สนามบิน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 11 Jul 2022 13:11:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เหตุผลที่สนามบิน-สายการบิน “ยุโรป” สุดโกลาหล ยกเลิกไฟลท์-เที่ยวบินดีเลย์เพียบ https://positioningmag.com/1392204 Mon, 11 Jul 2022 12:05:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1392204 สายการบินมีการยกเลิกไฟลท์หลายหมื่นเที่ยวบินตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 ผู้โดยสารมากมายถูกทิ้งไว้กลางทาง ภาพการต่อคิวยาวเหยียด หรือกระเป๋าเดินทางถูกทิ้งไว้ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลกลายเป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไป เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ใน “ยุโรป” ดูจะโกลาหลหนักกว่าทวีปอื่นๆ

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 สายการบินอเมริกันมีการยกเลิกไฟลท์บินไปกว่า 21,000 เที่ยวบิน หรือคิดเป็น 2.7% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด

แต่จำนวนเที่ยวบินยกเลิกของฝั่งสหรัฐฯ ก็ยังไม่เท่ากับไฟลท์ยกเลิกของฝั่งยุโรปซึ่งมากกว่าเป็นเท่าตัว จากการเก็บข้อมูลของบริษัท RadarBox.com ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2022 ในหมู่สนามบินที่แย่ที่สุดของยุโรป 10 แห่ง มีการยกเลิกเที่ยวบินสะสม 64,100 เที่ยวบิน ระหว่าง 3 เดือนดังกล่าว

ทำไมยุโรปถึงอาการหนักในการ “เท” ผู้โดยสาร? คำตอบคือ 2 เหตุผลนี้

 

1.พนักงานไม่พอ รับสมัครกลับมาไม่ทัน แถมยังมี “สไตรค์”

สายการบินอเมริกันมีการปลดพนักงานออกในช่วงโรคระบาดเหมือนกัน แต่สายการบินอเมริกันมีการเตรียมตัวกลับสู่โลกปกติได้เร็วกว่า โดยเริ่มรับสมัครงานพนักงานกลับมาตั้งแต่กลางปี 2021

นโยบายของฝั่งสหรัฐฯ ที่กลับมารับพนักงานเร็ว ก็เป็นเพราะการเดินทางภายในประเทศของสหรัฐฯ ทำได้ง่ายกว่า ด้วยกฎเกณฑ์ด้านโรคระบาดสำหรับการเดินทางระหว่างรัฐนั้นไม่เข้มงวดมากนัก เทียบกับในยุโรปแล้ว มีการควบคุมเข้มงวดกว่าเพราะเป็นการเดินทางระหว่างประเทศ ดังนั้น จำนวนเที่ยวบินฝั่งสหรัฐฯ จึงดีดกลับมาเร็วกว่า ต้องการพนักงานเพิ่มมาตั้งแต่ปีก่อน

ยุโรป สนามบิน โกลาหล
สัมภาระของผู้โดยสารถูกวางเกะกะไว้บริเวณเบลท์สัมภาระ สนามบินสคิปโฮล เนื่องจากขาดพนักงานดูแล ภาพจากวันที่ 12 มิ.ย. 2022 (Photo: Shutterstock)

ขณะที่ฝั่งยุโรปนั้น ในช่วง COVID-19 มีการปลดคนสูงสุด 191,000 คนทั่วยุโรป รวมทั้งพนักงานบนเครื่องบินและพนักงานภาคพื้นในสนามบิน เฉพาะพนักงานในสนามบินนั้น การเลย์ออฟทั้งหมดคิดเป็น 58.5% ของพนักงานทั้งหมด จากข้อมูลที่ศึกษาโดย สมาพันธ์แรงงานด้านการขนส่งแห่งยุโรป

เมื่อขณะนี้การท่องเที่ยวเพิ่งจะพุ่งทะยานกลับมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด จึงไม่มีพนักงานเพียงพอ ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลการสแกนสัมภาระ ความปลอดภัย หรือกระทั่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

อีกทั้งการรับสมัครงานพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการบิน ยังต้องผ่านการตรวจสอบประวัติเพื่อความปลอดภัยหลายอย่างซึ่งใช้เวลา ขณะที่เงื่อนไขการทำงานก็ไม่ค่อยจูงใจแรงงานเท่าไหร่

Ryan Air หนึ่งใสสายการบินที่เผชิญปัญหาพนักงานสไตรค์ (Photo: Markus Winkler/ Pexels)

ยกตัวอย่างสนามบินฮีทโธรว์ของอังกฤษ เพิ่งจะเริ่มรับสมัครงานกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 และกว่าจะทยอยบรรจุพนักงานได้เท่ากับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ก็คาดว่าจะต้องรอถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

ซ้ำร้าย พนักงานที่ยังทำงานอยู่ขณะนี้ก็มีสไตรค์ นัดหยุดงานประท้วงบ่อยครั้ง เพราะเงื่อนไขการทำงานหนักหน่วง และยังได้ค่าจ้างแบบยุคโรคระบาดที่ถูกตัดเงินเดือนไปมาก ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน Ryanair, Easyjet, Lufthansa หรือ สนามบิน สคิปโฮล ในเนเธอร์แลนด์ สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ในฝรั่งเศส ต่างก็เคยเกิดพนักงานสไตรค์มาแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอีกเรื่อยๆ ในสายการบินอื่นหรือสนามบินอื่น

 

2. “ยุโรป” คือศูนย์รวมการเดินทาง

พนักงานไม่พอ แต่ยุโรปคือศูนย์รวมแห่งการเดินทางท่องเที่ยว ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2022 ยุโรปมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น 280% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ถ้าเทียบกันแล้ว สหรัฐฯ มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพิ่ม 117% เทียบกับปีก่อน เห็นได้ว่ายุโรปต้องรับภาระหนักมากกว่า

ทำไมนักท่องเที่ยวจึงพร้อมใจกันมา? เรื่องนี้เป็นเพราะยุโรปเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดด้านโรคระบาดก่อนทวีปอื่น ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูร้อนของยุโรป จุดหมายปลายทาง 31 แห่งของยุโรปไม่มีกฎด้าน COVID-19 ในการเข้าสู่ดินแดนโดยสิ้นเชิง

ภาคท่องเที่ยวต้องการจะต้อนรับผู้มาเยือน แต่ซัพพลายด้านการเดินทางไม่พร้อมจะรับดีมานด์เหล่านี้เลย

สนามบินใหญ่ๆ ของยุโรป เช่น สคิปโฮล ในอัมสเตอร์ดัม หรือ ฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน ต่างวอนขอให้สายการบินช่วยลดจำนวนเที่ยวบินลง บางสายการบินเรียกได้ว่าถูกบังคับให้ตัดไฟลท์ออก ซึ่งทำให้ผู้โดยสารไม่พอใจอย่างมาก

โชคร้ายหน่อยที่สถานการณ์เหล่านี้คงไม่จบในเร็ววัน จนกว่าจะพ้นฤดูร้อนซึ่งเป็นหน้าท่องเที่ยว เพราะผู้โดยสารยังคงเพิ่มจำนวนขึ้น และเจ้าหน้าที่ก็ไม่เพียงพอ แม้จะมีการรับสมัครงานเพิ่มขึ้นแต่ก็เทรนไม่ทันในตำแหน่งที่ต้องใช้เวลาฝึก เช่น ความปลอดภัย การจัดการสัมภาระ ทำให้ผู้โดยสารที่ต้องการจะบินเข้าออกยุโรปในช่วงฤดูร้อนของที่นั่น อาจต้องเตรียมใจหากจะเกิดเที่ยวบินดีเลย์หรือยกเลิกไฟลท์ขึ้น

Source: Euronews, Reuters

]]>
1392204
‘สุนัขดมกลิ่น’ ตัวช่วยเสริมความเร็ว คัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 ในสนามบิน-งานอีเวนต์คนเยอะ https://positioningmag.com/1333798 Tue, 25 May 2021 09:24:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1333798 สุนัขดมกลิ่นกำลังจะมาเป็นตัวช่วย’ เสริมความรวดเร็วในการคัดกรองผู้ป่วยโรคโควิด-19 ขั้นต้น ตามสนามบิน เเละอีเวนต์ใหญ่ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก

ทีมวิจัยในสหราชอาณาจักร ได้ฝึกฝนสุนัขให้จดจำกลิ่นพิเศษจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่จมูกมนุษย์ไม่สามารถตรวจจับได้ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการรับรองผลในห้องแล็บอีกครั้งเพื่อความเเน่นอน

สุนัขสามารถดมกลิ่นได้ดีกว่ามนุษย์ถึง 1 แสนเท่า และมาช่วยงานดมกลิ่นหายาเสพติดและระเบิดเป็นเวลานานเเล้ว งานวิจัยในปัจจุบันชี้ให้เห็นว่า สุนัขสายพันธุ์รีทรีฟเวอร์และสแปเนียล สามารถดมและแยกแยะกลิ่นเฉพาะของโรคต่างๆ ได้ เช่น มะเร็ง พาร์กินสัน และมาลาเรีย

โดยสุนัข 6 ตัวได้รับการฝึกฝนให้ดมกลิ่นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากถุงเท้า หน้ากากอนามัย และเสื้อผ้าต่างๆ หากพวกมันดมกลิ่นเเล้วระบุได้ว่า ของใช้เหล่านั้นเป็นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือของผู้ที่ไม่ติดเชื้อ ก็จะได้รับรางวัล

นอกจากนี้ ยังมีการฝึกให้สุนัขแยกเเยะกลิ่นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 กับกลิ่นของผู้ที่เป็นไข้หวัดทั่วไป หรือติดเชื้อทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้ รวมถึงผู้ติดเชื้อโควิดหลายสายพันธุ์ ทั้งที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อย

Claire Guest หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Medical Detection Dogs ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกสุนัขในโครงการนี้ ระบุว่าผลการวิจัยดังกล่าวเป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่า สุนัขเป็นหนึ่งในเครื่องตรวจจับทางชีวภาพที่เชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับการค้นหากลิ่นโรคในมนุษย์

Photo : DHSC

โดยสุนัขดมกลิ่นสามารถตรวจจับผู้มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก ได้ถึง 88% หมายความว่า ในทุก ๆ 100 คนสุนัขดมกลิ่นผิดพลาดเพียง 12 คนเท่านั้น

ส่วนในกรณีผู้ที่ไม่ติดเชื้อโควิด สุนัขดมกลิ่นผิดพลาดไป 16 คน (บอกว่าผู้ไม่ติดเชื้อคือผู้ติดเชื้อ) โดยสมมติ หากเครื่องบินหนึ่งลำ มีผู้โดยสารทั้งหมด 300 คน เเต่มีผู้ติดเชื้อ 1 คน สุนัขดมกลิ่นก็มีแนวโน้มที่จะระบุถึงบุคคลนั้นได้อย่างถูกต้อง เเต่ก็อาจจะระบุผิดว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด อีก 48 คน

ดังนั้นทีมวิจัย จึงไม่แนะนำให้ใช้สุนัขดมกลิ่นเพียงอย่างเดียวในกรณีกลิ่นตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นบวก

โดยอาจใช้สุนัขดมกลิ่นมาเป็นตัวช่วยร่วมในการคัดกรอง ไปพร้อม ๆ กับการใช้วิธีคัดกรองอื่น ๆ ด้วย เช่น ให้สุนัขดมกลิ่นคัดกรองในขั้นแรก จากนั้นก็ใช้การตรวจเเบบ swab ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ จะสามารถตรวจพบผู้ติดเชื้อได้ถึง 91%

ประโยชน์ที่แท้จริงจากการนำสุนัขมาใช้ร่วมคัดกรอง คือความรวดเร็ว

นักวิจัยระบุว่า การตรวจเเบบ swab โดยทั่วไปใช้เวลาเร็วที่สุด 15 นาทีจึงจะทราบผล แต่สุนัขใช้เวลาดมเชื้อโรคได้ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งสุนัขที่ได้รับการฝึกแล้ว 2 ตัว สามารถดมกลิ่นและคัดกรองคนได้ถึง 300 คนในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง  

James Logan ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยลอนดอน ซึ่งทำการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเดอรัม ให้ความเห็นว่าการทดสอบด้วยการดมกลิ่น เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการคัดกรองผู้คนจำนวนมาก

งานวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น เเละยังต้องมีการทดลองเเละตรวจสอบอีกมาก ก่อนที่จะสามารถเผยแพร่ เเละดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้

 

 

ที่มา : BBC  , Reuters 

]]>
1333798
ฮ่องกง-สิงคโปร์ เร่งกระตุ้นท่องเที่ยว หลังคุมโควิดได้ดี ฟื้น ‘Travel Bubble’ อีกครั้ง เริ่ม 26 พ.ค.นี้ https://positioningmag.com/1329285 Mon, 26 Apr 2021 09:22:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1329285 ในที่สุดโครงการ ‘Travel Bubble’ ระหว่างสิงคโปร์เเละฮ่องกง สองศูนย์กลางการเงินเอเชีย ที่จำเป็นต้องเลื่อนมาหลายรอบ ก็ถึงเวลากลับมาเริ่มใหม่อีกครั้งในวันที่ 26 ..นี้

ความไม่เเน่นอนของ COVID-19 ทำให้ Travel Bubble ที่เป็นเหมือน ‘ความหวังใหม่’ ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มตั้งเเต่เดือนพ..ปีที่ผ่านมา ต้องโดนชะลอเเผนไปด้วย

Ong Ye Kung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ ระบุว่า สถานการณ์การเเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในฮ่องกงที่ดีขึ้นมาก เเละมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียงไม่กี่รายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันทางสิงคโปร์เอง ก็มีอัตราการติดเชื้อในระดับต่ำมาก จึงเป็นโอกาสที่จะตกลงทำ ATB (Air Travel Bubble) ร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งหากสถานการณ์อีก 1 เดือนข้างหน้าสามารถ ‘ควบคุมได้’ เช่นนี้ ก็จะเป็นไปตามเเผนที่วางไว้ เเต่ก็รับรองไม่ได้ว่าทุกอย่างจะราบรื่นหรือไม่

สำหรับโครงการ ATB จะเริ่มต้นใหม่ในวันที่ 26 .. นี้ โดยแต่ละวันจะมีเที่ยวบินหนึ่งเที่ยวบินออกจากฮ่องกงและสิงคโปร์ เเละรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 200 คน (ในช่วงสองสัปดาห์แรก) ผ่านบริการของ 2 สายการบินอย่างคาเธ่ย์แปซิฟิคและสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์เท่านั้น

(Photo : Singapore Airlines)

จากข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ให้ประชาชนทั้งสองฝ่าย สามารถเดินทางไปมาหากันได้โดยไม่ต้องกักตัวและไม่มีข้อจำกัดวัตถุประสงค์การเดินทาง ซึ่งผู้ที่เดินทางทุกคนจะต้องมีผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 เป็นลบ เเละได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดส เเล้วอย่างน้อย 14 วัน รวมถึงต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่ใช้ระบุที่อยู่ด้วย

ด้าน Edward Yau รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง กล่าวว่า โครงการ ‘travel bubble’ ไม่เพียงเเต่จะตอบสนองความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการเริ่มต้นใหม่ของการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เเต่หากเกิดกรณีที่ค่าเฉลี่ยในรอบ 7 วันของผู้ติดเชื้อรายวันที่ไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อในชุมชนสูงเกิน 5 คนต่อวันไม่ว่าทั้งในฮ่องกงหรือสิงคโปร์ โครงการนี้จะถูกระงับทันที

การเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกต้องตกต่ำลงอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปยังสิงคโปร์ลดลงถึง 81.2% ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2020 จากเดิมเคยเป็นช่วงไฮซีซั่น

สายการบินหลักของทั้งสิงคโปร์เเละฮ่องกง ต้องตกอยู่ในสภาวะวิกฤต โดยสิงคโปร์ แอร์ไลน์ขาดทุนราว 1.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 9 เดือนถึงธันวาคม 2020 หลังผู้โดยสารหดตัว 97.6% เเละไม่มีเส้นทางการบินในประเทศมาชดเชยเหมือนที่อื่น

ขณะที่สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกง รายงานผลขาดทุนประจำปี 2020 ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เเละต้องปลดพนักงานออกไปประมาณ 1 ใน 4

Photo : Shutterstock

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เริ่มเปิดการเดินทางข้ามพรมเเดนแบบไม่ต้องกักตัว ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังทั้งสองประเทศประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19

โครงการ Travel Bubble เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูการเชื่อมต่อระหว่างนิวซีแลนด์กับโลก และเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนควรภูมิใจ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่วันหลังจากเปิด Travel Bubble ทางการนิวซีแลนด์ ต้องสั่งระงับโครงการนี้กับรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียแล้ว หลังพบว่ามีการเเพร่เชื้อ COVID-19 หลุดจากสถานที่กักตัวในเมืองเพิร์ทจนทำให้มีการระบาดระลอกใหม่…จึงเป็นความท้าทายของ ‘Travel Bubble’ ที่จะต้องมีการเเก้ปัญหาร่วมกันต่อไป

 

 

ที่มา : BBC , CNA 

]]>
1329285
AOT ประกาศยืดเวลาจ่าย ‘ค่าตอบแทน-ค่าเช่าพื้นที่’ ช่วยสายการบินเเละร้านค้า ต่ออีก 6 เดือน https://positioningmag.com/1315457 Wed, 20 Jan 2021 14:37:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1315457 ธุรกิจการบินยังฟื้นยาก AOT ขยายเวลามาตรการเลื่อนชำระ “ค่าผลประโยชน์ตอบแทน-ค่าเช่าพื้นที่-ค่าบริการ” ช่วยผู้ประกอบการเเละสายการบิน ต่ออีก 6 เดือน

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ยังมีความรุนแรงต่อเนื่องในหลายประเทศ รวมทั้งมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ประกอบการและสายการบิน ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว

ดังนั้น เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบิน ให้ยังคงสามารถประกอบธุรกิจไปได้ รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันพุธที่ 20 ม.ค. 2564 ที่ประชุมมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการเลื่อนการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทน ค่าเช่าพื้นที่ และค่าบริการต่าง ๆ ให้กับผู้ประกอบการและสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ขยายระยะเวลาการเลื่อนชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มเติม 

  • สำหรับงวดที่ครบกำหนดชำระตั้งแต่เดือน ก.พ. – ก.ค. 2563 ให้ขยายระยะเวลาการเลื่อนชำระออกไปอีก 6 เดือน รวมระยะเวลาการเลื่อนชำระเป็น 18 เดือน
  • สำหรับงวดที่ครบกำหนดชำระตั้งแต่เดือน ส.ค. – ธ.ค. 2563 ให้ขยายระยะเวลาการเลื่อนชำระออกไปอีก 6 เดือน รวมระยะเวลาการเลื่อนชำระเป็น 12 เดือน

2. ขยายระยะเวลาการเลื่อนชำระค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการการใช้บริการในอาคาร ค่าบริการสนามบิน (Landing and Parking Charges) และค่าเครื่องอำนวยความสะดวก (Aircraft Service Charges) เพิ่มเติม

  • สำหรับงวดที่ครบกำหนดชำระตั้งแต่เดือน เม.ย. – ก.ค. 2563 ให้ขยายระยะเวลาการเลื่อนชำระออกไปอีก 6 เดือน รวมระยะเวลาการเลื่อนชำระเป็น 18 เดือน
  • สำหรับงวดที่ครบกำหนดชำระตั้งแต่เดือน ส.ค. – ธ.ค. 2563 ให้ขยายระยะเวลาการเลื่อนชำระออกไปอีก 6 เดือน รวมระยะเวลาการเลื่อนชำระเป็น 12 เดือน

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและสายการบิน ที่ประสงค์จะขอรับสิทธิ์การขยายระยะเวลาการเลื่อนชำระดังกล่าว จะต้องทำหนังสือถึง ทอท. เพื่อร้องขอรับสิทธิ์ดังกล่าว โดย ทอท. สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินดังกล่าว ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19

]]>
1315457
สิงคโปร์ ผุดไอเดียเก๋ เปิดสนามบินชางงี จัด ‘Glamping’ กางเต็นท์ ให้นอนพักเเรมค้างคืนได้ https://positioningmag.com/1311789 Wed, 23 Dec 2020 11:50:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1311789 สิงคโปร์ เปิดพื้นที่บางส่วนของท่าอากาศยานชางงี” (Changi Airport) ให้เเขกได้พักเเรมตั้งแคมป์ค้างคืนช่วงปลายปี เเทนการไปท่องเที่ยวต่างประเทศที่ถูกระงับไป เพราะการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก

โดยทางสนามบินจะมีบริการ “Glamping” ซึ่งมาจากคำว่า Glamourous Camping เทรนด์การท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรมเเบบหรูหรา ที่มีเตียงนอนควีนไซส์ ประดับไฟคริสต์มาสสวยงามสะดุดตา มีกล่องสำหรับปิกนิกชิลๆ พร้อมคูปองส่วนลดเพื่อช้อปปิ้งในโซนร้านค้าของสนามบิน

จุดขายหลักๆ คือ การได้ประสบการณ์พักผ่อนในสนามบินที่ไม่เหมือนใคร ได้ตื่นมาท่ามกลางทิวทัศน์ของ “HSBC Rain Vortex” น้ำตกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมบรรยากาศป่าเขียวชอุ่มที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ 900 ต้น และพุ่มไม้กว่า 60,000 ต้น มีเส้นทางเดินป่าเล็กๆ ซึ่งเป็นไฮไลต์ของ Changi Airport ที่ครองแชมป์สนามบินดีที่สุดในโลก 8 ปีซ้อน

Photo: changifestivevillage.com

สำหรับราคาพี่พักอยู่ที่ 360 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 8 พันบาท) ต่อการพัก 1 คืน ไม่รวมของใช้ส่วนตัวในห้องอาบน้ำ โดยเปิดให้พักจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2021 เเต่หลังจากที่เปิดตัวเเคมเปญไม่นาน ก็ถูกจองเต็มหมดแล้วในเวลาอันรวดเร็ว นับเป็นการหารายได้เสริมของสนามบินในช่วงวิกฤต COVID-19 ได้น่าสนใจทีเดียว

เเขกคนหนึ่งที่ไดเเข้าพัก ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า ปกติเเล้วครอบครัวจะไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงวันหยุดยาวปลายปี เเต่เมื่อตอนนี้เดินทางไม่ได้ เเละยังเป็นช่วงปิดภาคเรียน จึงอยากพาลูกๆ มาทำกิจกรรมที่เเตกต่างไปจากเดิม เเละรู้สึกดีที่ได้ออกนอกบ้าน เพราะที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากกับทุกคน จึงอยากมีประสบการณ์ใหม่ ๆ 

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคระบาด กำลังค้นหาวิธีใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า โดยสายการบินต่างๆ ได้หันมาเปิดภัตตาคารในเครื่องบินที่จอดอยู่ เเละนำเมนูอาหารที่ทานบนไฟลต์บินมาวางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงเปิดเที่ยวบินจำลองเเละบินวนในประเทศ

 

ที่มา : The Guardian , Changifestivevillage 

 

 

]]>
1311789
เวิร์กมั้ย? สนามบิน “เวียดนาม” งดประกาศข้อมูลเที่ยวบินผ่านลำโพง เพื่อลดมลพิษทางเสียง https://positioningmag.com/1288810 Sun, 26 Jul 2020 05:00:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1288810 สนามบินนานาชาติโนยบ่ายในกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม จะหยุดประกาศข้อมูลเที่ยวบินผ่านเครื่องกระจายเสียงทั้งที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. หลังจากสนามบินนานาชาติดานัง และสนามบินนานาชาติเติ่นเซินเญิตในนครโฮจิมินห์หยุดประกาศไปก่อนหน้านี้แล้ว

ตัวแทนของสนามบินเผยว่า ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเที่ยวบินทั้งหมดจะแสดงผ่านหน้าจอแสดงผลทั้งในภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ เพื่อลดเสียงดังภายในอาคาร

ระบบหน้าจอแสดงผลจะติดตั้งในจุดที่ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงได้ง่าย และข้อมูลบางอย่างยังคงประกาศผ่านลำโพงเช่นเดิม เช่น ประกาศเปลี่ยนแปลงประตูขึ้นเครื่อง (Gate) ประกาศข่าวฉุกเฉิน และสัญญาณเตือนไฟไหม้

รองผู้อำนวยการสนามบินนานาชาติโนยบ่าย กล่าวว่า การประกาศข้อมูลเที่ยวบินผ่านทางหน้าจอแสดงผลเป็นรูปแบบที่สนามบินนานาชาติจำนวนมากใช้งาน ทั้งยังช่วยลดมลพิษทางเสียง และปรับปรุงคุณภาพการบริการของสนามบิน

สนามบินนานาชาติโนยบ่ายจะกลายเป็นสนามบินแห่งที่ 3 ในเวียดนาม ที่ยกเลิกการประกาศข้อมูลเที่ยวบิน ถัดจากสนามบินนานาชาติดานังในภาคกลางของประเทศ ที่ดำเนินการเช่นนี้ตั้งแต่เดือน พ.ค. และสนามบินนานาชาติเติ่นเซินเญิตของนครโฮจิมินห์ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีก่อน

สนามบินนานาชาติโนยบ่ายเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดอันดับ 2 ของประเทศ รองจากสนามบินเติ่นเซินเญิต โดยมีผู้โดยสารใช้บริการ 29.2 ล้านคนในปี 2562 เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2561 ซึ่งมากเกินกว่าขีดความสามารถของสนามบินที่รองรับผู้โดยสารที่ 25 ล้านคน

Source

]]>
1288810
คนสหรัฐฯ ‘บิน’ น้อยลงอีกครั้ง หลังเคยดิ่งหนักช่วงเดือนเมษายน เนื่องจาก COVID-19 ระบาดหนัก https://positioningmag.com/1288728 Tue, 21 Jul 2020 06:05:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1288728 หลังจากที่สหรัฐฯ ได้คลายมาตรการล็อกดาวน์ลง ทำให้ความต้องการเดินทางทางอากาศเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณดีของสายการบินต่าง ๆ แต่ปัจจุบันการระบาดกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในภาคใต้ของสหรัฐฯ ส่งผลให้ความต้องการเดินทางด้วยเครื่องบินลดลง

american airlines
(Photo credit should read Michael Brochstein / Echoes Wire/Barcroft Media via Getty Images)

การเดินทางทางอากาศเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับต่ำสุดในรอบกว่าห้าทศวรรษในเดือนเมษายน แต่สายการบินกำลังเผชิญกับความต้องการที่ลดลงเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่, คำสั่งกักกันผู้เดินทางมาถึงนิวยอร์กและที่อื่น ๆ รวมถึงความล่าช้าในการเปิดบางรัฐ จากสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 กรกฎาคม มีคน 4.65 ล้านคนผ่านจุดตรวจที่สนามบินของสหรัฐฯ ซึ่งลดลงมากกว่า 4% จากสัปดาห์ก่อนหน้าและถือว่าเป็นการลดลงสัปดาห์แรกตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ขณะที่ช่วงฤดูร้อนถือเป็นช่วงสำคัญอย่างยิ่งต่อรายได้ของสายการบิน

สายการบินเดลต้าแอร์ไลน์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะลดจำนวนเที่ยวบินเพิ่มเติมที่วางแผนไว้ในเดือนหน้าเป็น 500 เที่ยวบินต่อวัน ขณะที่ความต้องการเดินทางเพื่อธุรกิจยังไม่กลับมา

“ความต้องการได้หยุดชะงักลงเมื่อไวรัสระบาดขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในภาคใต้ ขณะที่หลายรัฐทางเหนือก็มีมาตรการกักกันเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยทั้งสองนี้ทำให้ผู้บริโภคหยุดชะงัก”

ด้ายผู้บริหารระดับสูงของ American Airlines เตือนพนักงาน 25,000 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า งานของพวกเขามีความเสี่ยง เมื่อเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลกลางหมดอายุในวันที่ 1 ตุลาคม

“รายรับจากผู้โดยสารของเราในเดือนมิถุนายน นั้นต่ำกว่า 80% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 และด้วยอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นและหลายรัฐประกาศการกักกันโรคอีกครั้งทำให้ความต้องการการเดินทางทางอากาศช้าลงอีกครั้ง”

ทั้งนี้ หุ้นสายการบินลดลงในเช้าวันจันทร์โดยสหรัฐฯ ลดลง -3% และ Delta Airlines ลดลง -2.5%

Source

]]>
1288728
ญี่ปุ่น เตรียมสร้างศูนย์ตรวจ COVID-19 ใกล้สนามบินหลักในโตเกียว-โอซาก้า รองรับนักท่องเที่ยว https://positioningmag.com/1286593 Sun, 05 Jul 2020 05:21:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1286593 “ญี่ปุ่น” วางเเผนจะตั้งศูนย์ตรวจ COVID-19 เเห่งใหม่ ใกล้สนามบินหลัก 3 เเห่งในกรุงโตเกียวเเละโอซาก้า รวมถึงในกลางใจเมืองใหญ่ หลังรัฐบาลเตรียมผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ศูนย์ตรวจ COVID-19 ดังกล่าว จะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะและนาริตะ และท่าอากาศยานนานาชาติคันไซในเมืองโอซาก้า เพื่อรองรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเปิดทำการได้อย่างเร็วที่สุดภายในฤดูร้อนนี้

ปัจจุบันญี่ปุ่นมีศูนย์กักกันโรคในสนามบิน ที่สามารถตรวจหาเชื้อแบบ Polymerase Chain Reaction (PCR) ได้เฉลี่ยราว 1,000 ตัวอย่างต่อวัน ซึ่งต้องรอผลตรวจประมาณ 1-2 วัน เเต่ศูนย์ตรวจเเห่งใหม่ที่กำลังจะสร้างนี้ จะเพิ่มจำนวนการตรวจ PCR เป็นมากกว่า 4,000 ตัวอย่างต่อวัน โดยหน่วยงานสาธารณสุขญี่ปุ่น หวังว่าจะช่วยร่นเวลาการตรวจเชื้อให้เหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง ด้วยการใช้วิธีการใหม่

ขณะเดียวกัน ตั้งเป้าว่าศูนย์ตรวจเชื้อในเมืองใหญ่เหล่านี้ จะขยายไปตรวจเชื้อให้กับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลกำลังพิจารณาออกใบรับรองให้แก่ผู้ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นลบด้วย

ญี่ปุ่น ออกมาตรการจำกัดการเดินทางที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนก.. เพื่อสกัดการระบาดของ COVID-19 เเละยังคงเดินหน้าควบคุมพรมแดนกับหลายประเทศ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้เพิ่มอีก 18 ประเทศ เช่น แอลจีเรีย คิวบา และอิรัก เข้าไปในรายชื่อประเทศที่ถูกแบนการเดินทาง ทำให้จำนวนรวมเพิ่มเป็น 129 ประเทศ

จากข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่า ในเดือนพ..ที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่นเพียง 1,700 คน น้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ และลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 99.9%

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่น กำลังเจรจากับหลายประเทศเพื่อลดข้อจำกัดในการเดินทางร่วมกัน สำหรับนักธุรกิจที่ปลอดเชื้อ และมีการระบุแผนการเดินทางให้ชัดเจนในระหว่างที่พำนักในญี่ปุ่น โดยคาดว่าประเทศที่ญี่ปุ่นจะคลายล็อกให้นั้น มีไทยและออสเตรเลีย ขณะที่แหล่งข่าวทางการทูต เปิดเผยเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลอาจเริ่มเจรจากับไต้หวันและบรูไน ภายในเดือนนี้ด้วย

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเมื่อปลายเดือนที่เเล้ว มีการเดินทางจากญี่ปุ่นไปเวียดนามบางส่วน ด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ

 

ที่มา : japantimes

 

]]>
1286593
สนามบินชางงีงัดสารพัด “เทคโนโลยีไร้สัมผัส” สกัดไวรัส ก่อนต้อนรับผู้โดยสารอีกครั้ง https://positioningmag.com/1286564 Sat, 04 Jul 2020 14:49:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1286564 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ท่าอากาศยานชางงี (Changi Airport) ของสิงคโปร์ได้เริ่มนำเซนเซอร์ตรวจจับไร้สัมผัส (proximity sensor) และอุปกรณ์อื่นๆ มาใช้บริการผู้โดยสารแบบไม่มีการสัมผัสแตะต้องกันเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมกลับมาให้บริการการเดินทางทางอากาศตามปกติอีกครั้ง

เอกสารประชาสัมพันธ์ของท่าอากศยานฯ ระบุว่า ปัจจุบันมีการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับไร้สัมผัสชุดใหม่ที่ตู้บริการอัตโนมัติของท่าอากาศยาน เพื่อให้ผู้เดินทางเช็กอินหรือลงทะเบียนโหลดสัมภาระได้โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจออิเล็กทรอนิกส์

ขณะเดียวกันยังมีการนำเซนเซอร์อินฟราเรดมาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารเลือกรายละเอียดการเดินทางได้เพียงชี้นิ้วใกล้หน้าจอโดยไม่ต้องสัมผัส โดยเป็นการนำเซนเซอร์ลักษณะนี้มาใช้ในสนามบินทั่วไปเป็นครั้งแรก

Photo : Xinhua

สำหรับผู้ที่ต้องการเช็กอินที่เคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า จะมีการติดตั้งแผ่นอะคริลิกใสกั้นระหว่างผู้โดยสารและผู้ให้บริการ

นอกจากนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ICA) ได้พัฒนาช่องทางตรวจสอบเอกสารเข้าเมืองอัตโนมัติที่ท่าอากาศยาน โดยใช้ระบบระบุข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล (biometric) ระบบใหม่ ซึ่งนำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าและม่านตามาใช้เป็นวิธีหลักในการยืนยันตัวตน แทนที่การสแกนลายนิ้วมือแบบเดิม

Photo : Xinhua

ด้านชางงี แอร์พอร์ต กรุ๊ป หรือซีเอจี (CAG) รัฐวิสาหกิจผู้บริหารท่าอากาศยาน จะนำเทคโนโลยีรูปแบบใหม่มาใช้ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในพื้นที่ท่าอากาศยาน โดยหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัตโนมัติในอาคารผู้โดยสารถูกพัฒนาด้วยการติดตั้งหัวฉีดละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อเสริมการป้องกันตามพื้นพรมและพื้นปกติระหว่างการทำความสะอาด

นอกจากนั้นซีเอจีกำลังทดสอบการใช้งานหลอดไฟแอลอีดีฉายรังสียูวี-ซี (UV-C) สำหรับฆ่าเชื้อบริเวณราวจับของบันไดเลื่อน และทดสอบการใช้งานเทคโนโลยีอินฟราเรดไร้สัมผัสในลิฟต์ผู้โดยสาร ซึ่งผู้โดยสารสามารถสั่งงานปุ่มได้เพียงชี้นิ้วใกล้ๆ

Photo : Xinhua

ตัน ไล เต็ก (Tan Lye Teck) รองประธานบริหารท่าอากาศยานชางงี ฝ่ายการจัดการท่าอากาศยาน ระบุว่าการพัฒนาต่างๆ ครั้งนี้สะท้อนความรับผิดชอบของซีเอจีที่มีต่อสุขภาพของผู้โดยสารและประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง และซีเอจีจะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนการบินรายอื่นๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นระดับสูงในกลุ่มผู้เดินทางผ่านท่าอากาศยาน เมื่อกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง

ทั้งนี้ ท่าอากาศยานชางงีระงับการให้บริการอาคารผู้โดยสาร 2 แห่ง จากทั้งหมด 4 แห่งชั่วคราว สืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19

Photo : Xinhua
]]>
1286564
 ท่าอากาศยาน “ชางงี” สิงคโปร์ ครองแชมป์สนามบินดีที่สุดในโลก 8 ปีซ้อน “สุวรรณภูมิ” รั้ง 48 https://positioningmag.com/1278226 Tue, 12 May 2020 15:26:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1278226 SKYTRAX บริษัทจัดอันดับให้แก่อุตสาหกรรมการบิน ในการจัดอันดับสนามบินระดับโลก ประกาศผลการจัดอันดับ สนามบินที่ดีที่สุดในโลก หรือ World’s Best Airports of 2020 ผลปรากฏว่า สนามบินซางงี ของสิงคโปร์ ยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์อย่างเหนียวแน่น คว้าอันดับ 1 เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน

โดยสายการบินที่ดีที่สุดของโลก 10 อันดับแรก ได้แก่

1. สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์
2. สนามบินฮาเนดะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
3. สนามบินฮาหมัด โดฮา ประเทศกาตาร์
4. สนามบินอินชอน โซล ประเทศเกาหลีใต้
5. สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี
6. สนามบินฮ่องกง ฮ่องกง
7. สนามบินนาริตะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
8. สนามบินชูบุเซ็นแทร์ นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
9. สนามบินสคิปโฮล อัมสเตอร์ดัม ของเนเธอร์แลนด์
10. สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น

ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย อยู่อันดับที่ 48 ร่วงลงมา 2 อันดับเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

Source

]]>
1278226