ความหลากหลายทางเพศ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 05 Jun 2024 05:36:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สยามพิวรรธน์ปักธง “สยามเซ็นเตอร์” ศูนย์กลางแฟชั่นที่สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ กว่า 3 ทศวรรษ หนุนดีไซเนอร์ไทยแจ้งเกิดบนเวทีโลก พร้อมฉลองความสำเร็จมหกรรม Pride อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ https://positioningmag.com/1476418 Tue, 04 Jun 2024 12:48:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1476418

กลุ่มสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่นอันดับ 1 ของไทย อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์  สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เป็นหนึ่งในองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องความหลากหลาย และความเท่าเทียมมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ที่ “สยามเซ็นเตอร์” ให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของทุกความหลากหลาย พร้อมมอบโอกาสให้แก่ทุกคนในฐานะเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ หรือ Ideaopolis ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา สยามเซ็นเตอร์สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ เป็นเวทีแจ้งเกิดผู้มีความสามารถในวงการแฟชั่น ตั้งแต่ยังก์ดีไซเนอร์ไปจนถึงแบรนด์ไทยระดับแถวหน้าของวงการ และแบรนด์ระดับตำนานที่เติบโตโดดเด่นในเวทีโลก ขณะเดียวกันสยามเซ็นเตอร์สนับสนุนงานเฉลิมฉลองในเดือนแห่งความภาคภูมิใจ หรือ Pride Month ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งงาน Bangkok Pride Festival 2024 ที่จัดโดย บางกอกไพรด์และกรุงเทพมหานคร ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากเป็นมหกรรมไพรด์อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ ที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาร่วมงานหลายแสนคน


สยามเซ็นเตอร์ ศูนย์กลางแฟชั่นที่สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+

สยามเซ็นเตอร์  เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์การค้ามาตรฐานสากลแห่งแรกของประเทศไทย ที่ครองใจคนไทยและนักท่องเที่ยวมาทุกยุคทุกสมัย และบรรดาร้านค้าชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศล้วนเปิดสาขาแรกที่สยามเซ็นเตอร์  และยังเป็นศูนย์กลางแห่งแฟชั่นที่ล้ำสมัยอยู่เสมอ เป็นสถานที่ในดวงใจของบรรดานักออกแบบดีไซเนอร์ที่ใฝ่ฝันอยากมาเปิดร้านภายในบ้านหลังใหญ่ของไทยดีไซเนอร์แห่งนี้ สยามเซ็นเตอร์ได้มอบโอกาสให้แก่ นิสิต นักศึกษา นักออกแบบรุ่นใหม่ ทุกเพศสภาพ ได้เวทีในการนำเสนอพลังสร้างสรรค์ โดยการแข่งขันประกวดยังก์ดีไซเนอร์ พร้อมผลักดันให้ก้าวสู่ธุรกิจแฟชั่น และร่วมพัฒนาแบรนด์ เพื่อให้ยืนหยัดในวงการแฟชั่นทั้งไทยและระดับโลก แน่นอนว่าวงการแฟชั่นเป็นศูนย์รวมของคอมมูนิตี้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทั้งดีไซเนอร์ สไตลิสต์ เมคอัพอาร์ทิส ช่างทำผม นักออกแบบ ออแกไนเซอร์ และอาชีพอื่นๆ อีกมากมาย สยามเซ็นเตอร์จึงเป็นเสมือนเพื่อนสนิทของเหล่า LGBTQ+ มาอย่างยาวนาน

ล้ำเทรนด์ หรือ Ideaopolis ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา สยามเซ็นเตอร์สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ เป็นเวทีแจ้งเกิดผู้มีความสามารถในวงการแฟชั่น ตั้งแต่ยังก์ดีไซเนอร์ไปจนถึงแบรนด์ไทยระดับแถวหน้าของวงการ และแบรนด์ระดับตำนานที่เติบโตโดดเด่นในเวทีโลก ขณะเดียวกันสยามเซ็นเตอร์สนับสนุนงานเฉลิมฉลองในเดือนแห่งความภาคภูมิใจ หรือ Pride Month ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งงาน Bangkok Pride Festival 2024 ที่จัดโดย บางกอกไพรด์และกรุงเทพมหานคร ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากเป็นมหกรรมไพรด์อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ ที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาร่วมงานหลายแสนคน

ไทยดีไซเนอร์ที่ได้ร่วมก้าวเดินและรันวงการแฟชั่นไทยร่วมกับสยามเซ็นเตอร์ มีมากมาย อาทิ AB-Normal, Anatomie, Baking Soda, Curated by Ek Thongprasert, Flynow, Frank Garcon, Friday27Nov, Good Mixer, Greyhound, House of PB, ICONICS, Kanapot, Kloset, Leisure Project, Milin, P.Mith, Painkiller, Playhound by Greyhound, Q design and Play, Rotsaniyom, Senada, Shaka Leisure, Theatre, Tube Gallery, Wonder และอีกมากมาย ที่เปิดในร้าน Absolute Siam Store และ The Wonder Room ไทยดีไซเนอร์เหล่านี้ นับเป็นผู้มีความสำคัญต่อวงการแฟชั่นไทย นำเสนอพลังความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวไทยและคนทั่วโลก เป็น Soft Power ที่สร้างเม็ดเงินในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยจนเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้แก่ประเทศ มีไทยดีไซเนอร์หลากหลายแบรนด์ที่เปิดร้านในสยามเซ็นเตอร์มาอย่างยาวนาน ขณะเดียวกันอีกหลายแบรนด์ได้ขยับขยายธุรกิจ แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผูกพันและความภาคภูมิใจที่สยามเซ็นเตอร์มีให้ต่อไทยดีไซเนอร์ไทยทุกแบรนด์มาโดยตลอด

ปัจจุบันสยามเซ็นเตอร์ยังครองความเป็นศูนย์กลางแฟชั่นและนำเสนอเทรนด์สุดล้ำแห่งยุคสมัย นำเสนอแฟชั่นที่ตอบสนองสไตล์และคอมมูนิตี้ที่แตกต่าง รวมทั้งร้าน Absolute Siam ศูนย์รวมงานสร้างสรรค์สินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และของที่ระลึก นำเสนอสินค้าที่แตกต่างมีจำหน่ายเฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์เพียงแห่งเดียว สร้างสรรค์ครีเอทด้วยดีไซน์แปลกใหม่จากการร่วมคอลลาบอเรชั่นระหว่างแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง เป็นสินค้า Exclusive แบบไม่เคยมีมาก่อน


Pride Community Destination ศูนย์รวมคอมมูนิตี้ที่เห็นคุณค่าของทุกความหลากหลาย

ด้วยจุดยืนที่มุ่งมั่นและสนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (Diversity, Equality & Inclusion) มาโดยตลอด โดยสยามเซ็นเตอร์เป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้ร่วมกับสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) องค์กรระดับโลกที่ดำเนินงานเพื่อพัฒนาชีวิตของผู้คนตามหลักธรรมาภิบาลในทุกด้าน และได้ทำงานร่วมกันมาโดยตลอดทุกศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ซึ่งเป็นการออกแบบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการบริการต่างๆ เพื่อคนทั้งมวล

ในปีนี้ ซึ่งเป็นปีสำคัญที่ประเทศไทยจะมีกฏหมายสมรสเท่าเทียม นับเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มสยามพิวรรธน์จึงผนึกกำลังกับองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ สนับสนุนการจัดงาน Bangkok Pride Festival 2024 ในหลากหลายมิติ ภายใต้แคมเปญ “The Celebration: Right to Love” ตลอดทั้งเดือนมิถุนายน นี้

โดยสยามเซ็นเตอร์ ร่วมสร้างไฮไลท์ที่ดึงดูดสายตาคนทั่วโลก โดยการนำเวิลด์คาแรกเตอร์ระดับโลก “Teletubbies” มาร่วมเป็น Pride Ambassador และจัดงาน Siam Center x Teletubbies Experience Space และงาน Wacoal X Teletubbies Café ซึ่งเป็น Teletubbies Café แห่งแรกในเอเชีย สร้างความฮือฮาและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ขณะที่ สยามพารากอน ได้เปิดพื้นที่ ให้กับ บางกอกไพรด์ และ กรุงเทพมหานคร จัดงาน Bangkok Pride Forum 2024 เวทีสำคัญที่บุคคลและผู้แทนองค์กรที่ทำงานและเกี่ยวข้องกับด้านสิทธิ LGBTQ+ และสตรีทั้งไทยและต่างประเทศ มาร่วมเสวนาและให้ความรู้กว่า 30 หัวข้อ และ Drag Bangkok Festival 2024 เทศกาลแดร็กสุดยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งแรกในไทยและเอเชียโดยร่วมมือพันธมิตร คือ เยลโล่ แชนแนล และ องค์กรบางกอกไพรด์ ถือเป็นมิติใหม่ของการสร้างปรากฏการณ์ที่ให้ทั้งสาระและความสนุกสนาน  ด้านไอคอนสยามและไอซีเอส จัดแคมเปญ “ICONSIAM Pride Out Loud เฉิดฉายหัวใจภาคภูมิ” เพื่อยกย่องและเชิดชูคุณค่าที่อยู่ในตัวตนของเพศที่หลากหลายในทุกอาชีพ โดยจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน

สยามพิวรรธน์ ยังสร้างกิมมิกใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยการเปิดตัวน้ำดื่มวันสยาม Pride Edition ที่เป็น Limited Edition ดีไซน์ใหม่ด้วยสีลวดลายของกระป๋องเป็น 6 สีสันสดใส ตามธงสีรุ้ง ที่มาพร้อมแนวคิดขับเคลื่อนสังคมบริโภคยั่งยืนด้วยบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มจากอะลูมิเนียมสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ 100% สอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร  Siam Piwat 360° Waste Journey to Zero Waste และการขับเคลื่อนสู่องค์กรขยะเป็นศูนย์

 

ทั้งหมดนี้สะท้อนความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ ผู้สร้าง Global Destination ของไทย ที่มุ่งมั่นนำเสนอไอคอนิคอีเวนต์ยิ่งใหญ่ สร้างประวัติศาสตร์และปรากฏการณ์ใหม่ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมร่วมสนับสนุนอย่างแข็งขันและผลักดันให้ประเทศไทยฉายศักยภาพมุ่งสู่เป้าหมายในการจัด Bangkok WorldPride 2030

]]>
1476418
เปิดแนวคิด “แสนสิริ” กับการสร้าง “แบรนด์” แห่ง “ความหลากหลาย และ ความเท่าเทียม” https://positioningmag.com/1377675 Tue, 15 Mar 2022 12:19:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1377675 หากใครสังเกตความเคลื่อนไหวในกลุ่มแบรนด์อสังหาฯ จะเห็นได้ว่า “แสนสิริ” ชูจุดยืนด้าน “ความหลากหลาย และ ความเท่าเทียม” เป็นแกนกลางของการสื่อสารการตลาด โดยใช้เวลาหลายปีกว่าที่จุดยืนของแบรนด์ในแง่นี้จะเด่นชัดและแข็งแรง แต่เป็นการรดน้ำพรวนดินที่ได้ผลในที่สุด

ภาพใหญ่ของแบรนด์ “แสนสิริ” ชูคอนเซ็ปต์ “YOU-Centric” มาพักใหญ่ นิยามของคอนเซ็ปต์นี้คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการจะมีลูกค้าหรือ ‘คุณ’ เป็นศูนย์กลาง นั่นหมายถึงการพัฒนาจะหลากหลายมากขึ้น เพราะแต่ละคนมีความต้องการแตกต่างกัน

และดูเหมือนว่าการสื่อสารแบรนด์และการพัฒนาบ้าน-คอนโดมิเนียมของแสนสิริตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะตรงใจกลุ่มเป้าหมาย วัดผลจากการได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์ The Most Powerful Real Estate Brand จัดโดย TerraBKK มา 4 ปีซ้อน (2018-2021)

มาถึงปีนี้ แสนสิริเดินหน้าต่อ แตกแคมเปญการตลาดส่งเสริมแบรนด์แยกย่อยออกมาจากแกนคอนเซ็ปต์ดังกล่าว ในชื่อ “YOU Are Made For Life” เน้นย้ำคุณค่าความแตกต่างของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นด้านเพศสภาพ กายภาพ อายุ ไลฟ์สไตล์ ฯลฯ โดยในภาพยนตร์โฆษณาที่ออกมาจะสื่อสารโดยใช้ตัวแสดงที่มีทั้งเด็กพิเศษ, ผู้ใช้ภาษามือ, LGBTQ+, ผู้หญิงที่ภูมิใจในรูปร่างของตนเอง (Body Positivity)

แสนสิริ
ภาพจากหนังโฆษณาแคมเปญ “YOU Are Made For Life”

รวมถึงใช้ Brand Endorsers จากหลากหลายวงการ หลายไลฟ์สไตล์เพื่อสื่อถึงแคมเปญ ได้แก่ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ, แนน-ปิยะดา จิระพจชพร, สุธีวัน กุญชร หรือ ใบเตย อาร์สยาม, นัท-นิสามณี สะบัดแปรง, ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักกีฬาแบดมินตัน และ เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม

จากการเปิดตัวแคมเปญ เรามีโอกาสได้คุยกับ “ทศพร กรกิจ” Head of Brand Team และ “เฉลิมขวัญ คำสุระ” Brand Manager สองผู้บริหารจาก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เพื่อย้อนที่มาที่ไปของการสร้างแบรนด์แสนสิริมาในแนวทางของ “ความหลากหลาย และ ความเท่าเทียม”

แสนสิริ
(จากซ้าย) พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ, เฉลิมขวัญ คำสุระ, ทศพร กรกิจ และ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร

 

Q: การสร้างคอนเซ็ปต์แบรนด์แห่ง “ความหลากหลาย และ ความเท่าเทียม” มีที่มาจากอะไร

ทศพร: แสนสิริตั้งแต่ดั้งเดิมเรามีความเป็น Global Citizen อยู่แล้ว ประกอบกับวิสัยทัศน์จากผู้บริหาร topline ลงมา วางทิศทางของบริษัทในระยะหลังว่า บริษัทจะไม่ได้เป็นแค่ผู้ก่อสร้างอิฐ หิน ปูน ทราย และไม่ใช่แค่ตัวบ้านหรือสิ่งปลูกสร้าง แต่เป็นการดูแล ‘ชีวิต’

ตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน แสนสิริเริ่มเข้าไปพาร์ทเนอร์กับ UNICEF ทำงานเรื่องเด็กและเยาวชนก่อน ก่อนจะค่อยๆ ขยายไปยังเรื่องอื่นที่สะท้อนการสร้างความเท่าเทียมในการใช้ชีวิต เช่น เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เรื่องผู้มีข้อจำกัดด้านกายภาพ

 

Q: การวางคอนเซ็ปต์แบรนด์ มีการเชื่อมโยงกับการพัฒนาสินค้าหรือบริการอย่างไร ที่สะท้อนให้เห็นว่าแสนสิริไม่ได้ทำเฉพาะการโฆษณาเท่านั้น

ทศพร: ตัวอย่างเรื่องความหลากหลาย ดังที่บอกว่าเราต้องการตอบไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของคน ทำให้แบรนด์และการดีไซน์เราแยกย่อยออกมา เช่น กลุ่มบ้านเดี่ยวลักชัวรี แต่เดิมเรามี “นาราสิริ” อยู่แล้ว แต่เมื่อไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ต้องการความแตกต่าง เราก็แยกแบรนด์ใหม่ออกมาคือ BuGaan เป็นบ้านลักชัวรีในอีกแบบหนึ่ง

เฉลิมขวัญ: ส่วนด้านความเท่าเทียม จะสังเกตได้จากแบรนด์ทาวน์เฮาส์ของเราคือ “สิริ เพลส” เป็นทาวน์เฮาส์ระดับ affordable ราคาประมาณ 2 ล้านบาท แต่ละทำเลของแบรนด์ฯเราดีไซน์ให้ต่างกัน อย่างทำเลบางนา-เทพารักษ์ เป็นสไตล์นิวยอร์ก ทำเลรังสิต-คลอง 2 เป็นสไตล์ญี่ปุ่น การดีไซน์ใหม่ทำให้แสนสิริทำงานหนักขึ้น แต่เราทำเพราะเราใส่ใจไม่ต่างจากเซ็กเมนต์ที่ราคาสูงกว่านี้ ทีมงานรักษาความปลอดภัยในโครงการเราก็ฝึกแบบเดียวกันหมด ไม่ได้แยกระดับตามราคา

ตัวอย่างโครงการในทำเลขายดี : สิริ เพลส บางนา-เทพารักษ์

ทศพร: เสริมในแง่บริการ เมื่อราว 2 ปีก่อน เราพบว่ามีคู่รัก LGBTQ+ ต้องการกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน แต่ไม่สามารถกู้ได้ เพราะธนาคารส่วนมากไม่อนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกัน คนละนามสกุล ไม่มีทะเบียนสมรส กู้สินเชื่อบ้านร่วมกันได้ เรื่องนี้คุณเศรษฐา (– เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ) เข้าไปพบผู้บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ด้วยตนเอง เพื่อร้องขอให้ธนาคารเปิดให้ LGBTQ+ กู้บ้านร่วมกันได้

 

Q: มองว่าผู้บริโภคไทยเปิดรับการเลือกคนที่แตกต่างมาเป็นตัวแสดงหรือเป็น Brand Endorser มากน้อยแค่ไหน

ทศพร: คนไทยบางส่วนอาจจะยังติดภาพอยู่ว่า ตัวแสดงต้องสวยหล่อ หน้าตาดี หุ่นดี ร่างกายสมบูรณ์ หรือ LGBTQ+ ที่จริงคนไทยอาจจะยังไม่ได้ยอมรับอย่างเต็มที่ แต่เราก็เลือกมาเพราะต้องการฉีกข้อห้ามเหล่านี้ของสังคม

เราต้องการจะให้คนไทยมองแบรนด์แสนสิริเป็น “E-D-I” คือเป็นคนที่รักความเท่าเทียม (Equality), ความหลากหลาย (Diversity) และรับทุกความแตกต่างเป็นหนึ่งเดียว (Inclusion)

 

Q: ในอดีต ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีแนวคิดว่าลูกค้าเลือกจาก “ทำเล ทำเล ทำเล” แบรนด์ไม่ใช่สิ่งสำคัญนัก แต่วันนี้ “แบรนด์” สำคัญกับขั้นตอนการตัดสินใจของลูกค้ามากแค่ไหน

ทศพร: เป็นเรื่องจริงที่เมื่อก่อนลูกค้าเลือกซื้อบ้านจากทำเลและราคาเป็นหลัก แต่วันนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว เรามีการศึกษาร่วมกับ Ogilvy ซึ่งทำให้เห็นขั้นตอนการตัดสินใจของลูกค้าเป็น 4 ลำดับ คือ
1)เลือกรัศมีทำเลที่ต้องการอยู่อาศัย
2)จินตนาการภาพการอาศัยอยู่ในโครงการนั้น มองชุมชนและเพื่อนบ้าน จะเป็นสไตล์เดียวกันหรือไม่
3)สถานที่สำคัญใกล้เคียงมีอะไรบ้าง เช่น โรงเรียน
4)สิ่งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในโครงการ

จะเห็นได้ว่าเรื่องทำเลยังมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่เรื่องของ “ชุมชน” และ “ไลฟ์สไตล์” การอยู่อาศัย กลายเป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้นมา ในส่วนนี้การวางแบรนด์จะเข้ามาผูกพันกับเรื่องของไลฟ์สไตล์คนในชุมชนเดียวกัน

แสนสิริ
ภาพจาก อณาสิริ กรุงเทพฯ-ปทุมธานี

 

Q: เป้าหมายสูงสุด (Ultimate Goal) ของแคมเปญสร้างแบรนด์คืออะไร และแสนสิริจะทำอะไรต่อ

ทศพร: เป้าหมายสุดท้ายต้องเปลี่ยนเป็นยอดขาย แต่การสร้างแบรนด์ลักษณะนี้ไม่ได้ชี้วัดได้เร็ว อย่างเราสร้าง YOU-Centric มานานถึง 5 ปี กว่าจะเห็นยอดขายจับต้องได้แบบนี้ โดยปีนี้บริษัทเราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 35,000 ล้านบาท

เฉลิมขวัญ: หลังจากนี้เราต้องยิ่งผลักดันให้แคมเปญเข้าไปฝังในทุกๆ touchpoints ที่ลูกค้าจะได้พบ เช่น คอลเซ็นเตอร์ ก็ต้องสร้างความหลากหลายและเท่าเทียม ลูกค้าจะไม่ได้เห็นเฉพาะในโฆษณาอย่างแน่นอน

 

อ่านเพิ่มเติม: “แสนสิริ” ประกาศเป้า Net-Zero ดูแลสิ่งแวดล้อม ติดตั้ง “EV Charger” ทุกโครงการในปี 2025

]]>
1377675
United Airlines อนุญาตให้ลูกเรือ “ทุกเพศ” ไว้ผมยาว-แต่งหน้า-ทาเล็บ-มีรอยสักได้แล้ว https://positioningmag.com/1346777 Sat, 14 Aug 2021 11:27:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1346777 ข่าวดีของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เมื่อสายการบิน United Airlines ปรับเปลี่ยนกฎระเบียบให้ยืดหยุ่นมากขึ้น อนุญาตให้ลูกเรือ “ทุกเพศ” สามารถไว้ผมยาว แต่งหน้า ทาเล็บ และมีรอยสักได้แล้ว สร้างบรรทัดฐานใหม่ด้านเสรีภาพทางเพศในวงการ

หลังธุรกิจการบินในสหรัฐอเมริกาเริ่มฟื้นตัว ล่าสุดสายการบิน United Airlines สร้างความแตกต่าง ด้วยการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบการแต่งกายของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน อนุญาตให้ลูกเรือ “ทุกเพศ” สามารถไว้ผมยาว แต่งหน้า ทาเล็บ และมีรอยสักได้แล้ว

แน่นอนว่าระเบียบใหม่จะยังมีขอบเขตอยู่บ้าง เช่น การแต่งหน้ายังต้องมีลักษณะที่ “ดูเป็นธรรมชาติ” ปล่อยผมได้หากยาวไม่เกินไหล่และต้องรักษาสภาพให้สะอาดเรียบร้อยเสมอ รอยสักนอกร่มผ้าต้องไม่ใหญ่ไปกว่าขนาดตราประจำตัวของลูกเรือ ไม่เป็นภาพหรือคำที่หยาบคาย/น่ารังเกียจ รวมถึงห้ามมีรอยสักบนใบหน้า ศีรษะ และมือ อนุญาตให้มีรอยสักได้ไม่เกิน 1 จุดต่อแขน 1 ข้าง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม กฎใหม่นี้นับเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างเสรีภาพการแสดงออกทางเพศของลูกเรือมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ลูกเรือที่มีเพศกำเนิดเป็นชายจะไม่สามารถแต่งหน้า ทาเล็บ หรือไว้ผมยาวเกินปกคอเสื้อได้ รวมถึงก่อนหน้านี้ลูกเรือทุกเพศห้ามมีรอยสักนอกร่มผ้าเด็ดขาด

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของ United Airlines ภายใต้ระเบียบใหม่ เพศชายทาเล็บได้ ไว้ผมยาวได้

แถลงการณ์ของ United Airlines ระบุว่า การปรับเปลี่ยนระเบียบครั้งนี้เป็นไปเพื่อ “ส่งเสริมให้พนักงานนำเสนอตนเองในทางที่พวกเขารู้สึกมั่นใจมากที่สุด”

“ระเบียบการแต่งหน้าแต่งกายที่ปรับให้ทันสมัยของเรา จะสนับสนุน ส่งเสริม และสร้างสภาวะแวดล้อมเชิงบวกให้กับพนักงานและลูกค้าของเราเช่นเดียวกัน” United Airlines แถลง

  • ‘แฟชั่นไร้เพศ’ เทรนด์ที่แบรนด์ต้องรีบจับหากอยากได้ใจ ‘Gen Z’

ไรอัน บริกส์ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายหนึ่งของ United Airlines กล่าวว่า เขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้แสดงออกถึงตัวตนของตนเองแบบเดียวกับที่เขาเป็นนอกเวลางาน บริกส์ซึ่งระบุตนเองเป็นเพศนอนไบนารี (ไม่ระบุว่าตนเป็นหญิงหรือชาย) เปิดเผยว่าเขามักจะทาเล็บและแต่งหน้าเป็นประจำนอกเวลางาน

นโยบายการสวมใส่ยูนิฟอร์มและการแต่งหน้าของกลุ่มอาชีพที่ยังต้องสวมชุดเครื่องแบบนั้นค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปในห้วงเวลาที่ผ่านมา แต่มักจะปรับในฝั่งของพนักงานที่ระบุเพศของตนเป็นเพศหญิงมากกว่า เช่น หลายสายการบินอนุญาตให้เพศหญิงสวมกางเกงแทนกระโปรงได้ อนุญาตให้เพศหญิงไม่ต้องแต่งหน้าได้ แต่ฝั่งเพศชายมักจะยังใช้กฎระเบียบแบบเดิมๆ การปรับระเบียบของ United Airlines จึงเป็นก้าวที่สำคัญมาก เพราะสื่อถึงการยอมรับการแสดงออกของทุกเพศแบบเท่าเทียมกัน

  • ‘ออสเตรเลีย’ เร่งฟื้นท่องเที่ยว อุ้มสายการบิน ออกค่าตั๋วให้ ‘คนละครึ่ง’ ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

United Airlines จะเริ่มใช้ระเบียบใหม่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนนี้ เริ่มจากกลุ่มพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและกลุ่มกราวนด์สตาฟ ก่อนที่จะขยายไปถึงกลุ่มอาชีพอื่นๆ เช่น นักบิน ภายในสิ้นปีนี้

Source

]]>
1346777
บํารุงราษฎร์ ปั้นธุรกิจใหม่ ‘Pride Clinic’ เจาะ LGBTQ+ กำลังซื้อสูง เน้นครบวงจร-ดูเเลระยะยาว https://positioningmag.com/1339830 Thu, 01 Jul 2021 09:41:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1339830 ‘บำรุงราษฎร์’ เสริมกลยุทธ์สร้างรายได้ เปิดตัวธุรกิจใหม่ ‘Pride Clinic’ เจาะกลุ่ม LGBTQ+ กำลังซื้อสูงทั้งในไทยเเละทั่วโลก ชูจุดเด่นการดูแลเชิงสุขภาพในระยะยาวเเบบ ‘Life-time value’ ครบวงจรตั้งเเต่ให้คำปรึกษา–ดูเเลจิตใจ–ผ่าตัดเเปลงเพศ–ศัลยกรรมตกเเต่ง ตามความต้องการ ‘เฉพาะบุคคล’

ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH กล่าวว่า Pride Clinic จะเป็น ‘ทางเลือก’ ในการดูแลสุขภาพตามความต้องการ ให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ด้วยการบริบาลตามมาตรฐานบำรุงราษฎร์และความปลอดภัยสูงสุด ทั้งก่อนเข้ารับบริการ ในระยะบริการ เเละหลังบริการระยะยาว

ปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคชาว LGBTQ+ ถือเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอย มีอยู่ทั่วโลกราว 468 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นชาวเอเชียถึง 288 ล้านคน เเละในไทยประมาณ 4 ล้านคน

“บริการของ Pride Clinic ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก ทั้งจากชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยล่าสุดบำรุงราษฎร์ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในจีน ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าหลัก รวมไปถึงมีเเผนจะทำการตลาดไปยังกลุ่มประเทศอื่นๆ ในอาเซียนด้วย”

ในเบื้องต้นเเม้จะยังไม่ได้ตั้งเป้าตัวเลขทางธุรกิจ เเต่โรงพยาบาลมองว่า ธุรกิจใหม่นี้จะเติบโตได้ดีในอนาคตเเละคาดหวังว่าจะทำรายได้เพิ่ม 2-3 เท่า โดยค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยโดยเฉลี่ยนั้นอยู่ในเรตที่กว้างมาก เพราะความต้องการของเเต่ละบุคคลไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ ‘ออปชั่น’ ที่อยากได้เเละความเหมาะสมกับร่างกายเเละจิตใจ ตามคอนเซ็ปต์ ‘Be the best version of you’

สำหรับ ‘Pride Clinic’ จะเปิดให้บริการกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีอายุตั้งเเต่ 20 ปีขึ้นไป รวมถึงให้คำปรึกษาผู้ปกครองและญาติมิตร

นพ.สิระ กอไพศาล อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อและผู้ชำนาญการด้านฮอร์โมน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องสำคัญ เช่น ยังมีความเข้าใจผิดและมีความเสี่ยงในการซื้อยาคุมกำเนิดมารับประทานเอง เพื่อทดแทนฮอร์โมนในเพศหญิง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

ดังนั้น ‘Pride Clinic’ จึงได้รับการออกแบบให้มีการบริบาลแก่กลุ่มหลากหลายทางเพศที่ครบวงจร ปลอดภัยเเละดูแลโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการในทุกขั้นตอน เช่น

  • การใช้ฮอร์โมนบำบัดเพื่อปรับลักษณะทางกายภาพหรือเตรียมความพร้อมเพื่อปรับเพศสภาพ (Hormone Therapy)
  • ศัลยกรรมเพื่อปรับลักษณะทางกายภาพ (Masculinizing/Feminizing Procedures)
  • การผ่าตัดเปลี่ยนเพศ (Gender-Affirming Surgery)
  • การฝึกพูดเพื่อเปลี่ยนเสียงเป็นเพศหญิง (Voice Feminizing Therapy)
  • การผ่าตัดกล่องเสียง (Voice Feminizing Surgery)
  • การดูแลรักษาด้านผิวพรรณ ความงามและรูปร่าง (Aesthetic and Skin)
  • การดูแลสุขภาพจิต (Mental health)
  • โปรแกรมสุขภาพแบบจำเพาะสำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศ (Check-up Program for Unisex) ในทุกช่วงวัย

“จุดเเข็งของ Pride Clinic คือการดูเเลเเบบเฉพาะบุคคลจริงๆ เพราะต้องเทคฮอร์โมนในอัตราที่เเตกต่างกัน ไม่ใช่เเค่ผ่าตัดเสร็จเเล้วก็จบ เเต่คือการดูเเลระยะยาว 20-30 ปี ไปตลอดชีวิต” 

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Pride Clinic คือการมีทีมศัลยแพทย์ในการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี และทำการผ่าตัดมาแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 ราย รวมถึงมีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัด ที่ปัจจุบันในไทยยังมีจำนวนไม่มากนัก

โดยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีบริบาลดูแลในช่วงการ ‘พักฟื้นภายหลังผ่าตัด’ อย่างต่อเนื่องที่ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ภายใต้โครงการรักษ ตั้งอยู่ที่บางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมแห่งแรกในเอเชีย ผสมผสานระหว่างการนำเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์สมัยใหม่ (Advanced Medical Science) มาใช้ร่วมกับ ศาสตร์การแพทย์แบบองค์รวม (Holistic Wellness) ที่เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และจัดโปรแกรมแบบ ‘เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะบุคคล’ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ การปรับสมดุลของร่างกาย ดูแลผิวพรรณ ความงาม น้ำหนักตัว และการชะลอวัยให้ดูดีในแบบฉบับของแต่ละบุคคล

  • “รักษ” ศูนย์เวลเนส จาก 3 บิ๊กเนม “มั่นคง-บำรุงราษฎร์-ไมเนอร์” มูลค่า 2,000 ล้านบาท

ก่อนจะเกิดวิกฤตโรคระบาดนั้น BH ให้การรักษาผู้ป่วยทั้งชาวไทยเเละต่างชาติกว่า 1.1 ล้านรายต่อปี คิดเป็นสัดส่วนผู้ป่วยไทยและต่างชาติอย่างละ 50% ขณะที่ ‘สัดส่วนรายได้’ ส่วนใหญ่มาจากผู้ป่วยชาวต่างชาติถึง 66% ส่วนผู้ป่วยคนไทยอยู่ที่ราว 34% เนื่องจากชาวต่างชาติจะเข้ามาทำการรักษาเคสหนัก เช่น การผ่าตัดหัวใจ รักษาโรคร้ายเเรง ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า

เมื่อการเเพร่ระบาดยังไม่หมดไปในเร็ววัน บำรุงราษฎร์ จึงปรับกลยุทธ์เพื่อหารายได้ช่องทางใหม่ ขยายธุรกิจใหม่ ขยับหาลูกค้าชาวไทยมากขึ้น พร้อมชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย (Expatriate) ที่มีอยู่ราว 2.45 ล้านคน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีโอกาสทางธุรกิจอยู่มาก โดยมีการจัดเเคมเปญต่างๆ ออกแพ็กเกจโปรโมชัน คอร์สรักษาในราคาพิเศษ ฯลฯ

  • รพ.ไฮเอนด์ เเก้เกม ผู้ป่วยต่างชาติหาย “บํารุงราษฎร์” พลิกจับ “คนไทย” ดัมพ์ราคา-จัด 1 เเถม 1

ก่อนหน้านี้ BH หันมาจับมือกับ ‘คลินิกขนาดเล็ก’ เพื่อขยายเครือข่ายไปต่างจังหวัด ให้เข้าถึง ‘ชุมชน’ มากขึ้น ตามแนวคิด ‘แพทย์ประจำครอบครัว’ ซึ่งเป็นบริการที่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในยุโรป ‘คุ้นเคยกันดี’ เเต่ในเมืองไทยยังไม่เเพร่หลายมากนัก เเละล่าสุดกับเปิดตัวธุรกิจใหม่อย่าง Pride Clinic ที่มุ่งเจาะกลุ่ม LGBTQ+ ที่มีกำลังซื้อสูงทั้งในไทยเเละทั่วโลก

“ขณะนี้สัดส่วนการเติบโตคนไข้ชาวไทยและต่างชาติที่อยู่ในไทยดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการรักษาโรคเฉพาะทาง คนไข้ต่างชาติก็มีเข้ามาเป็นเที่ยวบินพิเศษ ต่อไปหากสามารถเปิดประเทศได้ ก็จะทำให้ยอดคนไข้ต่างชาติกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง” ภญ. อาทิรัตน์ระบุ 

  • บํารุงราษฎร์ ขยับหาคลินิก ‘ไซซ์เล็ก’ ต่างจังหวัด ดัน ‘แพทย์ประจำครอบครัว’ เจาะ Expat วัยเกษียณ
  • BHG รุกตลาด LGBTQI+ ส่งโซลูชันดูแล “สุขภาพ” ปรึกษาแพทย์ส่วนตัวได้ในบ้านผ่านดิจิทัล

 

 

]]>
1339830