่อาศัย

โดยเพชรลดาเชื่อมั่นว่า เมเจอร์ฯ จะมียอดจองครบภายในไตรมาส 4 ปีหน้า เนื่องจากทำเลพัฒนาการช่วงต้น ขณะนี้ไม่มีซัพพลายบ้านหรูระดับนี้เหลืออยู่

โรงรถที่เปรียบเหมือนได้จัดแสดงรถไว้ในบ้าน

Positioning สำรวจพบว่า โครงการบ้านหรูในย่านพัฒนาการช่วงต้นที่เปิดขายในช่วงปี 2565-66 จะมีโครงการ “ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32” พัฒนาโดย บมจ.สิงห์ เอสเตท ราคา 65-180 ล้านบาท มีเพียง 28 หลัง และโครงการ “บูก้าน (BuGaan) พัฒนาการ” พัฒนาโดย บมจ.แสนสิริ ราคา 65-115 ล้านบาท มีเพียง 17 หลัง

บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรีในย่านนี้ถือว่าเป็นที่ต้องการของตลาดมาก ยกตัวอย่างโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32 ทางสิงห์ เอสเตท เคยให้ข้อมูลว่าโครงการเพิ่งเปิดตัวช่วงปลายปี 2565 แต่ใช้เวลาไม่กี่เดือน สามารถปิดการขายไปได้แล้ว 26 หลัง เหลือเพียง 2 หลังสุดท้าย (ข้อมูลเดือนมกราคม 2566)

  • TikTok: พาชมบ้านเดี่ยวหลังละ 130 ล้านบาทที่โครงการ “ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32”
  • “เอพี” ปี 2566 ตั้งเป้าเปิดตัว 58 โครงการ 77,000 ล้านบาท รุกเซ็กเมนต์ใหม่ “บ้านหรู 100 ล้าน”

เพชรลดาแห่งเมเจอร์ฯ เองมีข้อมูลของตลาดบ้านเดี่ยวกรุงเทพฯ มาชี้ให้เห็นเช่นกันว่า มีแนวโน้มเติบโตในกลุ่มซูเปอร์ลักชัวรี โดยหากนับเฉพาะบ้านเดี่ยวราคา 70 ล้านบาทขึ้นไป ในปี 2566 มีการเปิดตัวเพิ่มขึ้น 220% หากคิดตามจำนวนหลัง หรือเพิ่มขึ้น 63% หากคิดตามมูลค่า ทำให้ปีนี้บ้านเดี่ยวซูเปอร์ลักชัวรีมีมูลค่าโครงการเปิดใหม่ร่วม 11,900 ล้านบาทแล้ว

แนวโน้มของตลาดที่หันมาจับเซ็กเมนต์บ้านเดี่ยวร้อยล้านกันมากขึ้นนั้น เกิดจากการมองหาพื้นที่ขายที่ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อเพียงพอและอัตราดอกเบี้ยไม่มีผลกระทบ ต่างจากกลุ่มบ้านในราคา 2-10 ล้านบาทที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง เพราะภาวะหนี้ครัวเรือนสูงและอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นทำให้จะมีปัญหาติดขัดเรื่องการขอสินเชื่อบ้าน

]]>
1438539
รถสันดาปล้วนของ “Lamborghini” ขายเกลี้ยงจนถึงคันสุดท้าย เข้าสู่ยุคใหม่ “รถไฮบริด-อีวี” https://positioningmag.com/1437129 Sat, 08 Jul 2023 10:25:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1437129 “Lamborghini” ขายรถสันดาปคันสุดท้ายในพอร์ตไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้แบรนด์ซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลียนรายนี้จะเข้าสู่ยุค “รถไฮบริด” และ “รถอีวี” โดยสมบูรณ์

“Stephan Winkelmann” ซีอีโอ Lamborghini ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เยอรมัน Welt ว่า โมเดลรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปของบริษัทถูกจองซื้อครบทุกคันในไลน์การผลิตเรียบร้อยแล้ว

ทำให้ต่อจากนี้ รถยนต์ Lamborghini รุ่นใหม่ทั้งหมดจะเข้าสู่ยุครถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า

รุ่นแรกๆ ที่ออกมาจากนี้จะเป็นรถยนต์แบบ Plug-in Hybrid ก่อน โดยจะเป็นการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อทดแทนรุ่นเดิม คือ รุ่น Aventador และ Huracan รวมถึงมีปรับรุ่น Urus มาเป็นรุ่นไฮบริดด้วย

ก่อนที่ภายในทศวรรษนี้ บริษัทจะเริ่มเปิดตัวรถซูเปอร์คาร์ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ออกมาเป็นคันแรก

“Stephan Winkelmann” ซีอีโอ Lamborghini

Winkelmann เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Insider ไว้เมื่อต้นปีนี้ว่า เหตุที่บริษัทต้องเปลี่ยนมาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าหรือกึ่งไฟฟ้าให้มากขึ้น เป็นเพราะกฎระเบียบเรื่องการปลดปล่อยคาร์บอนที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก ทำให้ไม่ใช่แค่ Lamborghini แต่ทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ต่างก็ต้องเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทั้งแพงและยุ่งยากมาก

แต่การเปลี่ยนแหล่งเชื้อเพลิงในรถยนต์ จะไม่ทำให้ Lamborghini เสียรากเหง้าความเป็นตัวเองไป Winkelmann บอกว่า แบรนด์รถซูเปอร์คาร์ของเขาจะยังคงทำให้ผู้ซื้อได้สัมผัสกับ ‘ศักยภาพความเร็ว’ ที่ทำให้เลือดลมและอะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีดเหมือนที่เคยเป็นมา ในขณะเดียวกัน บริษัทก็จะช่วยโลกด้วยการลดการปล่อยคาร์บอนไปด้วย

  • สงบศึก! ‘เทสลา’ และ ‘แบรนด์รถอีวีจีน’ เซ็นสัญญาเลิกทำ “สงครามราคา”
  • กรุงศรี ออโต้ เผย 5 กลุ่มลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า ผู้มีรายได้สูงยังครองแชมป์พอร์ตเกิน 50%

สำหรับรถยนต์ Plug-in Hybrid คันแรกของ Lamborghini น่าจะได้ออกมาโลดแล่นบนถนนทั่วไปภายในสิ้นปี 2023 และรุ่นแรกที่จะออกสู่ตลาดไฮบริดก็คือรุ่น “Revuelto” ซูเปอร์คาร์ 1,000 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.5 วินาที และมีสปีดความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม.

ที่มา: Business Insider

]]>
1437129
เงินเฟ้อไม่สะเทือน! มหาเศรษฐีจองซูเปอร์คาร์ “Bugatti” หมดเกลี้ยงถึงปี 2025 https://positioningmag.com/1398317 Tue, 30 Aug 2022 12:57:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1398317 ซีอีโอ Bugatti เผย “ซูเปอร์คาร์” ของแบรนด์ถูกจองยาวไปจนถึงปี 2025 อัตราเงินเฟ้อพุ่งทั่วโลกไม่สะเทือนกระเป๋าตังค์เศรษฐี โดยก่อนหน้านี้ “Lamborghini” ก็เพิ่งประกาศเช่นกันว่ารถยนต์ของแบรนด์ถูกจองไปถึงปี 2024 แล้ว

สำนักข่าว CNBC รายงานข้อมูลจาก “Mate Rimac” ซีอีโอค่ายรถยนต์ฝรั่งเศส Bugatti (บูกัตติ) ซึ่งกล่าวว่า รถยนต์ของแบรนด์ทุกคัน “ถูกจองเกลี้ยงจนถึงปี 2025” และเขา “ไม่คิดว่าจะมีการขายช้าลง ณ ขณะนี้”

ดูเหมือนว่ากลุ่มมหาเศรษฐีของโลกจะไม่ชะลอการซื้อซูเปอร์คาร์ในเร็วๆ นี้ แม้ว่าทั่วโลกจะกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ Rimac ยืนยันว่าซูเปอร์คาร์ของบริษัททั้งกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์สันดาปก็ยังคงมีดีมานด์ที่แข็งแรงเหมือนเดิม และอาจจะเพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำ

รถยนต์รุ่นล่าสุดของ Bugatti ที่เพิ่งเปิดตัวคือรุ่น W16 Mistral ซูเปอร์คาร์ 1,577 แรงม้า ขุมพลัง W16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบ 4 ลูก รถยนต์รุ่นสุดท้ายของแบรนด์ที่จะเป็นสันดาปล้วน ก่อนเปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้า รถคันนี้จะผลิตเพียง 99 คันทั่วโลก สนนราคาคันละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 175 ล้านบาท)

Bugatti W16 Mistral

Bugatti W16 Mistral ถูกจองหมดภายในไม่กี่วัน หลังเปิดตัวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2022 ณ งาน Monterey Car Week รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา Rimac บอกกับ CNBC ว่า ตัวเขาเองก็ “แปลกใจเล็กน้อย” ที่รถขายหมดเร็วมาก โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีในสหรัฐฯ

ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวแล้วเช่นกันคือรุ่น Rimac Nevera ซูเปอร์คาร์ 1,900 แรงม้า ราคาขาย 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 73.5 ล้านบาท) ก็ทำยอดขายได้ดีเช่นกันในสหรัฐฯ

  • ทิศทาง ‘ALPHA X’ โอกาสทองตลาดสินเชื่อ ‘รถหรู’ สินทรัพย์ไลฟ์สไตล์ของ ‘ลูกค้ามั่งคั่ง’
  • เศรษฐีนิรนามประมูลสิทธิ “ร่วมโต๊ะทานอาหาร” กับ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ที่ราคา 670 ล้านบาท

ไม่ใช่แค่ซูเปอร์คาร์ที่สร้างรายได้ให้บริษัท ปัจจุบัน Rimac Group ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Bugatti เติบโตได้ดีจาก Rimac Technology บริษัทในเครือที่ขายแบตเตอรีและเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าศักยภาพสูง มีลูกค้าทั้ง Porsche, Aston Martin, Hyundai ฯลฯ รวมถึงมีเทคโนโลยี “แท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ” ที่กำลังพัฒนา คาดว่าจะออกสู่ตลาดได้ในปี 2024

ยอดขายรถและเทคโนโลยีอนาคตทำให้ นักลงทุนรายใหญ่ เช่น Goldman Sachs, SoftBank เข้าลงทุนรวม 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 17,500 ล้านบาท) ใน Rimac Group เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทนี้ได้รับการประเมินมูลค่าสูงกว่า 2,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 70,000 ล้านบาท)

ด้านการเปิด IPO นั้น ซีอีโอ Rimac บอกว่า บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าตลาดแต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ “เราต้องการเข้าตลาดเมื่อจังหวะถูกต้อง เมื่อบริษัทเรามีการเงินที่แข็งแกร่งมากก่อน และเราใกล้จะทำได้แล้ว ดังนั้น เราจะเข้าตลาดแน่นอนแต่จะเป็นอีก 3 ปี 5 ปี หรือ 6 ปี ผมก็ยังตอบไม่ได้ เดี๋ยวค่อยว่ากัน”

Source

]]>
1398317
‘Ferrari’ ปักเป้าผลิตรถยนต์ 80% เป็นไฮบริดและไฟฟ้าล้วนภายในปี 2030 https://positioningmag.com/1389286 Sun, 19 Jun 2022 06:24:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1389286 หลังจากที่ค่าย ‘ม้าลำพอง’ หรือ ‘เฟอร์รารี่’ (Ferrari) รถสปอร์ตหรูสัญชาติอิตาลี ได้เปิดตัว Ferrari 296 GTB ซูเปอร์คาร์ ขุมพลัง ปลั๊ก-อิน ไฮบริด คันแรกของค่ายไปหมาด ๆ ล่าสุด ทางค่ายก็ได้ออกมาประกาศว่าภายในปี 2030 รถในค่าย 80% จะต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า

Benedetto Vigna CEO Ferrari ยืนยันว่า หลังจากที่เปิดตัวรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นแรกของค่ายไปแล้ว ภายในปี 2025 เฟอร์รารี่จะ เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรก และภายในปี 2030 รถยนต์ 80% จะเป็นรถไฟฟ้า โดย 40% เป็นไฮบริด และอีก 40% จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100%

ปัจจุบัน เฟอร์รารี่มีรถเพียง 4 รุ่น หรือคิดเป็น 10% ของรถยนต์ทั้งหมดที่เป็นรถไฮบริดและปลั๊ก-อิน ไฮบริด โดยรถไฮบริดคันแรกที่ค่ายเปิดตัวก็ต้องย้อนไปถึงปี 2013

“ไม่เพียงแต่จะเป็นไปตามข้อกำหนดการปล่อยมลพิษเท่านั้น แต่ที่สำคัญที่สุด เราเชื่อว่าเราสามารถใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ของเรา เช่นเดียวกับที่เราทำกับเฟอร์รารี่ไฮบริดของเราแล้ว”

โดยรวมแล้ว ตั้งแต่ปี 2023-2026 เฟอร์รารี่วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมเ 15 รุ่น รวมถึงซูเปอร์คาร์ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่

Source

]]>
1389286
งดแรงชั่วคราว! “ลัมโบร์กินี” ปรับไลน์ผลิตหน้ากากอนามัยให้ รพ.ในอิตาลี สู้ COVID-19 https://positioningmag.com/1271226 Wed, 01 Apr 2020 15:08:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1271226 ลัมโบร์กินี ผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี ได้ปรับไลน์การผลิตรถยนต์บางส่วนของตัวเองที่เมืองเซนต์อากาต้า โบโลญญา โดยเปลี่ยนมาผลิตหน้ากากทางการแพทย์เพื่อช่วยสนับสนุนการแก้วิกฤตจากการระบาดของไวรัส COVID-19

ซึ่งหน้ากากที่ผลิตจากโรงงานผลิตรถของลัมโบร์กินีแห่งนี้จะถูกส่งมอบให้กับโรงพยาบาล Sant’Orsola-Malpighi ในเมือง โบโลญญา

การผลิตหน้ากากดังกล่าวของลัมโบร์กินี เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมกับมหาวิทยาลัยโบโลญญา โดยผ่านการตรวจสอบจากแผนกวิทยาการทางการแพทย์และผ่าตัด จึงมั่นใจได้ในแง่ของคุณภาพ มีกำลังการผลิตหน้ากากอนามัย 1,000 ชิ้นต่อวัน และหน้ากากป้องกันทางการแพทย์ที่ทำจากพลาสติกพิเศษอีก 200 ชิ้นต่อวัน

“ท่ามกลางวิกฤตการณ์เช่นนี้ บุคลากรทางการแพทย์คือแนวหน้าในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส COVID-19 เราทุกคนต้องช่วยกันอย่างเต็มที่ ลัมโบร์กินีจึงหาทางสนับสนุนการทำงานของโรงพยาบาล Sant’Orsola-Malpighi ให้มากที่สุด เพื่อช่วยแก้ไขและยับยั้งการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้” สเตฟาโน โดเมนิคาลี่ ประธานและซีอีโอ ออโตโมบิลิ่ ลัมโบร์กินี กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันของอิตาลีในการสู้กับไวรัส COVID-19 ทางลัมโบร์กินีได้เปิดไฟในสีของธงชาติอิตาลีในเวลากลางคืนทุกวัน

Source

]]>
1271226
แอปเรียกรถโดยสารแข่งเดือด “แกร็บ” ดึงซูเปอร์คาร์สร้างกระแส “อูเบอร์” ส่ง uberMOTO จับวินมอเตอร์ไซค์ https://positioningmag.com/1138662 Tue, 05 Sep 2017 16:54:18 +0000 http://positioningmag.com/?p=1138662 แม้ที่ผ่านมาตลาดแอปพลิเคชั่น เรียกรถโดยสารจะมีดราม่าเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ทั้งมีปัญหากับกรมขนส่ง และมีปัญหากับคนเดินรถเจ้าถิ่น แต่ผู้ให้บริการก็ยังสตรองเดินหน้าปั้นบริการต่อไป ในช่วงที่ผ่านมาได้เห็นทั้งอูเบอร์ และแกร็บส่งบริการใหม่เพื่อเอาใจคนไทยอย่างต่อเนื่อง

แกร็บอยู่ในตลาดประเทศไทยมา 4 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2556 ได้เริ่มตั้งแต่บริการแกร็บแท็กซี่ที่ร่วมกับคนขับแท็กซี่ทั่วไป และมีแกร็บคาร์เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ในช่วงแรกแกร็บได้มีโค้ด หรือโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายฐานผู้ใช้ให้กว้าง และเน้นการขยายพื้นที่ให้บริการไปต่างจังหวัด

จนเมื่อมีฐานลูกค้า และพื้นที่ให้บริการพร้อม แกร็บเริ่มขยับไปยังระบบเพย์เมนต์ โดยมี “แกร็บเพย์” ในการชำระเงินผ่านบัตรเดบิต และบัตรเครดิต ไปจนถึงลอยัลตี้ โปรแกรม “แกร็บ รีวอร์ด” ในการสะสมแต้มเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากพันธมิตร เป็นการดึงให้ผู้บริโภคอยู่กับแกร็บไปตลอด ซึ่งบริการนี้ผู้เล่นรายอื่นยังไม่มี

ความท้าทายของแกร็บในปีนี้ต้องการเสริมบริการให้ครบทุกเซ็กเมนต์ เพื่อรับกับผู้บริโภคในทุกกลุ่ม ในปีนี้จึงได้เห็นแกร็บบุกตลาดอย่างหนัก เปิดบริการใหม่ทั้ง “จัสท์แกร็บ (JustGrab)” เป็นบริการที่รวมทั้งรถแท็กซี่และแกร็บคาร์ แต่เป็นการค้นหารถที่ใกล้ลูกค้ามากที่สุดเพื่อความรวดเร็วในการเดินทาง

และบริการใหม่ “แกร็บคาร์พลัส” เน้นประสบการณ์ในการใช้งาน โดยคัดเลือกรถที่คนขับได้มาตรฐาน และเป็นรถใหม่ พร้อมกับนำรถซูเปอร์คาร์มาสร้างกระแสกับแคมเปญ “แกร็บซูเปอร์คาร์” ลุ้นนั่งรถซูเปอร์คาร์ฟรีเมื่อใช้บริการแกร็บคาร์พลัส เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้รู้จัก และใช้งานบริการมากขึ้น ซึ่งบริการนี้มีค่าบริการเพิ่มขึ้นจากปกติ 50%

ยี วี แตง ผู้อำนวยการ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดในประเทศไทยมีการเติบโตสูง พฤติกรรมคนไทยเริ่มหันมาใช้บริการเรียกรถมากขึ้น กลยุทธ์หลักของแกร็บในปีนี้เน้นการสร้างประสบการณ์ในการใช้งานให้ดีขึ้น มีแคมเปญใหม่ๆ มีการสร้างแบรนด์เลิฟด้วยลอยัลตี้โปรแกรม และพัฒนาระบบชำระเงินแกร็บเพย์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในอนาคต“

แกร็บ รีวอร์ด เป็นอีกหนึ่งบริการที่แกร็บให้ความสำคัญมากขึ้น เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2559 เริ่มเปิดจากที่ประเทศไทยก่อนแล้วขยายไปประเทศอื่น จะเป็นลอยัลตี้โปรแกรมที่สะสมแต้มเพื่อแลกสิทธิประโยชน์ และของรางวัลต่างๆ จากพันธมิตร มองว่าแกร็บ รีวอร์ดจะเป็นจุดเปลี่ยนที่จะช่วยสร้างแบรนด์เลิฟในใจผู้บริโภคให้ได้ ปัจจุบันมีพันธมิตรรวม 150 ราย รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปัจจุบันแกร็บทำตลาดอยู่ใน 103 เมือง 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย มีจำนวนดาวน์โหลดรวมทั้งหมด 59 ล้านดาวน์โหลด และมีพาร์ตเนอร์ที่เป็นคนขับ 1.3 ล้านคน

อูเบอร์ เปิด “uberMOTO” จับมือร่วมกับวินมอเตอร์ไซค์

ทางด้านอูเบอร์ได้กลับมาเปิดตัว uberMOTO อีกครั้งหลังจากที่ก่อนนี้เปิดให้บริการแต่มีปัญหาเรื่องผิดกฎหมาย เพราะเรื่องรถโดยสารไม่ใช่รถสาธารณะ ทำให้อูเบอร์กลับไปเกมด้วยการออกบริการใหม่อีกครั้ง แต่เป็นการจับมือร่วมกับวินมอเตอร์ไซค์ในการเรียกรถใช้งาน

คุณศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย Uber กล่าวว่า “uberMOTO เป็นรูปแบบหนึ่งของการให้บริการร่วมเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่เหมาะสำหรับเมืองที่มีความต้องการเดินทางไปที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วเช่นกรุงเทพฯ จะช่วยให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น“ 

ช่วงแรก uberMOTO จะให้บริการในพื้นที่สาทร สีลม อโศก และพื้นที่อื่นๆ ในเขตเมืองก่อน ใช้บริการหลังจาก MRT หรือ BTS เพื่อไปทำงาน ไปช้อปปิ้ง ไปดูหนัง หรือกลับบ้าน มีแผนที่จะขยายพื้นที่ให้บริการในกรุงเทพฯ ต่อไป

]]>
1138662