ในที่สุด…โครงการ ‘Travel Bubble’ ระหว่างสิงคโปร์เเละฮ่องกง สองศูนย์กลางการเงินเอเชีย ที่จำเป็นต้องเลื่อนมาหลายรอบ ก็ถึงเวลากลับมาเริ่มใหม่อีกครั้งในวันที่ 26 พ.ค.นี้
ความไม่เเน่นอนของ COVID-19 ทำให้ Travel Bubble ที่เป็นเหมือน ‘ความหวังใหม่’ ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มตั้งเเต่เดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา ต้องโดนชะลอเเผนไปด้วย
Ong Ye Kung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ ระบุว่า สถานการณ์การเเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในฮ่องกงที่ดีขึ้นมาก เเละมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียงไม่กี่รายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันทางสิงคโปร์เอง ก็มีอัตราการติดเชื้อในระดับต่ำมาก จึงเป็นโอกาสที่จะตกลงทำ ATB (Air Travel Bubble) ร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งหากสถานการณ์อีก 1 เดือนข้างหน้าสามารถ ‘ควบคุมได้’ เช่นนี้ ก็จะเป็นไปตามเเผนที่วางไว้ เเต่ก็รับรองไม่ได้ว่าทุกอย่างจะราบรื่นหรือไม่
สำหรับโครงการ ATB จะเริ่มต้นใหม่ในวันที่ 26 พ.ค. นี้ โดยแต่ละวันจะมีเที่ยวบินหนึ่งเที่ยวบินออกจากฮ่องกงและสิงคโปร์ เเละรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 200 คน (ในช่วงสองสัปดาห์แรก) ผ่านบริการของ 2 สายการบินอย่าง ‘คาเธ่ย์แปซิฟิค’ และสายการบิน ‘สิงคโปร์ แอร์ไลน์’ เท่านั้น
จากข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ให้ประชาชนทั้งสองฝ่าย สามารถเดินทางไปมาหากันได้โดย ‘ไม่ต้องกักตัว’ และไม่มีข้อจำกัดวัตถุประสงค์การเดินทาง ซึ่งผู้ที่เดินทางทุกคนจะต้องมีผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 เป็นลบ เเละได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดส เเล้วอย่างน้อย 14 วัน รวมถึงต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่ใช้ระบุที่อยู่ด้วย
ด้าน Edward Yau รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง กล่าวว่า โครงการ ‘travel bubble’ ไม่เพียงเเต่จะตอบสนองความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการเริ่มต้นใหม่ของการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เเต่หากเกิดกรณีที่ค่าเฉลี่ยในรอบ 7 วันของผู้ติดเชื้อรายวันที่ไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อในชุมชน ‘สูงเกิน 5 คนต่อวัน’ ไม่ว่าทั้งในฮ่องกงหรือสิงคโปร์ โครงการนี้จะถูกระงับทันที
การเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกต้องตกต่ำลงอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปยังสิงคโปร์ลดลงถึง 81.2% ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2020 จากเดิมเคยเป็นช่วงไฮซีซั่น
สายการบินหลักของทั้งสิงคโปร์เเละฮ่องกง ต้องตกอยู่ในสภาวะวิกฤต โดยสิงคโปร์ แอร์ไลน์ขาดทุนราว 1.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 9 เดือนถึงธันวาคม 2020 หลังผู้โดยสารหดตัว 97.6% เเละไม่มีเส้นทางการบินในประเทศมาชดเชยเหมือนที่อื่น
ขณะที่สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกง รายงานผลขาดทุนประจำปี 2020 ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เเละต้องปลดพนักงานออกไปประมาณ 1 ใน 4
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เริ่มเปิดการเดินทางข้ามพรมเเดนแบบไม่ต้องกักตัว ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังทั้งสองประเทศประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19
“โครงการ Travel Bubble เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูการเชื่อมต่อระหว่างนิวซีแลนด์กับโลก และเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนควรภูมิใจ” นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ระบุ
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่วันหลังจากเปิด Travel Bubble ทางการนิวซีแลนด์ ต้องสั่งระงับโครงการนี้กับรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียแล้ว หลังพบว่ามีการเเพร่เชื้อ COVID-19 หลุดจากสถานที่กักตัวในเมืองเพิร์ทจนทำให้มีการระบาดระลอกใหม่…จึงเป็นความท้าทายของ ‘Travel Bubble’ ที่จะต้องมีการเเก้ปัญหาร่วมกันต่อไป
- “ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์” เปิด “travel bubble” เดินทางโดยไม่ต้องกักตัว
- “บาหลี” ตั้งเป้าเปิดเมือง! รับนักท่องเที่ยว 6 ประเทศภายในเดือน ก.ค. นี้