Malaysia – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 25 Jun 2024 13:03:46 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 CEO คนใหม่ของ AirAsia Aviation เผย “ตั๋วเครื่องบินยังราคาแพงต่อไป จากความต้องการท่องเที่ยวที่ยังสูง” https://positioningmag.com/1479582 Tue, 25 Jun 2024 10:02:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1479582 โบ ลินกัม (Bo Lingam) CEO คนใหม่ของ AirAsia Aviation ซึ่งเป็นการรวมกิจการของ AirAsia และ AirAsia X อยู่ใต้ชายคนเดียวกัน กล่าวว่า ตั๋วเครื่องบินยังราคาแพงต่อไป จากความต้องการท่องเที่ยวที่ยังสูง โดยตัวเลขปริมาณความจุผู้โดยสารต่อเที่ยวเฉลี่ยของสายการบินนั้นอยู่ที่ 90% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

Bo Lingam ซึ่งเป็น CEO คนใหม่ของ AirAsia Aviation ซึ่งเป็นการรวมสายการบินของกลุ่มแอร์เอเชีย ไม่ว่าจะเป็น AirAsia และ AirAsia X ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าว Bloomberg ว่า ตั๋วเครื่องบินจะยังมีราคาแพงต่อไป จากความต้องการท่องเที่ยวที่ยังสูง

แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิดจะผ่านไปแล้ว แต่ราคาตั๋วเครื่องบินนั้นกลับยังไม่มีราคาลดลงแต่อย่างใด โดยเขาชี้ว่าปัจจัยนั้นมาจากความต้องการท่องเที่ยวที่ยังสูง ซึ่งปริมาณความจุผู้โดยสารต่อเที่ยวเฉลี่ยของ AirAsia Aviation นั้นมากถึง 90% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าสมัยก่อนการแพร่ระบาดของโควิดด้วยซ้ำ

เขาชี้ว่านักท่องเที่ยวอาจต้องรอถึงปี 2025 ที่ราคาตั๋วเครื่องบินลดลงเล็กน้อย เนื่องจากราคาน้ำมันเครื่องบินลดลง รวมถึงปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น

ไม่เพียงเท่านี้เขายังชี้ว่าในอนาคต ต้นทุนในการดำเนินการสายการบินจะลดลงมากถึง 25-30% เนื่องจากเครื่องบินลำตัวแคบรุ่นใหม่สามารถบินได้ไกลมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องบินจาก Airbus ในรุ่น A321 LR และ A321 XLR ซึ่งมีความจุผู้โดยสารราวๆ 240 ที่นั่ง ทำให้สายการบินไม่ต้องแบกต้นทุนถ้าหากผู้โดยสารไม่เต็มลำ เมื่อเทียบกับเครื่องบินขนาดใหญ่ความจุ 500 ที่นั่ง

ภาพจาก Shutterstock

หลายคนอาจสงสัยว่า CEO คนใหม่ของ AirAsia Aviation นั้นเป็นใคร แต่จริงๆ แล้ว Bo Lingam ทำงานร่วมกับ Tony Fernandes มายาวนานระดับหลายสิบปีแล้ว และเขายังกล่าวว่าแนวทางที่ผู้ก่อตั้งสายการบินรายนี้ได้วางไว้ เขาจะไม่เข้าไปเปลี่ยนแปลง

AirAsia Aviation เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสายการบิน ซึ่งนำธุรกิจ AirAsia และ AirAsia X มารวมไว้ภายในชายคาเดียวกัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากมีการปรับโครงสร้างของกลุ่ม AirAsia ครั้งใหญ่ในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด

สำหรับ Tony Fernandes ได้กลายเป็นผู้บริหารของ Capital A ซึ่งดูแลธุรกิจของกลุ่ม AirAsia Aviation อีกที โดยเขาเองได้เปรยกับสื่อหลายครั้งว่าจะมีการวางมือในช่วง 5 ปีนี้ และหน้าที่ของเขาหลังวางมือคือการเป็นที่ปรึกษาของบริษัท

CEO คนใหม่ของ AirAsia Aviation ยังเผยว่าบริษัทกำลังเริ่มต้นพูดคุยถึงการตั้งสายการบิน AirAsia ในเวียดนาม หลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จหลายประเทศในอาเซียน รวมถึงประเทศไทย ซึ่งล่าสุดสายการบินราคาประหยัดรายนี้ได้เปิดตัว AirAsia ในประเทศกัมพูชาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน CEO คนใหม่ของ AirAsia Aviation ยังกล่าวว่าตัวเขาเองนั้นจะอยู่ในตำแหน่งนี้เพียง 5 ปี และเขาตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ของเขาให้กับรอง CEO ทั้ง 2 คน ได้แก่ Chester Voo และ Farouk Kamal ซึ่งทั้ง 2 คนนี้คาดว่าจะเป็นผู้สืบต่อตำแหน่งจากเขา

]]>
1479582
บริษัทแม่ AirAsia ที่มาเลเซีย ปรับโครงสร้างเตรียมควบกิจการ AirAsia X เป็นกิจการเดียว เตรียมระดมทุนเพิ่ม https://positioningmag.com/1471340 Mon, 29 Apr 2024 10:49:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1471340 Capital A บริษัทแม่ AirAsia ที่มาเลเซีย ได้ปรับโครงสร้างโดยที่จะเตรียมควบกิจการ AirAsia X กับ AirAsia เป็นกิจการเดียว เพื่อความสะดวกในการบริหาร และบริษัทยังมีแผนที่จะเตรียมระดมทุนเม็ดเงินเพิ่มเติมด้วย

Capital A บริษัทแม่ของสายการบินราคาประหยัดอย่างแอร์เอเชีย (AirAsia) ได้ปรับโครงสร้างกิจการอีกครั้ง โดยจะมีการควบรวมกิจการของ AirAsia และ AirAsia X ให้เป็นกิจการเดียว นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะระดมทุนเพิ่มเติม เพื่อที่จะใช้ในการดำเนินธุรกิจด้วย

การปรับโครงสร้างดังกล่าวจะทำให้ AirAsia และ AirAsia X เป็นกิจการใต้ชายคาเดียวกัน ตามแผนที่บริษัทได้แจ้งไว้ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งแตกต่างกับในอดีตที่ทั้ง 2 บริษัทนั้นมีแผนการดำเนินธุรกิจคนละรูปแบบ โดย AirAsia เองจะเน้นเส้นทางการบินระยะสั้น ขณะที่ AirAsia X เน้นการบินระยะยาว

ไม่เพียงเท่านี้การควบรวมกิจการยังทำให้บริษัทโอนเครื่องบินที่สั่งจองไว้จาก Capital A มากถึง 362 ลำ มาเป็นของบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการนี้ด้วย และบริษัทใหม่ที่ควบรวมกิจการสายการบินราคาประหยัดทั้ง 2 รายยังมีแผนที่จะระดมทุนเพิ่มด้วย

ปัจจุบันสายการบินราคาประหยัดรายนี้มีฝูงบินมากกว่า 200 ลำ ซึ่งให้บริการกับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่เดินทางในอาเซียน และยังสามารถเดินทางไปยังประเทศอื่นในทวีปเอเชียอีกหลายเส้นทาง รวมถึง ออสเตรเลีย เป็นต้น

Tony Fernandes ซึ่งเป็น CEO ของ Capital A ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวใน Linkedin ของเขาว่า การควบรวมกิจการของ 2 สายการบินจะทำให้ AirAsia กลายเป็นสายการบินราคาประหยัดรายใหญ่ของทวีปเอเชีย ขณะเดียวกันการควบรวมกันยังทำให้มีเครื่องบินไซส์เดียวที่สามารถลงจอดสนามบินขนาดเล็กได้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสตามเมืองรองต่างๆ ส่งผลทำให้ค่าการเดินทางลดลง 30%

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเขาได้กล่าวเสริมเรื่องดังกล่าวว่า เมื่อโควิดมา สิ่งใดที่ไม่ฆ่าคุณ จะทำให้คุณกลับมาแข็งแกร่งขึ้นได้ เราไม่เคยยอมแพ้และวันนี้เรากำลังแสดงให้เห็นว่าเราจะแข็งแกร่งขึ้น

ปัจจุบันรายได้หลักของ Capital A ยังมาจากสายการบิน AirAsia ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 75% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท ขณะที่รายได้อื่นๆ นั้นมาจาก โลจิสติกส์ บริการโทรศัพท์มือถือ ประกันภัย ไปจนถึงบริการผ่าน SuperApp ของบริษัท

นอกจากนี้หัวเรือใหญ่ของ Capital A เองยังกล่าวว่า เขาพยายามที่จะทำให้อัตราส่วนทางการเงินกลับมาเป็นบวกให้ได้ หลังจากที่บริษัทประสบปัญหาขาดทุนซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์มองว่าผลประกอบการของบริษัทจะกลับมาเป็นบวกได้ในปีนี้

]]>
1471340
มาเลเซียตั้งเป้าเป็น ‘ศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค’ ภายในปี 2030 ดึงดูดสตาร์ทอัพหรือแม้แต่บริษัทเทคฯ เข้ามาลงทุนในประเทศ https://positioningmag.com/1470683 Tue, 23 Apr 2024 08:14:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470683 มาเลเซียเตรียมที่จะตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาคภายในปี 2030 ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการดึงดูดสตาร์ทอัพหรือแม้แต่บริษัทเทคฯ ต่างๆ เข้ามาลงทุนในประเทศ รวมถึงการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจในประเทศ

Anwar Ibrahim นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ได้กล่าวในงาน KL20 Summit ว่า มาเลเซียต้องการที่จะตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค และต้องการที่จะติด 1 ใน 20 ประเทศในดัชนี Global Start-up Ecosystem ภายในปี 2030 ให้ได้

แผนการดังกล่าวนั้นมีทั้งการที่จะปั้นให้มาเลเซียที่จากเดิมเป็นแหล่งสำหรับทดสอบและทำแพ็กเกจจิ้งชิป และมีส่วนแบ่งในอุตสาหกรรมมากถึง 13% ให้กลายเป็นแหล่งสำหรับออกแบบชิป ซึ่งการออกแบบชิปถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงมากกว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งพื้นที่สำหรับการออกแบบชิปโดยเฉพาะ

โดยสำหรับพื้นที่สำหรับการออกแบบชิป นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ได้กล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียได้พูดคุยกับบริษัทออกแบบชิประดับโลกอย่าง Arm ในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

สำหรับการให้ความช่วยเหลือสตาร์ทอัพที่ตั้งธุรกิจในมาเลเซีย รัฐบาลได้วางแผนทั้งการให้ข้อมูลทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โอกาสในการหาลูกค้า การให้ความช่วยเหลือในเรื่องของวีซ่า หรือแม้แต่การให้ความรู้ในเรื่องการระดมทุน

นายกรัฐมนตรีของยังเชิญชวนให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มาลงทุนในประเทศ และยังกล่าวเสริมว่ากองทุนที่ลงทุนในสตาร์ทอัพทั่วโลก หรือ Venture Capital มากถึง 12 แห่งเตรียมที่จะตั้งสำนักงานในประเทศ เพื่อที่จะสร้างระบบนิเวศขึ้นให้ได้

ไม่เพียงเท่านี้กองทุนความมั่งคั่งของมาเลเซียอย่าง Khazanah Nasional เตรียมเม็ดเงินมากถึง 1,000 ล้านริงกิต เพื่อที่จะลงทุนในบริษัทมาเลเซียที่มีการเติบโตสูงและมีนวัตกรรมทันสมัยด้วย

Rafizi Ramli รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของมาเลเซียยังกล่าวเสริมในเรื่องของแผนการของมาเลเซียในครั้งนี้ว่า มาเลเซียต้องการที่จะดึงดูดสตาร์ทอัพจากทั่วโลก บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ รวมถึงแรงงานทักษะสูง ซึ่งจะสร้างตำแหน่งงานทักษะสูงในอนาคต โดยตั้งเป้าว่าตำแหน่งงานดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ยังรวมถึงการให้วีซ่าระยะยาวแก่เจ้าของบริษัทสตาร์ทอัพ การให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี เพื่อที่จะทำให้มาเลเซียกลายเป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาคให้ได้

ที่มา – Malay Mail, Reuters

]]>
1470683
ข้อมูลเผย จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนอาเซียนช่วงตรุษจีน เกินระดับก่อนการแพร่ระบาดโควิดแล้ว https://positioningmag.com/1463485 Wed, 21 Feb 2024 07:21:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1463485 ข้อมูลจากหลายแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนท่องเที่ยวในอาเซียนช่วงตรุษจีน เกินช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิดแล้ว ขณะที่ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของชาวจีนก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกันแต่ยังไม่พ้นระดับสูงสุดในปี 2019

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ได้เข้ามาท่องเที่ยวรวมกันในทวีปเอเชียในช่วงวันตรุษจีนเกินจำนวนช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิดไปแล้ว และยังรวมถึงปริมาณการใช้จ่าย โดยเฉพาะจุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือแม้แต่ไทย

ข้อมูลจาก Trip.com ได้เผยว่า ปริมาณชาวจีนที่ได้จองทริปการเดินทางมายัง สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมถึงไทย ในช่วงวันที่ 10-17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด ในขณะที่ประเทศอื่นๆ อย่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ทางด้านข้อมูลการเช่ารถของนักท่องเที่ยวชาวจีนจาก Trip.com ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019

การจองห้องพักจากแพลตฟอร์มท่องเที่ยว LY.com ในช่วงวันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในไทยนั้นมีปริมาณการจองเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากนักท่องเที่ยวชาวจีน ขณะที่สิงคโปร์นั้นเพิ่มขึ้น 9 เท่า

ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายของชาวจีนอ้างอิงข้อมูลจาก Alipay นั้น ในไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมกันเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด และมากถึง 7 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2023 ที่ผ่านมา แต่ถ้าหากเทียบการใช้จ่ายรวมทั้งหมด ยังคิดเป็น 82% เมื่อเทียบกับช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน ได้เปิดเผยการเดินทางระหว่างประเทศ จีนมีการเดินทางเข้าและออกประมาณ 13.52 ล้านเที่ยว ซึ่งอยู่ระดับ 90% เมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด

ปัจจัยสำคัญนั้นมาจากการเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ที่มีฟรีวีซ่าก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว

ข่าวดีดังกล่าวถือเป็นมาในท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจแดนมังกรอาจพบกับปัญหาเงินฝืด 

]]>
1463485
สื่อมาเลเซียเผย Tony Fernandes เตรียมวางมือจากบริษัทแม่ของสายการบิน AirAsia ภายใน 5 ปี https://positioningmag.com/1457873 Sun, 07 Jan 2024 16:41:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457873 สื่อมาเลเซียได้สัมภาษณ์พิเศษ Tony Fernandes เตรียมวางมือจาก Capital A บริษัทแม่ของสายการบิน AirAsia ภายใน 5 ปี และจะหันไปเป็นที่ปรึกษาของบริษัท หลังจากในปี 2023 ที่ผ่านมา เขาได้กล่าวว่ามีแผนที่จะลงจากตำแหน่ง และกำลังหาผู้สืบทอดกิจการต่อจากตัวเขา

The Star สื่อมาเลเซียได้สัมภาษณ์พิเศษ Tony Fernandes ซึ่งเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Capital A ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินราคาประหยัดอย่างแอร์เอเชีย (AirAsia) เขาได้กล่าวว่ามีแผนที่จะทำงานและวางแผนเตรียมที่จะวางมือภายใน 5 ปีนี้

เขากล่าวกับสื่อมาเลเซียว่า ในปี 2024 นี้จะเป็นช่วง 5 ปีสุดท้ายของเขา และแผนการของผู้ก่อตั้ง Capital A คือต้องการให้สายการบินอย่าง AirAsia กลับมามีกำไรอีกครั้ง หลังประสบกับช่วงเวลายากลำบาก

ปัจจุบันรายได้หลักของ Capital A ยังมาจากสายการบินราคาประหยัด ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 75% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท ขณะที่รายได้อื่นๆ นั้นมาจาก โลจิสติกส์ บริการโทรศัพท์มือถือ ประกันภัย ไปจนถึงบริการผ่าน SuperApp ของบริษัท

ก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวว่าต้องการให้บริษัทนั้นมีรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่การบินมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีหลังจากนี้ และยังได้เปรยว่ามีแผนจะลงจากตำแหน่ง (โดยไม่ได้บอกระยะเวลา) และบริษัทกำลังหาผู้สืบทอดธุรกิจต่อจากตัวเขา

สอดคล้องกับ Vivek Sasheendran ผู้เชี่ยวชาญในการพลิกฟื้นกิจการจาก Vad Capital ในมาเลเซีย ได้กล่าวกับ The Sun สื่อมาเลเซียอีกแห่งว่า แผนการในการหารายได้ในส่วนอื่นของ Tony Fernandes ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งบริษัทมีฐานข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก หรือแม้แต่กลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้ผล และยังมีเครือข่าย (ของสายการบิน) ทั่วทั้งอาเซียน

ข้อมูลของ S&P Captial IQ ที่รวมคาดการณ์ข้อมูลของนักวิเคราะห์ คาดว่าผลดำเนินการปี 2023 Capital A จะยังขาดทุนราวๆ 205 ล้านริงกิตมาเลเซีย และบริษัทจะกลับมามีกำไรที่ 434 ล้านริงกิตในปีนี้

หลังจากนี้หัวเรือใหญ่ของ Capital A กล่าวว่าตัวเขาจะไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาของบริษัท

]]>
1457873
ไม่ใช่แค่ไทย มาเลเซียเปิดฟรีวีซ่า 30 วันให้กับนักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย ดึงรายได้เข้าประเทศ https://positioningmag.com/1453376 Sun, 26 Nov 2023 16:57:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1453376 มาเลเซียเปิดฟรีวีซ่า 30 วันให้กับนักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย รวมถึงประเทศชาติอาหรับอื่นๆ เพื่อที่จะดึงรายได้เข้าประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียให้เหตุผลว่ามองเห็นโอกาสสำคัญจากนักท่องเที่ยวที่อยู่นอกอาเซียน 

อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ได้ประกาศเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจากจีน รวมถึงอินเดีย โดยเป้าหมายคือต้องการให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้เข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงมีแผนที่จะดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาในประเทศอีกด้วย

นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียได้ให้เหตุผลของมาตรการฟรีวีซ่าดังกล่าวว่ามองเห็นโอกาสของนักท่องเที่ยวจากนอกอาเซียนที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาลมาเลเซียนั้นคาดว่าในปี 2023 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าประเทศมากถึง 25 ล้านราย

ไม่เพียงเท่านี้นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียยังกล่าวถึงการเปิดฟรีวีซ่ากับประเทศจีนเพื่อฉลองความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศที่กำลังจะครบรอบ 50 ปีในช่วงปี 2024 นี้อีกด้วย

เขายังชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ นั้นช่วยทำให้ภาคธุรกิจมาลงทุนในมาเลเซียเพิ่มมากขึ้นด้วย

มาตรการฟรีวีซ่าเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวนั้นไม่ใช่แค่มาเลเซีย หรือไทย เท่านั้นที่งัดมาตรการดังกล่าวออกมา ในช่วงปลายเดือนที่ตุลาคมที่ผ่านมาประเทศรีลังกาได้ออกมาตรการฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน อินเดีย รัสเซีย เพื่อที่จะดึงดูดรายได้เข้าประเทศเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันทางด้านของฝั่งจีนเองก็ได้เปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวของมาเลเซียสามารถท่องเที่ยวในประเทศจีนได้ยาวถึง 15 วัน

ปัจจุบันมาเลเซียมีนักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซีย รวมถึงสิงคโปร์ เป็นสัดส่วนมากที่สุด แต่ถ้าหากเป็นนักท่องเที่ยวนอกอาเซียนแล้ว นักท่องเที่ยวชาวจีนถือว่ามีสัดส่วนมากที่สุด

โดยมาตรการฟรีวีซ่าดังกล่าวนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป นอกจากอินเดีย และจีนแล้ว มาเลเซียยังจะเปิดฟรีวีซ่าให้กับประเทศกลุ่มอาหรับ เช่น จอร์แดน รวมถึงตุรกี เช่นกัน

ที่มา – Malay Mail, The Strait Times

]]>
1453376
สิงคโปร์จับมืออินโดนีเซีย รวมถึงมาเลเซีย เปิดตัวระบบโอนเงินข้ามประเทศผ่าน QR Code รับเงินได้ทันที https://positioningmag.com/1452362 Sun, 19 Nov 2023 10:20:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452362 ธนาคารกลางสิงคโปร์และธนาคารกลางอินโดนีเซีย รวมถึงธนาคารกลางมาเลเซีย ได้จับมือเชื่อมต่อระบบระบบโอนเงินข้ามประเทศผ่าน QR Code ระหว่างกัน ทำให้ประชาชนสามารถรับเงินได้ทันที ส่งเสริมการทำธุรกิจระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น

ธนาคารกลางสิงคโปร์และธนาคารกลางอินโดนีเซีย รวมถึงธนาคารกลางมาเลเซีย ได้ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า ประชาชนของทั้ง 3 ประเทศจะสามารถโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน QR Code และสามารถรับเงินได้ทันที ซึ่งส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น

ธนาคารกลางสิงคโปร์ ได้ประกาศว่านับตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ประชาชนของมาเลเซีย รวมถึงอินโดนีเซียสามารถโอนเงินผ่านระบบ QR Code ของแต่ละประเทศ

โดยผู้ใช้ระบบ PayNow ของสิงคโปร์สามารถโอนเงินไปยังผู้ใช้งานระบบ DuitNow ของมาเลเซียทั้งไปและกลับ อย่างไรก็ดีจะมีจำกัดการโอนเงินวันละ 1,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือ 3,000 ริงกิตมาเลเซีย แถลงการณ์ของธนาคารกลางสิงคโปร์และมาเลเซีย ชี้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยให้การโอนเงินและการโอนเงินระหว่างบุคคลระหว่างทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และคุ้มค่า

ทางด้านฝั่งของชาวสิงคโปร์และอินโดนีเซียจะโอนเงินหากันผ่านระบบ QRIS ของอินโดนีเซียไปยัง NETS QR ของสิงคโปร์ได้ทั้งไปและกลับได้เช่นกัน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางอินโดนีเซีย และ ธนาคารกลางสิงคโปร์ประกาศถึงการเชื่อมโยงระบบดังกล่าว

ในแถลงการแยกระหว่างสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ชี้ว่าการเชื่อมโยงการชำระเงินผ่าน QR ข้ามพรมแดนถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามของทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อส่งเสริมการบูรณาการเศรษฐกิจดิจิทัลและระบบนิเวศทางการเงินให้มากขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศดังกล่าว

ในปี 2022 ผู้ว่าการธนาคารกลาง 5 ประเทศ ประกอบด้วยอินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ได้เซ็นหนังสือบันทึกข้อตกลงที่จะทำให้การโอนเงินไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ สถาบันการเงิน ไปจนถึงประชาชนทั่วไปของ 5 ประเทศนั้นทำได้ง่ายขึ้นในการประชุม G20 ที่อินโดนีเซีย

การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินล่าสุดครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระแสในหลายประเทศในเอเชียที่มีการโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความนิยมในการใช้ QR Code ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งลดเวลาการแลกเงินของประชาชนของ 3 ประเทศดังกล่าว และยังเพิ่มความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน

ที่มา – MAS [1], [2]

]]>
1452362
MYAirline สายการบินราคาประหยัด ถูกทางการมาเลเซียระงับการบินชั่วคราว หลังขาดสภาพคล่องอย่างหนัก https://positioningmag.com/1448094 Mon, 16 Oct 2023 07:29:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1448094 MYAirline สายการบินราคาประหยัดของประเทศมาเลเซีย ล่าสุดถูกทางการมาเลเซียยึดใบอนุญาตด้านการบินชั่วคราว หลังจากที่สายการบินได้ประกอบธุรกิจได้ไม่ถึง 1 ปีด้วยซ้ำ เนื่องจากปัญหาด้านการเงิน ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

Loke Siew Fook รัฐมนตรีด้านคมนาคมของมาเลเซีย กล่าวว่าได้ระงับใบอนุญาตของ MYAirline ชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน นอกจากนี้ยังได้เตือนสายการบินรายดังกล่าวว่าจะต้องจัดลำดับความสำคัญของสวัสดิการของพนักงาน 900 คน รวมถึงความรับผิดชอบต่อลูกค้าด้วย

โดยปกติแล้วถ้าหากสายการบินในประเทศมาเลเซียต้องการที่จะต่อใบอนุญาตด้านธุรกิจการบินกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบิน จะต้องมีการยื่นงบการเงินให้ตรวจสอบก่อนว่าสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างตลอดรอดฝั่งด้วย ซึ่งใบอนุญาตล่าสุดที่สายการบินคู่แข่งรายอื่นได้ไปนั้นจะต่ออายุปีต่อปี

ก่อนหน้านี้สายการบิน MYAirline ได้แจ้งขอยุติการให้บริการของสายการบิน โดยยกเลิกเที่ยวบินมายังประเทศไทยแบบกะทันหันในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าต้องหยุดประกอบกิจการชั่วคราวเพื่อปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นและเพิ่มทุน เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงิน

สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้ผู้โดยสารในมาเลเซียและสนามบินปลายทางที่สายการบินให้บริการเกิดความเดือดร้อนทันที เนื่องจากสายการบินหยุดให้บริการกะทันหัน ส่งผลทำให้สายการบินอย่าง AirAsia หรือแม้แต่ Batik Air Malaysia ได้ช่วยเหลือโดยลดราคาค่าตั๋วเครื่องบิน 50% ทันที

นอกจากนี้ปัญหาดังกล่าวยังทำให้ Stuart Cross ผู้บริหารสายการบินอย่างรักษาการ CEO ของสายการบินก็ได้ลาออกจากตำแหน่งทันที

ไม่เพียงเท่านี้บริษัทที่ให้เช่าเครื่องบินหลายรายไม่ว่าจะเป็น AerCap และ SMBC Aviation Capital รวมถึงบริษัทอื่นๆ ได้ติดต่อสายการบินเพื่อให้ส่งคืนเครื่องบินที่สายการบินเช่าอยู่ 8 ลำ ขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง AirAsia เองก็เตรียมที่จะขอเช่าเครื่องบิน 6 ลำต่อทันทีจากบริษัทให้เช่าเครื่องบินเหล่านี้

ในช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา MYAirline ประกอบธุรกิจการบินโดยใช้เครื่องบินของ Airbus รุ่น A320-200 จำนวน 3 ลำ โดยมีพนักงานกว่า 400 คน ให้บริการผู้โดยสารจากต้นทางท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ไปยังปลายทางในประเทศมาเลเซีย ได้แก่ โกตาบารู ปีนัง ลังกาวี และตั้งเป้าที่จะทำราคาตั๋วนั้นถูกกว่าคู่แข่งอย่าง AirAsia ได้ สายการบินรายดังกล่าวได้ขยายเส้นทางเพิ่มเติมไปยังปลายทางอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย

ท้ายที่สุดสายการบินอาจต้องเร่งหานักลงทุนรายใหม่เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องให้กับสายการบินรายนี้ให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้ภายในเส้นตาย 90 วันนี้

ที่มา – Free Malaysia Today, New Strait Times [1], [2]

]]>
1448094
มาเลเซียกำลังพิจารณาห้ามส่งออกแร่ธาตุหายาก หวังเพิ่มการผลิต-การจ้างงานในประเทศมากยิ่งขึ้น https://positioningmag.com/1443934 Mon, 11 Sep 2023 17:46:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1443934 แร่ธาตุหายากกำลังจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญด้านความมั่นคงของเศรษฐกิจหลายประเทศ ล่าสุดมาเลเซียกำลังพิจารณาที่จะห้ามส่งออกแร่หายากเหล่านี้ โดยมองว่าการพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายากในมาเลเซียจะช่วยสร้างผลดีต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ และทำให้เกิดการจ้างงาน

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียกำลังพิจารณาแบนการส่งออกแร่ธาตุหายาก (Rare Earth) โดยมองว่าเพื่อที่จะต้องการให้มีการผลิตในประเทศ หรือแม้แต่ต้องการให้มีการจ้างงานในประเทศเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าปริมาณของการส่งออกของแร่ธาตุดังกล่าวนี้จะไม่มากก็ตาม

คาดการณ์ล่าสุดจากทางสหรัฐอเมริกาคาดว่ามาเลเซียจะมีปริมาณสำรองของแร่หายากราวๆ 30,000 ตัน ขณะที่จีนยังเป็นประเทศที่มีปริมาณสำรองเป็นอันดับ 1 มากถึง 44 ล้านตัน ซึ่งแร่หายากเหล่านี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ยานพาหนะไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางทหาร

การตัดสินใจดังกล่าวมาจากประเทศที่ต้องการแร่ธาตุหายากหลายประเทศต้องการที่จะกระจายความเสี่ยงไปยังประเทศอื่น และมาเลเซียเองก็เป็นประเทศที่มีแร่ธาตุดังกล่าว ส่งผลทำให้นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม เสนอแผนดังกล่าวออกมา

นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียได้กล่าวว่า รัฐบาลจะสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายากในมาเลเซีย ซึ่งเขาได้กล่าวเสริมว่าอุตสาหกรรมแร่หายากคาดว่าจะมีส่วนสนับสนุน GDP ได้มากถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2025 และสร้างโอกาสในการทำงานเกือบ 7,000 ตำแหน่ง

เขายังกล่าวเสริมว่าการสั่งห้ามส่งออกแร่หายากเหล่านี้จะเป็นการรับประกันผลตอบแทนสูงสุดสำหรับประเทศ

ขณะที่ David Merriman นักวิเคราะห์จาก Project Blue ได้กล่าวกับ Reuters ว่าผลกระทบในการห้ามส่งออกแร่หายากนั้นจะกระทบกับบริษัทจีนที่ดำเนินกิจการในมาเลเซียที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับแร่หายากเหล่านี้ ซึ่งจะส่งสินแร่เหล่านี้กลับไปที่โรงงานในประเทศจีน

ก่อนหน้านี้หลายประเทศสั่งห้ามไม่ให้ส่งออกแร่ธาตุหายากเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจีนที่เป็นประเทศผู้ส่งออกแร่หายากรายใหญ่ที่สุดของโลก จากเหตุผลความขัดแย้งกับสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ประเทศอย่างอินโดนีเซียที่ไม่ต้องการส่งออกแร่อย่างนิกเกิล เพื่อต้องการให้มีการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแร่ดังกล่าวในประเทศ เป็นต้น

หรือแม้แต่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อินเดียเตรียมพิจารณาออกมาตรการห้ามส่งออก 4 แร่หายากสำคัญ โดยให้เหตุผลว่าแร่ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ

สอดคล้องกับ Stewart Randall นักวิเคราะห์จาก Intralink กล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเขามองว่ามาตรการแบนการส่งออกแร่หายากของจีน อาจกระตุ้นให้บางประเทศกระจายซัพพลายเชนแร่หายาก

อย่างไรก็ดีแนวทางดังกล่าวของมาเลเซีย ยังไม่ได้ระบุว่าจะมีผลในช่วงใด แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าแร่ธาตุหายากนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในอนาคตอย่างมากสำหรับหลายประเทศ

]]>
1443934
แบงก์ชาติเร่งผลักดันใช้เงินหยวน ริงกิต รูเปียห์ ในการทำธุรกิจ เพื่อลดความผันผวนของค่าเงินบาท https://positioningmag.com/1440149 Tue, 08 Aug 2023 06:02:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1440149 ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยใช้สกุลเงิน หยวน ริงกิต รูเปียห์ หรือสกุลเงินอื่นในทวีปเอเชียในการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะลดความผันผวนของค่าเงินบาทกับดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าว Bloomberg ได้สัมภาษณ์พิเศษ อลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยแผนการล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทยคือต้องการที่จะลดความผันผวนของค่าเงินบาท ซึ่งมาตรการที่จะผลักดันคือการใช้สกุลเงินต่างประเทศให้กับผู้ประกอบการไทย

สกุลเงินที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะผลักดันก็คือ เงินหยวนของจีน และริงกิตมาเลเซีย รูเปียห์ของอินโดนีเซีย รวมถึงสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งทางฝ่ายไทยกำลังดำเนินการพูดคุยกับธนาคารกลางจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เพื่อที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่จะทำให้สามารถรับชำระเงินสกุลดังกล่าวได้

ข้อมูลในปี 2022 ที่ผ่านมา สกุลเงินต่างประเทศที่ใช้ในการค้ามากสุดคือดอลลาร์สหรัฐ 79.6% ขณะที่สกุลเงินอื่นๆ นั้นแทบไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ จึงเป็นอีกเหตุผลทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการผลักดัน

มาตรการที่จะผลักดันของธนาคารแห่งประเทศไทยหลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็น

  • หารือกับธนาคารกลางจีนเพื่อผ่อนปรนกฎการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและเพิ่มสภาพคล่องเงินหยวน
  • เรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยลดต้นทุนการทำธุรกรรมเงินหยวน
  • จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ผู้ประกอบธุรกิจรู้จักการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้ารวมถึงการลงทุน
  • ขยายวงเงินการทำธุรกรรมท่ีไม่ต้องแสดงเอกสาร สำหรับสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย รูเปียห์ของอินโดนีเซีย

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องผลักดันมาตรการดังกล่าวออกมาคือความผันผวนของค่าเงินบาทไทยถือว่าติดอันดับต้นๆ ของภูมิภาคนี้ ซึ่งปัจจัยทางเศรษฐกิจของไทยนั้นทำให้ค่าเงินผันผวน ไม่ว่าจะเป็นดุลบัญชีเดินสะพัด นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หรือแม้แต่ในไทย รวมถึงปัจจัยทางการเมืองของไทยด้วยในช่วงที่ผ่านมา

มาตรการดังกล่าวของธนาคารแห่งประเทศไทยได้พยายามผลักดันมาตั้งแต่ปี 2011 แต่ประสบปัญหาไม่ว่าจะเป็นสภาพคล่องของสกุลเงินท้องถิ่น ค่าทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงที่สูง และยังรวมถึงหลายฝ่ายไม่ทราบว่าสามารถใช้สกุลเงินต่างประเทศใช้จ่ายได้

ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องการให้เงินบาทเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด และตามปัจจัยพื้นฐาน และธนาคารแห่งประเทศไทยจะแทรกแซงค่าเงินบาทต่อเมื่อมีการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป หรือความเคลื่อนไหวที่ขัดกับปัจจัยพื้นฐาน แต่วิธีที่ดีที่สุดของภาคธุรกิจคือเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวน

]]>
1440149