วัคซีนพาสปอร์ต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 09 Nov 2021 00:14:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘ใบรับรองฉีดวัคซีนปลอม’ ระบาดในออสเตรเลีย พร้อมการต่อต้านกฎบังคับฉีดวัคซีน https://positioningmag.com/1360869 Mon, 08 Nov 2021 17:21:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1360869 หลังจากออสเตรเลีย ออกกฎห้ามผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข้าบาร์เเละร้านอาหารต่างๆ เพื่อควบคุมโรคเเละกระตุ้นการกระจายวัคซีน เเต่อีกมุมหนึ่งก็ทำให้มีการขายใบรับรองฉีดวัคซีนโควิดปลอมเพิ่มขึ้นในตลาดมืดทางออนไลน์

หญิงสาวชาวออสเตรเลีย วัย 24 ปี ให้สัมภาษณ์กับ AFP ว่า เธอได้ซื้อใบรับรองปลอมทางออนไลน์ แล้วตระเวนไปทานอาหารตามร้านต่างๆ ทั่วเมือง เเม้ที่จริงเเล้วเธอจะยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ตาม พร้อมบอกว่าเธอไม่ได้ต่อต้านวัคซีน แต่ต่อต้านการบังคับฉีด

AFP พบว่า มีการสืบค้นใน Google เรื่องหาใบรับรองการฉีดวัคซีนปลอมเพิ่มมากขึ้น หลังรัฐบาลออสเตรเลียประกาศกฎสำหรับผู้ยังไม่ฉีดวัคซีน เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เเละเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อมีการบังคับใช้จริง

โดยเว็บไซต์แห่งหนึ่ง มีการเสนอขายใบรับรองของหลายประเทศ อย่างออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และปากีสถาน ในราคาใบละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 หมื่นบาท)

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกังวลว่าใบรับรองปลอมเหล่านี้ จะทำให้ผู้ครอบครองตกอยู่ในความเสี่ยงติดเชื้อ เเละอาจทำให้เกิดการระบาดเพิ่มขึ้น และยากต่อการติดตามผู้มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ

ปัจจุบัน ออสเตรเลียกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับ 7,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.4 เเสนบาท) สำหรับผู้ใช้ใบรับรองปลอม

ถึงกระนั้น ก็ยังหาใบรับรองปลอมหลายประเภทได้ง่ายบน Dark Web ที่มีราคามีตั้งแต่ 100-1,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2,400-24,000 บาท) ขึ้นอยู่กับคุณภาพ ชื่อเสียงของผู้ขาย เเละการรีวิวจากลูกค้าที่บอกต่อกัน

เเม้จะเสี่ยงจากโทษทางกฎหมายที่หนัก เเต่ชาวออสเตรเลียบางคนก็ยังซื้อใบรับรองปลอมหรือทำขึ้นมาเอง

เเหล่งข่าววัย 27 ปีบอกว่า เขาได้ทำวัคซีนพาสปอร์ตปลอมขึ้นมาเองโดยใช้ชื่อจริงของเพื่อน จากนั้นเข้าก็ใช้บริการในร้านอาหาร โรงยิมและร้านเสริมสวยต่างๆ ได้

ผมถูกบังคับให้ทำเช่นนี้ เพราะฉันไม่มีทางเลือก ฉันไม่ได้ปล้นธนาคาร ฉันไม่ได้ทำร้ายใครเขากล่าวกับ AFP เเละยังรู้ว่าคนรอบตัวอย่างน้อย 10 คนใช้ใบฉีดวัคซีนปลอม

ด้านทางการ เริ่มมีการแก้ปัญหานี้ ด้วยการเพิ่มมาตรการป้องกันการปลอมแปลงเข้าไปใบรับรองการฉีดวัคซีนเข็มแรก เช่น ใช้เทคโนโลยีโฮโลแกรมดิจิทัล หรือคิวอาร์โค้ด โดยหวังว่าการปลอมเเปลงจะลดลง

ขณะที่ประชาชนในนครซิดนีย์รวมตัวกันประท้วงรัฐบาล เพื่อต่อต้านคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนสอดคล้องกับการประท้วงที่เกิดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ออสเตรเลีย ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไปครบทั้งสองโดสแล้วมากกว่า 80% เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุดในโลก

 

ที่มา : straitstimes

]]>
1360869
ญี่ปุ่น เร่งเตรียม ‘เปิดประเทศ’ ฝั่งผู้ประกอบการหวั่นใจ ไม่กล้าสต็อกของ-จ้างงานเพิ่ม https://positioningmag.com/1357566 Thu, 21 Oct 2021 15:08:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1357566 กระบวนการ ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ ที่ล่าช้า เเละการรุกตรวจโควิดที่จำกัด เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเปิดประเทศของญี่ปุ่นในช่วงสิ้นปีนี้ ผู้ประกอบการเผชิญความไม่เเน่นอน ไม่กล้าสต็อกของ-จ้างงานเพิ่ม

รายได้ยังไม่เพียงพอ บรรดาร้านต่างๆ จึงไม่สามารถจ้างพนักงานที่เคยถูกเลิกจ้างไปเเล้ว เเละไม่สั่งซื้อสต็อกของเพิ่ม จนกว่าพวกเขาจะทราบข้อมูลเเละระยะเวลาที่เเน่ชัด เกี่ยวกับแผนการเปิดประเทศ รวมไปถึงความกังวลว่าโควิด-19 จะกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งในช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้

บทวิเคราะห์ของ Reuters ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงไฮซีชั่น ที่จะมีเม็ดเงินมหาศาลเข้ามาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังประเทศสูญเงินไปเป็นจำนวนมากด้วยวิกฤตโควิด

การเปิดประเทศของญี่ปุ่น จึงเป็นเหมือนเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญของ ‘ฟูมิโอะ คิชิดะ’ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่ขึ้นมาดำรงตำเเหน่งต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ที่อำลาตำแหน่งไป พร้อมกับคะแนนนิยมที่ลดลงอย่างมาก เพราะไม่สามารถรับมือกับปัญหาการระบาดใหญ่ครั้งนี้ได้

(Photo by Carl Court/Getty Images)

ความกังวล ‘ช่วงสิ้นปี’

‘ช่วงสิ้นปี’ เป็นโอกาสวำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว บาร์และร้านอาหารในญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทต่างๆ มักจะจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ให้กับพนักงานตามธรรมเนียมปฏิบัติ หรือจะมีการนัดสังสรรค์กันระหว่างเพื่อนฝูงเเละญาติมิตร

“ร้านของฉันจะจัดอีเวนต์พิเศษในช่วงสิ้นปีมาตลอด แต่ปีนี้กำลังคิดว่าจะยกเลิกหรือไม่ เพราะผู้เชี่ยวชาญบอกว่าไวรัสโคโรน่าระลอกที่ 6 จะต้องมาแน่นอน” มายูมิ ไซโจ เจ้าของร้าน Beer Bar Bitter ในกรุงโตเกียวกล่าว

การล็อกดาวน์เมื่อปีที่เเล้ว ทำให้ร้านของเธอต้องจำใจทิ้งเบียร์ มูลค่ากว่า 4,000 ดอลลาร์สหรัฐที่สั่งซื้อมาจากสาธารณรัฐเช็ก ดังนั้นปีนี้เธอจึงต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในทุกกรณี เพราะสิ่งที่เธอเตรียมไว้มันต้องเสียค่าใช้จ่าย

ตามข้อมูลของบริษัทสินเชื่อเอกชน Teikoku Databank เผยว่า ร้านอาหารในญี่ปุ่น 780 กว่าแห่ง ยื่นขอล้มละลายในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนเมษายนปีนี้ และยังมีอีก 298 แห่งนับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

“ร้านอาหารจะได้รับอนุญาตให้เปิดได้จนถึงกี่โมง ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรื่องนั้น ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงาน การสั่งสต็อกของ”

Photo : Shutterstock

วัคซีนพาสปอร์ตที่ล่าช้า 

ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดหาวัคซีนที่ล่าช้า ทำให้ต้องเจอผลกระทบจากสายพันธุ์เดลตาอย่างหนักหน่วง

เเต่ในช่วงหลังๆ ญี่ปุ่นเริ่มมีอัตราฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รัฐบาลสามารถเริ่มดำเนินการที่จะเปิดประเทศได้อีกครั้ง ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนและผลการทดสอบโควิด-19

ปัญหาเกี่ยวกับวัคซีนพาสปอร์ตของญี่ปุ่น คือนอกเหนือจากข้อกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวที่ยังไม่ได้แก้ไขแล้ว หน่วยงานท้องถิ่นที่รับผิดชอบเรื่องนี้ก็ยังไม่มีฐานข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวกัน

เทศบาลบางแห่งถึงกับต้องเริ่มดำเนินการเอง อย่างพื้นที่เกาะอิชิงากิ ใช้แอปพลิเคชันมือถือที่ใช้จองวัคซีนเป็นบันทึกการฉีดวัคซีนด้วย นักท่องเที่ยวจึงสามารถแสดงหลักฐานการรับวัคซีน เพื่อที่จะได้ส่วนลดร้านค้าและร้านอาหาร

“ถ้าเราสามารถขยายการใช้งานเพื่อให้เกิดความสบายระหว่างทั้งเจ้าของร้านและลูกค้า เศรษฐกิจของอิชิงากิก็จะฟื้นตัวได้” เทรุยูกิ ทานาฮาระ เจ้าหน้าที่ของเมืองอิชิงากิกล่าว

อีกปัญหาหนึ่งคือ ญี่ปุ่นไม่ได้ทำการรุกตรวจโควิด-19 มากนัก โดยมีอัตราการทดสอบต่อคนน้อยกว่าสหรัฐฯ ถึง 9 เท่า ในช่วงการระบาดใหญ่

ด้านเจ้าหน้าที่คณะรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่รับมือการระบาดใหญ่ บอกกับ Reuters ว่า รัฐบาลกำลังทดลองใช้แพ็กเกจที่เหมาะสมที่สุดในสถานที่ที่มีการชุมนุมของคนจำนวนมากอย่างสนามฟุตบอล สนามกีฬา ร้านอาหารหรือผับบาร์

“เราจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ทั้งธุรกิจส่วนตัวและรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อคิดแผนปฏิบัติการที่เฉพาะเจาะจง และเรากำลังพยายามเร่งให้เร็วขึ้น”

ความคิดเห็นของเจ้าของร้านพิซซ่าและคราฟต์เบียร์ DevilCraft ที่มีพนักงาน 20 คน บอกว่า “โครงการใดๆ ก็ตามที่รัฐบาลจะออกมา อย่างน้อยๆ ควรมีกฎบังคับใช้ที่ชัดเจน”

สถานการณ์การระบาดในญี่ปุ่น เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มียอดผู้ติดเชื้อหลักหมื่นคนต่อวัน เเต่ตอนนี้เริ่มเหลือหลักร้อย ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตได้ค่อนข้างเป็นปกติ เเต่ก็ยังคงต้องเตรียมพร้อมกับแพร่ระบาดระลอกใหม่ ที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจจะกลับมาอีกครั้งในช่วงฤดูหนาว

]]>
1357566
“โลตัส” หนุนคนไทยฉีดวัคซีน! เตรียมแจก “วัคซีนพาสปอร์ต” มอบสินค้าฟรี และส่วนลดกว่า 4,000 บาท https://positioningmag.com/1336632 Mon, 14 Jun 2021 10:00:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1336632

ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของประเทศไทย และทั่วโลก ที่กำลังทยอยเข้ารับวัคซีน COVID-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับคนในประเทศ ในประเทศไทยได้เริ่มปูพรมการฉีดมาตั้งแต่เดือนก่อนหน้านี้ เริ่มจากกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้ากำลังสำคัญของประเทศ จากนั้นกระจายฉีดให้ประชาชนกลุ่มอื่นๆ

ความน่าสนใจอีกหนึ่งเรื่องที่สามารถเรียกรอยยิ้มได้เป็นอย่างดีในช่วงสถานการณ์ตอนนี้ก็คือ ได้เห็นเหล่าภาคธุรกิจเอกชน ต่างพร้อมกันใจสนับสนุนการฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ โดยการจูงใจทั้งการแจกขนม อาหาร เครื่องดื่มต่างๆ ได้ฟรี หรือเป็นส่วนลดในการใช้บริการ เพียงแค่โชว์หลักฐานการฉีดวัคซีนแค่นั้นเอง

ในกลุ่มค้าปลีกเราก็ได้เห็น “โลตัส” ที่สนับสนุนให้คนไทยได้ฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ นอกจากจะเป็นพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีน ซึ่งมี 3 จุด ได้แก่ สาขาพระราม 4 สาขามีนบุรี และสำนักงานใหญ่ ถนนนวมินทร์ โลตัสยังเตรียมแจก “วัคซีนพาสปอร์ต” ให้กับประชาชนที่ได้รับฉีดวัคซีน เรียกว่าเป็นห้างค้าปลีกรายแรกที่ออกมาทำ และเป็นการจูงใจได้เป็นอย่างดี

โดยที่วัคซีนพาสปอร์ตนั้น จะประกอบไปด้วยคูปองแลกสินค้าฟรี และส่วนลดรวมมูลค่ากว่า 4,000 บาทต่อเล่ม รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 400 ล้านบาท

สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า

“โลตัส สนับสนุนการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง และเร่งด่วน โดยเราได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนพื้นที่ภายในสาขาและสำนักงานใหญ่เพื่อเป็นจุดฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับประชาชน โดยในกรุงเทพมหานคร โลตัส มีจุดฉีดวัคซีนทั้งหมด 3 จุด คือ โลตัส พระราม 4, โลตัส มีนบุรี, และโลตัส สำนักงานใหญ่ถนนนวมินทร์ นอกจากนั้น ยังมีสาขาในต่างจังหวัดที่เริ่มเป็นจุดฉีดวัคซีน COVID-19 แล้วเช่นกัน

เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ลูกค้า และประชาชนฉีดวัคซีน COVID-19 เราได้จัดทำวัคซีนพาสปอร์ตจำนวน 100,000 เล่ม มอบคูปองแลกสินค้าฟรี และส่วนลดมูลค่ากว่า 4,000 บาทต่อเล่ม เพื่อเป็นการขอบคุณประชาชนที่ร่วมใจกันฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โลตัส ขอบคุณคู่ค้าของเราที่ให้การสนับสนุนสินค้าและส่วนลดต่างๆ มากมาย”

ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว (เข็มแรก หรือเข็มที่ 2 ก็ได้) จากจุดฉีดวัคซีนใดก็ได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นจุดฉีดในสาขาของโลตัส สามารถนำหลักฐานมาแสดงที่จุดบริการลูกค้าเพื่อรับวัคซีนพาสปอร์ตที่ไฮเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ และสามารถใช้คูปองต่างๆ ภายในวัคซีนพาสปอร์ตตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 จนถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2564 หรือตามเงื่อนไขที่กำหนด

สำหรับคูปองแจกสินค้าฟรี และส่วนลดในวัคซีนพาสปอร์ต อาทิ รับฟรี ขนมปลาเส้นแน็คซ์แน็คซ์, เจลล้างมืออนามัยเดทตอล, หน้ากากผ้าแม็คยีนส์, สติกเกอร์เติมลมไนโตรเจนที่ค็อกพิท และคูปองส่วนลด ลดทันที 100 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 400 บาทที่โลตัส, ซื้อบัตรฟู้ดคอร์ท 120 บาท ในราคา 100 บาท, ส่วนลด 50 บาท เมื่อซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ 3M, ส่วนลด 100 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 500 บาทที่โอเรียนทอล พริ้นเซส และคูปองส่วนลดสินค้าอื่นๆ อีกมากมายทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์การค้า

จะเห็นได้ว่าในวิกฤตครั้งนี้ โลตัสได้ให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ในการเคร่งครัดเรื่องมาตรการป้องกันโควิด-19 ในสาขาอย่างเคร่งครัดเพื่อสุขภาพและความปลอดภัย การจัดสรรหาสินค้าอย่างเพียงพอในราคายุติธรรม การดูแลพนักงานโดยจัดสรรประกันสุขภาพและประกันชีวิตเพิ่มเติมให้กับพนักงานที่ทำงานกับลูกค้าโดยตรง และการช่วยเหลือสังคมในการบริจาคอาหาร น้ำดื่ม ของใช้จำเป็นให้กับโรงพยาบาลสนามและบุคลากรทางการแพทย์ โลตัสพร้อมช่วยเหลือตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ให้ความสนับสนุนเพื่อให้คนไทยฝ่าวิกฤต COVID-19 ไปด้วยกัน

]]>
1336632
ส่องการทำงานของ ‘Coronapas’ หลังเดนมาร์ก เปิดใช้เป็นประเทศแรกในยุโรป เร่งฟื้นเศรษฐกิจ https://positioningmag.com/1328684 Wed, 21 Apr 2021 10:57:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1328684 ภาพของเเฟนบอลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปชมการเเข่งขันในสนามกีฬา ร้านอาหารที่เต็มไปด้วยผู้คน เเละพิพิธภัณฑ์ที่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เกิดขึ้นหลังเดนมาร์ก ประสบความสำเร็จในการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 3 พร้อมเดินหน้าผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ

ล่าสุดเดนมาร์ก’ เดินหน้าใช้ ‘Coronapas’ (โคโรนาพาส) หรือที่เรียกเต็มๆ ว่า Corona Passport เป็นประเทศแรกในยุโรป เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านี้ ทางการตั้งเป้าว่าจะใชั Coronapas ได้ในช่วงกลางปี โดยจะเริ่มจากกลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศก่อน จากนั้นจะขยายให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม เเต่ตอนนี้มีความคืบหน้าไปเร็วกว่าที่คิด

Coronapas เป็นข้อมูลดิจิทัลที่จะเเสดงผลสุขภาพเกี่ยวกับ COVID-19 บนเเอปพลิเคชั่นในมือถืออย่างผลการตรวจหาเชื้อว่าเป็นลบ (Negative) ในช่วง 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา รวมถึงประวัติการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา หรือประวัติการติดเชื้อในช่วง 2-12 สัปดาห์ก่อนหน้า

สำหรับ Coronapas ของเดนมาร์กนั้นจะเเสดงข้อมูลในเเอปพลิเคชั่น ‘MinSundhed’ (MyHealth) ที่เชื่อมต่อกับเลขประจำตัวประชาชน ของผู้ที่พำนักในประเทศทุกคน ซึ่งจะมีรหัส CPR เพื่อใช้ระบุตัวตนพร้อมกับบัตรสุขภาพสีเหลืองที่มีบาร์โค้ด

เมื่อเข้าไปใช้บริการตรวจหาการติดเชื้อ COVID-19 ในโรงพยาบาลหรือศูนย์สุขภาพของรัฐ จะมีการให้สแกนบาร์โค้ดหรือกรอกรหัส CPR ดังกล่าว จากนั้นจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลบันทึกและแสดงผลใน Coronapas ของผู้ใช้ทันที เเละสามารถยื่นขอใบรับรองเเบบกระดาษได้

โดยมีการกำหนดให้เเสดงข้อมูล Coronapas ก่อนเข้าใช้บริการร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ สนามเเข่งขันกีฬา สวนสัตว์ เเละพื้นที่สาธารณะที่มีการชุมนุมของคนหมู่มาก ซึ่งต่อไปจะมีการขยายให้ครอบคลุมมากขึ้น เเละใครฝ่าฝืนอาจต้องโทษปรับ (เด็กเล็กได้รับการยกเว้น)

ด้านคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เสนอให้มีการออกใบอนุญาตเดินทางระบบดิจิทัล หรือ ‘Digital Green Pass’ เพื่อเปิดพรมเเดนให้ผู้คนเดินทางเเละร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรม ‘ท่องเที่ยว’ ของประเทศสมาชิก คาดเปิดตัวภายในสิ้นเดือนมิถุนายน

เเต่ประเด็นความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวนั้นยังมีการถกเถียงกันในบางประเทศ แต่เดนมาร์กเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ยอมรับแนวคิดนี้อย่างเต็มที่

Mette Frederiksen นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ระบุว่า เราจะกลับมาขับเคลื่อนประเทศได้อีกครั้ง ตรงกันข้ามกับหลายประเทศที่กำลังประสบอยู่ปัญหาอยู่

Photo : Shutterstock

ฝั่งความเห็นของประชาชน จากผลสำรวจล่าสุดพบว่า ส่วนใหญ่ยอมรับ การใช้ Coronapas โดยกว่า 67% ของชาวเดนมาร์กคิดว่าหนังสือเดินทางดิจิทัลเป็นไอเดียที่ดี ขณะที่มีเพียง 16% เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย

สวนสัตว์เเห่งหนึ่งในกรุงโคเปนเฮเกน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเเห่งเเรกที่ทดลองใช้ Coronapas มีบรรยากาศสุดคึกคัก เต็มด้วยครอบครัวที่พาลูกหลานมาต่อคิวเข้าชมจำนวนมาก

มันทำให้เรารู้สึกปลอดภัยมากขึ้นผู้ปกครองคนหนึ่งบอกกับ BBC เเละอีกคนบอกว่า “ฉันคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในตอนนี้” ขณะที่มีพ่อเเม่บางคนเห็นว่า “ฉันไม่คิดว่าเราต้องการมัน (Coronapas) จริงๆ”

‘เดนมาร์ก’ มีประชากรทั้งหมดราว 5.8 ล้านคน มีอัตราการทดสอบหา COVID-19 ต่อประชากรสูงกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ประสบความสำเร็จในการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 3 สวนทางกับหลายประเทศในยุโรปที่ยังต้องเผชิญกับความลำบากในการจัดการโรค

โดยชาวเดนมาร์กราว 1 ใน 5 ได้รับการฉีดวัคซีน COVID-19 เข็มเเรกเเล้ว เเละตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้กับผู้ใหญ่ทุกคนให้ได้ภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้ ดังนั้นระบบการทดสอบที่เข้มงวดจึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการบังคับใช้  ‘Coronapas’

 

ที่มา : BBC , healthcareitnews 

]]>
1328684
ญี่ปุ่นเตรียมออก “วัคซีนพาสปอร์ต” เปิดการเดินทางปลอด COVID-19 https://positioningmag.com/1323582 Tue, 16 Mar 2021 04:15:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1323582 รัฐบาลญี่ปุ่นจะพิจารณาออกเอกสารรับรองให้ผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เนื่องจากนานาชาติเรียกร้องให้มีระบบรับประกันปลอดเชื้อโรคในการเดินทางข้ามประเทศ

ทาโร โคโนะ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านวัคซีน COVID-19 ระบุในการแถลงต่อรัฐสภาว่า “ญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นถ้านานาชาติเรียกร้องให้ออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ก็จำเป็นต้องพิจารณาออกเอกสารรับรองนี้” ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปจากในช่วงแรกที่เคยบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการทำเช่นนี้ เนื่องจากจะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่ไม่เข้ารับวัคซีน เพราะมีความเสี่ยงอาการแพ้หรือไม่อยู่ในช่วงอายุที่ฉีดวัคซีนได้

อิสราเอลได้นำระบบ “วัคซีนพาสปอร์ต” มาใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศกับเพื่อนบ้าน ส่วนสหรัฐฯ ยุโรป ก็กำลังพิจารณาใช้งานเช่นกัน ในจีนก็มีการใช้ “รหัสสุขภาพ” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ คล้ายกับแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” เพื่อเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ใช้งานเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น

ทาโร โคโนะ ระบุว่า แต่ในขณะนี้รัฐบาลยังไม่นำระบบ “วัคซีนพาสปอร์ต” หรือ “รหัสสุขภาพ” มาใช้ภายในประเทศญี่ปุ่น

รัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านวัคซีน COVID-19 ยังเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ อนุญาตให้พนักงานลาขาดเพื่อไปฉีดวัคซีน หรือไปโรงพยาบาลหากมีผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน บริษัทหลายแห่ง เช่น นิปปอน ไลฟ์ อินชัวรัน ระบุว่าจะไม่จ่ายค่าจ้างหากพนักงานลาขาดไปฉีดวัคซีน

ญี่ปุ่นเริ่มการฉีดวัคซีน COVID-19 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้อยู่ในช่วงของการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ วัคซีนที่ใช้เป็นของบริษัทไฟเซอร์ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าจะได้รับวัคซีนสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ 4.8 ล้านคนทั่วประเทศภายในช่วงวันที่ 10 พฤษภาคม หลังจากนั้นจะทยอยฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไป

Source

]]>
1323582
มองโอกาสเเละความเสี่ยง ‘การลงทุน’ ปี 2564 เมื่อ ‘วัคซีน’ ปรับทิศเศรษฐกิจโลก https://positioningmag.com/1323070 Mon, 15 Mar 2021 03:00:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1323070

โลกหลังโควิด-19 ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย ‘วัคซีน’ กลายเป็นตัวชี้วัดสำคัญของทิสทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางตลาดที่ผันผวน ‘นักลงทุน’ ต้องเตรียมรับมือและวางแผนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ให้ตามทันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

แนวโน้มเศรษฐกิจ สถานการณ์โรคระบาดและธุรกิจท่องเที่ยวของปี 2564 จะส่งผลต่อการลงทุนอย่างไร ความร้อนแรง ‘สกุลเงินดิจิทัล’ น่าสนใจเเค่ไหน ‘ทองคำ vs Bitcoin’ เลือกอะไรดี ตลาดหุ้นไทยเเละสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในปีนี้มีอะไรบ้าง

วันนี้ Positioning จับประเด็นสำคัญจากงาน ‘THE WISDOM The Symbol of Your Vision: 2021 Economic Outlook & Investment Forum’ โดย  เดอะวิสดอม กสิกรไทย มาฝากกัน


เศรษฐกิจ ‘ฟื้นตัว’ บนความไม่เเน่นอน 

‘ขัตติยา อินทรวิชัย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เเม่ทัพหญิงเเห่งค่าย KBank มองว่า เเม้สถานการณ์การเเพร่ระบาดโรคระบาดทั่วโลกจะมีเเนวโน้ม ‘ดีขึ้น’ กว่าปีก่อน เเต่ก็ยังเต็มไปด้วย ‘ความไม่เเน่นอน’ จากหลายปัจจัยโดยการเเพร่ระบาดการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ในช่วงต้นปี ได้ซ้ำเติมเศรษฐกิจที่เพิ่งฟื้นตัว ทำให้ทิศทางของธุรกิจต่างๆ มีความซับซ้อนมากขึ้น

“แม้ไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเท่ารอบเเรก เเต่ผลกระทบได้ขยายวงกว้าง ผู้ประกอบการเเละร้านค้าในห้าง ยังต้องเเบกต้นทุนเพิ่มขึ้น สวนทางกับรายได้ที่ลดลงกว่า 80-90%” 

ยิ่งไปกว่านั้น ผลกระทบในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม เเละอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายรับหายไปติดต่อกันนานกว่า 12 เดือน นับเป็นธุรกิจที่ต้องให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เพื่อพยุงให้พวกเขาอยู่รอดผ่านวิกฤตนี้ไปได้

โจทย์สำคัญของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ จึงขึ้นอยู่กับความชัดเจนของการควบคุมโควิด-19 ความคืบหน้าของการกระจายวัคซีน เพื่อให้สังคมมี ‘ภูมิคุ้มกันหมู่’ (herd immunity) ช่วงเวลาเเละนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การใช้ ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ เเละสิ่งที่ต้องจัดการหลังโควิด-19 ว่าจะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางมาไทย ในปี 2564 จะมีราว 2 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่เป็น ‘ไฮซีซั่น’ เเละเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับคนที่ทำงานในภาคท่องเที่ยวไทย จะต้องได้รับวัคซีนเเล้วอย่างน้อย 2.2 แสนโดส ก่อนช่วงเดือนตุลาคม

อ่านเพิ่มเติม : ความหวัง ‘ท่องเที่ยวไทย’ เร่งฉีดวัคซีนให้ทัน ‘ไฮซีซั่น’ รับต่างชาติ 2 ล้านคน ระวัง ‘หนี้ครัวเรือน’ พุ่ง

Photo : Shutterstock

ท่ามกลางความฝืดเคืองของเศรษฐกิจไทย KBank พบว่า เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวจากลูกค้า โดยประเมินจากความสามารถ  ‘คืนเงินกู้’  ได้ในสัดส่วนที่ดีกว่าที่คาดไว้ มีการกลับมาชำระหนี้ได้ดีขึ้น เเม้จะต้องเจอการเเพร่ระบาดรอบใหม่ในช่วงปลายปี 2563 ก็ตาม ซึ่งทางธนาคารจะยังดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องต่อไป

“ประเด็นวัคซีน และการผลักดันมาตรการต่างๆ ของทางการไทย ย่อมมีผลต่อแนวโน้มผลตอบแทนตราสารหนี้ อัตราดอกเบี้ย และค่าเงินบาทในระยะข้างหน้า” 

โดยทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ควรจับตา คือนโยบายของผู้นำสหรัฐคนใหม่อย่าง ‘โจ ไบเดน’ ที่ผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อฟื้นฟูประเทศ ซึ่งจะมีผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในระยะยาวปรับขึ้น  “คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะทยอยออกจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในปี 2565”

ส่วนราคาน้ำมันนั้นจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ ควบคู่กับการปรับลดกำลังการผลิตของตะวันออกกลาง ขณะเดียวกันด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อราคาทองคำมากนัก“จากเงื่อนไขเศรษฐกิจเเละปัจจัยความไม่เเน่นอน จะส่งผลต่อราคาสินทรัพย์แต่ละประเภทที่ต่างกัน นักลงทุนจะต้องจับจังหวะการลงทุนอย่างละเอียดเเละรอบคอบมากขึ้น พร้อมทั้งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”


ตลาดยังมีสภาพคล่อง ดอกเบี้ยต่ำ ดัน ‘คริปโต’ มาเเรง เเต่ ‘เสี่ยง’ 

เมื่อเจาะลึกไปที่ประเด็น ‘การลงทุน’ ในยามที่ตลาดมีความผันผวนสูง ‘ธิติ ตันติกุลานันท์’ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.หลักทรัพย์กสิกรไทย ฉายภาพให้เห็นทิศทางเศรษฐกิจและตลาดเงิน ทั้งในปัจจุบันเเละระยะต่อไปว่า ตอนนี้เริ่มมี ‘ข่าวดี’ เรื่องการกระจายวัคซีน โดยเฉพาะในประเทศเศรษฐกิจหลักอย่าง สหรัฐฯ ฉีดไปแล้ว 25% ส่วนสหราชอาณาจักร 35% เเละคาดว่าจะครอบคลุม 70% จนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้

ขณะที่ในไทย คาดว่าจะมีการกระจายฉีดวัคซีนสู่ระดับ 50% ได้ ต้องใช้เวลาถึงไตรมาส 4 ของปีนี้ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนก็ยังฉีดวัคซีนได้น้อย จึงมองว่า ‘ข่าวดี’ ของเศรษฐกิจไทยจริงๆ อาจจะได้เห็นกันในช่วงปีหน้า 

เเม้ว่าการกระจายวัคซีนของไทยจะยังไม่ถึงขั้นสร้าง ‘herd immunity’ ได้เร็วภายในปีนี้ ก็มองว่ารัฐมีความจำเป็นที่ต้องพิจารณา ‘การเปิดประเทศ’ เพราะไทยเป็นชาติที่มีการพึ่งพาการท่องเที่ยวสูงมากกว่า 10% ของ GDP ดังนั้นการเปิดประเทศนานถึง 2 ปี จึงไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก

“แม้รายได้ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกจะลดลง แต่ราคาหุ้นกลับไม่ลดลงตามไปด้วย” 

โดยมองว่าการที่สภาพคล่องเยอะเกินไปก็ต้องระวัง เพราะคนจะไม่มองที่ความเสี่ยง เเต่จะไปเน้นหา ‘ผลตอบแทน’ ที่ได้มากขึ้น ยิ่งในช่วงที่ภาวะ ‘ดอกเบี้ยต่ำ’ เรายิ่งจะได้เห็นคนเเห่ไปเอาเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงอย่าง ‘คริปโตเคอเรนซี่’ สกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น

“การลงทุนใน Bitcoin ในช่วงปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 540% เพราะตอนนี้เงินไม่มีที่ไป ปัจจัยหลักๆ มาจากนักลงทุนสถาบันเเละบริษัท เจ้าใหญ่ลงมาเล่นเเบบ ‘ชุบตัว’ ใหม่ ส่งผลให้ราคาขึ้น ต่างจากเดิมที่เคยเป็นรายย่อย การลงทุนก็ต้องมีการกระจายพอร์ตมากขึ้น”

จากการสำรวจความคิดเห็นของเหล่ามหาเศรษฐีเอเชีย ของ Lombard Odier ร่วมกับ KBank Private Banking พบว่า ผู้มั่งคั่งกว่า 78% มองว่าภาวะดอกเบี้ยตํ่าจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกยุคหลังโควิด-19 และอาจดําเนินต่อเนื่องไปอีกทศวรรษ

อ่านเพิ่มเติม : เปิดความเห็น ‘เศรษฐีเอเชีย’ มองเทค บริหารเงินกงสี ความยั่งยืน ปรับพอร์ตลงทุนในตลาดผันผวน

สำหรับสถานการณ์ของ ‘ตลาดหุ้นไทย’ ตอนนี้ตลาดหุ้นอยู่ที่ราว 1500 จุด โดยปีนี้ประเมินว่า P/E Ratio (กำไรสุทธิต่อหุ้น) น่าจะอยู่ที่ราว 20-22 เท่า ซึ่งถือว่ายังสูงเมื่อเปรียบเทียบกับอดีต ขณะที่นักลงทุนเองก็ ‘ยอมซื้อ’ ในราคาที่สูงขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ในอดีต P/E ratio ของไทยอยู่ที่ 17 เท่า เเละปีที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 30 เท่า แม้รายได้จะตกลง 36% สะท้อนให้เห็นว่าเหล่านักลงทุนมองว่า เศรษฐกิจไทยจะผ่านวิกฤตนี้ไม่ไปได้ เพราะยังมีหลายบริษัทที่หลายธุรกิจที่ยังมีผลประกอบการที่เเข็งเเกร่ง

Photo : Shutterstock

ปี 2564 ลงทุนอะไรดี ? 

ด้านสินทรัพย์ที่น่าลงทุนเเละประเภทไหนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในปี 2564 นั้น ผู้บริหาร KBank มองว่าปียังเป็นช่วงที่ลงทุนลำบาก เพราะสินทรัพย์มีราคาเเพง ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เองก็ P/E ขึ้นมา 26 เท่า เเต่นักลงทุนก็ยังซื้อเพราะต้องหาผลตอบเเทนที่มากขึ้นในภาวะดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง

โดยในตลาดหุ้นไทย ธุรกิจที่จะฟื้นตัวได้ดีก็มี อย่างกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจพลังงาน ฯลฯ ขณะที่สินทรัพย์ที่มองว่ายังสามารถหาจังหวะลงทุนได้ คือ ทองและน้ำมัน

ส่วนคำถามที่ว่า ‘ทองคำ หรือ Bitcoin อะไรน่าจะลงกว่ากันนั้น ส่วนตัวของธิติมองว่า Bitcoin ก็เป็นการลงทุนตามเทรนด์ที่ยังไปต่อได้ เเต่มีความเสี่ยงเเละความผันผวนสูง เพราะทองคำมีสถิติเเละตัวชี้วัดของราคา เเต่ Bitcoin วิเคราะห์ไม่ได้เเละเงินดิจิทัลไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ราคาขึ้นลงตามดีมานด์เเละซัพพลาย

“ผู้ลงทุนต้องทำใจรับความเสี่ยงที่มากกว่า ยอมรับการสูญเสียเกือบทั้งจำนวนได้ จึงควรลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสม ต้องมีเงินเย็นมากๆ เพื่อลงทุนระยะยาว เเต่ต้องติดตามความเป็นไปอย่างใกล้ชิด มีวินัยในการลงทุนเเละตัดสินใจตัดขาดทุนได้”

เมื่อโลกเปลี่ยนไป พฤติกรรมผู้คนเปลี่ยนไป เกิดธุรกิจใหม่เเละการปรับตัวของธุรกิจเก่าอย่างมากมาย ผู้ลงทุนจึงต้อง ‘เปลี่ยนวิธีคิดใหม่’ ตามไปด้วย

 

 

]]>
1323070