อาหารสุขภาพ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 26 Aug 2024 10:59:45 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “สลัดแฟคทอรี่” ไม่ได้มีแค่สลัด! คอลแลป “S-Pure” จัดเมนูเจาะ Gen Z – แผนปีนี้บุกเปิดใน “โรงพยาบาล” https://positioningmag.com/1487440 Mon, 26 Aug 2024 09:16:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1487440 สลัดแฟคทอรี่วางเป้าการตลาดสื่อสารว่าร้านนี้ ไม่ได้มีแค่สลัดทำแคมเปญคอลแลป ”S-Pure” พัฒนาเมนูจาก อกไก่กรุยทางเจาะกลุ่มลูกค้า “Gen Z” ปี‘67 วางเป้าเปิดรวม 9 สาขา ลุยพื้นที่ใหม่กลุ่ม โรงพยาบาล”

“ปิยะ ดั่นคุ้ม” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ จำกัด ผู้ก่อตั้งร้านอาหารสุขภาพ “สลัดแฟคทอรี่” (Salad Factory) (*ปัจจุบันอยู่ในเครือ CRG ซึ่งถือหุ้น 51%) เปิดเผยกลยุทธ์การทำตลาดหลังจากนี้ต้องการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาให้มากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่ม “Gen Z” ซึ่งยังไม่รู้จักร้านมากนัก

“ปกติลูกค้าหลักเรามักจะเป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มวัยทำงาน 25 ปีขึ้นไป แต่จริงๆ ยุคนี้แม้แต่วัยรุ่น Gen Z ก็รักสุขภาพมากขึ้น อาหารสุขภาพไม่ได้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น ทำให้ต้องการจะทำตลาดคนรุ่นใหม่” ปิยะกล่าว “แต่จากการสำรวจตลาดพบว่า Gen Z ยังไม่รู้จักร้านเรา หรือมีมุมมองว่าร้านชื่อสลัดก็น่าจะมีแต่ผักซึ่งทำให้คน Gen Z อาจจะไม่อยากเข้าร้าน”

โจทย์นี้ทำให้สลัดแฟคทอรี่จะมีการทำการตลาดที่สื่อสารตรงกับ Gen Z มากกว่าเดิมทั้งเชิงช่องทางโซเชียลมีเดียและลักษณะคอนเทนต์ เพื่อสื่อสารว่าร้านนี้ “ไม่ได้มีแค่สลัด” เพราะมีเมนูอื่นๆ ที่เพื่อนๆ ทั้งกลุ่มมาทานด้วยกันได้

ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) และ “ปิยะ ดั่นคุ้ม” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ จำกัด

 

คอลแลป “S-Pure” ชูเมนูจากอกไก่

ปีนี้ร้านยังพัฒนาเมนูใหม่กลุ่มเนื้อสัตว์มากขึ้นด้วย โดยมีแคมเปญพิเศษ “สุข ฉ่ำ เต็มอก” ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์อกไก่ “S-Pure” จากเบทาโกรมาพัฒนาเมนู 5 เมนูใหม่ ได้แก่ สเต๊กอกไก่บาร์บีคิวเอสเพียวสับปะรดและพริกหวาน, พิซซ่าอกไก่กรอบเอสเพียวฮาวายเอียน, สลัดอกไก่กรอบเอสเพียวยูสุผลไม้รวม, สเต๊กอกไก่ย่างเอสเพียวซอสทรัฟเฟิลพาร์มีซานชีสและผักโขม และสเต๊กอกไก่ย่างเอสเพียวและซัลซาอโวคาโดผลไม้ เปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 8 ส.ค. – 30 ก.ย. 67 เท่านั้น

ปิยะชี้ให้เห็นว่าเมนูใหม่แคมเปญนี้มี 2 เมนูที่ใช้ “ไก่ทอดกรอบ” และมีเมนูที่ลักษณะเป็น “พิซซ่า” ด้วย เพื่อดึงดูดใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น

สลัดอกไก่กรอบเอสเพียวยูสุผลไม้รวม ใช้ของทอดเข้ามาช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น

ด้าน “ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแบรนด์ S-Pure ว่าเป็นโปรดักส์ระดับพรีเมียมสูงสุดของบริษัท มีจุดเด่นที่การทำฟาร์มแบบพิเศษ เลี้ยงสัตว์ด้วยอาหารซินไบโอติกส์ ปราศจากฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะ ทำให้ดีต่อสุขภาพของผู้รับประทาน

ส่วนการคอลแลปกับร้านอาหาร นำผลิตภัณฑ์ S-Pure มาคิดค้นเมนูและโปรโมตร่วมกันก็เป็นช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้ารู้จักคุณสมบัติของ S-Pure มากขึ้น และช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าร้านอาหารด้วย

 

ขยายเข้า “โรงพยาบาล”

สำหรับการขยายสาขาของ “สลัดแฟคทอรี่” ปิยะระบุว่าเมื่อสิ้นปี 2566 ร้านมีทั้งหมด 39 สาขา ปี 2567 วางเป้าขยายเพิ่ม 9 สาขา ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้มีสลัดแฟคทอรี่ทั้งหมด 48 สาขา ถือเป็นร้านอาหารสุขภาพที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในไทย

ทั้งนี้ ปีนี้มีพื้นที่ตั้งร้านใหม่ๆ ที่บุกเข้าไปมากขึ้นคือ “โรงพยาบาล” เพราะสอดคล้องกับโปรดักส์ มีกลุ่มคนรักสุขภาพและกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมาย

สลัดแฟคทอรี่
สลัดแฟคทอรี่ สาขาโรงพยาบาลเมดพาร์ค

โดยสลัดแฟคทอรี่เคยเปิดสาขาแรกใน “โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์” เมื่อปี 2564 ก่อนที่ปีนี้จะขยายไปอีก 4 สาขาคือ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์, โรงพยาบาลเมดพาร์ค, โรงพยาบาลพระราม 9 และโรงพยาบาลวิภาวดี

ลักษณะร้านในโรงพยาบาลจะเน้นเป็นโมเดล ‘Compact Store’ เป็นร้านขนาดกลาง 100-120 ตารางเมตร 40-50 ที่นั่ง เสิร์ฟอาหาร 70-80% ของจำนวนเมนูปกติที่มีในร้านสเกล ‘Full Restaurant’

ปิยะกล่าวว่า ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องการขยายสาขาในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นกลุ่มธุรกิจที่หาที่เช่าไม่ง่ายนัก เพราะพื้นที่เชิงพาณิชย์ในโรงพยาบาลมักจะมีจำกัด

สลัดแฟคทอรี่
สลัดแฟคทอรี่ สาขาอารีย์ซอย 2 เป็นร้านแบบ Full Restaurant จุได้มากกว่า 60 ที่นั่ง และมีที่จอดรถ

ตลาดร้านอาหารสุขภาพในเมืองไทยเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในระยะหลัง ปิยะมองว่ามูลค่าตลาดเมื่อปี 2566 น่าจะแตะ 4,500 ล้านบาท และยังโตต่อเนื่องทุกปี

ในส่วนของบริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ จำกัด เมื่อปี 2566 ทำรายได้ไป 593 ล้านบาท ขณะที่ปี 2567 ตั้งเป้ารายได้แตะ 750 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า

“ปัจจุบันตลาดร้านอาหารสุขภาพมีประมาณ 3 เจ้าใหญ่ที่นำตลาด แต่จำนวนผู้เล่นก็เพิ่มขึ้นสูงมาก จากยุคสิบปีก่อนมีเพียง 3-4 แบรนด์ ขณะนี้มีคู่แข่งมากกว่า 20 แบรนด์ แต่คิดว่าตลาดยังมีพื้นที่ให้เล่นให้โตได้อีก เพียงแต่ว่าผู้เล่นใหม่เข้ามาก็จะต้องวางคอนเซ็ปต์ให้ชัดเจนว่าขายอะไรเป็นหลักและขายใคร” ปิยะกล่าวปิดท้าย

]]>
1487440
“ผักผลไม้” อาหารสุขภาพอันดับ 1 ในใจชาวไทย แต่คนกว่าครึ่ง “เงินไม่พอ” ซื้อทานประจำ https://positioningmag.com/1427271 Wed, 12 Apr 2023 05:03:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1427271 บริษัทวิจัย “มินเทล” สำรวจการเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพของชาวไทย พบว่าอาหารสุขภาพอันดับ 1 ที่ชาวไทยสนใจคือ “ผักผลไม้” แต่ด้วยภาวะทางการเงินทำให้คนกว่าครึ่งไม่มีเงินพอซื้อผักผลไม้ทานเป็นประจำ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในฐานะการเงินระดับต่ำ

มินเทล สำรวจความต้องการของผู้บริโภคด้านสุขภาพกับการทานอาหาร พบว่า ผู้บริโภคไทย 52% สนใจหาความรู้ด้านโภชนาการมากขึ้น สะท้อนว่าหลังโควิด-19 ชาวไทยมีความสนใจการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันสูงขึ้นกว่าเดิม ผ่านการดูแลอาหารการกินของตนเอง

อาหารสุขภาพที่ผู้บริโภคชาวไทยสนใจคืออะไรบ้าง? มินเทลพบว่า 7 ใน 10 ของคนไทยยกให้ “ผักผลไม้” เป็นสิ่งสำคัญที่ดีต่อสุขภาพ เป็นอาหารที่ช่วยเสริมโภชนาการได้

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคใหญ่ที่ทำให้คนไทยไม่ทานผักผลไม้มากนักคือเรื่อง “การเงิน” ทุกคนทราบประโยชน์ของผักผลไม้ แต่ผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคในชนบทมีเพียง 48% ที่ทานผักผลไม้เป็นประจำ ขณะที่ในเมืองจะมีสัดส่วนสูงกว่า โดยผู้บริโภคคนเมืองมี 56% ที่ทานผักผลไม้เป็นประจำ

กลุ่มที่รับผลกระทบหนักที่สุดคือ คนรุ่นใหม่วัยไม่เกิน 24 ปีที่มีสถานะทางการเงินระดับต่ำ กลุ่มนี้มีเพียง 37% ที่ได้ทานผักผลไม้เป็นประจำ

พิมพ์วดี อากิลา Associate Director แผนกอาหารและเครื่องดื่ม มินเทล รีพอร์ทส์ ประเทศไทย มองว่าแบรนด์สามารถนำอินไซต์นี้มาใช้ได้ เพราะคนไทยใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เพียงแต่ต้องการเข้าถึงผักผลไม้ได้ง่ายขึ้นผ่านการลดราคาสินค้าและแหล่งจำหน่าย ซึ่งที่จริงแล้วผักผลไม้ไทยตามฤดูกาลของไทยนั้นมีจำนวนมากและราคาจับต้องได้ จึงควรจะเป็นตัวเลือกอาหารเพื่อสุขภาพในราคาเป็นมิตร

 

คนไทย “ทำอาหาร” เอง และสนใจ Plant-based

นอกจากประเด็นผักผลไม้ คนไทยยังมีความสนใจการดูแลสุขภาพและโภชนาการด้านอื่นๆ ด้วย โดยมี 51% ที่ตอบว่าปัจจุบันหันมา “ทำอาหาร” ทานเอง ซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่า

คนไทยบางส่วนเริ่มสนใจการลดละเลิกเนื้อสัตว์ด้วย โดยมีผู้บริโภค 21% ที่สนใจลดการทานเนื้อสัตว์ และมีผู้บริโภค 24% ที่วางเป้าหมายจะเปลี่ยนจากการทานเนื้อสัตว์มาทานอาหาร Plant-based และผลิตภัณฑ์ทดแทนนม

มินเทลยังพบด้วยว่า เหตุปัจจัยที่ทำให้คนไทยใส่ใจโภชนาการมากขึ้น นอกเรื่องการป้องกันโรคแล้ว ยังมีเหตุอื่นๆ ด้วย เช่น 38% ต้องการกินเพื่อเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย และ 28% ทานเพื่อสร้างเสริมสุขภาพจิตที่ดี

ข้อมูลเหล่านี้เป็นอินไซต์ที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ในการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยมุมมองด้านสุขภาพ หรือพัฒนาสินค้าที่มีประโยชน์ทางโภชนาการกันมากขึ้น

]]>
1427271
“นอติลุส Xten” แตกไลน์ “โอ๊ตมีล” แซลมอน รุกตลาด “อาหารสุขภาพ” จับเทรนด์คนรุ่นใหม่ https://positioningmag.com/1345167 Wed, 04 Aug 2021 08:14:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1345167 “พัทยาฟู้ด กรุ๊ป” แตกแบรนด์ใหม่ “นอติลุส Xten” อาหารพร้อมทานแบบ “โอ๊ตมีล” ผสมเนื้อสัตว์-ผลไม้ ลุยตลาดอาหารสุขภาพจับกระแสคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้า 10 ล้านถ้วยใน 3 ปี รวมทั้งตลาดไทยและส่งออกในเอเชีย

“สุดาทิพ เกียรติศรีชาติ” กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด กรุ๊ป จำกัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท “นอติลุส Xten” อาหารพร้อมทานที่ผลิตจากซูเปอร์ฟู้ด เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง มัลติเกรน ผสมกับเนื้อสัตว์จริงหรือผลไม้แท้ ลดโซเดียม ลดน้ำตาล ไม่ใส่ผงชูรส ชงด้วยน้ำร้อน 2 นาที พร้อมรับประทานได้ เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แต่ต้องการความสะดวก ประหยัดเวลาด้วย

โดยสินค้าใหม่ นอติลุส Xten จะจำหน่าย 4 สูตร คือ Wild Red Salmon (แซลมอน), Triple Mushroom (เห็ด), Dark Choc & Almonds (ช็อกโกแลตและอัลมอนด์) และ Mixed Berries (มิกซ์เบอร์รีส์) กลุ่มอาหารคาวจำหน่ายราคา 45 บาท อาหารหวานราคา 35 บาท

เบื้องต้นวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น ท็อปส์, กูร์เมต์ มาร์เก็ต, วิลล่า มาร์เก็ท, เลมอน ฟาร์ม ฯลฯ และช่องทางออนไลน์ เช่น ช้อปปี้, ลาซาด้า คาดว่าปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าจะสามารถวางขายในร้านสะดวกซื้อและไฮเปอร์มาร์เก็ตได้

 

ตั้งเป้า 10 ล้านถ้วย

สุดาทิพระบุว่า การรุกตลาดอาหารสุขภาพเกิดจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของเครือ ต้องการเปิดตลาดอาหารอื่นๆ นอกจากอาหารทะเลและปลากระป๋อง ทำให้เมื่อปี 2563 บริษัทเปิดแบรนด์ร้านอาหาร “ม่อนชะเมา” ขึ้นมาจับตลาดอาหารสุขภาพ โดยเลือกตลาดนี้เพราะเป็นเทรนด์อนาคต

ต่อยอดมาถึงปี 2564 นี้จึงมีแบรนด์ นอติลุส Xten ออกมา คาดหวังยอดขาย 10 ล้านถ้วยภายใน 3 ปี โดยไม่ได้มองเฉพาะตลาดไทย แต่กำลังเจรจาวางขายในต่างประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซึ่งมีวัฒนธรรมการทานอาหารคล้ายกัน

“สุดาทิพ เกียรติศรีชาติ” กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด กรุ๊ป จำกัด

Positioning สำรวจตลาดพบว่า ผลิตภัณฑ์กลุ่มโอ๊ตมีลหรือโจ๊กธัญพืชแบบสำเร็จ ใส่น้ำร้อนชงพร้อมทาน มีแบรนด์ในตลาดอยู่บ้างแล้ว เช่น ไดมอนด์เกรน จำหน่ายราคา 32 บาท เกรนเน่ย์ จำหน่ายราคา 20 บาท เห็นได้ว่านอติลุสจะจับตลาดที่พรีเมียมมากขึ้น

 

ปีนี้คนเลิก “กักตุน” เครื่องกระป๋อง

กลุ่มพัทยาฟู้ด กรุ๊ปนั้นก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2514 ผลิตและส่งออกอาหารทะเลหลายชนิด โดยมีแบรนด์ปลากระป๋องของตนเองคือ นอติลุส, ซีคราวน์ และ มงกุฎทะเล รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ รีกาลอส

สุดาทิพเปิดเผยว่า ปี 2564 กลุ่มบริษัทน่าจะทำรายได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 5% โดยแบ่งสัดส่วนรายได้จากการรับจ้างผลิต 80% และมาจากแบรนด์ตนเอง (own brand) 20% คาดว่าในอนาคต อาหารสุขภาพซึ่งเป็นสินค้าใหม่จะทำรายได้สัดส่วน 30% ในกลุ่มธุรกิจ own brand

ผลิตภัณฑ์แบรนด์นอติลุส

สำหรับตลาดอาหารกระป๋องในไทยปีนี้ สุดาทิพกล่าวว่ายอดขายมีผลกระทบเล็กน้อยช่วงต้นปีจากเหตุการณ์การระบาด แต่หลังจากนั้นปรับตัวดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันถือว่าทรงตัว ไม่เติบโต เพราะปีนี้แม้ว่าจะมีการระบาดซ้ำอีกแต่พฤติกรรมผู้บริโภคไม่เหมือนปี 2563 ไม่มีการกักตุนสินค้า อาจเกิดจากผู้บริโภคหันไปใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่มากขึ้น และบางส่วนระมัดระวังการใช้เงิน จึงไม่กักตุนอาหาร

]]>
1345167
Plant-Based เทรนด์อาหารแห่งอนาคต Unilever ขยับรุกตลาดจริงจัง ตั้งเป้าทำเงิน 3.6 หมื่นล้าน https://positioningmag.com/1306712 Thu, 19 Nov 2020 09:19:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306712 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก ขยับมูฟใหม่เข้าสู่ตลาด Plant-Based กันอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์อาหารโลกที่กำลังเปลี่ยนไป

ล่าสุด Unilever (ยูนิลิเวอร์) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเจ้าใหญ่ ตั้งเป้าปั้มยอดขายในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช หรือ Plant-Based เพิ่มเป็น 1 พันล้านยูโร (ราว 3.6 หมื่นล้านบาท) ภายใน 5-7 ปีนี้

เป้าหมายดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าบริษัทคาดว่าตลาด Plant-Based จะเติบโตสูงมากในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อเทียบกับเป้าหมายของยอดขายปัจจุบันที่ 200 ล้านยูโร (ราว 7.2 พันล้านบาท) ตามที่บริษัทตั้งไว้ในปีนี้

กลุ่มสินค้าแบรนด์เนื้อมังสวิรัติ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากกระเเสรักษ์โลกของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนพฤติกรรมหันมาบริโภคอาหารที่ทำมาจากพืช มากกว่าการบริโภคเนื้อสัตว์จริงๆ เพราะเห็นว่ากระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ มีการปล่อยคาร์บอนที่เป็นภัยต่อการเปลี่ยนเเปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

Hanneke Faber ประธานฝ่ายอาหารของ Unilever ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างยอดขายให้บริษัทได้ถึง 1.93 หมื่นล้านยูโร (6.9 แสนล้านบาท) ในปี 2019 ระบุว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว สินค้า Plant-Based ยังมีส่วนเเบ่งการตลาด ราว 5% เเต่ต่อไปจะสามารถขยายตัวเเละครองตลาดได้ถึง 50%”

โดยต่อไป Unilever จะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ Plant-Based ในกลุ่มไอศกรีมที่ปราศจากนมและมายองเนสไปจนถึงอาหารทดแทนเนื้อสัตว์จากถั่วเหลืองและสาหร่าย ฯลฯ

นักวิเคราะห์ มองว่า การที่บรรดาเจ้าใหญ่ในวงการกระโดดลงมาเล่นสนาม Plant-Based กันคึกคัก จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชมีราคาถูกลงตามด้วยกำลังการผลิตและการจัดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น เเละจะทำให้อุตสาหกรรมนี้มีการขยายตัวครั้งใหญ่

อย่างการที่ Nestlé คู่แข่งรายสำคัญ หันมาทุ่มลงทุนในการพัฒนาสินค้าทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถทานอาหารที่มีรสชาติและผิวสัมผัสเหมือนเนื้อสัตว์จริง แต่ไม่มีกระบวนการปศุสัตว์ที่สร้างผลกระทบต่อโลก ก็เป็นการกระตุ้นการเเข่งขันในตลาดนี้ได้ดีทีเดียว 

ตอนนี้ผู้ผลิต Plant-Based ส่วนใหญ่จะเป็นพันธมิตรกับเชนฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่เเละมุ่งเข้าตีตลาดซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น Impossible Foods จับมือกับ Burger King ส่วน Beyond Meat กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์กับ McDonald’s ในสหรัฐฯ สำหรับแพลตฟอร์ม McPlant ขณะที่ Nestlé ส่งวัตถุดิบเมนูเบอร์เกอร์จากพืชให้ McDonald’s ในเยอรมนี

สำหรับตลาด Plant-based Food ในประเทศไทย ก็เริ่มมีเชนร้านอาหารนำเนื้อทำจากพืชมาปรุงเป็นเมนูหลัก เช่น Sizzler ในเครือไมเนอร์ หรือร้านฌานาในเครือฟู้ดแพชชั่น รวมถึงมีนำเข้าจากต่างประเทศมาวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งด้วย

จากข้อมูลของ NRF ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของไทย ระบุว่า ตลาดเนื้อที่ทำจากพืชปัจจุบันมีมูลค่ารวมทั่วโลก 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นไปเป็น 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 5 ปี เนื่องจากผู้บริโภคเห็นข้อดีของวัตถุดิบอาหารรูปแบบนี้มากขึ้น

ไม่ใช่เเค่ NRF รายเดียวที่กำลังเล็งตลาดนี้ เพราะบริษัทยักษ์ด้านอาหารของไทยอย่าง “เครือซีพี” และ “ไทยยูเนี่ยน” ก็กำลังมองความเป็นไปได้ในตลาด Plant-base Food เช่นกัน

อ่านต่อ : NRF ขอเป็น Foxconn แห่งตลาด Plant-based Food กางแผนขยายโรงงานทั่วโลก

 

ที่มา : Financial Times , The Guardian

]]>
1306712
เซเว่นฯ จะมีอาหารคนเป็นเบาหวานแล้วนะ “ซีพีแรม” รับเทรนด์อาหารโลกปี 62 มุ่งผลิตอาหารสุขภาพ-สูงวัย https://positioningmag.com/1205819 Thu, 03 Jan 2019 10:27:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1205819 ซีพีแรม” ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ในเครือเซเว่นอีเลฟเว่น คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจอาหารโลกปี 2562 เป็นยุคทองของ “อาหารสุขภาพ” จะมีความต้องการเฉพาะกลุ่มบุคคลมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดผู้สูงอายุที่กำลังเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล รายงานจำนวนตัวเลขกลุ่มผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่นๆ โดยในปี พ.. 2548 มีประชากรสูงอายุอยู่ 6 ล้านคนเศษ (ร้อยละ 10) แต่เมื่อถึงปี พ.. 2578 จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านคน (ร้อยละ 25) เท่ากับเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัวในเวลา 30 ปี

นอกจากนี้ จะเกิดปรากฏการณ์มีผู้สูงอายุมากกว่าเด็ก จากจำนวนเด็กที่ลดลง ในขณะที่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกประมาณ 15 ปีข้างหน้าจำนวนเด็กจะพอๆ กับผู้สูงอายุ และหลังจากนั้นจะเกิดปรากฏการณ์มีผู้สูงอายุมากกว่าเด็ก และในภาพรวมประชากรไทยจะถึงจุดอิ่มตัวที่ตัวเลขประมาณ 65 ล้านคน ในราวปี พ.. 2565

ซีพีแรมเองจึงต้องขยายธุรกิจรองรับตลาดผู้สูงอายุมากขึ้น โดยเน้นงานวิจัยและพัฒนาเปิดตลาดเมนูสำหรับผู้สูงอายุ

เราเริ่มพัฒนาเมนูข้าวต้มสำหรับผู้สูงวัย เคี้ยวง่าย ดูดซึมง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการครบ

วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าว 

ขณะเดียวกันบริษัทก็พยายามเจาะลึกเมนูอาหารเฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยมากขึ้น เช่นข้าวสำหรับคนเป็นเบาหวาน (rice low GI) มีรสชาติดีเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือดูดซึมน้อยลงในระบบย่อย ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูง 

แนวโน้มใหม่ๆ ของอาหารสุขภาพ จะลดเค็ม ลดหวาน เน้นสะอาด ปลอดภัย เราเป็นโรงงานผลิตอาหารมาตรฐานสากล สินค้าต้องสะอาด ปลอดภัย มีคุณค่าโภชนาการเทียบเท่าอาหารสดปรุงใหม่ การหันมาโฟกัสอาหารสุขภาพมากขึ้น เป็นการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดี ลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล” 

ซีพีแรมมียอดขายปีละ 1.8 หมื่นล้านบาท บริษัทจะใช้งบ 1% ของยอดขาย หรือราว 100 ล้านบาท ในแต่ละปี สำหรับวิจัยพัฒนาเมนูอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในประเทศ 

บริษัทอยู่ระหว่างเดินตามแผนยุทธศาสตร์ทิศทางองค์กร 5 ปี (.. 2018-2022) โดยวางเป้าหมายส่งมอบอาหารที่ดีมีคุณภาพ รสชาติอร่อย ปลอดภัย และให้คุณค่าทางโภชนาการ เพื่อยกระดับขีดความสามารถขององค์กร เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารสำหรับภูมิภาคเอเซีย และวางจุดยืนเป็นผู้นำทางด้าน Food provider ที่มีมาตรฐานระดับโลก.

]]>
1205819