Kubcoin – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 11 Jul 2022 09:24:23 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เบื้องหลัง SCBX เท “บิทคับ” คริปโตดิ่งเหว-โดนโทษบ่อย-ปั่นเหรียญ KUB-บัญชีม้า-สองมาตรฐาน-การตลาดยุเยาวชน-ธรรมาภิบาลมีปัญหา https://positioningmag.com/1392049 Mon, 11 Jul 2022 05:35:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1392049 บทความโดย ibit ผู้จัดการออนไลน์
เบื้องหลังไทยพาณิชย์เทบิทคับตลาดคริปโตฯดิ่งเหว และ ด้วยวีรกรรมของยูนิคอร์นรายนี้เอง ทั้งจากการถูก ...ลงโทษและถูกปรับกว่า 11 ครั้ง ผู้บริหารขาดธรรมาภิบาลระบบงานมีปัญหา ตรวจพบบัญชีม้า นอมินี สร้างดีมานด์เทียม ปั่นราคา ให้คะแนนเหรียญ KUB ตัวเองเวอร์ สองมาตรฐาน อุ้มแต่รายใหญ่ ทิ้งรายย่อย เก็บค่าต๋งแพงลิบค่าธรรมเนียมเอาเปรียบ การตลาดที่ปลุกปั่นต้อนเยาวชน

ดูท่าฝันจะค้างเสียแล้วสำหรับกลุ่มบิทคับเมื่อยานแม่กลุ่มไทยพาณิชย์ในนาม บริษัท เอสซีบีเอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX เริ่มลังเลเปิดตู้เซฟควักเงิน 1.78 หมื่นล้านบาทจ่ายแลกหุ้น 51% ใน บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub กระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซี อันดับหนึ่งของไทย จนแวดวงตลาดทุนต่างพากันเชื่อว่า งานนี้ก็คือการบอกเทแบบสุภาพนั่นเอง

ขณะที่แวดวงรายย่อยทั้งสายหุ้นและสายเหรียญต่างก็บ่นอุบเพราะโดนแกงโดย ณ ช่วงเวลานี้หลายฝ่ายมีความเชื่อว่าดีลดังกล่าวมีโอกาสล่มที่สูงมาก เพราะหากพิจารณาจากสำนวนตัวอักษรที่ธนาคารไทยพาณิชย์ออกมาให้ข้อมูลแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ..65) พอจะจับประเด็นได้ว่า กำหนดการเดิมที่หมายมั่นจะสู่ขอ Bitkub ขึ้นมาอยู่ในยานแม่ SCBX ไม่สามารถเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในไตรมาสแรกปีนี้ นั่นเพราะดีลดิลิเจนท์ที่เข้าไปส่องดูบิทคับมานานกว่า 6 เดือนข้อมูลในการตรวจสอบที่ได้รับ น่าจะเป็นที่ไม่น่าพึงพอใจของฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะในส่วนสาระสำคัญที่น่าจะเกิดปัญหา หรือไม่เป็นไปตามที่ต่างฝ่ายต่างคาดหวังไว้ระหว่างกัน

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือคำยืนยันจากไทยพาณิชย์ว่ายานแม่ของกลุ่มอย่าง SCBX จะดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์และข้อกำหนดของ Regulator ที่เกี่ยวข้อง หรือพูดง่ายๆ ว่าออกมาย้ำจุดยืนของตนเองว่าจะไม่มีการแหกคอกเกิดขึ้น เพียงเพื่อหวังจะคว้าดีลๆ เดียว แต่อาจสร้างผลกระทบให้กับการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่ม โดยเน้นย้ำในข้อความชี้แจงว่า ….. “ดีลดังกล่าวมีเงื่อนไขว่าผลการสอบทานธุรกิจของบิทคับ ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจและคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วน

ก่อนจะปิดท้ายอย่างสุภาพว่าปัจจุบันยังอยู่ระหว่างกระบวนการสอบทางธุรกิจ และระหว่างการหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง โดยมีการขยายเวลาการเข้าทำธุรกรรมออกไปจากกำหนดการเดิม แบบไม่ขอระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนจนอาจรัดคอตนเอง นั่นทำให้โอกาสรับทรัพย์ก้อนโตของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ในบิทคับเป็นอันต้องฝันค้างเอาไว้ต่อไป รวมศิริอายุของดีลผ่านพ้นมาแล้ว 8 เดือน จากวันที่เขย่าวงการตลาดทุน หรือตลาดคริปโตฯไทยเมื่อเมื่อวันที่ 2 .. 64 

ผู้ถือหุ้นโล่งไม่ต้องจ่ายโอเวอร์?

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พบว่า นักลงทุนต่างมีความคิดเห็นที่หลากหลาย โดยในกลุ่มที่ลงทุนในหุ้นของ SCB ณ ช่วงเวลานี้ส่วนใหญ่พอใจกับข้อมูลที่ชี้แจงออกมา เนื่องจากเชื่อว่าการเข้าลงทุนในบิทคับในช่วงเวลานี้มีความเสี่ยงทั้งจากสภาวะตลาดเหรียญคริปโตฯ ที่อยู่ในช่วงขาลงในทุกตลาดทั่วโลกนั่นย่อมส่งผลให้มูลค่าของเหรียญ KUB Coin ลดลงไปในทิศทางเดียวกับเหรียญอื่นๆ และนั่นย่อมส่งผลให้จำนวนผู้เข้ามาลงทุนผ่านกระดานเทรดบิทคับ ออลนไลน์อ่อนตัวลงไปด้วย ซึ่งน่าจะมีผลให้มูลค่าในการเข้าซื้อหุ้น 51% ด้วยเม็ดเงิน 1.78 หมื่นล้านบาทไม่สมเหตุสมผล

ขณะเดียวกันบางส่วนยังเชื่อว่า เหตุผลที่ SCB เลื่อนการเข้าลงทุนเป็นเจ้าของกระดานเทรดเหรียญ น่าจะมาจากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เป็นไปตามที่ทั้งสองฝ่ายคาดการณ์ไว้ หรือไม่ตรงปกอาทิเรื่องของอัตราการเติบโตของธุรกิจ หรือกรณีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของดีลที่เจรจาร่วมกันไว้ 

เพราะที่ผ่านมานอกเหนือจากข่าวดีในด้านการขยายตลาดและการเติบโตธุรกิจ Bitkub ข่าวด้านลบออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการถูกกล่าวโทษ หรือถูกปรับจาก regulator อย่างคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (...) ตลอดจนแผนการตลาดซึ่งเป็นที่ค้านสายตาหลายต่อหลายคน โดยเฉพาะการเชิญชวนเข้ามาลงทุนในเหรียญ KUB ด้วยเม็ดเงินเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับโอกาสของผลตอบแทนในอนาคต “10บาทก็ลงทุนได้จนถูกใครต่อใครมองว่าเป็นบ่อนพนัน หนำซ้ำยังแทรกซึมเข้าไปในสถานศึกษาต่างๆ เข้ามาลงทุน

มูลค่าการเข้าลงทุนรอบนี้สูงมาก ช่วงประกาศข่าวออกมาถือว่าเป็นปรากฏการณ์แก่ตลาดทุนและตลาดเหรียญคริปโตฯ เลยก็ว่าได้ แต่เอาเข้าจริงๆ เมื่อเทียบกับ Binance รายใหญ่ระดับโลกที่จับมือกับ Gulf บริษัทจดทะเบียนใหญ่ในตลาดหุ้นร่วมกันจัดตั้งธุรกิจหลายคนเริ่มมองว่าลงทุนได้ฉลาดกว่า และใช้ต้นทุนได้ต่ำกว่ามาก

ตลาดคริปโตดิ่งเหวมูลค่าลดฮวบ

นอกจากนี้ หลายฝ่ายเชื่อว่า หากดีลดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้จริงราคาที่ใช้ในการซื้อขายหุ้น 51% ไม่ควรจะเป็น 1.78 หมื่นล้านบาทเหมือนตอนแรก เมื่อเทียบกับสภาวะตลาดคริปโตฯในปัจจุบันที่ดิ่งเหว ดังนั้นหากดันทุรังตัวเลขเดิมในการดีลอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของผู้ซื้อ

อย่างไรก็ดี ตัวเลขที่ประเมินกันในตอนแรกที่ 1.78 หมื่นล้าน ว่ากันว่า เป็นตัวเลขที่สูงเกินจริงไปมากอยู่แล้ว ขณะนั้นบิทคับได้โชว์ตัวเลขผลประกอบการที่ระบุว่า สามารถทำกำไรได้ปีละกว่า 2 พันล้าน โดยมีอัตราการเติบโตกว่า 1,000% ตลอดสามปีที่ผ่านมา ทว่า นับแต่ค้นปี65 จนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่า ภาวะตลาดคริปโตฯผันผวนตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นทำให้มูลค่า และโอกาสทำรายได้ของบิทคับก็ลดลงตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Photo : Shutterstock

แม้ว่าตลาดจะตกต่ำ และแม้ว่า บิทคับ จะมีปัญหาอย่างไร 7-8 เดือนที่ผ่านมา ผู้บริหารไทยพาณิชย์ กลับไม่แสดงท่าทีจะบอกให้ชัดเจนว่า จะไปต่อ หรือ พอกันทีกับดีล บิทคับ ไม่ยอมตอบกระทั่งข้อซักถามของผู้ถือหุ้นในการการประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนปล่อยให้มีข้อสังสัยกันเรื่อยมาว่า เพราะอะไร?

ว่ากันว่า ที่ SCBX ยื้อเวลามานานไม่ปล่อยมือจากบิทคับ มีคำถามว่า นั่นเพราะ นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กับ นายจิรายุส หรือ ท๊อป ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง บิทคับ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันดี ใช่หรือไม่? ซึ่งที่ผ่านมา ทราบกันดีว่า นายอาทิตย์ เป็นผู้ผลักดันดีลนี้มาตั้งแต่ต้น ออกตัวแรงว่าต้องการจะให้ธนาคารซื้อหุ้นของบิทคับ โดยพยายามโน้มน้าวผู้บริหารไทยพาณิชย์คนอื่นๆ ให้เห็นด้วย ทั้งๆ ที่หลายคนก็ฝืนใจโดยไม่เห็นด้วยนัก

ส่วนฝั่งท๊อป จิรายุส ผู้ขาย หากดีลนี้ไม่เกิดขึ้น นอกจากจะฝันค้างถึงเม็ดเงินที่จะไหลเข้ากระเป๋าส่วนตัวหลายพันล้าน ย่อมต้องมีผลกระทบเกิดขึ้นกับพาร์ตเนอร์ธุรกิจรายอื่นๆ ที่เข้ามาแล้ว และกำลังจะเข้ามาร่วมมือในอนาคต

การได้อยู่ใต้ร่มเงาของ SCBX ย่อมช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทำให้การเรียกร้องราคาความร่วมมือย่อมโก่งราคาได้มากกว่า แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในส่วนหนึ่งของแผนยานแม่ มูลค่าที่พันธมิตรรายอื่นๆ ที่ควักจ่ายไว้อาจต้องมีเงินทอนคืน หรือความน่าสนใจเข้าร่วมมือที่ลดลง นอกจากนี้ ด้วยเงื่อนไขสัญญาที่พันธมิตรจะต้องมีการลงทุนในเหรียญ KUB แม้จะเคยออกมาการันตีรับซื้อคืนในราคาเดิม แต่ระยะเวลาที่ต่างกัน และสถานการณ์ที่ต่างกัน บางทีเงินที่ประกาศรับซื้อคืนในราคาเดิมก็อาจสร้างปัญหาในอนาคตได้เช่นกัน

วีรกรรมบิทคับทำพิษ

จริงๆ มีหลายฝ่ายเห็นว่า ไทยพาณิชย์ ไม่ควรจะซื้อบิทคับตั้งแต่แรกแล้ว เพราะถ้าไม่นับตลาดคริปโตฯที่ดิ่งนรก ด้วยการกระทำของตัวเองของบิทคับในช่วงที่ผ่านมา และจากการเข้าไปตรวจสอบของธนาคารเองก็น่าจะได้เห็น ว่า ภาพที่สร้าง ไม่เหมือน ภาพจริงที่ปรากฏ ใช่หรือไม่ ป้ายโฆษณาชวนเชื่อมต่อโลกอนาคตของนายท็อปที่ติดอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองอย่างสวยหรู ภาพจริง Bitkub ถูกตรวจสอบ หรือถูกติดตามการกระทำในหลายด้าน ดังที่ “ibit” เคยวิเคราะห์และไล่เรียงให้ฟังดังนี้

สร้างวอลุ่มเทียมเรียกแขกเข้าวง

โดยสามารถสรุปได้ อาทิ 1.ปั่นวอลุ่มเทียมหลอกนักเทรด จากกรณี ก...ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub (ศูนย์ซื้อขาย Bitkub) ของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด โดยให้ผู้กระทำผิดชำระเงินรวม 24.16 ล้านบาท พร้อมกับกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการ หรือผู้บริหาร

เนื่องจาก ก..ต พบเหตุสงสัยว่า อาจมีการสร้างปริมาณเทียมในศูนย์ซื้อขาย Bitkub จึงได้ตรวจสอบโดยพบการกระทำเข้าข่ายเป็นความผิดของบุคคล 3 ราย ได้แก่ (1) บริษัท บิทคับ (2) นายอนุรักษ์ เชื้อชัย (Market Maker) ร่วมกันในการส่งคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล อันเป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณการซื้อหรือขาย (3) นายสกลกรย์ สระกวี ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้มีอำนาจจัดการของบริษัท สั่งการ หรือกระทำการหรือไม่สั่งการหรือไม่กระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ เป็นเหตุให้บริษัท บิทคับ กระทำความผิดดังกล่าวในช่วงก..2562

ระบบงานและบริการที่ยังมีปัญหา

ประเด็นถัดมาที่หลายฝ่ายเชื่อว่ามีผลต่อการตัดสินใจดีล SCBX ถูกให้น้ำหนักไปที่ระบบสารสนเทศ และรับงานให้บริการลูกค้าที่เคยมีปัญหาจนถูก ก...สั่งให้ดำเนินการแก้ไข อาทิ ในช่วงเดือนมกราคม 2564 “บิทคับ ออนไลน์ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รายงานเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อระบบสารสนเทศที่มีความสำคัญ ประเภทระบบหยุดชะงัก (system disruption) ต่อสำนักงานล่าช้ากว่าระยะเวลาที่ประกาศกำหนด เป็นจำนวน 6 ครั้ง

ถัดมาวันที่ 8 .. – 7 มี.. 2564 “บิทคับมีระบบงานในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (compliance) “ไม่รัดกุมเพียงพอ” ที่จะทำให้บริษัท บิทคับ สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก่อนหน้านั้นวันที่ 28 .. 2563 – 20 .. 2564 “บิทคับ ออนไลน์มีระบบงานที่เกี่ยวกับการรับและจัดการข้อร้องเรียน และการจัดให้มีช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า รวมทั้งจำนวนและความรู้ความสามารถของบุคลากรไม่เหมาะสมและเพียงพอให้บิทคับประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (trading rules) ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก...

หรือเหตุการณ์ในช่วง วันที่ 2 -21 .. “บิทคับ ออนไลน์มีระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย ระบบรับฝากและถอนทรัพย์สิน และระบบการแสดงยอดทรัพย์สินของลูกค้า ไม่เหมาะสมและเพียงพอให้บิทคับประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เป็นต้น จนทำให้ถูก ก...กล่าวโทษ หรือมีคำสั่งปรับเงิน และคำสั่งอื่น ๆ เข้ามาควบคุมอีกมากมาย

ป้ายโฆษณาชวนเชื่อเชื่อมต่อโลกอนาคต ที่ติดตามตอม่อ บนทางด่วน และท้องถนน ยังคงมีให้เห็นเต็มบ้านเต็มเมือง ขณะที่ “SCBX” ประกาศเลื่อนดีลซื้อหุ้นบิทคับออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ตรวจพบ บัญชีม้านอมินี

จากการตรวจสอบของ ก... ยังพบว่า บิทคับเคยมีปัญหาปรากฏเหตุระบบการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทขัดข้องในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 ต่อเนื่องถึงต้นเดือนมกราคม 2564 อันส่งผลกระทบก่อให้เกิดความเสียหายต่อลูกค้าของบริษัทเป็นวงกว้าง

คณะกรรมการ ก... ในการประชุมครั้งที่ 3/2564 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 สั่งการให้บริษัทระงับการเปิดรับลูกค้าใหม่ รวมถึงลูกค้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการยืนยันหรือเพื่อพิสูจน์ตัวตนเพื่อเปิดบัญชี หรือ KYC

มีข้อสังเกตว่า บิทคับตอนนั้นปล่อยผี การเปิดบัญชีไม่เป็นไปตาม ก... กำหนดโดยเฉพาะกรณีลูกค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มประเภทที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการพิจารณารับลูกค้าของบริษัทก่อน

ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ และหากที่ก่อนนี้ ผู้ก่อตั้งบิทคับ ระบุว่า บริษัทมีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าจำนวนมากหลัง BX ปิดตัวไปหลายแสนบัญชีที่เข้ามาในช่วงระหว่างนั้น ผ่านระบบ KYC เข้ามาได้อย่างไร? และใครเลยจะรู้ได้ว่า บัญชีกว่า 3 ล้านบัญชีที่บิทคับกวาดมาจะมีบัญชีตัวแทน หรือนอมินีหรือบัญชีม้า อยู่มากน้อยแค่ไหนหลุดลอดมา

Photo : Shutterstock

...ยังระบุว่า การพิสูจน์ตัวตนของลูกค้า และผู้รับประโยชน์ที่แท้จริงของลูกค้าบิทคับ (“enhanced KYC/CDD”) ของกลุ่มลูกค้าที่เป็น “market maker” จำนวน 17 ราย พบว่า  มีจำนวน 4 รายที่ไม่รัดกุม โดยบริษัทยังไม่ได้ enhanced KYC/CDD ซึ่งลูกค้า 4 รายดังกล่าวมียอดทรัพย์สินเป็นเงินสดและเหรียญเป็นจำนวนมากไม่สอดคล้องกับเอกสารหลักฐานที่แสดงศักยภาพทางการเงินของลูกค้าที่นำมา

ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจาก การพิสูจน์ตัวตนไม่ได้ว่าลูกค้าเป็นใคร หรือมีบัญชีม้า หรือนอมินีจำนวนมากในตลาด ย่อมทำให้เปิดช่องในการฟอกเงิน เลี่ยงภาษี ทำราคาซื้อขาย หรือปั่นเหรียญ ทำรายการที่ไม่เหมาะสม หรือธุรกรรมที่กระทำการผิดกฎหมาย

เรื่องนี้มีตัวอย่าง ของ อีลอน มัสก์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทเทสลา และสเปซเอ็กซ์ ที่เพิ่งประกาศ ตัดสินใจยุติการยื่นข้อเสนอมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อกิจการทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง เมื่อวันศุกร์ (8 ..) เพราะพบว่ามีการละเมิดข้อตกลงหลายอย่าง

โดยมัสก์ระบุว่า สาเหตุที่ไม่ไปต่อกับข้อตกลงซื้อกิจการนี้ก็เพราะทวิตเตอร์ล้มเหลวในการให้ข้อมูลที่เพียงพอเรื่องการ สแปม และบัญชีผู้ใช้ปลอม หรือ บัญชีม้า นั่นเอง

KUB Coin ไม่มีมาตรฐาน

เงื่อนงำของบิทคับยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะเพียงแค่เมื่อ ก...ประกาศมาตรการลงโทษผู้บริหารของบิทคับกับ Market Maker ได้ไม่เท่าไรก็มีคำสั่งออกมาอีกฉบับบิทคับ ออนไลน์แก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB เข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โดยให้ Bitkub ประสานกับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (BBT) ซึ่งเป็นผู้ออกเหรียญ KUB ดำเนินการแก้ไขมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์ของเหรียญ KUB ให้เป็นไปตามคะแนนที่ Bitkub ได้พิจารณาไว้เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 และให้ Bitkub แสดงหลักฐานอย่างชัดเจนต่อ ก... ว่า มาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจคของเหรียญ KUB เป็นไปตามคะแนนที่ Bitkub ได้พิจารณาไว้

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เมื่อ Bitkub ได้พิจารณาอนุมัติเหรียญ KUB เข้ามาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ ของ Bitkub โดยที่เหรียญ KUB มีคุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ที่จะได้รับอนุมัติเข้ามาซื้อขายตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัล (Listing Rule) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก...

Photo : Shutterstock

นั่นทำให้ ก... ได้ตรวจสอบการคัดเลือกเหรียญ KUB แล้ว พบว่า Bitkub มีการให้คะแนนการคัดเลือกเหรียญ KUB เพื่ออนุมัติให้เข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ ของ Bitkub ไม่เป็นไปตาม Listing Rule ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก... ขณะเดียวกัน Bitkub ได้ให้คะแนนในเรื่องมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์ในระดับที่สูงกว่ามาตรฐานและไม่เคยมีมาก่อนแต่ไม่ปรากฏหลักฐานและเอกสารที่แสดงให้เห็นว่า เหรียญ KUB มีเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่จริง

ให้คะแนนเหรียญตัวเองเวอร์

นอกจากนี้ Bitkub ยังให้คะแนนในหัวข้อการระดมทุนและหัวข้อส่วนลด Pre-ICO Sale ที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะของเหรียญ KUB ด้วย จึงทำให้ ก... เห็นว่า คะแนนการคัดเลือกเหรียญ KUB โดยรวมไม่ถึงเกณฑ์ที่จะอนุมัติเข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเมื่อราคาเหรียญ KUB จะดิ่งลงมาต่ำกว่า 100 บาท/เหรียญ หลังจาก ก...มีคำสั่งดังกล่าวออกมา เรียกได้ว่าผลกรรมของบิทคับกำลังทยอยถูกเปิดเผยออกมาตามกรรมที่ได้กระทำไว้อย่างต่อเนื่อง

แต่สิ่งที่ชวนให้น่าติดตามต่อสำหรับประเด็นดังกล่าว คือ การแก้ไขคะแนนของเหรียญ KUB Coin ให้ต้องกับเงื่อนไขของ ก...จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันได้หรือไม่ และเมื่อแก้ไขได้จะมีผลต่อราคาเหรียญในปัจจุบันมากน้อยเพียงใด

ขณะเดียวกันหากไม่สามารถแก้ไขได้ เหรียญ KUB จะสามารถซื้อขายบนกระดานเทรดต่อไปได้หรือไม่ รวมไปถึงนักลงทุนที่ถือเหรียญอยู่จะได้รับความยุติธรรมจากผลที่เสียหายที่เกิดขึ้นได้หรือเปล่า?

ลาก Kub Coin ขึ้นไปถึง 1,833%

Kub Coin เปิดตัวเมื่อวันที่ 20 ..2564 แต่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่นักเทรดคิด โดยการซื้อขายเปิดด้วยตัวแดงจากการเทขายอย่างหนัก ราคาร่วงจาก 30 บาทไหลรูดลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดที่ 12 บาท นักวิเคราะห์มองว่า นั่นคือภาพสะท้อนความเชื่อมั่นและปัจจัยพื้นฐานที่มีต่อ Kub Coin และเจ้ามือถือโอกาสทำกำไรตั้งแต่แรกเลย

แต่ราคา Kub Coin ที่เปิดตัวไม่สวยด้วยแดงเลือดสาดทำให้บรรดานักลงทุนเรียกร้องผ่านโซเชียลทวีตข้อความเรียกร้องให้ท๊อป จิรายุส ที่สร้างตัวตนให้แฟนคลับบนโลกออนไลน์รับรู้ถึงคนที่จะเปลี่ยนโลก เปลี่ยนชีวิตนักเทรด ให้เชื่อมั่นในเหรียญ Kub ออกมาช่วยเหรียญหน่อย ซึ่ง ท๊อป ก็ขานรับได้โพสต์ลงทวิตเตอร์ว่าเดี๋ยวคอยดูกัน

ว่ากันว่า ใน 2 วันแรกที่ KUB Coin สามารถขายได้ 50 ล้านเหรียญ จากนั้นราคาก็ร่วงลงมาเหลือ 13-14 บาท เนื่องจาก ก... มองเห็นสัญญาณอันตราย จึงตั้งกฎว่า ห้ามบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ซื้อขายออกเหรียญเองเทรดเอง เพราะขัดแย้งผลประโยชน์ แม้จะไม่มีผลย้อนหลัง แต่ทำให้ศูนย์ซื้อขายอื่นๆ ทำไม่ได้จนเกิดเป็นดราม่ากัน

หลังจากนั้น ปรากฏในเวลาต่อมาเพียง 1 เดือน บิทคับต้องออกประกาศไวท์เปเปอร์ V2 ออกมา ซึ่งหนึ่งในประเด็นสำคัญ คือ การเผาเหรียญทิ้ง 89% หรือ จาก 1,000 ล้านเหรียญให้เหลือเพียง 110 ล้านเหรียญ เพื่อดึงราคา และสภาพคล่องให้ Kub Coin

ทว่า จุดเปลี่ยนของ Kub Coin ก่อนที่ราคาถูกปั่นทะลุเมฆต้องบอกว่า มาจากข่าวการเข้ามาซื้อหุ้นของผู้เล่นรายใหญ่ SCBX ค่ำคืนวันที่ 2 .. 2564 ราคาเหรียญขยับจากเดิมที่ระดับ 30-33 บาทต่อ 1 เหรียญ พุ่งสูงขึ้นถึง 98 บาทต่อเหรียญ หรือกว่า 196%

แต่หลังจากราคา KUB Coin ขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 28 .. 64 ที่ราคา 580 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่าราคาตั้งต้นกว่า 1,833% ได้ไม่นาน ก็มีแรงเทขายอย่างหนักในช่วงเช้าวันที่ 30 ..2564 ส่งผลให้ราคาเหรียญดิ่งเหวลงไปอยู่ต่ำสุดของวันที่ 150 บาท หรือ ร่วงไป 70%

สองมาตรฐาน รายย่อยตาย อุ้มรายใหญ่

ขณะเดียวกันยังมีข่าวประเภทบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่ไหลออกมาต่อเนื่อง อย่างเช่น ล่าสุด ในกรณีของ บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN และ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ลงทุนเหรียญ KUB Coin เข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับบิทคับเพื่อวัตถุประสงค์การเป็นพาร์ตเนอร์ในการเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validator Node) ในระบบการตรวจสอบธุรกรรมบล็อกเชน (Block chain)

โดย บมจ.โปรเอ็น คอร์ป ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 2.5 แสนเหรียญ ในราคาลงทุนเฉลี่ยเหรียญละ 291 บาท (ประมาณ 72.9 ล้านบาท) เมื่อราคาเหรียญปรับตัวลงมา ล่าสุด ( 31 ..) ราคาเหรียญเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 112 บาทต่อ 1 เหรียญ นั่นทำให้มูลค่าลงทุนของ PROEN ลดลงไปประมาณ 179 บาท หรือกว่า 159%

ส่งผลให้นักลงทุนที่ถือหุ้น PROEN ตัดสินใจเทขายหุ้นออกมา เนื่องจากกังวลว่าบริษัทจะได้รบผลกระทบจากการลงทุนในเหรียญ KUB ทำให้ผู้บริหารบริษัทต้องออกมาชี้แจง (31 ..) ว่า การร่วมลงทุนกับ Bitkub นั้นมีข้อตกลงในการยืนยันการรับประกันราคาซื้อคืนขั้นต่ำเมื่อครบกำหนดภายในวันที่ 31 .. 2566 ที่ไม่ต่ำกว่าราคาต้นทุน แต่หากราคาซื้อขายสูงกว่าบริษัทจะได้รับส่วนต่างกำไรทั้งหมด

Closeup – Woman is checking Bitcoin price chart on digital exchange on smartphone, cryptocurrency future price action prediction.

ขณะที่ บมจ.ทีวี ไดเร็ค หรือ TVD ทำสัญญาซื้อเหรียญ KUB Coin ที่ราคา 104.26 บาท/เหรียญ จำนวน 125,000 เหรียญ ใช้เงินทุนราว 13 ล้านบาท โดยทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงรองรับในระดับ 12% หรือจำนวน 15,000 เหรียญ ราคาซื้อคืนที่ 90 บาท ระยะเวลาสัญญา 1 ปี

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 กรณี ทำให้เริ่มมีหลายฝ่ายมองว่า เป็นการเอาเปรียบนักลงทุนทั่วไปหรือไม่? เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องยอมรับความเสี่ยงต่อการขึ้นลง หรือความผันผวนของราคาเหรียญด้วยตนเอง และบิทคับก็ไม่มีมาตรการอะไรออกมารับรอง

คำถามก็คือ พฤติการณ์ช่วงโปรโมชัน KUB ราคาดิ่งเหว ช่วยเหลือพันธมิตรด้วยการอุ้มสมประกันราคา โดยที่มีมาตรฐานไม่เท่ากันกับรายย่อยที่อยู่บนดอยสูงของเจ้าของเหรียญ KUB เพื่อดันราคาของ KUB ให้สูงขึ้น เพื่อมิให้มูลค่าของตลาดซื้อขายคริปโตของบิทคับดูราคาต่ำไปด้วย เพียงเพื่อให้ SCBX ไม่ทิ้งดีล

ค่าต๋งแพง โขกค่าธรรมเนียมสูง

บิทคับ เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตสูงเป็นที่ต้องตาของ SCBX นั้น ถูกพบว่า บิทคับ คิดค่าธรรมเนียมในการเทรด 0.25% ไปกลับซื้อขาย เก็บค่าต๋ง 0.50% ถือว่าแพงกว่า กระดานเทรดคริปโตรายอื่นๆ หรือ อย่างไบแนนซ์กว่าเท่าตัว และเมื่อมีการทำรายการถอนบิทคับ จะคิดค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อรายการกับนักลงทุน ซึ่งว่ากันว่าเป็นค่าธรรมเนียมที่มหาโหดที่คนในวงการการเงินมองว่า บิทคับเอากำไรเกินควร ทั้งๆ ที่แบงก์คิดค่าธรรมเนียมค่าบริการกับบิทคับเพียง 3 บาทต่อรายการ แต่บิทคับเอามาเรียกเก็บจากลูกค้าเพิ่มถึง 17 บาท

ปั่นเยาวชน มอมเมาด้วยการตลาด

สิ่งที่สังคมรับไม่ได้ และ เห็นว่า ไทยพาณิชย์ต้องคิดให้รอบคอบในการเข้าลงทุนเทกโอเวอร์บิทคับ ก็คือ การทำการตลาดของยูนิคอร์นรายนี้ที่ทำทุกวิถีทางที่จะได้ลูกค้ามาเปิดบัญชีเทรดกับตลาดตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่เยาวชนที่อ่อนด้อยประสบการณ์ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ไทยพาณิชย์จะได้รับคือ การซื้อบ่อนพนัน

จากทั้งหมด บทสรุปของบิทคับ จากสตาร์ทอัป อัปเกรดขึ้นมาเป็นยูนิคอร์นภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยการขี่กระแสขาขึ้นของบิตคอยน์พร้อมกับความพยายามในการสร้างลัทธิหรือการสร้างภาพให้ธุรกิจและตัวของท๊อปจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ให้เป็นดั่งเจ้าลัทธิที่ปลุกเร้าเจ้าของธุรกิจ ชนชั้นอีลิท และ คนดัง ด้วยการตั้งโปรแกรม “ Chosen1” ทุ่มงบประมาณการตลาดมากมายมหาศาล ชวนเชื่อให้เชื่อไปในแนวทางเดียวกันกับบิทคับ ว่า บิทคับคือผู้ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกการเงิน และเชื่อมต่ออนาคตด้วยนวัตกรรมใหม่ พร้อมกับการปูพรมกวาดต้อนนักลงทุนหน้าใหม่ไร้ประสบการณ์ นักเรียนมัธยม เด็กมหาวิทยาลัย ที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองด้วยแคมเปญเช่น 10 บาทก็ลงทุนได้ สะท้อนให้เห็นว่า บิทคับนั้นเอาการตลาดนำหน้าเพื่อรายได้ เพื่อผลกำไรทางธุรกิจ มากกว่าผลลัพธ์การพัฒนาตลาดคริปโตฯ

ธรรมาภิบาลแบบนี้ ไทยพาณิชย์ ไม่เทไหวหรือ?

อ่านเพิ่มเติม

]]>
1392049
ให้คะแนนเหรียญตัวเองสุดเวอร์ ก.ล.ต.ชี้เหรียญ KUB ขาดคุณสมบัติเทรด บี้ “บิทคับ” แก้ไขใน 30 วัน https://positioningmag.com/1390887 Fri, 01 Jul 2022 07:23:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1390887 บอร์ด ... ชี้ บิทคับ ให้คะแนนเหรียญตัวเองสุดเวอร์ KUB ขาดคุณสมบัติเข้ามาเทรดในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ขีดเส้นแก้ไขให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน

คณะกรรมการ ก... ในการประชุมครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.. 2561 (... สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ออกประกาศฉบับที่ 108 / 2565 สั่งการให้ Bitkub แก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB ในการเข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (ศูนย์ซื้อขายฯ) ของ Bitkub ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565

โดยให้ Bitkub ประสานกับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (BBT) ซึ่งเป็นผู้ออกเหรียญ KUB โดยให้ BBT แก้ไขมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจคของเหรียญ KUB ให้เป็นไปตามคะแนนที่ Bitkub ได้พิจารณาไว้เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 และให้ Bitkub แสดงหลักฐานอย่างชัดเจนต่อ ก... ว่า มาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจกต์ของเหรียญ KUB เป็นไปตามคะแนนที่ Bitkub ได้พิจารณาไว้

สืบเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 Bitkub ได้พิจารณาอนุมัติเหรียญ KUB เข้ามาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ ของ Bitkub โดยที่เหรียญ KUB มีคุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ที่จะได้รับอนุมัติเข้ามาซื้อขายตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัล (Listing Rule) ของ Bitkub ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ... 

โดย ก... ได้ตรวจสอบการคัดเลือกเหรียญ KUB แล้ว พบว่า Bitkub มีการให้คะแนนการคัดเลือกเหรียญ KUB เพื่ออนุมัติให้เข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ ของ Bitkub ไม่เป็นไปตาม Listing Rule ของ Bitkub ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ... โดย Bitkub ให้คะแนนในเรื่องมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจคในระดับที่ “สูงกว่ามาตรฐานและไม่เคยมีมาก่อน แต่ไม่ปรากฏหลักฐานและเอกสารที่แสดงให้เห็นว่า เหรียญ KUB มีเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่จริง 

นอกจากนี้ Bitkub ยังให้คะแนนในหัวข้อการระดมทุนและหัวข้อส่วนลด Pre-ICO Sale ที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะของเหรียญ KUB ด้วย จึงทำให้ ก... เห็นว่า คะแนนการคัดเลือกเหรียญ KUB โดยรวมไม่ถึงเกณฑ์ที่จะอนุมัติเข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้

ทั้งนี้หลังจากที่ทาง ก... ได้ออกประกาศฯ ล่าสุด ณ เวลา 23.15 . (30 มิ..) พบว่าราคาเหรียญ Kubcoin ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 92 บาท/เหรียญ จากราคาที่สูงที่สุดของวันนี้ที่ 107 บาท/เหรียญ

Source

]]>
1390887
เจาะแผน Bitkub ปั๊มบัญชีลูกค้า แจกฟรีเครดิตเทรดไม่ต่างเว็บพนัน https://positioningmag.com/1383855 Thu, 05 May 2022 04:10:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1383855 บทความโดย iBit

“บิทคับ” เร่งสร้างความเชื่อมั่น หลังราคาเหรียญคู่บุญ KUBcoin หล่นวูบสวนทางผลประกอบการ ปูพรมแจกของพรีเมียมหวังโกยเรตติ้ง ลือราคาเหรียญที่หดตัวอาจกดดันดีลเข้าร่วมยานแม่ SCBX ถูกลดมูลค่า ขณะที่โปรโมชันเรียกแขกแจกฟรีเครดิตเทรดก็โดนข้อครหา ไม่ต่างจากเว็บพนันออนไลน์

เมื่อเร็วๆ นี้ Bitkub ประกาศงบผลประกอบการงวดบัญชี ปี 2564 รวยอู้ฟู่ฟันกำไรกว่า 2.54 พันล้านบาท จากรายได้รวมกว่า 5.16 พันล้านบาท มากกว่าปี 2563 ที่มีรายได้เพียง 325 ล้านบาท และกำไร 79 ล้านบาท จากการโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์ดึงนักลงทุนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดซื้อขายคริปโตฯ ชูจุดขาย 10 บาทก็เทรดได้ โขกค่าธรรมเนียมการซื้อหรือขายต่อครั้งกว่า 0.25% และค่าบริการการโอนต่อรายการที่แพงระยับกว่า 20 บาทต่อรายการ

ยิ่งห้ามยิ่งโฆษณา

รายได้และกำไรของบิทคับยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นบริษัทที่นำหน้าด้วยการตลาด หรือมาร์เกตติงคอมปะนี ที่ไม่ว่าผู้คนจะเดินไปไหนก็พบเห็นป้ายโฆษณาเชิญชวนอยู่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นแม้กระทั่งลูกค้าเข้าแถวแคชเชียร์รอจ่ายเงินร้านสะดวกซื้อที่ขึ้นวิดีโอโฆษณาชวนเปิดบัญชีเทรด 10 บาทก็ลงทุนได้ ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่ใช้งบลงทุนเพื่อการโฆษณาอย่างบ้าคลั่ง แต่นำมาซึ่งรายได้และผลกำไรที่มากขึ้น

การวางยุทธศาสตร์การตลาดของบิทคับยังใช้ “ท๊อป” จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ร่วมก่อตั้งเป็น LOGO จุดขาย ควบคู่ไปกับว่าจ้างอินฟลูเอนเซอร์ในทุกวงการ จ้างปฏิบัติการข่าว หรือไอโอ สร้างคอมมูนิตี สร้างอีเวนต์ คอยป้อนชุดความเชื่อ และกระตุ้นความคิดของเยาวชนให้สร้างความมั่งคั่งในยุค 5G ผ่านการลงทุนในธุรกิจศูนย์แลกเปลี่ยนซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี และ สินทรัพย์ดิจิทัล NFT ยังคงถูกดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และแผนในอนาคตกับการขยายอาณาจักรไปยัง metaverse ถูกยกเป็นโปรเจกต์สำคัญต่อผลักดันราคาเหรียญ และรายได้ขององค์กร

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ บิทคับ เป็นลัทธิ ที่มีคนเปรียบเทียบว่าแทบไม่ต่างกับ ลัทธิธรรมกาย ซึ่งว่าด้วยการโฆษณาคริปโตฯ หรือเชิญชวนให้คนมาลงทุนในคริปโตฯ ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าไม่เหมาะสม เพราะมีแต่ข้อความในด้านดี ไม่มีระบุถึงความเสี่ยง หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับการลงทุน ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ระหว่างการพิจารณา “ห้ามโฆษณาในพื้นที่สาธารณะ” และต้องมีข้อความกำกับทุกครั้งถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับผู้ลงทุน

แต่ดูเหมือนว่า ท๊อป จิรายุส และบิทคับ อาศัยความเชื่องช้าของ ก.ล.ต. ยิ่งโฆษณาหนักขึ้น โดยเฉพาะความสนใจของสาธารณะ ทั้งการเข้าไปเป็นสปอนเซอร์สมาคมฟุตบอล แมตช์การแข่งขัน “แดงเดือด” ระหว่างสโมสรฟุตบอลชื่อดัง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล แถมยังโพสต์เรียกความสนใจว่าจะอยากจะซื้อสโมสรฟุตบอลของไทย รวมไปถึงการทำ CSR เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าฐานราก พ่อค้า แม่ค้า เช่น การแจกร่มขนาดใหญ่ให้พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดคลองเตย หวังสร้างกระแสบิทคับ และการรับรู้แบรนด์บิทคับในพื้นที่สาธารณะ ไม่เว้นแม้แต่ตลาดสด

ทั้งนี้ Bitkub รายงานว่าในส่วนรายได้ของธุรกิจนั้นมาจากค่าธรรมเนียมและบริการถึง 5.16 พันล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบรายได้ของปี 2563 กับ 2564 พบว่า มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก โดยในปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 330 ล้านบาท ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยในปี 2563 มีกำไร 79 ล้านบาทเพียงเท่านั้น

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจเมื่อดูผลประกอบการของ Bitkub คือ ในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการของธุรกิจที่เติบโตก้าวกระโดด แสดงให้เห็นว่าปริมาณการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มของ Bitkub มากขึ้น ส่วนจะมาจากไหนอย่างไรนั่นเป็นคำถาม เพราะต้องไม่ลืมว่า ก.ล.ต. เคยลงโทษบิทคับ และสั่งให้แก้ไขกรณี “การพิสูจน์ตัวตน” หรือ KYC ของลูกค้า และมาร์เกตเมกเกอร์ที่พบว่าไม่มีตัวตน หรือพิสูจน์ไม่ได้ หรือ “บัญชีม้า” จำนวนหนึ่ง**

แต่หาก เทียบค่าธรรมเนียมกับกระดานเทรดอื่นๆ นั้น ในประเทศไทยนั้น Bitkub และ Bitazza และ Z.com EX ที่มีค่าธรรมเนียมที่ 0.25% ขณะที่ Satang และ Zipmex มีค่าธรรมเนียมอยู่ที่เพียง 0.2% ขณะที่กระดานเทรด Binance ซึ่งเป็นกระดานเทรดอันดับ 1 ของโลก มีค่าธรรมเนียมเพียง 0.1% เท่านั้น

KUB ร่วงหนักสวนผลกำไร

สำหรับในปี 2564 ที่ผ่านมา Bitkub มีกิจกรรมต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อรายได้ทางธุรกิจต่อบริษัทมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกเหรียญประจำกระดานเทรด ที่กำหนดราคา 1 KUBcoin เท่ากับ 30 บาท หรือ 1 USD เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2564 โดยเริ่มเปิดการซื้อขายครั้งแรกด้วยราคา 30 บาท และกำหนดจำนวนเหรียญไว้ทั้งหมด 1,000 ล้านเหรียญ แต่ราคากลับดิ่งสู่ระดับ 12-13 บาท ทำให้บริษัทแก้เกมโดยการเผาเหรียญ KUB ทิ้ง 89% ของจำนวนทั้งหมดให้เหลือเหรียญในระบบแค่ 110 ล้านเหรียญเท่านั้น และหลังจากนั้นสร้างข่าวจุดพลุเก็งกำไร โดยเฉพาะการสร้างจุดที่พีกด้วยการนำเหรียญ KUB จะเป็นช่วงข่าวการนำเหรียญไปลิสต์ใน 3 กระดานเทรดต่างประเทศ ได้แก่ Gate.io, CoinEx และ MEXC Global จนราคาเหรียญ KUB พุ่งทะยานสูงสุดสร้างสถิติแตะ 580 บาท/เหรียญ

สิ่งที่น่าสนใจคือหลังจากนั้น เหรียญ KUB ไม่เคยกลับไปยืนเหนือจุดเดิมได้อีกเลย และล่าสุดยังคงไหลลงอย่างต่อเนื่อง จนไม่อาจคาดเดาได้ว่าสุดท้ายแล้วเหรียญ KUB ราคาจะหยุดอยู่ที่เท่าไหร่ นั่นเพราะล่าสุด (3 พ.ค.) ณ 16.15 น. เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 170.82 บาท ซึ่งปรับตัวลดลงกว่า -70% จากจุดสูงสุดที่เคยทำได้ที่ 580 บาท/เหรียญ เมื่อช่วงปลายปี 2564

สถานการณ์ดังกล่าวกลาย เป็นหนึ่งประเด็นเหรียญร้อนแรงที่สุดในรอบวันของกลุ่มนักลงทุนคริปโตฯ ที่ราคาเหรียญ KUBcoin ซึ่งเป็นเหรียญคู่บุญกระดานเทรด Bitkub ปรับตัวร่วงลงเหวอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาแรมเดือนแล้ว โดยยังไม่สามารถหาจุดสิ้นสุดของราคาได้ หลังร่วงลงจากช่วงราคา 280 บาท ลงมาระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ระดับ 161 บาท

ทำให้หลายคนเชื่อว่าแม้ว่าผลประกอบการของ Bitkub จะประกาศออกมาเติบโตค่อนข้างดี แต่ในความเป็นจริงแล้วผลประกอบการไม่ได้ส่งผลต่อราคาเหรียญโดยตรง เนื่องจากเหรียญ KUB เป็น Utility ที่ใช้ร่วมกับ Bitkub Chain ในวงจำกัด

ขณะเดียวกัน การดิ่งเหวของราคาเหรียญ KUB จะส่งผลในเชิงจิตวิทยาและวิกฤตศรัทธาของเหล่าสาวกเหรียญ KUBcoin ซึ่งในหลายๆ กลุ่ม Facebook ที่เคยมีเหล่าแฟนคลับบูชา “ท๊อป” จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นดั่งศาสดา ปัจจุบันกลับกลายเป็นเหมือนหนังคนละม้วน เพราะมีนักลงทุนจำนวนมากติดค้างขาดทุนจากการเข้าซื้อเหรียญในช่วงที่ราคาสูง จากแรงกาวของเหล่าบรรดาสาวกที่สร้างความเพ้อฝันช่วยกันเชียร์ว่า KUBcoin อาจจะทะลุไปถึง 1,000 บาท/เหรียญ จึงแห่เข้าไปเก็งกำไรจำนวนมาก

ต่อมาเมื่อราคาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ไม่สามารถ Cut Loss ขายออกไปได้ทัน ทำให้ขาดทุนอย่างหนัก จนมีการเรียกร้องให้ “ท๊อป” จิรายุส ทำอะไรสักอย่างเพื่อเบรกราคาเหรียญไม่ให้ปรับตัวลดลงไปมากกว่านี้ ขณะที่ในอีกมุมหนึ่งของนักลงทุนมองว่าจะหาโอกาสเข้าซื้อเหรียญ KUB หากกลับลงมาที่ 20-25 บาท ซึ่งอาจเป็นราคาพื้นฐานเหรียญที่เหมาะสม

และจากราคาเหรียญ KUBcoin ที่ร่วงลงหนัก ทำให้หลายฝ่ายเริ่มประเมินว่าดีลการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของยานแม่ SCBX อาจไม่ประสบความสำเร็จ นั่นเพราะเมื่อพิจารณาจากราคาเหรียญค้ำจุนองค์กรที่ลดลงอย่างมาก ย่อมทำให้มูลค่าในการเข้าลงทุนของ SCBX ใน Bitkub อาจไม่จำเป็นต้องใช้มูลค่าเท่าเดิม โดยอาจถูกปรับลดลงไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์ หรือยกเลิกดีลดังกล่าวเพราะอาจไม่คุ้มค่าลงทุนนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น นั่นย่อมสะท้อนว่าธุรกิจดังกล่าวไม่สามารถช่วยตอบโจทย์ให้ SCBX เติบโตก้าวไกลไปได้

ปั่นโปรฯ แจกเครดิตให้เล่นไม่ต่างจากบ่อนออนไลน์

นอกจากนี้ ด้วยแผนการตลาดที่แยบยลเจาะทุกเป้าหมายของ Bitkub แม้จะให้คุณในการสร้างจำนวนยอดผู้เข้าใช้งานเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่การที่บริษัทนิยมจัดโปรโมชันล่อใจมือใหม่ด้วยการแจกฟรีเครดิตเทรดมูลค่า 200-500 บาท หรือแจกเป็นเหรียญคริปโตฯ มูลค่า 300 บาทนั้น เริ่มทำให้มีหลายคนมองว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรกับเว็บพนันออนไลน์ที่มักจะล่อตาล่อใจผู้ลงทุนหน้าใหม่ด้วยการแจกเครดิตให้เข้ามาลงทุนในเว็บไซต์ของตน ซึ่งทำให้อาจเข้าข่ายมอมเมาคนที่ไม่มีความรู้ความเข้าในการลงทุนเหรียญคริปโตฯ ได้ดีพอ

ปัจจุบันนักลงทุนบางส่วนยังเริ่มเชื่อว่าดีลการเข้าร่วมยานแม่ SCBX ของ “บิทคับ” อาจต้องถอยออกมา หรือมีการปรับแก้ใหม่อีกครั้งให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะแม้ SCBX จะอยากได้ Bitkub เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแผนเติบโตทางธุรกิจ แต่คงไม่ปรารถนาคว้าธุรกิจที่ยอดบัญชีลูกค้าเริ่มทรงตัว อีกทั้งเหรียญคู่บุญอย่าง KUBcoin อยู่ในช่วงขาลงแบบที่ต่ำมาก นั่นจะทำให้จุดคุ้มทุนที่คำนวณไว้จำเป็นต้องเลื่อนออกไป

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็น Bitkub มุ่งสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคและประชาชน ด้วยการเร่งเดินสายการตลาดไล่แจกสินค้า พรีเมียมของบริษัท และเพื่อผลักดันให้มูลค่าเหรียญให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง

Source

อ่านเพิ่มเติม

]]>
1383855
KUBCOIN เจ้ามือรวย แมงเม่าม้วยมรณา https://positioningmag.com/1377337 Mon, 14 Mar 2022 03:56:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1377337 ย้อนรอยอภินิหาร “Kubcoin” จากเหรียญมโนสู่เหรียญทองคำ ราคาจาก 30 บาทลากขึ้นไป 500 กว่าบาท หรือขึ้น 1,800% ก่อนเจ้ามือทุบจนแมงเม่าแดดิ้น ก.ล.ต. ลั่นตรวจสอบถึงที่สุด สะท้อนภาพความน่าเชื่อถือตลาดไทย เหรียญไทย อันตรายไม่ต่างจากบ่อนพนัน ฝันเทียบสากลยังห่างไกล คนต้องมนต์ต้องคิดให้หนัก

จากกรณี “ซูเปอร์ดีล” ที่กลุ่มธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)” จะเข้าซื้อหุ้นบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) 51% คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.78 หมื่นล้าน เพื่อเป็นทางลัดเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) เริ่มมีคำถามว่า จะได้คุ้มกับเสียหรือไม่? (ดังรายละเอียดตอนที่ 1) ขณะที่ฝั่งของสตาร์ทอัป บิทคับ (Bitkub) โดย กลุ่มของ “ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ผู้ก่อตั้งวิเคราะห์กันว่า มีได้กับได้ โดยเด้งแรกที่ได้คือ เงินจากการขายหุ้นให้ SCBX ที่ส่งผลให้จากสตาร์ทอัปที่เพิ่งก่อตั้งมาเพียงไม่กี่ปีกลายร่างเป็น “ยูนิคอร์น” ตัวใหม่ของประเทศ และ อีกเด้ง คือ มูลค่าราคาของ Kubcoin เหรียญของ Bitkub เองที่ราคาพุ่งสร้างอภินิหารที่ตามมาด้วยข้อสงสัยมากมาย

KUB Cion เริ่มจากเหรียญมโน??

ตามข้อมูลในไวท์เปเปอร์ V1 ของ Bitkub ระบุว่า Bitkub Coin (KUB) คือ เหรียญประจําเครือข่าย Bitkub Chain (เปรียบได้กับ Ether บน Ethereum Network) ทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนเครือข่ายกระจายศูนย์ โดยจะมีหน้าที่เป็น Gas เช่นการสร้างบล็อกเชนใหม่ การทําธุรกรรมบนเครือข่าย Bitkub Chain หรือ เครือข่าย Smart Contracts เช่น การโอนทรัพย์สิน, การจัดเก็บข้อมูลและอื่นๆ และ สามารถนําไปแลกเป็น Fee Credits หรือค่าธรรมเนียมในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลบนกระดานเทรด Bitkub

เรียกว่า Kub เป็น Utility Token ที่บิทคับเขียนแผนวาดฝันโฆษณาชี้ชวนกับนักลงทุน จะให้เป็นตัวอย่างของเหรียญคริปโตพันธุ์ไทยที่จะผลักดันให้มีการใช้เชื่อมต่อการทำธุรกรรมต่างๆ บนเครือข่ายของพวกเขา ไม่ต่างจากเครือข่ายของอีเทอร์เลียมในระดับสากล โดย Bitkub จะทำการออกเหรียญทั้งหมด 1,000 ล้านเหรียญ คำนวณมูลค่าที่เหมาะสมไว้ที่ราคา 30 บาทต่อ 1เหรียญ หรือ จะระดมทุนได้กว่า 30,000 ล้านบาท!

Photo : Shutterstock

ทว่า ในแวดวงสตาร์ทอัปขณะนั้นหลังจากได้เข้าไปดูไวท์เปเปอร์ V1 ของบิทคับต่างพากันประหลาดใจไม่น้อย ที่แผนนอกจากจะให้รายละเอียดไม่มากนัก ไม่ต่างกับการ “มโน” ที่ KUB ไม่มีมูลค่าอะไรในตัวเอง หรือ ปัจจัยพื้นฐานอะไรรองรับ แต่กลับการเล่นใหญ่ด้วยการตั้งเป้าระดมกว่า 30,000 ล้าน และ ชี้ชวนให้เห็นว่า Kubcoin คือเงินอนาคตจะมาเปลี่ยนโลกธุรกิจ “Kubcoin is Futureof Thailand” ทำไมหน่วยงานกำกับดูแลถึงกล้าปล่อยให้มีการระดมทุนหลายหมื่นล้านได้เลยหรือ?

มิหนำซ้ำ ยังมีคำถามว่า เจ้าของสามารถเสกเหรียญขึ้นมาเพื่อขายเอาเงินไปใช้ในโครงการ แถมยังเทรดในตลาดตัวเองเก็งกำไรสูงต่ำหูดับตับไหม้ ลักษณะไม่แตกต่างจากยกบ่อนพนันออนไลน์ขึ้นมาเล่นอย่างถูกกฎหมายใช่หรือไม่??

ที่สำคัญ จากไวท์เปเปอร์ แสดงให้เห็นถึง บิทคับ ตั้งใจปล่อยเหรียญออกมาขายในตลาดตัวเองเรื่อยๆ โดยอ้างว่า เป็นค่าพัฒนาธุรกิจ สภาพคล่อง และพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งถ้าเป็นไปตามโรดแมปย่อมหมายถึงเม็ดเงินมหาศาลที่จะเข้ากระเป๋าเจ้าของเหรียญอย่างง่ายดาย

อภินิหาร Kubcoin จาก 30 บ. ราคาปั่นขึ้นไป 1,833%

Kubcoin เปิดตัวเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2564 แต่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่นักเทรดคิด โดยการซื้อขายเปิดด้วยตัวแดง จากการเทขายอย่างหนัก ราคาร่วงจาก 30 บาทไหลรูดลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดที่ 12 บาท นักวิเคราะห์มองว่า นั่นคือ ภาพสะท้อนความเชื่อมั่นและปัจจัยพื้นฐานที่มีต่อ Kubcoin และเจ้ามือถือโอกาสทำกำไรตั้งแต่แรกเลย

ราคา Kubcoin ที่เปิดตัวไม่สวยด้วยแดงเลือดสาดทำให้บรรดานักลงทุนเรียกร้องผ่านโซเชียลทวิตข้อความเรียกร้องให้ท๊อป จิรายุส ที่สร้างตัวตนให้แฟนคลับบนโลกออนไลน์รับรู้ถึงคนที่จะเปลี่ยนโลก เปลี่ยนชีวิตนักเทรด ให้เชื่อมั่นในเหรียญ Kub ออกมาช่วยเหรียญหน่อย ซึ่ง ท๊อป ก็ขานรับได้โพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า “เดี๋ยวคอยดูกัน”

ว่ากันว่า ใน 2 วันแรกที่ Kubcoin สามารถขายได้ 50 ล้านเหรียญ จากนั้นราคาก็ร่วงลงมาเหลือ 13-14 บาท เนื่องจากคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. มองเห็นสัญญานอันตราย จึงตั้งกฎว่าห้ามบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ซื้อขายออกเหรียญเองเทรดเองเพราะขัดแย้งผลประโยชน์ แม้จะไม่มีผลย้อนหลัง แต่ทำให้ศูนย์ซื้อขายอื่นๆ ทำไม่ได้จนเกิดเป็นดราม่ากัน

หลังจากนั้น ปรากฏในเวลาต่อมาเพียง 1 เดือน บิทคับ ต้องออกประกาศไวท์เปเปอร์ V2 ออกมา ซึ่งหนึ่งในประเด็นสำคัญ คือ การ “เผาเหรียญ” ทิ้ง 89% หรือ จาก 1,000 ล้านเหรียญให้เหลือเพียง 110 ล้านเหรียญ เพื่อดึงราคา และ สภาพคล่องให้กับ Kubcoin

ทว่า จุดเปลี่ยนของ Kubcoin ก่อนที่ราคาถูกปั่นทะลุเมฆก็ต้องบอกว่า มาจากข่าวการเข้ามาซื้อหุ้นของผู้เล่นรายใหญ่ SCBX ค่ำคืนวันที่ 2 พ.ย. 2564

ราคาเหรียญขยับจากเดิมที่ระดับ 30 – 33 บาท ต่อ 1 เหรียญ พุ่งสูงขึ้นถึง 98 บาทต่อเหรียญ หรือกว่า 196%

จากนั้น “สตอรี่” เพื่อสนับสนุนให้เหรียญดูมีค่ามีราคาต่างๆ ก็ผุดขึ้นมาเป็นราววางพล็อตซีรีส์เกาหลีนั่นคือ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. “ท๊อป จิรายุส” นำทีมเปิดตัว “Bitkub NFT” ซึ่งเป็น Official Project แพลตฟอร์มของ Bitkub Chain ประโคมโอ่ว่า เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้ามาสัมผัสและเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นกระแสระดับโลก

สิ่งที่ช่วยเพิ่มแรงดึงดูดของ Bitkub NFT คือการดึงคนที่มีชื่อเสี่ยง เข้ามาร่วมซื้อขาย อาทิ บี้ เดอะสกา, ปลื้ม VRZO, เก๋ไก๋สไลเดอร์ ฯลฯ เข้ามาเปิดขายในแพลตฟอร์มดังกล่าว

ข่าวดีประกอบกับ การตีปี๊บสร้างกระแสจากอินฟูเอนเซอร์ทำให้ราคา Kubcoin ในช่วงนั้นซึ่งขยับขึ้นไปอยู่ที่ 123 บาทต่อ 1 เหรียญ ส่งผลจิตวิทยาทำให้บรรดานักเทรดมือใหม่ นักเรียน นักศีกษา เหล่านักลงทุนรายย่อยมองเห็นโอกาสเข้าตลาดหากำไร ไม่ต้องคิดมากแห่แหนเข้ามาเทรด Kubcoin กันอย่างคึกคัก ยิ่งทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นไปอย่างบ้าคลั่ง กระทั่งดีดตัวเพิ่มขึ้นไปจนถึงระดับ 500 บาทต่อ 1 เหรียญ เพิ่มขึ้น 306.50% ทำจุดสูงใหม่เป็นประวัติการณ์ (All Time High) เป็นอภิหารที่ไม่มีวันลืมเลือนของนักเทรด หรือนักรบของบิทคับ

ปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้สาวกหรือผู้ที่ชื่นชอบใน Bitkub ที่ทำกำไรได้สุดโต่ง ประกาศจะแก้ผ้าวิ่งหน้าบริษัท Bitkub ทำเอา “ท๊อป จิรายุส” ปลื้มส่งข้อความผ่านทวิตฯ กลับว่าถ้าจะวิ่งขอเป็น Bikini สีเขียวจะดีกว่า

ขณะที่ ณ เวลานั้น นักวิเคราะห์หลายคนที่กังวลว่าราคาของเหรียญอาจมีการปรับฐานร่วงลงได้ตามกลยุทธ์ Sell on Fact ส่วนด้านเหตุและผลของคำกล่าวอ้าง ในเวลานั้นคือ มูลค่าราคาเหรียญ KUB ที่ระดับ 500 บาทต่อ1 เหรียญนั้นมาจากสภาวะตลาดที่มีการเข้าซื้อมากจนเกินไป (Over bought)

แต่ใช่ว่า Kubcoin จะหยุดเพียงเท่านี้ เพราะหลังจากดูเหมือนจะหมดสตอรี่สร้างราคาให้เหรียญ จนราคาร่วงลงมาต่ำกว่า 240 บาทต่อเหรียญอีกครั้ง ปรากฏ Kubcoin ก็สร้างอภินิหารสำแดงเดชส่งท้ายปี ในวันที่ 28 พ.ย. เมื่อทางกลุ่มประกาศข่าวดี Kubcoin ถูกนำไปเทรดในกระดานระดับโลกแล้วถึง 3 ตลาด จนราคาขยับไปที่ 580 บาทต่อ 1 เหรียญ หรือ 1,833% จากราคาตั้งต้นของเหรียญที่ระดับ 30 บาทต่อ 1 เหรียญ

วันมหาวิปโยคปั่นแล้วทุบ?

อย่างไรก็ดี การลงทุนมีความเสี่ยง การเทรดคริปโตที่ว่ากันว่าเป็นตลาดซิ่ง ที่ขึ้นสูงสุดสอยอยู่บนดอยฟ้ากว้างฉันใดก็ดำดิ่งลงก้นเหวได้พลันเช่นกัน หรือเรียกว่า กำไรเป็นพัน% ก็ต้องเตรียมตัวทำใจขาดทุนได้เป็นพัน% โดยเฉพาะเมื่อปัจจัยเปลี่ยนแปลงเร็ว และ เจตนาของขาใหญ่ ที่จงใจปั่นราคาแล้วทุบ?

ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า เป็นวันวิปโยคของบรรดานักลงทุนรายย่อยในตลาดบิทคับ ขณะที่ยังเมามันส์กับการเก็งกำไร สรรเสริญท๊อป จิรายุส เป็นสุดยอดเจ้าพ่อคริปโตฯผู้เสกความมั่งคั่งให้นักลงทุนได้ จู่ๆ หลังจากราคา Kub ขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ไม่นาน ก็มีแรงเทขายอย่างหนักในช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ย. 2564 ส่งผลให้ราคาเหรียญดิ่งเหวลงไปอยู่ต่ำสุดของวันที่ 150 บาท หรือ ร่วงไป 70%

วันเดียวกันกับที่ Kub ร่วงหนักอีกสองเหรียญสัญชาติไทย Jfincoin และ Six Coin ที่เทรดในตลาดของ Bitkub ก็กอดคอกันในร่วงพร้อมกันอย่างน่าผิดสังเกต ลักษณะเหมือนการปั่นราคาแล้วทุบลงมาในจังหวะแพตเทิร์นเดียวกัน ซึ่งในแวดวงนักลงทุนว่ากันว่า เป็นหายนะของแมงเม่าอย่างแท้จริง ที่ถูกเกมปั่นราคาหลอกให้เข้ามาซื้อในราคาที่สูงก่อนที่เหมือนมีใครถอดปลั๊กตลาด Bitkub แบบน่าสงสัยว่า มันเกิดอะไรขึ้น?

ราคาที่ร่วงอย่างน่าตกใจ ทำให้รายย่อยนักเทรดทั้งหลายร้องระงมไปทั่วโซเซียล ไม่เว้นแม้แต่ “เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์” นักฟุตบอลทีมชาติไทย คนดังถึงกับโพสต์ความในใจพร้อมแคปหน้าจอกราฟแสดงราคาเหรียญ Kubcoin ลงโซเชียลส่วนตัว ฝากถึง บิทคับในวันมหาวิปโยควันนั้นว่า “ทำกันได้ลงคอนะ Kub” โดยมีแฟนๆ และสาวกบิทคับออกมาแสดงความเห็นร่วมชะตากรรมเดียวกันและแชร์ไปจำนวนมาก

เจ้ามือรวย แมงเม่าม้วยมรณา

ประเด็นดังกล่าว หลายฝ่ายเชื่อว่า เหรียญที่เทรดในตลาดบิทคับ ย่อมมีผู้กำกับ หรือ “เจ้ามือ” ทำราคาเหรียญ KUB ที่ไม่น่าขยับขึ้นได้ให้ขึ้นได้ราวกับร่ายเวทมนต์ นอกจากนี้ยิ่งทำให้เชื่อว่า การขยับของเหรียญ KUB ไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐานของเหรียญ หากแต่มาจากอารมณ์ร่วมของนักลงทุน และ “พลังยุทธ์” มากกว่า หนี่งในนั้นก็เป็นผู้ก่อตั้งเองที่ขยันทวิตข้อความสนับสนุนเหรียญของตัวเอง

หากจะถามว่า Kub ที่ถูกปั่นราคาให้บินสูงขึ้นเรื่อยๆ จาก 30 บาทมาไกลถึง 500 กว่าบาทแน่นอน เจ้ามือกินรวบ รวยอู้ฟู่ แต่สำหรับรายย่อยมันคือ หายนะ การหมดเนื้อหมดตัว ใครที่ขายไม่ทัน ออกไม่ได้ แม้จะรู้ว่า การลงทุนมีความเสี่ยง แต่คำถามคือ หากเป็นเรื่องของการทำราคา ปั่นเหรียญ อินไซต์เดอร์การซื้อขายอย่างยุติธรรมมันควรมีหรือไม่? หรือจะปล่อยให้พวกเขาแมงเม่าม้วยมรณาไปอย่างไม่อินังขังขอบ ตกเป็นเหยื่อของเจ้ามือที่โกยเงินเข้ากระเป๋าไปเรียบร้อย

ปั่นคริปโตน่ากลัวพอกับปั่นหุ้น

จากข้อมูลที่กล่าวมา ทำให้พอทราบว่าลักษณะการเคลื่อนไหวของราคาเหรียญคริปโตฯ ทุกวันนี้ ไม่ต่างอะไรจากหุ้นปั่นในอดีต ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเจอคำถามว่า “ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือขึ้นโดยเหตุผลรองรับไม่เพียงพอ” และใครที่ได้ที่เสียกับลการขึ้นของราคาหุ้น จะเป็นป้าแม้วที่ขายส้มตำอยู่หน้าออฟฟิศ หรือน้าปูแม่บ้านหรือเปล่า? หรือ “คนที่คุณรู้ว้าใคร?”

สิ่งเหล่านี้ ทำให้ต้องย้อนกลับมาถึง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีความสามารถในการตรวจสอบมากน้อยเพียงใด เพราะนี่คือเหรียญคริปโตฯ ไม่ใช่หุ้นที่มี “ซิลลิ่ง –ฟลอร์” มาช่วยติดเบรก หรือส่งสัญญาณเตือน อีกทั้งถ้ามีการเตือนเกิดขึ้น บรรดาสาวกในวงการคริปโตฯ คงไม่พอใจหากราคาเหรียญถ้าจะเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงแล้วต้องถูกห้าม หรือถูกเบรก และมองว่าเป็นการปิดกั้นเสรี

Closeup – Woman is checking Bitcoin price chart on digital exchange on smartphone, cryptocurrency future price action prediction.

ขณะเดียวกันหากมองในมุมของการลงทุนหุ้น เรื่องราวบางเรื่องที่เหรียญคริปโตนำมาสร้างกระแสปั่นราคา หนีไม่พ้นกับคำว่า “Insider” การเอาข้อมูลภายในมาหาผลประโยชน์ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญของหน่วยงานที่กำกับดูแลควรให้ความใส่ใจต่อเหตุการณ์เหล่านี้

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถึงกระแสการปั่นราคาเหรียญคริปโตฯ ที่เกิดขึ้นว่า ก.ล.ต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบถึงความไม่เป็นธรรมของราคาเหรียญคริปโตฯ ด้วยเช่นกัน เพราะลักษณะของการสร้างราคามีความใกล้เคียงกับการปั่นหุ้น แต่จำเป็นต้องดูให้ชัดเจน ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูล ทำให้ต้องใช้เวลา และต้องไปดูว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันมีข่าวอะไรถึงทำให้ราคามันปรับขึ้น

“อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้โอกาสชี้แจง ที่ผ่านมาราคาเหรียญคริปโตฯ ถือว่าร้อนเกินควร ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง มันเป็นหน้าที่ ก.ล.ต.เรามีอำนาจหน้าที่ ที่ผ่านมาเขามีแต่ปั่นหุ้น ตอนนี้ก็อาจมีการปั่นเหรียญ อยู่ดีๆ ขึ้นราคาได้งัยเราต้องดูสภาพผิดปกติ มีใครเข้ามาทำราคา ใครเอาเปรียบผู้ลงทุน และเนื่องจากมันเป็นคดีอาญา จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างชัดเจน ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อไม่ให้มีข้อสงสัย”

KUB ส่งเสริมหรือทำลายความน่าเชื่อถือคริปโตไทย?

จากปรากฏการณ์ อภินิหาร Kubcion นับแต่เป็นเหรียญในไวท์เปเปอร์ถูกปล่อยออกมาเทรดใน Bitkub Exchange แพลตฟอร์มเทรดคริปโตฯ สัญชาติไทยจนถึงการ “ปั่นราคา” อยู่เหนือเหตุผลของปัจจัยพื้นฐานดูเหมือนว่า ตอนนี้จะเริ่มมีคำถามว่า แท้ที่จริง การออก Kub ของบิทคับเพื่อส่งเสริมหรือทำลายความน่าเชื่อถือให้กับวงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทยกันแน่?

คำอธิบายในไวท์เปเปอร์ดูเหมือนจะทำเป็นตัวอย่างให้องค์กรธุรกิจ กลุ่มนายทุนได้เห็นถึง ด้านของการพัฒนาส่งเสริมการเชื่อมต่อโลกอนาคต แรกๆ หากองค์กรธุรกิจกระโจนลงมา หรือ คนที่มีชื่อเสียงไม่ต้องการตกเทรนด์ อาจจะดีในแง่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของตนเองให้ดูดีทันสมัย แต่ในระยะยาวมันอาจจะตรงกันข้ามก็ได้ ใครเลยจะรู้

Photo : Shutterstock

เนื่องเพราะ ทำไปทำมา Kubcoin กลับสื่อไปอีกด้าน นั่นคือ ด้านมืด เงินอนาคตหาได้อย่างง่ายดาย หลอกนักเทรดมือไหม่ คนรุ่นใหม่หวังรวยโดยโชคช่วยให้เข้ามาสัประยุทธ์ในตลาดที่เต็มไปด้วยการสร้างราคาเหรียญ เก็งกำไร ไม่ต่างกับการพนัน เป็นตลาดที่พร้อมจะสร้างความร่ำรวยให้กับเจ้าของเหรียญอย่างนั้นหรือ??

เหรียญอย่าง KUB, SIX, JFIN มีการซื้อขายคิดเป็นเกือบ 70% ของยอดการซื้อขายทั้งหมด แซงหน้าเหรียญยอดนิยมอย่าง BTC อย่างไม่เห็นฝุ่น ย่อมไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากการเก็งกำไรการขึ้น-ลงอย่างรุนแรงของเหรียญของคนไทย ที่มีการซื้อขายเฉพาะในวงคนไทยเป็นส่วนใหญ่ สะท้อนภาพว่า เหรียญสามารถถูกปั่นราคาได้ง่ายใช้เงินไม่มากปริมาณ supply ของเหรียญน้อย อาศัย Market marker ที่ถูกจ้างมา และข่าวความร่วมมือนู่นนี่นั่นก็ทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงได้ตามปรารถนาของ “เจ้ามือ” จน “แมงเม่า” นักลงทุนหน้าใหม่ หลงแสงเข้ามาติดกับดัก เหรียญที่ถูกปั่นราคาขึ้นไปก็พร้อมที่จะเทขายเพื่อทำกำไรอย่างที่เห็น

ขณะที่การตรวจสอบของก.ล.ต.แม้จะเปิดวอร์รูมติดตามตรวจสอบ ฟังว่า ได้ตรวจสอบกรณีของ 3 เหรียญไทยสร้างราคาหรือไม่ไปแล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่ก็ถูกมองว่า ล่าช้า จึงมีคำกล่าวว่า ขนาดปั่นหุ้นยังจับได้ยาก ปั่นคริปโต การจะจับมือใครดมนั้นยิ่งไม่ต้องคาดหวัง

ความน่าเชื่อของตลาดคริปโตฯ ไทยจึงยังเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ซึ่งการพัฒนาส่งเสริมสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ใช่เรื่องผิดแปลกเพราะแนวโน้มโลกการเงินเปลี่ยนแปลงเร็ว ไทยก็ต้องปรับตัวตาม แต่ใครก็ตามที่เอากระแสมาขี่ ทำโฆษณา เอาความคิดสร้างความร่ำรวย สร้างความเชื่อผิดๆ ให้ตลาด มิหนำซ้ำกระทำเป็นตัวอย่าง ย่อมเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

โปรดติดตาม “Bitkub” ยูนิคอร์นสายพันธุ์อันตราย?? ได้ในตอนที่ 3 วันจันทร์หน้า

Source

]]>
1377337