Alibaba – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 24 Apr 2024 08:05:49 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘อาลีบาบา’ เตรียมทุ่ม 2.6 พันล้านลงทุนใน ‘Ably’ อีคอมเมิร์ซสายแฟชั่นของเกาหลีใต้ https://positioningmag.com/1470875 Wed, 24 Apr 2024 06:33:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470875 ตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกตอนนี้กำลังถูกยึดครองโดยจีนไปแล้ว เพราะมีผู้เล่นเบอร์ใหญ่หลายราย ไม่ว่าจะเป็นอาลีบาบา, TikTok และ Temu ที่กระจายตัวไปเป็นผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซในหลาย ๆ ประเทศ ล่าสุด อาลีบาบาก็เตรียมลงทุนในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้ เพื่อเปิดทางในการรุกตลาดเกาหลีใต้

ตามรายงานโดยหนังสือพิมพ์ The Korea Economic Daily เปิดเผยว่า อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง กําลังจับตามองการลงทุน ครั้งแรกในภาคอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ โดยกำลังเจรจาเพื่อลงทุน 72.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อหุ้น 5% ใน Ably Corp แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสินค้าแฟชั่นหญิงของเกาหลีใต้

โดยการลงทุนดังกล่าวหากประสบความสำเร็จ จะช่วยให้อาลีบาบาสามารถตั้งหลักในตลาดเกาหลีใต้ได้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ทั้ง AliExpress, Shein และ Temu กำลังแข่งขันกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ของเกาหลีใต้อย่าง Gmarket และ Coupang

นอกจากนี้ อาลีบาบากำลังเผชิญกับการแข่งขันในตลาดโลกจากแพลตฟอร์มเพื่อนร่วมชาติ ทั้ง Shein และ PDD Holdings’ Temu ซึ่ง Ably จะเข้ามาช่วยเสริมกับกลยุทธ์ของ AliExpress ที่เพิ่งเปิดตัวช่องทางสำหรับขายเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงโดยเฉพาะ

Ably ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 ปัจจุบัน แพลตฟอร์มมีมูลค่ามากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และเติบโตจนมีจำนวนผู้ใช้มากที่สุดในแพลตฟอร์มแฟชั่นออนไลน์ของเกาหลีใต้ โดยมีผู้ใช้กว่า 8.05 ล้านคน ในเดือนมีนาคม อีกทั้ง Ably ยังเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแฟชั่นเพียงรายเดียวที่ทํากําไรได้ในปีที่แล้ว

สำหรับข่าวการเจรจา AliExpress-Ably เกิดขึ้นหลายสัปดาห์หลังจากมีข่าวลือว่าอาลีบาบากําลังวางแผนการลงทุนประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์ในเกาหลีใต้ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยอาลีบาบาจะใช้เงิน 200 ล้านดอลลาร์ในปีนี้เพื่อสร้างศูนย์โลจิสติกส์และ 100 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางในการขายสินค้าของตนในต่างประเทศ นอกจากนี้ อาลีบาบาจะลงทุนอีก 72.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อปรับปรุงการคุ้มครองผู้บริโภค

ปัจจุบัน สินค้าจีนได้รับความสนใจจากนักช้อปชาวเกาหลีใต้ โดยปีที่แล้วการบริโภคออนไลน์เพิ่มขึ้น 121% เป็น 3.3 ล้านล้านวอนจากปีก่อนหน้า ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการซื้อ e-commerce ในต่างประเทศทั้งหมดของประเทศ

Source

]]>
1470875
Jack Ma สนับสนุนแผนปรับโครงสร้างองค์กร มองว่า AI ยังเป็นยุคเริ่มต้น แนะพนักงาน Alibaba เปิดใจรับความเปลี่ยนแปลง https://positioningmag.com/1469760 Wed, 10 Apr 2024 09:46:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469760 แจ็ก หม่า (Jack Ma) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Alibaba คนสำคัญ ได้ส่งข้อความภายในบริษัทให้กับพนักงาน ในช่วงการจัดการเสวนาภายในบริษัท โดยเขาสนับสนุนในเรื่องการปรับโครงสร้างองค์กร และชี้ว่าประสิทธิภาพต้องมาก่อน นอกจากนี้เขายังมองว่าการเข้ามาของ AI ยังเป็นยุคเริ่มต้น

Jack Ma หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Alibaba คนสำคัญ ได้ส่งข้อความภายในบริษัทให้กับพนักงาน ในช่วงการจัดการเสวนาภายในบริษัท โดยจดหมายดังกล่าวนั้นจุดประสงค์นั้นเพื่อที่จะเสริมสร้างกำลังใจในหมู่พนักงาน นอกจากนี้ในจดหมายดังกล่าวยังสนับสนุนในแผนการปรับโครงสร้างองค์กร โดยชี้เรื่องของประสิทธิภาพ

การจัดการเสวนาภายในบริษัทของ Alibaba เกิดขึ้นหลังจากบริษัทประกาศแยกธุรกิจออกมาเป็น 6 หน่วยธุรกิจ ซึ่งระยะเวลานั้นครบรอบ 1 ปี

สำหรับแผนในการปรับโครงสร้างองค์กรนั้น Jack Ma ได้ชี้ว่า “เราเปลี่ยนบริษัทจากองค์กรที่ยุ่งยากให้กลายเป็นองค์กรที่เรียบง่ายและคล่องตัว โดยที่ประสิทธิภาพต้องมาก่อน” และมองว่าบริษัทได้แก้ปัญหาขององค์กรได้

เขายังกล่าวเสริมว่าบริษัทได้ทำผิดพลาดมาตลอด 25 ปี และจะมีความผิดพลาดอีก 77 ปี ภายในระยะเวลา 300 ปี แต่เขายังได้แนะนำพนักงานของ Alibaba ว่าการเผชิญปัญหาไม่ใช่การปฏิเสธอดีต แต่เพื่อค้นหาหนทางที่รับผิดชอบต่ออนาคต

ขณะเดียวกันการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) นั้น Jack Ma มองว่าจะทำให้อุตสาหกรรม E-commerce ในปัจจุบันเกิดความพลิกผัน แต่เขาเองมองว่าการเข้ามาของ AI ยังอยู่ในยุคเริ่มต้นเท่านั้น เปรียบได้กับยุค Internet ช่วงแรกๆ

ในปี 2019 นั้น Jack Ma ได้ประกาศวางมือจาก Alibaba อย่างไรก็ดีในช่วงปลายปี 2020 เขาได้กล่าวพาดพิงถึงหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีน จนเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาปราบปรามธุรกิจเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน มหาเศรษฐีรายนี้ได้เก็บตัวเงียบและพยายามทำตัวไม่เป็นข่าวมากนัก

ซึ่งผลกระทบจากการเข้ามาปราบปรามธุรกิจเทคโนโลยีของรัฐบาลจีนได้ทำให้มูลค่าบริษัทเทคโนโลยีในจีนหายไปอย่างมาก ซึ่งรวมถึง Alibaba ด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงบริษัทยังโดนค่าปรับจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีนในกรณีที่บริษัทมีพฤติกรรมผูกขาดตลาด รวมถึงคดีความล่าสุดกับ JD.com นั้นก็ต้องจ่ายค่าปรับให้อีกฝ่ายด้วย

โดยในช่วงที่ผ่านมา Jack Ma ได้ตระเวนไปรอบโลกเพื่อที่จะศึกษาในเรื่องการเกษตร หรือแม้แต่พูดคุยกับนักธุรกิจตามประเทศต่างๆ รวมถึงล่าสุดได้มีการเปิดธุรกิจที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและขายปลีกสินค้าทางการเกษตร ซึ่งเขาเองพยายามทำตัวไม่เป็นข่าวมากนัก

ก่อนในท้ายที่สุดเขาจะได้ออกมาส่งข้อความให้กับพนักงาน Alibaba ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆ นัก ภายใต้สภาวะความท้าทายที่เกิดขึ้นของบริษัทในช่วงเวลานี้

ที่มา – South China Morning Post, Reuters

]]>
1469760
Alibaba กำลังพิจารณาขาย InTime ธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่ซื้อมาในปี 2017 และอาจเป็นการส่งสัญญาณปิดฉากกลยุทธ์ New Retail https://positioningmag.com/1461096 Thu, 01 Feb 2024 09:21:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1461096 อาลีบาบา (Alibaba) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของประเทศจีน กำลังพิจารณาตัดสินใจขาย InTime ธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่บริษัทได้ซื้อมาในปี 2017 และยังเป็นการส่งสัญญาณปิดฉากกลยุทธ์ New Retail หลังจากที่บริษัทได้รุกหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Alibaba บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของประเทศจีน อาจตัดสินใจขาย InTime ธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่บริษัทได้ซื้อมาในปี 2017 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวตามมาจากการปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัท

สื่อรายดังกล่าวได้รายงานว่า Alibaba ได้ติดต่อสถาบันการเงิน 2-3 แห่ง เพื่อจะหาผู้ที่สนใจซื้อกิจการ InTime และมีผู้สนใจรายหนึ่งเริ่มพูดคุยกับทางบริษัทเทคโนโลยีรายดังกล่าวแล้วเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยบริษัทได้พูดคุยถึงแผนการในการขายห้างสรรพสินค้าดังกล่าวมาสักพักแล้ว

Alibaba ได้ซื้อห้างสรรพสินค้า InTime ในปี 2017 ด้วยมูลค่ามากถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตัวเลขล่าสุดจากเว็บไซต์ของบริษัทนั้นห้างสรรพสินค้ารายดังกล่าวมีสาขามากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศจีน

และในปี 2020 หลังจากมีการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศจีน หนึ่งในผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศจีนรายนี้ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยหันมาไลฟ์ขายสินค้าจนสามารถฟื้นยอดขายกลับมา หลังจากห้างต้องปิดตัวนานหลายสัปดาห์จากมาตรการล็อกดาวน์

In time Lotte department store in Beijing at night. (Photo by: Education Images/Universal Images Group via Getty Images)

การตัดสินใจขายห้างสรรพสินค้า InTime ยังอยู่ในแผนการของบริษัทในช่วงการปรับโครงสร้างที่มีการแยกธุรกิจของ Alibaba ออกมาเป็น 6 ธุรกิจหลักด้วยกัน และบริษัทต้องการที่จะโฟกัสไปยังธุรกิจหลักนั่นก็คือธุรกิจ E-commerce และธุรกิจ Cloud

นอกจากนี้การปรับโครงสร้างบริษัทและการพิจารณาในการขายห้างสรรพสินค้า InTime ยังแสดงให้เห็นถึงจุดจบของกลยุทธ์ New Retail ซึ่ง Alibaba ชูจุดเด่นมาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการค้าปลีกในการเชื่อมโลกออนไลน์เข้าสู่ออฟไลน์

ไม่เพียงแค่ห้างสรรพสินค้า InTime เท่านั้น Alibaba ได้ซื้อหรือแม้แต่ลงทุนใน Sun Art Retail หรือ เหอหม่า (Hema) ซึ่งเป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างซูหนิง (Suning) ด้วย ซึ่งกลยุทธ์ New Retail ในเวลานั้นเป็นโมเดลที่ทำให้คู่แข่งต้องลอกเลียนแบบมาแล้ว

แต่กลยุทธ์ดังกล่าวกลับส่งผลลัพธ์ที่ไม่ดีกับบริษัทในท้ายที่สุด เนื่องจากการเข้ามาปราบปรามและกำกับดูแลบริษัทเทคโนโลยี ทำให้กลยุทธ์ New Retail เป็นเหมือนการผูกขาดธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเวลาต่อมาผู้บริหาร Alibaba ได้พูดถึงกลยุทธ์ดังกล่าวลดลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดีในการขายกิจการ InTime ถือว่ามีความท้าทายไม่น้อย และอาจมีความเสี่ยงที่ Alibaba อาจไม่ได้เม็ดเงินมากเท่าที่ควร เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจจีนที่กำลังฟื้นตัว นอกจากนี้ยังรวมถึงปัญหาด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคซึ่งส่งผลทำให้การจับจ่ายใช้สอยที่ลดลง ซึ่งส่งผลต่อมูลค่ากิจการห้างสรรพสินค้าด้วย

]]>
1461096
Alibaba แพ้คดีต่อ JD.com หลังบังคับร้านค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเดียว ผูกขาดตลาด E-commerce https://positioningmag.com/1457488 Fri, 29 Dec 2023 13:08:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457488 JD.com ได้ประกาศว่าบริษัทชนะคดีและได้เงินมากถึง 1,000 ล้านหยวน หลังจากบริษัทฟ้องร้องยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba บังคับร้านค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเดียว ถือเป็นพฤติกรรมผูกขาดตลาด E-commerce ในประเทศจีน

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า ศาลประชาชนชั้นสูงในกรุงปักกิ่ง (Beijing High People’s Court) ได้ตัดสินคดีความระหว่าง 2 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ในคดีที่ JD.com ได้ฟ้องว่า Alibaba ผูกขาดธุรกิจ E-commerce หลังบังคับให้ร้านค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น

ทางด้าน Weibo ของ JD.com ได้แจ้งว่าบริษัทชนะคดีความดังกล่าว โดยบริษัทได้กล่าวว่าผลการตัดสินเป็นสิ่งที่ดีต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศจีน และ JD.com ได้ต่อต้านพฤติกรรม “เลือกแพลตฟอร์มเจ้าใดเจ้าหนึ่ง” เพื่อที่จะทำให้เกิดการแข่งขันได้

นอกจากนี้ JD.com จะได้เงินจากการฟ้องร้องคดีความดังกล่าวเป็นเงิน 1,000 ล้านหยวนด้วย หรือคิดเป็นเงินไทย 4,957 ล้านบาท

สำหรับการ “เลือกแพลตฟอร์มเจ้าใดเจ้าหนึ่ง” หรือในภาษาจีน “เลือก 1 จาก 2” เป็นการบังคับให้เจ้าของร้านค้าต่างๆ สามารถลงสินค้าผ่านแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้น เช่น ถ้าหากร้านค้าเลือกแพลตฟอร์ม TMall ของ Alibaba ไปแล้ว ก็จะไม่สามารถลงสินค้าผ่าน E-commerce คู่แข่งรายอื่นได้

Alibaba ได้โดนหน่วยงานกำกับดูแลของจีนปรับเงินมาแล้วในการผูกขาดแพลตฟอร์มในช่วงปี 2021 ซึ่งค่าปรับดังกล่าวสูงมากถึง 18,000 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยมากถึง 86,400 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของรายได้บริษัทในช่วงเวลาดังกล่าว

คดีความดังกล่าว JD.com ยื่นฟ้องต่อศาลประชาชนชั้นสูงในกรุงปักกิ่งตั้งแต่ปี 2017 และใช้เวลาในการพิจารณาข้อกล่าวหาดังกล่าวหลายปี ก่อนในท้ายที่สุดผลการตัดสินจะออกมาในวันนี้ โดยทางตัวแทนของ Alibaba ได้กล่าวว่าน้อมรับคำตัดสินของศาล

]]>
1457488
Alibaba อัดฉีดเงินเข้า Lazada อีกราว ๆ 22,100 ล้านบาท สู้ศึก E-commerce ในอาเซียนต่อ https://positioningmag.com/1455938 Fri, 15 Dec 2023 14:07:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1455938 อาลีบาบา ยังอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ ลาซาด้า อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการอัดฉีดเม็ดเงินมากถึง 634 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 22,1000 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีนั้นมีการอัดฉีดเงินไปแล้วมากกว่า 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าไปแล้ว แสดงให้เห็นถึงศึก E-commerce ในอาเซียนยังคงดุเดือด

Alibaba ได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ Lazada อีก 634 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราว ๆ 22,100 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทได้ยื่นเอกสารให้กับหน่วยงานในประเทศสิงคโปร์ เป็นการส่งสัญญาณว่าตลาด E-commerce ในอาเซียนยังคงร้อนแรง และผู้เล่นรายต่าง ๆ ต้องการชิงส่วนแบ่งให้ได้มากที่สุด

การอัดฉีดเม็ดเงินครั้งสุดท้ายนั้นเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดย Alibaba ได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปใน Lazada มากถึง 845 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 29,000 ล้านบาท

ในช่วงที่ผ่านมาตลาด E-commerce ในอาเซียนนั้นมีผู้เล่นเข้ามาแข่งขันเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น Temu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มลูกของ Pinduoduo ที่เริ่มรุกตลาดฟิลิปปินส์เป็นแห่งแรก และมาเลเซียเป็นประเทศต่อมา

ไม่เว้นแม้แต่ TikTok เองที่เร่งขยายแพลตฟอร์มอย่างหนัก โดยล่าสุดได้ลงทุนมากถึง 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจ E-commerce ของ GoTo หลังจากที่ TikTok Shop โดนรัฐบาลอินโดนีเซียออกมาตรการป้องกันไม่ให้เจ้าของแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมให้บริการด้าน E-commerce โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องบรรดาผู้ประกอบการในประเทศ

การอัดฉีดเม็ดเงินดังกล่าวเข้าสู่ Lazada นั้นจะทำให้ทั้งปี 2023 นั้น Alibaba อัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปแล้วมากกว่า 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยคือมากกว่า 63,000 ล้านบาทไปแล้ว โดยยักษ์ใหญ่จากจีนได้อัดฉีดเงินบ่อยมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา

นอกจากนี้การอัดฉีดเงินเข้าสู่ Lazada เอง ยังส่งสัญญาณว่า Alibaba เองยังต้องการที่จะสู้ศึก E-commerce ในอาเซียนต่อไป แม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้นก็ตาม เพราะไม่งั้นแล้วการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปนั้นอาจทำให้แม้จะประหยัดเงินไปในระยะสั้น แต่ระยะยาวอาจสร้างผลเสียมากกว่า และคู่แข่งเองก็พร้อมที่จะสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเสมอ

ที่มา – Nikkei Asia, Kr-Asia, Panda Daily

]]>
1455938
Jack Ma กลับมาแล้ว ล่าสุดจดทะเบียนบริษัทใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายอาหาร ขายปลีกสินค้าทางการเกษตร https://positioningmag.com/1453416 Mon, 27 Nov 2023 05:20:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1453416 มหาเศรษฐีชาวจีนผู้ก่อตั้ง Alibaba อย่าง แจ็ค หม่า ล่าสุดได้มีการจดทะเบียนธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายอาหาร ขายปลีกสินค้าทางการเกษตร ซึ่งส่งสัญญาณถึงการหันไปทำธุรกิจด้านอื่นของมหาเศรษฐีรายนี้ หลังวางมือจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในแดนมังกรเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา

แจ็ค หม่า (Jack Ma) ผู้ก่อตั้ง Alibaba กลับมาอีกครั้งหลังจากที่เก็บตัวเป็นระยะเวลายาวนาน ล่าสุดเจ้าตัวได้จดทะเบียนบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งเป็นธุรกิจล่าสุดหลังจากการวางมือในการเป็นผู้บริหาร Alibaba ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนนับตั้งแต่ปี 2019

ข้อมูลจากหน่วยงานด้านธุรกิจในประเทศจีน ชื่อที่ Jack Ma ได้จดทะเบียนคือ Hangzhou Ma’s Kitchen Food (แปลมาจากภาษาจีน) ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านหยวน ซึ่งมีผู้ถือหุ้นคือบริษัทลงทุนของ Jack Ma ในชื่อ Hangzhou Dajingtou

ธุรกิจของ Ma’s Kitchen Food ตามที่มีการจดทะเบียนคือการขายอาหารสำเร็จรูปและการแปรรูปอาหารเบื้องต้นรวมถึงการขายปลีกสินค้าทางการเกษตร

ความสนใจของ Jack Ma ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ในการไปเยือนต่างประเทศตัวของเขาได้มีการแวะเวียนเพื่อเยี่ยมชมเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรในประเทศสเปน หรือห้องแล็บที่ทดลองด้านการเกษตรที่เนเธอร์แลนด์

หรือแม้แต่ในช่วงที่เขาอยู่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เขาก็ได้แวะเวียนไปดูการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร รวมถึงฟาร์มปลาทูน่า

นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 เป็นต้นมา หลังเหตุการณ์ที่เขาได้กล่าวพาดพิงถึงหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีน จนเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาปราบปรามธุรกิจเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน มหาเศรษฐีรายนี้ได้เก็บตัวเงียบและพยายามทำตัวไม่เป็นข่าวมากนัก

การจดทะเบียนธุรกิจดังกล่าวถือว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงการหันไปทำธุรกิจด้านอื่นของมหาเศรษฐีรายนี้ ซึ่งตัวเขาเองนั้นมีความจริงจังไม่น้อยกับด้านธุรกิจการเกษตร รวมถึงด้านอาหาร

ที่มา – South China Morning Post, Business Insider

]]>
1453416
Alibaba ปรับแผนธุรกิจ และทีมผู้บริหารอีกรอบ หลังยกเลิกแผนนำธุรกิจ Cloud เข้า IPO ในตลาดหุ้น https://positioningmag.com/1453369 Sun, 26 Nov 2023 08:48:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1453369 Alibaba ได้ปรับทีมผู้บริหารใหม่อีกครั้ง หลังยกเลิกแผนนำธุรกิจ Cloud เข้า IPO ในตลาดหุ้น โดยให้สาเหตุว่าเกิดจากมาตรการแบนการส่งออกชิปของสหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้มูลค่าบริษัทลดลงไปถึงหลักหมื่นล้านเหรียญสหรัฐทันที

CNBC รายงานข่าวว่า Alibaba เริ่มปรับโครงสร้างภายในบริษัทอีกครั้ง ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ Alibaba ได้ประกาศยกเลิกนำธุรกิจ Cloud เข้า IPO โดยบริษัทได้ให้เหตุผลถึงมาตรการแบนการส่งออกชิปของสหรัฐอเมริกา ผลที่เกิดขึ้นทำให้ราคาหุ้นของ Alibaba ลดลงทันที รวมถึงทำให้มูลค่าบริษัทหายไปในระดับหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

แหล่งข่าวของ CNBC รายงานว่าสำหรับการปรับโครงสร้างดังกล่าว Alibaba ได้ตั้งทีมผู้บริหารชุดใหม่ที่ดูแลแผนกต่างๆ ของธุรกิจ Cloud ยกชุด ไม่ว่าจะเป็น Weiguang Liu ดูแลแผนกคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) ขณะที่ Jin Li ดูแลแผนกไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud)

ผู้บริหารทั้ง 2 รายข้างต้นจะขึ้นตรงกับ Eddie Wu ซึ่งเป็น CEO ของ Alibaba ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ขณะที่ Jiangwei Jiang จะดูแลแผนกโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ (Cloud Infrastructure) จะขึ้นตรงกับ Jingren Zhou ซึ่งเป็น CTO ของธุรกิจ Cloud ของ Alibaba

ก่อนหน้านี้แผนการของ Alibaba คือการแยกธุรกิจออกมาเป็น 6 หน่วยธุรกิจ โดยให้เหตุผลสำคัญคือการปลดล็อกมูลค่าบริษัทให้กับผู้ถือหุ้น เพิ่มเรื่องของการกำกับดูแลองค์กรที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังรวมถึงส่งเสริมให้แต่ละธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้ ซึ่งธุรกิจ Cloud ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการเช่นกัน

ในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจ Cloud ของ Alibaba เองก็ได้รับแรงกดดันจากทั้งคู่แข่งหลายรายจากบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Tencent หรือแม้แต่ Baidu ขณะเดียวกันก็ยังต้องพบกับแรงกดดันจากคู่แข่งรายสำคัญคือ Huawei ยักษ์ใหญ่อีกรายที่กำลังรุกตลาดอย่างหนักเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา CEO ของ Alibaba ยังได้ประกาศถึงแผนการของธุรกิจ Cloud จะรุกในส่วน Public Cloud ที่เน้นให้บริการกับภาคธุรกิจมากกว่าการเน้นหาลูกค้าในฝั่งของหน่วยงานของรัฐบาลจีน ขณะเดียวกันเขาก็มองถึงการผลักดันเทคโนโลยี AI ซึ่งจะทำให้มีการประมวลผลผ่านระบบ Cloud ของบริษัทเพิ่มขึ้น

]]>
1453369
แคมเปญ 11.11 ใน ‘จีน’ เริ่มหมดมนต์ขลัง หลังนักช้อปมอง ‘ราคา’ ไม่ต่างจากปกติ https://positioningmag.com/1451477 Mon, 13 Nov 2023 02:43:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451477 เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือบ้างในวันที่ 11.11 ที่ผ่านมา เพราะถือเป็นวันที่เหล่านักช้อปน่าจะรู้ดีว่าเป็นวันที่เหล่าอีคอมเมิร์ซจัดแคมเปญใหญ่แห่งปี อย่างไรก็ตาม ต้นกำเนิด วันคนโสด อย่าง จีน จะไม่ปังเหมือนที่ผ่านมา เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

แคมเปญ 11.11 หรือ วันคนโสด ที่จะโดย อาลีบาบา อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน ที่ริเริ่มแคมเปญดังกล่าวในปี 2552 โดยในปีที่ผ่านมา แคมเปญ 11.11 ของอาลีบาบาทำเงินไปกว่า 1.1 ล้านล้านหยวน หรือราว 1.53 แสนล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Bain บริษัทที่ปรึกษา

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของ Bain ในปีนี้พบว่า มีผู้บริโภคถึง 77% ระบุว่า พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะใช้จ่ายมากกว่าปกติในช่วงงานลดราคา นอกจากนี้ หลายคนมองว่า ดีล 11.11 ในปีนี้ไม่ดีเหมือนในอดีต และบางเว็บไซต์ก็ ขึ้นราคาไว้ล่วงหน้าเพียงเพื่อลดราคา ในช่วงแคมเปญ

“ราคามันไม่แตกต่างกันมากนักเมื่อเทียบกับวันอื่นๆ ฉันก็เลยไม่ได้ซื้ออะไร เราจะประหยัดได้นิดหน่อยเพราะว่าเราหาเงินได้น้อยลง” กวน หย่งห่าว ผู้บริโภควัย 21 ปี กล่าว

“ทุกวันนี้ ผู้คนบริโภคน้อยลง ผู้คนไม่มีความปรารถนาที่จะซื้อของมากมายมากนัก โดยคนรอบข้างหลายคนเลือกซื้อแต่ของจำเป็นในชีวิตประจำวันแทน” จาง ชูเหวิน นักศึกษาวัย 23 ปี กล่าว

Jacob Cooke ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ WPIC Marketing + Technologies บริษัทที่ปรึกษาอีคอมเมิร์ซในกรุงปักกิ่ง บอกกับ AFP ว่า วันคนโสดสูญเสียความน่าดึงดูดไปแล้ว เนื่องจากมีรูปแบบการช้อปปิ้งใหม่ ๆ เช่น Live Streaming รวมถึงการ แคมเปญย่อย ๆ ที่มีทุกเดือน นอกจากนี้ ในอดีตแคมเปญ 11.11 จะมีเพียง 1-2 วัน แต่ในปีนี้ บางแพลตฟอร์มใแคมเปญตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม

ทั้งนี้ อาลีบาบา และ JD.com ต่างไม่เปิดเผยยอดขายในช่วงแคมเปญ 11.11 โดยระบุเพียงว่า ยอดขายกลับทรงตัวจากปีก่อน โดยยอดขายที่ชะลอตัวเกิดขึ้นหลังจากที่ทางการจีนประกาศว่า จีนกลับเข้าสู่ภาวะเงินฝืดในเดือนตุลาคม

Source

]]>
1451477
CEO ของ Alibaba เผยทิศทางบริษัทในอนาคต เน้นเปิดกว้างเรื่องเทคโนโลยี AI ให้กับสังคมจีน https://positioningmag.com/1451465 Sun, 12 Nov 2023 10:39:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451465 Eddie Wu ซึ่งเป็น CEO ของ Alibaba ได้เผยทิศทางของบริษัทในงาน World Internet Conference Summit 2023 ที่จัดขึ้นในเมืองอูเจิ้น ว่าทิศทางในบริษัทในอนาคตจะกลายเป็นบริษัทแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบเปิดที่ให้บริการนวัตกรรม AI แก่สังคมทั้งหมด

Securities Times สื่อธุรกิจในประเทศจีน รายงานข่าวว่า Eddie Wu ซึ่งเป็น CEO ของ Alibaba ได้เปิดเผยในงาน World Internet Conference Summit 2023 ที่จัดขึ้นในเมืองอูเจิ้น ว่าทิศทางในบริษัทในอนาคตจะกลายเป็นบริษัทแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบเปิดที่ให้บริการนวัตกรรม AI แก่สังคมทั้งหมด

เขาได้กล่าวว่าเมื่อเผชิญกับยุค AI นั้นทาง Alibaba จะกลายเป็นบริษัทแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบเปิดที่ให้บริการนวัตกรรมด้าน AI แก่ทั้งสังคม โดยการนำเสนอทิศทางของบริษัทนั้นเขาชี้ว่าสะท้อนถึงความคาดหวังของประเทศและความต้องการของสังคมทั้งหมด

สื่อธุรกิจของจีนรายดังกล่าวชี้ว่า CEO รายนี้ได้ออกงานสำคัญนับตั้งแต่การขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่ของ Alibaba เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และยังเป็นครั้งแรกที่บริษัทเทคโนโลยีจีนได้นำเสนอทิศทางขององค์กรว่าจะปรับตัวเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีอย่างชัดเจน

CEO ของ Alibaba รายนี้ยังได้กล่าวว่ายุคแห่งความฉลาดเพิ่งเริ่มต้นขึ้น และการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เขายังชี้ว่าทุกสิ่งเป็นไปได้ และมีโอกาสในการพัฒนามากมาย เขายังวิเคราะห์ว่าการประมวลผล AI มีความฉลาดในการเข้าใจภาษามนุษย์รวมถึงตรรกะต่างๆ รวมถึงสามารถเข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้โดยตรง

เพื่อที่จะให้บริการแก่องค์กรต่างๆ รวมถึงนักพัฒนา AI มากขึ้น Alibaba ได้ประกาศว่าจะให้บริการระบบบ AI ที่เสถียรและมีประสิทธิภาพ ผ่าน Cloud ของบริษัท ขณะเดียวกันบริษัทก็จะสร้างระบบนิเวศ AI ที่เปิดกว้าง เพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม

การประกาศทิศทางบริษัทของ Alibaba ครั้งนี้ถือว่าเป็นทิศทางสำคัญต่อเนื่องหลังจากบริษัทได้ประกาศแยกธุรกิจออกมาเป็น 6 หน่วยธุรกิจด้วยกัน

Eddie Wu เองถือเป็น 1 ในผู้ก่อตั้งที่มีความสำคัญกับบริษัทในช่วงที่ผ่านมา เขาเป็นประธานดูแลธุรกิจ E-commerce ในประเทศจีนอย่าง TMall และ Taobao และเขาเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ไม่ว่าจะเป็น Taobao หรือแม้แต่ Alipay และยังช่วยออกแบบเทคโนโลยีของแพลตฟอร์มต่างๆ ของบริษัทมาแล้ว

]]>
1451465
แก้ปัญหาวัยรุ่นตกงานในจีน Alibaba และ Tencent เริ่มกลับมารับเด็กจบใหม่เข้าทำงานแล้ว https://positioningmag.com/1441632 Sat, 19 Aug 2023 10:23:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1441632 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนอย่าง Alibaba และ Tencent เริ่มกลับมารับเด็กจบใหม่เข้าทำงานแล้ว โดยคาดว่าการประกาศรับสมัครงานวัยรุ่นจบใหม่เหล่านี้จะแก้ปัญหาการว่างงานของวัยรุ่นที่สูงมากในตอนนี้ได้ หลังจากตัวเลขอัตราว่างงานในจีนในเดือนก่อนหน้านี้สูงถึง 21.3%

South China Morning Post รายงานข่าวว่า Alibaba และ Tencent บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และถือเป็นหน้าเป็นตาของบริษัทเอกชนจีน ได้ประกาศรับสมัครงานกับนักศึกษาจบใหม่แล้ว โดยการประกาศรับสมัครงานเด็กจบใหม่จากบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นการส่งสัญญาณหลายประการต่อเศรษฐกิจจีนไม่น้อย

ทาง Alibaba ได้ประกาศรับสมัครงานกับนักศึกษาจบใหม่มากถึง 2,000 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งที่เปิดรับนั้นเช่น วิศวกรรม หรือวิศวกรรมด้านข้อมูล ซึ่งตำแหน่งงานดังกล่าวจะทำงานในสำนักงานที่เมืองหางโจว

ขณะที่ทาง Tencent ได้ประกาศว่าจะรับสมัครงานกับนักศึกษาจบใหม่จำนวนมาก ทั้งสำนักงานของบริษัทในประเทศและสำนักงานในต่างประเทศ ซึ่งตำแหน่งงานจะเน้นไปยังด้าน AI ด้าน Cloud Computing ด้านหุ่นยนต์ หรือแม้แต่ด้าน IoT ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม แต่บริษัทไม่ได้กล่าวว่าจะรับพนักงานจำนวนเท่าไหร่

ไม่ใช่แค่ 2 บริษัทเท่านั้น Meituan ยักษ์ใหญ่บริการส่งอาหารในจีน ได้ประกาศรับรับสมัครงานกับนักศึกษาจบใหม่จำนวนมากถึง 5,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ Alibaba ได้ปรับลดพนักงานลงมากถึง 6,541 ตำแหน่งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาบริษัทมีพนักงานทั้งสิ้น 228,675 ราย ขณะที่ Tencent ได้ปรับลดพนักงานจำนวน 6,200 คนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้เมื่อสิ้นไตรมาส 2 นั้นมีจำนวนพนักงาน 104,500 คน

ปัจจุบันเด็กวัยรุ่นอายุ 16-24 ปีว่างงานนั้นมีอัตราสูงเกิน 20% ไปแล้วด้วยซ้ำ จนทำให้ล่าสุดไม่กี่วันที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศว่าจะไม่รายงานตัวเลขดังกล่าวแล้ว

บริษัทเทคโนโลยีจีนในช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น Alibaba และ Tencent รวมถึงบริษัทรายอื่น ได้ถูกรัฐบาลเข้ามาปราบปรามอย่างหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการสั่งปรับเงินเป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่เข้ามาจัดการในเรื่องการผูกขาดด้านแพลตฟอร์ม

นอกจากนี้รัฐบาลจีนเองยังได้นำนโยบาย “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” มาใช้กับหลายอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมที่โดนใช้มาตรการนี้ด้วยก็คือกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี คาดว่ารัฐบาลกำลังเร่งหาวิธีการในการแก้ปัญหาดังกล่าวผ่านการขอร้องให้บริษัทเหล่านี้ช่วยเหลือในการแก้ปัญหานี้ด้วย

คาดว่าในปี 2023 จะมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยประมาณ 11.5 ล้านคน จบการศึกษา ซึ่งถ้าหากรัฐบาลจีนไม่ทำอะไรเลยนั้นอาจทำให้อัตราการว่างงานของวัยรุ่นจีนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมได้ และการประกาศรับสมัครเด็กจบใหม่ของ Alibaba และ Tencent อาจสร้างความมั่นใจให้บริษัทอื่นๆ กลับมารับสมัครเด็กจบใหม่เข้าทำงานได้ด้วย

]]>
1441632