รัสเซีย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 02 Oct 2024 00:25:07 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 รัสเซีย สั่งปรับ Google และ Discord 3.7 หมื่นดอลลาร์ ฐานไม่ลบคอนเทนต์ที่ผิดกฎหมายของรัสเซีย https://positioningmag.com/1492423 Tue, 01 Oct 2024 14:18:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1492423 เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ รัสเซีย ได้สั่งให้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่างประเทศ ลบเนื้อหาคอนเทนต์ที่เห็นว่าผิดกฎหมายของประเทศรัสเซีย เช่น กฎหมายการดูหมิ่นที่ชัดแจ้งต่อรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และสังคมรัสเซีย หรือ กฎหมายสั่งห้ามส่งต่อข่าวปลอม ซึ่งที่ผ่านมารัสเซียมีการสั่งปรับบริษัทฯ เจ้าของแพลต์ฟอร์มเทคโนโลยีต่างประเทศ อาทิ เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์มาก่อน แต่ปรับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

แต่เนื่องจากมีบางบริษัทฯ อย่าง Google และ Discord แพลตฟอร์มแอปพลิเคชันสนทนา ที่สามารถส่งข้อความ รูปภาพ วิดิโอ เหมือนกับแอปแชททั่วไป ยังคงไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของรัสเซีย ในการลบหรือจํากัดการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ 

ทำให้ศาลแขวง Tagansky ของมอสโก สั่งปรับทั้ง Google และ Discord เป็นจำนวนเงิน 3.5 ล้านรูเบิล (ประมาณ 3.7 หมื่นดอลลาร์) โดยศาลฯ กล่าวว่า Google ถูกปรับเนื่องจากไม่ลบเนื้อหาที่รัสเซียเห็นว่าผิดกฎหมาย ในขณะที่ Discord ถูกลงโทษเนื่องจากไม่จํากัดการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกแบน

ด้านบริษัท Google และ Discord ไม่ได้ตอบกลับคําร้องในทันที โดยเฉพาะกับ Google ที่ปัจจุบันเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากรัสเซีย ทั้งเรื่องเนื้อหาและการปิดกั้นช่อง YouTube ของสื่อรัสเซียและบุคคลสาธารณะนับตั้งแต่การรุกรานยูเครนของมอสโก

ที่มา : Reuters

 



]]>
1492423
ตึงเครียดทั่วโลก! งบ ‘การทหาร’ ทั่วโลกพุ่งทะลุ 2.44 ล้านล้านดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากภาวะสงคราม https://positioningmag.com/1470667 Mon, 22 Apr 2024 12:17:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470667 จากสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ตามด้วยความตึงเครียดแถบตะวันออกกลางของ อิสราเอล กับภัยคุกคาม ทั้งจาก กลุ่มฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ อิหร่าน และในเขตเวสต์แบงก์ ยังไม่รวมความขัดแย้งของ จีน-สหรัฐฯ ที่พลอยทำให้ จีนกับไต้หวันเริ่มตึง ๆ ใส่กัน ดังนั้น การที่งบที่ใช้จ่ายกับการทหารทั่วโลกจะสูงขึ้น จึงไม่ใช่อะไรที่น่าแปลกใจนัก

ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา งบการลงทุนทางทหารทั่วโลกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 2.44 ล้านล้านดอลลาร์ +6.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552 ที่มีรายงานเรื่องแนวโน้มการใช้จ่ายทางทหาร

“การใช้จ่ายทางทหารที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นการตอบสนองโดยตรงต่อการเสื่อมถอยของสันติภาพและความมั่นคงทั่วโลก” หนาน เทียน นักวิจัยอาวุโสในโครงการการใช้จ่ายทางทหารและการผลิตอาวุธของ SIPRI กล่าว

รายงานระบุว่า รายจ่ายทางการทหารเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 9 และรายจ่ายทางการทหารเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจาก สงครามรัสเซีย-ยูเครน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นใน ตะวันออกกลาง

แน่นอนว่ายูเครนและรัสเซียซึ่งอยู่ในภาวะสงครามอย่างแข็งขัน ติดอันดับประเทศที่เพิ่มการใช้จ่ายทางทหารมากที่สุดในปี 2566 อยู่ที่ 51% และ 24% ตามลำดับ โดยค่าใช้จ่ายทางการทหารตามจริงของ รัสเซีย ยังคงสูงกว่ายูเครนอยู่มาก โดยอยู่ที่ประมาณ 109,000 ล้านดอลลาร์ ส่วน ยูเครน อยู่ที่ 64,800 ล้านดอลลาร์

โดย รัสเซีย กลายเป็นรายจ่ายทางการทหารรายใหญ่ อันดับ 3 ของโลก ตามหลัง สหรัฐฯ ที่ใช้จ่าย 916,000 ล้านดอลลาร์ +2.3% และ จีน ใช้จ่าย 296,000 ล้านดอลลาร์ +6% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายของ เยอรมนี และ สหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้น +9% และ +7.9% ตามลำดับ ส่วน อิสราเอล ซึ่งกำลังอยู่ในความขัดแย้งเช่นกัน ใช้จ่าย 27,500 ล้านดอลลาร์ +24%

“ค่าใช้จ่ายทางทหารรายเดือนของอิสราเอลเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มสงครามในฉนวนกาซา”

ในแถบเอเชีย ประเทศอย่าง ไต้หวัน ใช้จ่ายทางทหารที่ 16,600 ล้านดอลลาร์ +11% ซึ่งเป็นยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากไต้หวันก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามจากรัฐบาลจีน ส่วน เกาหลีใต้ ใช้ 47,900 ล้านดอลลาร์ +1.1%

ที่น่าสนใจคือ ญี่ปุ่น ที่ใช้มากถึง 50,200 ล้านดอลลาร์ +11% ซึ่งถือเป็นงบประมาณที่เพิ่มขึ้น มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2515 และยังถือเป็นงบสร้างกองทัพที่มากที่สุดของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

สำหรับ ไทย มีการใช้จ่ายทางทหารอยู่อันดับที่ 38 ของโลก โดยมีงบประมาณอยู่ที่ 5,800 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อนหน้า 6.5%

]]>
1470667
“เกาหลีเหนือ” เริ่มเปิดพรมแดนรับ “นักท่องเที่ยว” กลุ่มแรกจาก “รัสเซีย” หลังปิดประเทศมานาน 4 ปี https://positioningmag.com/1458589 Fri, 12 Jan 2024 03:27:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1458589 กรุ๊ปทัวร์จาก “รัสเซีย” กำลังจะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยือน “เกาหลีเหนือ” นับตั้งแต่มีการปิดพรมแดนเนื่องจากโควิด-19 เมื่อ 4 ปีก่อน

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า “เกาหลีเหนือ” หนึ่งในประเทศที่มีการปิดพรมแดนอย่างแน่นหนาท่ามกลางโควิด-19 ล่าสุดมีข่าวว่าประเทศนี้กำลังจะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกจาก “รัสเซีย” ให้เข้าไปเยือนได้ในที่สุด

ย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้ว่าการเขตการปกครองปริมอร์สกี เขตที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้สุดของประเทศรัสเซียและเป็นเขตที่ติดกับพรมแดนเกาหลีเหนือ ได้เข้าพบปะเยี่ยมเยือนภายในเปียงยางและมีการพูดคุยเพื่อให้เกาหลีเหนือเปิดการท่องเที่ยวกับรัสเซีย นำมาสู่การจัดกรุ๊ปทัวร์กลุ่มแรกในครั้งนี้

เอเจนซีทัวร์แห่งหนึ่งที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองวลาดิวอสตอค เมืองใหญ่ของรัสเซียที่ใกล้เกาหลีเหนือที่สุด เริ่มโฆษณาทัวร์เกาหลีเหนือ 4 วันที่จะออกเดินทางวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ รายละเอียดทัวร์จะมีการท่องเที่ยวในกรุงเปียงยางและพักผ่อนบนสกีรีสอร์ต

ด้าน “ไซ่ม่อน ค็อคเคอเรล” ผู้จัดการทั่วไปของ Koryo Tours เอเจนซีทัวร์จีนจากกรุงปักกิ่ง (ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทัวร์รัสเซีย-เกาหลีเหนือ) กล่าวกับ Reuters ว่า พันธมิตรของบริษัทในเกาหลีเหนือยืนยันมาแล้วว่า ทัวร์จากรัสเซียจะได้รับอนุญาตให้เข้าเกาหลีเหนือได้ภายใต้สถานการณ์พิเศษ

“เป็นสัญญาณที่ดี แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นสัญญาณสำคัญที่นำไปสู่การเปิดพรมแดนให้กว้างขึ้นหรือไม่ เพราะนี่เป็นสถานการณ์พิเศษสำหรับกรุ๊ปทัวร์กรุ๊ปเดียวเท่านั้น” ค็อคเคอเรลกล่าว “แต่จากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยวสักคนได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศเกาหลีเหนือมา 4 ปี ทัวร์ท่องเที่ยวใดๆ ก็ตามที่เข้าไปได้ก็น่าจะถือว่าเป็นความก้าวหน้าเชิงบวก”

ความสัมพันธ์ของเกาหลีเหนือกับรัสเซียดูจะยังแน่นแฟ้น เพราะเมื่อเดือนกันยายน 2023 “คิมจองอึน” ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ได้เข้าพบ “วลาดิเมียร์​ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย ในงานซัมมิทที่จัดขึ้นในภาคตะวันออกของรัสเซีย งานครั้งนั้นทั้งสองผู้นำประเทศได้จับมือเป็นพันธมิตรที่ลึกซึ้งขึ้นทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการทหาร โดยไม่หวั่นต่อการคว่ำบาตรจากประเทศอื่น

ข้อมูลจาก NK News สำนักข่าวในเกาหลีใต้ระบุว่า ก่อนที่จะเกิดโรคระบาดโควิด-19 ขึ้น 1 ปี ประเทศเกาหลีเหนือเริ่มเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจาก “จีน” สูงขึ้นมาก และทำให้ปี 2019 ประเทศนี้มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น 175 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,100 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังเกิดโควิด-19 เกาหลีเหนือเพิ่งต้อนรับชาวจีนเข้าประเทศได้เมื่อเดือนธันวาคม 2023 และออกวีซ่าอนุญาตให้เข้าเฉพาะชาวจีนที่มีวัตถุประสงค์ด้านการทำงานในกลุ่มนักลงทุน ค้าขาย และผู้ชำนาญการด้านการก่อสร้างเท่านั้น ยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามาได้เหมือนเดิม

Source

]]>
1458589
คลื่นลูกค้า “รัสเซีย” ซัดตลาดอสังหาฯ “ภูเก็ต” ใหญ่กว่าเมื่อสิบปีก่อน 2-3 เท่าตัว จากการหนี “ภัยสงคราม” https://positioningmag.com/1445122 Thu, 21 Sep 2023 13:23:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445122
  • “รัสเซีย” เคยเป็นกลุ่มผู้ซื้อต่างชาติกลุ่มใหญ่ในตลาดอสังหาฯ ไทยเมื่อช่วงสิบปีก่อน ก่อนจะหายเงียบไปเพราะวิกฤต “ค่าเงินรูเบิล” เมื่อปี 2557
  • ล่าสุดคลื่นลูกค้าเศรษฐีรัสเซียกลับมาซัดสาดตลาดอสังหาฯ ไทยอีกครั้งใน จ.ภูเก็ต จากวิกฤตสงครามรัสเซียยูเครน ทำให้กลุ่มคนมีเงินเลือกอพยพหนีสงคราม
  • “โบทานิก้า” นักพัฒนาพูลวิลล่าท้องถิ่นในภูเก็ต ประเมินว่าคลื่นรัสเซียรอบนี้จะใหญ่กว่าเมื่อสิบปีก่อน 2-3 เท่าตัว และภูเก็ตถือเป็นปลายทางอันดับ 1 ของเศรษฐีระดับกลางจากรัสเซีย
  • ก่อนหน้านี้ คลื่นลูกแรกของกลุ่มลูกค้าเศรษฐี “รัสเซีย” เคยซัดสาดเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยมาแล้วในช่วงสิบปีก่อน ชาวรัสเซียเริ่มเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในไทยโดยเฉพาะแถบเมืองพัทยาตั้งแต่ปี 2545 แต่มาบูมสุดขีดหลังช่วงปี 2553 เพราะเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่ง ทำให้คนรัสเซียมีเงินถุงเงินถังพอที่จะออกมาซื้อคอนโดฯ ตากอากาศในเมืองไทยได้

    อย่างไรก็ตาม ความฝันของนักพัฒนาคอนโดฯ เพื่อจับตลาดรัสเซียก็ต้องพังทลายหลังปี 2557 รัสเซียเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงถึง 50% ทำให้ผู้ซื้อรัสเซียยอมที่จะทิ้งดาวน์หรือขายดาวน์คอนโดฯ ไทยในราคาขาดทุน หลังจากนั้นผู้ซื้อรัสเซียจึงบางตาลงไปในทศวรรษที่ผ่านมา

     

    “ภูเก็ต” บูมในฐานะแหล่งอพยพหนีสงคราม

    อสังหาฯ ไทยไม่ได้พูดถึงผู้ซื้อรัสเซียบ่อยนักจนกระทั่งเกิดจุดเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อ “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” ปะทุขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทำให้คนรัสเซียหวาดหวั่นต่อภัยสงคราม รวมถึงการถูกเกณฑ์ทหารเพื่อไปร่วมรบ ชาวรัสเซียกลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูงจึงเริ่มหาลู่ทางย้ายออกนอกประเทศ และ “ไทย” คือหนึ่งในปลายทางที่คนรัสเซียนิยมอพยพหนีสงครามมา

    รัสเซีย ภูเก็ต
    อวาดิน่า ฮิลส์ บาย อนันตรา วิลล่าสุดหรูราคาเฉียด 300 ล้านบาท ทำเลหาดลายัน

    ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC ระบุว่า ยอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ โดยผู้ซื้อชาวรัสเซียเมื่อปี 2565 มีการโอนทั้งสิ้น 2,682 ล้านบาท เห็นสัญญาณเพิ่มขึ้นเกือบ 14% จากยอดโอนคอนโดฯ โดยชาวรัสเซียเมื่อปี 2562 (ปีสุดท้ายก่อนเกิดโควิด-19)

    REIC ยังพบด้วยว่า เมื่อปี 2565 จุดหมายที่คนรัสเซียนิยมซื้อคอนโดฯ มากที่สุดคือ “ภูเก็ต” คอนโดฯ ที่ขายให้ชาวต่างชาติบนเกาะภูเก็ตมีถึง 40% ที่ขายให้กับชาวรัสเซีย ต่างจากค่าเฉลี่ยทั้งประเทศที่จะมีสัดส่วนผู้ซื้อรัสเซียเพียง 5%

    ต่อมาช่วงปี 2566 คนรัสเซียยิ่งเร่งเข้ามาจับจองคอนโดฯ ในไทย REIC ระบุว่า แค่เพียงครึ่งปีแรกนี้มีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ให้คนรัสเซียไปแล้ว 2,556 ล้านบาท เป็นไปได้สูงที่ทั้งปี 2566 จะมีการโอนคอนโดฯ ขายให้คนรัสเซียทะลุ 5,000 ล้านบาท

    ปรากฏการณ์นี้ทำให้เมื่อต้นปี 2566 สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Al Jazeera ลงพื้นที่ภูเก็ตสัมภาษณ์เอเย่นต์ขายคอนโดฯ ให้คนรัสเซีย พบว่า ลูกค้ารัสเซียส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะที่ต้องการจะหนีสงครามมาอาศัยอยู่ในภูเก็ตแบบถาวร โดยเลือกภูเก็ตเพราะเป็นเมืองตากอากาศชายทะเล และมีโรงเรียนนานาชาติสำหรับลูกๆ ขณะที่บางคนเดินทางมาแล้วมาหางานทำในเกาะภูเก็ตแบบผิดกฎหมายด้วย เช่น ขับแท็กซี่, ทำอาชีพไกด์นำเที่ยว

     

    “โบทานิก้า” เชื่อคลื่นลูกค้ารัสเซียรอบนี้ใหญ่กว่าเดิม 2-3 เท่า

    นอกจากคอนโดฯ ที่ขายดีแล้ว อีกโปรดักส์ที่เศรษฐีรัสเซียนิยมคือ “วิลล่าตากอากาศ” ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวมีที่ดินจึงซื้อขาดไม่ได้ (ยกเว้นจัดตั้งนิติบุคคลร่วมกับชาวไทย) แต่ชาวรัสเซียยอมรับการเช่าระยะยาวแบบลีสโฮลด์ 30 ปี

    “อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักเซอรี่ ภูเก็ต จำกัด มองว่า กระแสการเข้าซื้ออสังหาฯ ไทยของคนรัสเซียในรอบนี้จะเป็น ‘big wave’ ที่ใหญ่กว่ารอบสิบปีก่อน 2-3 เท่า เนื่องจากภัยสงคราม ‘บีบ’ ให้คนที่มีกำลังทรัพย์ย้ายออก ไม่ใช่แค่หาจุดหมายการลงทุน

    “อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักเซอรี่ ภูเก็ต จำกัด

    โบทานิก้านั้นเป็นบริษัทท้องถิ่นที่พัฒนาอสังหาฯ ขายบนเกาะภูเก็ตมานาน 20 ปี เน้นโปรดักส์กลุ่มวิลล่าระดับบน ราคาตั้งแต่ 7 ล้านบาทจนถึงมากกว่า 100 ล้านบาทต่อหลัง โดยมียอดขายสะสมแล้ว 500 หลัง รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท

    บริษัทนี้ยังเน้นขายวิลล่าให้ชาวต่างชาติ ลูกค้า 95% ของโบทานิก้ามาจากต่างประเทศ และครึ่งหนึ่งเป็นคน “รัสเซีย”

    รัสเซีย ภูเก็ต
    วิลล่าหรูของโบทานิก้าในโครงการมอนท์เอซัวร์

    อรรถสิทธิ์กล่าวว่า ปกติเศรษฐีรัสเซียมีจุดหมายปลายทางของการพักผ่อนหลายแห่งบนโลก แต่แหล่งใหญ่ที่ขณะนี้ต้องตัดออกจากตัวเลือกคือ “ยุโรป” เพราะมีการคว่ำบาตรซึ่งกันและกัน

    ทำให้ตัวเลือกรองๆ ลงมาสำหรับเศรษฐีระดับบนจะเป็นประเทศตุรกีและดูไบ UAE โดยลงทุนซื้อคฤหาสน์ราคา 200-300 ล้านบาทต่อหลัง

    ส่วนประเทศไทยโดยเฉพาะ “ภูเก็ต” นั้นคือตัวเลือกเบอร์ 1 ของเศรษฐีระดับกลางในรัสเซีย ส่วนใหญ่จะนิยมซื้อวิลล่าหลังละ 50 ล้านบาท

    ด้วยความนิยมที่หลั่งไหลเข้ามาขนาดนี้ อรรถสิทธิ์กล่าวว่าดีมานด์ที่พุ่งขึ้นทำให้ราคาที่ดินในภูเก็ตพุ่งตามไป 2-4 เท่าภายในปีเดียว ปัจจุบันราคาที่ดินติดหน้าหาดหรือมองเห็นวิวทะเลขายกันที่ราคาขั้นต่ำ 50-60 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งจะทำให้ราคาโปรดักส์ในภูเก็ตหลังจากนี้ยิ่งถีบตัวสูงขึ้นแน่นอน

    ]]>
    1445122
    ราคา ‘น้ำมันดิบ’ ทำสถิติสูงสุดของปี หลัง ซาอุดีอาระเบีย-รัสเซีย จับมือลดกำลังการผลิตยาวถึงสิ้นปี https://positioningmag.com/1443635 Wed, 06 Sep 2023 07:30:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1443635 ราคาน้ํามันแตะระดับสูงสุดใหม่อีกครั้งสําหรับปีนี้ หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ํามันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกจับมือกันขยายเวลาที่จะ ลดกำลังการผลิตน้ำมัน ยาวถึงสิ้นปีเป็นอย่างน้อย

    ราคา น้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานโลกเพิ่มขึ้น +1.8% โดยมีการซื้อขายสูงกว่า 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมัน West Texas Intermediate (WTI) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกันที่ 87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจาก ซาอุดีอาระเบีย และ รัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกกลุ่ม OPEC+ ตกลงที่จะลดการผลิตลงอย่างมากและลากยาวไปถึงสิ้นปี

    แหล่งข่าวอย่างเป็นทางการจากกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยกับสํานักข่าว state-run SPA ว่า ทางประเทศจะลดกำลังการผลิตเหลือ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม หลังจากที่เคยกำหนดว่าจะลดกำลังการผลิตถึงแค่เดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ นับตั้งแต่ที่ตัดสินใจลดกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเหลือเพียง 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน

    ในขณะเดียวกัน อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า ประเทศจะลดการส่งออกลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน จนถึงสิ้นปี เพื่อรักษาเสถียรภาพและความสมดุลในตลาดน้ำมัน แม้ว่ารัสเซียกําลังพยายามเพิ่มรายได้เพื่อสนับสนุนในการทําสงครามกับยูเครน 

    การลดการผลิตโดย OPEC+ ซึ่งถือเป็น ผู้ผลิตน้ํามันดิบ 40% ของโลก ได้ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งยิ่งส่งผลเสียต่ออัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย โดยราคาก๊าซเฉลี่ยในสหรัฐฯ ได้ลอยสูงขึ้นเป็น 3.81 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ซึ่งสูงกว่าช่วงนี้ของปีที่แล้ว 2-3 เซ็นต์

    Source

    ]]>
    1443635
    หวานหมู “สมาร์ทโฟนจีน” หลังเกิดสงครามยูเครน Xiaomi-Realme แท็กทีมครองตลาด “รัสเซีย” https://positioningmag.com/1427924 Wed, 19 Apr 2023 12:34:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1427924 Xiaomi และ Realme ผงาดขึ้นครองตลาดสมาร์ทโฟนใน “รัสเซีย” แทนที่ Samsung และ Apple หลังเกิดสงครามยูเครนและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

    M. Video-Eldorado Group บริษัทค้าปลีกท้องถิ่นในรัสเซียเปิดข้อมูล แบรนด์สมาร์ทโฟนจากจีนครองมาร์เก็ตแชร์สูงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากแบรนด์ตะวันตกคว่ำบาตรตลาดนี้เนื่องจากเหตุรัสเซียบุกรุกดินแดนยูเครน

    โดยยอดขายสมาร์ทโฟนจีนเติบโตขึ้น 42% ในเชิงปริมาณ และมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 70% รวมถึงมีแบรนด์หลักที่ครองตลาดคือ Xiaomi ปรับขึ้นจากอันดับ 2 มาเป็นเบอร์ 1 ของตลาด ขณะที่ Realme ก็ดีดจากเบอร์ 4 มาเป็นอันดับ 2 ของตลาด

    ในไตรมาสแรกปี 2023 ชาวรัสเซียซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ประมาณ 6.5 ล้านเครื่อง ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ถ้าคิดเป็นมูลค่าต่อเครื่องแล้ว ราคาที่ซื้อตกลง 23% เหลือเฉลี่ยเครื่องละ 22,000 รูเบิล (ประมาณ 9,200 บาท)

    Realme จีน อินเดีย
    Realme ดีดขึ้นจากสมาร์ทโฟนเบอร์ 4 มาเป็นเบอร์ 2 ในตลาดรัสเซีย

    สำหรับสมาร์ทโฟนที่ตกอันดับคือ Samsung ที่เคยเป็นเบอร์ 1 ในรัสเซีย ปัจจุบันลงมาอยู่อันดับ 3 และ Apple ที่เคยอยู่อันดับ 3 ก็ร่วงมาเป็นอันดับ 4 แทน Counterpoint Research รายงานว่า สองแบรนด์ใหญ่นี้เคยมีมาร์เก็ตแชร์รวมกันแตะ 57% แต่เมื่อถอนตัวจากตลาดแล้วทำให้มาร์เก็ตแชร์ลดเหลือ 34%

    ขณะที่อันดับ 5 ปัจจุบันเป็นของแบรนด์ Tecno จากจีน ซึ่งเติบโตได้อย่างรวดเร็วในตลาดรัสเซีย

    หลังจากแบรนด์ใหญ่อย่าง Samsung และ Apple ถอนตัวออกจากรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน ทำให้เหล่า “สมาร์ทโฟนจีน” ได้โอกาสในการตีตลาดเพิ่มขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ที่ทั้งสองแบรนด์ยังคงมียอดขายอยู่แม้จะประกาศถอนตัวจากตลาดไปแล้ว เป็นเพราะรัฐบาลรัสเซียอนุญาติให้มีการนำเข้าได้โดยไม่ผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ ยกตัวอย่างเช่น M. Video-Eldorado Group ก็หันมานำเข้าสมาร์ทโฟน Samsung และ Apple ผ่านทางประเทศคาซัคสถานแทน

    Samsung และ Apple เสียส่วนแบ่งการตลาดในรัสเซีย หลังมาตรการคว่ำบาตร

    ขณะที่จีนก็ยังคงทำการค้ากับรัสเซียตามปกติและยิ่งเพิ่มมูลค่าซื้อขายระหว่างกัน เมื่อปี 2022 การค้าระหว่างจีนกับรัสเซียมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 34.3% ขึ้นไปแตะ 1.89 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และทั้งสองประเทศยังวางเป้าหมายที่จะมีมูลค่าการค้าขายระหว่างกันขึ้นไปแตะ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2024 อีกด้วย

    การดำรงการค้าของเอกชนจีนกับรัสเซียก็มิใช่ว่าจะไม่มีผลกระทบทางลบเสียเลย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสัปดาห์ก่อน หน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชันในยูเครน นำชื่อบริษัท Xiaomi และผู้ก่อตั้ง/ซีอีโอ “เหล่ย จุน” รวมถึงชื่อบริษัท/ผู้บริหารอีกมากมาย ไปไว้ในทำเนียบรายชื่อ “ผู้สนับสนุนสงครามระหว่างประเทศ” ซึ่งทาง Xiaomi ออกมาปฏิเสธแล้วว่าบริษัทไม่ได้สนับสนุนการทำสงครามใดๆ ทั้งสิ้น

    Source

    ]]>
    1427924
    ‘รัสเซีย’ ยกเลิกการเปิดทาง ‘ยูเครน’ ส่งออกธัญพืช อ้างถูกโจมตี https://positioningmag.com/1405952 Sun, 30 Oct 2022 07:12:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1405952 หลังจากในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตัวแทนจากสหประชาชาติ ตุรกี รัสเซีย และยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเปิดท่าเรือยูเครน เพื่อเปิดทางเดินเรือสำหรับส่งออกธัญพืชและอาหารอื่น ๆ เพื่อบรรเทาวิกฤตอาหารโลก แต่ล่าสุด รัสเซียก็ขอยุติข้อตกลงดังกล่าว โดยอ้างว่าถูกยูเครนโจมตีหนัก

    สำหรับโครงการ Black Sea Grain Initiative เป็นข้อตกลงที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติในเดือนกรกฎาคม ที่ขอให้รัสเซียผ่อนคลายการปิดล้อมทางทะเล และเห็นการเปิดท่าเรือสำคัญ 3 แห่งของยูเครนอีกครั้ง โดยเรือลำแรกออกจากท่าเรือโอเดสซาของยูเครนเมื่อวันที่ 1 ส.ค. พร้อมบรรทุกข้าวโพดมากกว่า 26,000 เมตริกตัน ตั้งแต่นั้นมา เรือเกือบ 400 ลำที่บรรทุกน้ำหนักรวม 9 ล้านตันได้ออกจากท่าเรือของยูเครน

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุด รัสเซียระงับข้อตกลงในโครงการดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด โดยทางกระทรวงกลาโหมของรัสเซียอ้างว่า นี่เป็นการตอบโต้ การก่อการร้าย ของยูเครนต่อเรือรบรัสเซีย แถมอังกฤษยังมีส่วนด้วย

    “กองกำลังติดอาวุธของยูเครนเปิดการโจมตีทางอากาศและทางทะเลครั้งใหญ่โดยใช้ยานบินไร้คนขับกับเรือ โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของกองเรือทะเลดำที่ฐานทัพเรือในเซวาสโทพอล โดยมีเจ้าหน้าที่อังกฤษได้ช่วยเหลือกองทัพของยูเครนในการโจมตีก่อน โดยพบว่ามีโดรนอย่างน้อย 15 ลำที่เกี่ยวข้อง”

    ทางด้าน Dmytro Kuleba รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า รัสเซียกำลังใช้การโจมตีดังกล่าวเป็นข้ออ้างสำหรับการปิดกั้นการส่งออกสินค้าทางการเกษตร ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงด้านอาหารสำหรับผู้คนหลายล้านคน

    ที่ผ่านมา ยูเครนและรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของการส่งออกธัญพืชทั่วโลก จนกระทั่งการขนส่งเหล่านั้นต้องหยุดชะงักลงอย่างรุนแรงเป็นเวลาเกือบ 6 เดือนเนื่องจากสงคราม โดยยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันดอกทานตะวัน และเมล็ดพืชอันดับต้น ๆ ของโลก และเป็นผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่อันดับ 7 ของโลกอีกด้วย

    ]]>
    1405952
    ยังไม่หมด? ‘Sony’ ถอนตัวจาก ‘ธุรกิจเพลง’ ในรัสเซีย พร้อมโอนศิลปินให้ค่ายเพลงท้องถิ่น https://positioningmag.com/1400027 Tue, 13 Sep 2022 10:47:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1400027 นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ ‘รัสเซีย’ เปิดฉากรุกราน ‘ยูเครน’ ปัจจุบันก็ยืดเยื้อนานกว่า 6 เดือนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าการคว่ำบาตรของแบรนด์ต่าง ๆ ที่ทำธุรกิจในรัสเซียจะถอนตัวออกไม่หมด แม้ว่าที่ผ่านมาจากมีมากกว่า 400 บริษัท ล่าสุด ‘โซนี่’ (Sony) บริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นก็ถอนตัวจากธุรกิจเพลงในรัสเซีย

    ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Sony Group Corp ยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์และความบันเทิงของญี่ปุ่น ได้ระงับการจำหน่ายเครื่องเกม Play Station 5 (Ps5) พร้อมกับปิด PlayStation Store ของประเทศรัสเซีย รวมถึง ระงับการฉายภาพยนตร์ จากค่ายด้วย แต่ดูเหมือนว่าหน่วยธุรกิจที่เยอะเลยทำให้โซนี่ยังถอนตัวออกไม่หมด

    ล่าสุด บริษัทก็ได้ถอนตัวจาก ธุรกิจเพลง ในรัสเซีย โดยแหล่งข่าวให้สาเหตุว่ามาจาก ผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากการรุกรานยูเครนของประเทศ ทำให้การดำเนินงานต่อเนื่องที่นั่นไม่สามารถดำเนินงานต่อได้ โดยโซนี่ได้ขายหน่วยธุรกิจเพลงของรัสเซียและ โอนศิลปิน ที่เซ็นสัญญาให้กับค่ายเพลงโลคอล

    อย่างไรก็ตาม ทางโซนี่ไม่ได้ออกมาเปิดเผยถึงมูลค่าและรายละเอียดอื่น ๆ ของธุรกรรมดังกล่าว แต่หากอ้างอิงจากตัวเลขการรายงานรายได้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รายได้จากประเทศรัสเซียและยูเครนคิดเป็นเพียง 0.7% ของรายได้ทั่วโลกของบริษัทเท่านั้น ดังนั้น การถอนตัวออกจากรัสเซียจึงไม่ได้ส่งผลต่อรายได้อย่างมีนัยสำคัญ

    Source

    ]]>
    1400027
    “รัสเซีย” รอดพ้นภาวะเศรษฐกิจโคม่ามาได้ …แต่เลือดก็ยังไม่หยุดไหลในระยะยาว https://positioningmag.com/1397972 Sun, 28 Aug 2022 15:56:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1397972 “รัสเซีย” เปิดฉากรุกทางการทหารเข้าสู่ยูเครน ทำให้ถูกชาติตะวันตกร่วมกันคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ 6 เดือนหลังจากนั้นเศรษฐกิจรัสเซียซึ่งพึ่งพิงการส่งออก “น้ำมัน” เป็นหลัก พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถยืนหยัดรับมือการคว่ำบาตร รอดพ้นภาวะเศรษฐกิจพังพินาศมาได้ แต่ในระยะยาวเศรษฐกิจรัสเซียก็อาจหนีไม่พ้นภาวะถดถอยอยู่ดี

    “ผมขับรถผ่านกลางกรุงมอสโควก็ยังเจอรถติดเหมือนเดิม” อังเดรย์ เนชาเยฟ อดีตรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของรัสเซีย ช่วงต้นทศวรรษ 1990s กล่าวกับสำนักข่าว CNN

    ตลาดจีนและอินเดียที่พร้อมรับซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียนั้นช่วยเศรษฐกิจประเทศนี้ไว้ได้มาก แต่ทั้งเนชาเยฟและนักวิเคราะห์อื่นๆ ต่างก็มองว่าเศรษฐกิจรัสเซียเริ่มถดถอยแล้ว และเป็นไปได้ว่าจะเกิดภาวะ ‘stagnation’ ในระยะยาว

    ภาพภายนอกดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยน เชลฟ์ขายสินค้าในห้างสรรพสินค้าอาจจะมีแบรนด์ตะวันตกให้เลือกน้อยลง McDonald’s อาจจะเปลี่ยนชื่อเป็น “Vkusno i tochka” และ Starbucks ก็กลับมาเปิดใหม่ในชื่อ Stars Coffee

    ธุรกิจตะวันตกที่ถอนตัวออกไป การคว่ำบาตรสินค้ากลุ่มน้ำมันและทำลายระบบการเงิน มีผลกระทบกับรัสเซียแน่นอน แต่ไม่ได้มากเท่าที่ใครต่อใครคาดไว้

    เนชาเยฟซึ่งเคยพาเศรษฐกิจรัสเซียฝ่าฟันช่วงที่ตกต่ำที่สุดมาแล้ว มองว่าหัวเรือที่ช่วยให้รัสเซียรอดพ้นได้มากที่สุดคือ ธนาคารกลาง

    สกุลเงินรูเบิลร่วงชะลูดสู่จุดต่ำสุดเมื่อต้นปีนี้หลังจากตะวันตกแช่แข็งเงินทุนสำรองของรัสเซียมูลค่า 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่สุดท้ายแล้วเงินรูเบิลก็สามารถเด้งคืนกลับมาแข็งค่าได้ และแข็งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018

    สาเหตุมาจากการแก้เกมของธนาคารกลางในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยลงจนต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดสงครามแล้ว ธนาคารกลางยังบอกด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อที่เคยขึ้นไปสูงสุดเกือบ 18% เมื่อเดือนเมษายน ปัจจุบันก็ชะลอลงและน่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีนี้ลดเหลือ 12-15% เท่านั้น

    ธนาคารกลางยังปรับคาดการณ์จีดีพีของปีนี้ด้วย โดยคาดว่าจะหดตัว 4-6% เป็นสถานการณ์ที่ดีขึ้นจากเมื่อเดือนเมษายนที่คาดว่าทั้งปีจะหดตัว 8-10% ขณะที่ IMF ก็คาดว่าเศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัวประมาณ 6% เท่านั้น

     

    รัสเซียเตรียมตัวรับแรงกระแทกมานานแล้ว

    เหตุที่รัฐบาลมอสโควยังรับมือได้ดี เป็นเพราะรัสเซียมีเวลารับมือถึง 8 ปี หลังจากตะวันตกเริ่มมีการคว่ำบาตรบ้างแล้วนับตั้งแต่รัสเซียบุกเข้าสู่ไครเมียเมื่อปี 2014

    “การออกจากตลาดของ Mastercard และ Visa แทบไม่มีผลอะไรกับการชำระเงินในประเทศ เพราะธนาคารกลางมีระบบชำระเงินทางเลือกเตรียมไว้อยู่แล้ว” เนชาเยฟกล่าว โดยรัสเซียเริ่มตั้งระบบบัตรเครดิต Mir ไว้ตั้งแต่ปี 2017

    ส่วนเหตุผลที่ McDonald และ Starbucks ยังดำเนินธุรกิจต่อได้แม้จะต้องเปลี่ยนชื่อแบรนด์ “คริส วีเฟอร์” หุ้นส่วนผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจข้ามชาติ Macro Advisory กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2014 แบรนด์ตะวันตกจำนวนมากต้องทำตามแรงกดดันจากรัฐบาลที่ต้องการให้ใช้ซัพพลายเชนในประเทศมากขึ้น ดังนั้น เมื่อบริษัทถอนตัวออกไป แต่แฟรนไชซีในรัสเซียก็เพียงแต่ซื้อวัตถุดิบจากบริษัทเจ้าเดิม แค่เปลี่ยนหีบห่อแพ็กเกจจิ้งเท่านั้น

    “คนเดิม สินค้าเดิม ซัพพลายเดิม” วีเฟอร์กล่าวให้เห็นภาพ

    แต่ก็ไม่ได้ราบรื่นไปเสียทุกเรื่องเหมือนกัน ตัวอย่างเช่นเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา McDonald ภายใต้แบรนด์ใหม่ก็ต้องเผชิญปัญหามันฝรั่งในรัสเซียขาดแคลน และไม่สามารถหามันฝรั่งจากที่อื่นมาเสริมได้เพราะการคว่ำบาตร

     

    “น้ำมัน” รัสเซียจะยังขายดีต่อไปไหม?

    อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจรัสเซียจะเสถียรแค่ไหนขึ้นอยู่กับธุรกิจ “พลังงาน” ธุรกิจที่ส่งรายได้ให้กับรัฐบาลมากที่สุด และราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นคือฉนวนป้องกันให้กับรัสเซีย

    International Energy Agency ระบุว่า รายได้การขายน้ำมันและก๊าซให้กับยุโรประหว่างเดือนมีนาคม-กรกฎาคมปีนี้กลับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเทียบกับปีก่อน ทั้งที่การส่งก๊าซให้กับยุโรปลดลง 75% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา

    Oil pump cold winter and snow. Back light, white cloudy and blue sky background, sunlight

    ส่วนน้ำมันที่เหลือขายวันละ 3 ล้านบาร์เรลนั้นก็ถูกส่งออกไปที่ตลาดใหม่ในเอเชียแทน Kpler บริษัทที่ปรึกษาด้านสินค้าโภคภัณฑ์ ระบุว่า น้ำมันที่ส่งออกทางทะเลส่วนใหญ่ของรัสเซียนั้นถูกส่งไปเอเชียแทนตั้งแต่เริ่มมีสงคราม

    ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคมปีนี้ “จีน” นำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียเพิ่มขึ้นถึง 40% และมีการเพิ่มการนำเข้าก๊าซธรรมชาติด้วย แม้ว่าจีนจะพยายามทำตัวเป็นกลางในสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ตาม ส่วน “อินเดีย” นั้นนำเข้าน้ำมันรัสเซียเพิ่มถึง 1,700% ทั้งหมดนี้เป็นเพราะรัสเซียลดราคาน้ำมันอย่างหนัก

    แต่จุดที่น่าสนใจคือเมื่อยุโรปตัดการซื้อน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก จะทำให้น้ำมันรัสเซียมีซัพพลายเหลืออีกวันละ 2 ล้านบาร์เรล ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าส่วนใหญ่น้ำมันนั้นจะถูกขายให้ตลาดเอเชีย แต่ดีมานด์จะมากพอที่จะดูดซับน้ำมันรัสเซียทั้งหมดหรือไม่ Kpler ประเมินว่าจีนคงจะไม่ซื้อเพิ่มอีกเพราะเศรษฐกิจในประเทศก็เริ่มชะลอลง

    “ราคา” ก็จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ขณะนี้รัสเซียส่งออกน้ำมันได้ไม่ยากเพราะลดราคาได้มาก ทำให้ตลาดใหม่ๆ สนใจซื้อ

    “การลดราคา 30% จากราคา 120 เหรียญต่อบาร์เรลนั้นก็เรื่องหนึ่ง” อดีตรัฐมนตรีเนชาเยฟชี้ให้เห็นจุดต่าง “แต่การลดราคาจากราคาตั้ง 70 เหรียญต่อบาร์เรลจะเป็นหนังคนละม้วนเลย”

     

    “เศรษฐกิจรัสเซีย” จะถูกกัดกินอย่างช้าๆ

    แม้ว่าเงินเฟ้อทั่วโลกจะเป็นผลดีกับภาคพลังงานของรัสเซีย แต่มันก็สร้างความเดือดร้อนให้คนรัสเซียเองด้วย เหมือนๆ กับที่เกิดขึ้นในยุโรป ชาวรัสเซียต่างต้องทนทุกข์กับวิกฤตค่าครองชีพ

    “ถ้าเราเทียบมาตรฐานการครองชีพ ถ้าวัดกันด้วยรายได้ที่ได้รับจริงๆ ละก็ ตอนนี้เราเหมือนกับเดินถอยหลังไปประมาณ 10 ปี” เนชาเยฟกล่าว

    (Photo : Shutterstock)

    รัฐบาลรัสเซียพยายามจะแก้สถานการณ์ด้วยการใช้เงินคลังต่อสู้ เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลประกาศจะเพิ่มเงินบำนาญและเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอีก 10%

    รัฐบาลยังมีระบบที่ทำให้ลูกจ้างในบริษัทซึ่ง “จำต้องหยุดการดำเนินกิจการชั่วคราว” สามารถโอนย้ายไปอยู่กับบริษัทอื่นได้โดยไม่ต้องลาออกหรือฉีกสัญญาทำงานกับที่ทำงานเก่า รวมถึงรัฐบาลยังใช้เงิน 1.7 หมื่นล้านรูเบิล เพื่อซื้อหุ้นกู้ของสายการบินรัสเซียต่างๆ เป็นการพยุงภาวะวิกฤตของสายการบินจากการถูกแบนห้ามบินผ่านนานฟ้า และการคว่ำบาตรไม่ให้ซื้ออะไหล่ซ่อมเครื่องบินจากโรงงานผลิตในต่างประเทศ

    อย่างไรก็ตาม จุดที่หนักที่สุดที่คาดว่าจะซึมลึกในเศรษฐกิจระยะยาว คือการคว่ำบาตรทางเทคโนโลยี เมื่อเดือนมิถุนายน “จีน่า ไรมอนโด” รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ บอกว่าการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไปให้รัสเซียร่วงลง 90% ตั้งแต่เกิดสงคราม ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องต่อการผลิตรถยนต์จนถึงคอมพิวเตอร์ ทำให้รัสเซียเสียความสามารถในการแข่งขันทางเทคโนโลยีลงไปอีก

    “ผลกระทบจากการคว่ำบาตรจะเป็นผลซึมลึกมากกว่าการพังทลายครั้งเดียว” วีเฟอร์ ที่ปรึกษาทางธุรกิจกล่าว “รัสเซียมองเห็นแล้วด้วยว่า เป็นไปได้ที่ประเทศจะต้องเจอภาวะ stagnation”

    เนชาเยฟยิ่งฟันธงลงไปมากกว่านั้นอีก “ขณะนี้เศรษฐกิจรัสเซียเริ่มต้นถดถอยแล้ว” เขากล่าวปิดท้าย

    Source

    ]]>
    1397972
    รัสเซียผุด ‘Stars Coffee’ เสียบแทน ‘Starbucks’ ที่ถอนตัวออกจากประเทศ https://positioningmag.com/1396919 Fri, 19 Aug 2022 07:47:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1396919 ย้อนไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แบรนด์กาแฟรายใหญ่ของโลกอย่าง สตาร์บัคส์ (Starbucks) ได้ประกาศถอนตัวออกจาก รัสเซีย โดยปิดหน้าร้านทั้งหมด 130 สาขา เนื่องจากต้องการแสดงจุดยืนให้เห็นว่าไม่สนับสนุนการบุกยูเครนของรัสเซีย

    เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมที่สตาร์บัคส์ได้ส่งสัญญาณว่าจะยุติการทำธุรกิจในรัสเซีย โดยเริ่มยุติการขนส่งผลิตภัณฑ์ของสตาร์บัคส์ทั้งหมดมายังรัสเซีย เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่สนับสนุนการโจมตียูเครน จนมาช่วงปลายเดือนพฤษภาคมสตาร์บัคส์ก็ได้ปิดหน้าร้านทั้ง 130 สาขา พร้อมกับจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานในรัสเซียนาน 6 เดือน

    เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนที่สตาร์บัคส์จากไป ล่าสุด ก็มีแบรนด์กาแฟใหม่เข้ามาแทนที่สตาร์บัคส์ภายใต้ชื่อ Stars Coffee (สตาร์คอฟฟี่) ซึ่งเรียกได้ว่าคล้ายตั้งแต่ชื่อยันโลโก้ ที่เรียกได้ว่าอาจเป็น ฝาแฝด ของนางเงือกสตาร์บัคส์ โดยมีผมที่พลิ้วไหว รอยยิ้มลึกลับเล็ก ๆ และดาวบนหัว ขณะที่เมนูต่าง ๆ ที่มีก็ต่างคุ้นตาแฟนสตาร์บัคส์

    สำหรับแบรนด์ Stars Coffee เกิดจาก Yunus Yusupov ศิลปินแร็ปยอดนิยมที่ใช้ชื่อในวงการว่า Timati และเจ้าของภัตตาคาร Anton Pinsky ได้ร่วมมือกันซื้อทรัพย์สินของสตาร์บัคส์ จากนั้นก็ออกแบบชื่อและโลโก้ร้านให้ ใกล้เคียงเดิม โดยพวกเขาระบุว่าจะ เปิดร้านสตาร์บัคส์เดิมทั้งหมด (130 สาขา) อีกครั้งภายใต้อัตลักษณ์ใหม่ (Stars Coffee)

    (AP Photo/Dmitry Serebryakov)

    “ตอนนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจยากลำบาก แต่นี่เป็นช่วงเวลาแห่งโอกาส” Oleg Eskindarov ประธานบริษัทโฮลดิ้งที่ร่วมมือในข้อตกลงของสตาร์บัคส์กล่าว

    แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ Stars Coffee ที่เข้ามาแทนที่แบรนด์ดังที่ถอนตัวออกจากรัสเซียไป แต่ก่อนหน้านี้ก็มี Vkusno — i Tochka ที่มาแทนที่แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่าง McDonald’s ซึ่งการจากไปของบริษัทเหล่านี้ส่งผลทางจิตวิทยาต่อชาวรัสเซียที่เคยชินกับความสะดวกสบายของวัฒนธรรมผู้บริโภคแบบตะวันตก ทำให้ผู้ประกอบการชาวรัสเซียมองเห็นโอกาสในร้านค้าหายไป โดยการเปิดร้านใหม่ที่ คล้ายกัน มาแทนที่

    Source

    ]]>
    1396919