Singapore – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 13 May 2024 12:32:33 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Scoot ประกาศยกเลิกบางเที่ยวบินเดือนพฤษภาคมในสิงคโปร์ จากปัญหาด้าน Supply Chain ที่ยังไม่กลับมาปกติ https://positioningmag.com/1473139 Sun, 12 May 2024 15:56:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1473139 Scoot สายการบินราคาประหยัดจากสิงคโปร์ ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินบางเที่ยวในเดือนพฤษภาคม โดยสาเหตุสำคัญคือปัญหาการขาดแคลนอะไหล่ซ่อมเครื่องบิน นอกจากนี้ยังรวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานในการซ่อมแซมเครื่องบิน

สายการบิน Scoot ได้แจ้งกับสื่อมวลชนในสิงคโปร์ว่า เที่ยวบินหลายเที่ยวบินที่กำหนดในเดือนพฤษภาคมได้ถูกยกเลิกเนื่องจากเหตุผลด้านการปฏิบัติงานหลายประการ รวมถึงเครื่องบินไม่พร้อมให้บริการเนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนอะไหล่เนื่องจากปัญหาด้าน Supply Chain

นอกจากนี้สายการบินยังให้รายละเอียดว่า การขาดแคลนซึ่งเป็นผลจาก Supply Chain กำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินโดยรวม แต่ Scoot ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับชิ้นส่วนอะไหล่และประเภทเครื่องบินที่ได้รับผล กระทบ โดยกล่าวว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องอ่อนไหวทางการค้า

ขณะเดียวกันสายการบินเองก็ได้กล่าวขอโทษในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน และจะมีการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างรวดเร็ว

โดยสื่อในประเทศสิงคโปร์อย่าง The Strait Times รายงานว่าเที่ยวบินของ Scoot จากสนามบินชางงีในช่วงวันที่ 2-6 พฤษภาคมที่ผ่านมามีการยกเลิกเที่ยวบินไปถึง 33 เที่ยวบิน

ล่าสุดปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดแค่กับสายการบินอย่าง Scoot เท่านั้น แต่สายการบินราคาประหยัดอย่าง Jetstar ที่มีเส้นทางบินจากสนามบินในสิงคโปร์ก็มีเที่ยวบินล่าช้า การเปลี่ยนเวลาทำการบิน หรือแม้แต่การยกเลิกเที่ยวบิน โดยสายการบินได้ให้เหตุผลในเรื่องดังกล่าวคล้ายคลึงกัน

ปัญหา Supply Chain ทำให้การผลิตเครื่องบินของบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Airbus และ Boeing มีการผลิตเครื่องบินได้ช้ากว่าคาด ส่งผลกระทบต่อทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งสร้างผลกระทบในช่วงที่ผ่านมาต่อทั้งสายการบินในไทยและต่างประเทศ หรือแม้แต่บริษัทให้เช่าเครื่องบิน

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลายสายการบินต้องใช้เครื่องบินเก่าที่มีอยู่ เนื่องจากความต้องการเครื่องบินรุ่นใหม่ยังสูง

ไม่เพียงเท่านี้การนำเครื่องบินไปเก็บรักษาและนำกลับมาใช้งานใหม่ในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิดยังส่งผลทำให้ความต้องการชิ้นส่วนอะไหล่จำนวนมากในคราวเดียวกัน ซึ่งผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่เหล่านี้ไม่สามารถที่จะผลิตได้ทัน และยังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานในการซ่อมบำรุงเครื่องบินที่ไม่ได้บินเป็นระยะเวลาหลายเดือนให้กลับมาบินได้ปกติอีกด้วย

แม้ว่าความต้องการในการเดินทางในหลายส่วนของโลกจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง แต่ปัญหา Supply Chain หรือแม้แต่ความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมดังกล่าวนั้นกลับยังไม่สามารถกลับมาให้บริการได้เท่ากับช่วงก่อนการแพร่ระบาดได้ดีเท่าที่ควรมากนัก ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นอาจต้องใช้เวลายาวนานกว่าคาด

ที่มา – CNA, The Strait Times

]]>
1473139
สิงคโปร์เตรียมสอบสวนดีล Grab และ Delivery Hero แม้จะล่มไปแล้วก็ตาม กังวลผูกขาดการแข่งขันธุรกิจส่งอาหาร https://positioningmag.com/1468607 Mon, 01 Apr 2024 14:13:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1468607 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันของสิงคโปร์ เตรียมสอบสวนดีล Grab และ Delivery Hero แม้ดีลดังกล่าวนั้นจะล่มไปแล้วก็ตาม โดยให้เหตุผลถึงความกังวลผูกขาดการแข่งขันธุรกิจส่งอาหาร เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมกันมากถึง 91%

หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันของสิงคโปร์ (CCCS) ได้เตรียมที่จะสอบสวนกรณีที่ Grab นั้นสนใจที่จะซื้อกิจการของ Delivery Hero ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าอาจทำให้การแข่งขันในธุรกิจส่งอาหารของประเทศนั้นเกิดการผูกขาดได้ แม้ว่าดีลดังกล่าวจะล่มลงไปก็ตาม

CCCS ยังได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น CCCS มีเหตุผลให้สงสัยว่าธุรกรรมที่เป็นไปได้ดังกล่าวนั้นอาจส่งผลให้การแข่งขันในตลาดลดลงอย่างมากสำหรับการจัดหาบริการสั่งอาหารออนไลน์และจัดส่งอาหารในสิงคโปร์ ซึ่งมีผู้เล่นรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย ผู้เล่นรายใหม่มีอุปสรรคในการเข้าตลาดดังกล่าวสูง”

การสอบสวนดีลดังกล่าวนั้นเนื่องจากมีความเป็นไปได้จะละเมิดมาตรา 54 ของพระราชบัญญัติการแข่งขันปี 2024 ของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งห้ามควบรวมกิจการที่ส่งผลหรืออาจคาดว่าจะส่งผลให้การแข่งขันในประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ดีลดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่ในช่วงปลายไตรมาส 3 ของปี 2023 ที่ผ่านมาซึ่งมีสื่อในประเทศเยอรมันรายงานข่าวว่า Delivery Hero ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ foodpanda ได้กำลังเจรจาในการขายกิจการให้กับ Grab ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1,000 ล้านยูโรในช่วงเวลานั้น

ในช่วงเวลาของการเจรจาซื้อกิจการ CCCS ได้ออกมาตรการคุ้มครองในช่วงที่มีข่าวของทั้ง 2 ฝ่ายอาจซื้อกิจการกันช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการห้ามไม่ให้ควบรวมบริการสั่งอาหารหรือส่งอาหารในสิงคโปร์ หรือแม้แต่การห้ามไม่ให้สร้างผลกระทบที่สำคัญต่อความอยู่รอดของกิจการ foodpanda ในสิงคโปร์ ซึ่งอาจกระทบกับการแข่งขัน

แต่ในท้ายที่สุดดีลดังกล่าวได้ล่มลง โดย Niklas Östberg ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Delivery Hero ได้แถลงการณ์ยุติเจรจาซื้อขายธุรกิจในทวีปเอเชีย และมองว่าตลาดภูมิภาคนี้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2023 และบริษัทยังเชื่อว่าภูมิภาคนี้จะยังเป็นตลาดที่สร้างการเติบโตและกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง

และหลังจากดีลดังกล่าวล่มลง ทาง CCCS ก็ได้ยุติมาตรการคุ้มครองดังกล่าว ก่อนที่จะมีข่าวในการเตรียมสอบสวนดีล Grab และ Delivery Hero ในครั้งนี้ตามมา

ข้อมูลจาก Momentum Works ได้ชี้ว่า Grab และ foodpanda ได้ครองตลาดบริการส่งอาหารมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐรวมกันถึง 91% ซึ่งถ้าหากมีการควบรวมกิจการกันจริงหลายฝ่ายคาดว่าหน่วยงานกำกับดูแลของสิงคโปร์รายนี้อาจต้องออกมาขวางดีลดังกล่าวไว้ 

ที่มา – Reuters, The Strait Times

]]>
1468607
ข้อมูลเผย จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนอาเซียนช่วงตรุษจีน เกินระดับก่อนการแพร่ระบาดโควิดแล้ว https://positioningmag.com/1463485 Wed, 21 Feb 2024 07:21:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1463485 ข้อมูลจากหลายแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนท่องเที่ยวในอาเซียนช่วงตรุษจีน เกินช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิดแล้ว ขณะที่ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของชาวจีนก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกันแต่ยังไม่พ้นระดับสูงสุดในปี 2019

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ได้เข้ามาท่องเที่ยวรวมกันในทวีปเอเชียในช่วงวันตรุษจีนเกินจำนวนช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิดไปแล้ว และยังรวมถึงปริมาณการใช้จ่าย โดยเฉพาะจุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือแม้แต่ไทย

ข้อมูลจาก Trip.com ได้เผยว่า ปริมาณชาวจีนที่ได้จองทริปการเดินทางมายัง สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมถึงไทย ในช่วงวันที่ 10-17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด ในขณะที่ประเทศอื่นๆ อย่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ทางด้านข้อมูลการเช่ารถของนักท่องเที่ยวชาวจีนจาก Trip.com ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019

การจองห้องพักจากแพลตฟอร์มท่องเที่ยว LY.com ในช่วงวันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในไทยนั้นมีปริมาณการจองเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากนักท่องเที่ยวชาวจีน ขณะที่สิงคโปร์นั้นเพิ่มขึ้น 9 เท่า

ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายของชาวจีนอ้างอิงข้อมูลจาก Alipay นั้น ในไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมกันเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด และมากถึง 7 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2023 ที่ผ่านมา แต่ถ้าหากเทียบการใช้จ่ายรวมทั้งหมด ยังคิดเป็น 82% เมื่อเทียบกับช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน ได้เปิดเผยการเดินทางระหว่างประเทศ จีนมีการเดินทางเข้าและออกประมาณ 13.52 ล้านเที่ยว ซึ่งอยู่ระดับ 90% เมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด

ปัจจัยสำคัญนั้นมาจากการเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ที่มีฟรีวีซ่าก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว

ข่าวดีดังกล่าวถือเป็นมาในท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจแดนมังกรอาจพบกับปัญหาเงินฝืด 

]]>
1463485
‘ลี เซียนลุง’ แนะนำให้ชาวสิงคโปร์มีลูกเพิ่มต้อนรับปีมังกร ชี้ปีนี้เป็นปีที่ดี หลังอัตราการเกิดของทารกมีจำนวนน้อยลง https://positioningmag.com/1462167 Fri, 09 Feb 2024 07:06:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1462167 นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ได้ส่งข้ออวยพรประชาชนในช่วงตรุษจีน โดยมองว่าปีนี้ถือเป็นปีมังกรถือเป็นปีที่ดีตามความเชื่อของชาวจีน และเชิญชวนให้ประชาชนสิงคโปร์เพิ่มจำนวนประชากร หลังจากที่ตัวเลขการเกิดของทารกในสิงคโปร์ทำสถิติต่ำสุด แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการหลายอย่างออกมาแล้วก็ตาม

ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ได้ส่งข้ออวยพรประชาชนในช่วงตรุษจีน โดยมองว่าปีนี้ถือเป็นปีมังกรถือเป็นปีที่ดีตามความเชื่อของชาวจีน และเชิญชวนให้ประชาชนสิงคโปร์เพิ่มจำนวนประชากร หลังจากจำนวนการเกิดของทารกในสิงคโปร์ลดลง

นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ได้เขียนข้อความว่า “เนื่องจากครอบครัวชาวจีนจำนวนมากถือว่าเด็กที่เกิดในปีมังกรเป็น ฤกษ์ดีโดยเฉพาะ และปีนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับครอบครัวที่จะต้อนรับ “มังกรตัวน้อย” และคู่รักหนุ่มสาวที่ต้องการมีลูก ก็ถือว่าปีนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีเช่นกัน

โดยนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ยังกล่าวเสริมว่ามังกรเป็นสัญลักษณ์แห่งพลัง ความแข็งแกร่ง และโชคลาภ ซึ่งเป็นความเชื่อของคนจีนอีกด้วย

นอกจากนี้เขายังหวังว่าประชาชนชาวสิงคโปร์จะมีลูกมากขึ้น หรือแม้แต่การมีลูกไวขึ้น และเขากล่าวว่ารัฐบาลเตรียมออกโครงการ Singapore Made for Families และส่งเสริมให้ประชากรนั้นแต่งงานหรือมีบุตรเพิ่มมากขึ้น

อัตราการเกิดของชาวสิงคโปร์แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งข้อมูลล่าสุดในปี 2023 นั้นอยู่ที่ 1.04 เท่านั้น และนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ยังชี้ว่าปัญหากการเกิดของทารกในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งรวมถึงสิงคโปร์ถือว่ามีตัวเลขที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ

ในปี 2023 ที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกมาตรการจูงใจเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนมีลูก ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินพ่อแม่เป็นเงิน 11,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกคนแรกและคนที่สอง เพิ่มขึ้นจากเดิม 8,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ และให้สิทธิ์พ่อแม่สามารถลางานได้เพิ่มเติม

อย่างไรก็ดีมาตรการดังกล่าวอาจยังไม่จูงใจให้ชาวสิงคโปร์มีลูกเพิ่มมากนัก เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการมีลูกนั้นเพิ่มสูงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้นในปี 2023 ที่ผ่านมา

สาเหตุสำคัญที่ทำให้สิงคโปร์ต้องเร่งให้ประชากรมีบุตร หรือแม้แต่การออกมาตรการเชิญชวนให้คู่หนุ่มสาวมีบุตรเกิดจากผู้สูงอายุเริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาในหลายประเทศ และปัญหาดังกล่าวนั้นมีผล กระทบกับเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวได้

ที่มา – CNA, Government of Singapore

]]>
1462167
สิงคโปร์เตรียมขึ้นภาษีสินค้าและบริการเป็น 9% ให้เหตุผลจะได้มีงบประมาณรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต https://positioningmag.com/1457463 Fri, 29 Dec 2023 05:47:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457463 สิงคโปร์ประกาศเตรียมขึ้นภาษีสินค้าและบริการเป็น 9% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 เป็นต้นไป โดยการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวนั้นมีเหตุผลมาจากค่าใช้จ่ายทางสังคมเนื่องจากผู้สูงวัยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเตรียมขึ้นภาษีสินค้าและบริการเป็น 9% จากเดิมที่ 8% เพื่อที่จะรองรับกับค่าใช้จ่ายทางสังคมเนื่องจากผู้สูงวัยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลภายในวันที่ 1 มกราคมปี 2024 นี้ อย่างไรก็ดีมาตรการดังกล่าวฝ่ายค้านของสิงคโปร์ได้ออกความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว

เหตุผลในการปรับขึ้นนภาษีสินค้าและบริการจาก 8% เป็น 9% ก็คือ สิงคโปร์ต้องการเตรียมพร้อมสำหรับต้นทุนทางสังคม โดยเฉพาะต้นทุนทางด้านการสาธารณสุข ซึ่งสิงคโปร์กำลังจะมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 25% ของประเทศภายในปี 2030 สวนทางกับปัจจุบันอัตราการเกิดของทารกในสิงคโปร์ลดลง

Lawrence Wong ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ได้เคยเขียนบทความกล่าวถึงการเลื่อนขึ้นภาษีสินค้าและบริการนั้นเป็นการสร้างปัญหาในอนาคต และยังทำให้งบประมาณนั้นลดน้อยลงจากความต้องการในด้านการคลัง (ซึ่งเป็นผลมาจากสังคมผู้สูงอายุ)

ภาษีสินค้าและบริการในประเทศสิงคโปร์ไม่ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นมาแล้วยาวนานถึง 15 ปี ซึ่งภาษีดังกล่าวครอบคลุมสินค้าแทบจะทุกชนิด โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้เพิ่มภาษีดังกล่าวจาก 7% เพิ่มเป็น 8% ในปีนี้

การปรับขึ้นภาษีดังกล่าว ร้านค้าหลายร้านในสิงคโปร์ได้ประกาศไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า เช่น Fairprice ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ต จะรับภาระทางภาษีอีก 1% ไปอีกระยะหนึ่ง สำหรับสินค้า 500 ชนิด เช่น ข้าว หรือผักสด ฯลฯ หรือแม้แต่ร้านค้าในสนามบิน Changi ก็ใช้ปรับกลยุทธ์เพื่อป้องกันไม่ให้จำนวนลูกค้าลดลง รวมถึง IKEA เองเช่นกัน

แต่หลายร้านค้าเองที่ไม่สามารถแบกต้นทุนภาษีสินค้าและบริการ 9% ได้มีการออกโปรโมชั่นจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าในช่วงเวลาไม่กี่วันสุดท้ายของปี 2023

อย่างไรก็ดีฝ่ายค้านของสิงคโปร์ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในสิงคโปร์ยังถือว่าสูง และจะสร้างผลกระทบต่อประชาชน

ที่มา – Reuters, The Strait Times

]]>
1457463
‘สิงคโปร์’ และ ‘ซูริก’ ครองแชมป์เมืองค่าครองชีพแพงสุดในปี 2023 ส่วนกรุงเทพฯ ใกล้เคียงกับโอซาก้า https://positioningmag.com/1454075 Fri, 01 Dec 2023 02:50:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1454075 Economist Intelligence Unit หน่วยงานในนิตยสารชื่อดัง The Economist ได้ออกรายงานเมืองที่มีค่าครองชีพแพงสุดในปี 2023 ในปีนี้ ซูริก และ สิงคโปร์ ครองแชมป์ร่วมกัน ขณะที่ไทยนั้นมีค่าครองชีพใกล้เคียงกับเมืองโอซาก้าของญี่ปุ่นแล้ว

Economist Intelligence Unit หรือ EIU ได้เปิดเผยดัชนีค่าครองชีพในปี 2023 พบว่ายังเป็นอีกปีที่ทั่วโลกประสบปัญหาเงินเฟ้อที่ยังมีอัตราที่สูง โดยเมืองที่ครองแชมป์เมืองค่าครองชีพแพงสุดในปีนี้นั้นประกอบไปด้วยสิงคโปร์และซูริก ซึ่งมีค่าครองชีพแพงกว่านิวยอร์กซิตี้ด้วยซ้ำ

ในรายงานของ EIU ยังได้กล่าวถึงค่าเฉลี่ยของค่าครองชีพทั่วโลกกว่า 200 รายการนั้นได้เพิ่มขึ้น 7.4% ลดลงจาก 8.1% ในปี 2022 ที่ผ่านมา แต่แนวโน้มดังกล่าวยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2017-2021

เมืองที่มีค่าครองชีพแพงสุดจากรายงานของ EIU

  1. ซูริก และ สิงคโปร์ (มีคะแนนเท่ากัน)
  2. เจนีวา และ นิวยอร์ก (มีคะแนนเท่ากัน)
  3. ฮ่องกง
  4. ลอสแอนเจลิส
  5. ปารีส
  6. เทลอาวีฟ
  7. โคเปนเฮเกน
  8. ซานฟรานซิสโก

ปัญหาค่าครองชีพที่สูงยังทำให้สิงคโปร์อัตราการเกิดของประชากรลดต่ำลง แม้ว่ารัฐบาลต้องออกมาตรการส่งเสริมให้คนมีลูก แต่ก็ยังไม่จูงใจทำให้ชาวสิงคโปร์เท่าไหร่นัก

สิงคโปร์ถือว่าติดอันดับเมืองค่าครองชีพแพงสุดของ EIU มาแล้ว 9 ครั้งในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา รวมถึงในปี 2022 ที่ผ่านมา EIU ยังจัดอันดับให้สิงคโปร์เป็นเมืองที่ ค่าครองชีพแพงที่สุด โดยครองตำแหน่งสูงสุดร่วมกับนิวยอร์กซิตี้อีกด้วย

ไม่เพียงแค่ค่าครองชีพที่สูงเท่านั้นแต่ในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด สิงคโปร์ถือว่าเป็นอีกประเทศที่มีค่าเช่ารวมถึงราคาบ้านที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากด้วย

นอกจากนี้ปัญหาค่าครองชีพซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับตัวเลขของอัตราเงินเฟ้อยังทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกนั้นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะปราบตัวเลขเงินเฟ้อให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติให้ได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวในรายงานของ EIU ชี้ว่าส่งผลทำให้หลายเมืองนั้นมีอันดับตกลงมา เช่น นิวยอร์กซิตี้

สำหรับประเทศไทยนั้น EIU ได้รายงานว่าเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครนั้นมีค่าครองชีพใกล้เคียงกับเมืองโอซาก้าของญี่ปุ่น ขณะเดียวกันเมืองใหญ่ของไทยอย่างเชียงใหม่นั้นมีค่าครองชีพใกล้เคียงกับกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย หรือแม้แต่นครฉ่งชิ่งของประเทศจีน

]]>
1454075
สิงคโปร์จับมืออินโดนีเซีย รวมถึงมาเลเซีย เปิดตัวระบบโอนเงินข้ามประเทศผ่าน QR Code รับเงินได้ทันที https://positioningmag.com/1452362 Sun, 19 Nov 2023 10:20:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452362 ธนาคารกลางสิงคโปร์และธนาคารกลางอินโดนีเซีย รวมถึงธนาคารกลางมาเลเซีย ได้จับมือเชื่อมต่อระบบระบบโอนเงินข้ามประเทศผ่าน QR Code ระหว่างกัน ทำให้ประชาชนสามารถรับเงินได้ทันที ส่งเสริมการทำธุรกิจระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น

ธนาคารกลางสิงคโปร์และธนาคารกลางอินโดนีเซีย รวมถึงธนาคารกลางมาเลเซีย ได้ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า ประชาชนของทั้ง 3 ประเทศจะสามารถโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน QR Code และสามารถรับเงินได้ทันที ซึ่งส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น

ธนาคารกลางสิงคโปร์ ได้ประกาศว่านับตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ประชาชนของมาเลเซีย รวมถึงอินโดนีเซียสามารถโอนเงินผ่านระบบ QR Code ของแต่ละประเทศ

โดยผู้ใช้ระบบ PayNow ของสิงคโปร์สามารถโอนเงินไปยังผู้ใช้งานระบบ DuitNow ของมาเลเซียทั้งไปและกลับ อย่างไรก็ดีจะมีจำกัดการโอนเงินวันละ 1,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือ 3,000 ริงกิตมาเลเซีย แถลงการณ์ของธนาคารกลางสิงคโปร์และมาเลเซีย ชี้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยให้การโอนเงินและการโอนเงินระหว่างบุคคลระหว่างทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และคุ้มค่า

ทางด้านฝั่งของชาวสิงคโปร์และอินโดนีเซียจะโอนเงินหากันผ่านระบบ QRIS ของอินโดนีเซียไปยัง NETS QR ของสิงคโปร์ได้ทั้งไปและกลับได้เช่นกัน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางอินโดนีเซีย และ ธนาคารกลางสิงคโปร์ประกาศถึงการเชื่อมโยงระบบดังกล่าว

ในแถลงการแยกระหว่างสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ชี้ว่าการเชื่อมโยงการชำระเงินผ่าน QR ข้ามพรมแดนถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามของทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อส่งเสริมการบูรณาการเศรษฐกิจดิจิทัลและระบบนิเวศทางการเงินให้มากขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศดังกล่าว

ในปี 2022 ผู้ว่าการธนาคารกลาง 5 ประเทศ ประกอบด้วยอินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ได้เซ็นหนังสือบันทึกข้อตกลงที่จะทำให้การโอนเงินไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ สถาบันการเงิน ไปจนถึงประชาชนทั่วไปของ 5 ประเทศนั้นทำได้ง่ายขึ้นในการประชุม G20 ที่อินโดนีเซีย

การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินล่าสุดครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระแสในหลายประเทศในเอเชียที่มีการโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความนิยมในการใช้ QR Code ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งลดเวลาการแลกเงินของประชาชนของ 3 ประเทศดังกล่าว และยังเพิ่มความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน

ที่มา – MAS [1], [2]

]]>
1452362
Grab รายงานผลประกอบการล่าสุด กระแสเงินสดกลับมาเป็นบวกครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งกิจการ https://positioningmag.com/1451341 Fri, 10 Nov 2023 03:39:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451341 Grab รายงานผลประกอบการล่าสุดในไตรมาส 3 ของปี 2023 บริษัทมีกระแสเงินสดกลับมาเป็นบวกครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งกิจการอยู่ที่ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าในปีนี้กระแสเงินสดของบริษัทจะติดลบน้อยลงกว่าที่คาดไว้

Grab รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 ของปี 2023 โดยบริษัทมีกระแสเงินสดถึง 29 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นกระแสเงินสดเป็นบวกครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งกิจการ ซึ่งถือเป็นสัญญาณของบริษัทเทคโนโลยีในอาเซียนว่าบริษัทสามารถเข้าสู่เส้นทางของการทำกำไรได้จริง ๆ

ยอดขายสินค้าออนไลน์รวม หรือ GMV ของ Grab ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 5,341 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตจากปีที่ผ่านมา 5% ส่งผลทำให้รายได้รวมของบริษัทนั้นอยู่ที่ 615 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตมากถึง 61% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากปัจจัยรายได้ของธุรกิจการส่งอาหารที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา Grab ยังรายงานว่าผู้ใช้งานทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มนั้นทำสถิติสูงสุดใหม่คือ 36 ล้านคน

กระแสเงินสดที่กลับมาบวก 29 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้ปัจจัยมากจากธุรกิจส่งอาหารเป็นหลัก รองลงมาคือธุรกิจขนส่ง และบริการทางการเงิน ตามลำดับ

Peter Oey ประธานฝ่ายบริหารการเงินของ Grab ยังกล่าวว่า GMV ของธุรกิจส่งอาหารและธุรกิจขนส่งนั้นคาดว่าจะกลับมามีรายได้เท่ากับช่วงก่อนโควิดได้ภายในสิ้นปีนี้ได้

อย่างไรก็ดีในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานี้ Grab ยังขาดทุนจากการดำเนินงาน 99 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทขาดทุนมากถึง 342 ล้านเหรียญสหรัฐ

เป้าหมายของบริษัทที่วางไว้ในปีนี้คือรายได้ของบริษัทจะอยู่ในช่วง 2,310-2,330 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ขณะที่กระแสเงินสดของบริษัททั้งปี 2023 จะติดลบอยู่ในช่วง 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐ ดีกว่าคาดการณ์ครั้งก่อน

]]>
1451341
ปรากฏการณ์ Taylor Swift ส่งผลให้ UOB ได้ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 89% ในไตรมาสที่ผ่านมา https://positioningmag.com/1449401 Thu, 26 Oct 2023 10:20:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1449401 คอนเสิร์ตของ Taylor Swift ที่จัดในประเทศสิงคโปร์ ได้สร้างผลดีกับสถาบันการเงินอย่าง UOB เมื่อรายได้ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 89% ในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากเหล่าแฟนคลับแห่กันสมัครและใช้งานบัตรเครดิตเพื่อที่จะจองตั๋วคอนเสิร์ต

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวว่า UOB สถาบันการเงินในสิงคโปร์ ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยรายได้ค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิตของสถาบันการเงินรายดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากถึง 89% เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา และยังทำสถิติใหม่ด้วย

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตของ UOB เพิ่มมากขึ้นก็คือ ผลจากปรากฏการณ์คอนเสิร์ตของ Taylor Swift ที่จัดในประเทศสิงคโปร์ ทำให้เหล่าแฟนคลับแห่กันสมัครบัตรเครดิตในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากสิทธิพิเศษของผู้ถือบัตรคือสามารถที่จะจองตั๋วคอนเสิร์ตได้ก่อนใคร

ปกติแล้วรายได้ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตคิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้รวมทั้งหมดของ UOB แต่ปรากฏการณ์คอนเสิร์ตของ Taylor Swift ที่จัดในประเทศสิงคโปร์ส่งผลทำให้ไตรมาสที่ผ่านมารายได้นั้นทะลุเป้าเกือบ 20% ของรายได้รวมทั้งหมด

ไม่ใช่แค่ Taylor Swift เท่านั้น ล่าสุดทาง UOB ได้จับมือกับผู้จัดคอนเสิร์ต Ed Sheeran ในการให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ถือบัตรเครดิตของสถาบันการเงินรายนี้สามารถซื้อตั๋วคอนเสิร์ตได้ก่อนใครด้วย

Wee Ee Cheong ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของ UOB ได้กล่าวว่า ถ้าคุณมีบัตรเครดิตของ UOB ก็ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบเล็กๆ น้อยๆ และจะมีอีกมากมายตามมาในภายหลังอย่างเช่น คอนเสิร์ตของ Ed Sheeran ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกัน (กับคอนเสิร์ตของ Taylor Swift)

]]>
1449401
เชนร้านกาแฟ Flash Coffee ประกาศปิดสาขาในสิงคโปร์ทั้งหมด ชี้แจงไม่ได้ถูกพนักงานสไตรค์แต่อย่างใด https://positioningmag.com/1448041 Sun, 15 Oct 2023 14:12:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1448041 เชนร้านกาแฟอย่าง แฟลช คอฟฟี่ (Flash Coffee) ได้ปิดธุรกิจในประเทศสิงคโปร์ลง ซึ่งมีทั้งหมด 11 สาขา โดยให้เหตุผลว่าบริษัทต้องการที่จะโฟกัสกับตลาดอื่น ไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่พนักงานนัดหยุดงานแต่อย่างใด

Flash Coffee ธุรกิจเชนร้านกาแฟซึ่งมีสาขาในหลายประเทศ ล่าสุดบริษัทได้ปิดธุรกิจในประเทศสิงคโปร์ลง ไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่พนักงานนัดหยุดงานแต่อย่างใด ขณะที่ธุรกิจตามประเทศอื่นๆ ยังมีการดำเนินงานตามปกติ โดยบริษัทต้องการที่จะโฟกัสกับตลาดอื่น

โดยล่าสุดสื่อในประเทศสิงคโปร์อย่าง Channel News Asia ได้ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านบัญชีและบริษัทพบว่า Flash Coffee ในสิงคโปร์กำลังอยู่ในขั้นตอนการทำเรื่องยกเลิกบริษัทและชำระบัญชี

ปัจจุบัน Flash Coffee มีสาขาในสิงคโปร์ 11 สาขา จากเดิมในปี 2021 บริษัทมีสาขาในสิงคโปร์มากถึง 30 สาขา

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Flash Coffee สาขา Jurong Point ได้ติดประกาศในสาขาว่าพนักงานได้ประกาศนัดหยุดงานเนื่องจากไม่ได้รับเงินเดือน โดยสหภาพพันธมิตรด้านแรงงานอาหาร เครื่องดื่ม ของสิงคโปร์ (FDAWU) ได้กล่าวว่าพนักงานของเชนร้านกาแฟดังกล่าวค้างชำระเงินเดือนพนักงานสัดส่วน 75% ในเดือนกันยายน และค่าจ้างจนถึงวันที่ 12 ตุลาคม รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ อย่างวันลา รวมอยู่ด้วย

เชนร้านกาแฟดังกล่าวได้ก่อตั้งในปี 2020 โดย เดวิด บรูเนียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเซบาสเตียน ฮานเน็คเกอร์ โดยต้องการเจาะตลาดชนชั้นกลางในหลายตลาด และใช้โมเดล “แกรบ แอนด์ โก” ซึ่งเป็นโมเดลที่ประหยัดต้นทุนของร้าน

เชนร้านกาแฟรายนี้ ได้เม็ดเงินลงทุน Series A มาแล้ว 15 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2021 ในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมาบริษัทได้ปลดพนักงานจำนวนหนึ่งในประเทศสิงคโปร์

ต่อมาในปี 2023 เมื่อเดือนมีนาคมบริษัทได้ปิดธุรกิจในไต้หวัน ก่อนที่บริษัทจะได้เงินลงทุนใน Series B จากนักลงทุนหลายราย รวมถึงผู้ลงทุนเดิม เช่น Delivery Hero หรือแม้แต่ DX Ventures อีก 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนพฤษภาคม ก่อนที่ในช่วงปลายเดือนกันยายนมีรายงานข่าวจาก DealStreet Asia ว่าเชนร้านกาแฟรายดังกล่าวเริ่มลดขนาดธุรกิจลงมา และล่าสุดคือการปิดธุรกิจในสิงคโปร์

อย่างไรก็ดีการดำเนินงานของ Flash Coffee ในสาขาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในไทย อินโดนีเซีย ฮ่องกง ยังมีการดำเนินการตามปกติ ซึ่งในประเทศไทยนั้นข้อมูลล่าสุดจากแอปพลิเคชั่นมีสาขาทั้งสิ้น 55 สาขา จากสาขารวมกันทั้งหมดราวๆ 200 สาขา

ที่มา – CNA, South China Morning Post

]]>
1448041