อาลีบาบา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 31 May 2024 05:35:32 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Pinduoduo กลายเป็นบริษัท E-commerce ใหญ่สุดในจีน แซงหน้า Alibaba ที่ครองแชมป์มาอย่างยาวนาน https://positioningmag.com/1475917 Fri, 31 May 2024 02:43:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1475917 พินตัวตัว (Pinduoduo) กลายเป็นบริษัท E-commerce รายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยแซงหน้าแชมป์เก่าอย่างอาลีบาบา (Alibaba) ลงมาได้ ขณะเดียวกันศึกดังกล่าวระหว่างผู้เล่นจากจีนนั้นไม่ใช่แค่ศึกภายในประเทศเท่านั้น แต่ศึกนอกประเทศจีนเองก็ถือว่าน่าติดตามไม่น้อย

Pinduoduo ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่น E-commerce ในประเทศจีน ล่าสุดขนาดบริษัทสามารถที่จะแซงหน้ายักษ์ใหญ่ที่ครองแชมป์มานานอย่าง Alibaba ลงได้ ขณะเดียวกันการแข่งขันดังกล่าวของบริษัทเทคโนโลยีจีนนั้นอาจไม่ใช่แค่ศึกภายในประเทศ แต่ยังรวมถึงศึกนอกประเทศด้วย

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ Pinduoduo มีขนาดบริษัทใหญ่กว่า Alibaba ไปแล้วคือ กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศจีนและนอกประเทศจีน ซึ่งในประเทศจีน Pinduoduo ใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง เช่น การใช้โมเดลให้ลูกค้าร่วมกันสั่งของเป็นปริมาณมาก และเน้นขายสินค้าราคาถูก เป็นต้น

ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ E-commerce คู่แข่งในประเทศจีนหลายรายที่เคยเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็น Alibaba หรือแม้แต่ JD.com ถึงกับนั่งไม่ติด

ขณะที่กลยุทธ์นอกประเทศจีน Pinduoduo ได้ส่ง Temu ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันลูกของทางบริษัทไปตีตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก โดยการส่งธุรกิจไปตีตลาดต่างประเทศนั้นเมื่อเทียบกับ Alibaba แล้วถือว่าใช้เวลานานกว่ามาก แต่กลับประสบความสำเร็จเนื่องจากกลยุทธ์ของบริษัทคือเน้นขายสินค้าราคาถูก

ขณะเดียวกัน Pinduoduo เองก็มีแผนการขยายธุรกิจ Temu ไปยังหลายประเทศ และอาเซียนเองก็เป็นอีกหมุดหมายหนึ่งของบริษัทในการตีตลาดของบริษัทเช่นกัน

ตัวเลขล่าสุด (30 พฤษภาคม) จาก Bloomberg นั้น Pinduoduo มีขนาดบริษัท 210,079 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 7.72 ล้านล้านบาท สามารถที่จะโค่นแชมป์เก่าอย่าง Alibaba ที่มีขนาดบริษัทเพียงแค่ 191,182 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 7.03 ล้านล้านบาท ได้ในที่สุด

Temu ถือเป็นแพลตฟอร์มสำคัญของบริษัทในการเจาะตลาดนอกประเทศจีนของ Pinduoduo – ภาพจาก Shutterstock

มาดูทางฝั่งของ Alibaba นั้น บริษัทกลับประสบปัญหานับตั้งแต่การเข้ามาปราบปรามบริษัทเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน สิ่งที่บริษัทโดนทั้งข้อหามีพฤติกรรมผูกขาด จนทำให้บางกรณีบริษัทต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินจำนวนมหาศาล จนทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ทั้งหมด

ขณะเดียวกัน Alibaba เองก็ยังประสบกับความท้าทายไม่ว่าจะเป็นความพยายามที่จะต้องดึงลูกค้ากลับมา เนื่องจากการแข่งขันในแพลตฟอร์ม E-commerce ในจีนที่ดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นกับ Pinduoduo เอง หรือแม้แต่คู่แข่งรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น JD.com หรือแม้แต่ Douyin

ไม่เพียงเท่านี้ธุรกิจต่างประเทศของ Alibaba เอง เช่น Lazada หรือ Aliexpress เองก็ต้องสู้กับคู่แข่งทั้งจากในจีนอย่าง Temu ของ Pinduoduo หรือแม้แต่ TikTok Shop รวมถึงผู้เล่นอย่าง Shopee หรือ E-commerce ที่เป็นผู้เล่นภายในประเทศ

จากจุดเริ่มต้นดังกล่าวทำให้บริษัทมีแผนต้องปรับกลยุทธ์ภายในไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน CEO คนใหม่ หรือแม้แต่การแยกธุรกิจออกมาเป็น 6 หน่วยธุรกิจ เพื่อที่จะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับหน่วยงานกำกับดูแล ไปจนถึงการปลดล็อกมูลค่าบริษัทให้กับผู้ถือหุ้นเนื่องจากราคาหุ้นที่ตกลงมาเป็นเวลาหลายปี แม้แต่ผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง แจ็ก หม่า เองก็สนับสนุนแผนการดังกล่าว

ในท้ายที่สุดแล้วศึกระหว่าง Pinduoduo กับ Alibaba ย่อมไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน เพราะมีทั้งศึกภายในประเทศจีน หรือแม้แต่นอกประเทศจีน ซึ่งต่างฝ่ายต้องการที่จะทำให้บริษัทเติบโตเพิ่มมากขึ้น ภายใต้ความท้าทายทั้งในและนอกประเทศ

]]>
1475917
‘อาลีบาบา’ เตรียมทุ่ม 2.6 พันล้านลงทุนใน ‘Ably’ อีคอมเมิร์ซสายแฟชั่นของเกาหลีใต้ https://positioningmag.com/1470875 Wed, 24 Apr 2024 06:33:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470875 ตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกตอนนี้กำลังถูกยึดครองโดยจีนไปแล้ว เพราะมีผู้เล่นเบอร์ใหญ่หลายราย ไม่ว่าจะเป็นอาลีบาบา, TikTok และ Temu ที่กระจายตัวไปเป็นผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซในหลาย ๆ ประเทศ ล่าสุด อาลีบาบาก็เตรียมลงทุนในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้ เพื่อเปิดทางในการรุกตลาดเกาหลีใต้

ตามรายงานโดยหนังสือพิมพ์ The Korea Economic Daily เปิดเผยว่า อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง กําลังจับตามองการลงทุน ครั้งแรกในภาคอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ โดยกำลังเจรจาเพื่อลงทุน 72.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อหุ้น 5% ใน Ably Corp แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสินค้าแฟชั่นหญิงของเกาหลีใต้

โดยการลงทุนดังกล่าวหากประสบความสำเร็จ จะช่วยให้อาลีบาบาสามารถตั้งหลักในตลาดเกาหลีใต้ได้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ทั้ง AliExpress, Shein และ Temu กำลังแข่งขันกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ของเกาหลีใต้อย่าง Gmarket และ Coupang

นอกจากนี้ อาลีบาบากำลังเผชิญกับการแข่งขันในตลาดโลกจากแพลตฟอร์มเพื่อนร่วมชาติ ทั้ง Shein และ PDD Holdings’ Temu ซึ่ง Ably จะเข้ามาช่วยเสริมกับกลยุทธ์ของ AliExpress ที่เพิ่งเปิดตัวช่องทางสำหรับขายเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงโดยเฉพาะ

Ably ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 ปัจจุบัน แพลตฟอร์มมีมูลค่ามากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และเติบโตจนมีจำนวนผู้ใช้มากที่สุดในแพลตฟอร์มแฟชั่นออนไลน์ของเกาหลีใต้ โดยมีผู้ใช้กว่า 8.05 ล้านคน ในเดือนมีนาคม อีกทั้ง Ably ยังเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแฟชั่นเพียงรายเดียวที่ทํากําไรได้ในปีที่แล้ว

สำหรับข่าวการเจรจา AliExpress-Ably เกิดขึ้นหลายสัปดาห์หลังจากมีข่าวลือว่าอาลีบาบากําลังวางแผนการลงทุนประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์ในเกาหลีใต้ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยอาลีบาบาจะใช้เงิน 200 ล้านดอลลาร์ในปีนี้เพื่อสร้างศูนย์โลจิสติกส์และ 100 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางในการขายสินค้าของตนในต่างประเทศ นอกจากนี้ อาลีบาบาจะลงทุนอีก 72.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อปรับปรุงการคุ้มครองผู้บริโภค

ปัจจุบัน สินค้าจีนได้รับความสนใจจากนักช้อปชาวเกาหลีใต้ โดยปีที่แล้วการบริโภคออนไลน์เพิ่มขึ้น 121% เป็น 3.3 ล้านล้านวอนจากปีก่อนหน้า ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการซื้อ e-commerce ในต่างประเทศทั้งหมดของประเทศ

Source

]]>
1470875
Jack Ma สนับสนุนแผนปรับโครงสร้างองค์กร มองว่า AI ยังเป็นยุคเริ่มต้น แนะพนักงาน Alibaba เปิดใจรับความเปลี่ยนแปลง https://positioningmag.com/1469760 Wed, 10 Apr 2024 09:46:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469760 แจ็ก หม่า (Jack Ma) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Alibaba คนสำคัญ ได้ส่งข้อความภายในบริษัทให้กับพนักงาน ในช่วงการจัดการเสวนาภายในบริษัท โดยเขาสนับสนุนในเรื่องการปรับโครงสร้างองค์กร และชี้ว่าประสิทธิภาพต้องมาก่อน นอกจากนี้เขายังมองว่าการเข้ามาของ AI ยังเป็นยุคเริ่มต้น

Jack Ma หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Alibaba คนสำคัญ ได้ส่งข้อความภายในบริษัทให้กับพนักงาน ในช่วงการจัดการเสวนาภายในบริษัท โดยจดหมายดังกล่าวนั้นจุดประสงค์นั้นเพื่อที่จะเสริมสร้างกำลังใจในหมู่พนักงาน นอกจากนี้ในจดหมายดังกล่าวยังสนับสนุนในแผนการปรับโครงสร้างองค์กร โดยชี้เรื่องของประสิทธิภาพ

การจัดการเสวนาภายในบริษัทของ Alibaba เกิดขึ้นหลังจากบริษัทประกาศแยกธุรกิจออกมาเป็น 6 หน่วยธุรกิจ ซึ่งระยะเวลานั้นครบรอบ 1 ปี

สำหรับแผนในการปรับโครงสร้างองค์กรนั้น Jack Ma ได้ชี้ว่า “เราเปลี่ยนบริษัทจากองค์กรที่ยุ่งยากให้กลายเป็นองค์กรที่เรียบง่ายและคล่องตัว โดยที่ประสิทธิภาพต้องมาก่อน” และมองว่าบริษัทได้แก้ปัญหาขององค์กรได้

เขายังกล่าวเสริมว่าบริษัทได้ทำผิดพลาดมาตลอด 25 ปี และจะมีความผิดพลาดอีก 77 ปี ภายในระยะเวลา 300 ปี แต่เขายังได้แนะนำพนักงานของ Alibaba ว่าการเผชิญปัญหาไม่ใช่การปฏิเสธอดีต แต่เพื่อค้นหาหนทางที่รับผิดชอบต่ออนาคต

ขณะเดียวกันการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) นั้น Jack Ma มองว่าจะทำให้อุตสาหกรรม E-commerce ในปัจจุบันเกิดความพลิกผัน แต่เขาเองมองว่าการเข้ามาของ AI ยังอยู่ในยุคเริ่มต้นเท่านั้น เปรียบได้กับยุค Internet ช่วงแรกๆ

ในปี 2019 นั้น Jack Ma ได้ประกาศวางมือจาก Alibaba อย่างไรก็ดีในช่วงปลายปี 2020 เขาได้กล่าวพาดพิงถึงหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีน จนเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาปราบปรามธุรกิจเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน มหาเศรษฐีรายนี้ได้เก็บตัวเงียบและพยายามทำตัวไม่เป็นข่าวมากนัก

ซึ่งผลกระทบจากการเข้ามาปราบปรามธุรกิจเทคโนโลยีของรัฐบาลจีนได้ทำให้มูลค่าบริษัทเทคโนโลยีในจีนหายไปอย่างมาก ซึ่งรวมถึง Alibaba ด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงบริษัทยังโดนค่าปรับจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีนในกรณีที่บริษัทมีพฤติกรรมผูกขาดตลาด รวมถึงคดีความล่าสุดกับ JD.com นั้นก็ต้องจ่ายค่าปรับให้อีกฝ่ายด้วย

โดยในช่วงที่ผ่านมา Jack Ma ได้ตระเวนไปรอบโลกเพื่อที่จะศึกษาในเรื่องการเกษตร หรือแม้แต่พูดคุยกับนักธุรกิจตามประเทศต่างๆ รวมถึงล่าสุดได้มีการเปิดธุรกิจที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและขายปลีกสินค้าทางการเกษตร ซึ่งเขาเองพยายามทำตัวไม่เป็นข่าวมากนัก

ก่อนในท้ายที่สุดเขาจะได้ออกมาส่งข้อความให้กับพนักงาน Alibaba ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆ นัก ภายใต้สภาวะความท้าทายที่เกิดขึ้นของบริษัทในช่วงเวลานี้

ที่มา – South China Morning Post, Reuters

]]>
1469760
Alibaba กำลังพิจารณาขาย InTime ธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่ซื้อมาในปี 2017 และอาจเป็นการส่งสัญญาณปิดฉากกลยุทธ์ New Retail https://positioningmag.com/1461096 Thu, 01 Feb 2024 09:21:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1461096 อาลีบาบา (Alibaba) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของประเทศจีน กำลังพิจารณาตัดสินใจขาย InTime ธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่บริษัทได้ซื้อมาในปี 2017 และยังเป็นการส่งสัญญาณปิดฉากกลยุทธ์ New Retail หลังจากที่บริษัทได้รุกหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Alibaba บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของประเทศจีน อาจตัดสินใจขาย InTime ธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่บริษัทได้ซื้อมาในปี 2017 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวตามมาจากการปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัท

สื่อรายดังกล่าวได้รายงานว่า Alibaba ได้ติดต่อสถาบันการเงิน 2-3 แห่ง เพื่อจะหาผู้ที่สนใจซื้อกิจการ InTime และมีผู้สนใจรายหนึ่งเริ่มพูดคุยกับทางบริษัทเทคโนโลยีรายดังกล่าวแล้วเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยบริษัทได้พูดคุยถึงแผนการในการขายห้างสรรพสินค้าดังกล่าวมาสักพักแล้ว

Alibaba ได้ซื้อห้างสรรพสินค้า InTime ในปี 2017 ด้วยมูลค่ามากถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตัวเลขล่าสุดจากเว็บไซต์ของบริษัทนั้นห้างสรรพสินค้ารายดังกล่าวมีสาขามากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศจีน

และในปี 2020 หลังจากมีการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศจีน หนึ่งในผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศจีนรายนี้ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยหันมาไลฟ์ขายสินค้าจนสามารถฟื้นยอดขายกลับมา หลังจากห้างต้องปิดตัวนานหลายสัปดาห์จากมาตรการล็อกดาวน์

In time Lotte department store in Beijing at night. (Photo by: Education Images/Universal Images Group via Getty Images)

การตัดสินใจขายห้างสรรพสินค้า InTime ยังอยู่ในแผนการของบริษัทในช่วงการปรับโครงสร้างที่มีการแยกธุรกิจของ Alibaba ออกมาเป็น 6 ธุรกิจหลักด้วยกัน และบริษัทต้องการที่จะโฟกัสไปยังธุรกิจหลักนั่นก็คือธุรกิจ E-commerce และธุรกิจ Cloud

นอกจากนี้การปรับโครงสร้างบริษัทและการพิจารณาในการขายห้างสรรพสินค้า InTime ยังแสดงให้เห็นถึงจุดจบของกลยุทธ์ New Retail ซึ่ง Alibaba ชูจุดเด่นมาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการค้าปลีกในการเชื่อมโลกออนไลน์เข้าสู่ออฟไลน์

ไม่เพียงแค่ห้างสรรพสินค้า InTime เท่านั้น Alibaba ได้ซื้อหรือแม้แต่ลงทุนใน Sun Art Retail หรือ เหอหม่า (Hema) ซึ่งเป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างซูหนิง (Suning) ด้วย ซึ่งกลยุทธ์ New Retail ในเวลานั้นเป็นโมเดลที่ทำให้คู่แข่งต้องลอกเลียนแบบมาแล้ว

แต่กลยุทธ์ดังกล่าวกลับส่งผลลัพธ์ที่ไม่ดีกับบริษัทในท้ายที่สุด เนื่องจากการเข้ามาปราบปรามและกำกับดูแลบริษัทเทคโนโลยี ทำให้กลยุทธ์ New Retail เป็นเหมือนการผูกขาดธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเวลาต่อมาผู้บริหาร Alibaba ได้พูดถึงกลยุทธ์ดังกล่าวลดลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดีในการขายกิจการ InTime ถือว่ามีความท้าทายไม่น้อย และอาจมีความเสี่ยงที่ Alibaba อาจไม่ได้เม็ดเงินมากเท่าที่ควร เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจจีนที่กำลังฟื้นตัว นอกจากนี้ยังรวมถึงปัญหาด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคซึ่งส่งผลทำให้การจับจ่ายใช้สอยที่ลดลง ซึ่งส่งผลต่อมูลค่ากิจการห้างสรรพสินค้าด้วย

]]>
1461096
Alibaba แพ้คดีต่อ JD.com หลังบังคับร้านค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเดียว ผูกขาดตลาด E-commerce https://positioningmag.com/1457488 Fri, 29 Dec 2023 13:08:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457488 JD.com ได้ประกาศว่าบริษัทชนะคดีและได้เงินมากถึง 1,000 ล้านหยวน หลังจากบริษัทฟ้องร้องยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba บังคับร้านค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเดียว ถือเป็นพฤติกรรมผูกขาดตลาด E-commerce ในประเทศจีน

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า ศาลประชาชนชั้นสูงในกรุงปักกิ่ง (Beijing High People’s Court) ได้ตัดสินคดีความระหว่าง 2 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ในคดีที่ JD.com ได้ฟ้องว่า Alibaba ผูกขาดธุรกิจ E-commerce หลังบังคับให้ร้านค้าขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น

ทางด้าน Weibo ของ JD.com ได้แจ้งว่าบริษัทชนะคดีความดังกล่าว โดยบริษัทได้กล่าวว่าผลการตัดสินเป็นสิ่งที่ดีต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศจีน และ JD.com ได้ต่อต้านพฤติกรรม “เลือกแพลตฟอร์มเจ้าใดเจ้าหนึ่ง” เพื่อที่จะทำให้เกิดการแข่งขันได้

นอกจากนี้ JD.com จะได้เงินจากการฟ้องร้องคดีความดังกล่าวเป็นเงิน 1,000 ล้านหยวนด้วย หรือคิดเป็นเงินไทย 4,957 ล้านบาท

สำหรับการ “เลือกแพลตฟอร์มเจ้าใดเจ้าหนึ่ง” หรือในภาษาจีน “เลือก 1 จาก 2” เป็นการบังคับให้เจ้าของร้านค้าต่างๆ สามารถลงสินค้าผ่านแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้น เช่น ถ้าหากร้านค้าเลือกแพลตฟอร์ม TMall ของ Alibaba ไปแล้ว ก็จะไม่สามารถลงสินค้าผ่าน E-commerce คู่แข่งรายอื่นได้

Alibaba ได้โดนหน่วยงานกำกับดูแลของจีนปรับเงินมาแล้วในการผูกขาดแพลตฟอร์มในช่วงปี 2021 ซึ่งค่าปรับดังกล่าวสูงมากถึง 18,000 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยมากถึง 86,400 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของรายได้บริษัทในช่วงเวลาดังกล่าว

คดีความดังกล่าว JD.com ยื่นฟ้องต่อศาลประชาชนชั้นสูงในกรุงปักกิ่งตั้งแต่ปี 2017 และใช้เวลาในการพิจารณาข้อกล่าวหาดังกล่าวหลายปี ก่อนในท้ายที่สุดผลการตัดสินจะออกมาในวันนี้ โดยทางตัวแทนของ Alibaba ได้กล่าวว่าน้อมรับคำตัดสินของศาล

]]>
1457488
Alibaba ปรับแผนธุรกิจ และทีมผู้บริหารอีกรอบ หลังยกเลิกแผนนำธุรกิจ Cloud เข้า IPO ในตลาดหุ้น https://positioningmag.com/1453369 Sun, 26 Nov 2023 08:48:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1453369 Alibaba ได้ปรับทีมผู้บริหารใหม่อีกครั้ง หลังยกเลิกแผนนำธุรกิจ Cloud เข้า IPO ในตลาดหุ้น โดยให้สาเหตุว่าเกิดจากมาตรการแบนการส่งออกชิปของสหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้มูลค่าบริษัทลดลงไปถึงหลักหมื่นล้านเหรียญสหรัฐทันที

CNBC รายงานข่าวว่า Alibaba เริ่มปรับโครงสร้างภายในบริษัทอีกครั้ง ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ Alibaba ได้ประกาศยกเลิกนำธุรกิจ Cloud เข้า IPO โดยบริษัทได้ให้เหตุผลถึงมาตรการแบนการส่งออกชิปของสหรัฐอเมริกา ผลที่เกิดขึ้นทำให้ราคาหุ้นของ Alibaba ลดลงทันที รวมถึงทำให้มูลค่าบริษัทหายไปในระดับหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

แหล่งข่าวของ CNBC รายงานว่าสำหรับการปรับโครงสร้างดังกล่าว Alibaba ได้ตั้งทีมผู้บริหารชุดใหม่ที่ดูแลแผนกต่างๆ ของธุรกิจ Cloud ยกชุด ไม่ว่าจะเป็น Weiguang Liu ดูแลแผนกคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) ขณะที่ Jin Li ดูแลแผนกไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud)

ผู้บริหารทั้ง 2 รายข้างต้นจะขึ้นตรงกับ Eddie Wu ซึ่งเป็น CEO ของ Alibaba ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ขณะที่ Jiangwei Jiang จะดูแลแผนกโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ (Cloud Infrastructure) จะขึ้นตรงกับ Jingren Zhou ซึ่งเป็น CTO ของธุรกิจ Cloud ของ Alibaba

ก่อนหน้านี้แผนการของ Alibaba คือการแยกธุรกิจออกมาเป็น 6 หน่วยธุรกิจ โดยให้เหตุผลสำคัญคือการปลดล็อกมูลค่าบริษัทให้กับผู้ถือหุ้น เพิ่มเรื่องของการกำกับดูแลองค์กรที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังรวมถึงส่งเสริมให้แต่ละธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้ ซึ่งธุรกิจ Cloud ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการเช่นกัน

ในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจ Cloud ของ Alibaba เองก็ได้รับแรงกดดันจากทั้งคู่แข่งหลายรายจากบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Tencent หรือแม้แต่ Baidu ขณะเดียวกันก็ยังต้องพบกับแรงกดดันจากคู่แข่งรายสำคัญคือ Huawei ยักษ์ใหญ่อีกรายที่กำลังรุกตลาดอย่างหนักเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา CEO ของ Alibaba ยังได้ประกาศถึงแผนการของธุรกิจ Cloud จะรุกในส่วน Public Cloud ที่เน้นให้บริการกับภาคธุรกิจมากกว่าการเน้นหาลูกค้าในฝั่งของหน่วยงานของรัฐบาลจีน ขณะเดียวกันเขาก็มองถึงการผลักดันเทคโนโลยี AI ซึ่งจะทำให้มีการประมวลผลผ่านระบบ Cloud ของบริษัทเพิ่มขึ้น

]]>
1453369
CEO ของ Alibaba เผยทิศทางบริษัทในอนาคต เน้นเปิดกว้างเรื่องเทคโนโลยี AI ให้กับสังคมจีน https://positioningmag.com/1451465 Sun, 12 Nov 2023 10:39:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451465 Eddie Wu ซึ่งเป็น CEO ของ Alibaba ได้เผยทิศทางของบริษัทในงาน World Internet Conference Summit 2023 ที่จัดขึ้นในเมืองอูเจิ้น ว่าทิศทางในบริษัทในอนาคตจะกลายเป็นบริษัทแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบเปิดที่ให้บริการนวัตกรรม AI แก่สังคมทั้งหมด

Securities Times สื่อธุรกิจในประเทศจีน รายงานข่าวว่า Eddie Wu ซึ่งเป็น CEO ของ Alibaba ได้เปิดเผยในงาน World Internet Conference Summit 2023 ที่จัดขึ้นในเมืองอูเจิ้น ว่าทิศทางในบริษัทในอนาคตจะกลายเป็นบริษัทแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบเปิดที่ให้บริการนวัตกรรม AI แก่สังคมทั้งหมด

เขาได้กล่าวว่าเมื่อเผชิญกับยุค AI นั้นทาง Alibaba จะกลายเป็นบริษัทแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบเปิดที่ให้บริการนวัตกรรมด้าน AI แก่ทั้งสังคม โดยการนำเสนอทิศทางของบริษัทนั้นเขาชี้ว่าสะท้อนถึงความคาดหวังของประเทศและความต้องการของสังคมทั้งหมด

สื่อธุรกิจของจีนรายดังกล่าวชี้ว่า CEO รายนี้ได้ออกงานสำคัญนับตั้งแต่การขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่ของ Alibaba เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และยังเป็นครั้งแรกที่บริษัทเทคโนโลยีจีนได้นำเสนอทิศทางขององค์กรว่าจะปรับตัวเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีอย่างชัดเจน

CEO ของ Alibaba รายนี้ยังได้กล่าวว่ายุคแห่งความฉลาดเพิ่งเริ่มต้นขึ้น และการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เขายังชี้ว่าทุกสิ่งเป็นไปได้ และมีโอกาสในการพัฒนามากมาย เขายังวิเคราะห์ว่าการประมวลผล AI มีความฉลาดในการเข้าใจภาษามนุษย์รวมถึงตรรกะต่างๆ รวมถึงสามารถเข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้โดยตรง

เพื่อที่จะให้บริการแก่องค์กรต่างๆ รวมถึงนักพัฒนา AI มากขึ้น Alibaba ได้ประกาศว่าจะให้บริการระบบบ AI ที่เสถียรและมีประสิทธิภาพ ผ่าน Cloud ของบริษัท ขณะเดียวกันบริษัทก็จะสร้างระบบนิเวศ AI ที่เปิดกว้าง เพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม

การประกาศทิศทางบริษัทของ Alibaba ครั้งนี้ถือว่าเป็นทิศทางสำคัญต่อเนื่องหลังจากบริษัทได้ประกาศแยกธุรกิจออกมาเป็น 6 หน่วยธุรกิจด้วยกัน

Eddie Wu เองถือเป็น 1 ในผู้ก่อตั้งที่มีความสำคัญกับบริษัทในช่วงที่ผ่านมา เขาเป็นประธานดูแลธุรกิจ E-commerce ในประเทศจีนอย่าง TMall และ Taobao และเขาเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ไม่ว่าจะเป็น Taobao หรือแม้แต่ Alipay และยังช่วยออกแบบเทคโนโลยีของแพลตฟอร์มต่างๆ ของบริษัทมาแล้ว

]]>
1451465
Alibaba อัดฉีดเงินเข้า Lazada อีกเกือบ 29,000 ล้านบาท หลังคู่แข่งประกาศรุกตลาดอาเซียนหนัก https://positioningmag.com/1438462 Fri, 21 Jul 2023 06:33:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1438462 Alibaba ได้อัดฉีดเงินเข้า Lazada เกือบ 29,000 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากการแข่งขันของธุรกิจ E-Commerce ในอาเซียนเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของ TikTok Shop 

เว็บไซต์ Tech in Asia รายงานว่า Alibaba ได้อัดฉีดเงินเข้า Lazada แพลตฟอร์ม E-Commerce รายใหญ่ของบริษัท โดยเม็ดเงินดังกล่าสูงถึง 845 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 29,000 ล้านบาท

สาเหตุสำคัญที่มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้า Lazada เป็นจำนวนมากคือการแข่งขันที่สูงในแพลตฟอร์ม E-Commerce ซึ่งบริษัทมีคู่แข่งสำคัญคือ Shopee รวมถึง TikTok Shop ที่บริษัทแม่อย่าง ByteDance ได้ผลักดันอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ข้อมูลจาก Momentum Works ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในสิงคโปร์ ชี้ว่า Lazada เป็นผู้เล่นอันดับ 2 ของแพลตฟอร์ม E-Commerce ในอาเซียนโดยมียอดขายสินค้าออนไลน์รวมในแพลตฟอร์ม (GMV) 20,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นรองคู่แข่งอันดับ 1 อย่าง Shopee ของ Sea ซึ่งมี GMV สูงถึง 47,900 ล้านเหรียญสหรัฐ

ตลาด E-Commerce ในอาเซียนถือว่าเป็นตลาดที่เติบโตมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ข้อมูลจากรายงานของ Bain และ Google รวมถึง Temasek ที่จัดทำขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมปี 2022 ที่ผ่านมาชี้ว่าอัตราการเติบโตสูงถึง 20% ต่อปีจนถึงปี 2025 ทำให้บริษัทเทคโนโลยีทั้งในประเทศและต่างประเทศนั้นสนใจเข้ามาทำธุรกิจดังกล่าวจำนวนมาก

สำหรับเม็ดเงินที่อัดฉีดเข้า Lazada โดย Alibaba มากที่สุดคือในช่วงปี 2018 ที่ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากจีนอัดฉีดเงินมากถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าแพลตฟอร์ม E-Commerce ในอาเซียน รองลงมาคือในปี 2022 อีกราวๆ 913 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในช่วงเวลาปกติจะมีการอัดฉีดเงินไม่เกิน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ

Lazada ปัจจุบันบริษัทอยู่ภายใต้ธุรกิจ E-Commerce นอกประเทศจีน หลังจากที่ทาง Alibaba ได้ประกาศแยกธุรกิจออกเป็น 6 หน่วยธุรกิจ ซึ่งแต่ละยูนิตนั้นจะมีการแต่งตั้งผู้บริหารเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถที่จะระดมทุนเพิ่มเติมหรือเข้าตลาดหลักทรัพย์หลังจากนี้ตามแต่การตัดสินใจได้

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีข่าวว่า Aliababa เตรียมที่จะนำธุรกิจ E-commerce ในต่างประเทศ ซึ่งมีธุรกิจลูกในเครือเช่น Aliexpress และ Lazada ฯลฯ เข้า IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะเข้าระดมทุนในช่วงปีหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการอัดฉีดเงินในรอบท้ายๆ ก่อนที่ยูนิตดังกล่าวจะเข้า IPO หลังจากนี้

]]>
1438462
ประธานของ Alibaba เผยเตรียมรุกตลาด E-commerce ในยุโรปอีกครั้ง เริ่มต้นที่สเปนก่อน https://positioningmag.com/1434435 Fri, 16 Jun 2023 18:10:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1434435 Alibaba เตรียมที่จะขยายในธุรกิจในต่างประเทศอีกครั้งในรอบหลายปี แม้ว่าบริษัทจะถูกรัฐบาลจีนเข้ามาปราบปรามอย่างหนักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็ตาม โดยโมเดลที่จะนำมาใช้คือรูปแบบ TMall ที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีนโดยประเทศแรกที่จะเปิดธุรกิจก็คือสเปน

ธุรกิจในต่างประเทศที่ Alibaba กลับมาลุยต่ออีกครั้งคือธุรกิจ E-commerce ในทวีปยุโรป ซึ่ง Michael Evans ประธานของบริษัทได้กล่าวที่กรุงปารีสว่าบริษัทจะขยายธุรกิจดังกล่าวโดยเริ่มต้นที่ประเทศสเปน ซึ่งโมเดลธุรกิจที่จะนำมาใช้ก็คือรูปแบบของ TMall ซึ่งประสบความสำเร็จในจีนมาแล้ว

และแผนการดังกล่าวนี้ยังถือว่าเปลี่ยนรูปแบบทำธุรกิจ E-commerce ของบริษัทอีกครั้ง เนื่องจากปกติแล้วบริษัทจะมีแพลตฟอร์มอย่าง Aliexpress ที่ส่งสินค้าจากประเทศจีนเข้าไปยังทวีปยุโรป หรือทวีปอื่น

ประธานของ Alibaba กล่าวว่า โฟกัสของบริษัทในอนาคตคือการสร้างธุรกิจเหมือน TMall ตามประเทศต่างๆ ในยุโรป ซึ่งโมเดลดังกล่าวจะมีร้านค้าในประเทศนั้นๆ เพื่อที่จะตอบสนองต่อลูกค้าของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะ และโมเดลธุรกิจดังกล่าวจะขยายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปหลังจากนี้

ก่อนหน้านี้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ด้วยการแยก 6 ธุรกิจออกมา ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ E-commerce ทั้งในจีนและนอกประเทศจีน ธุรกิจ Cloud ไปจนถึงธุรกิจ Logistics โดยแต่ละธุรกิจจะมีการแต่งตั้งผู้บริหารเป็นของตัวเอง และสามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ยังทำให้ลดแรงกดดันของหน่วยงานกำกับดูแลอีกด้วย

ขณะเดียวกันการรุกธุรกิจ E-commerce ในทวีปยุโรปอีกครั้งนั้นประธานของ Alibaba ได้ชี้ว่าทวีปดังกล่าวมีความสำคัญในการขยายธุรกิจของ Alibaba อย่างมากไม่ใช่แค่การรุกแค่ธุรกิจ E-commerce เท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อธุรกิจอื่น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Logistics หรือแม้แต่ธุรกิจ Cloud ของบริษัทด้วย

ทาง Bloomberg เคยวิเคราะห์ว่ารายได้ของธุรกิจ E-commerce ในต่างประเทศของ Alibaba ในปี 2022 อยู่ที่ 9,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 7.2% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท

ที่มา – Reuters, CNBC

]]>
1434435
‘อาลีบาบา’ เปิดตัว ‘Tongyi Qianwen’ เอไอ แชทบอท พร้อมใช้ตั้งแต่การสื่อสารระดับองค์กรยันอีคอมเมิร์ซ https://positioningmag.com/1427110 Tue, 11 Apr 2023 05:59:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1427110 อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) บริษัทผู้พัฒนา Cloud Computing ในเครือของ อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนเพิ่งจะประกาศเปิดตัว ถงอี้ เฉียนเหวิน (Tongyi Qianwen) เอไอ แชทบอท ที่มาชนกับ ChatGPT โดยอาลีบาบา ระบุว่าบริษัทจะนำ Tongyi Qianwen ไปใช้ในทุกภาคส่วนของบริษัท

ภายในงาน Alibaba Cloud Summit ปี 2023 อาลีบาบา ได้เปิดตัว ถงอี้ เฉียนเหวิน (Tongyi Qianwen) เอไอ แชทบอท ที่มีความสามารถเข้าใจทั้งภาษาจีนและอังกฤษ โดยบริษัทมีแผนจะใช้เอไอดังกล่าวในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของอาลีบาบาตั้งแต่การสื่อสารระดับองค์กรไปจนถึงอีคอมเมิร์ซ

เบื้องต้น จะเริ่มใช้งานใน DingTalk ซอฟต์แวร์สื่อสารในที่ทำงานของ Alibaba และ Tmall Genie ผู้ให้บริการเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอัจฉริยะ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้ระบุถึงช่วงเวลาที่ชัดเจน โดยบอกเพียงว่าจะนำไปใช้ใน อนาคตอันใกล้

“เราอยู่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI และคลาวด์คอมพิวติ้ง” แดเนียล จาง ประธานและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป และซีอีโอของอาลีบาบา คลาวด์ กล่าว

ไม่ใช่แค่ใช้ในองค์กรของตัวเอง แต่สำหรับลูกค้าของอาลีบาบาคลาวด์ก็จะสามารถเข้าถึง Tongyi Qianwen บนคลาวด์ได้ และช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างโมเดลภาษาขนาดใหญ่เพื่อสร้าง แชทบอทของตัวเอง โดยสามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียดตามต้องการ ด้วยข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวลูกค้าเอง ซึ่งช่วยลดทรัพยากรและค่าใช้จ่ายสำหรับลูกค้าที่ต้องการพัฒนาเอไอแชทบอทของตัวเอง

“เราหวังว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจจากทุกอุตสาหกรรมด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านข่าวกรอง และท้ายที่สุด จะช่วยเพิ่มผลผลิตทางธุรกิจ ขยายความเชี่ยวชาญและความสามารถของพวกเขา ในขณะที่ปลดล็อกโอกาสที่น่าตื่นเต้นผ่านนวัตกรรม”

ทั้งนี้ อาลีบาบาถือเป็นบริษัทโทคโนโลยีจีนรายล่าสุดที่เปิดตัวเอไอ แชทบอท หลังจาก Baidu เปิดตัว Ernie Bot ในเดือนมีนาคม นอกจากนี้ก็มี NetEase ได้ ประกาศความ ตั้งใจที่จะเปิดตัวเอไอแชทบอทที่มีรูปแบบ ChatGPT ซึ่งหลังจากที่อาลีบาบาเปิดตัว Tongyi Qianwen หุ้นของบริษัทก็พุ่งขึ้นกว่า 3% ส่วนหุ้นของ Baidu ลดลง 6%

สำหรับ อาลีบาบาในตลาดคลาวด์ ปัจจุบันถือเป็น อันดับ 3 ของโลก และเป็นผู้ให้บริการ IaaS อันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามข้อมูลของบริษัทวิจัย IDC และ Gartner

Source

]]>
1427110