ยักษ์เทคโนโลยีจีน “หัวเว่ย” ประกาศร่วมทุนกับ “ฉางอัน” บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 7 ของจีน ผนึกกำลังทำธุรกิจด้านธุรกิจ “ระบบรถยนต์อัจฉริยะ” โดยจะมีการย้ายแผนกและเทคโนโลยีทั้งหมดที่หัวเว่ยพัฒนามาก่อนหน้านี้เข้าไปในบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่
หัวเว่ย (Huawei) ประกาศเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2023 ว่า บริษัทมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ “ฉางอัน” (Changan Auto) เพื่อทำธุรกิจด้านระบบรถยนต์อัจฉริยะแบบครบลูป ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การผลิต ขาย และบริการหลังขาย โดยจะมีการยกแผนก ทรัพยากร และเทคโนโลยีแกนกลางที่หัวเว่ยพัฒนามาก่อนหน้านี้ เข้าไปพัฒนาต่อที่บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่
“บริษัทใหม่นี้จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อสนับสนุนการเป็นผู้นำและนวัตกรรมในด้านเทคโนโลยีระบบรถยนต์อัจฉริยะ และสนับสนุนการพัฒนาและความรุ่งโรจน์ของอุตสาหกรรมรถยนต์” ถ้อยแถลงจากหัวเว่ยระบุ
ฝั่งบริษัท Chongqing Changan Automobile แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เสิ่นเจิ้นเรื่องการร่วมทุนครั้งนี้ว่า มูลค่าการร่วมทุนและอัตราส่วนการร่วมทุนยังอยู่ระหว่างเจรจา
“ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันสนับสนุนเป้าหมายของบริษัทเพื่อเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมระบบรถยนต์อัจฉริยะในประเทศจีน” เป็นคำแถลงจากฝั่งฉางอัน
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Reuters มีการรายงานว่าบริษัทร่วมทุนใหม่นี้ ฉางอันน่าจะถือหุ้น 40% และฝั่งหัวเว่ยถือหุ้น 60%
ด้าน Yu Chengdong กรรมการผู้จัดการและประธานแผนกโซลูชันรถยนต์อัจฉริยะของหัวเว่ย กล่าวในงานลงนามความร่วมมือที่เสิ่นเจิ้นว่า ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะมีการทำงานร่วมกับบริษัทรถยนต์มากขึ้น “เพื่อคว้าโอกาสในช่วงทรานสฟอร์มเป็นรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์อัจฉริยะในวงการยานยนต์”
“หัวเว่ย” ชี้แจงหลายครั้งมาก่อนหน้านี้ว่า บริษัทไม่มีการผลิตรถยนต์ของตนเอง เพียงแต่ทำงานเบื้องหลังเพื่อช่วยให้บริษัทรถยนต์อื่นๆ ผลิตรถยนต์ที่ดีขึ้น
นอกจากฉางอันแล้ว หัวเว่ยยังมีความร่วมมือกับ “เซเรส กรุ๊ป” บริษัทรถจีนอีกค่ายหนึ่งด้วย โดยทั้งคู่ร่วมงานกันในการผลิตรถยนต์ยี่ห้อ “AITO” มาแล้วหลายรุ่น
รวมถึงหัวเว่ยยังไปจับมือกับ “เชอรี่” อีกหนึ่งบริษัทรถจีน เพื่อพัฒนารถยนต์ยี่ห้อ “Luxeed” รุ่น S7 รถซีดานที่ตั้งใจออกมาแข่งกับ Tesla Model S โดยเฉพาะ
- ฉางอันทุ่มลงทุน 9,800 ล้านบาท ตั้งฐานผลิต EV 1 แสนคัน ป้อนตลาดโลก
- สิ้นปี 2023 “BYD” มีโอกาสปาดมง “Tesla” ขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก
ระบบรถยนต์อัจฉริยะของหัวเว่ยนั้นครอบคลุมทั้งการพัฒนาโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่เป็นแกนกลางซอฟต์แวร์รถยนต์ ระบบขับเคลื่อนรถยนต์อัตโนมัติ ระบบอัจฉริยะภายในห้องโดยสาร แอปพลิเคชันในตัวรถยนต์ ระบบคลาวด์เซอร์วิส ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วย