Volvo ชิงเกมด้วยลุค ‘รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม’ เปิดตลาด ‘มือสอง’ ขยายฐานลูกค้าให้เข้าถึงง่าย

หลังวางโพสิชั่นสู้ตลาดด้วยมาด ‘รถไฟฟ้าระดับพรีเมียม’ ตามเทรนด์ความนิยมโลก เเบรนด์ยานยนต์จากสวีเดนอย่าง ‘Volvo’ (วอลโว่) ได้เวลา ‘เร่งเกียร์เร็ว’ เอาใจลูกค้าคนไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการงัดกลยุทธ์ใหม่ ทั้งการมุ่งหน้าสู่ระบบดิจิทัล ขยายบริการซ่อมบำรุง เเละการอำนวยความสะดวกเรื่องการชาร์จ

วันนี้ ‘คริส เวลส์’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด จะมาเปิดเผยถึงกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2565 กับเป้าหมายเติบโตให้ได้ 20 % พร้อมฉายภาพโอกาสของยานยนต์พลังงานสะอาดเต็มรูปแบบในไทย

คนไทยเปิดใจรับ ‘รถยนต์ไฟฟ้าล้วน’ 

คริส เวลส์ เล่าว่า ‘ปีนี้เป็นปีที่ยากจะคาดเดา’ ทั้งจากวิกฤตโควิดเเละปัญหาการขาดเเคลนเซมิคอนดักเตอร์ต่างๆ ที่สะเทือนหลายวงการ รวมไปถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนเเปลง ใส่ใจสิ่งเเวดล้อมเเละความยั่งยืนมากขึ้น เเละเริ่มคุ้นชินกับการสื่อสารเเละซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ยังสามารถทำยอดขายได้ดี เเม้ในช่วงล็อกดาวน์

“อุตฯ รถยนต์ในไทยไม่ได้เปลี่ยนไปมากถึงระดับก้าวกระโดด ส่วนใหญ่คือการพัฒนาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เเละเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เเต่สิ่งที่เปลี่ยนไปเร็วมากๆ คือความคาดหวังของลูกค้า คาดหวังสิ่งที่เหนือกว่าที่พวกเขาจะได้รับ นี่คือโจทย์ใหญ่ของเเบรนด์รถยนต์”

กลุ่มลูกค้าของ Volvo ถือว่าอยู่ในกว้างมาก ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานอายุตั้งเเต่ 20 ปลายๆ ไปจนถึง 60 กว่าปี มีทั้งผู้ที่ชื่นชอบในเเบรนด์ คนที่สนใจด้านเทคโนโลยี รวมไปถึงกลุ่มบริษัทชั้นนำต่างๆ

Volvo ออกนโยบายยกเลิกการจัดจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการนำเสนอรถยนต์แบบ Recharge Plug in Hybrid และ Recharge Pure Electric ตามแผนธุรกิจระยะ 10 ปี เเละในปีนี้ก็มีการเปิดตัว Volvo XC40 Recharge Pure Electric รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีเพิ่มขึ้นจากผู้ใช้งานทั้งในไทยและต่างประเทศ

สำหรับรุ่นที่ ‘ขายดีที่สุด’ ในปีที่ผ่านมา ได้แก่รุ่น Volvo X60 Recharge Plug-in Hybrid คิดเป็น 23% ของยอดจำหน่ายรวมทั้งหมด ตามมาด้วยอันดับสองอย่างรุ่น Volvo XC40 Recharge Plug-in Hybrid คิดเป็น 20% และอันดับสามคือรุ่น Volvo V60 Recharge Plug-in Hybrid คิดเป็น 17%

ส่วนรถยนต์รุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ 100% อย่าง Volvo XC40 Recharge Pure Electric สามารถสร้างยอดขายได้เป็นอันดับที่ 5 ในสัดส่วนสูงถึง 13% หลังจากเปิดตัวเป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นการเปิดใจรับของผู้บริโภคชาวไทย ที่มองหา ‘รถยนต์ไฟฟ้าล้วน’ หรือ Battery Electric Vehicle (BEV) มากขึ้น

– Volvo XC40 Recharge Pure Electric

ด้านการขยาย ‘ศูนย์บริการ’ ตามมาตรฐาน Volvo Retail Experience (VRE) ในปีนี้ได้มีเครือข่ายโชว์รูมพันธมิตรเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง ในกรุงเทพฯ และพัทยาพร้อมการเปิดตัว “Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR)” ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานเพิ่มขึ้นอีก 2 ที่ในกรุงเทพฯ

“เรามีการเปิดศูนย์บริการลูกค้าด้วยระบบดิจิทัล มีช่างเทคนิคบริการให้แก่ลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน โดยไม่มีวันหยุด เข้าหาลูกค้าให้ทั่วถึงมากขึ้นในพื้นที่ห่างไกลจากศูนย์ฯ ที่ตั้ง ต่อไปนี้ช่างจะเดินทางไปหาลูกค้า
โดยพกเเค่ซอฟท์เเวร์ ไม่ต้องใช้เครื่องมือหนักๆ ที่ต้องทำในอู่ซ่อมเหมือนรถยนต์รุ่นเก่าๆ”

ตั้งเป้าโต 20% พร้อมโมเดลโชว์รูมเคลื่อนที่ 

สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2565 Volvo จะผลักดันการขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมกับการสร้าง Customer Touch Point ‘โชว์รูมเคลื่อนที่’ ที่เข้าถึงลูกค้าได้ในระดับตำบล หมู่บ้าน พร้อมต่อยอดบริการด้วยระบบ Volvo Personal Service (VPS) โดยลูกค้าสามารถเข้ารับบริการจากช่างเทคนิคส่วนบุคคล ที่รู้จักประวัติรถยนต์วอลโว่ของลูกค้า เพื่อให้การซ่อมบำรุงเป็นไปได้อย่างถูกต้องและประหยัดเวลาในการทำงาน เเละนำเสนอรูปแบบการให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ

ขณะเดียวกัน ก็จะยังคงยึดถือ ‘แผนเติบโตอย่างยั่งยืน’ มุ่งทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเช่นเดิม เพื่อปูทางนโยบายระดับโลกที่ภายในปี 2030 จะจำหน่ายเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเท่านั้น

Volvo ประเทศไทย ตั้งเป้ายอดขายในสิ้นปีนี้ เติบโตที่ 10% เเละเป้าหมายในปีหน้าด้วยความหวังว่าจะเติบโตถึง 20% จากเเรงหนุนของรุ่นยนต์รุ่นใหม่อย่าง All New Volvo C40 Recharge ที่กำลังจะเปิดตัว พร้อมส่งมอบช่วงกลางปี 

– All New Volvo C40 Recharge

เปิดตลาด ‘มือสองพรีเมียม’ ขยายฐานลูกค้า 

อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ Volvo กำลัง วางแผนเดินหน้าการส่งมอบรถยนต์ ‘Premium Used Car’ หรือรถมือสอง จาก Volvo SELEKT ที่ทุกคนจะมีการรคัดสรรเเละตรวจสอบปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานของบริษัท เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เข้าถึงคนทั่วไป ที่มีกำลังทรัพย์ไม่มากนักเพิ่มขึ้น ใน ‘ราคาพิเศษ’ ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดในเร็วๆ นี้

เมื่อถามถึงสิ่งที่ Volvo อยากให้หน่วยงานภาครัฐสนับสนุน เวลส์บอกว่า หลักๆ เป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อการรองรับรถยนต์ไฟฟ้า เเละตอนนี้รัฐให้การสนับสนุนในฝั่งผู้ผลิต เเต่ยังจูงใจคนซื้อไม่ได้มากนัก ควรจะมีการออกนโยบายเเยกระหว่างฝั่งการผลิตกับนโยบาย ฝั่งผู้บริโภค เพื่อกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าล้วน

ก่อนหน้านี้ Volvo ประเทศไทย มีการมอบอตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้กับผู้ซื้อรถยนต์ของ Volvo ไปติดตั้งที่บ้านหรือที่ทำงาน เพื่อำนวยความสะดวกในการใช้งาน จับมือเป็นพันธมิตรกับ EA Anywhere ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ระบบไฟฟ้า ซึ่งมีสถานีชาร์จไฟกว่า 1,000 จุดทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด พร้อมร่วมมือกับโรงเรียนสายอาชีพเพื่อปั้น ‘ช่างที่เชี่ยวชาญรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ’ เพื่อรองรับตลาดในอนาคต

โดยผู้บริหาร Volvo บอกว่า ไม่ได้มองถึงการเเข่งเป็นที่ 1 หรือที่ 2 ในตลาดรถไฟฟ้าเเบรนด์หรู เพราะต้องการแข่งกับตัวเองมากกว่า จึงเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในแง่ยอดขาย งานบริการ และความน่าเชื่อถือของแบรนด์