ท่องเที่ยวไทย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 14 Dec 2023 11:50:38 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ไปไหนดี? อโกด้าเปิดรายชื่อ 5 “เมืองรอง” มาแรงที่มีคนค้นหาเพิ่มขึ้นมากที่สุดปี 2566 https://positioningmag.com/1455582 Thu, 14 Dec 2023 04:56:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1455582 “อโกด้า” เปิดรายชื่อ “เมืองรอง” 5 จังหวัดที่มีคนค้นหาเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2566 ได้แก่ นครนายก (+50%), อุบลราชธานี (+29%), สุพรรณบุรี (+24%), เพชรบูรณ์ (+23%) และ ตรัง (+20%)

เห็นได้ว่า “เมืองรอง” ทั้ง 5 จังหวัดกระจายตัวอยู่หลายภาคทั้งภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ มีความหลากหลายด้านแหล่งท่องเที่ยวที่แตกต่างกันไป ไปดูกันว่าแต่ละจังหวัดมีเสน่ห์ดึงดูดอะไรบ้างที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากไปเยือน

1.นครนายก
เมืองรอง
เขาหล่น จ.นครนายก

สถานที่/กิจกรรมแนะนำ

  • เขาหล่น – มีสะพานไม้เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จุดปีนหน้าผา ควรไปในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคมเพื่อชมทุ่งหญ้าสีทองในยามพระอาทิตย์ตก
  • อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ – ชมทัศนียภาพภูเขาเขียวขจี สายปั่นมาปั่นจักรยานรอบอ่างเก็บน้ำได้
  • วัดเขาทุเรียน (วัดสีชมพู) – วัดมีเอกลักษณ์จากการทาสีชมพูทั่วทั้งวัด เหมาะไปชมความงาม
2.อุบลราชธานี
หาดหงส์ จ.อุบลราชธานี

สถานที่/กิจกรรมแนะนำ

  • สกายวอล์กเขื่อนสิรินธร – จุดชมวิวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว เป็นสะพานกระจกยาว 400 เมตร มองเห็นป่าไม้และฟาร์มโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ
  • หาดหงส์ – เนินทรายกลางแม่น้ำโขง มองเห็นโบก หาดทราย สันดอนทราย อย่างสวยงาม
  • วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว – ชมจิตรกรรมพื้นเรืองแสง และภาพต้นกัลปพฤกษ์วิจิตรงดงามด้านหลังอุโบสถ
  • สวนสัตว์อุบลราชธานี – สวนสัตว์แบบ Jungle Park ผสานส่วนแสดงสัตว์เข้ากับป่าไม้อย่างสมจริง เหมาะกับกลุ่มเด็กๆ

 

3.สุพรรณบุรี
เมืองรอง
ตลาดสามชุก จ.สุพรรณบุรี

สถานที่/กิจกรรมแนะนำ

  • ตลาดเก่าสามชุก – รับชมวิถีชีวิตของคนค้าขายริมแม่น้ำท่าจีนที่มีมายาวนานกว่าร้อยปี
  • อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง – พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยอากาศบริสุทธิ์

 

4.เพชรบูรณ์
สะพานห้วยตอง จ.เพชรบูรณ์

สถานที่/กิจกรรมแนะนำ

  • สะพานพ่อขุนผาเมือง (สะพานห้วยตอง) – ฐานสะพานสูงกว่า 50 เมตร และตัดโค้งผ่านหุบเขา ทำให้ได้ภาพความงามแปลกตา
  • น้ำตกศรีดิษฐ์ – น้ำตกที่สูงกว่า 30 เมตรและมีน้ำไหลตลอดทั้งปี พร้อมระบบนิเวศที่สมบูรณ์โดยรอบ
  • Amazing Dinosaur เขาค้อ – สร้างความตื่นตาให้นักสำรวจตัวน้อยด้วยการผจญภัยไปกับฝูงไดโนเสาร์ ป่าดึกดำบรรพ์ และเขาวงกต
  • อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ – แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งล่าสุด ชมสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น

 

5.ตรัง
เมืองรอง
ตัวเมืองตรัง

สถานที่/กิจกรรมแนะนำ

  • เกาะกระดาน – ชายหาดที่ดีที่สุดในโลกปี 2023 จัดอันดับโดย World Beach Guide
  • ตัวเมืองตรัง – เมืองเก่าสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่คนท้องถิ่นยังคงอาศัยอยู่
  • ชิมอาหารเด็ด – หมูย่างเมืองตรัง และ เคาหยก คือสุดยอดอาหารท้องถิ่นที่นับเป็นเมนูประจำจังหวัด

 

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

]]>
1455582
‘Agoda’ เผย “ท่องเที่ยวไทย’ โตแซง 2019 แต่ ‘เวียดนาม’ กำลังเป็นคู่แข่งสำคัญ “แย่งนักท่องเที่ยว” https://positioningmag.com/1434288 Thu, 15 Jun 2023 09:53:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1434288 อย่างที่หลายคนรู้ว่าเศรษฐกิจประเทศไทยนั้น การท่องเที่ยว ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่สร้างการเติบโต โดย อโกด้า (Agoda) แพลตฟอร์มผู้ให้บริการจองห้องพักทางออนไลน์ ได้เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวไทยถือว่า ฟื้นตัวกว่าปี 2019 ไปแล้ว แต่ก็มี เวียดนาม ที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว

ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์

ออมรี มอร์เกนสเติร์น (Omri Morgenshtern) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อโกด้า เปิดเผยว่า จากข้อมูลของแพลตฟอร์มพบว่า การท่องเที่ยวของไทย ในช่วง 5 เดือนแรกในปี 2023 นั้น ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยไทยถือเป็นปลายทาง อันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานคร ยังคงเป็นเมืองปลายทางที่มีการเดินทางมามากที่สุด

โดยประเทศที่มาท่องเที่ยวไทยมากที่สุด คือ เกาหลีใต้ และ อินเดีย ส่วนการมาของนักท่องเที่ยว จีน คิดเป็นประมาณ 50% เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมา 100% ภายในสิ้นปีนี้ 

“ไทยถือว่าฟื้นตัวได้เร็วกว่าหลาย ๆ ประเทศ เพราะไม่มีข้อจำกัดในการเดินทาง รวมถึงจำนวนไฟลท์บินที่มีจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าไทยเปิดกว้างในด้านการท่องเที่ยวมาก”

ยังเทียบญี่ปุ่นยาก

ญี่ปุ่นยังถือเป็นหมุดหมายอันดับ 1 ของนานาประเทศทั่วโลกแบบ ทิ้งห่าง โดย ออมรี อธิบายว่า เนื่องจากญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์และความแตกต่าง ที่สำคัญ ญี่ปุ่นมี เหตุผลให้ไปท่องเที่ยวมาก ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ, สวนสนุก, แหล่งช้อปปิ้ง สามารถเที่ยวได้ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงสามารถเดินทางไปในเชิงธุรกิจ ดังนั้น การที่ไทยจะแซงขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในระยะเวลาอันสั้นได้ยาก

สิ่งที่ไทยมี ทะเลสวย อากาศอบอุ่น และ เหมาะกับการมาปาร์ตี้สังสรรค์ แต่ไทยยังจำเป็นต้อง ลงทุนเพิ่ม เพื่อให้นักท่องเท่ียวมีเหตุผลที่จะเดินทางมา ไม่ใช่แค่พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเดิม เช่น การมีสวนสนุกใหญ่ ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

ในส่วนของ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือเชิงวัฒนธรรมนั้นต้องยอมรับว่า ม่ได้มีดีมานด์มากเท่าการท่องเที่ยวในสวนสนุก ที่ไม่เยอะเท่ากับสถานที่ท่องเที่ยวในสวนสนุก นอกจากนี้ คู่แข่งในภูมิภาคก็มีจำนวนมากที่มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ขณะที่ภาพลักษณ์ของไทยเองก็มีความทันสมัย ดังนั้น อาจไม่ได้น่าดึงดูดเท่ากับประเทศที่กำลังพัฒนา อาทิ เมียนมา อย่างไรก็ตาม ไทยเองก็ต้องทำการตลาดเพื่อดันเมืองรองนั้น ๆ ว่ามีอะไรดี ไม่ใช่แค่ว่าราคาถูก

ภาพจาก Shutterstock

เวียดนามมาแรงจ่อแซงไทย

เวียดนาม ถือเป็นประเทศที่ในภาคการท่องเที่ยวมีความคล้ายคลึงกับไทย แต่เมื่อเทียบกันแล้วยังถือว่าห่างกันพอสมควร อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวเวียดนามเติบโตก้าวกระโดด โดยในปัจจุบัน เวียดนามเป็นหมุดหมายอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวเกาหลี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ใกล้ และไฟลท์บินก็เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15 ไฟลท์

นอกจากนี้ เกาหลีก็เข้าไปลงทุนในเวียดนามมานาน ทำให้มีความคุ้นเคยมากกว่าไทย ดังนั้น ไทยเองก็ต้องลงทุนเพิ่มเติม เช่น เรื่องวีซ่าที่ทำให้ง่ายสะดวก และสายการบินก็ต้องเปิดเส้นทางการบินเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ออมรี มองว่า ไทยมีศักยภาพที่จะเป็น ฮับด้านเทคโนโลยี จึงอยากให้ไทยพัฒนาในส่วนนี้ เพื่อดึงดูดให้นักลงทุน นักธุรกิจทั่วโลกเดินทางมาพบปะ แชร์ไอเดีย และเจรจาด้านธุรกิจ ซึ่งถ้าทำได้ก็จะยิ่งดึงดูดการเดินทาง

“ความเห็นส่วนตัว ผมมอยากให้ไทยเป็นฮับของเทคโนโลยี ตอนนี้สิงคโปร์มีภาพด้านนี้มากกว่า เเต่ผมเชื่อว่าเรามีประสิทธิภาพที่จะเป็นฮับด้านเทคโนโลยีของภูมิภาคได้ เพราะปัจจุบันไทยถือเป็นศูนย์กลางของอโกด้า พนักงานส่วนใหญ่ก็อยู่ไทย ศูนย์กลางเทคโนโลยีก็อยู่ไทย และพนักงานเกือบครึ่งของเราที่เป็นชาวต่างชาติก็ชอบไทยมาก”

Photo : Shutterstock

อโกด้าฟื้นเกิน 100%

สำหรับยอดการใช้งานของอโกด้าในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาเติบโตกว่าปี 2019 แล้ว โดยยอดค้นหาเพิ่มขึ้น 60% ยอดค้นหาท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น 49% อย่างไรก็ตาม ยอดการค้นหาข้อมูลการเที่ยวต่างประเทศของคนไทยยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะต้องยอมรับว่ามีเรื่องของ ราคา เข้ามาเป็นปัจจัย อย่างค่าตั๋วเครื่องบินก็ถือว่าสูงขึ้น เนื่องจากจำนวนไฟลท์ไม่เพียงพอ

ดังนั้น เรื่องของ ราคา จะเป็น 1 ใน 3 ด้านที่อโกด้าเน้นมากในปัจจุบันและอนาคต โดยพยายามจะทำราคาให้ดีที่สุด มีฟีเจอร์อย่าง Price Freeze ช่วยให้ผู้จองสามารถล็อกราคาที่พักที่กำลังดู อีก 2 ด้านจะเป็นการพัฒนา เทคโนโลยี โดยล่าสุดเริ่มนำเทคโนโลยี Generative AI มาใช้ และสุดท้ายคือ Localization

“เรามองว่าการท่องเที่ยวตอนนี้มันไม่ได้เติบโตเพราะอั้นแล้วจะลดลง เราเชื่อว่าจะคงที่ไปเรื่อย ๆ เช่น ฝั่งยุโรปและอเมริกาที่เปิดการท่องเที่ยวก่อนหลาย ๆ ประเทศ แต่ก็ยังไม่ตกลงเท่าไหร่ในปัจจุบัน โดยเราอยากให้คนเข้าถึงการท่องเที่ยวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราเลยพยายามทำราคาให้ดีที่สุดเปลี่ยนแท็กไลน์เป็น ให้เห็นโลกในราคาที่ต่ำลง เพราะถ้ามาจองกับเราแล้วถูกลงอีก 1-2% แล้วทำให้คนเที่ยวได้ก็โอเคเเล้ว”

]]>
1434288
‘Airbnb’ เผยเทรนด์ท่องเที่ยวหลัง 2023 เน้น “ปักหลักยาว ไปเป็นครอบครัว ชอบสัมผัสธรรมชาติ” https://positioningmag.com/1424624 Thu, 23 Mar 2023 10:40:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1424624 แน่นอนว่าหลังจากที่สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่คลี่คลายลง กิจกรรรมแรก ๆ ที่คนทั่วโลกต้องการทำก็คือ ท่องเที่ยว แต่แน่นอนว่าพฤติกรรมการท่องเที่ยวก็ปรับเปลี่ยนไป โดย Airbnb ก็ได้มาแชร์ถึงเทรนด์การท่องเที่ยวในปี 2023 ขณะที่ไทยเองก็ถือเป็นหมุดหมายอันดับต้น ๆ ของโลก

ไทย Top 5 ปลายทางของ Airbnb

นายอมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน ของ Airbnb กล่าวว่า ในปี 2022 การท่องเที่ยวในแถบอเมริกาและยุโรปมีการฟื้นตัวมากกว่าฝั่งเอเชีย เนื่องจากมาตรการด้านโควิดที่ผ่อนคลายมากกว่า แต่ในปี 2023 การท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียมีการฟื้นตัวมากขึ้น เนื่องจากการเปิดประเทศของจีน ขณะที่ไทยเองก็ถือเป็นหนึ่งในปลายทางสำคัญ

โดยปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวถึง 11.15 ล้านคน โดย กรุงเทพฯ ถือเป็นปลายทางอันดับ 1 ที่มีการจองที่พักมากที่สุดของแพลตฟอร์ม ตามด้วย ภูเก็ต, พัทยา, เชียงใหม่ และเกาะสมุย โดยประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากที่สุดของแพลตฟอร์ม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ยุโรป, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และจีน

สำหรับในปี 2023 นี้ ไทยยังคงติด Top 5 ปลายทางยอดนิยมบน Airbnb คาดว่าภาพรวมทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยประมาณ 25-30 ล้านคน โดย นักท่องเที่ยวจีนจะเป็นกลุ่มขับเคลื่อนหลัก เพราะตั้งแต่ที่จีนเปิดประเทศ ไทยเป็นปลายทางที่นักท่องเที่ยวจีนค้นหาที่พักมากที่สุด และกรุงเทพฯ ถือเป็นปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

สงกรานต์ยอดค้นหาพุ่ง 310%

สำหรับช่วงเทศกาล สงกรานต์ การค้นหาที่พักในช่วงเทศกาลดังกล่าวเติบโตขึ้น 310% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดย 5 ปลายทางที่ถูกค้นหามากที่สุด ได้แก่

  • กรุงเทพฯ
  • พัทยา
  • เชียงใหม่
  • กระบี่
  • ภูเก็ต

โดยนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางในช่วงสงกรานต์มากที่สุด ได้แก่ ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี และฝรั่งเศส ส่วนประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ สิงคโปร์, เกาหลีใต้, จีน และมาเลเซีย

เทรนด์ใหม่เน้นพักยาวเที่ยวเป็นกลุ่ม

สำหรับเทรนด์การเดินทางท่องเที่ยวในปี 2023 จะเป็นการเดินทางแบบกลุ่มมากขึ้น เฉพาะประเทศไทยเติบโตขึ้นถึง 300% เนื่องจากผู้คนต้องการเดินทางมาเพื่อสานสัมพันธ์กับเพื่อน คนรัก และครอบครัว นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแบบ Family Travel ทั่วโลกก็เติบโตขึ้นถึง 60% นอกจากนี้ อีกเทรนด์ที่เห็นคือ การนำ สัตว์เลี้ยง ไปท่องเที่ยวด้วย โดยปัจจุบันมีโฮสต์ที่รองรับการเข้าพักของนักท่องเที่ยวที่มีสัตว์กว่า 2,800 โฮสต์

ขณะที่ระยะเวลาในการเข้าก็เติบโตขึ้น โดยการพักในไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 5 คืน และการเข้าพักระยะยาวมากกว่า 28 วัน เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า เนื่องจากคนสามารถทำงานและท่องเที่ยวด้วยการทำงานทางไกลได้ ทำให้การท่องเที่ยวเป็นแบบอยู่ยาว (Long Stay) มากขึ้น นอกจากนี้ ปลายทางที่นักท่องเที่ยวสนใจหมุดหมายท่องเที่ยวใหม่ ๆ เน้นสัมผัสธรรมชาติและเสน่ห์ของคนพื้นเมือง

“ที่คนจีนเลือกไทยเป็นประเทศแรก ๆ ที่เขาอยากมาเที่ยวเพราะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีจำนวนมาก และเขาก็มีความสนใจที่จะเรียนรู้และสัมผัสกับภูมิปัญญาท้องถิ่น”

เกาหลีใต้ปลายทางฮิตของคนไทย

กลับกัน สำหรับคนไทยเองก็มีความต้องการเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้น โดยจุดหมาย 5 อันดับที่คนไทยค้นหามากที่สุดของ Airbnb ในปี 2022 ได้แก่ เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น โดยเมืองที่นักท่องเที่ยวไทยจองที่พักที่สุด ได้แก่ โซล, ลอนดอน, ปารีส, เมลเบิร์น และนิวยอร์ก

สำหรับ Airbnb ปัจจุบันมีโฮสต์ 6.6 ล้านแห่ง รวมนักท่องเที่ยวกว่า 4.4 พันล้านราย โดยทางแพลตฟอร์มไม่สามารถเปิดเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวบนแพลตฟอร์มและจำนวนโฮสต์เติบโตเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน

]]>
1424624
คุยกับ ‘มาคาเลียส’ กับการขาย ‘วอเชอร์’ ในยุค ‘วอเชอร์ทิพย์’ บั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภค https://positioningmag.com/1404012 Tue, 11 Oct 2022 12:11:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1404012 หากพูดถึงการซื้อ วอเชอร์ (Voucher) ในประเทศไทย เชื่อว่าในใจหลายคนน่าจะมีคำถามเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจถ้าดูจากข่าว วอเชอร์ทิพย์ ที่ซื้อแล้วใช้ไม่ได้ หรือไม่ก็ปิดกิจการไปดื้อ ๆ อย่างเคสที่หลายคนจำได้คงไม่พ้น ารุมะ ซูชิ ภายใต้ความกังวลของผู้บริโภค แต่แพลตฟอร์มขายวอเชอร์ท่องเที่ยวอย่าง มาคาเลียส ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ อะไรทำให้แพลตฟอร์มสามารถผ่านทั้งโควิดและสร้างความเชื่อใจให้ผู้บริโภคได้ ณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส จะมาเล่าให้ฟัง

จากคนชอบเที่ยวสู่แพลตฟอร์มขายวอเชอร์

สำหรับสายเที่ยวน่าจะคุ้นกับชื่อของแพลตฟอร์ม มาคาเลียส (Makalius) กันมาบ้าง เพราะถือเป็น แหล่งรวมวอเชอร์ที่พัก กิน เที่ยว ทั้งไทยและต่างประเทศซึ่งก่อตั้งมาเป็นเวลา 4 ปี แล้ว โดย น้ำ ณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า จริง ๆ แล้ว ตนเองเป็นคนชอบท่องเที่ยว และได้เริ่มเป็น Travel Blogger โดยใช้ชื่อว่า Trip and tech-ไปตามน้ำ

แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้มาเปิดแพลตฟอร์มขายวอเชอร์เพราะงาน อินฟลูเอนเซอร์โลก โดยได้เจอกับ Darius Lebedzinskas สตาร์ทอัพชาวลิทัวเนียที่เปิดแพลตฟอร์ม Makalius ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกัน จนนำไปสู่การร่วมมือกันขยายแพลตฟอร์มมาสู่ประเทศไทย โดยเริ่มจากนำนักท่องเที่ยวลิทัวเนียมาไทย จากนั้นถึงพัฒนามาขายวอเชอร์ในประเทศตั้งแต่ปลายปี 2018

“เราเอาแค่โครงเขามา แต่รายละเอียดนอกนั้นเปลี่ยนหมดเลย เพราะพฤติกรรมลูกค้าไทยกับของลิทัวเนียต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างรูปก็ใช้ของทางโรงแรม แต่เราต้องถ่ายเองใหม่หมด เพราะลูกค้ากลัวไปแล้วไม่สวยจริง เรื่องความเชื่อมั่นก็เป็นอีกส่วน”

ขายวอเชอร์ไม่ง่ายอย่างที่คิด

ณีรนุช อธิบายว่า หลายคนชอบมองว่าการขายวอเชอร์เป็นเรื่องง่าย แค่รับมาแล้วขายไป แต่พอลงลึกมันมีอะไรมากกว่านั้นโดยเฉพาะ ความน่าเชื่อถือ เพราะต้องยอมรับว่า ตลาดไทยมีภาพจำที่ไม่ค่อยดี นอกจากนี้ คนไทยยังไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์ของการซื้อวอเชอร์ที่ต้องแจ้งล่วงหน้าเมื่อจะเข้าภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ใช่ซื้อปุ๊บแล้วใช้หน้างานได้เลย แต่คุ้นกับการซื้อกับ Travel Agent ที่จองวันไหนใช้วันนั้น

ดังนั้น จึงไม่มีแพลตฟอร์มที่เป็นคู่แข่งโดยตรง ส่วนใหญ่ในตลาดจะเป็นรายย่อยที่ได้บัตรมาฟรี หรือไม่ก็รับมาจากโรงแรมหรือร้านอาหาร

“ที่เรามองว่าที่ไม่มีคู่แข่งเพราะการขายวอเชอร์มันเป็นคอนเซ็ปต์ที่เข้าใจยากกว่าที่คิด มันไม่ใช่การขายสินค้าแล้วจบไป แต่มันจะเกิดการตอบโต้กับลูกค้า เวลามีปัญหาอะไรลูกค้าเขาไม่ติดต่อโรงแรมโดยตรงแต่เขาติดต่อเรา อีกส่วนก็ต้องยอมรับว่าภาพจำการขายวอเชอร์ไทยไม่ค่อยดีด้วย”

สร้างความมั่นใจทางเดียวแก้ปัญหาวอเชอร์ทิพย์

แม้จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายโดยตรง แต่เมื่อมีข่าวลบเกี่ยวกับ วอเชอร์ทิพย์ มันส่งผลต่อความเชื่อมั่น โดย ณีรนุช เล่าว่า พอมีข่าวลบเมื่อไหร่ลูกค้ามีคำถามมากขึ้น ระยะเวลาในการตัดสินใจชำระเงินนานขึ้น จากเดิมกดจ่ายทันทีกลายเป็นข้ามวันหรือหลาย ๆ วัน

ดังนั้น หนึ่งในสิ่งที่ช่วยให้แพลตฟอร์มมีความน่าเชื่อถือคือ คัสตอมเมอร์เซอร์วิส เพื่อสร้างความสบายใจให้ลูกค้าว่าพร้อมจะช่วยเหลือตลอดหากเจอปัญหา โดยปัจจุบันให้บริการ 09.00-22.00 น. แต่ในอนาคตมีแผนจะให้บริการ 24 ชั่วโมง และการตลาดปีนี้จะมุ่งไปที่ ออฟไลน์ มากขึ้น อาทิ ออกงานอีเวนต์ และใช้สื่อ Out Of Home เพื่อสร้างตัวตน เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ผู้บริโภคมั่นใจมากขึ้น แม้ต้องใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นถึง 10% ก็ตาม

ปัญหาวอเชอร์เนี่ยมันมีมาหลายครั้งแน่นอนว่าลูกค้าก็กลัว บางคนมาหาถึงออฟฟิศก็มีเพราะอยากรู้ว่ามีตัวตนจริงไหม แต่สุดท้ายปลายทางคือ เราต้องทำบริการให้ดีเพื่อให้เกิดการบอกต่อ เพราะที่เราอยู่ได้ทุกวันนี้ 40% ของลูกค้าเราเป็นลูกค้าเก่า”

ไม่ใช่ลูกค้ากลัว แพลตฟอร์มก็กลัว

ด้วยความที่บิสซิเนสโมเดลของมาคาเลียสจะเป็นตัวกลางที่นำวอเชอร์ของพันธมิตรมาขาย ถ้าขายได้ก็แบ่งเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น แพลตฟอร์มก็ต้องมีวิธีการ คัดกรองพันธมิตร ที่ต้องเข้มงวดมากขึ้น เช่น ตรวจสอบว่าเปิดกิจการนานแค่ไหน การตรวจสอบกระแสเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ มีการเข้าไปชมสถานที่จริง รวมถึงพูดคุยกับผู้บริการถึงแผนการดำเนินธุรกิจ และมี มาตรการชดเชยลูกค้าผ่าน 3 ทางเลือก ได้แก่ การคืนเงิน มอบเครดิตเงินคืน และอัปเกรดบริการ

“สุดท้ายสิ่งที่เราทำมันคงคัดกรองได้ส่วนหนึ่ง คงไม่ได้ 100% ดังนั้น เราเองก็ต้องมีมาตรการดูแลลูกค้า หากเกิดกรณีที่วอเชอร์มีปัญหา”

สำหรับในส่วนของลูกค้าที่จะเลือกซื้อวอเชอร์ อาจต้องตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งระยะเวลาการเปิดกิจการ, รีวิวจากลูกค้าอื่น ๆ นอกจากนี้ ณีรนุช ยังย้ำว่า วอเชอร์ราคาถูกได้ แต่ไม่ใช่ถูกเกินไป

เปิดแพ็กเกจเที่ยวตปท. และองค์กร

ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์สถานการณ์ยังแย่อยู่ เพราะมีข่าวโควิดระบาดหนักหลังจากหยุดยาวปีใหม่ จนมาช่วงมีนาคมการเติบโตก็กลับมาจนเกือบจะปกติเมื่อเทียบกับปี 2019 ส่วนช่วงไตรมาสสุดท้ายเชื่อว่าจะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเพราะเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ทั้งการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และการเที่ยวต่างประเทศของคนไทย

โดยทางแพลตฟอร์มก็ได้ถือโอกาสขยายโปรดักต์ แพ็กเกจเที่ยวต่างประเทศ เป็นครั้งแรก โดยเฟสแรกเปิดที่ มัลดีฟส์ ส่วนเฟสต่อไปจะเป็น ญี่ปุ่น และประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว และ เวียดนาม นอกจากนี้กำลังมีแผนทำแพ็กเกจเที่ยว ยุโรป และแพ็กเกจ ดูบอลโลก ที่ประเทศกาตาร์ในช่วงปลายปีด้วย

นอกจากนี้ ได้เพิ่ม Corporate Package บริการจัดแพ็กเกจด้านการท่องเที่ยว-สัมมนา-เลี้ยงฉลอง แบบครบวงจร เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้ง SME ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากเริ่มเห็นความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น

“ความยากของการขายวอเชอร์ คือการทำแพ็กเกจให้ดีที่สุด เราจะทำยังไงให้ดึงดูดและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเรามากที่สุด นี่คือความท้าทายของแพลตฟอร์มที่ต้องวิเคราะห์เทรนด์และความต้องการของลูกค้าตลอดเวลา เพื่อออกแบบแพ็กเกจให้ตรงใจและคุ้มค่าเพื่อจะดึงดูดลูกค้า”

ขอเป็นสเปเชียลลิสต์ในฝั่งท่องเที่ยวและไม่พึ่งมาร์เก็ตเพลส

แม้ว่าจะเจอกับ COVID-19 จนทำให้ต้องปรับตัวจากแค่ขายวอเชอร์โรงแรม ต้องมาขายวอเชอร์เรือสำราญและร้านอาหาร แต่ ณีรนุช ยืนยันว่า คงไม่หันไปเอาวอเชอร์อื่น ๆ มาขาย เพราะอยากโฟกัสแค่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเชื่อว่าอุตสาหกรรมนั้นกว้างมากพอที่จะไปต่อได้แม้จะมีวิกฤตต่าง ๆ เข้ามา

“ตั้งแต่เจอโควิดในปีที่ 2 ของการทำงาน เราก็ปรับตัวมาตลอด แต่เราไม่คิดจะแตกไปนอกอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพราะเราไม่ถนัด กลัวว่าทำแล้วมันจะออกมาไม่ดี แล้วเราก็อยากสร้างภาพจำให้กับลูกค้า”

นอกจากนี้ ยังไม่คิดที่จะขายวอเชอร์บนแพลตฟอร์มอี-มาร์เก็ตเพลส เนื่องจากต้องการทำให้แพลตฟอร์มตัวเองแข็งแรงและเก็บเกี่ยวยูสเซอร์ให้มากที่สุด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันเว็บไซต์มียอดเข้าชม 1 ล้านครั้ง/เดือน จากลูกค้า 2 แสนราย ส่วนแฟนเพจ Facebook มีผู้ติดตามกว่า 8 แสนราย

“ที่เราทำเทสติ้งลองขายบน Shopee ลูกค้าที่ซื้อก็เป็นลูกค้าเดิมของเรา แต่เขาซื้อผ่านมาร์เก็ตเพลสเพราะมีส่วนลด ซึ่งเรามองว่าถ้าเราขายผ่านอีคอมเมิร์ซลูกค้าที่เข้ามาก็จะเป็นลูกค้าของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ไม่ใช่ของบริษัท ดังนั้น เป็นของเราเองมันยั่งยืนกว่า”

สำหรับปีนี้ มาคาเลียสตั้งเป้าที่จะเพิ่มผู้ใช้อีก 5-7 หมื่นราย รวมเป็น 2.7 แสนราย ทำรายได้ 130 ล้านบาท มีกำไร 18-20% และใน 3-5 ปีข้างหน้า อยากจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดมีผู้ใช้ 1 ล้านราย

]]>
1404012
“ไทย” ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ประเทศที่คน “มาเลย์-สิงคโปร์-เกาหลี” อยากมาเที่ยวมากที่สุด https://positioningmag.com/1383553 Sat, 30 Apr 2022 05:42:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1383553 Agoda สำรวจการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อมาพักผ่อนในเดือนพฤษภาคม 2565 พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ค้นหาการมาเที่ยว “ไทย” เป็นอันดับ 1 สะท้อนแรงดึงดูดของไทยหลังจากผ่อนคลายขั้นตอนการเข้าเมือง ไม่ต้องตรวจ RT-PCR ตั้งแต่ 1 พ.ค. นี้

การสำรวจการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกโดย Agoda พบว่า “ไทย” เป็นจุดหมายอันดับ 1 ที่คนหลายประเทศค้นหามากที่สุด ดังนี้

  • มาเลเซีย – 1) ไทย  2) สิงคโปร์ 3) อังกฤษ
  • สิงคโปร์ – 1) ไทย 2) สิงคโปร์ 3) อินโดนีเซีย
  • เกาหลีใต้ – 1) ไทย 2) สหรัฐอเมริกา 3) เวียดนาม
  • ฟิลิปปินส์ – 1) สิงคโปร์ 2) สหรัฐอเมริกา 3) ไทย
  • อินโดนีเซีย – 1) สิงคโปร์ 2) สหรัฐอเมริกา 3) มาเลเซีย

จะเห็นได้ว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมในแถบนี้ มีเพียงชาวอินโดนีเซียที่ประเทศไทยไม่สามารถเข้าไปอยู่ใน 3 อันดับแรกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้

หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต วันที่ 16 พ.ย. 2564

นอกจากแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในไทยแล้ว การผ่อนคลายวิธีการเข้าเมืองให้ง่ายขึ้นของไทยน่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้ามามากขึ้น โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 ประเทศไทยจะลดขั้นตอนสำหรับผู้เดินทางเข้าเมืองที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว เพียงลงทะเบียนข้อมูลใน Thailand Pass และเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึง มีเพียงข้อแนะนำให้ตรวจ ATK เท่านั้น

 

คนไทยอยากไป “สิงคโปร์” มากที่สุด

สำหรับนักท่องเที่ยวไทย หากไม่นับการท่องเที่ยวในประเทศที่ยังครองใจมากที่สุดในระยะนี้ การเดินทางต่างประเทศ 5 อันดับแรกที่คนไทยต้องการไปมากที่สุด ได้แก่

  1. สิงคโปร์
  2. เกาหลีใต้
  3. ญี่ปุ่น
  4. สหรัฐอเมริกา
  5. อังกฤษ
“เกาหลีใต้” กำลังมาแรงในหมู่คนไทยที่ต้องการเที่ยวต่างประเทศ

ที่น่าสนใจคือประเทศเกาหลีใต้ซึ่งการสำรวจเมื่อเดือนเมษายนยังอยู่ในอันดับ 6 แต่ล่าสุดพุ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 2 หลังจากผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้คนไทยเริ่มค้นหาและวางแผนการท่องเที่ยวกันทันที

 

“ทะเล” บูมสุดขีด

ช่วงเดือนพฤษภาคม “ทะเล” ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยนิยม โดยสองอันดับแรกคือพัทยาและหัวหิน ยังคงครองใจคนไทยสูงสุดเมื่อคิดจะไปท่องเที่ยว โดย 10 อันดับแรกเมืองที่คนไทยค้นหามากที่สุด ได้แก่

  1. พัทยา
  2. หัวหิน
  3. ภูเก็ต
  4. กรุงเทพฯ
  5. เขาใหญ่
  6. เชียงใหม่
  7. กระบี่
  8. กาญจนบุรี
  9. ชลบุรี
  10. เกาะช้าง
]]>
1383553
กำไร Q3 ‘Airbnb’ พุ่ง 280% ส่วน ‘ไทย’ มียอดหาที่พักเพิ่ม ‘เท่าตัว’ หลังเปิดประเทศ https://positioningmag.com/1360549 Fri, 05 Nov 2021 06:35:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1360549 ช่วงไตรมาส 2 ‘Airbnb’ ได้รายงานถึงผู้ถือหุ้นว่า COVID-19 สายพันธุ์เดลตา จะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเดินทาง อาจส่งผลให้การเดินทาง “ผันผวนมากขึ้น” อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าว่าการกระจายวัคซีนจะได้ผลดี ทำให้ กำไร ของบริษัทในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 280% เมื่อเทียบเป็นรายปี และถือว่าสูงสุดเท่าที่เคยมีมา

ในช่วงไตรมาส 3 บริษัทรายงานว่ามียอดการจองที่พักกว่า 79.7 ล้านคืน ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 2 รวมถึงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 80.8 ล้านคืน อย่างไรก็ตาม จำนวนดังกล่าวถือว่าเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 29% ซึ่งช่วงนั้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักจาก COVID-19

ขณะที่รายได้และกำไรของบริษัท นับว่าสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในไตรมาสที่ 3 โดยมีรายได้อยู่ที่ 2.24 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 2.05 พันล้านดอลลาร์ กำไรเพิ่มขึ้น 280% เป็น 834 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบเป็นรายปี โดย Airbnb คาดว่ากำไรในช่วงไตรมาส 4 จะอยู่ระหว่าง 1.39 พันล้านดอลลาร์ถึง 1.48 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของนักวิเคราะห์

อย่างไรก็ตาม Airbnb คาดว่า ตรมาส 4 จะยังคงมีความต้องการการเดินทางท่องเที่ยวที่แข็งแรง และจะลากยาวไปจนถึงปี 2022 ทั้งนี้ Airbnb มองว่าแนวโน้มการฟื้นตัวจาก COVID-19 ยังคงแตกต่างกันไปตามภูมิภาค โดยขึ้นอยู่กับอัตราการฉีดวัคซีนและข้อจำกัดการเดินทางของแต่ละประเทศ เพราะแค่ที่อเมริกาเหนือเพียงประเทศเดียว จำนวนคืนและประสบการณ์ที่จองเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งยังไม่มีการระบาดของ COVID-19

“เมื่อมองไปถึงปี 2022 ความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนและการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างประเทศในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 จะเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการเติบโต”

โจทย์ใหญ่ธุรกิจท่องเที่ยว เปิดประเทศเเต่ขาดลูกค้าชาวจีน เเถมใกล้หมดยุค ‘ทัวร์จีน’ กรุ๊ปใหญ่ 

สำหรับประเทศไทย Airbnb ได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ ไทยเปิดประเทศ รับนักเดินทางจาก 63 ประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นวันแรกพบว่า ยอดค้นหาที่พักในประเทศไทย โดยนักเดินทางต่างประเทศที่จะเข้ามาในช่วง 6 เดือนจากนี้ เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยนักเดินทางได้เลือกเสิร์ชหาที่พักด้วยคำว่า วิลล่า (villa) มาเป็นอันดับแรก

หาดป่าตอง ภูเก็ต ช่วงหลัง COVID-19 ยังมีนักท่องเที่ยวบางตา (Photo : Shutterstock)

โดย ภูเก็ต ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของไทยและเป็นคำค้นหาหลัก ตามมาด้วย กรุงเทพฯ สมุย พัทยา และ เชียงใหม่ ทั้งนี้ จังหวัดที่ใกล้กรุงเทพฯ มีแนวโน้มติดเทรนด์เช่นกัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา Airbnb พบว่า นักเดินทางต่างชาติค้นหาที่พักใน เพชรบุรี เพิ่มขึ้นถึง 80% ในช่วง 6 เดือนจากนี้ รวมถึง พัทยาและหัวหิน ที่มีการค้นหาที่พักเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในช่วงเวลาเดียวกัน

ส่วนนักเดินทางกลุ่มหลักที่ต้องการเดินทางสู่ท่องเที่ยวประเทศไทยที่กำลังค้นหาที่พักบน Airbnb จาก 10 ประเทศหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, เยอรมนี, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เกาหลี, ออสเตรเลีย, แคนาดา, สวีเดน และ สวิตเซอร์แลนด์ และในช่วงสัปดาห์ของวันที่ 18 ตุลาคมที่ผานมา พบว่ามีการค้นหาที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะจากประเทศเยอรมนี เกาหลี ออสเตรเลีย และ สวิตเซอร์แลนด์

Source

]]>
1360549
Standard Chartered มอง ‘ท่องเที่ยวไทย’ ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปีถึงจะฟื้น ฉุดเศรษฐกิจอ่อนเเอ https://positioningmag.com/1355860 Sun, 10 Oct 2021 11:23:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1355860 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย’ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย’ 3 ปีกว่าจะฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดได้ เเม้ว่ารัฐจะเตรียมการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสเเล้วภายในเดือนหน้านี้ก็ตาม

สำนักข่าว Bloomberg รายงานบทวิเคราะห์ของ ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร Standard Chartered ระบุว่า การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย ที่มีสัดส่วนถึง 15% ของ GDP จะเป็นไปอย่างช้าๆ ส่งผลทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน จะยังคงอ่อนแอในช่วง 2 ปีข้างหน้า

เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวลำบาก หากภาคการท่องเที่ยวไม่ดีขึ้น เเละอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนแอลงในช่วงปี 2022-2023”

รัฐบาลไทย วางเเผนจะยกเลิกมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังหลายจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 .. เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์อยู่ร่วมกับโควิด-19 เเทน

เเต่ Standard Chartered มองว่าแผนการเปิดประเทศอาจสะดุดหากสถานการณ์โรคระบาดในไทย มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยลดลงเหลือ 73,932 คน จากจำนวนเกือบ 40 ล้านคนในปี 2019 ที่เคยสร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ไทยยังต้องการนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 6 ล้านคน เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปใน 8 เดือนแรก จนถึงเดือน ส..ของปีนี้ ซึ่งอยู่ที่ 8,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในปีหน้า มีการประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 4 ล้านคนเข้ามา ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เทียบเท่ากับ 1% ของ GDP โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะจับจ่ายใช้สอยราว 1,500 เหรียญสหรัฐ หรือ 50,775 บาทต่อคน ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในไทย

ทิม กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองคือ นักท่องเที่ยวจีนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 28% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดของไทยในปี 2019 “ไม่น่าจะกลับมาเป็นจำนวนมากในเร็วๆ นี้เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางที่เข้มงวด

ส่วนนักท่องเที่ยวอินเดีย ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในเดือนพ.. จากช่วงเทศกาลดิวาลี ก็ยังจะไม่เท่ากับจำนวนของนักท่องเที่ยวจากจีน

ทั้งนี้ เมื่อเดือน ส..ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาไทย เพียงเหลือ 150,000 คนในปีนี้ และ 6 ล้านคนในปี 2022

 

ที่มา : Bloomberg

 

]]>
1355860
ประหยัดไว้ก่อน! Airbnb สำรวจพบคนไทย 65% ตั้งงบ “ท่องเที่ยว” ไม่เกิน 15,000 บาท https://positioningmag.com/1323777 Wed, 17 Mar 2021 09:52:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1323777 Airbnb เปิดผลสำรวจพฤติกรรม “ท่องเที่ยว” ของคนไทยปี 2564 เน้นโปรโมชัน ส่วนลด ราคาเป็นหลัก โดย 65% ตั้งงบท่องเที่ยวต่อทริปไม่เกิน 15,000 บาท ทริประยะสั้นเป็นที่นิยมมากกว่า ต้องการพักไม่เกิน 3 คืนต่อทริป นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ 47% วางแผนเดินทางกับครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้ชิดธรรมชาติ-อากาศดีฮอตสุด คนต้องการไปเยือนมากกว่าเมืองใหญ่

Airbnb ร่วมกับบริษัทวิจัย YouGov สำรวจแนวโน้มการท่องเที่ยวของคนไทย โดยสำรวจเมื่อวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2564 พบพฤติกรรมนักเดินทางชาวไทย ดังนี้

1.ตั้งงบไม่เกิน 15,000 บาท

คนไทย 41% ตั้งงบเดินทางระหว่าง 5,001-15,000 บาทต่อทริป และ 24% ตั้งงบไม่เกิน 5,000 บาทต่อทริป สะท้อนภาพว่าคนไทยส่วนใหญ่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม Airbnb ไฮไลต์ด้วยว่ากลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามอายุเกิน 55 ปีมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากกว่า 50,000 บาทต่อทริป

การตั้งงบประมาณไม่สูงนักสอดคล้องกับปัจจัยการตัดสินใจของคนไทย โดยปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว ได้แก่ 1) โปรโมชันและส่วนลดของที่พัก 2) สถานการณ์ COVID-19 เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อ 3) ค่าเดินทางที่สมเหตุสมผล เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโดยสารรถประจำทาง

2.ทริประยะสั้นไม่เกิน 3 คืน

คนไทยยังต้องการเดินทางระยะสั้น ประมาณ 60% ต้องการเดินทาง 2-3 คืน และกว่า 10% ต้องการเดินทาง 1 คืน

คนไทยต้องการไปเที่ยวทริประยะสั้นไม่เกิน 3 คืน
3.ไปกับครอบครัว

แม้ว่าช่วง COVID-19 จะทำให้คนไทยอยู่กับครอบครัวมากขึ้นอยู่แล้ว แต่ 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามยังตอบว่าตนเองวางแผนท่องเที่ยวกับครอบครัว รองลงมาประมาณ 17% จะเดินทางกับคนรัก ขณะที่กลุ่มคนเดินทางคนเดียวและเดินทางกับกลุ่มเพื่อนมีสัดส่วน 13% เท่าๆ กัน

4.โหยหาธรรมชาติ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 3 อันดับแรกที่คนไทยเลือกคือ 1) ใกล้ชิดธรรมชาติ 2) อากาศดี และ 3) บ้านเพื่อนหรือครอบครัวในต่างจังหวัด โดยจุดหมายปลายทางเมืองใหญ่ในไทยอยู่อันดับท้ายสุด

คนไทย 73% ยังตอบว่าตนมีความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน สอดคล้องกับการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ธรรมชาติ

ที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติยังฮอตสุด (photo : Airbnb)
5.โซเชียลมีเดียสำคัญที่สุด

แรงบันดาลใจสำคัญต่อการท่องเที่ยวของคนไทย อันดับแรกคือ “โซเชียลมีเดีย” มีผู้ตอบแบบสอบถามข้อนี้ถึง 68% รองลงมาคือ ครอบครัวและเพื่อน ตามด้วย บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว เห็นได้ว่าการบอกปากต่อปากมีอิทธิพลสูงกับคนไทย

สำหรับ Airbnb ในช่วงปีที่ผ่านมาต้องปรับตัวกับสถานการณ์ COVID-19 เช่นกัน เนื่องจากการล็อกดาวน์ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้ลำบาก จึงมีการพัฒนาโปรแกรมใหม่ “Online Experiences” ต่อยอดจากโปรแกรม Experiences ที่เคยมี แต่จัดในรูปแบบออนไลน์ทดแทน เป็นช่องทางให้โฮสต์ที่พัก Airbnb หารายได้พยุงตัวไปก่อนในช่วงวิกฤต

]]>
1323777
ข่าวร้ายธุรกิจท่องเที่ยว คนกรุง 54.8% เก็บตัว “อยู่บ้าน” ช่วงปีใหม่ รายได้หายเฉียด 6 พันล้าน https://positioningmag.com/1312310 Mon, 28 Dec 2020 07:54:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312310 ข่าวร้ายธุรกิจท่องเที่ยว COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ ทำให้คนกรุงกว่าครึ่ง ตัดสินใจเก็บตัวอยู่บ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดสูญเสียรายได้ไปกว่า 5,850 ล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยผลสำรวจพบว่า คนกรุงเทพฯ กว่า 54.8% ไม่มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2564 โดยกว่า 40.7% เป็นการยกเลิกหรือเลื่อนแผนการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้า

ขณะที่กลุ่มตัวอย่างราว 30.9% บอกว่า ยังมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัด ซึ่งมีทั้งการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวแบบพักค้างคืนและการเดินทางไปเช้าเย็นกลับ

ปัจจัยหลักๆ ที่ต้องยกเลิกท่องเที่ยวปีใหม่ มาจากการระบาดของ COVID-19 รองลงมาเป็นเหตุผลอื่นๆ เช่น กลุ่มตัวอย่างได้เดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวไปก่อนหน้านี้แล้ว หรืออยากหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ก็มีแผนที่จะท่องเที่ยวหลังปีใหม่ เเละบางส่วนมีปัญหาการเงิน ปัจจัยเศรษฐกิจในครัวเรือน ฯลฯ

โดยการวางแผนการท่องเที่ยว ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวของผู้ตอบแบบสอบถาม

การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ นับเป็นข่าวร้ายต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยที่กำลังอยู่ในระยะของการเริ่มฟื้นตัว ขณะที่แม้ทางการจะออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการระบาดระลอกใหม่ แต่ยังไม่ได้มีข้อจำกัดห้ามเดินทางข้ามจังหวัดก็ตาม

คาดว่าการที่ประชาชนอยู่บ้านในช่วงปีใหม่ จะทำให้เกิดการสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน (ตั้งแต่วันที่ 31 .. 63 – 3 .. 64) คิดเป็นมูลค่าราว 5,850 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่สูญเสียไปประมาณ 58.4% ของรายได้ไทยเที่ยวไทยในช่วงเวลาปกติ 4 วัน ที่ไม่ได้เกิดการระบาดระลอกใหม่

หาดป่าตอง ภูเก็ต ช่วงหลัง COVID-19 ยังมีนักท่องเที่ยวบางตา (Photo : Shutterstock)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงเวลานี้ภาคการท่องเที่ยวคงจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีข่าวการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ส่วนพื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อหรือมีจำนวนผู้ติดเชื้อในอัตราที่ต่ำ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ดังนั้น สิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้ของผู้ประกอบการ คือ การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางต่างๆ ของผู้ประกอบการ อย่างเว็บไซต์ หรือช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อประกอบการตัดสินใจของลูกค้าที่จะมาใช้บริการหรือมีแผนที่จะเดินทางในช่วงนี้ และป้องกันการเกิดข่าวลืออันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังต้องรักษามาตรฐานความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะมาใช้บริการ เเละจะต้องเตรียมแผนรองรับการปรับเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการของภาครัฐที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์การระบาดในระยะนี้

ในกรณีที่ทางการสามารถควบคุมดูแลการระบาดของ COVID-19 ให้อยู่ในวงจำกัด และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในช่วงระยะเวลา 1 เดือนต่อจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาพรวมของตลาดไทยเที่ยวไทยน่าจะทยอยกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 1/64”

 

]]>
1312310
ไทยเที่ยวไทยกันยาวๆ! เปิดผลสำรวจคนไทยอยาก “เที่ยวในประเทศ” จนถึงปี’64 https://positioningmag.com/1289258 Thu, 23 Jul 2020 10:05:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1289258 COVID-19 ไม่อาจห้ามคนไทยไม่ให้ไปเที่ยวได้ เพียงแต่ส่วนใหญ่ต้องการเที่ยวในประเทศแทนเพื่อความปลอดภัย และมองว่าจะยังเที่ยวในประเทศเป็นหลักกันจนถึงปี 2564 รวมถึงเน้นใช้รถยนต์เดินทางเป็นหลัก แต่คนไทยยังชื่นชอบการพักผ่อนในโรงแรมมากกว่าเช่าที่พักส่วนตัว

Europ Assitstance ร่วมกับ IPSOS จัดทำผลสำรวจ “อนาคตการท่องเที่ยว” (Future of Travel) สำรวจระหว่างวันที่ 5-26 มิถุนายน 2563 ทำแบบสอบถามนักท่องเที่ยวใน 11 ประเทศ ประเทศละ 1,000 คน ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย เบลเยียม สเปน อิตาลี โปแลนด์ สหราชอาณาจักร จีน ไทย และสหรัฐอเมริกา

สำหรับ “ประเทศไทย” ข้อมูลที่ผลงานวิจัยนี้ค้นพบมีดังนี้

  • 8 ใน 10 ของคนไทยต้องการเดินทางท่องเที่ยว
  • 75% ต้องการท่องเที่ยวในประเทศในปี 2563
  • 75% ยังคงต้องการท่องเที่ยวในประเทศในปี 2564
  • 36% ของคนไทยเริ่มจองทริปท่องเที่ยวแล้ว
  • ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด โดยวิธีการของคนไทย 86% คือจะหลีกเลี่ยงไปที่ที่มีคนหนาแน่น
  • 74% ของคนไทยจะเลือกเดินทางด้วยรถยนต์
  • 71% เลือกที่พักในโรงแรมหรือรีสอร์ต
  • 70% ของนักท่องเที่ยวไทยระบุว่าจะทำประกันการเดินทาง

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับนักท่องเที่ยวประเทศอื่น ผู้จัดทำการสำรวจพบว่า นักท่องเที่ยวไทยยังเลือกสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศแม้เข้าสู่ปี 2564 แตกต่างจากชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่ตอบว่าจะออกเที่ยวต่างประเทศแล้วในปีหน้า

นอกจากนี้ คนไทยถึง 71% เลือกที่พักเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ต มากกว่าค่าเฉลี่ยรวม 11 ประเทศที่เลือกโรงแรมหรือรีสอร์ต 58% และเลือกเช่าที่พักส่วนตัว (บ้านเช่า/คอนโดฯ) สูงถึง 42%

นักท่องเที่ยวไทยยังมีความห่วงกังวลถึงความปลอดภัยสูงกว่า ด้วย เพราะมีคนไทยที่ต้องการทำประกันการเดินทางสูงถึง 70% ส่วนค่าเฉลี่ยรวม 11 ประเทศตอบว่าจะทำประกันเพียง 54% เท่านั้น

จากผลสำรวจเหล่านี้สะท้อนภาพว่าการท่องเที่ยวและโรงแรมในไทยมีโอกาสสูงมากหากจับกลุ่มคนไทย เน้นนักท่องเที่ยวจังหวัดใกล้เคียงที่ขับรถสะดวก และใช้จุดขายเรื่องความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน น่าจะได้ผลดีที่สุด

]]>
1289258