CHANEL – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 23 May 2024 12:29:13 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Chanel เตรียมขยายสาขาในประเทศจีนเพิ่ม สวนทางแบรนด์คู่แข่ง ผู้บริหารชี้วัยรุ่นจีนยังสนใจสินค้าหรู https://positioningmag.com/1474669 Thu, 23 May 2024 01:58:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1474669 ชาแนล (Chanel) แบรนด์หรูจากประเทศฝรั่งเศส ได้ประกาศเตรียมขยายสาขาเพิ่มในประเทศจีน แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจแดนมังกรจะยังฟื้นตัวไม่เป็นใจก็ตาม โดยผู้บริหารของแบรนด์ได้กล่าวว่าจีนยังเป็นตลาดสำคัญของบริษัท

Leena Nair ผู้บริหารสูงสุดของ Chanel ได้กล่าวว่า เธอได้เดินทางไปยังประเทศจีนและพบว่าวัยรุ่นจีนนั้นยังสนใจในสินค้า Luxury อยู่ ขณะที่ Philippe Blondiaux ซึ่งเป็นผู้บริหารด้านการเงินของบริษัท ก็ได้กล่าวว่าตลาดแดนมังกรยังถือว่าเป็นตลาดสำคัญ

ปัจจุบัน Chanel มีสาขาในประเทศจีน 18 สาขา ซึ่งคู่แข่งบางรายมีหน้าร้านมากกว่าในระดับ 40-50 ร้าน แต่แบรนด์หรูรายนี้ก็เตรียมที่จะเปิดสาขาเพิ่ม ซึ่งหนึ่งในสาขาที่เปิดเพิ่มเติมมีไว้สำหรับลูกค้ากำลังซื้อสูงและต้องการความเป็นส่วนตัว รวมถึงการเปิดศูนย์ซ่อมสินค้าของบริษัทในเซี่ยงไฮ้

ทิศทางของ Chanel นั้นถือว่าสวนทางแบรนด์หรูหลายแบรนด์ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงด้านรายได้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศจีนนั้นเติบโตช้ากว่าคาดไว้ ทำให้กำลังซื้อของเหล่านักช้อปของหรูลดลง หลายบริษัทเริ่มที่จะหารายได้ใหม่ๆ จากประเทศที่มีกำลังซื้อเติบโตสูงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย หรือแม้แต่ ตะวันออกกลาง

สำหรับผลประกอบการในปี 2023 ที่ผ่านมา Chanel มียอดขาย 19,700 ล้านยูโร เติบโต 16% เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา โดยได้ผลดีจากยอดขายในทวีปเอเชียและยุโรปที่ยังเติบโต แม้ว่ายอดขายในสหรัฐอเมริกาจะชะลอตัวลงก็ตาม

ตลาดสินค้าหรูนั้นกำลังปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่ลดลงทั่วโลกในข่วงที่ผ่านมา เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น และสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ลูกค้าของแบรนด์หรูเหล่านี้ต้องใช้จ่ายอย่างรัดกุม

ที่มา – Reuters

]]>
1474669
Chanel ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นในหลายประเทศรวมถึงไทย ชี้ค่าเงินแต่ละประเทศผันผวน https://positioningmag.com/1447238 Sun, 08 Oct 2023 18:05:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1447238 ชาแนล (Chanel) ยักษ์ใหญ่สินค้าหรูอีกรายของโลก ได้ปรับราคาสินค้าเพิ่มในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เป็นต้น หรือแม้แต่ประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยบริษัทได้ให้เหตุผลถึงค่าเงินในแต่ละประเทศมีความผันผวน

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวว่า Chanel ผู้ผลิตสินค้าหรูหลายประเภท ได้ประกาศขึ้นราคาสินค้าหลายประเภทในหลายประเทศ โดยให้เหตุผลถึงค่าเงินของประเทศที่บริษัทมีสินค้าวางขายนั้นมีความผันผวน จึงมีการปรับราคาเพิ่มอีกตั้งแต่ 6 ถึง 8% ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ

ตัวแทนของ Chanel ได้ตอบคำถามของสำนักข่าว Bloomberg ว่า นี่คือสิ่งที่บริษัทได้ทำเป็นประจำ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในแง่ของการปรับราคาให้สอดคล้องกัน โดยตลาดที่ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์หรูรายนี้ได้ขึ้นราคานั้นได้แก่ ไทย จีน มาเลเซีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น รวมถึง ไต้หวัน

และนั่นจะทำให้ราคากระเป๋ารุ่น Classique ของ Chanel ไซส์ 25 เซนติเมตร มีราคาถึง 9,700 ยูโรในฝรั่งเศส ถ้าหากคิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ จะอยู่ที่ 10,230 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าราคาเป็นเงินหยวนจะอยู่ที่ 80,500 หยวน หรือคิดกลับเป็นดอลลาร์สหรัฐ จะมีราคามากถึง 11,030 ดอลลาร์สหรัฐ

ผู้ผลิตสินค้าหรูหลายรายมีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้า และนั่นหมายความว่าแบรนด์หรูเหล่านี้สามารถเพิ่มราคาได้โดยไม่จำเป็นว่าจะมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียลูกค้าไป อย่างไรก็ดีในช่วงปีที่ผ่านมาแบรนด์หรูเหล่านี้เริ่มประสบปัญหาลูกค้าเริ่มที่จะลดการซื้อสินค้าของแบรนด์หรูเหล่านี้ลง ซึ่งเห็นได้จากหลายแบรนด์เองมียอดขายในตลาดใหญ่ๆ ลดลง แต่ Chanel เองก็ได้ตัดสินใจปรับราคาสินค้าขึ้นในท้ายที่สุด

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้บริหารของ Chanel ได้กล่าวว่า บริษัทอาจมีการขึ้นราคาสินค้าหรูของบริษัทอีกครั้งในเดือนกันยายน โดยมีปัจจัยไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนสินค้า อัตราเงินเฟ้อ ไปจนถึงค่าเงินของประเทศนั้นๆ และการขึ้นราคาสินค้านั้นจะไม่เท่ากันในแต่ละประเทศ

ปัจจุบัน Chanel มีการพิจารณาปรับราคาสินค้าเฉลี่ยปีละ 2 ครั้งคือในช่วงเดือนมีนาคม และเดือนกันยายน โดยที่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับราคาสินค้าเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 8% และในปี 2020 บริษัทได้ปรับราคากระเป๋าเพิ่มมากขึ้นถึง 20% มาแล้ว

]]>
1447238
ผู้บริหาร Chanel เปรยอาจขึ้นราคาสินค้าอย่างกระเป๋าอีกรอบในเดือนกันยายนนี้ https://positioningmag.com/1431971 Fri, 26 May 2023 05:03:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1431971 ชาแนล (Chanel) ยักษ์ใหญ่สินค้าหรูอีกรายของโลก อาจปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนกันยายนนี้ หลังจากที่ผู้บริหารของบริษัทได้เปรยถึงปัญหาต้นทุนรวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นมาแล้วหลายครั้งก็ตาม

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวว่า Philippe Blondiaux ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Chanel ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อธุรกิจรายดังกล่าว ซึ่งเขาได้เปรยว่าบริษัทอาจต้องปรับราคาสินค้าขึ้น หลังจากที่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับราคาสินค้าเพิ่มไปแล้วเฉลี่ยที่ 8%

Chanel มีการพิจารณาปรับราคาสินค้าเฉลี่ยปีละ 2 ครั้งคือในช่วงเดือนมีนาคม และเดือนกันยายน แตกต่างกับคู่แข่งรายอื่นๆ อย่าง Hermes ที่มีการพิจารณาราคาสินค้าปีละ 1 ครั้งในช่วงต้นปี

ปัจจัยที่ทำให้บริษัทปรับราคาสินค้าขึ้นคือต้นทุนสินค้า อัตราเงินเฟ้อ ไปจนถึงค่าเงินของแต่ละประเทศ ซึ่งอาจทำให้ในช่วงเดือนมีนาคมมที่ผ่านมาราคากระเป๋า Chanel ในแต่ละประเทศปรับราคาขึ้นไม่เท่ากัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Chanel ยังได้ชี้ว่าปัจจัยดังกล่าวนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าจะมีการเพิ่มราคาสินค้าหรือไม่

นอกจากนี้ด้วยราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ยังทำให้มีความต้องการกระเป๋าของ Chanel เพิ่มมากขึ้น แต่ปริมาณสินค้าที่ผลิตออกมาไม่ได้สูงมากนัก ทำให้บริษัทได้ใช้นโยบายลูกค้าสามารถที่จะซื้อกระเป๋ารุ่น Classique ได้เพียงปีละ 2 ใบเท่านั้น

ปัจจุบันราคากระเป๋ารุ่น Classique ของ Chanel ไซส์ 25 เซนติเมตร มีราคาถึง 9,700 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 360,578 บาท โดยในปี 2020 บริษัทได้ปรับราคากระเป๋าเพิ่มมากขึ้นถึง 20% 

ในปี 2022 นั้นทาง Chanel ได้มียอดขายรวมเพิ่มขึ้นมากถึง 17% แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกจะไม่เป็นใจจากปัญหาเงินเฟ้อ จนทำให้บริษัทต้องปรับราคาสินค้าก็ตาม

]]>
1431971
แบรนด์หรู Chanel เลือกซีอีโอคนใหม่ ‘Leena Nair’ ข้ามห้วยจาก Unilever ยักษ์ใหญ่ FMCG https://positioningmag.com/1367315 Thu, 16 Dec 2021 12:11:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1367315 Chanel แต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ ‘Leena Nair’ ผู้บริหารหญิงชาวบริติช-อินเดียน ลูกหม้อประสบการณ์เกือบ 30 ปีของ Unilever แม้จะเป็นการข้ามห้วยอุตสาหกรรม แต่เทรนด์การเลือกผู้บริหารจากกลุ่ม FMCG กำลังเป็นกระแสที่เกิดขึ้นในวงการแบรนด์ลักชัวรี

Chanel บริษัทแบรนด์แฟชั่นสุดหรู ประกาศเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2021 ว่า บริษัทได้แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ “Leena Nair” ขึ้นมานั่งตำแหน่งนี้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2022

โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ ตำแหน่งก่อนหน้านี้ของเธอเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Unilever และเธอทำงานกับบริษัทนี้มานานเกือบ 30 ปี เริ่มตั้งแต่เป็นเด็กฝึกงานในปี 1992

ปัจจุบัน Leena Nair มีอายุ 52 ปี เป็นชาวบริติช-อินเดียน และจบการศึกษาปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจาก XLRI Jamshedpur ในอินเดีย (เป็นสถาบันเอกชนที่สอนด้านธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย)

ในวันที่เธอขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (CHRO) เธอถือเป็นผู้หญิงคนแรก เป็นชาวเอเชียคนแรก และเป็นผู้บริหารที่เด็กที่สุดที่เคยขึ้นสู่ตำแหน่ง CHRO โดยเธอมีหน้าที่บริหารบุคคลกว่า 150,000 คนของ Unilever ทั่วโลก ขณะที่การบริหาร Chanel จะเป็นบริษัทส่วนบุคคล มีพนักงานทั้งหมด 27,000 คนทั่วโลก

 

FMCG ข้ามห้วยสู่ลักชัวรีกันเพียบ

Luca Solca นักวิเคราะห์จากบริษัท Bernstein กล่าวว่า กระแสการดึงตัวผู้บริหารจากกลุ่มธุรกิจ FMCG มานั่งตำแหน่งในอุตสาหกรรมแบรนด์ลักชัวรีกำลังเกิดขึ้นในระยะหลัง และโดยส่วนใหญ่จะดึงจากยักษ์ใหญ่อย่าง Unilever และ P&G นี่เอง

(Photo by Andrei KirillovTASS via Getty Images)

ไม่ว่าจะเป็น Antonio Belloni จาก P&G ที่ย้ายมาเป็นกรรมการผู้จัดการให้ LVMH, Frabizio Freda ก็ย้ายจาก P&G มาเป็นซีอีโอให้กับ Estee Lauder หรือถ้านับประวัติการทำงานทั้งหมด Pietro Beccari ซีอีโอและประธานกรรมการของ Dior ก็เคยทำงานกับ Benckiser อิตาลี และ Laurent Boillot ซึ่งเป็นประธานบริษัท Hennessy ก็เคยทำงานที่ Unilever มาก่อน

รวมถึง Leena Nair ที่จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ใช้ประสบการณ์จากอุตสาหกรรมอื่นเข้ามาบริหารกลุ่มลักชัวรี และเป็นชาวอินเดียคนแรกๆ ในพื้นที่อุตสาหกรรมนี้ จากเดิมที่ชาวอินเดียมักจะได้รับการยอมรับในกลุ่มธุรกิจการเงิน เทคโนโลยี แต่ไม่ค่อยได้เห็นในพื้นที่แฟชั่นไฮเอนด์เท่าใดนัก

สำหรับรายได้ของ Chanel ในปี 2020 ทำรายได้ไป 10,100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการขายสินค้าหลากหลายหมวด ตั้งแต่กระเป๋าหนัง เสื้อผ้า เครื่องเพชร นาฬิกาข้อมือ น้ำหอม เครื่องสำอาง แว่นตา และอื่นๆ แต่รายได้ดังกล่าวลดลง 18% จากปีก่อนหน้า แต่ถือว่ายังดีกว่าทั้งวงการลักชัวรีที่ทำรายได้ลดลงเฉลี่ย 22% เนื่องจากโรคระบาด อย่างไรก็ตาม ปี 2021 นี้บริษัทน่าจะกลับมาโตดับเบิลดิจิต หลังใช้กลยุทธ์ขึ้นราคากระเป๋าหรู ยังผลให้ลูกค้ารีบพุ่งไปซื้อมาเก็บไว้ก่อนราคาจะขึ้นไปมากกว่านี้

Source: Voguebusiness, India Today, Aljazeera

]]>
1367315
‘Revenge spending’ พฤติกรรมใหม่ของนักช้อปชาวจีนที่ทำให้แบรนด์ ‘Luxury’ ยิ้มออก https://positioningmag.com/1283357 Fri, 12 Jun 2020 11:45:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1283357 ตั้งแต่เกิดวิกฤต Covid-19 แบรนด์ ‘Luxury’ ชั้นนำยังต้องเผชิญกับเส้นทางที่ยากลำบากข้างหน้า และมีแนวโน้มที่จะต้องหาวิธีคิดใหม่เกี่ยวกับการทำธุรกิจให้ฟื้นตัว หลังจากที่ยอดขายเสียหายทั่วโลก แต่ดูเหมือนว่าแบรนด์หรูต่าง ๆ อาจจะเริ่มยิ้มออกนิด ๆ เพราะผู้ซื้อชาวจีนเริ่มที่จะกลับมาช้อปปิ้งสินค้าฟุ่มเฟือยอีกครั้งหลังจากอัดอั้นมานาน

แบรนด์สินค้า Luxury หลายแห่งรายงานว่า ในประเทศจีนช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ ผู้คนเริ่มกลับมาจับจ่ายอีกครั้ง หลังจากหมดมาตรการล็อกดาวน์ โดยนักวิเคราะห์บางคนเรียกว่าแนวโน้มนี้ว่า ‘Revenge spending’ หรือการโหมจับจ่ายอีกครั้งหลังจากอั้นมานานในช่วงกักตัว โดยแบรนด์ Tiffany ชี้ให้เห็นว่าจีนเป็นจุดที่สดใสสำหรับธุรกิจเครื่องประดับ โดยยอดขายพุ่งขึ้น 30% ในเดือนเมษายนและ 90% ในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โดยรวมของแบรนด์มียอดขายสุทธิทั่วโลกลดลงประมาณ 40% ในเดือนพฤษภาคม

“ผลการดำเนินงานของเราในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดแรกที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสบ่งบอกว่ากำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง” Alessandro Bogliolo ซีอีโอของ Tiffany กล่าว

ขณะที่แบรนด์อื่น ๆ ก็ให้ข้อมูลที่ตรงกัน อาทิ Burberry ระบุว่า เมื่อเดือนที่แล้วว่ายอดขายของเสื้อผ้ากระเป๋าและอุปกรณ์เสริมในประเทศจีนนั้นมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ Richemont ผู้ผลิตเครื่องประดับและนาฬิกาชาวสวิสได้ชี้ให้เห็นว่า จีนเป็นประเทศที่มีความสดใสในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า มีความต้องการที่แข็งแกร่ง Edgardo Osorio ผู้ก่อตั้งแบรนด์รองเท้าอิตาลี Aquazzura บอกกับ CNN Business ว่า “จริง ๆ แล้วมันเป็นแง่บวกมาก ๆ และเป็นประเทศจีนมาโดยตลอด แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เป็นหนึ่งในลูกค้าที่ตอบสนองรวดเร็วที่สุด”

“ข้อมูลบ่งชี้ว่าจีนอยู่ในโหมดการกู้คืน” Luca Solca นักวิเคราะห์ของ Bernstein กล่าว

Photo : Shutterstock

นักวิเคราะห์ระบุว่า ลูกค้าชาวจีนอาจใช้จ่ายเงินกับสินค้าในประเทศมากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่ายอดขายสองในสามของผู้ซื้อชาวจีนนั้นเกิดขึ้นนอกประเทศจีน และแทนที่จะไปเที่ยวพักผ่อน พวกเขาอาจซื้อกระเป๋า Chanel แทน

ทั้งนี้ การฟื้นตัวในประเทศจีนมีความสำคัญมาก เนื่องจากผู้ซื้อมีความสำคัญต่อตลาดระดับโลก เพราะมีสัดส่วนถึง 35% ของยอดขายทั้งหมดทั่วโลกตาม และคาดว่าอาจจะเติบโตเป็นเกือบ 50% ในอนาคต อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมยังคงเจ็บสาหัสจาก Covid-19

Bain คาดการณ์ว่า ยอดขายทั่วโลกของสินค้าเหล่านี้อาจลดลงมากถึง -35% ในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีรายรับ 180,000 – 220,000 ล้านยูโร ขณะที่ปีที่แล้วประมาณ 281,000 ล้านยูโร โดยแบรนด์ระดับโลกยอมรับถึงความกดดันนี้ เช่น สัปดาห์ที่แล้ว LVMH เปิดเผยต่อนักลงทุนว่าคณะกรรมการได้พบกันอีกครั้งเพื่อพิจารณาการเข้าซื้อกิจการ Tiffany อีกครั้ง

ดังนั้น การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของยอดขายภายในประเทศจีน “ไม่ใช่การอุดการสูญเสียยอดขายให้กับแบรนด์หรูจากผู้บริโภคทั่วโลก” เพราะสุดท้ายการใช้จ่ายโดยรวมจากจีนต่ำกว่าปีที่แล้วมาก ขณะที่พฤติกรรม ‘Revenge spending’ อาจจะเพียงพฤติกรรมชั่วคราว สุดท้าย สิ่งที่อุตสาหกรรมต้องการ คือ นักท่องเที่ยวจากจีนหรือที่อื่น ๆ

“เราคาดหวังว่าการเดินทางท่องเที่ยว จะทำให้สถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน และอาจจะมากกว่าหนึ่งปี”

ดังนั้น เพื่อรับมือกับความเป็นจริงนี้ บริษัทจะต้องปรับกลยุทธ์ของพวกเขาและหาวิธีการเข้าถึงลูกค้าในท้องถิ่นมากขึ้น รวมถึงขยายไปสู่ช่องทางอีคอมเมิร์ซ

Source

]]>
1283357
เเบรนด์หรู Mulberry โดนบีบจากมาตรการล็อกดาวน์ เตรียมปลดพนักงานทั่วโลก 25% https://positioningmag.com/1282875 Wed, 10 Jun 2020 06:46:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1282875 Mulberry เเบรนด์หรูจากเกาะอังกฤษ วางเเผนจะปลดพนักงานทั่วโลกกว่า 25% จากจำนวนทั้งหมด 1,400-1,500 คน เพื่อลดต้นทุน หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการปิดร้านชั่วคราว ตามมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัด COVID-19

จากความไม่เเน่นอนทั้งเรื่องผลกระทบเเละระยะเวลาในการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ที่จะส่งผลต่อธุรกิจ ทำให้ Mulberry เเบรนด์หรูที่ขึ้นชื่อด้านกระเป๋าหนัง คาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวเเบบค่อยเป็นค่อยไป เเต่ไม่ใช่ในเร็ววันนี้

เเม้ในบางสาขาในจีน เกาหลีใต้ ยุโรป และแคนาดา จะเริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้เเล้ว เเละในอังกฤษก็มีเเผนที่จะกลับมาเปิดได้ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เเต่ทว่าร้านค้า 120 แห่ง ใน 25 ประเทศทั่วโลกซึ่งทางเเบรนด์เป็นผู้บริหารเอง ยังคงต้องปิดให้บริการต่อเนื่องไปอีกตามมาตรการล็อกดาวน์ที่ยังคงมีอยู่ในหลายประเทศ

“การปิดร้านค้าจะยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่อง” Mulberry ระบุในเเถลงการณ์

ในช่วง COVID-19 ที่ทำให้ร้านค้าของ Mulberry ส่วนใหญ่ต้องปิดให้บริการชั่วคราวมาตั้งเเต่ปลายเดือนมี.ค. ทางเเบรนด์พยายามหันมามุ่งขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีการเติบโตที่ดี เเต่ด้วยกำลังซื้อที่ลดลงทำให้รายได้จากการขายออนไลน์ ไม่สามารถชดเชยรายได้จากการขายหน้าร้านที่ต้องปิดได้ทั้งหมดอยู่ดี

ขณะเดียวกัน การกลับมาเปิดร้านได้อีกครั้งก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายกลับมาสดใสนัก เมื่อต้องมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว เเละผู้คนก็ออกมาเดินช้อปปิ้งน้อยลง เหล่านี้ล้วนกระทบต่อรายได้ทั้งสิ้น ดังนั้นการปลดพนักงานบางส่วน จึงเป็นทางเลือกของ Mulberry เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปในระยะยาวได้

ด้านความเคลื่อนไหวของเเบรนด์หรูชื่อดังอีกเจ้าอย่าง Chanel ปรับกลยุทธ์ด้วยการ “ขึ้นราคา” ราคากระเป๋าบางรุ่น 5-17% ในสกุลเงินยูโร เหตุต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นจาก COVID-19 กระทบซัพพลายเชน โดยนักวิเคราะห์มองว่าสินค้าแบรนด์หรูวางเป้าจะขึ้นราคาเพื่อรอนักช้อปที่อัดอั้นจากช่วงการเเพร่ระบาด

อ่านเพิ่มเติม : Chanel ขึ้นราคากระเป๋าหรู 20% เตรียมโกยเงินนักช้อป ชดเชยรายได้ที่หายไปช่วง COVID-19

 

ที่มา : Business Insider , Reuters

 

]]>
1282875
Chanel ขึ้นราคากระเป๋าหรู 20% เตรียมโกยเงินนักช้อป ชดเชยรายได้ที่หายไปช่วง COVID-19 https://positioningmag.com/1278736 Fri, 15 May 2020 07:38:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1278736 Chanel แจ้งขึ้นราคากระเป๋าบางรุ่น 5-17% ในสกุลเงินยูโร เหตุต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นจากไวรัส COVID-19 กระทบซัพพลายเชน อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าลักชัวรีชี้ราคาไทยปรับขึ้นมาถึง 20% เมื่อรวมผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน นักวิเคราะห์มองสินค้าแบรนด์หรูวางเป้าขึ้นราคารอนักช้อปที่อัดอั้นจากช่วง COVID-19 ระบาด

สำนักข่าว Reuters รายงานข้อมูลจาก Chanel เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทมีการปรับราคากระเป๋าบางรุ่นขึ้น 5-17% (ในสกุลเงินยูโร) โดยกระเป๋าที่จะปรับราคาขึ้นเป็นรุ่นไอคอนของแบรนด์ ได้แก่ 11.12 , 2.55 , Boy, Gabrielle, Chanel 19 และกลุ่มสินค้าเครื่องหนังชิ้นเล็กอื่นๆ

โดยบริษัทชี้แจงว่ามีการปรับขึ้นราคาเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นในช่วงการระบาดของไวรัส COVID-19 มีผลกระทบต่อซัพพลายเชน

หลังจากปรับราคาในสกุลเงินยูโรมาตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2020 Chanel แจ้งว่าราคาทั่วโลกจะทยอยปรับขึ้นในระดับใกล้เคียงกัน เพื่อไม่ให้เกิดความแตกต่างด้านราคามากจนเกินไป ส่งผลให้ลูกค้าจีนและเกาหลีใต้แห่ต่อคิวยาวเหยียดหน้าห้างฯ เพื่อรอซื้อกระเป๋า Chanel ก่อนปรับราคา

กระเป๋ารุ่นไอคอน Chanel Classic Flap Bag

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริโภคที่นิยมสินค้าลักชัวรีในไทยพบว่า ราคากระเป๋าเมื่อแปลงเป็นเงินบาทไทยแล้ว ราคาหิ้วจากช็อปในยุโรปและราคาหน้าช็อปไทยนั้นปรับขึ้นมาประมาณ 15-20% สำหรับกระเป๋า Chanel รุ่นสุดฮิตอย่าง Classic Flap Bag ขนาด 10″ จากเดิมราคาหิ้วเคยอยู่ที่ราวๆ 185,000 บาท ขึ้นมาเป็น 220,000 บาท ส่วนหน้าช็อปไทยเคยอยู่ที่ประมาณเกือบ 200,000 บาท ขึ้นมาเป็น 235,000 บาท เมื่อวานนี้

การปรับราคาของกระเป๋า Chanel นั้นเกิดขึ้นเกือบทุกปี ล่าสุดเคยขึ้นราคากระเป๋าบางรุ่นมาแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2019 แต่ที่การปรับรอบนี้น่าตกใจคือสัดส่วนการขึ้นราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าครั้งก่อนๆ

ไม่ได้มีแค่ Chanel ที่ปรับราคาขึ้นช่วงเกิดโรคระบาด แม้แต่ LVMH ก็ปรับราคากระเป๋า Louis Vuitton บางรุ่นขึ้นประมาณ 14% ในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีรายงานว่าร้านเครื่องประดับ Tiffany สาขาในเกาหลีใต้ก็ปรับราคาขึ้นประมาณ 10% เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2020

 

ลูกค้าลักชัวรีรอกลับไปช้อป

นักวิเคราะห์บางรายมองว่า Chanel รวมถึงแบรนด์ลักชัวรีอื่นๆ เลือกปรับราคาแรงในช่วงนี้ เพื่อเตรียมรับกระแสนักช้อปที่จะกลับมาโหมซื้อสินค้า ชดเชยช่วงที่มีการปิดล็อกดาวน์ประเทศระหว่างการระบาดของไวรัส COVID-19 และเมื่อมองในมุมบริษัท กลยุทธ์การปรับราคาอาจทำให้บริษัทมีผลกำไรรวมทั้งปีที่ดีขึ้น

 

View this post on Instagram

 

A post shared by CHANEL (@chanelofficial) on

สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์การค้า Lotte ในเกาหลีใต้ เปิดเผยกับสำนักข่าว SCMP ว่า สินค้ากลุ่มลักชัวรีทำยอดขายในช่วงวันที่ 1-10 พฤษภาคม 2020 สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 30% สะท้อนภาพกำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่รอการกลับไปใช้จ่ายหลังหมดโรคระบาด

อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมหนึ่ง ตลาดจีนที่เคยเป็นตลาดหลักของสินค้าลักชัวรีโดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 35% จากยอดขายทั่วโลกในปี 2019 มุมมองของผู้บริโภคชาวจีนอาจเปลี่ยนไปหลังการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ จนชาวจีนมองการเก็บเงินสดสำคัญกว่าการซื้อสินค้าสร้างไลฟ์สไตล์หรือแม้แต่การลงทุนสินทรัพย์

ต้องจับตามองกันอีกครั้งว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคสินค้าลักชัวรีหลังการระบาดจะเปลี่ยนไปหรือไม่!

Source: Reuters, Business Insider, SCMP, New York Post

]]>
1278736
ยลโฉมบ้านความงาม Chanel Beauty House แคมเปญกระตุ้นชาว Instagramer ล่าสุดของ Chanel https://positioningmag.com/1159882 Sun, 04 Mar 2018 12:00:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1159882 Chanel แบรนด์แฟชั่นจากฝรั่งเศสเปิดตัวร้านป๊อปอัพพันธุ์ใหม่ให้ชาว LA ได้เยือนเมื่อ 1-4 มีนาคมที่ผ่านมาในชื่อ Chanel Beauty House สื่ออเมริกันฟันธงความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพราะ Chanel หวังให้ชาว Instagram ช่วยสร้างเนื้อหาสำหรับโลกโซเชียลโดยเฉพาะ ขณะเดียวกันก็สามารถโปรโมตเพจใหม่ @WeLoveCoco ที่ Chanel เพิ่งสร้างขึ้นบน Instagram สำหรับให้ผู้ใช้เป็นผู้ generate หรือร่วมสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับ Chanel

เพื่อสร้าง Chanel Beauty House แบรนด์แฟชั่นสุดหรูลงมือเปลี่ยนบ้านจริง 1 หลังบนถนน Sunset Blvd ในแอลเอ ให้กลายเป็นบ้านที่จะมอบประสบการณ์ความงามน่าหลงใหลในทุกห้อง เช่นในห้องนอนที่มีแสงสีแดงสดแปลกตา หรือในห้องน้ำที่จัดเต็มผ้าเช็ดมือสีสดแบรนด์ Chanel และที่โดดเด่นคืออ่างอาบน้ำโบราณที่เต็มไปด้วยไข่มุกเรืองรอง

นอกจากนี้ยังมีโต๊ะกาแฟกระจกใสรูปวงกลมที่เต็มไปด้วยลิปกลอสในห้องนั่งเล่น รวมถึงห้องรับประทานอาหารที่ทั้งพื้นถึงเพดานเป็นสีแดงสด และแทนที่จะเป็นเมนู บนโต๊ะตั้งแท่นวางกองทัพลิปสติกสุดเก๋พร้อมหนังสือระบายสีที่ทำให้ผู้ชมสามารถทดสอบเฉดสีโดยสะดวก ยังมีห้องอ่านหนังสือดูทีวีที่จัดวางผลิตภัณฑ์ Chanel หลากหลายรูปแบบ ซึ่งผู้ชมสามารถหยิบมาจัดวางแบบ flay lay เพื่อถ่ายภาพมุมบนแบบฮิปสเตอร์ได้อย่างอิสระ 

ขณะที่ลานกลางแจ้ง Chanel จัดทีมช่างแต่งหน้าเพื่อรองรับสาวที่สนใจ อยากทดลองสีลิปสติกกับช่างแต่งหน้ามืออาชีพ

ทั้งหมดนี้ Chanel ชี้ว่าผู้ชมที่ได้เข้าสู่บ้านความงามจะใช้เวลากว่า 60 นาทีในการชมและสัมผัสสินค้า Chanel โดยภายในจะมีการสนับสนุนให้ผู้ชมร่วมแชร์ภาพที่ถ่ายในบ้านผ่านแท็ก #welovecoco และ @welovecoco ทั้งหมดนี้ผู้ชมไม่ต้องเสียเงิน และผู้ชายสามารถเข้าชมบ้านได้อย่างเสรี 

เบื้องต้น Chanel Beauty House ยังไม่มีแผนให้บริการนอกแอลเอ ผู้สนใจซื้อสินค้าจะได้รับสินค้าที่ต้องการทันทีหลังจากซื้อ ทั้งหมดนี้ต้องลงทะเบียนก่อนเข้างาน และหากใครต้องการนำลูกหลานไปด้วย ต้องลงทะเบียนทุกคน

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของร้านป๊อปอัพ คือการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ในบ้าน Chanel Beauty House นอกจากผลิตภัณฑ์เพื่อความงามแบรนด์ Chanel ยังมีเทคโนโลยีทันสมัยซึ่งทำให้บ้านความงามของ Chanel มีมิติที่สองที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้บ้านแฟชั่นระดับตำนานมีความโดดเด่น เหนือร้านป๊อปอัพแบรนด์อื่นในวงการความงามที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง

ผลคือตลอด 4 วันที่ Chanel จัดงาน โพสต์ที่ติดแท็ก #welovecoco บน Instagram มีจำนวนมากกว่า 6,339 โพสต์ ความสำเร็จนี้เป็นกรณีศึกษาสำคัญว่า ทุกแบรนด์สามารถใช้วิธีสร้างสถานที่ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อหา Instagram Content ลักษณะนี้ก็ได้ และการสร้างร้านป๊อปอัพนี้ยังทำให้แบรนด์ได้จำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย เรียกว่ายิงนัดเดียว ได้นกหลายต่อ.

i’m busy @chanelofficial #welovecoco

A post shared by Tove Lo (@tovelo) on

ที่มา

]]>
1159882
เก๋! แบรนด์ดัง “CHANEL” ผุดร้านตู้เกมย่านฮาราจูกุ https://positioningmag.com/1159826 Sat, 03 Mar 2018 05:10:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1159826 ผู้ผลิตสินค้าแฟชันแบรนด์ดัง CHANEL ผุดไอเดียเก๋โปรโมตผลิตภัณฑ์ใหม่ จัดงานอีเวนท์ลักษณะเป็นร้านตู้เกมครั้งแรกของโลกในในย่านฮาราจูกุ

ร้านดังกล่าวจะใช้ชื่อว่า “COCO GAME CENTER” ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟเมอิจิจินงุมาเอะ โดยจะใช้เพื่อโปรโมตสินค้าตระกูล ROUGE COCO LIP BLUSH ที่กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 9 มีนาคมนี้

ภายในร้านจะมีทั้งพื้นที่ขายของ โซนถ่ายรูปและช่างแต่งหน้าให้ทดลองสินค้า ตกแต่งด้วยสีแดงดำเป็นจุดพิกเซลให้เข้ากับบรรยากาศ และที่สำคัญคือตู้วีดีโอเกมทั้งแนวยิงปืน พัซเซิลแก้ปริศนาและกดจังหวะดนตรีให้เล่นได้จริง พร้อมตู้คีบตุ๊กตาที่เปลี่ยนเอาสินค้าตัวอย่างเข้าไปให้คีบแทน

งานอีเวนท์จะจัดระหว่างวันที่ 2 มีนาคมถึง 11 มีนาคมเท่านั้น เปิดเวลา 11 โมงเช้าถึง 1 ทุ่มและสามารถเข้าได้ฟรี

ที่มา : mgronline.com/game/detail/9610000021208

]]>
1159826