UChoose – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 21 Nov 2022 10:11:34 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 กลยุทธ์ ‘Krungsri One Retail’ผนึกกำลังทั้งเครือเพื่อลูกค้ารายย่อย ผสานจุดแข็งทุกบริการทางการเงิน https://positioningmag.com/1408486 Wed, 23 Nov 2022 10:00:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1408486

ความเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจและวิถีชีวิตของลูกค้า ทำให้ “กรุงศรี” ต้องวางแผนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านกลยุทธ์  “Krungsri One Retail” ซึ่งเป็นการผสานความร่วมมือระหว่างบริษัทในกลุ่มธุรกิจเพื่อลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคลในเครือกรุงศรี ในทุกแง่มุม ตั้งแต่การเชื่อมโยง “ดาต้า” เข้าด้วยกัน จนถึงช่องทางการบริการลูกค้าที่จะมีการผสานช่องทางสาขา เพื่อให้บริการแบบ One-Stop Service และเชื่อมโยงแอปพลิเคชันซึ่งกันและกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงบริการทางการเงินที่หลากหลายของกรุงศรีและบริษัทในเครือได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งหมดเพื่อให้บริการ “ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล” ได้อย่างตรงใจลูกค้ายิ่งขึ้น และสร้างความแข็งแกร่งให้ ‘กรุงศรี’ มุ่งสู่เป้าหมายเพิ่มฐานลูกค้ารายย่อยเป็น 15 ล้านราย ภายในปี 2567

ยุคนี้ความแข็งแกร่งในตลาด มาจากการผนึกกำลังกันหลายฝ่าย ทำให้ ‘กรุงศรี’ วางกลยุทธ์ใหม่เรียกว่า “Krungsri One Retail” ซึ่งมุ่งผสานจุดแข็งของทุกหน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “ลูกค้ารายย่อย” ในเครือกรุงศรี เข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าได้อย่างหลากหลาย รอบด้าน และตอบโจทย์ ตรงกับความต้องการในทุกช่วงชีวิตของลูกค้ายิ่งขึ้น

“พงษ์อนันต์ ธณัติไตร” ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เล่าถึงที่มาของการวางกลยุทธ์ใหม่ ที่สืบเนื่องมาจากสถานการณ์ในโลกธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิด “ดิจิทัล ดิสรัปชัน (Digital Disruption)” ลูกค้าหันมาติดต่อสื่อสารมากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ ชอบช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ต้องการบริการที่ตอบโจทย์ รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น ดังนั้น กลยุทธ์เพื่อลูกค้ารายย่อยจึงถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนเช่นกัน

“พงษ์อนันต์ ธณัติไตร” ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

ในเครือกรุงศรีมีผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ทั้งที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของธนาคารและภายใต้บริษัทในเครือ เช่น กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ซึ่งดูแลลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล, กรุงศรี ออโต้ ดูแลลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด  ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำ และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ดูแลด้านการลงทุน เป็นต้น

แต่ละบริษัทนั้นมีกลยุทธ์สำหรับธุรกิจของตนเอง และสามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี โดยนับได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจนั้น ๆ แต่การมีกลยุทธ์ “Krungsri One Retail” นั้นจะเป็นการผสานจุดแข็งในการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้ารายย่อย เป็นการผนึกกำลังกันภายในเครือเพื่อส่งมอบบริการที่เหนือกว่าเดิมให้กับลูกค้าได้อย่างหลากหลายและครอบคลุมความต้องการของลูกค้าอย่างรอบด้านยิ่งขึ้น โดยเน้นให้ความสำคัญกับ 4 แนวทางหลัก ได้แก่

1.Data Analytics – วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบ 360 องศา

สร้างแพลตฟอร์มรวมฐานข้อมูลลูกค้ารายย่อยที่ปัจจุบันกรุงศรีมีลูกค้าในความดูแลกว่า 12 ล้านราย ที่เป็นผู้ใช้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย  อาทิ บัญชีออมทรัพย์ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต ผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผลิตภัณฑ์การลงทุน เป็นต้น

เมื่อมีดาต้าเบสที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันทั้งเครือ ภายใต้ความยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลจากลูกค้าเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการบริการ จึงทำให้กรุงศรีสามารถวิเคราะห์โปรไฟล์ของลูกค้าได้รอบด้าน จนสามารถใช้เทคโนโลยี AI เพื่อจัดการ Customize/Personalize ผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้เป็นรายบุคคล

ตัวอย่างกรณีการนำไปใช้งานจริง เช่น เมื่อมีการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายบัตรของลูกค้าบัตรเครดิตและพบว่าลูกค้าซื้อสินค้าประเภทของตกแต่งบ้าน ทำให้กรุงศรีสามารถเลือกเสนอสินเชื่อ Home for Cash ที่น่าจะตรงกับความต้องการของลูกค้าได้

2.Financial Advisory – การให้ความรู้และคำแนะนำทางการเงิน

พงษ์อนันต์ กล่าวว่า มุมมองของกรุงศรีเล็งเห็นถึงความผันผวนทางเศรษฐกิจตั้งแต่เกิดโรคระบาด ทำให้ผู้บริโภคอยู่ภายใต้ความกดดันทางการเงิน และต้องการ “ที่ปรึกษาทางการเงินที่ไว้ใจได้”

ดังนั้น กรุงศรีจึงได้ผลิตคอนเทนต์เพื่อ “ให้ความรู้ด้านการเงิน” (Financial Literacy) หลายรายการ แยกตามกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจต่างกัน เช่น Krungsri The COACH รายการตอบโจทย์การดูแลสุขภาพการเงินสำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป, Double Espresso ตอบโจทย์นักลงทุนหุ้น อัปเดตสถานการณ์หุ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ, Krungsri Exclusive ร่วมกับ Blackrock จัดรายการให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจและการลงทุน เน้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้ากลุ่มที่มีสินทรัพย์สูง (High Net Worth) ที่มีความมั่งคั่งสูง

สำหรับรายการ Krungsri The COACH นับว่าประสบความสำเร็จสูง เพราะการกำหนดประเด็นมาจากประสบการณ์จริงที่กรุงศรีพบ ทำให้ทราบ ‘Pain Point’ ด้านการเงินของลูกค้า เช่น วิธีการยื่นกู้สินเชื่อให้ได้รับอนุมัติ, การแก้หนี้, เทคนิคลงทุนให้ได้กำไร เป็นต้น ปัจจุบันรายการนี้เผยแพร่ไปแล้วกว่า 50 ตอน ยอดเข้าชมเฉลี่ย 84,000 ครั้งต่อ 1 คลิป มี Engagement เติบโตสูงถึง 43 เท่า ภายในเวลาเพียง 8 เดือน

“การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ไว้ใจได้ในวันนี้ จะสร้างความผูกพันให้ลูกค้าเลือกเราในอนาคตเมื่อลูกค้ามีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินพงษ์อนันต์กล่าว

3.Innovative Financial Solution – สร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อนำเสนอให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น

อีกหนึ่งเป้าหมายร่วมกันของ Krungsri One Retail คือการสร้างนวัตกรรมการเงินของผลิตภัณฑ์/บริการต่าง ๆ ในเครือที่ได้เปิดตัวและมีการใช้งานแล้ว เช่น KSS iGlobal ให้ลูกค้ารายย่อยลงทุนโดยตรงในหุ้นตลาดต่างประเทศได้ เฟสแรกเปิดแล้ว 5 ประเทศ และเฟสสองในเดือนพฤศจิกายน 2565 จะเพิ่มเป็น 28 ประเทศ ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมครบทุกตลาดหลักทั่วโลก หรืออย่างนวัตกรรม Krungsri Private Equity Fund ก็ช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนกับบริษัทนอกตลาดหุ้นได้ เป็นนวัตกรรมบริการลูกค้าหาน่านน้ำใหม่เพื่อลดความผันผวนในการลงทุน

ขณะเดียวกัน กรุงศรียังให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมด้านไอทีที่จะช่วยสร้างความสะดวกหรือนำเสนอบริการรูปแบบใหม่ให้ลูกค้ากรุงศรีเพิ่มมากขึ้น เช่น Kept Together ฟังก์ชันใหม่ในการออมเงินร่วมกัน, บัตรเครดิต Krungsri Now และ XU บัตรเครดิตดิจิทัลที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้ามิลเลนเนียล, First Choice SnapCash สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เจาะลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มอาชีพอิสระซึ่งต้องการเข้าถึงสินเชื่อ เป็นต้น

4.Channel – พัฒนาช่องทางแบบไร้รอยต่อ เพื่อประสบการณ์ลูกค้าที่ดี

กลยุทธ์นี้จะมีการผสานช่องทางเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้แบบไร้รอยต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงบริการทางการเงินที่หลากหลายของกรุงศรีได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การให้บริการผ่านช่องทาง “สาขา” กรุงศรีได้ริเริ่มโครงการนำร่อง พัฒนาสาขารูปแบบที่เรียกว่า ‘One Retail Branch’ ที่เป็นช่องทางบริการสำหรับลูกค้ารายย่อยแบบ One-Stop Service ในจุดเดียว จากเดิมสาขาธนาคารกรุงศรีอยุธยา, กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และกรุงศรี ออโต้ จะแยกสาขาจากกัน แต่สาขารูปแบบใหม่นี้จะให้บริการรวมกันในแห่งเดียว เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการมาติดต่อทำธุรกรรม สามารถติดต่อขอใช้บริการต่าง ๆ ได้ครบในจุดเดียว ปัจจุบัน กรุงศรีได้เปิดตัวสาขาในรูปแบบ One Retail Branch ไปแล้ว โดยมีเป้าหมายในปีนี้ 22 สาขา และในปี 2566 จะเพิ่มอีก 15 สาขา

สาขา One Retail Branch

ขณะที่ช่องทางการบริการผ่าน “แอปพลิเคชัน” ก็เป็นช่องทางที่กรุงศรีให้ความสำคัญเช่นกัน โดยขณะนี้กรุงศรีมีแอปพลิเคชันให้บริการธุรกรรมออนไลน์ที่หลากหลาย เช่น Krungsri Mobile Application (KMA) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา, UCHOOSE ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์, GO ของกรุงศรี ออโต้ เป็นต้น

ในอนาคตกรุงศรีจะพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างแอปพลิเคชันและระบบงานด้านต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยี Open API เพื่อเสริมฟังก์ชั่นการใช้งานของแอปฯ เช่น การเปิดบัญชีเงินฝากดิจิทัล จะสามารถทำผ่าน UCHOOSE และ GO ได้โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด KMA เพิ่ม หรือการชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน QR Code โดยเลือกตัดบัญชีเงินฝากหรือบัตรเครดิตของกรุงศรี ก็สามารถทำได้ในทุกแอปฯ เป็นต้น

เป้าหมายเพิ่มฐานลูกค้า 15 ล้านราย

พงษ์อนันต์กล่าวสรุปถึงกลยุทธ์ ‘Krungsri One Retail’ ว่าเป็นการทรานส์ฟอร์มองค์กรครั้งสำคัญ เมื่อทุกหน่วยงานในกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคลในเครือกรุงศรี ผนึกกำลังกันจะทำให้การดูแลลูกค้าทำได้ดีขึ้นอย่างมาก โอกาสที่ลูกค้าจะเกิดการใช้บริการต่อเนื่องก็มากขึ้นตามไปด้วย โดยที่การปรับตัวภายในองค์กรเองไม่ได้ยุ่งยากมาก เพราะมีวัฒนธรรมองค์กรที่ใกล้เคียงกันในทุกส่วนเป็นทุนเดิม โดยทุกหน่วยธุรกิจต่างก็ให้ความสำคัญกับความต้องการและประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ทำให้มองเป้าหมายเดียวกันซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในการเดินตามแผนกลยุทธ์นี้

“เมื่อเรารวมกัน เราจะมีโอกาสมากในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและครอบคลุมความต้องการของลูกค้าได้อย่างรอบด้านยิ่งขึ้น และสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้นได้ในอนาคต” พงษ์อนันต์กล่าว “เรามั่นใจกับ ‘กลยุทธ์ Krungsri One Retail’ มาก เพราะที่ผ่านมาหลังเริ่มทำงานมาแล้วประมาณ 1 ปี ลูกค้ามีความพึงพอใจเพิ่มขึ้นกับการให้บริการรูปแบบนี้ของเรา เพราะช่วยให้เรื่องการเงินเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นจริง ๆ ”

เป้าหมายของกรุงศรีจากกลยุทธ์นี้ที่วางเป้าการเติบโตไว้ภายในปี 2567

1.ขยายฐานลูกค้ากรุงศรี – จากปัจจุบันมีฐานลูกค้า 12 ล้านราย เพิ่มขึ้นเป็น 15 ล้านราย

2.จำนวน Mobile Users เติบโต – จากปัจจุบันมีผู้ใช้ 9 ล้านราย เพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านราย

3.เติบโตและขยายธุรกิจกรุงศรีในต่างประเทศ – กรุงศรีจะรุกต่างประเทศด้วยธุรกิจลูกค้ารายย่อยซึ่งบริษัทมีความชำนาญ โดยปัจจุบันมีหลายประเทศที่น่าสนใจ เช่น สปป.ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เป็นต้น

“กรุงศรียังมุ่งจะพัฒนาธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยในทุกมิติและเชื่อมโยงสู่อาเซียน เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กรุงศรีก้าวสู่ ‘เป็นสถาบันการเงินหลักที่ลูกค้าใช้บริการสำหรับลูกค้ารายย่อย’ ได้ในไม่ช้านี้” พงษ์อนันต์ กล่าวทิ้งท้าย

เชื่อแน่ว่าด้วยการผสานความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญของทุกหน่วยธุรกิจที่ดูแลลูกค้ารายย่อยในเครือกรุงศรีเข้าด้วยกัน ด้วยเป้าหมายหนึ่งเดียว เพื่อพัฒนาบริการทางการเงินให้ตอบโจทย์ ตรงใจลูกค้ายิ่งขึ้น จะทำให้กรุงศรีมีโอกาสสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้ารายย่อยผ่านกลยุทธ์ใหม่ ‘Krungsri One Retail’ มุ่งเพื่อส่งมอบบริการลูกค้าได้อย่างเหนือชั้นยิ่งขึ้น!

]]>
1408486
“ณญาณี เผือกขำ” แม่ทัพผู้ทรานส์ฟอร์ม “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” สู่โลกการเงินยุคใหม่ https://positioningmag.com/1390448 Thu, 30 Jun 2022 11:00:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1390448

ปัจจุบันทุกอุตสาหกรรมต่างต้องเจอความท้าทายรอบด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก สิ่งแวดล้อม โรคระบาด “โลกดิจิทัล” ที่หมุนอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ชั่วข้ามคืน อุตสาหกรรมการเงินเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่หลายคนมองว่าถูก Disrupt อย่างหนัก แต่จริง ๆ แล้วดิจิทัลและนวัตกรรมกลับเข้ามาช่วยเปิดประตูสู่ยุคการเงินแห่งอนาคตมากกว่า

“กรุงศรี คอนซูมเมอร์” เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ปัจจุบันทำตลาดแบรนด์บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน, และบัตรเครดิตโลตัส

เมื่อปี 2563 กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้จัดทัพองค์กรครั้งใหญ่ แต่งตั้ง ‘ณญาณี เผือกขำ’ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในสายงานการเงินมากว่า 20 ปี และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ณญาณีช่วยนำธุรกิจของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในฐานะผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลชั้นนำของไทย

แน่นอนว่ามิชชั่นสำคัญของณญาณีคือการทรานส์ฟอร์มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้ก้าวสู่โลกการเงินยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมสร้างความเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในภาวะที่ต้องเจอกับความท้าทายรอบตัว


ก้าวทันโลกการเงินยุคใหม่

หลายคนอาจนิยมคำว่า “โลกการเงินยุคใหม่” แตกต่างกันไป อาจรวมไปถึงโลกของบิทคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ แต่ในมุมมองของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ โลกการเงินยุคใหม่ ก็เหมือนกับโลกใบใหม่ของลูกค้า โลกในการใช้จ่ายเงินที่มีประสบการณ์ใหม่ ๆ ตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของลูกค้า

สถานการณ์การระบาดของCOVID-19 ทำให้โลกการเงินเปลี่ยนแปลงเร็วยิ่งขึ้น เป็นตัวเร่งปฎิกิริยาการใช้จ่ายเงินเข้าสู่สังคมไร้เงินสดไปโดยปริยาย ณญาณีมองว่าโลกการเงินเปลี่ยนไปในเชิงที่ว่าลูกค้าไม่ได้เข้ามาใช้บริการตามจุดบริการเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป รวมถึงพฤติกรรมการใช้ “บัตรพลาสติก”ก็เปลี่ยนไป หันมาทำธุรกรรมผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น

นอกจากนี้ เมื่อคนรุ่นใหม่เปิดรับเทคโนโลยีมากขึ้น “ข้อมูล” ก็มีบทบาทสำคัญขึ้นในการประกอบธุรกิจ ทั้งในแง่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การวิเคราะห์และเข้าใจความต้องการของลูกค้า เพื่อที่จะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจ รวมถึงการใช้ข้อมูลมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อ และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป

“โลกการเงินยุคใหม่การใช้จ่ายไม่ได้หมายถึงการเดินไปช้อปปิ้งที่ห้างหรือหน้าร้านเพียงอย่างเดียว แต่ลูกค้านิยมสั่งของทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น ยอดใช้จ่ายออนไลน์เติบโตสูงมาก ปัจจุบันภาพรวมของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 13% ซึ่งถือว่ากลับมาค่อนข้างดีขึ้น ยอดการใช้จ่ายในต่างประเทศก็เริ่มเติบโต เชื่อว่าโอกาสที่คนไทยได้เดินทางจะทำให้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เทรนด์การใช้จ่ายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อาจมีช่วงที่ดรอปไปบ้างจากมาตรการควบคุมโรคของภาครัฐ บวกกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่น้อยลง แต่ภาพรวมของการช้อปปิ้งออนไลน์ช่วงต้นปีนี้เติบโตสูงถึง 19% เทียบกับปีที่แล้ว อีกกลุ่มหนึ่งที่เติบโตอย่างน่าสนใจไม่แพ้กันก็คือกลุ่มฟู้ดเดลิเวอรี่ที่เติบโตสูงถึง 72%”

ณญาณีเริ่มฉายภาพวิธีคิดในการทำธุรกิจของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ว่าต้องปรับเปลี่ยนตามสภาวะการดำเนินธุรกิจและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป มีการเน้นระบบดิจิทัลมากขึ้น รวมทั้งนำเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ข้อมูล เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดีไซน์ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงใจ

“การลงทุนในช่วง 3 ปีนี้จะเน้นพัฒนาระบบดิจิทัลและ Data เป็นส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น ให้บริการผ่านระบบอัตโนมัติ นำเรื่อง Data และ AI มาเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการทุกอย่างของเรา รวมถึงปรับทัศนคติของคนในองค์กรให้เข้าใจโลกอนาคตด้วย ต่อไปถึงลูกค้าจะไม่พกบัตรเครดิตที่เป็นบัตรพลาสติกก็ยังช้อปปิ้งได้ตลอดเวลา ทุกวันนี้ใช้วิถีใหม่สามารถสแกนจ่ายด้วย QR Code บัตรเครดิตได้เลย ลดการสัมผัสเพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ต้องพกบัตรหลายใบ และก็ไม่ลืมที่จะนำเสนอโปรโมชันคุ้มค่าที่ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยและแน่นอนว่าเมื่อลูกค้าก็หันมาใช้จ่ายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น เทคโนโลยีการชำระเงินและบริการต่าง ๆ ของเราก็ต้องพัฒนาให้ก้าวทัน”


ปรับตัวสู่โลกดิจิทัล

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้ความสำคัญและลงทุนที่เกี่ยวกับ Data และดิจิทัลอย่างมาก เพื่อมุ่งสู่การเป็น Data-Driven Company เช่น ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพด้านการตลาด การบริการ และการดำเนินธุรกิจ มีการจัดทำ Data Lake เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายแหล่งและหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Demographic Data, Behavioral Data, Social Data เป็นต้น ซึ่งแต่ละ Data Point จะถูกนำมารวมและวิเคราะห์เพื่อจัดกลุ่มลูกค้ารวมทั้งยังมีการนำ Marketing AI มาใช้เพื่อทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลเพื่อนำเสนอสิทธิประโยชน์ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตรงใจและตรงตามความต้องการลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม

ณญาณีเล่าว่า “เรามีบัตรเครดิตหลากหลาย โปรโมชันของเราก็มีมากมาย  แต่ก่อน ถ้าเราทำการตลาดโดยที่ไม่วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า โปรโมชันที่เราส่งไปอาจจะไม่ตอบโจทย์ วันนี้เราเห็น Data ว่าลูกค้าใช้อะไร ชอบอะไร เราก็สามารถนำเสนอสิ่งที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลานั้น ๆ ได้แบบ Personalized กระบวนการทำงานและการให้บริการของเราก็เช่นกัน ต้องปรับให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของลูกค้าด้วย ตอนนี้ ถ้าลูกค้าอยากได้บัตรเครดิต ถ้าไม่สะดวกเดินทางมาที่สาขา ก็สมัครทางออนไลน์ ทางแอป UCHOOSE ได้เลย  นอกจากนี้ เรายังออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อเน้นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ เช่น บัตร Krungsri NOW ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือน พ.ย. 2564 ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี ปัจจุบันมียอดสมัครบัตรใหม่อยู่ที่ 25,000 ใบ ในปีนี้ตั้งเป้า 36,000 ใบ ส่วนแอปพลิเคชัน UCHOOSE มีอัตราการใช้งานของลูกค้าอยู่ที่ 80% ส่วน UCASH บริการเบิกเงินสดจากวงเงินบัตรผ่านแอปโดยโอนเข้าบัญชีธนาคารหรือพร้อมเพย์มีการปล่อยสินเชื่อแล้ว 30,000 ล้านบาท”

นอกจากนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังเปิดช่องทางบริการใหม่เช่น Krungsri Consumer Line OA และ Facebookรวมทั้งพัฒนาบริการใหม่ เช่น บริการยืนยันตัวตนด้วยเสียง, บริการสอบถามข้อมูลบัญชีบัตรผ่านทาง FB Messenger รวมถึง AI MANOW สำหรับให้ข้อมูลแก่ลูกค้าผ่านคอลเซ็นเตอร์ เพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้า ให้สามารถตรวจสอบข้อมูลและทำรายการเกี่ยวกับบัญชีบัตรได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองในหลากหลายช่องทาง

ในปีนี้กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังเตรียมขยายแพลตฟอร์ม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลให้มากขึ้น โดยหนึ่งไฮไลท์สำคัญในปีนี้ก็คือ การทำ Digital Lending หรือการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่ให้ลูกค้าสามารถขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ได้เลย เพียงแค่สแกนเอกสารประกอบการสมัครเข้าไปในระบบผ่านแอปจากนั้นก็จะทราบผลการอนุมัติภายในเวลาไม่นาน

“สำหรับ Digital Lending เรามีแผนจะร่วมมือกับ Partner ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล ครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีราวสองสามรายที่ทำงานร่วมกัน การทำธุรกิจยุคใหม่จะเป็นลักษณะของความร่วมมือ เชื่อมต่อ สร้าง Digital Ecosystem พันธมิตรของเรามีลูกค้าจำนวนมาก ส่วนเรามีความเชี่ยวชาญในการปล่อยสินเชื่อและการทำธุรกิจบัตรเครดิต มีระบบและเทคโนโลยีต่าง ๆ พร้อมให้บริการ เรามีแผนจะร่วมมือกันออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่งคาดว่า ยอดสินเชื่อ Digital Lending น่าจะเติบโตไปเรื่อย ๆ คาดว่าใน3 ปี จะเติบโตคิดเป็น 50%ของยอดสินเชื่อรวม”

นอกจากนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังมีแผนในการสร้างแหล่งรายได้ใหม่ เช่น บริการ Collection as a Service  ซึ่งน่าจะเริ่มให้บริการให้กับพันธมิตรที่สนใจได้ในช่วงปลายปีนี้


ทำงานแบบ Flexi Workplace

นอกจากการลงทุนด้านดิจิทัลแล้ว การลงทุนด้านบุคลากรก็ไม่แพ้กัน ณญาณีบอกว่า ต้องเปลี่ยนการทำงานจาก ‘Manual’ เป็น ‘Digital’ ต้องพัฒนาศักยภาพของบุคลากรมารองรับการทำงานในโลกอนาคต

ด้วย COVID-19 ทำให้วิถีการทำงานเปลี่ยนไป หลายองค์กรอาจจะเรียกการทำงานรูปแบบใหม่ว่า Work from Anywhere บ้าง หรือการทำงานแบบ Hybrid บ้าง แต่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ปรับวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด  “Flexi Workplace, Flexi Work-Life”โดยพนักงานที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดและมีลักษณะงานที่เหมาะสม จะได้รับสิทธิ์ให้ทำงานแบบ Hybrid ได้

“ที่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะเรียกว่าการทำงานแบบ Flexi Workplaceสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ เราซัพพอร์ตเขา มีการทำประเมินว่าพนักงานอยากเข้าทำงานที่ออฟฟิศกี่เปอร์เซ็นต์ ผลออกมาว่าไม่มีใครอยากเข้ามาออฟฟิศ 100% เลยต้องปรับการทำงานให้ตรงใจ จะทำงานที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ แต่อาจจะต้องมีเข้าออฟฟิศมาเจอกันบ้าง เพื่อความสัมพันธ์ในทีม นอกจากนี้เรายังเตรียมดีไซน์ออฟฟิศใหม่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การทำงานแบบใหม่ด้วย เรื่องการสื่อสารภายในองค์กรและความสัมพันธ์ในทีมเราก็ให้ความสำคัญ เรามี แอป WE Connectเป็นช่องทางสื่อสารหลักของคนในองค์กร เป็นแหล่งรวมข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งเป็นช่องทางในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ทางด้าน HR เช่น แจ้งลาป่วย-ลากิจ-ลาพักร้อน เป็นต้น เรียกว่าถ้าต้องการติดต่องานด้านบุคคล สามารถใช้งานผ่านเครื่องมือนี้ได้เลย รวมทั้งยังมี AI CHATBOT ชื่อ สายฟ้าคอยให้บริการตอบคำถามพนักงานที่เกี่ยวกับเรื่อง HR ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม. อีกด้วย”

นอกจากการดีไซน์การทำงานให้ตอบโจทย์คนทำงานแล้ว ยังต้องมีการเพิ่มทักษะ Upskill และ Reskill อย่างต่อเนื่อง กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงมีคอร์สฝึกอบรมต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ชื่อ ‘UpVel by Krungsri Consumer’ ทำให้พนักงาน ได้ปรับสู่การเรียนผ่านดิจิทัลมากขึ้น ลดข้อจำกัดต่าง ๆ ไปได้

“อย่างแต่ก่อนจัดฝึกอบรมแต่ละครั้งสามารถเรียนได้ครั้งละ 40 คน ทำให้พนักงานไม่สามารถเรียนได้ครบถ้วน ปัจจุบันปรับมาเป็นเรียนทางออนไลน์ รองรับได้ 5,000-6,000 คน ได้อย่างสบาย ๆ ยืดหยุ่นมากขึ้นทำให้เราสามารถพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพิ่มศักยภาพให้พนักงานของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ” 


ผนึกกำลังสร้างระบบนิเวศดิจิทัล เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและเข้าใจลูกค้า

เนื่องจากข้อมูลและความสามารถในการเข้าถึงลูกค้านับเป็นสิ่งสำคัญ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงมุ่งสร้างความเติบโต โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตร สร้างแพลตฟอร์มทางการเงินเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มโอกาสทางการตลาดและสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยความร่วมมือดังกล่าว เป็นความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในธุรกิจต่าง ๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์-บริการ-และโปรโมชันที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า รวมไปถึงความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี ภายใต้กลยุทธ์ ‘Krungsri One Retail’ ที่มุ่งเน้นผสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในเครือกรุงศรี โดยมุ่งเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ข้อมูล ผลิตภัณฑ์ และช่องทางการขาย โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ณญาณีเล่าถึงยุทธศาสตร์ยิ่งใหญ่ Krungsri One Retail ว่า “กรุงศรีมีธุรกิจในเครือมากมาย ทั้งส่วนของธนาคาร, เงินฝาก, สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต, สินเชื่อยานยนต์, ผลิตภัณฑ์ประกันภัย รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนต่าง ๆ วันนี้ เรามีการคุยกันเป็นทิศทางของกรุ๊ป ทำให้ต่อจากนี้เราจะทำงานแบบยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ลูกค้ารายย่อยทั้งหมดในเครือราว 12 ล้านราย ทุกหน่วยธุรกิจภายใต้กลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร, กรุงศรี คอนซูมเมอร์, กรุงศรี ออโต้, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด จะร่วมมือกัน พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อยกระดับประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแบบไร้รอยต่อ”

“สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมดีต่อวงการการเงิน รวมถึงดีต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน เพราะมีการให้บริการอย่างเหมาะสม มีบริการที่ตรงใจ ลูกค้าเองก็จะได้รับโปรโมชันดี ๆ จากการวิเคราะห์ว่าลูกค้าต้องการอะไร ต้องเสริมผลิตภัณฑ์อะไร ร่วมมือทำงานเป็น ‘One Team’ ที่มอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ดี ถูกที่ ถูกเวลา ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ทำให้เราตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินของลูกค้าได้ทุกมิติ”

นอกจากนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังเดินหน้าผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรีในภูมิภาค เพื่อขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เพื่อก้าวสู่การเป็นสถาบันการเงินหลักสำหรับลูกค้าบุคคลอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าภายใต้สภาวะการดำเนินธุรกิจ และความท้าทายรอบด้าน รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แต่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในฐานะผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาและยังปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวให้ทันโลกการเงินยุคใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถรังสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

]]>
1390448
ช้อปที่โลตัสสุดปัง! “บัตรเครดิตโลตัส” คืนความคุ้มสูงสุด 5% ดึงตัว “อาย-กมลเนตร” เป็นพรีเซนเตอร์ https://positioningmag.com/1386635 Fri, 27 May 2022 10:00:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1386635

หลังรีแบรนด์ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ “โลตัส มันนี่ พลัส” พร้อมประเดิมโปรดักส์แห่งปีร่วมกับ “มาสเตอร์การ์ด” ปรับโฉม “บัตรเครดิตโลตัส” ชูจุดขายสุดคุ้มทุกไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์คน Gen Y ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ฉลาดใช้ มองหาความคุ้มค่า ด้วยจุดเด่นของบัตรที่มอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน โดยรูดช้อปที่ “โลตัส” ได้ความคุ้มคืนสูงสุด 5% เติมน้ำมัน ESSO รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 3% เจาะคนรุ่นใหม่เจนวาย ดึงตัว “อาย-กมลเนตร” เป็นพรีเซนเตอร์

“โลตัส มันนี่ พลัส” ธุรกิจบริการผลิตภัณฑ์การเงินทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อ และประกัน เพิ่งทำการรีแบรนด์ปรับภาพลักษณ์ให้สดใส ทันสมัยยิ่งขึ้น หลังก่อตั้งมานานนับตั้งแต่ปี 2544

หลังรีแบรนด์แล้วบริษัทจึงเริ่มประเดิมโปรดักส์ดีไซน์ใหม่ที่เหมาะกับคนยุคนี้ในหมวดธุรกิจบัตรเครดิต โดยร่วมมือกับพันธมิตร “มาสเตอร์การ์ด” ออกบัตรเครดิต co-branded “บัตรเครดิตโลตัส” เน้นด้านสิทธิประโยชน์เครดิตเงินคืนแบบจุใจ ตามสโลแกน “พลัสความสุข ทุกความคุ้มค่า #Everyday value, Everyday delights”

บัตรใบนี้ต้องการจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ทุกด้าน ทั้งการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และการช้อปปิ้ง กิน เที่ยว ตามเทรนด์การใช้ชีวิตคนเจนวายวัยทำงานแบบ “อัพไม่หยุด สุดทุกไลฟ์สไตล์” เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกถือบัตรเครดิตเพียงใบเดียวก็สามารถรับสิทธิประโยชน์ได้ทุกไลฟ์สไตล์การใช้บัตร

โดยสิทธิประโยชน์ความคุ้มค่าที่เป็นไฮไลต์ของ บัตรเครดิตโลตัส ได้แก่

  • ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน: ช้อปที่โลตัส, โลตัส โก เฟรช หรือมายโลตัส ช้อปออนไลน์ รับความคุ้มคืนคืนสูงสุด 5% แบ่งเป็น
    • รับคูปองเงินสดโลตัสสูงสุด 3 เปอร์เซ็นต์ จากบัตรเครดิตโลตัส
    • รับโลตัสคอยน์ สูงสุด 1% จากโลตัสโลตัส ยอดใช้จ่ายทุกๆ 100 บาทต่อรายการจะได้รับโลตัสคอยน์ 1 คอยน์คิดเป็นมูลค่าเทียบเท่า 1 บาท ทั้งนี้ รายการซื้อสินค้าที่ได้รับคอย์เป็นไปตามเงื่อนไขที่โลตัสกำหนด
    • รับสิทธิ์แลกคูปองเงินสดมายโลตัส โบนัสอีก 1% จากโลตัส โดยสะสมโลตัสคอยน์ครบ 50 คอยน์สามารถนำไปแลกเป็นคูปองเงินสดมูลค่า 100 บาทได้ผ่าน โลตัส สมาร์ท แอป ซึ่งจำกัด 1 สิทธิ์/สมาชิก/เดือน

นอกจากนี้ ยังได้สิทธิผ่อนชำระได้ทุกชิ้นทั้งห้างฯ ที่โลตัส ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน

  • ตอบโจทย์การเดินทาง: รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 3% เมื่อเติมน้ำมันที่ปั๊มเอสโซ่ (ESSO) เริ่มตั้งแต่บาทแรก ไม่มีขั้นต่ำ ไม่ต้องลงทะเบียน
  • ตอบโจทย์การทานอาหาร ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว: รับความคุ้มคืน 5% เมื่อรูดใช้จ่ายที่ร้านค้าอื่นนอกจากโลตัส ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยจะได้รับคืนเป็นคะแนนโลตัส รีวอร์ดส์ ซึ่งแลกเป็นคูปองเงินสดโลตัสให้อัตโนมัติ

ยังไม่หมดเท่านี้ บัตรใบนี้เป็น พันธมิตรของมาสเตอร์การ์ด ทำให้ผู้ถือบัตรจะได้อภิสิทธิ์และสิทธิประโยชน์จากมาสเตอร์การ์ดด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นดีลจากโรงแรม สายการบิน รถเช่า ร้านอาหาร กิจกรรมบันเทิง ฯลฯ และบัตรยังสามารถเบิกถอนเงินสดได้ผ่านแอปพลิเคชัน UCHOOSE หรือตู้ ATM ได้ตลอด 24 ชม.

เห็นได้ว่าบัตรเหมาะมากกับวัยทำงานที่ต้องใช้จ่ายซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตกันเป็นประจำอยู่แล้ว รวมถึงผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวใช้เติมน้ำมันกับ ESSO รับเครดิตเงินคืนทันที ไม่ต้องกรอก SMS ส่งรหัสให้ยุ่งยาก ขณะที่รูดกับร้านค้าอื่นๆ นอกจากโลตัสก็ได้สะสมโลตัส รีวอร์ดส์เช่นกัน

ยกตัวอย่างความคุ้มคือ หากผู้ถือบัตรมีการใช้จ่ายกับโลตัส 5,000 บาทต่อเดือน จะได้รับความคุ้มคืนในรูปแบบคูปอง, โลตัส คอยน์ และมายโลตัส โบนัส รวมเดือนละ 250 บาท ขณะที่ถ้าเติมน้ำมันกับ ESSO เดือนละ 4,000 บาท รับเครดิตเงินคืน 120 บาท

บัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ บัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม บียอนด์ สำหรับพนักงานประจำมีรายได้ขั้นต่ำ 30,000 บาทต่อเดือน และ บัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม รีวอร์ด สำหรับพนักงานประจำมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน

พิเศษช่วงนี้ สำหรับผู้สมัครบัตรเครดิตโลตัส แพลทินัมทั้ง 2 ประเภทและได้รับอนุมัติบัตรตั้งแต่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565 จะได้รับความคุ้มคืนเพิ่มเป็น 15% เมื่อใช้จ่ายที่โลตัสหรือมายโลตัส ช้อปออนไลน์ นาน 3 รอบบิล (ยอดใช้จ่ายสะสมไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน)

การรีแบรนด์ครั้งนี้พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำให้โลตัส มันนี่ พลัสเลือกพรีเซนเตอร์ที่ทันสมัยเหมาะกับภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปมาร่วมโปรโมตบัตรเครดิตโลตัส แพลทินัมด้วย โดยเลือก “อายกมลเนตร เรืองศรี” นักแสดงหญิงและยูทูปเบอร์สาวสวย กับลุคเก๋ๆ และสดใสของเธอที่จะช่วยส่งแบรนด์ให้เข้าถึงและครองใจคนเจนวายได้ดีขึ้น

ผู้ที่สนใจสมัครบัตรรีบคลิกไปเลยที่ https://bit.ly/3wE0Gl3 หรือโทร. 1712 หรือติดต่อได้ที่ เคาน์เตอร์โลตัส มันนี่ พลัสทั่วประเทศ

]]>
1386635
บัตรเครดิตฟื้นตัวปลายปี ‘กรุงศรี คอนซูมเมอร์’ เร่งดันยอดใช้จ่าย ปล่อยสินเชื่อกลุ่มฟรีเเลนซ์ https://positioningmag.com/1361690 Thu, 11 Nov 2021 16:13:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1361690 สัญญาณบวกหลังคลายล็อกดาวน์-เปิดประเทศ หนุน ‘ตลาดบัตรเครดิต’ ฟื้นตัวรับโค้งสุดท้ายของปี คนเริ่มใช้จ่ายหมวดท่องเที่ยว จองโรงเเรมมากขึ้น กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้าทั้งปีนี้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเเตะ 2.85 แสนล้าน ลูกค้าใหม่ 3.5 แสนราย รุกปล่อยสินเชื่อออนไลน์จับกลุ่มฟรีเเลนซ์ เน้นใช้ดาต้าทำการตลาด พัฒนานวัตกรรม-เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ดึงลูกค้า 

ณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ที่ตามปกติเเล้วจะมีการใช้จ่ายมากกว่าช่วงอื่นๆ โดยนโยบายคลายล็อกดาวน์เเละการเปิดประเทศ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในทุกหมวด ภาพรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรน่าจะดีขึ้นโดยเฉพาะหมวดช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ท่องเที่ยว และโรงแรม

ปล่อยสินเชื่อออนไลน์ ผ่านดาต้า

สำหรับ ‘ตลาดสินเชื่อ’ ในไตรมาสสุดท้ายนี้ ก็มีแนวโน้มขยายตัว ซึ่งมีเทรนด์ที่น่าสนใจคือ สถาบันการเงินทั้งหลายหันมาปล่อยสินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และการใช้ ‘ข้อมูลทางเลือก’ ในการวิเคราะห์การปล่อยสินเชื่อกันมากขึ้น

สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการสภาพคล่องในช่วงโควิด-19 รวมทั้งต้องการความสะดวก รวดเร็วในการเข้าถึงบริการสินเชื่อ และช่วยตอบสนองความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเอกสารแสดงรายได้ เช่น กลุ่มอาชีพอิสระ 

ช้อปออนไลน์เเรงต่อเนื่อง คนเริ่มกลับมาท่องเที่ยว 

โดยธุรกิจของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ทั้ง บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิต โลตัส วีซ่า มีผลประกอบการตั้งแต่เดือนมกราคมกันยายน 2564 เติบโตต่อเนื่อง โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 199,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 54,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 128,000 ล้านบาท

หมวดใช้จ่ายที่เติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1.ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (+62%)
2.ประกันภัย (+15%)
3.
ตกแต่งบ้านและของใช้ในครัวเรือน (+8%)
4.
ไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (+7%)
5. ร้านสะดวกซื้อ (+6%) 

หากพิจารณาแนวโน้มพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรในเครือของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ พบว่า ยอดใช้จ่ายหมวดช้อปออนไลน์ เดลิเวอรี่ ประกันภัยออนไลน์ จะเติบโตสูง ขณะที่หมวดใช้จ่ายสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ของใช้ในบ้าน ยาและสุขภาพ ยังคงมียอดใช้จ่ายต่อเนื่อง

“ส่วนหมวดท่องเที่ยว เดินทาง และร้านอาหารยังคงได้รับผลกระทบในเชิงลบ เเต่จะเริ่มเห็นสัญญาณบวกหลังคลายล็อกดาวน์ในยอดใช้จ่ายโดยการจองตรงกับโรงแรมในบางจังหวัดท่องเที่ยว” 

ฟีเจอร์ใหม่ดึงดูดลูกค้า 

เมื่อผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจจึงต้องเร่งปรับตัว กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีการปรับกลุยทธ์เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น พร้อมการนำเอานนวัตกรรมใหม่ ๆ มายกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ

ทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูล พัฒนาบริการใหม่ในแอปพลิเคชัน UCHOOSE อย่าง

  • U Cash บริการเบิกเงินสดจากวงเงินบัตรผ่านแอป โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารหรือพร้อมเพย์
  • UCard บริการรับสมัครบัตรใหม่ผ่านทางแอป
  • UMall นำเสนอดีลพิเศษสำหรับสินค้าจากพันธมิตรของบริษัท
  • การเปิดช่องทางบริการใหม่ทาง Krungsri Consumer Line OA และ Facebook
  • การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น บัตร Krungsri NOW บัตรเครดิตสำหรับชีวิตดิจิทัลที่มอบเครดิตเงินคืน 5% สำหรับการใช้จ่ายออนไลน์
  • บริการยืนยันตัวตนด้วยเสียง พัฒนา AI มะนาว ที่ให้บริการลูกค้าไปเเล้วกว่า 3.2 ล้านสาย เเละบริการสอบถามข้อมูลบัญชีบัตรผ่านทาง FB Messenger
  • บริการ ‘เเตะเพื่อจ่าย’ อำนวยความสะดวกในการใช้บัตร 

อ่านเพิ่มเติม : เทรนด์ Virtual Card มาเเรง กรุงศรี ส่ง ‘บัตร NOW’ จับใจคนรุ่นใหม่ กระตุ้นใช้จ่ายด้วย ‘เเคชเเบ็ก’

ขยายต่ออาเซียน 

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังจะผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี กรุ๊ปและพันธมิตร เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด พร้อมกับหาแหล่งรายได้ใหม่ ๆ รวมทั้งขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน ทั้ง สปป.ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และล่าสุดที่เวียดนาม “โดยจะมีการปรับเเผนผ่อนชำระเพิ่มเติม รุกธุรกิจคาร์ฟอร์เเคช สินเชื่อรถยนต์” 

การดำเนินงานจะควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม และการดูแลช่วยเหลือลูกค้าและพนักงานที่ได้รับผลกระทบ โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่ได้รับความช่วยเหลือ 7,000 ล้านบาท กว่า 1 แสนราย

“จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่างๆ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คาดว่าทั้งปี 2564 จะหนุนยอดใช้จ่ายผ่านบัตร (Spending) อยู่ที่ 2.85 แสนล้านบาท เติบโต 3%  ยอดสินเชื่อใหม่ 76,000 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 142,000 ล้านบาท” 

 

]]>
1361690
เทรนด์ Virtual Card มาเเรง กรุงศรี ส่ง ‘บัตร NOW’ จับใจคนรุ่นใหม่ กระตุ้นใช้จ่ายด้วย ‘เเคชเเบ็ก’ https://positioningmag.com/1359534 Mon, 01 Nov 2021 15:18:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1359534 ตลาดคนรุ่นใหม่ไลฟ์สไตล์ดิจิทัล มีการใช้จ่ายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นโอกาสของธุรกิจที่จะสรรหาฟีเจอร์ต่างๆ มาตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้

ล่าสุดกับบัตรเครดิต Krungsri NOW’ บัตรดิจิทัลใบแรกจากเครือบัตรเครดิต กรุงศรี ที่ออกมาจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัย 21-35 ปี รายได้เฉลี่ยตั้งแต่ 1.5-7 หมื่นบาทต่อเดือน เเละนิยมการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์โดยเฉพาะ

ความเคลื่อนไหวของกรุงศรีครั้งนี้ เป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญเพื่อหันมาเพิ่มสัดส่วนลูกค้า Millennials และ Gen Z ตามที่เห็นกันเเล้วว่าในช่วงหลังมานี้ว่ากรุงศรีมีการรีเเบรนด์บัตรต่างๆ ให้มีความทันสมัยเเละดูเด็กลงมากขึ้น

โดยหวังจะเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ขึ้นเป็น 35% จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 25% ขณะที่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดของบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี ยังเป็นกลุ่ม Gen X ที่ 45% เเละ Baby Boomer ที่ 27%

วิถีชีวิตแบบนิวนอร์มอลเป็นตัวเร่งให้เกิดการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคยุคดิจิทัล ที่คุ้นชินกับความสะดวกสบายจากบริการออนไลน์ ทั้งช้อปปิ้ง สั่งอาหาร บริการสตรีมมิ่ง แม้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้ว แต่บริการเหล่านี้ก็ยังเป็นที่นิยม สมหวัง โตรักตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด กล่าว

จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต กรุงศรี (ณ เดือนกันยายน 64) พบว่า ยอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ในปีนี้เติบโตสูงขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2563 และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

Virtual Card มาเเรง เมื่อคนไม่อยากพกบัตร

บัตรเครดิต กรุงศรี จึงทุ่มเงินกว่า 50 ล้านบาท เพื่อรุกขยายตลาดนี้ ผ่านการจับมือมาสเตอร์การ์ด เปิดตัวบัตร NOW” ซึ่งเป็น Virtual Credit Card ขึ้นมาตามเทรนด์ของผู้บริโภค โดยเชื่อมอยู่กับแอปพลิเคชัน UCHOOSE ที่มีผู้ใช้งานอยู่ในปัจจุบันถึง 6.5 ล้านบัตร

ผู้บริโภคทั้งในไทยและทั่วโลก เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมโดยมีมุมมองและความคาดหวังว่า มาตรฐานการบริการต่าง ๆ ควรจะเป็นดิจิทัลโดยอัตโนมัติ ผู้บริโภคแสวงหารูปแบบการชำระเงินใหม่ ๆ และต้องการประสบการณ์การใช้จ่ายแบบ Omnichannel ที่ปรับให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะบุคคล

โดยข้อมูลจาก Mastercard New Payments Index 2021 ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมการชำระเงินและการซื้อขายผ่านทางออมนิแชนเนล พบว่า เกือบ 80% ของผู้บริโภคชาวไทย น่าจะใช้จ่ายด้วยเงินสดน้อยลงในปีหน้า อีกกว่า 59% บอกว่า จะหลีกเลี่ยงร้านค้าที่ไม่รับชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ

คนรุ่นใหม่ชอบ Cash Back

จุดเด่นของ บัตรเครดิต Krungsri NOW จะเน้นให้สิทธิพิเศษตามพฤติกรรมกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยจากการศึกษากลุ่มลูกค้า พบว่า 72% อยากได้เงินคืนเข้าบัญชี หรือ Cash Back คืนไว คืนเยอะ เหล่านี้นำมาสู่แนวคิดบัตรเหนือ Norm ของคนยุค NOW” ดีไซน์ที่เรียบง่าย แฝงความสนุกของสีสัน สื่อถึงอิสระจากข้อจำกัด

โดยนำเสนอ Cash Back 5% สำหรับการใช้จ่ายออนไลน์ (ยกเว้นหมวดประกัน และหมวดท่องเที่ยว) ครอบคลุมทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ แบบใช้ได้ทุกวัน โดยไม่ต้องรอดีลพิเศษ หรือวันพิเศษ และสามารถสะสมคะแนน 2 เท่าที่ร้านอาหารร่วมรายการ หรือรับพอยต์สะสม 1 พอยต์จากทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร 25 บาท พร้อมทางเลือกในการแบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน กับสินค้าและบริการที่ร่วมรายการ และไม่มีค่าธรรมเนียม

ตั้งเป้า 1 ปี ยอดสมัคร 3.6 หมื่นใบ

บริษัทตั้งเป้าว่าภายใน 1 ปีหลังจากเปิดตัว ยอดสมัครบัตรเครดิต NOW จะมีมากกว่า 36,000 ใบ และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรใหม่เพิ่มขึ้น 1,200 ล้านบาท และประเมินว่าจะเติบโต 10%ในปีต่อๆ ไป

“ในระยะยาว เราคาดว่าผลิตภัณฑ์บัตรใหม่นี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของบริษัท ด้วยการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง”

สำหรับกลยุทธ์การตลาดที่จะทำให้บัตรเครดิต NOW ทำยอดใช้จ่ายผ่านบัตรใหม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้นั้น ผู้บริหารบัตรเครดิต กรุงศรี ตอบว่า โดยพื้นฐานของฟีเจอร์ต่างๆ นั้นดึงดูดผู้ใช้คนรุ่นใหม่อยู่เเล้ว เเต่จะมีการทำการตลาดเพิ่มเติม เน้นไปที่ช่องทางสื่อสารออนไลน์ เเจกคูปองเเลกซื้อสินค้า รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อยู่เสมอ เช่น จะมีการให้เล่นเกมสนุกๆ ผ่านเเอปฯ UCHOOSE ฯลฯ โดยผู้สมัครบัตรใหม่ ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564-31 ม.ค. 2565 จะรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 2,000 บาท

เเละเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่มากขึ้น บัตรเครดิต Krungsri NOW ได้ดึง กระทิง ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ นักแสดงรุ่นใหม่ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย โดยจะมีการสร้างการรับรู้เเละจดจำผ่านวิดีโอออนไลน์ที่นำเอาคาแร็กเตอร์ของ กระทิง มาสร้างเป็นแอนิเมชัน ถ่ายทอดเรื่องราวของบัตรเครดิต NOW รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องเต็มรูปแบบ

หวังปีหน้าเศรษฐกิจฟื้น ดันยอดใช้จ่ายโต 8%

โดยภาพรวมธุรกิจของบัตรเครดิต กรุงศรีในปีนี้ ประเมินว่า น่าจะอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา จากการเติบโตได้ดีในหลายหมวด เช่น ประกันภัย, ช้อปปิ้ง, ปั๊มน้ำมัน, เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน รวมถึงห้างสรรพสินค้า คาดว่าจะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรรวม ตลอดปีนี้ที่ 180,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 3% เทียบกับปีก่อน

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีจะจบอยู่ที่ 1.9 แสนล้านบาท เติบโตราว 2-3% และมียอดบัตรใหม่อยู่ที่ 9 หมื่นใบ ซึ่งประเมินว่าสิ้นปีจะทำยอดได้ 1.4 แสนใบ ซึ่ง ‘ต่ำกว่าเป้าหมาย’ ที่วางไว้ หลังช่องทางการเข้าหาลูกค้าต่างๆ หยุดชะงักไปบ้างในช่วงวิกฤตโควิด-19 ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับต่ำที่ 1.17% ยังต่ำกว่าทั้งอุตสาหกรรมที่ 2.5-2.6%

“เเนวโน้มการใช้บัตรเครดิตนั้นขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัว กำลังซื้อของประชาชนก็จะเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงปัจจัยการเปิดประเทศ ก็จะช่วยหนุนให้มีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น”

โดยภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตในปี 2565 คาดว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 7-8% เกี่ยวเนื่องกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่หลายสำนักคาดการณ์ว่าจะโตเฉลี่ยที่ 3-4%

ด้านเป้าหมายของบัตรใหม่ตั้งเป้าเติบโต 30% หรือราว 1.9 แสนใบเเละสิ้นปีหน้าฐานลูกค้าทั้งหมดจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.4 ล้านใบ จากยอดปีนี้ที่ 2.3 ล้านใบ

สำหรับการเเข่งขันในตลาดบัตรเครดิตในปีหน้า จะมีเเคมเปญดุเดือดในหมวดออนไลน์เเละการท่องเที่ยว ทั้งในประเทศเเละต่างประเทศที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โดยกรุงศรีก็เริ่มมีแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายใน 2 หมวดนี้ตั้งเเต่ช่วงปลายปีนี้ เเละมองว่าการพัฒนาระบบดิจิทัลของเเต่ละเเพลตฟอร์มจะมีการเเข่งขันกันมากขึ้น เพื่อดึงฐานลูกค้า

 

]]>
1359534
‘พัทธ์หทัย กุลจันทร์’ นำทัพ ‘กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์’ สร้างเครดิตทางการเงินเพื่อคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ฝ่าวิกฤติโควิด https://positioningmag.com/1347805 Fri, 20 Aug 2021 09:00:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1347805

ในทุกวิกฤติเราจะได้ New Business Model เสมอ…”

เมื่อพฤติกรรมลูกค้า ‘เปลี่ยนเร็ว’ ถึงเวลาที่เเบรนด์ต้องพลิก 360 องศา ปรับตัวให้ ‘ก้าวทัน’ ความต้องการของคนยุคใหม่ ปรากฎการณ์ ‘รีเเบรนด์ในรอบทศวรรษ’ ของ ‘กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์’ เมื่อช่วงต้นปี 2563  สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงสำคัญของธุรกิจการเงินเมืองไทยที่กำลังจะมีภาพลักษณ์เปลี่ยนไป ท่ามกลางกระเเสดิจิทัลเเละภัยโรคระบาด

การรีเเบรนด์ใหม่ ไม่ใช่เเค่เปลี่ยนโลโก้ เเต่ต้องปรับเปลี่ยนทั้งในเเละนอกองค์กร เมื่อ 1 มีนาคม  2564  ที่ผ่านมา กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงประกาศเเต่งตั้ง ‘พัทธ์หทัย กุลจันทร์’ ขึ้นมานั่งเก้าอี้ ‘เอ็มดี’ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด รับหน้าที่ดูแลแบรนด์กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ในช่วงเวลาที่เป็นก้าวสำคัญแห่งความเปลี่ยนแปลง

จากประสบการณ์ในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล มายาวนานกว่า 20 ปี โดดเด่นทั้งด้านกลยุทธ์ บัญชีและการเงิน การลงทุน รวมถึงการตลาด พัฒนาผลิตภัณท์ให้สอดคล้องกับงบประมาณและสภาวะเศรษฐกิจ

วันนี้ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ภายใต้การนำของ ‘พัทธ์หทัย กุลจันทร์’ จะเติบโตเเละมุ่งมั่นไปในทิศทางใด มีไม้เด็ดเเก้เกมพิษโควิดอย่างไรบ้าง เราจะมาหาคำตอบกัน…

เมื่อผู้บริโภคเริ่ม ‘ระมัดระวัง’

พูดคุยกันด้วยบรรยากาศสบาย ๆ เเต่ก็เจาะลึกด้วยประเด็น ‘ภาวะตลาดของผู้บริโภค’ ในปัจจุบัน พัทธ์หทัย ฉายภาพให้เห็นถึง สถานการณ์หนี้สินของประชาชนที่ยังคงเติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวม โดยในไตรมาสเเรกของปีนี้ หนี้ภาคครัวเรือนได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นกว่า 90% ต่อจีดีพี

ความต้องการหนี้ของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยังเป็นไปเพื่อการบริโภคอุปโภค หรือสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อธุรกิจ  โดยจะสังเกตได้ว่า จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ในช่วงไตรมาส 1 ยอดใช้จ่ายของผู้บริโภคผ่านบัตรเครดิตในภาพรวมทั้งธุรกิจ ลดลงมาราว 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่เเล้ว สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่ม ‘ระมัดระวัง’ เเละเมื่อเกิดการระบาดระลอก 3 การใช้จ่ายก็ยิ่งลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ด้านสินเชื่อส่วนบุคคล จะมีเเนวโน้มคล้าย ๆ บัตรเครดิต โดยจะเห็นว่า ภาพรวมทั้งธุรกิจ สินเชื่อคงค้างของสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในไตรมาสแรก ปรับลดลงมา -2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่เเล้ว

“ผู้บริโภคก็ทราบดีว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ดี ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง จึงเลือกประหยัดมากขึ้น”


เป้าหมายลดภาระหนี้ : แบ่งเบาภาระ ไม่ทอดทิ้งลูกค้า ฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน

ในยามที่มีความไม่เเน่นอนสูง การคิดหามาตรการช่วยเหลือลูกค้าให้ได้มากที่สุด คือหนึ่งในนโยบายธุรกิจที่สำคัญของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ที่ผ่านมา บริษัทมีมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ที่เป็นนับเป็น ‘กรณีศึกษา’ ในเรื่องการรับมือวิกฤติได้ดี อย่างการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนานสูงสุด 2 รอบบัญชี, ลดยอดชำระขั้นต่ำต่อเดือน, ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาผ่อนชำระเป็นกรณีพิเศษ ฯลฯ

ในกรณีที่ลูกค้าไม่ไหวจริงๆ ค้างชำระติดต่อกัน ก็จะมีการนำเสนอในเชิงรุกอย่างการ ‘ปรับโครงสร้างหนี้’ ขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้ยาวขึ้น เเตกต่างไปตามยอดคงค้างของลูกค้า พร้อมดอกเบี้ยอัตราพิเศษ

พัทธ์หทัย บอกว่า นับตั้งเเต่เปิดโครงการช่วยเหลือตามมาตรการต่าง ๆ มาตั้งเเต่ปีที่เเล้ว ปัจจุบันมีลูกค้าเข้าร่วมทั้งหมดราว 9 เเสนบัญชี คิดเป็นกว่า ‘ครึ่งหนึ่ง’ ของบัญชีที่เเอคทีฟทั้งหมดของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ มียอดช่วยเหลือไปเเล้วถึง  3.5 หมื่นล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่ จะเข้ามาตรการการปรับลดการผ่อนชำระขั้นต่ำ 5% เหลือ 3% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลเยอะที่สุด ถึง 6 เเสนบัญชี เห็นได้ชัดว่าเป็นโครงการที่ตอบโจทย์การลดภาระการเงินของลูกค้าในยามวิกฤติ

ส่วนกลุ่มที่จะเข้าไปสู่การรีไฟเเนนซ์ หรือปรับโครงสร้างหนี้นั้น มีอยู่ประมาณ 1.1 เเสนบัญชี ยอดประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ด้านมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนานสูงสุด 2 รอบบัญชี มีลูกค้าเข้าร่วมประมาณ 1 หมื่นบัญชี เเละคาดว่าจะมีเข้ามาอีกเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม การพักชำระหนี้ยังไม่ได้ตอบโจทย์ที่สุด ทีมกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์จึงกำลังวางเเผนว่าหลังจบรอบ 2 เดือนไปเเล้ว อาจจะมีมาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ ออกมาเพิ่มเติม เพื่อลดภาระหนี้ให้กับลูกค้า คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้เเก่ กลุ่มที่มีรายได้ลดลง รายได้ไม่เเน่นอนจากสถานการณ์โควิด ตามมาด้วยกลุ่มที่ธุรกิจถูกปิดชั่วคราว ทั้งนายจ้างเเละลูกจ้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสีเเดงเข้ม

“ลูกค้าของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ส่วนใหญ่จะเป็น ‘เเฟนพันธุ์เเท้’ อยู่กันมานาน เราต้องช่วยพยุงให้พวกเขาอยู่รอด อย่างน้อย ๆ ต้องจ่ายดอกเบี้ยลดลง ไม่อยากให้พวกเขาต้องจำใจไปกู้นอกระบบ เราต้องคิดหาทางลดภาระดอกเบี้ยของลูกค้าให้ได้มากที่สุด”


Go Digital …มาถูกทางเเล้ว

พัทธ์หทัย ยืนยันว่า ทิศทางของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ที่มุ่งเน้นไปในทางดิจิทัลเเพลตฟอร์มนั้น มา ‘ถูกทางเเล้ว’ ยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 จะเห็นว่าเเอปพลิเคชัน UCHOOSE เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่ได้ดีมาก

ปัจจุบัน กว่า 90% ของลูกค้าที่เป็นบัญชีที่แอคทีฟของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ มีการโหลดเเอปฯ UCHOOSE ซึ่งฟีเจอร์หลัก ๆ ที่ลูกค้าเลือกใช้ ได้แก่ การจ่ายบิล, ดูโปรโมชันบัตร, เเลกพอยต์เเละขอ E-Statement

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทได้ส่งบริการใหม่ ออกมาเจาะตลาด นั่นก็คือ ยู แคช(U Cash)  บริการโอนวงเงินของลูกค้าที่มีอยู่เข้าบัญชีออมทรัพย์หรือพร้อมเพย์ เพื่อใช้เป็นเงินสดโดยทำรายการผ่านแอป UCHOOSE หลังเปิดบริการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2564 เป็นต้นมา พบว่า ‘กระแสตอบรับดีเกินคาด’ มียอดเบิกถอนเงินสด เพิ่มขึ้นถึง 25% เทียบกับก่อนมีบริการผ่านช่องทางนี้

อีกบริการหนึ่งที่ได้รับความสนใจไม่เเพ้กัน ก็คือ U Card สมัครบัตรเครดิตผ่านเเอปพลิเคชัน UCHOOSE โดยได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วง พ.ค.- ก.ค.ที่มีคำสั่งล็อกดาวน์

“ในอนาคตถ้าทำให้ง่ายขึ้น จากที่ง่ายอยู่เเล้ว จะเอื้อต่อการสมัครบัตรที่ 2 หรือบัตร Co-brand อื่น ๆ ได้สะดวกขึ้น” 


จับมือพันธมิตร จัดโปรสุดคุมตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ก็คือ การร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างความเติบโตทางธุรกิจ พันธมิตรของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ มีทั้งพันธมิตรชั้นนำ ซึ่งให้ความไว้วางใจกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ออกบัตรเครดิตร่วม (Co-branded Card) เช่น เซ็นทรัลกรุ๊ป ที่มีบัตรเซ็นทรัล เดอะวัน เฟิร์สช้อยส์ ร่วมมือจัดโปรโมชันสำหรับการผ่อนชำระสินค้าในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป พร้อมให้คะเเนนสะสม The 1 Card สูงสุด 2 เท่า หรือ บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือโฮมโปร ที่ร่วมกันออกบัตรโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์ และ เมกาโฮม เฟิร์สช้อยส์ ที่มีจุดเด่นอย่างการผ่อน  0%  นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยอดใช้จ่ายของลูกค้า ช่วยลดภาระในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง พร้อมมอบ E- Coupon ต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังเป็นพันธมิตรกับเเบรนด์ต่าง ๆ มากมายกว่า 25,000 ราย ร่วมกันนำเสนอโปรโมชันที่มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า โดยเฉพาะโปรโมชันผ่อนชำระ 0% และดีลพิเศษอื่น ๆ ที่เน้นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น ออนไลน์ช้อปปิ้ง ผ่อนสินค้าไอที แกดเจ็ทต่าง ๆ  ผ่อนสินค้าและเฟอร์นิเจอร์เพื่อคน Work From Home เป็นต้น

“ในภาพรวม เราเป็นผู้นำด้านธุรกิจผ่อนชำระ เเละมีพาร์ทเนอร์เจ้าใหญ่ ๆ ที่ทำธุรกิจร่วมกัน นอกเหนือจากการช่วยเหลือลูกค้าเเล้ว ในขณะเดียวกัน เราไม่เคยลืมพันธมิตรของเรา ซึ่งมีการช่วยเหลือเเละประสานงานร่วมกันอยู่ตลอด”

ขณะเดียวกัน เราเห็นโอกาสการเติบโตของบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ในส่วนฐานลูกค้าต่างจังหวัดที่มีค่อนข้างเยอะ จึงตอบโจทย์นี้ผ่านห้างโรบินสันในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป อีกโอกาสหนึ่งที่น่าสนใจคือลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านไทวัสดุ ที่มีการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากเเละผ่อนชำระได้ยาว ๆ”

ทั้งนี้ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ มีฐานลูกค้าต่างจังหวัดมากถึง 60% (อีก 40% เป็นกรุงเทพฯ) โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือนราว 80% มีรายได้ประจำไม่สูงมาก เเละอีก 20% เป็นกลุ่มเจ้าของกิจการ


เอาใจ Gen Y-Z บุกตลาดนักช้อปออนไลน์

เราต้องการจะเป็นผู้ช่วยสร้างเครดิต เริ่มปูทางเครดิตการเงินให้กับคนไทย”

เกือบ 70% ของลูกค้ากรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ มีอายุเฉลี่ยต่ำกว่า  40  ปี โดยฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี มีมากถึง  31% ไลฟ์สไตล์จึงปรับเปลี่ยนเร็ว ตามติดโซเชียลมีเดีย เเละอัพเดตเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ดังนั้น การจับตลาดของเเบรนด์ จึงเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ First Jobber ที่ต้องการมีบัตรเครดิตใบเเรกสื่อสารผ่านธีม ‘จุดเริ่มต้น คนมีเครดิต’ มีการดีไซน์รูปเเบบสาขาใหม่ ให้ทันสมัย หรูหราเเละมินิมอล ใช้พรีเซนเตอร์เเละอินฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น

สำหรับยอดใช้จ่ายบนฟีเจอร์บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ในไตรมาสเเรก มีการเติบโตโดยรวม 5% อยู่ที่ 13,100 ล้านบาท  นับว่าเติบโตสวนทางตลาด โดยหมวดที่มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดที่สุดก็คือ หมวดออนไลน์ช้อปปิ้ง (23%) ตามมาด้วยการเติมน้ำมันเเละทานอาหาร ค่ารักษาพยาบาลเเละประกัน

 หมวดช้อปออนไลน์เเละประกัน จะเป็น 2 หมวดหลักที่เราจะมุ่งเติบโตให้ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง”

สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เมื่อผู้คนในปัจจุบันมีการทำงานจากที่บ้านมากขึ้น ทำให้การใช้จ่ายออนไลน์เติบโตสูง รวมทั้งยังมีความสนใจในเรื่องสุขภาพและความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น


เฟิร์สช้อยส์ : เจ้าตลาดสินเชื่อผ่อนชำระ

ฟีเจอร์ที่ลูกค้า ‘ชื่นชอบมากที่สุด’ ก็คือ  การผ่อนชำระ ซึ่งเฟิร์สช้อยส์มีแผนผ่อนชำระให้เลือกหลากหลาย  ทั้งการผ่อน 0% ยาวๆ ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงนี้ได้ดี โดยทางกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์มี ‘ข้อได้เปรียบ’ คือสามารถผ่อนได้สูงสุดถึง 24  เดือน สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ  หรือการผ่อนชำระแบบมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และช่วยให้ลูกค้าบริหารการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น

 ยอดการผ่อนชำระสินค้าที่ซื้อผ่านออนไลน์ช้อปปิ้งแพลตฟอร์ม ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ มีการเติบโตถึง 80% นับว่าสูงมาก มีทั้งการผ่อนผ่านอี-มาร์เก็ตเพลสอย่าง Shopee, Lazada เเละพาร์ทเนอร์ที่เข้าไปจับมือกัน มีการอัดโปรโมชันค่อนข้าง ‘จัดเต็ม’ กับกลุ่มอีคอมเมิร์ซ

อีกสิ่งน่าสนใจในช่วงนี้คือการ ‘ผ่อนทองคำ’ ผ่อนแก็ดเจตไอทีใหม่ ๆ ผ่อนสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการ Work From Home ทำงานที่บ้านทั้งเก้าอี้ โต๊ะคอมฯ ของตกเเต่งบ้าน เเละการผ่อนประกัน

“สถานการณ์โควิดยืดเยื้อ เเน่นอนว่ามีลูกค้ากลุ่มหนึ่งได้รับผลกระทบ เเต่เรายังมีฐานลูกค้าอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อย เเละหันมาใช้ไลฟ์สไตล์ออนไลน์มากขึ้น เริ่มวางเเผนทางการเงินเเละประกันสุขภาพมากขึ้น”

นอกจากนี้ จุดเด่นโปรโมชัน ‘Cash Back’ ของเฟิร์สช้อยส์ ที่ให้เครดิตเงินคืนสูงสุด 3% เป็นอีกสิ่งจูงใจให้คนหันมาเลือกใช้เป็น ‘บัตรหลัก’ เน้นให้คืนง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน หรือจะนำคะเเนนไปแลกรับเครดิตเงินคืนที่เป็นส่วนลดได้เพิ่มเติมอีกด้วย

ย้อนกลับไป ในช่วงเเรก ๆ ของการระบาดของโควิด-19 กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ เคยมีการเข้มงวดการ ‘ออกบัตรใหม่’ เเต่ในช่วงหลัง ๆ มีการผ่อนคลายมากขึ้น ลดเพดานรายได้ขั้นต่ำลง โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

“รายได้ของมนุษย์เงินเดือนปรับมาอยู่ช่วงหมื่นต้น ๆ เยอะขึ้น ลดลงจากเเต่ก่อน ที่เฉลี่ยราว 2  หมื่นบาท”

กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ เคยตั้งเป้าบัตรใหม่ปีนี้ไว้ที่ 2 เเสนใบ เเม้จะเจอสถานการณ์โรคระบาดที่รุนเเรงกว่าที่คาดเเต่จะพยายามให้ไม่ลดลงจากเป้าเดิมมากนัก อาจจะอยู่ที่หลัก 1.7-1.8 เเสนใบ เเละมีเป้าหมายยอดใช้จ่ายโดยรวมที่ 7.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 45,000 ล้านบาท และยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ 30,000 ล้านบาท


ตลาด ‘สินเชื่อส่วนบุคคล’ ในอาเซียน สดใหม่เเละมีโอกาสสูง

เป็นที่ทราบกันดีว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กำลังเดินหน้าร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรในเครือ MUFG ซึ่งเป็นบริษัทเเม่ ขยายการลงทุนในอาเซียนอย่างเต็มรูปเเบบ เพื่อขึ้นแท่นสถาบันการเงินชั้นนำในภูมิภาค ผ่านการร่วมทุนในประเทศลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์ โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอในตลาดใหม่นี้ ก็คือ สินเชื่อส่วนบุคคลของเฟิร์สช้อยส์

“ธุรกิจผ่อนชำระเเละสินเชื่อส่วนบุคคลในตลาดสปป.ลาว ยังไม่มีคู่เเข่งเยอะ ถือว่ายังมีโอกาสอีกมาก การเติบโตสูง เเต่ความท้าทายก็มีอย่างค่าเงินกีบที่ค่อนข้างผันผวน อีกทั้งคนลาวบางส่วนยังใช้ทั้ง 3 สกุลเงิน คือ กีบ, บาท และดอลลาร์ จึงต้องมีการจัดการเรื่องระบบอัตราการเเลกเปลี่ยนเงินระหว่าง 3 สกุลให้ดี”

ด้านการขยายไปยังกัมพูชานั้น ได้เข้าซื้อหุ้นใน “หัตถา กักสิกรอร์ ลิมิเต็ด” (Hattha Kaksekar Limited : HKL) ที่เป็นธุรกิจไมโครไฟเเนนซ์เเบบมีหลักประกัน ซึ่งปัจจุบัน มีการยกระดับขึ้นมาเป็นธนาคารพาณิชย์เเล้ว จึงมีการเเชร์ฐานข้อมูลลูกค้าเเละขยายบริการได้มากขึ้น

“เศรษฐกิจกัมพูชายังมีโอกาสเติบโตได้มาก การส่งออกดี เราจึงประเดิมเจาะตลาดผ่อนชำระด้วยเเบรนด์เฟิร์สช้อยส์เลย ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงบุกเบิก ในอนาคตจะมีการพัฒนาไปในรูปแบบ 2-in-1 ทั้งผ่อนชำระเเละกดเงินสดได้เเบบเดียวกันเหมือนประเทศไทย”

ส่วนการเจาะตลาดฟิลิปปินส์ มีการเข้าไปร่วมทุน (Joint Venture) โดยถือหุ้น 50% ในเอสบี ไฟแนนซ์ คอมปานี อิงค์ (SBF) บริษัทไฟแนนซ์ในฟิลิปปินส์ ซึ่ง SBF เป็นบริษัทลูกของ Security Bank Corporation ที่ทาง MUFG ถือหุ้นอยู่ เกิดเป็น ‘SB Finance’ ขึ้นมา โดยหลัก ๆ ทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล

สำหรับโอกาสธุรกิจในฟิลิปปินส์นั้นมีสูงมาก จากการมีกลุ่มผู้บริโภควัยทำงานเเละมีการใช้โซเชียลมีเดีย คุ้นเคยกับการ ช้อปปิ้งออนไลน์ เฟิร์สช้อยส์จึงเล็งจะขยายธุรกิจในรูปแบบ 2-in-1 เช่นเดียวกัน เเต่ความพิเศษอยู่ที่จะเป็น ‘ดิจิทัล’


เปิดใจ รับฟัง เเละเรียนรู้อยู่เสมอ

ทุกวิกฤติคือโอกาสในการเรียนรู้ สิ่งสำคัญคือการไม่ทอดทิ้งลูกค้า ช่วยเหลือลูกค้า พนักงาน เเละพาร์ทเนอร์ให้อยู่รอดผ่านพ้นไปด้วยกัน สิ่งนั้นจะกลายมาเป็น Long-Term Sustainable Growth

“ไม่ว่าจะยุคไหนของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็จะเน้นเรื่องหลักธรรมาภิบาลเเละความโปร่งใส รวมไปถึงความสม่ำเสมอในการเติบโต ไม่ยอมเเพ้เเม้จะเกิดเหตุการณ์วิกฤติใด ๆ ขึ้นมา มีกลยุทธ์ใหม่ฝ่าฟันไปได้เสมอ”

ส่วนวันว่างของ ‘พัทธ์หทัย กุลจันทร์’ หรือคุณเเจน เธอชื่นชอบการทำอาหาร เเละ ชอบดู ’รายการทำอาหาร’ เป็นพิเศษ มีบางมุมคิดที่สามารถนำมาปรับใช้กับได้ทำงานได้ อย่างเช่น คนเราจะเก่งคนเดียวไม่รอด ต้องบริหารทีมให้เป็น กำหนดทิศทางให้ชัดเจน ซึ่งนอกจากจะดูเพื่อความสนุกเเล้ว ก็ยังตอบโจทย์ปรัชญาในการทำงานด้วย

โดยหลักคิดในการทำงานของเธอ คือ ให้ความสำคัญกับทีมงาน จะเก่งคนเดียวไม่ได้ เปิดให้พนักงานทุกคนมีโอกาสได้เเชร์ไอเดียเยอะ ๆ ให้โอกาสในการนำมาประยุกต์ใช้ เปิดใจเเละรับฟังความคิดเห็นมากขึ้น คุยกันได้สบายๆ

สำหรับเทคนิคการบริหารคนที่มาจากหลากหลายเจเนอเรชันนั้น สิ่งที่ต้องทำก็คือ การเอาใส่ใจ เเละการ ‘Coaching’ ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา ไม่เเบ่งว่าเป็นใคร ตำเเหน่งอะไร อายุเยอะหรืออายุน้อย ต้องมีความเชื่อมั่นว่าทุกคนมี สกิลในการเรียนรู้สิ่งใหม่

พร้อมฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นจะก้าวหน้าในหน้าที่การงานว่า…

“จงเรียนรู้เเละทำให้ดีที่สุด พยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ พัฒนาทักษะทั้ง Soft Skill เเละ Hard Skill บางอย่างที่เราเคยล้มเหลวก็สู้ต่อไป นำมาปรับปรุงในอนาคต วันหนึ่งเราอาจจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำที่ดีได้ในอนาคต”

 

]]>
1347805
กลยุทธ์ ‘กรุงศรี คอนซูมเมอร์’ ทุ่มสร้างระบบนิเวศดิจิทัล ดันปล่อยกู้ออนไลน์ทะลุ ‘หมื่นล้าน’ ปีนี้ https://positioningmag.com/1340688 Mon, 05 Jul 2021 11:12:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1340688 พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนเร็วหลังวิกฤตโรคระบาดกรุงศรี คอนซูมเมอร์รุกสร้างระบบนิเวศดิจิทัลทุ่มงบ 500 ล้าน ขยายเเพลตฟอร์ม ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ จับการตลาดเเบบเฉพาะบุคคลร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ปล่อยสินเชื่อผ่านออนไลน์กว่าหมื่นล้านมองการเเข่งขันดุเดือด ช่วงไตรมาส 3-4

อธิป ศิลป์พจีการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด เล่าว่า ในช่วงการเเพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้บริโภคใช้โซเชียลมีเดีย จ่ายเเบบไร้เงินสดและบริการทางออนไลน์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริการช่องทางดิจิทัลในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีสูงกว่า 250 ล้านรายการ

จากข้อมูลของ We Are Social ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ระบุว่า คนไทยเกือบ 70 ล้านคน ในช่วงอายุ 16-64 ปี ใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ต (All Devices) กว่า 8 ชั่วโมง 44 นาที ส่วนใหญ่ดูทีวีสตรีมมิ่ง เล่นโซเชียลมีเดีย เเละเสพข่าวสารออนไลน์ ในจำนวนนี้ ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนถึง 98.9% คอมพิวเตอร์เเละโน้ตบุ๊ก 48.5% เเละผ่านเเท็บเล็ต 34.7%

จากกระเเสเทรนด์นี้ ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวให้ก้าวทันลูกค้าที่ใช้บริการออนไลน์ เพื่อขยายช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างครบวงจร รวดเร็ว และหลากหลาย พร้อมเร่งทำการตลาดโดยใช้ข้อมูล (Data-Driven Marketing)

บริษัทเตรียมขยายธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) ด้วยงบลงทุน 500 ล้านบาท ในช่วงปีนี้เเละปีหน้า โดยในไตรมาส 3 จะเริ่มทยอยขยายเเพลตฟอร์ม บริการเเละผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อผ่อนชำระและประกัน ออกมาทำตลาด

คนไทยแห่ใช้ QR Code 

ปัจจุบันกรุงศรี คอนซูมเมอร์มีฐานลูกค้าทั้งหมด 9 ล้านราย มียอดทำรายการผ่านบัตรในเครือสูงถึง 151 ล้านรายการ เฉลี่ยทำรายการอยู่ที่ 4 แสนรายการต่อวัน

ขณะเดียวกัน มีลูกค้าหันมาใช้บริการเเอปพลิเคชัน ‘UChoose’ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดือนธันวาคม ปี 2563 ที่ 5.8 ล้านราย คาดว่าปีนี้เพิ่มเเตะ 6.5 ล้านราย เติบโต 12% หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของฐานลูกค้าทั้งหมด

ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มียอดธุรกรรมผ่าน UChoose แล้วไปกว่า 2.2 ล้านรายการ เเละคาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเป็น 6.2 ล้านรายการ

สิ่งที่น่าสนใจคือ ในช่วงการเเพร่ระบาดของโควิด-19 คนไทยจำนวนมากเลือกชำระเงินผ่าน ‘QR Code’ จากเเรงสนับสนุนของมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ของรัฐบาลรวมถึงการหลีกเลี่ยงสัมผัสเงินสด

จากในปี 2563 ที่มีธุรกรรมผ่าน QR Code ราว 8.7 หมื่นรายการ ขยับมาเป็น 1.01 แสนรายการ เพียงในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ โดยประเมินว่า ภายในสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 3 แสนรายการ หรือเติบโต 3.4% สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่หันไปทำธุรกรรมบน ‘โมบายแอปพลิเคชัน’ มากขึ้น เห็นได้จากช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 30 ล้านครั้งเเล้ว จากปี 2563 อยู่ที่ 65 ล้านครั้ง เเละคาดว่าภายในสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 80 ล้านครั้ง หรือเติบโตถึง 23%

3 กลยุทธ์ปั้นโมเดลธุรกิจ รับโลกออนไลน์ 

สำหรับเเนวทางการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลของกรุงศรี คอนซูมเมอร์เเบ่งเป็น 3 ด้านหลักๆ ได้เเก่

Platform : ขยายแพลตฟอร์มข้อมูล ผลิตภัณฑ์ บริการผ่านดิจิทัล-โซเชียลมีเดีย

ที่ผ่านมา กรุงศรี คอนซูมเมอร์ นำเทคโนโลยีมาให้บริการลูกค้า เช่น บริการยืนยันตัวตนด้วยเสียง ที่ใช้เสียงพูดเพื่อยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับบัญชีบัตรเครดิต ผ่านศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ บริการตรวจสอบข้อมูลบัญชีบัตรเครดิตด้วยตนเอง ผ่านระบบแชทบอทบน Facebook Messenger

โดยในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เป็นต้นไป บริษัทมีแผนเพิ่มช่องทางการสื่อสารทางดิจิทัลใหม่ๆ อย่าง กรุงศรี คอนซูมเมอร์ Line OA, Website, Facebook, Youtube เพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม เเละบริการ U Card สมัครบัตรใหม่ผ่านแอปฯ UChoose พร้อมขยายจุดรับบริการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (E-KYC) ผ่านจุดยืนยันตัวตนกว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศในช่วงไตรมาสที่ 4

Partnership : สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมอัดโปรโมชัน

สานต่อการจับมือกับพันธมิตรในหลากหลายแบรนด์และประเภทกลุ่มธุรกิจ เช่น อโกด้า, แอร์เอเชีย, แกร็บ, โฮมโปร, ช้อปปี้, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, ยูนิโคล่, โลตัสออนไลน์ ฯลฯ เพื่อจะตอบสนองความต้องการเเละไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้า ผ่านการทำ ‘โปรโมชันและดีลพิเศษ’ อย่างการให้ส่วนลดซื้อสินค้า ใช้คะแนนแลกเครดิตเงินคืน หรือรับ E-Coupon สิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งในผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อส่วนบุคคล

Personalization – การสื่อสารและทำการตลาดเฉพาะบุคคล

หนึ่งในกลยุทธ์เสริมศักยภาพในระบบนิเวศดิจิทัลของ ‘กรุงศรี คอนซูมเมอร์’ ที่สำคัญ คือ การนำฐานข้อมูล พฤติกรรมการใช้จ่ายต่างๆ ของลูกค้าที่มีอยู่มหาศาล มาสกัดการทำการตลาดเเบบเฉพาะบุคคล หรือที่เรียกว่า Personalized Marketing เพื่อให้บริการ นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสม และตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากขึ้น ให้ ‘ทันที ถูกที่ ถูกเวลา’ 

“ในอนาคต บริษัทยังเตรียมสร้าง Krungsri Consumer Data Platform ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมต่อและระบุตัวตนของลูกค้าจากข้อมูลทั้งออนไลน์และออฟไลน์จากทุก Touch Point ของลูกค้า รวมไปถึง Customer Journey เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้”

ขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ มาเเรง 

ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของเเวดวงสินเชื่อ ในช่วง ‘ครึ่งปีหลัง’ ของปีนี้ ผู้บริหารกรุงศรีฯ ประเมินว่า ตลาดจะกลับมาแข่งขันดุเดือดมากขึ้น ช่วงปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ในกรณีที่การกระจายวัคซีนได้ผลดีเเละมาตรการควบคุมการระบาดของรัฐไม่ยืดเยื้อเกินไป ซึ่งตลาดตลาดสินเชื่อบุคคลช่วงปลายปี น่าจะกลับมาเติบโตได้ดีกว่าช่วงต้นปี ที่หดตัวลงราว 5%

โดยช่วงนี้บริษัทได้ส่งบริการ ‘ขอสินเชื่อผ่านออนไลน์’ ออกมาเจาะตลาด นั่นก็คือ  ‘ยูแคช’ (U Cash) บริการโอนวงเงินบัตรเครดิตของลูกค้าที่มีอยู่ เข้าบัญชีธนาคารเพื่อใช้เป็นเงินสด หลังเปิดบริการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2564 เป็นต้นมา พบว่า ‘กระแสตอบรับดีเกินคาด’

ข้อมูล ณ วันที่ 23 มิ.ย. มียอดปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 1,240 ล้านบาท มีการทำธุรกรรมจำนวน 1.35 แสนรายการ เฉลี่ยวงเงิน 1.6 หมื่นบาทต่อราย คาดว่าภายในสิ้นปีจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 1 หมื่นล้านบาท

โดยได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มลูกค้าเดิม ที่มีวงเงินสินเชื่อในบัตรเครดิต ช่วงอายุ 30-40 ปี ซึ่งมีความคุ้นเคยกับระบบดิจิทัล ได้เปลี่ยนพฤติกรรมมาขอสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุด เนื่องจากเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปกดเงินสดเองที่ตู้เอทีเอ็ม

เมื่อถามว่า ท่ามกลางการเติบโตของเทรนด์ผู้ใช้เเพลตฟอร์มออนไลน์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ อีกมุมหนึ่งอะไรเป็นความท้าทายของการสร้าง ‘ระบบนิเวศดิจิทัล’ ในไทย นั้น อธิปตอบว่า คือการพัฒนาระบบให้ผู้บริโภคทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ความพร้อมของอีโคซิสเต็ม การได้รับสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ รวมไปถึงการสร้างความรับรู้ การเปลี่ยน
เเปลงของรูปแบบการใช้จ่ายในสังคม เพื่อขยายฐานผู้ใช้งาน

โดยการที่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีฐานลูกค้าตอนนี้กว่า 9 ล้านราย ครอบคลุมทั้งลูกค้าระดับเเมส และกลุ่มลูกค้าระดับบน พร้อมพันธมิตรกว่า 2.5 หมื่นราย เเละมีการเสริมทีมงานพัฒนาระบบให้รองรับการใช้งานที่มากขึ้นตามไปด้วย ก็นับเป็น ‘จุดแข็ง’ ของเเบรนด์ในตลาดที่เเข่งขันสูงนี้ …

 

]]>
1340688