Sunday, December 21, 2025
Home Blog Page 9456
ในฐานะผู้เล่นที่มีสีสันมากที่สุดในธุรกิจบัตรเครดิต นิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับ แนวโน้มธุรกิจบัตรเครดิตปี 2550 นี้ที่มีแนวโน้มสดใสกว่าปีที่ผ่านมา “ปี 2550 นี้ตลาดบัตรเครดิตยังไม่อิ่มตัว ตอนนี้มี 11 ล้านใบทั่วประเทศ คนหนึ่งถือบัตร 4-5 ใบ แต่ใช้จริงๆ แค่ 1 ใบ เพราะฉะนั้นคนถือบัตรเครดิต จริงๆ แล้ว มีเพียง 3 ล้านคนเท่านั้น” นิวัตต์มองว่า โอกาสที่จะเพิ่มอัตราการเติบโตของตลาดนี้มาจากเสถียรภาพทางการเมืองเริ่มมั่นคงมากขึ้น...
“เสี่ยปู่” เป็นชื่อฉายาของ สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เซียนหุ้นอายุ 55 ปี ที่โด่งดังในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ราว 4 ปีที่แล้ว ในฐานะ “รายใหญ่” ที่เข้าไปจับหุ้นตัวไหนก็สร้างความร้อนแรงของราคาและปริมาณซื้อขายไว้ที่นั่น และด้วยประวัติการเล่นหุ้นมาถึง 20 ปี และสร้างฐานะในตลาดหุ้นล้วนๆ จากเงินเริ่มต้นเพียงไม่กี่แสนจนมาเป็นหลายร้อยล้านบาทอย่างปัจจุบัน และแม้จะมีชื่อเสียงในวงการ และถูกสื่อติดตามขอความเห็นอยู่เสมอ แต่เขาก็ยังรักษาความเป็นส่วนตัว สงวนหน้าตาไว้เป็นความลับต่อไป สำหรับปี 2550 “เสี่ยปู่” คาดว่า SET Index ยังต่ำ โอกาสขึ้นยังมี ต่างชาติขายหนักก็เป็นแค่เรื่องชั่วคราว ถือว่าราคาหุ้นไทยที่ยังถูกอยู่แล้ว ก็ยิ่งถูกลงไปอีก น่าสนใจซื้อลงทุน “เสี่ยปู่” มองว่าไม่มีกลุ่มไหนน่าสนใจทั้งกลุ่ม ควรดูเป็นรายตัวรายบริษัทมากกว่า...
ในฐานะเจ้าของธุรกิจ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เจ้าของหนังสือ “ผมจะเป็นคนดี” “วิกรม กรมดิษฐ์” ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า ให้ระวังปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง จะส่งผลให้เศรษฐกิจให้ตกต่ำลง # รถยนต์ ไฮเทค และปิโตรเคมี และพืชผลการเกษตร เป็น 4 ธุรกิจดาวรุ่งของปีหมู # ส่วนอสังหาทรัพย์ ท่องเที่ยว และคอนซูเมอร์โปรดักส์ ดาวร่วงแห่งปี 2007 ระวังแตกแยกทางการเมือง สถานการณ์ของเศรษฐกิจของไทย 2007 อยู่ในภาวะที่ไม่ดี บรรยากาศอึมครึม ไม่เอื้อต่อการลงทุนของต่างประเทศ ถือว่าเลวร้ายกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก วิกรม เชื่อว่า ถ้าสถานการณ์ของประเทศไทยอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีปัญหาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง...
คนในแวดวงโฆษณาและนักการตลาด กำลังเป็นที่ต้องการของธุรกิจ ”โบรกเกอร์” หรือนายหน้าค้าหุ้น เพราะหน้าที่ของพวกเขา คือ การทำให้หุ้นเป็นเรื่องง่าย ไม่ต่างไปจากการซื้อแชมพู หรือสบู่ งานนี้ ”ก้องเกียรติ โอภาสวงการ” ประธานกรรมการบริหาร และในฐานะประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย การันตีว่า นี่คือทางรอดของ ”โบรกเกอร์” ในปี 2007 ในการขยายสู่ลูกค้าหน้าใหม่ ไม่เพียงตลาดหุ้น ปี 2007 จะมีอนาคตไม่สดใส เพราะแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ชัดเจนว่าจะเติบโตได้ตามคาดการณ์ที่ 4.5-5.5% หรือไม่ และภาวะการเมืองที่รอการปรับให้เข้าที่เข้าทางแบบประชาธิปไตยแท้จริง ยังต้องเผชิญกับการลุ้นระทึกกับนโยบาย และมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลชุดขิงแก่ ที่คิดจะทำอะไรก็ทำตามใจ ...
แม้จะเสียศูนย์กระทั่งมีเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จากการให้ยาแรงในมาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาท เพื่อไม่ให้แข็งค่าจนกระทบต่อภาคการส่งออก แต่ภาคธุรกิจก็ต้องฟังความคิดเห็นทิศทางเศรษฐกิจของไทย จาก “ธาริษา วัฒนเกส” ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ในฐานะผู้รับผิดชอบนโยบายด้านการเงินของประเทศ ในมุมมองของผู้ว่าการแบงก์ชาติ มองเห็นว่า เศรษฐกิจไทยปี 2007 จะปรับตัวดีขึ้น ด้วยจีดีพีที่ 4.5-5.5% เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มลดลง การขาดดุลการคลังภาครัฐในปีงบประมาณ 2007 ที่ 1 แสนล้านบาท การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ทำให้รัฐบาลสามารถผ่านร่างงบประมาณได้เร็วขึ้น ทำให้ความล่าช้าด้านงบประมาณที่เดิมคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาถึง 9 เดือน ลดเหลือเพียง 3 เดือน โดยรัฐบาลจะสามารถใช้จ่ายตามร่างงบประมาณใหม่ได้ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2007 และความไม่แน่นอนทางการเมืองลดลง ขณะเดียวกันยังมาจากนโยบายทางการเงินในส่วนของอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มนิ่ง รวมทั้งเงินเฟ้อเริ่มนิ่ง ที่คาดว่าปี 2007-2008 อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่...
ปี 2007 “อาการของเศรษฐกิจไทย”จะเป็นอย่างไร ชัดเจนว่าปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับ “รัฐบาล” เพียงประการเดียว เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร แต่หาก “ขาดความรอบคอบ” ในการประกาศใช้นโยบาย หรือออกมาตรการใดๆ ย่อมทำให้ “เศรษฐกิจไทย” พังได้เช่นกัน บทเรียนมีจริง มาจากการแก้ปัญหาเรื่อง “ค่าเงินบาท” ที่แข็งค่าจนเกิดเสียงเรียกร้องให้ทางการไทยแก้ปัญหา โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม “การส่งออก” ที่ยิ่งบาทแข็งรายได้ยิ่งลด โดยหากคำนวณตั้งแต่ต้นปี 2006 ที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ 41 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 35.10 บาทดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2006 หรือแข็งค่าสูงสุดในรอบ 9 ปี เฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 16% หรือเท่ากับว่ารายได้ที่ผู้ส่งออกเคยได้วูบหายไปถึง...
อ.มาศ เคหาสน์ธรรม ฮวงจุ้ยปี 2550 พลังประจำปีที่เข้ามามีอิทธิพลต่อโลกของเรา คือพลังของดาวหมายเลข 2 มีความหมายในแง่ของความเสื่อมและความเจ็บป่วย จึงจะบอกเป็นนัยให้ทราบถึงเหตุการณ์ใหญ่ๆ ของโลก และในไทย โดยภาพรวมของโลกในปีนี้ ระวังเรื่องของโรคระบาดจะรุนแรงมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะไข้หวัดนก จะกลายพันธุ์และกลับมาระบาดอีกครั้ง และเลข 2 เป็นธาตุดิน จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว อุทกภัยต่างๆ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทย อ.มาศ ชี้ว่า ให้จับตาตลาดหุ้นครึ่งปีแรกพอไปได้ แต่ปลายปีระวังหุ้นจะถดถอย และเหตุการณ์จะคล้ายกับปีที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินในเอเชียปี พ.ศ. 2540 ส่วนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธาตุดิน เช่น อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม เคมีภัณฑ์ ประกัน ก่อสร้าง การเกษตร...
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ) ปี พ.ศ. 2550 เป็นปีกุนที่มีดิถีบนเป็นธาตุไฟ ดิถีล่างเป็นธาตุน้ำ ในทางศาสตร์ขอเรียกปีนี้ว่าเป็นปีแห่ง “หมูไฟ” ซึ่งสะท้อนแห่งความเลวร้าย ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่เมืองไทยยังต้องก้มหน้ารับชะตากรรมกันต่อไป จับตาเดือนอันตราย โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550 ให้จับตามองเป็นพิเศษ เพราะจะมีคลื่นมนุษย์ออกมาชุมนุมต่อต้านท้าทายอำนาจคณะความมั่นแห่งชาติ (คมช.) ถึงแม้ว่าในกรุงเทพฯ จะยกเลิกกฎอัยการศึกไปแล้วก็ตาม คมช. อาจต้องกลับมาใช้กฎอัยการศึกอีกครั้ง แม้การชุมชนครั้งนี้จะไม่ถึงขั้น 14 ตุลาฯ หรือพฤษภาทมิฬ แต่หาก คมช. ไม่มีการป้องกันหรือรับมือให้ดีความรุนแรงอาจจะเกิดขึ้นได้อย่างคาดไม่ถึง จะมีหลายกลุ่มหลายฝ่ายพร้อมที่จะให้จับกุมอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ...
โสรัจจะ นวลอยู่ วิเคราะห์ดวงเมืองของการตั้งเสาหลักเมืองของกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2325 และดวงเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 โดยในปี 2550 พระเสาร์สถิตอยู่ราศีกรกฎ ทำมุมฉากกับลัคนา ไปจนถึงวันที่ 10 ส.ค. 2550 และราหูยังสถิติอยู่ในราศีกุมภ์ไปตลอดทั้งปี ผลที่เกิดขึ้นในปีนี้ จะถือเป็นปีแห่งสถานการณ์มหาวิปโยค ปีแห่งการก่อวินาศกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เนื่องจากผลของดาวบาปเคราะห์ ทั้งราหู และพระเสาร์ ร่วมกันผลึกกำลังกันเข้าตรึงลัคนาราศีเมษ ซึ่งเป็นราศีของดวงเมืองหรือดวงกรุงสยาม กรุงสยามลุกเป็นไฟ อาจารย์โสรัจจะ ชี้ชัดตามผลของดวงดาวว่า ชะตาเมืองกรุงสยามกำลังตกต่ำอย่างหนัก จะเกิดความแตกแยกอย่างรุนแรง โกธรแค้นชิงชังของผู้คนในสังคม มีเหตุอาเพศ...
ปีหน้าจะเป็นอย่างไร...คำถามง่ายๆ แต่มีความหมายและเป็นที่สนอกสนใจของใครหลายคน คำว่า “เป็นอย่างไร” อาจเป็นถ้อยคำยอดฮิตของทุกๆ ปี เมื่อเริ่มปีพ.ศ.ใหม่ ย่อมอยากรู้ อยากเห็นทิศทางของประเทศไทยว่า คนไทยควรรับรู้ ควรเตรียมเนื้อเตรียมตัวเช่นใด ภาคธุรกิจควรวางทิศทางแบบไหน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในปีหน้า POSITIONING ฉบับนี้ ขอเป็นเหมือน “แว่นขยายและไฟฉายส่องทาง” โฟกัสไปทุกมิติความเคลื่อนไหวประเทศไทยในพ.ศ.ใหม่ เริ่มตั้งแต่ การทำนายประเทศไทย ในมิติของหลักโหราศาสตร์ ถือเป็นแว่นขยายใน “ความเชื่อ” กับ 3 หมอดูชื่อดัง ซึ่งมาสะท้อนถึงชะตาเมืองไทยในปีหน้าอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน “วิกฤตดวงเมือง” ในยุคเคราะห์กรรมเป็นอย่างไร รวมทั้งฮวงจุ้ยปีกุน ต้องปรับทิศปรับทางแบบใด เพื่อความเป็นมงคลเล่มนี้มีคำตอบ ประเด็นที่สองของนำเสนอ คือ การโฟกัสภาคอุตสาหกรรม...