เทศกาลตรุษจีน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 07 Sep 2021 12:51:44 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จีนเตรียมเเจก ‘สกุลเงินดิจิทัล’ 10 ล้านหยวน ให้ประชาชน ‘ทดลองใช้ฟรี’ ในเทศกาลตรุษจีน https://positioningmag.com/1318625 Tue, 09 Feb 2021 11:11:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1318625 รัฐบาลจีน เตรียมมอบสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางให้ประชาชน 5 หมื่นคนได้ทดลองใช้คนละ 200 หยวน (ราว 930 บาท) สามารถนำไปซื้อของตามร้านค้าที่กำหนด หรือช้อปปิ้งออนไลน์บนอีมาร์เก็ตเพลสอย่าง JD.com ในช่วงเทศกาลตรุษจีน

กรุงปักกิ่ง ประกาศว่า จะแจกสกุลเงินดิจิทัล (Digital Currency) ของธนาคารกลาง ให้กับประชาชนที่ได้รับการคัดเลือกจำนวน 5 หมื่นคน คนละ 200 หยวน หรือประมาณราว 930 บาท โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 10 ล้านหยวน หรือราว 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (45 ล้านบาท) เพื่อทดลองใช้ซื้อของได้จริงในช่วงเทศกาลตรุษจีน

การทดลองใช้เงินดิจิทัลของจีนครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้การควบคุมของธนาคารกลางจีน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการทดลองใช้ที่เมืองเซินเจิ้นและซูโจว เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

โดยผู้ที่ได้รับสกุลเงินดิจิทัล สามารถนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าได้ตามร้านค้าที่กำหนด หรือบนอีมาร์เก็ตเพลส JD.com ได้ตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษจีนวันที่ 10-17 กุมภาพันธ์ 2021

ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือกให้ใช้สกุลเงินดิจิทัล จะต้องเป็นผู้ที่มีเลขประจำตัวประชาชนของจีน หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตในการพำนักที่ฮ่องกง ไต้หวัน และมาเก๊า

ธนาคารกลางจีนกำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล ที่สามารถโอนจ่าย ซื้อของได้จริงผ่านเเอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน คล้ายๆ กับการใช้งานในเเอปฯ ของเอกชนอย่าง Alipay ของอาลีบาบา และ Wechat pay ของ Tencent ซึ่งเป็นวิธีการจ่ายเงินที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในจีนนิยมใช้มานานหลายปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางจีนนี้ จะไม่เหมือนกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ในตลาดโลกอย่าง Bitcoin หรือ dogecoin เพราะธนาคารกลางจีนจะเป็นผู้คุมอำนาจทั้งหมด แทนที่จะกระจายอำนาจให้ผู้ใช้เหมือนรูปเเบบสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ

โดยล่าสุด ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลกคึกคักต่อเนื่อง หลังอีลอน มัสก์’ มหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลก สร้างกระเเสใหญ่ นำ Tesla เข้าซื้อซื้อสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin ด้วยมูลค่ากว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.5 หมื่นล้านบาท) พร้อมประกาศว่า Tesla จะเปิดรับการชำระเงินด้วย Bitcoin สำหรับชำระค่าสินค้าของบริษัท ซึ่งสินค้าเด่นๆ ของ Tesla ในปัจจุบัน ได้แก่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ ฯลฯ

ถ้าหากทำได้จริง Tesla จะกลายเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ ‘รายแรก’ ที่รับชำระค่าสินค้าด้วยสกุลเงินดิจิทัล

การประกาศเข้าซื้อ Bitcoin ครั้งนี้ ส่งผลอย่างมากต่อการตัดสินใจของนักลงทุน ทำให้เกิดแรงซื้อแรงขายเหรียญดิจิทัลทั่วโลก โดยหลังจากข่าวนี้เผยเเพร่ออกไปทำให้ราคาของ Bitcoin (ณ วันที่ 8 .. เวลา 20.27 เวลาไทยขยับขึ้นกว่า 13% มีมูลค่าถึง 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 BTC (มากกว่า 1.3 ล้านบาททำระดับสูงสุดใหม่ ‘All Time High’ 

 

ที่มา : CNBC , SCMP

 

]]>
1318625
เปิดอินไซต์ใช้จ่าย ‘ตรุษจีน’ 2564 เงียบเหงา เศรษฐกิจเเย่ ต้องประหยัด ของไหว้เจ้า ‘แพงขึ้น’ https://positioningmag.com/1318396 Mon, 08 Feb 2021 11:25:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1318396 เทศกาลตรุษจีนปีนี้ ไม่คึกคักเหมือนเคย ใช้จ่ายต่ำสุดในรอบ 13 ปี คาดเงินสะพัดเหลือแค่ 4.49 หมื่นล้าน ลดลง 21.85% จากพิษ COVID-19 รอบใหม่ คนประหยัดขึ้น ชะลอใช้จ่าย ลดการเดินทางท่องเที่ยว มองราคาของไหว้เจ้าแพงขึ้น

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง ผลการสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ว่า ภาพรวมเทศกาลตรุษจีนปีนี้ไม่คึกคัก

ปัจจัยหลักๆ มาจากการเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาทั้งรอบใหม่เเละรอบเก่า ทำให้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง มีความไม่เเน่นอนทางรายได้สูง ส่งผลให้ประชาชนไทยเชื้อสายจีนใช้จ่ายลดลงเช่นกัน

ปีนี้มีมูลค่าการใช้จ่ายลดลงเหลือ 44,939 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 21.85% หรือเงินหายไป 1.2 หมื่นล้านบาท นับเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 13 ปี ตั้งแต่มีการสำรวจมา

ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า จากความกังวลต่อการระบาดของ COVID-19 ยังไม่สามารถจะเดินทางท่องเที่ยวได้มากนัก รวมถึงผู้คนต้องประหยัด เเละระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ทำให้การจ่ายเงินซื้อสินค้าเซ่นไหว้ในช่วงตรุษจีนไม่คึกคักเท่าที่ควร

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ จำนวน 1,200 คน พบว่า ประชาชน 42.2% มีการใช้จ่ายน้อยลง ส่วน 33.2% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้จ่าย และมีเพียง 24.6% ที่มีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น

โดยสาเหตุที่มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น เป็นเพราะมองว่าราคาสินค้าแพงขึ้น 69.9% ส่วนสาเหตุที่มีการใช้จ่ายน้อย เพราะมองว่าภาวะเศรษฐกิจแย่ลง 39.9% มีรายได้ลดลง 24% ต้องการลดค่าใช้จ่าย 15.4% และผล
กระทบโรคระบาด 15.1%

ส่วนบรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีนในปี 2564 เมื่อเทียบกับปี 2563 ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า จะคึกคักน้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่ 63.7% มองว่าคึกคักพอพอกัน 21.0% และคึกคักมากกว่า 15.3% ประชาชนส่วนใหญ่ยังไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาดสดและห้างค้าปลีก

สำหรับผู้ที่ได้รับแต๊ะเอียในปีนี้ คิดว่าจะได้รับแต๊ะเอีย 55.5% และคิดว่าจะไม่ได้ รับแต๊ะเอียราว 44.5% เมื่อถามลึกลงไปกว่านั้น คนที่คิดว่าตัวเองจะได้รับแต๊ะเอียส่วนใหญ่ จะเอาเงินที่ได้ไปเก็บออม 58.5% และซื้อเครื่องแต่งกาย 54.6% ไปทานข้าว 36.9%

หากแบ่งการใช้จ่ายตามภูมิภาค พบว่า กรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ 16,230 ล้านบาท ลดลง 24.50% ภาคกลาง อยู่ที่ 11,452 ล้านบาท ลดลง 21.40% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ 7,269 ล้านบาท ลดลง 15.55% ภาคเหนือ อยู่ที่ 4,499 ล้านบาท ลดลง 17.21% และภาคใต้ อยู่ที่ 5,487 ล้านบาท ลดลง 25.80%

ด้านแหล่งที่มาของเงินที่นำมาใช้จ่าย ผู้ตอบราว 66.8% ระบุว่า มาจากเงินเดือน/รายได้ปกติ, 19.8% มาจากเงินออม, 10% โบนัส/รายได้พิเศษ, 1.6% เงินกู้ และอีก 1.8% เป็นเงินช่วยเหลือจากภาครัฐจากมาตรการต่าง ๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจในการสำรวจ พบว่า มีการใช้บริการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์เเละสั่งเดลิเวอรี่มากขึ้น ลดการเดินทางท่องเที่ยวน้อยลง ส่วนการเลือกซื้อของเซ่นไหว้ ปีนี้คนจะเลือกซื้อไข่มากขึ้น ลดสัดส่วนการซื้อประเภทอื่นอย่างหมู เป็ด ไก่ ลดลง

โดยมีการใช้จ่ายรูปแบบใช้จ่ายผ่านเงินสด อยู่ที่ 63.3% ลดลงจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการใช้จ่ายผ่านเงินสดอยู่ที่ 84.6% ประชาชนหันไปใช้จ่ายผ่านการโอนเงินมากขึ้น อยู่ที่ 13.4% ผ่านบัตรเครดิต 23.3%”

สำหรับสิ่งที่ประชาชนเป็นห่วงในช่วงตรุษจีนมากที่สุด คือ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ตามมาด้วยราคาสินค้าเพิ่มขึ้น

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า มาตการช่วยเหลือของภาครัฐ จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยการอัดฉีดเงินจากมาตรการเราชนะเเละ.33เรารักกันในช่วงปลายเดือนนี้ จะกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนให้เพิ่มขึ้นได้ ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2564 เป็นต้นไป

 

 

 

]]>
1318396
CPN ทุ่มงบ 200 ล้านจัดเทศกาล “ตรุษจีน” รับภาครัฐปลดล็อกเฟสแรก ดันทราฟฟิก 15-20% https://positioningmag.com/1316437 Tue, 26 Jan 2021 09:45:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1316437 CPN ปรับแผนอัดงบการตลาดเพิ่มเป็น 200 ล้านบาทไตรมาสแรก จัดเทศกาล “ตรุษจีน” เน้นช้อปปิ้ง-ถ่ายรูปเช็กอิน-เสริมดวง วางเป้าดันทราฟฟิกเข้าห้างฯ เพิ่ม 15-20% เผยทราฟฟิกปัจจุบันหลังภาครัฐปลดล็อกเฟสแรกเพิ่มขึ้นมาเป็น 60-75% แล้ว ประเมินตลอดปี 2564 ต้องดูเดือนต่อเดือน ปัจจัยที่ดีที่สุดที่คาดหวังคือ “วัคซีน” ได้ผล ซึ่งจะทำให้เปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้ และทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในการจับจ่าย

“ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยแผนการตลาดไตรมาสแรกปี 2564 เตรียมงบ 200 ล้านบาทเพื่อจัดเทศกาล “ตรุษจีน” พ่วงเทศกาลวาเลนไทน์ และเริ่มต้อนรับเทศกาลซัมเมอร์

แคมเปญช่วงตรุษจีนนี้จะปูพรมในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 33 แห่งทั่วประเทศ เน้นการตกแต่งภายในศูนย์ฯ ให้เป็น “แลนด์มาร์ก” จุดถ่ายรูปเช็กอิน กระตุ้นผู้บริโภคเดินห้างฯ พร้อมโปรโมชันมากมาย ลดสูงสุด 70% และจับมือ “หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา” จัดทำสติกเกอร์นำโชค Sticker of Luck Limited Edition แจกฟรีสำหรับลูกค้าที่ช้อปครบ 1,500 บาทขึ้นไป และลูกค้า Top Spenders 5 ท่านแรกที่ช้อปสูงสุดตลอดแคมเปญวันที่ 29 ม.ค. – 21 ก.พ. 64 จะได้สิทธิ์ปรึกษาดวงชะตากับหมอช้างแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

บรรยากาศเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ในศูนย์การค้าเครือ CPN

โดยดร.ณัฐกิตติ์ย้ำว่า แคมเปญตรุษจีนปีนี้ยังจัดขึ้นภายใต้กฎระเบียบของภาครัฐ ซึ่งยังไม่อนุญาตให้จัดอีเวนต์ขนาดใหญ่ ทำให้เน้นเป็นจุดถ่ายรูป ไม่จัดใหญ่ แต่ไม่หายไป เพื่อให้ลูกค้ายังมาศูนย์ฯ ได้ตามปกติ

ทั้งนี้ CPN ตัดสินใจปรับเพิ่มงบการตลาดจาก 80 ล้านบาทเป็น 200 ล้านบาทหลังจากภาครัฐปลดล็อกเฟสแรก อนุญาตธุรกิจ 13 ประเภท เช่น ฟิตเนส สปา สถานเสริมความงาม กลับมาให้บริการได้ ซึ่งทำให้ลูกค้าอุ่นใจและมีกิจกรรมภายในศูนย์ฯ ได้มากขึ้น

ดังนั้น การกระตุ้นตลาดในช่วงเทศกาลตรุษจีน เชื่อว่าลูกค้าจะให้การตอบรับ เพราะเป็นเทศกาลที่คนไทยเชื้อสายจีนจะจับจ่ายซื้อของสดไหว้เจ้า ซื้อเสื้อผ้าใหม่ตามธรรมเนียม และพาครอบครัวรับประทานอาหารเพื่อฉลองปีใหม่จีน คาดว่าทราฟฟิกจะเพิ่มขึ้นอีก 15-20% ในช่วงเทศกาลนี้

 

ปลดล็อกเฟสแรก ทราฟฟิกดีขึ้น 10-15%

สำหรับศูนย์การค้าของ CPN ทั่วประเทศ ดร.ณัฐกิตติ์กล่าวว่า แต่ละศูนย์ฯ มีทราฟฟิกเพิ่มขึ้นทันที 10-15% หลังจากคลายล็อกเฟสแรก ทำให้ปัจจุบันสาขาส่วนใหญ่มีทราฟฟิกกลับมา 60-75% ของช่วงก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 แล้ว และมี 5 สาขาที่มีทราฟฟิกมากกว่า 75% ได้แก่ สาขาศาลายา หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี และเชียงราย

ส่วนสาขาที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย พัทยา เชียงใหม่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลวิลเลจ ทราฟฟิกยังอยู่ต่ำกว่า 50% แต่ยืนยันไม่ได้มีแผนปิดชั่วคราวสาขาใดๆ นอกจากที่ปิดอยู่แล้วเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 คือ สาขามหาชัยและระยอง (*เซ็นทรัล ป่าตอง ซึ่งมีข่าวปิดชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้ เป็นห้างสรรพสินค้าในส่วนของเซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC)

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ก่อนเกิดการระบาด COVID-19 รอบใหม่ ศูนย์การค้า CPN ส่วนใหญ่เคยมีทราฟฟิกเฉลี่ย 80% ของทราฟฟิกเมื่อปี 2562 แล้ว โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่คึกคักมากจากการประดับไฟเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ ยกตัวอย่าง เซ็นทรัลเวิลด์ เคยมีทราฟฟิกกลับขึ้นไปแตะ 1 แสนคนต่อวันในช่วงคริสต์มาส เกือบจะเท่ากับช่วงปกติในปี 2562 แต่ปัจจุบันกลับลงมาเหลือ 4-5 หมื่นคนต่อวันอีกครั้ง เนื่องจากการระบาดทำให้จัดอีเวนต์เพื่อดึงดูดลูกค้าไม่ได้

เซ็นทรัล ภูเก็ต ทราฟฟิกปัจจุบันอยู่ที่ 55-60% ยังมีคนท้องถิ่นเข้าศูนย์ฯ

อย่างไรก็ตาม ดร.ณัฐกิตติ์มองว่าการระบาดรอบใหม่ยังมีผลกระทบน้อยกว่ารอบแรก เพราะอย่างน้อยยังไม่มีคำสั่งปิดศูนย์ฯ ทั้งหมด และคนไทยเริ่มเคยชินมากขึ้น แต่หากจะให้กลับมาที่ตัวเลขเฉลี่ย 80% ต้องรอการปลดล็อกขั้นต่อไป คือ โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติ (ทำให้ผู้ปกครองแวะศูนย์การค้าเมื่อออกจากบ้าน) ขยายเวลาปิดร้านอาหาร และสามารถจัดอีเวนต์สาธารณะได้

 

ปี 2564 ปรับแผนเดือนต่อเดือน

ด้านมุมมองต่อตลาดค้าปลีกตลอดปี 2564 ดร.ณัฐกิตติ์กล่าวว่า “ต้องดูกันเดือนต่อเดือน” เพราะมีความไม่แน่นอนสูงมากจากสถานการณ์การระบาด ไม่สามารถคาดเดาได้เลย แต่มีความหวังว่าจะดีกว่าปี 2563 เพราะมีวัคซีน COVID-19 ที่จะเริ่มฉีดในประเทศไทยลอตใหญ่ช่วงกลางปีนี้

“ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)

ปีนี้จึงเป็นปีที่ฝากความหวังไว้กับ “วัคซีน” ถ้าหากมีประสิทธิภาพดี ได้ผลจริง จะทำให้ภาครัฐผ่อนคลายการท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะการทำ Travel Bubble กับบางประเทศ การดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจะเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจไทย และจะทำให้ผู้บริโภคไทยมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยสูงขึ้น เพราะเห็นสัญญาณแสงสว่างปลายอุโมงค์แล้ว

ทั้งนี้ ผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่หยุดช้อปคือ Top Spenders ของ CPN 20 อันดับแรก ซึ่งดร.ณัฐกิตติ์ระบุว่า ใช้จ่ายมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว เพราะไม่ได้ไปใช้จ่ายในต่างประเทศ รวมถึงลูกค้าระดับบนส่วนใหญ่ก็เช่นเดียวกัน สังเกตได้จากศูนย์ฯ ระดับลักชัวรีจะมีลูกค้าต่อคิวรอหน้าร้านสินค้าแบรนด์เนมเป็นประจำ

ช่วงเวลาระหว่างนี้ที่วัคซีน COVID-19 ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย ดูเหมือน CPN จะต้องจับตลาดระดับบนไว้ให้มั่นก่อน!

]]>
1316437
จีน ‘เเจกเงิน-ของกำนัล-ลดค่าเช่า’ จูงใจให้คนไม่กลับภูมิลำเนาช่วงตรุษจีน สกัด COVID-19 https://positioningmag.com/1315622 Thu, 21 Jan 2021 12:24:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1315622 บริษัทเอกชนเเละรัฐบาลท้องถิ่นของจีน เเจกเงิน เเจกของกำนัล เพิ่มเงินเดือนเเละลดค่าเช่า จูงใจประชาชนไม่ให้เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อสกัดการเเพร่ระบาดของ COVID-19 หลังสถานการณ์เริ่มน่ากังวลอีกครั้ง

หลายพื้นที่ในจีนกำลังรณรงค์ “งดเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยไม่จำเป็น ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังในจะมีขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

โดยมีการมอบทั้งเงินรางวัล ของขวัญ บัตรกำนัลช้อปปิ้ง ตั๋วชมภาพยนตร์เเละบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น ‘ฟรี’ สำหรับผู้ที่เลือกไม่กลับบ้านเเละอยู่ฉลองตรุษจีนในเมืองที่ตนเองทำงานอยู่ บางบริษัทถึงขั้นเพิ่มเงินเดือนให้พนักงาน 1-2 เท่า เลยทีเดียว

บริษัทแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง มอบเงินอุดหนุนให้แก่พนักงานที่ไม่ได้เดินทางออกนอกพื้นที่กว่า 8,000 หยวน (ราว 3.7 หมื่นบาทซึ่งทำให้หลายคนเปลี่ยนใจไม่กลับไปฉลองตรุษจีนกับครอบครัว

ขณะที่ทางการท้องถิ่นในนครซูโจว มณฑลเจียงซู ได้มอบเงินอุดหนุนให้คนละ 500 หยวน (ราว 2,300 บาทให้กับพนักงานต่างถิ่นที่ไม่กลับภูมิลำเนา ส่วนผู้ที่ยัง ‘ทำงาน’ ในช่วงวันหยุดตรุษจีน จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มอีกคนละ 100 หยวน โดยบริษัทที่เช่าอาคารทรัพย์สินของรัฐให้เป็นหอพักสำหรับพนักงานต่างถิ่นนั้น จะได้รับส่วนลดหรืองดเว้นค่าเช่าครึ่งเดือนด้วย

นอกจากนี้ ยังมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งสนับสนุนให้นักศึกษาเลี่ยงเดินทางกลับบ้านในช่วงตรุษจีน โดยมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง จัดที่พักและอาหารให้นักศึกษาที่ไม่ได้เดินทางกลับบ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ทางการขนส่งของจีน คาดว่าเทศกาลตรุษจีนปีนี้ จะมีการเดินทางโดยรถไฟเพียง 300 ล้านเที่ยวทั่วประเทศโดยปีที่เเล้วหลังมีการเเพร่ระบาด รัฐบาลได้สั่งห้ามเดินทาง ทำให้การเดินทางของประชาชนลดลง ถึง 50.3% เหลือเพียง 1,470 พันล้านครั้ง (ทั้งการเดินทางทางอากาศ รถไฟและรถประจำทาง)

 

 

ที่มา : SCMP , Reuters 

]]>
1315622
สิงคโปร์ รณรงค์เเจก ‘อั่งเปาออนไลน์’ เเทนเงินสด ช่วยลดมลพิษจากการพิมพ์ธนบัตรใหม่ https://positioningmag.com/1313987 Tue, 12 Jan 2021 17:44:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1313987 สิงคโปร์ รณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้อั่งเปาออนไลน์แทนการแจกเงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อลดมลพิษต่อสิ่งเเวดล้อมที่เกิดจากการพิมพ์ธนบัตรใหม่

การเเจกอั่งเปาด้วยเงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โดยในเเต่ละปี ธนาคารต้องพิมพ์ธนบัตรใหม่ออกมาจำนวนมากเพื่อรองรับความต้องการนี้ ซึ่งได้ก่อให้เกิดมลพิษเท่ากับการชาร์จสมาร์ทโฟน 5.7 ล้านเครื่องเป็นเวลา 5 วัน ดังนั้นทางการสิงคโปร์จึงหันมาสนับสนุนการแจกอั่งเปาเเบบดิจิทัลเเทน

หน่วยงานกำกับดูแลการเงินของสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore หรือ MAS) ซึ่งมีสถานะเป็นธนาคารกลางของประเทศ ระบุว่า การผลิตธนบัตรใหม่สำหรับเทศกาลตรุษจีนได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 330 ตันในแต่ละปี

โดยได้ชูจุดเด่นของอั่งเปาออนไลน์’ (E-Hongbao) ว่าสามารถส่งให้กันได้จากระยะไกล ไม่จำเป็นต้องมาเจอหน้ากัน ยิ่งในสถานการณ์โรคระบาดจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณในการพิมพ์ธนบัตรใหม่อีกด้วย

อั่งเปาออนไลน์ จะช่วยลดการไปรอคิวที่ธนาคาร และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการธนบัตรใหม่เพื่อนำไปใส่ซองแจกในเทศกาลตรุษจีน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ก็ยังคงสามารถไปเเลกได้ที่ธนาคาร เเต่มีข้อกำหนดว่าจะต้องจองคิวล่วงหน้าก่อนไปรับธนบัตรใหม่ที่สาขา เว้นแต่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้พิการ

ที่ผ่านมา MAS ก็มีการกระตุ้นให้บริษัทฟินเทคในสิงคโปร์ พัฒนาการส่งของขวัญออนไลน์ หรือ (e-gifting) ออกมามาสักระยะแล้ว พร้อมร่วมมือกับธนาคารต่างๆ ออกแคมเปญเชิญชวนให้คนส่งอั่งเปาดิจิทัลเพิ่มขึ้น เช่น ธนาคารใหญ่อย่าง DBS ก็จัดทำโฆษณาชุดใหม่ออกมาเพื่อโปรโมทโดยเฉพาะ เเละเพิ่มยอดจองอั่งเปาออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนถึง 2 เท่าด้วย

ด้านการแจกอั่งเปาออนไลน์ในประเทศจีน ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นทุกปี โดยพบว่า จำนวนผู้ใช้ฟีเจอร์แจกและรับอั่งเปาทางแอปพลิเคชัน WeChat ในช่วงเทศกาลตรุษจีนของปี 2019 เพิ่มขึ้นเป็น 823 ล้านจากจำนวน 688 ล้านคนในปี 2018

 

 

ที่มา : Bloomberg , CNA

]]>
1313987
ไทยแซงญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวจีนแห่ฉลองตรุษจีนเป็นอันดับ 1 https://positioningmag.com/1157232 Fri, 16 Feb 2018 05:32:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1157232 ชาวจีนมากกว่า 5 แสนคนใช้ช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในญี่ปุ่น แต่ยังเป็นรองประเทศไทย ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีน

ในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีนคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางยังญี่ปุ่นและประเทศอื่นมากเป็นประวัติการณ์ การเดินทางครั้งใหญ่เริ่มต้นในวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแรกของช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า เที่ยวบินรอบเช้ามาญี่ปุ่นจากท่าอากาศยานเมืองกว่างโจวในมณฑลกวางตุ้งเกือบเต็มทุกที่นั่ง

คาดว่าจะมีชาวจีนราว 6,500,000 คนเดินทางไปต่างประเทศในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน เพิ่มขึ้น 350,000 คนจากปีที่แล้ว โดยประเทศยอดนิยมของชาวจีนคาดว่าจะเป็นไทย ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ตามลำดับ

ถึงแม้จีนและญี่ปุ่นจะมีปัญหาด้านประวัติศาสตร์และการเมือง แต่ชาวจีนคือนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น ในแต่ละเดือนมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเยือนญี่ปุ่นเฉลี่ยมากกว่า 5 แสนคน หรือตลอดทั้งปีมากกว่า 7,350,000 คน 

สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่ง ระบุว่าเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ได้ออกวีซ่าไปมากกว่าที่ทางสถานเอกอัครราชทูตเคยออกเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว

นอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่รั้งแชมป์แล้ว นักท่องเที่ยวจีนยังเป็นกลุ่มที่ “กระเป๋าหนัก” ที่สุด ปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวจากจีนที่มาญี่ปุ่นใช้จ่ายโดยเฉลี่ยคนละ 230,000 เยน หรือราว 67,000 บาทซึ่งมากกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น จนกลายเป็นปรากฏการณ์ “ซื้อระเบิดระเบ้อ” ดังนั้น คาดว่านักท่องเที่ยวชาวจีนน่าจะมีผลอย่างมากต่อเศรษฐกิจในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน.

สนับสนุนข่าวโดย : mgronline.com/japan/detail/9610000016024

]]>
1157232
ซีพีเอฟ VS เบทาโกร วัดพลังวันตรุษจีน https://positioningmag.com/1157042 Thu, 15 Feb 2018 04:01:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1157042 ตรุษจีนปีนี้ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่าเม็ดเงินสะพัดกว่า 5 หมื่นล้านบาท เติบโตกว่า 3% ก้อนแรกที่สะพัดหนีไม่พ้น “วันจ่าย” ที่บรรดาคนไทยเชื้อสายจีน ต้องหาซื้อสินค้ามาตระเตรียมสำหรับ “วันไหว้” 15 กุมภาพันธ์

แต่ปีนี้ ดีกรีการแข่งขันเข้มข้นยิ่งขึ้น จากการเปิดเกมรุกของ “เบทาโกร” ยกทัพสินค้าไหว้เจ้า มาจัดโปรโมชั่นกันอย่างคึกคักเพื่อชิงกำลังซื้อผู้บริโภค จากเดิมที่มีรายใหญ่ “ซีพีเอฟ” ครองตลาด

“ซีพีเอฟ” ยังคงจัดเต็ม ด้วยเมนูไว้เจ้าขนมาเต็มทั้งอาหารคาว หวาน และผลไม้ ภายใต้แบรนด์ “ซีพี” กว่า 10 รายการ เพื่อจำหน่ายในห้างค้าปลีก การมีสินค้าครบทำให้ทำตลาดได้เหนือกว่าคู่แข่งแล้ว “ช่องทางจำหน่าย” ผ่านร้าน “ซีพีเฟรชมาร์ท” กว่า 430 สาขา ยังเป็นอีกกลยุทธ์การทำตลาดที่ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในย่านชุมชน

ในยุคที่ผู้บริโภครักความสะดวกสบาย ซีพีเอฟ ก็ไม่พลาดเปิดพรีออเดอร์ให้โทรสั่งจองสินค้าล่วงหน้า และสั่งผ่านเว็บไซต์ www.cpfreshmartshop.com เพื่อบริการจัดส่งด้วย

ขณะที่ “เบทาโกร” แม้เป็นมวยรองที่เข้ามาทำตลาดค้าปลีกเจาะผู้บริโภครายย่อยไม่นานนัก แต่ตรุษจีนปีนี้ ก็ไม่น้อยหน้า สรรหา 4 เมนูไหว้เจ้าภายใต้แบรนด์ “เบทาโกร” มาเกาะกระแสไว้ไม่ให้ตกเทรนด์เทศกาลใหญ่ของคนไทยเชื้อสายจีน เพราะช่วงนี้เป็นจังหวะที่การจับจ่ายใช้สอยพุ่งปรี๊ด

คู่แข่งมีช่องทางจำหน่ายเป็นของตัวเอง เบทาโกร ก็มีหน้าร้านเหมือนกันในชื่อ “เบทาโกร ช็อป” ประมาณ 200 สาขาทั่วประเทศ ทำให้ลูกค้าที่มองหาแบรนด์นี้จริงๆ จะได้สินค้าตรงกับความต้องการ ซึ่งในร้านดังกล่าจำหน่ายสินค้าครบแบรนด์หลักทั้งเอสเพียว และเบทาโกร

นอกจากสินค้า โปรโมชั่นที่ทั้ง 2 แบรนด์ทำออกมาแข่งกันแล้ว ยังมี “โฆษณา” ชิงเหลี่ยมการตลาด ด้วยการตั้งตัวเป็น “กูรู” การจัดโต๊ะไหว้เจ้าที่เป็นสิริมงคล เพื่อสื่อสารกับชาวโซเชียลมีเดียด้วย

ตรุษจีนอาจเป็นแค่หนึ่งสีสันที่ 2 ค่ายทำตลาดแข่งกัน แต่ในสนามใหญ่ธุรกิจอาหารทุกเซ็กเมนต์ เป็นที่รู้กันว่าซีพีเอฟเป็นแบรนด์ผู้นำที่แข็งแรงมาก เพราะมีสินค้าหลากหลายทั้งวัตถุดิบ หมู ไก่ ปลา อาหารพร้อมทาน อาหารแช่แข็ง ของคาว ของหวาน และของทานเล่น (สแนค) ครบ! และความได้เปรียบทางการตลาดที่คู่แข่งเข้ามาเจาะยางยากสักหน่อย คือช่องทางจำหน่าย เพราะแค่อาศัยขุมพลังเครือข่ายแม็คโคร เทสโก้ โลตัส ซีพี เฟรชมาร์ท และเซเว่น อีเลฟเว่น แล้ว ก็กินรวบกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วประเทศ

แต่เบอร์รอง ก็ไม่ได้ลดละ เพราะเมื่อรุกตลาดรายย่อย (Consumer) มีวัตถุดิบไข่ ไก่ หมู มาแข่งแล้ว ของทานเล่นอย่างไส้หรอก ก็มีในพอร์ตโฟลิโอเช่นกัน ด้วยไลน์สินค้ายังน้อย ทำให้การวาง Positioning ของแบรนด์เป็นระดับบน เป็นพรีเมียม ชูจุดขายของแบรนด์ทั้งเรื่องของมาตรฐาน NSF ในอาหารเป็นรายแรก และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์อนามัย ซึ่งเมื่อเทียบกับเบอร์ 1 เป็นตลาดแมสที่กินกลุ่มเป้าหมายใหญ่มาก

เบทาโกร ยังพยายามหาพันธมิตรมาช่วยสร้างจุดแข็งให้ธุรกิจยิ่งขึ้น อย่างล่าสุดการได้ “มิตซูบิชิ คอร์ป” ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ธุรกิจจากญี่ปุ่นและ “อิโตแฮม โยเนะคิวโฮลดิ้ง” มาร่วมลงทุนหลักพันล้านบาทตั้งโรงงานแปรรูปเนื้อไก่เพื่อป้อนให้ตลาดร้านอาหารในญี่ปุ่นด้วย

อย่างไรก็ตาม ทั้งซีพีเอฟ และเบทาโกร ถือเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอาหารครบวงจรทั้งอาหารคน อาหารสัตว์ มีธุรกิจเกษตร, ธุรกิจอาหาร, ปศุสัตว์ ทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ สามารถทำรายได้แต่ละปีเป็นหลักหมื่นและแสนล้านบาท.

]]>
1157042
คนไทยดูวิดีโอช่วงตรุษจีนปี 2559 เพิ่ม 158% แบรนด์ไม่ควรพลาด 4 เรื่องโดนใจ https://positioningmag.com/1114795 Fri, 27 Jan 2017 11:07:23 +0000 http://positioningmag.com/?p=1114795 Google เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกของสถิติการชมวิดีโอของคนไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่พิ่มสูงขึ้นถึง 158% เมื่อเทียบปีต่อปีกับ พ.ศ. 2559

เทศกาลตรุษจีนเป็นช่วงเวลาที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ อย่างสดใสด้วยการแบ่งปันความรื่นรมย์และใช้เวลาอย่างมีคุณภาพกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงถึงการแบ่งปันวิดีโอดีๆ เรื่องราวต่างๆ จากหน้าจอใดๆ หรือขนาดไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการแชร์วิดีโอจากคนหนึ่งไปให้อีกคนหนึ่งทางโทรศัพท์ หรือมานั่งรวมกันดูวิดีโอผ่านจอที่ใหญ่กว่า

1_youtube

Google ได้สำรวจว่าปีที่แล้วในช่วงตรุษจีนมีการชมวิดีโอต่างๆ บน YouTube อย่างไร เพื่อให้เห็นว่าผู้ชมดูอะไรกันบ้างในช่วงเทศกาลนี้และมีปัจจัยอะไรที่น่าสนใจสำหรับนักการตลาดได้นำมาพิจารณา จากพฤติกรรมการชมวิดีโอในปี 2559 เราคาดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในปีไก่ที่คนไทยจะหันไปดูวิดีโอบน YouTube ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้:

#1 : ผู้ชมเลือกและรับฟังจาก Vloggers ที่รู้จักและเชื่อถือ

ในช่วงเวลานี้ครีเอเตอร์ไทยนำเสนอเรื่องราวเด็ดๆ ของตัวเองและครอบครัวหรือเพื่อนๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงตรุษจีน

2_youtube

#2 : ช่วงเวลาๆ ดีๆ ที่เกิดขึ้นรอบโลก

ชุมชนชาวจีนทั่วโลกมีการเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ในหลากหลายรูปแบบตั้งแต่จุดพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัด การตกแต่ง การเชิดสิงโตหรือมังกร และอื่นๆ อีกมากมาย คนไทยจำนวนมากเข้า YouTube เพื่อพาตัวเองให้สัมผัสกับบรรยากาศอันสนุกสนาน รื่นเริงจากกิจกรรมต่างๆ มากมายของเทศกาลตรุษจีน

3_youtube

#3 : อิ่มเอมไปกับแรงบันดาลใจจากอาหารหลากหลาย

มื้อเย็นกับครอบครัว การให้ของขวัญและของกินเล่นไปจนถึงขนมต่างๆ มากมายกับแขกที่มาเยี่ยมเยือนเป็นกิจกรรมสำคัญอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงตรุษจีน คนไทยมากมายก็เข้า YouTube เพื่อหาสูตรอาหารหรือแรงบันดาลใจต่างๆ ที่มีอยู่ล้นหลามในช่วงนี้

#4 : แรงกระตุ้นให้ออกไปท่องเที่ยว

จากการสำรวจยังพบด้วยว่าคนไทยจำนวนมากที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับวันตรุษจีนยังให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวทางอากาศมากขึ้นถึง 3.3 เท่า เมื่อเทียบจำนวณประชากรออนไลน์ในประเทศไทย จนถึงไตรมาสที่ 4 พ.ศ. 2559

4_youtube

แบรนด์ต้องไม่พลาด เสนอเนื้อหาถูกที่ถูกเวลา

เทศกาลตรุษจีนคือช่วงเวลาสำคัญที่แสดงให้เห็นความหลากหลายของผู้บริโภคบน YouTube เริ่มจากคนรักบ้านและอาหาร จนถึงผู้นำเทรนด์ต่างๆ รวมทั้งกูรูด้านไลฟ์สไตล์และผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ

แบรนด์ต่างมองหาแนวทางการสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่มีความสดใหม่ในปี 2560 เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งควรพิจารณาและค้นหาเครื่องมือต่างๆ บน YouTube ที่เหมาะสมกับพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเวลาหรือที่ไหนก็ตามที่พวกเขากำลังรับชมวิดีโอ จากโฆษณาใน 6 วินาทีแรก (Bumper ads) ที่สร้างความดึงดูด ไปสู่โฆษณาด้านบนหน้าแรกของ YouTube (Mastheads) และรูปแบบการโฆษณาที่กดข้ามไม่ได้ (TrueView) เพื่อดึงดูดความสนใจต่อเนื่องในระยะเวลายาว การจับคู่เนื้อหาที่อยู่ในความสนใจของผู้บริโภคและใช้ช่องทางการสื่อสารที่ถูกต้อง จะกลายเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมในตรุษจีน หรือในช่วงเวลาสำคัญอื่นๆ ในปีนี้

]]>
1114795
ห้างฯ จัดเต็มกระตุ้นช้อปตรุษจีน คาดเงินสะพัด 5 หมื่นล้าน https://positioningmag.com/1114359 Tue, 24 Jan 2017 05:29:41 +0000 http://positioningmag.com/?p=1114359 จากเทศกาลปีใหม่ 2560 เข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม บรรดาห้างสรรพสินค้าได้จัดแคมเปญรับกับเทศกาลกันอย่างคึกคัก

กลุ่มเดอะมอลล์ ประเมินว่า ตรุษจีนปีนี้จะมีเงินสะพัดกว่า 50,000 ล้านบาท โดยเดอะมอลล์ใช้งบ 100 ล้านบาทจัดแคมเปญ กลอเรียส ไชนีสนิวเยียร์ ระหว่าง วันที่ 19 ม.ค.-5 ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีกิจกรรม การแสดง และมีสินค้าที่เกี่ยวกับตรุษจีนจำหน่าย รวมทั้งสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นต่างๆ และคาดว่าจะมีรายได้รวมช่วงตรุษจีน 2,500 ล้านบาท

1_chinese_newyear

เทสโก้ โลตัส เน้นออนไลน์

ทางด้าน เทสโก้ โลตัส มองว่า พฤติกรรมผู้บริโภคช่วงเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ หันมามุ่งเน้นขายผ่านทั้งออนไลน์ควบคู่กับออฟไลน์ เนื่องจากลูกค้าสมัยใหม่ต้องการความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น และครอบครัวขนาดย่อมไม่นิยมเตรียมของไหว้เอง เพราะไม่สะดวกในการประกอบอาหาร

สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ตรุษจีนปีนี้เป็นปีแรกที่เทสโก้ โลตัสจะให้ความสำคัญกับออฟไลน์และออนไลน์ โดยเปิดให้ลูกค้าพรีออร์เดอร์ หรือสั่งจองของไหว้ล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 5-15 มกราคม โดยเทสโก้ โลตัสจะจัดส่งฟรีระหว่างวันที่ 25-26 มกราคมนี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ไหว้ได้ทันทีโดยไม่ต้องจัดเตรียม ควบคู่กับโปรโมชั่นตรุษจีนซื้อครบ 1,000บาท รับส่วนลด 100 บาท หรือซื้อครบ 1,500 บาท รับส่วนลด 250 บาท

จากกระแสการตอบรับจากลูกค้าดีมาก แสดงให้เห็นถึงเทรนด์ของลูกค้าสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายเป็นอันดับต้นๆ

word_icon

พฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ ยอมรับว่า ช่องทางการซื้อผ่านออนไลน์เป็นทางเลือกที่มีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ให้การตอบรับสั่งซื้อของไหว้ล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก

word_icon2

จากความสำเร็จของบริการนี้ จะเป็นโมเดลสำหรับเทศกาลอื่นๆ ในอนาคต โดยมีเป้าหมายหลักคือความสะดวกของลูกค้ายุคใหม่ และอาจขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ นอกเหนือจากกรุงเทพฯ ด้วย

บิ๊กซี เทงบ 350 ล้าน คาดทำยอดเพิ่ม 15-20%

ทางด้าน บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ระบุถึงการใช้งบ 350 ล้านในเทศกาลตรุษจีน ด้วยการจัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคประมาณ 4,000 รายการ และส่วนลดสูงสุด 75% ภายใต้แคมเปญ บิ๊กซี บิ๊กเฮง ชิงรางวัล มูลค่า 1.6 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทำยอดขายเพิ่มขึ้น 15-20%

big_c_chinese_newyear

ไฮไลต์สินค้าตรุษจีนของบิ๊กซี นอกจากชุดไหว้แล้ว ยังได้ร่วมกับหมอดูคนดัง คฑา ชินบัญชร ออก 5 ชุดไหว้มงคลเสริมดวงชะตา ปี 2560 อาทิ ชุดร่ำรวย ชุดสุขภาพ ชุดการค้า ชุดครอบครัว ชุดความรัก

นอกจากนี้ยังเน้นการจัดชุดเซ่นไหว้ในราคาประหยัด โดยระบุว่ามีราคาพิเศษถูกกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ชุดแต้เซ่งเฮง ราคาชุดละ 188 บาท ชุดมหาเศรษฐี ราคาชุดละ 198 บาท ชุดทวีทรัพย์ ราคาชุดละ198 บาท รวมถึงชุดไหว้เทพเจ้าไฉ่ฉิ่งเอี๊ย ชุดไหว้บรรพบุรุษ ในราคาเริ่มต้น198 บาท ชุดไหว้โหงวแซ

เซ็นทรัลใช้ Seasonal Marketing+Emotional Marketing

ปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างเซ็นทรัลเดินหน้าปลุกกระแสช้อปต่อเนื่อง โดยนำกลยุทธ์ Seasonal Marketing (การตลาดช่วงเทศกาล) และ Emotional Marketing (การตลาดทางอารมณ์) มาใช้กับเทศกาลใหญ่ เพื่อส่งเสริมการขายระยะสั้น และกระตุ้นอารมณ์ต้องการซื้อสินค้าของลูกค้าให้สอดคล้องกับเทศกาล

เธอมองว่า พฤติกรรมนักช้อปชาวไทยในช่วงนี้จะนิยมซื้อสินค้าใหม่เพื่อเสริมสิริมงคล โดยมีความเชื่อว่าการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ เช่น ใส่เสื้อผ้าใหม่, ใช้ของใหม่ ในวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีนจะเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีในปีใหม่ เสริมความเฮงให้ชีวิตตลอดทั้งปี

โดยสินค้า 3 กลุ่มที่ได้รับความสนใจ คือ กลุ่มสินค้าแผนกโฮม, นาฬิกา และสินค้าแฟชั่น เช่น กระเป๋า เครื่องประดับ

ส่วนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนมีเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ และภาพรวมนักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มที่มาท่องเที่ยวเองเป็นหลัก (FIT) นิยมซื้อสินค้า 3 กลุ่ม คือ สินค้าแฟชั่น อาหาร และเครื่องสำอาง

ทั้งนี้ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล ทุ่มงบเกือบ 120 ล้านบาท จัดแคมเปญ “เดอะเกรทไชนิสนิวเยียร์ 2017ฟื้นบรรยากาศช้อปปิ้งกระตุ้นการท่องเที่ยวจับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยวในศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทุกสาขา ด้วยการตกแต่งทุ่งดอกโบตั๋น จำลองบรรยากาศไชน่าทาวน์พร้อมสักการะเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์เสริมมงคลช้อปสินค้าเสริมบารมี ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม – 16 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล 30 สาขาทั่วประเทศ

ท็อปส์ จัดเต็มเน้นชุดมงคลหมอช้างร่วม

ทางด้านเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ ให้น้ำหนักกับเทศกาลตรุษจีน ภายใต้แคมเปญ ตรุษจีน Tops ช้อปเฮงเฮง Chinese New Year 2017 เพิ่มความหลากหลายของสินค้า พร้อมกับแจกทองคำแท่งหนัก 10 บาท รวมมูลค่ากว่า 13.5 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการขาย คาดยอดโต 20%

top_chinese_newyear

ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด กล่าวว่า ตรุษจีนถือเป็นเทศกาลสำคัญของคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก

ชุดซาแซเนเชอรัล
ชุดซาแซเนเชอรัล

ปีนี้ท็อปส์ได้มีการปรับแผนการตลาด ทั้งในเรื่องของการเพิ่มความหลากหลายของชุดเซ่นไหว้และสินค้ามงคล ที่เน้นความหมายดี เสริมมงคลชีวิต เช่น ชุดโหวงแซจักรพรรดิ์, ชุดซาแซเนเชอรัล, ชุดผลไม้มงคลพรีเมียม, ชุดกระเช้าส้มมั่งมีมงคล, สิ่วท้อ 88 ลูก, เมล่อนโชคดี และอาหารพร้อมรับประทานจากครัวเดลิก้าท็อปส์

อาจารย์ช้าง – ทศพร ศรีตุลา,ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล
อาจารย์ช้าง – ทศพร ศรีตุลา, ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล

ท็อปส์ ยังได้ร่วมกับอาจารย์ช้าง-ทศพร ศรีตุลา จัดทำชุดไหว้มงคล โดยรับของมงคลต่างๆ เช่น ปี่เซี๊ยะทองคู่ สะสมทรัพย์” รวมทั้งโปรโมชั่น ชิงโชคทองแท่งหนัก 10 บาท

เมเจอร์แต่งชุดจีนดูหนังฟรี

ส่วนทางค่ายโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ร่วมเทศกาลตรุษจีน ให้แต่งชุดจีนดูหนังฟรี 1 ที่นั่งทุกเรื่อง ทุกรอบ ทุกสาขา

ส่วนลูกค้าที่ซื้อบัตรชมภาพยนตร์ตั้งแต่วันที่ 23-31 มกราคม 2560 ทุกสาขาทั่วประเทศ แล้วลงทะเบียนผ่านเฟซบุ๊ก majorgroup หรือแอปพลิเคชั่น Major Movie Plus รับอั่งเปาดิจิตอล อาทิ โยนโบว์ลิ่งฟรี 1 เกม, ร้องคาราโอเกะฟรี 1 ชั่วโมง, เล่นฟิตเนส จาก วี ฟิตเนส ฟรี 7 วัน และส่วนลดต่างๆ และชิงโชค โกลด์ มาสเตอร์ กิ๊ฟท์ มูลค่ากว่า 200,000 บาท ระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม 2560

chinese_newyear

]]>
1114359