คอนโดหรู – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 26 Sep 2022 13:10:41 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 RML พร้อมโอน “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” แย้มโครงการใหม่เตรียมเซ็นดีลเจ้าของที่ดินภาคใต้ https://positioningmag.com/1400915 Tue, 20 Sep 2022 07:46:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1400915 ความคืบหน้าธุรกิจ “ไรมอน แลนด์” (RML) ปี’65 เตรียมรับรายได้ราว 2,000-2,200 ล้านบาท จากคอนโดฯ หรู “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” ที่จะเริ่มโอนตุลาคมนี้ อัปเดตแผนงานโครงการใหม่ เตรียมเซ็นสัญญาพัฒนาโครงการกับเจ้าของที่ดินทางภาคใต้ ตามนโยบายธุรกิจ ‘Light Asset’ จับมือพันธมิตรแลนด์ลอร์ด ไม่ต้องซื้อที่ดินเอง

“กรณ์ ณรงค์เดช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดตัวโครงการสร้างเสร็จใหม่ของบริษัท “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” (The Estelle Phrom Phong) มูลค่าโครงการ 5,200 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรีทำเลในซอยสุขุมวิท 26 ห่างจากสถานี BTS พร้อมพงษ์ 200 เมตร จำนวนห้องชุดเพียง 146 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 16.8 ล้านบาทต่อยูนิต หรือเฉลี่ย 350,000 บาทต่อตร.ม.

ปัจจุบันดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์สร้างยอดขายได้แล้ว 70% โดยในจำนวนนี้ 40% เป็นลูกค้าต่างชาติ ส่วนที่เหลือเป็นลูกค้าไทย โดยห้องชุดที่ราคาสูงที่สุดคือ Penthouse จำนวน 3 ห้องบนยอดตึกถูกเหมาไปโดยเศรษฐีไทยรายเดียวและผสานยูนิตเป็น Penthouse 3 ชั้นขนาดกว่า 1,000 ตร.ม. กรณ์กล่าวว่า ห้องชุดที่เหลือของตึกตั้งเป้าขายหมดภายในไตรมาส 2/2566

ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์
ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์

ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์จะเริ่มเดือนตุลาคมนี้ ทำให้ปี 2565 ไรมอน แลนด์จะได้รับรายได้จากโครงการนี้ราว 2,000-2,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผู้ซื้อบางส่วนซึ่งเป็นชาวจีนขณะนี้อาจจะยังไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ เพราะประเทศจีนยังไม่เปิดให้ชาวจีนเดินทางเข้าออกพรมแดน แต่เมื่อใดที่จีนเปิดประเทศ ผู้ซื้อจีนพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ทันที ปัจจุบันยังไม่มีการทิ้งดาวน์

ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์
บริเวณล็อบบี้
ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์
Private Onsen บนชั้น 8 ของอาคาร

เซ็นดีลที่ดินเพิ่มทางภาคใต้

สำหรับโครงการที่จะเปิดตัวใหม่ กรณ์กล่าวว่า โครงการโรสวู้ด เรสซิเดนซ์ กมลา ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นวิลล่าหรูบนเชิงเขา ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนออกแบบและก่อสร้างยูนิตตัวอย่าง คาดจะเปิดขายได้ภายใน Q4/65 หรือ Q1/66

ส่วนโครงการคอนโดฯ ซอยสุขุมวิท 38 กำลังออกแบบเช่นกัน แต่คาดว่าจะเลื่อนไปเปิดตัวปี 2566 จากเดิมที่จะเปิดในปีนี้

“กรณ์ ณรงค์เดช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML

ตารางการเปิดโครงการใหม่ๆ ของไรมอน แลนด์ ยังมีดีลใหม่จ่อเข้ามาเสริมทัพด้วย โดยกรณ์ระบุว่าสัปดาห์หน้าบริษัทจะเซ็นดีลกับเจ้าของที่ดินทางภาคใต้รายหนึ่งเพื่อนำมาพัฒนาโครงการหรู ตามกลยุทธ์บริษัทที่ต้องการถือสินทรัพย์ให้น้อยลง (Light Asset) ใช้วิธีเป็นพันธมิตรกับเจ้าของที่ดินและพัฒนาโครงการร่วมกันมากกว่าซื้อขาดที่ดินเข้ามาในพอร์ต

 

หวังปี 2566 ‘เทิร์นอะราวด์’ สำเร็จ

หนึ่งในเป้าหมายของกลุ่มณรงค์เดชหลังจากเข้ามาซื้อกิจการไรมอน แลนด์เมื่อปี 2564 คือ การสร้างความสม่ำเสมอในการเก็บเกี่ยวรายได้ ทำให้มีการขยับกลยุทธ์หลายอย่างเพื่อหยุดขาดทุนและเริ่มทำกำไร (อ่านกลยุทธ์ดังกล่าวได้ที่นี่)

หลังจากมาปูพื้นบริษัทใหม่แล้ว กรณ์หวังว่าปี 2566 น่าจะเป็นปีแรกที่บริษัทเทิร์นอะราวด์ กลับมาทำกำไรได้สำเร็จ เนื่องจากจะมีการโอนต่อเนื่องของดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ และเทตต์ สาทร 12 คอนโดฯ หรูอีกแห่งหนึ่งก็จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์

TAIT Sathorn 12

รวมถึงตึกสำนักงาน One City Centre เพลินจิต ก็จะก่อสร้างเสร็จมกราคม 2566 ทำให้เริ่มเก็บรายได้ได้ ออฟฟิศนี้ปัจจุบันราคาเช่าพุ่งขึ้นมาถึง 1,500 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน และน่าจะทำรายได้คิดเป็น 10% ของพอร์ตรวมของไรมอน แลนด์

กรณ์กล่าวว่า เชื่อว่าตลาดระดับซูเปอร์ลักชัวรีกลับมาฟื้นตัวเต็มที่แล้ว จากช่วง Q3/65 ยอดขายของโครงการเทตต์ สาทร 12 ทำได้ดีเป็นเท่าตัวจากเป้าที่ตั้งไว้ รวมถึงกำลังซื้อต่างชาติก็ยังมี แม้คนจีนยังเดินทางมาไม่ได้ แต่สามารถปิดการขายผ่านระบบออนไลน์ได้ กำลังซื้อเศรษฐียุโรปก็ฟื้นตัวแล้ว และยังเริ่มเห็นสัญญาณดีจากตลาด ‘เพื่อนบ้าน’ เช่น เมียนมา กัมพูชา คนรุ่นใหม่นิยมเข้ามาซื้อคอนโดฯ เมืองไทย เป้าหมายการหันมาจับแต่ตลาดซูเปอร์ลักชัวรีเท่านั้นของ RML จึงมองว่าน่าจะเป็นทิศทางที่ไปได้สวย

]]>
1400915
“มหากิจศิริ” ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่นขึ้นคอนโดฯ “125 สาทร” วางเป้าดึงลูกค้าต่างชาติ 20-30% https://positioningmag.com/1388720 Tue, 14 Jun 2022 08:47:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1388720 ตระกูล “มหากิจศิริ” จับมือพันธมิตรญี่ปุ่น KRD และ TCC ขึ้นโครงการคอนโดฯ ลักชัวรี “125 สาทร” จับตลาดคนทำงานออฟฟิศและ Expat ต่างชาติ หวังยอดขาย 3,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ ด้านข้อพิพาทกับลูกบ้าน “THE MET” ยืนยัน EIA ผ่านการรับรองแล้ว แม้มีการร้องเรียนต่อเนื่องที่ศาลปกครองกลาง

“อุษณา มหากิจศิริ” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาโครงการ “125 สาทร” คอนโดมิเนียมหรูมูลค่าโครงการกว่า 8,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 3 ไร่ ริมถนนสาทร ติดกับสถานทูตสิงคโปร์ ระยะ 500 เมตรจากสถานี BTS ช่องนนทรี

โดยโครงการเป็นการร่วมทุนกับ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ (KRD) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือธุรกิจพลังงานรายใหญ่ของญี่ปุ่น และ บริษัท โทเร คอนสตรัคชั่น จำกัด (TCC) บริษัทด้านการก่อสร้างและอสังหาฯ จากญี่ปุ่นเช่นกัน การร่วมทุนครั้งนี้ TTA ถือหุ้น 60% บริษัท KRD ถือหุ้น 30% และ TCC ถือหุ้น 10%

(จากซ้าย) อุษณา มหากิจศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA และ โทชิฮิโระ อิเคะอุจิ ผู้จัดการแผนกพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (KRD)

125 สาทร เป็นคอนโดฯ ระดับลักชัวรีบนที่ดินหน้ากว้าง 97 เมตร ออกแบบแบ่งเป็น 2 อาคาร จำนวนห้องชุดรวม 755 ยูนิต ห้องชุดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 28.5 ตร.ม. ราคาเฉลี่ย 250,000 บาทต่อตร.ม. เริ่ม 5.9 ล้านบาทต่อยูนิต

อุษณากล่าวว่า ย่านสาทรถือเป็นย่านที่มีดีมานด์สูงแต่มีซัพพลายไม่มาก เนื่องจากเป็นแหล่งออฟฟิศ มีคนทำงานประจำในพื้นที่ทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 260,000 คน และในอนาคตจะมีเมกะโปรเจ็กต์ในย่านใกล้เคียงเกิดขึ้น เช่น วันแบงค็อก (หัวมุมแยกวิทยุ พระราม 4-สาทร), ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (หัวมุมแยกพระราม 4-สีลม) ซึ่งจะทำให้ความเจริญยิ่งมากขึ้น และมีความต้องการที่พักอาศัยสูงขึ้น

125 สาทร
ภาพตัวอย่างสระว่ายน้ำความยาว 50 เมตร

ขณะที่ราคาของ 125 สาทร บริษัทเชื่อว่าเป็นราคาแข่งขันได้ในคอนโดฯ ระดับเดียวกัน เนื่องจากราคาเริ่มต้นไม่ถึง 6 ล้านบาท ซึ่งหาได้ยากแล้วในย่านนี้

Positioning สำรวจคอนโดฯ ใกล้เคียงที่ยังอยู่ระหว่างขาย เช่น ศุภาลัย ไอคอน สาทร ราคาเริ่มที่ 9 ล้านบาท (ห้องชุดขนาด 42 ตร.ม.) เทตต์ 12 สาทร ราคาเริ่มที่ 9 ล้านบาท (ห้องชุดขนาด 40 ตร.ม.) อนิล สาทร 12 ราคาจะเริ่มที่ 11 ล้านบาท (ห้องชุดขนาด 45 ตร.ม.) เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร ราคาเริ่ม 12.9 ล้านบาท (ห้องชุดขนาด 50 ตร.ม.) เห็นได้ว่าการเลือกพัฒนาห้องชุดเริ่มต้นขนาดเล็ก ทำให้คนทำงานออฟฟิศมีโอกาสเอื้อมถึงคอนโดฯ ย่านสาทรได้มากขึ้น

 

เน้น Expat ญี่ปุ่น-ยุโรป

ภัทร์กร วงศ์สวรรค์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวต่อว่า พื้นที่สำนักงาน 1 ใน 4 ของกรุงเทพฯ อยู่ในย่านสาทร-สีลม ทำให้บริษัทตั้งใจดึงดูดเรียลดีมานด์กลุ่มคนทำงานออฟฟิศ

125 สาทร
ห้องตัวอย่างห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน

สำหรับกำลังซื้อต่างชาติจะเน้น Expat ที่เป็นเรียลดีมานด์มากกว่านักลงทุนจากต่างประเทศ คาดหวังว่าจะได้ยอดขายจากต่างชาติราว 20-30% โดยการมีพันธมิตรเป็นบริษัทญี่ปุ่นจะช่วยผลักดันตลาดได้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งเชื่อว่าจะเป็นกลุ่มยุโรป ทั้งจากออฟฟิศและสถานทูตที่รายล้อมสาทร

โครงการ 125 สาทรจะเริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการ 18-19 มิถุนายนนี้ ภัทร์กรกล่าวว่า บริษัทคาดหวังเป้ายอดขาย 3,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี และจะเริ่มการก่อสร้างปลายปี 2565 คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2569

 

ข้อพิพาทกับ THE MET ยังอยู่ในศาลปกครอง

โครงการ 125 สาทรนั้นยังมีประเด็นที่ต้องจับตา เนื่องจากที่ดินโครงการตั้งอยู่ด้านหน้าคอนโดมิเนียม THE MET คอนโดฯ สูง 66 ชั้น ที่สร้างเสร็จเมื่อปี 2552 พัฒนาโดย Hotel Properties Limited Group กลุ่มทุนสิงคโปร์ แต่เดิมที่ดินด้านหน้าคอนโดฯ มีแผนจะก่อสร้างเป็นโรงแรมและคาดว่าจะพัฒนาให้เป็นตึกเตี้ยที่ไม่บังวิวคอนโดฯ แต่สุดท้ายเจ้าของที่ดินไม่ไปต่อ และมีการซื้อขายเปลี่ยนมือมาสู่กลุ่มมหากิจศิริ

125 สาทร THE MET
125 สาทรจะขึ้นด้านหน้าตึก THE MET ทำให้เกิดข้อพิพาทขึ้น

แม้บริษัทจะออกแบบให้ 125 สาทรแยกออกเป็น 2 อาคาร เพื่อให้มีช่องวิว แดด สายลมผ่านตรงกลางได้ แต่ลูกบ้าน THE MET ยังมีความกังวลใจ ทำให้มีการคัดค้านตั้งแต่ในชั้นการรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่สุดท้าย EIA ก็ผ่านการรับรองแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2564

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าของร่วมโครงการ THE MET ได้รวมตัวแต่งตั้งทนายเพื่อยื่นฟ้องคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร (คชก. กทม.) รวมถึงหน่วยงานรัฐหลายแห่ง โดยยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อให้ตรวจสอบความโปร่งใสในการอนุมัติ EIA

ข้อแย้งของฝั่ง THE MET มองว่า รายงาน EIA ฉบับนี้มีการสำรวจความเห็นชุมชน 400 คนโดยรอบ และมีผู้ตอบแบบสอบถาม 60% ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการ 125 สาทร แต่รายงานกลับได้รับอนุมัติ ทำให้ยื่นฟ้องกับศาลปกครองกลางเพื่อขอตรวจสอบความโปร่งใส ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางได้รับคำฟ้องแล้ว (อ้างอิงที่มา: โพสต์ทูเดย์)

ด้านภัทร์กรตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงประเด็นนี้ว่า บริษัทได้ดำเนินการทำรายงาน EIA ตามขั้นตอน และพยายามออกแบบโครงการให้มีผลกระทบลูกบ้าน THE MET ให้น้อยที่สุด เชื่อมั่นว่าจะสามารถก่อสร้างได้ตามปกติเพราะโครงการทำตามกฎหมาย มีการเว้นระยะห่างระหว่างอาคาร มีทางเข้า-ออกที่เป็นกรรมสิทธิ์

]]>
1388720
“สถาพร เอสเตท” ขึ้นคอนโดฯ หรูเยื้อง “วัน แบงค็อก” เดินหน้ารีเฟรชแบรนด์ https://positioningmag.com/1384036 Thu, 05 May 2022 08:06:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1384036 บริษัทเก่าแก่หลังทำการ ‘รีเฟรช’ แบรนด์ “สถาพร เอสเตท” (SE) เดินหน้าเปิดคอนโดฯ หรู “เดอะ คราวน์ เรสซิเดนเซส” เยื้องกับโครงการ “วัน แบงค็อก” ชูจุดขายที่ดินฟรีโฮลด์ ใกล้สวน ราคาต่ำกว่า ด้านแผนระยะยาวหลังผ่านสถานการณ์โควิด-19 บริษัทปรับมาพัฒนาโครงการไซส์เล็ก เหมาะกับดีมานด์ที่ยังชะลอตัว

“สุนทร สถาพร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด (SE) เปิดเผยถึงแผนการเปิดตัวโครงการและเป้าหมายปี 2565 ของบริษัท วางเป้าเปิดทั้งหมด 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,306 ล้านบาท ได้แก่

  • ดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส คอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น จำนวน 183 ยูนิต ทำเลริม ถ.พระราม 4 เยื้องกับโครงการ “วัน แบงค็อก” ราคาเฉลี่ย 250,000 บาทต่อตร.ม. หรือ 6-20 ล้านบาทต่อยูนิต
  • ดิ อิเธอร์นิตี้ โกร์ฟ สายไหม – วัชรพล โครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว จำนวน 92 ยูนิต ทำเลห่างจากสถานีคูคต 2 กม. ราคาเริ่ม 5.9 ล้านบาท
  • ดิ อิเธอร์นิตี้ พระราม 9 – วงแหวน โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี จำนวน 70 ยูนิต ทำเลทางด่วนด่านทับช้าง ราคาเริ่ม 9 ล้านบาท

โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 2,400 ล้านบาท และเป้ารายได้ 1,280 ล้านบาท

สัดส่วนโครงการเปิดใหม่ปี 2565 แยกตามประเภทแนวราบกับแนวสูง

โครงการไฮไลต์ของปีนี้หนีไม่พ้น เดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส เพราะเป็นคอนโดฯ ไฮเอนด์กลางเมือง ซึ่งเป็นตลาดที่ซบเซามากว่า 2 ปี แต่สุนทรเลือกเปิดตัวปีนี้เพราะเชื่อว่าโครงการอยู่ในทำเลที่มีดีมานด์ เนื่องจากคอนโดฯ โดยรอบสวนลุมพินีส่วนใหญ่จะเปิดขายแบบลีสโฮลด์ (เช่าระยะยาว ไม่มีกรรมสิทธิ์) แต่โครงการของบริษัทเป็นฟรีโฮลด์ (มีกรรมสิทธิ์) ในขณะที่ตั้งราคาเพียง 250,000 บาทต่อตร.ม. ราคาถูกกว่าคอนโดฯ ฟรีโฮลด์บนเส้นพระราม 4 ช่วงคลองเตยจนถึงสามย่าน

เดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส เกาะทำเลเยื้องกับ “วัน แบงค็อก” หวังได้ดีมานด์จากพนักงานออฟฟิศในอนาคตที่จะเข้ามาในบริเวณนี้เพิ่มอีกหลักหมื่นคน

คอนโดฯ นี้จะเน้นเจาะกลุ่มคนไทยเป็นหลัก เพราะมองว่าตลาดนักลงทุนต่างชาติน่าจะยังไม่ฟื้นเร็วๆ นี้ เนื่องจากชาวจีนถูกสกัดกั้นการนำเงินออกนอกประเทศ โครงการเดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส จะเปิดขาย 28 มิ.ย. 65 และคาดว่าจะสร้างเสร็จราวปี 2568

 

รีเฟรชแบรนด์เพื่อเจาะ “ตลาดกลางถึงบน”

สถาพร เอสเตทนั้น แต่เดิมใช้ชื่อบริษัท เฉลิมนคร จำกัด สร้างโครงการหมู่บ้านภายใต้ชื่อ “บ้านสถาพร” เกาะทำเลย่านรังสิตจนถึงกรุงเทพฯ โซนตะวันออกมานานกว่า 25 ปี โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งใน กลุ่มธุรกิจทรัพย์สถาพร ซึ่งทำอุตสาหกรรมส่งออกสินค้าเกษตร เช่น มันสำปะหลัง ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง และให้บริการคลังสินค้า-ท่าเรือ

สถาพร เอสเตท
“สุนทร สถาพร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด (SE)

ต่อมาเมื่อปี 2561 สุนทร สถาพร ต้องการจะ “รีเฟรช” แบรนด์ด้านอสังหาฯ จึงจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็นบริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด (SE) ปรับเปลี่ยนโลโก้ ภาพลักษณ์บริษัทใหม่หมดจด เพื่อเข้าสู่ตลาดระดับกลางถึงบนเป็นหลัก และวางแผนระยะยาวเตรียมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หลังปรับแบรนด์ บริษัทเปิดตัวโครงการไปแล้ว 3 แห่ง มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดฯ เดอะ เชดด์ สาทร 1, อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล และดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวู้ด รังสิต-วงแหวน ทั้งหมดมียอดขายแล้วประมาณ 50% สำหรับโครงการเดอะ เชดด์ สาทร 1 เริ่มโอนกรรมสิทธิ์แล้วปีนี้

 

ดีมานด์ลด ต้องปรับไซส์ตาม

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 ทำให้แผนของบริษัทสะดุดไปบ้าง มีการเลื่อนการเปิดตัว และต้องปรับวิธีการทำโครงการ โดยลดขนาดโครงการให้เล็กลงดังที่เห็น จากเดิมเคยพัฒนาโครงการแนวราบใหญ่หลักร้อยไร่ เปลี่ยนมาเป็นโครงการขนาดเล็กหลักสิบไร่ เพราะดีมานด์ตลาดน่าจะยังชะลอตัว จากเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าจะโตไม่เกิน 3%

ดิ อิเธอร์นิตี้ โกร์ฟ สายไหม – วัชรพล

สุนทรยังกล่าวถึงอินไซต์ผู้บริโภคหลังเกิดโรคระบาดและปัจจัยสภาวะครอบครัวที่เปลี่ยนไป ทำให้มีหลายอย่างที่คนให้ความสำคัญมากขึ้น เช่น

  • ห้องทำงาน จากการ Work From Home หลายคนต้องการห้องทำงานที่บ้าน และหลายบ้านต้องมี 2 ห้อง เพราะทำงานทั้งสามีและภรรยา ทำให้การวางฟังก์ชันบ้านต้องยืดหยุ่นในการปรับให้เป็นห้องทำงานได้
  • ห้องเด็ก/ลูก จากเดิมจะมีหลายห้องในบ้าน เพราะคนมีลูก 2-3 คน ปัจจุบันอาจมีห้องเดียวก็เพียงพอแต่กั้นห้องขนาดใหญ่ เพราะครอบครัวมีลูกคนเดียวกันมากขึ้น
  • การระบายอากาศ โดยเฉพาะในคอนโดฯ กลายเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคใส่ใจ เพราะกังวลเรื่องโรคระบาด
  • งานดีไซน์และฟังก์ชัน ความหรูหราในปัจจุบันไม่ได้เน้นความรู้สึกฟุ่มเฟือย แต่ทุกตารางนิ้วต้องใช้งานได้จริง

ภาวะตลาดที่ดีขึ้นแล้วแต่ยังไม่กลับมาบูม และการปรับตัวหลังโควิด-19 ทำให้สุนทรคาดว่าบริษัทจะมีโอกาสเปิด IPO ได้อีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในปี 2568 ในระหว่างนี้บริษัทจะเปิดตัวอย่างสม่ำเสมอปีละ 3 โครงการ มูลค่าราว 3,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อสร้างพอร์ตเตรียมตัวสู่อนาคต

]]>
1384036
เปิดวิเคราะห์ ‘ราคาคอนโดฯ’ กลุ่ม Hi-End เเพงต่อเนื่อง เเม้เจอโควิด ทำเลรอบนอกร่วง 4-6% https://positioningmag.com/1328001 Fri, 16 Apr 2021 12:20:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1328001 เปิดวิเคราะห์ราคาคอนโดมิเนียมเมืองไทย ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ในปี 2564 ที่มีการระบาดระลอกใหม่ พบคอนโดฯ Hi-End ยังเเพงต่อเนื่อง ย่านใจกลางธุรกิจราคาลง 2% ส่วนทำเลรอบนอกราคาร่วงหนัก 4-6%

TMB Analytics ประเมินว่าปัจจัยเสี่ยงในการระบาดระลอกใหม่ จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เเละราคาคอนโดมิเนียม

จากการวิเคราะห์ข้อมูลผ่าน web scraping ราคาเสนอขายคอนโดฯ ในแต่ละพื้นที่กว่า 2,000 โครงการ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำเลที่ตั้งมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง จากเเต่เดิมที่คอนโดมิเนียมค่อนข้างกระจุกตัวในเขตย่านใจกลางธุรกิจ (Central Business District : CBD) และในเมือง ซึ่งถือเป็น ‘ทำเลทอง’ ของภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย

ต่อมาโครงการใหม่ ๆ เริ่มมีการขยายและกระจายตัวในพื้นที่ ‘วงแหวนรอบนอก’ (Outer Ring) มากขึ้น โดยราคาคอนโดฯ ในแต่ละพื้นที่มีการปรับตัวต่อสถานการณ์โรคระบาด ‘ในอัตราที่ต่างกัน’

กรุงเทพ สีลม สาทร ภาพมุมสูง
พื้นที่สีลม-สาทร

คอนโดฯ Mass ราคาลด – High-End ราคาปรับเพิ่ม

หากประเมินจากทำเลที่ตั้งพบว่า ช่วงก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ราคาคอนโดมิเนียมในพื้นที่เขตย่านใจกลางธุรกิจ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่เมื่อเกิดการระบาดทำให้ราคาปรับลดลง 2% และยังไม่เห็นการปรับขึ้นสู่ระดับก่อนหน้า ส่วนคอนโดมิเนียมพื้นที่ในเมืองที่อยู่นอก CBD ราคาลดลง 3.7% พื้นที่วงแหวนรอบนอกราคาลดลง 5.8%

โดยในช่วงปี 2561-2563 หากแบ่งกลุ่มคอนโดมิเนียมตามระดับราคาต่อตารางเมตรจะเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่ม Mass ที่มีราคาต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร
  • กลุ่ม Upper-End ราคาระหว่าง 100,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร
  • กลุ่ม High-End ราคาสูงกว่า 150,000 บาทต่อตารางเมตร

“คอนโดมิเนียมในกลุ่ม Mass มีราคาลดลงในทุกพื้นที่ ต่างจากกลุ่ม High-End ที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ สะท้อนถึงความต้องการและกำลังการซื้อที่มีอย่างต่อเนื่องของกลุ่มรายได้สูง เเละไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มากนัก” 

หากประเมินจากปัจจัยด้านอายุของคอนโดมิเนียม และความสะดวกในการเดินทาง พบว่า คอนโดมิเนียมที่อยู่ในรัศมีจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 1 กิโลเมตร และมีอายุไม่เกิน 5 ปี ราคามีการปรับลดลงในช่วงสถานการณ์ COVID-19 โดยในพื้นที่วงแหวนรอบนอกปรับลงกว่า 13%

ขณะที่ย่านใจกลางธุรกิจ และในเมืองราคาปรับลดลงราว 6% ส่วนราคาคอนโดมิเนียมในพื้นที่ย่านใจกลางธุรกิจที่มีรัศมีจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 1 กิโลเมตร แต่อายุเกิน 5 ปี มีแนวโน้มราคาคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ต่างจากคอนโดมิเนียมในพื้นที่ในเมืองและวงแหวนรอบนอก ที่อายุเกิน 5 ปี ดัชนีราคาจะปรับตัวลดลงถึง 8% และ 12% ตามลำดับ

ขณะที่คอนโดมิเนียมที่อยู่นอกรัศมีรถไฟฟ้าเกิน 1 กิโลเมตร ในพื้นที่ย่านใจกลางเมืองธุรกิจ ดัชนีราคาคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มเป็นทิศทางบวก

“หากมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียม ไม่ว่าเป็นรูปแบบการลงทุนเพื่อการอยู่อาศัยหรือการเก็งกำไรในระยะยาว คอนโดมิเนียมในเขตย่านใจกลางเมือง อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่ากว่าเขตในเมือง และวงแหวนรอบนอก” 

จากภาพรวมของดัชนีราคาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งระดับราคาต่อตารางเมตร อายุของคอนโดมิเนียม และความสะดวกในการเดินทาง สามารถสรุปได้ว่า ราคาคอนโดมิเนียมในพื้นที่ย่านใจกลางธุรกิจ จะค่อนข้างทรงตัว โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 มากนัก และมีแนวโน้มของดัชนีราคาในภาพรวมที่เป็นบวก

อย่างไรก็ตาม เเม้ในเขตพื้นที่ในเมือง และวงแหวนรอบนอก ราคาของคอนโดมิเนียมมีการปรับลดลงเป็นอย่างมากในช่วง COVID-19 แต่ก็มีทิศทางที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

 

 

]]>
1328001