ไวรัส COVID-19 – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 14 Mar 2021 15:41:13 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “อิตาลี” ประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ หลัง COVID-19 ตัวกลายพันธุ์ระบาดหนัก https://positioningmag.com/1323392 Sun, 14 Mar 2021 15:41:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1323392 อิตาลีกำลังเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ ด้วยรัฐบาลหวังควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่โหมกระพือรุนแรงขึ้นมาอีกรอบ ผลจากการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์

ราวครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 20 แคว้นของอิตาลี ในนั้นรวมถึงแคว้นซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงโรม เมืองมิลาน และเมืองเวนิซ จะเข้าสู่ข้อจำกัดรอบใหม่สกัดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 มี.. และมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน จากร่างกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากิ ในวันศุกร์ที่ 12 มี..

ในภูมิภาคต่างๆ ที่ถูกกำหนดในฐานะโซนสีแดง (red zone)” ประชาชนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน ยกเว้นแต่ออกมาทำงานหรือเหตุผลด้านสุขภาพ ร้านค้าต่างๆ ที่ไม่มีความจำเป็นจะถูกปิด ส่วนโซนสีส้ม (orange zone)” ประชาชนจะถูกห้ามเดินทางออกจากเมืองและแคว้นของตนเอง ยกเว้นแต่ไปทำงานหรือเหตุผลทางสุขภาพ โดยบาร์และร้านอาหารจะสามารถเปิดบริการได้เฉพาะแบบส่งถึงบ้านและสั่งซื้อกลับบ้านเท่านั้น

แคว้นต่างๆ จะถูกกำหนดเป็นโซนสีแดงหรือสีส้มขึ้นอยู่กับระดับของการแพร่ระบาด โดยภูมิภาคใดก็ตามที่มีเคสผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่รายสัปดาห์ มากกว่า 250 คนต่อประชากร 100,000 คน จะเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์โดยอัตโนมัติ นั่นหมายความว่าแคว้นอื่นๆ ก็มีโอกาสดำดิ่งเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เช่นกันในช่วงเวลาดังกล่าว

กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีบอกว่า เป้าหมายของมาตรการนี้คือฉุดค่า R อัตราความสามารถที่ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งๆ แพร่กระจายไวรัสสู่คนอื่นๆ ให้ลดลงเหลือ 1

มาริโอ ดรากิ นายกรัฐมนตรีอิตาลี

นอกจากนี้แล้วในช่วงสุดสัปดาห์วันอีสเตอร์ รัฐบาลอิตาลีกำลังพิจารณากำหนดให้ทั่วประเทศเป็นโซนสีแดงและจะอยู่ภายใต้มาตการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 3 เมษายน ถึง 5 เมษายน

มาริโอ ดรากิ นายกรัฐมนตรีอิตาลี บอกว่ามาตรการรอบใหม่สกัดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีความจำเป็น เพราะว่าเคราะห์ร้ายที่เรากำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่หนึ่งปีหลังจากโรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น

เวลานี้ค่า R ของประเทศอยู่ที่ 1.6 เนื่องจากตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสหนักหน่วงยิ่งขึ้น

กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีบอกว่า ตัวกลายพันธุ์ B.1.1.7 ซึ่งพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศ ขณะเดียวกันพวกเขาก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพบกลุ่มก้อนเล็กๆ ของผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์จากบราซิล

เบื้องต้นพบว่าตัวกลายพันธุ์สหราชอาณาจักรแพร่ระบาดง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า ก่อนผลการศึกษาในสหราชอาณาจักร ซึ่งเผยแพร่ในวารสารการแพทย์บริติช (British Medical Journal) จะระบุว่ามันมีความร้ายแรงมากกว่าด้วยเช่นกัน

ส่วนตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในบราซิล หรือที่เรียกว่า P.1 แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิม 2.2 เท่า และสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการเคยติด COVID-19 ได้ถึง 61% อ้างอิงจากโมเดลการศึกษาหนึ่ง ที่เผยแพร่โดยคณะวิจัยในบราซิลและสหราชอาณาจักรเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

อิตาลีเคยล็อกดาวน์ทั่วประเทศมาแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2020 และนับตั้งแต่นั้นก็มีการล็อกดาวน์ระดับท้องถิ่นตามแคว้นต่างๆ เป็นระยะๆ ทั่วประเทศ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิตาลีพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 150,175 คน เพิ่มขึ้นจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้นเกือบ 15%

ในวันพฤหัสบดีที่ 11 มี.. อิตาลี รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 25,000 คน สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ก่อนเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 26,000 เคสในวันศุกร์ที่ 12 มี..

ควบคู่ไปกับมาตรการล็อกดาวน์ นายกรัฐมนตรีอิตาลีให้สัญญาว่าจะเร่งโครงการฉีดวัคซีนของประเทศ แม้ดินแดนแห่งนี้ได้ระงับใช้วัคซีนล็อตหนึ่งของแอสตร้าเซนเนก้า หลังพบชายคนหนึ่งในซิซิลี เสียชีวิตจากอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หนึ่งวันหลังได้รับวัคซีนโดสแรก

Source

]]>
1323392
ธุรกิจ ‘โรงเเรม’ ในญี่ปุ่น ทรุดหนักจากพิษโรคระบาด ‘ล้มละลาย’ เพิ่มขึ้น 57% https://positioningmag.com/1314530 Fri, 15 Jan 2021 10:58:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1314530 ธุรกิจโรงเเรมเผชิญวิกฤตขั้นสาหัสจากผลกระทบของ COVID-19 โดยอัตราการล้มละลายของโรงเเรมญี่ปุ่น ในปี 2020 มีมากถึง 118 แห่ง เพิ่มขึ้นกว่า 57.35% จากปีที่ก่อนหน้า เเละคาดว่าสถานการณ์จะเเย่ลงกว่าเดิม เมื่อต้องเจอการเเพร่ระบาดหลายระลอก

ศูนย์วิจัย Tokyo Shoko ระบุว่า ในปี 2020 ผู้ประกอบการธุรกิจโรงเเรมในญี่ปุ่นล้มละลายมากถึง 118 แห่ง เพิ่มขึ้น 57.35% เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยเป็นครั้งเเรกที่โรงแรมในประเทศต้องยื่นล้มละลายเกิน 100 แห่ง นับตั้งแต่ปี 2013

ในจำนวนนี้ มีโรงแรม 12 แห่งที่ล้มละลายนั้นอยู่ที่เมืองนากาโนะ” (Nagano) แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเต็มไปด้วยสปาและสกีรีสอร์ท ส่วนในกรุงโตเกียวมีจำนวน 11 แห่ง และอีก 9 เเห่งที่เมืองชิซุโอกะ

ปัจจัยหลักๆ มาจากการระบาดของโรค COVID-19 ที่สะเทือนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นประเทศจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวไทย

Tokyo Shoko ประเมินว่า หนี้สินของโรงแรมที่ล้มละลายจากวิกฤตครั้งนี้ รวมกันมีมากถึง 58,000 ล้านเยน

จากความไม่เเน่นอนของเศรษฐกิจเหล่านี้ ทำให้บริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่มีเเนวโน้มจะล้มละลายเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมโรงแรม ที่สถานการณ์ยิ่งย่ำเเย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งอัตราการล้มละลายของภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 4% เป็น 26% เลยทีเดียว

ก่อนหน้านี้ โยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียวในวันที่ 7 .. ที่ผ่านมา พร้อมยกระดับความเข้มงวดเพื่อรับมือการระบาดของ COVID-19 ที่กำลังพุ่งขึ้น โดยมีการช่วยเหลือกิจการที่เสียสละลดเวลาเปิดดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นจะชดเชยร้านอาหารและร้านกินดื่มแห่งละ 60,000 เยนต่อวัน (ประมาณ 17,400 บาท)

การระบาดระลอกสามทั่วประเทศทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องยอมระงับโครงการ Go To Travel โครงการให้เงินอุดหนุนเพื่อสนับสนุนให้คนไปเที่ยวในประเทศเป็นการชั่วคราว โดยยังระงับการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่ไม่มีสิทธิพำนักในญี่ปุ่น จากความกังวลต่อการระบาดของไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ซึ่งถูกค้นพบในอังกฤษและแอฟริกาใต้ เเละได้กระจายไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

Junichi Makino นักเศรษฐศาสตร์ของ SMBC Nikko Securities ประเมินว่า จีดีพีของญี่ปุ่นจะลดลงถึง 3.8 ล้านล้านเยน หากต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลาหนึ่งเดือนพร้อมเเนะนำว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการสนับสนุนการเงินให้กับผู้ประกอบการ ทั้งร้านอาหาร โรงเเรมเเละธุรกิจอื่นๆ เพื่อป้องกันการปิดกิจการที่จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวเเละโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว

 

 

ที่มา : Japantimes (1) , (2)

]]>
1314530
นานาชาติ ห้ามเดินทางไป “อังกฤษ” หลัง COVID-19 “กลายพันธุ์” ระบาดหนักจนควบคุมไม่ได้ https://positioningmag.com/1311500 Mon, 21 Dec 2020 17:24:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1311500 นานาชาติเริ่มสั่งห้ามเดินทางไปยังสหราชอาณาจักรหลังสถานการณ์การเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
กลายพันธุ์” เริ่มควบคุมไม่ได้

โดยประเทศในโซนยุโรปอย่าง ไอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย อิตาลี บัลแกเรีย เบลเยียม รวมถึงตุรกี ประกาศใช้มาตรการ “Travel Bans” กับอังกฤษเป็นการชั่วคราว ซึ่งการเดินทางเเละเที่ยวบินต่างๆ ต้องถูกระงับ

หลายประเทศในเอเชีย กำลังติดตามอย่างใกล้ชิดในประเด็นการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนา โดยฮ่องกงเเละอินเดียเริ่มใช้มาตรการยกเลิกเที่ยวบินจากอังกฤษเเล้ว

ด้านทางการเกาหลีใต้ แถลงวันนี้ว่า กำลังทบทวนมาตรการใหม่สำหรับเที่ยวบินมาจากสหราชอาณาจักร และจะตรวจหาเชื้อซ้ำ 2 ครั้งก่อนปล่อยตัวจากศูนย์กักกันโรค โดยปัจจุบันเกาหลีใต้กำหนดให้ผู้เดินทางมาจากทุกประเทศต้องกักตัว 14 วัน

(photo by John Keeble/Getty Images)

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ กำหนดใช้มาตรการควบคุมการระบาดขั้นที่ 4  และยกเลิกแผนผ่อนปรนมาตรการในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายคน ประมาณ 16.4 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประชาชนทั่วประเทศ จะต้องกักตัวอยู่บ้าน ยกเว้นมีเหตุจำเป็น เช่น ไปทำงาน ขณะที่ร้านค้าที่ไม่จำเป็น ตลอดจนถึงสถานบันเทิง และสันทนาการในร่มต้องปิดให้บริการ นอกจากนั้นยังจำกัดการรวมกลุ่มไม่เกิน 2 คนและต้องเป็นพื้นที่นอกอาคาร โดยกฎใหม่นี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ..)

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของอังกฤษ ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้น มีความร้ายแรงกว่า COVID-19 ปกติ ทำให้เกิดความกังวลว่าวัคซีนที่พัฒนามาเเล้วจะสามารถป้องกันได้มีประสิทธิภาพหรือไม่ เเละอาจจะมีการตอบสนองต่อวัคซีนแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อพิสูจน์ว่า COVID-19 กลายพันธุ์นี้เเพร่เชื้อได้ง่ายขึ้นถึง 70% 

Matt Hancock รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อยู่ในภาวะเกินควบคุมเต่ต้องพยายามควบคุมสถานการณ์นี้ให้ได้นับเป็นการส่งท้ายปีที่ยากลำบากจริงๆ

ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรตรวจพบการกลายพันธุ์ของ COVID-19 หรือที่มีการเรียกว่า UK Varient เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และเมื่อเดือนพฤศจิกายน มีการตรวจพบผู้ป่วย COVID-19 สายพันธุ์นี้ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ก่อนจะรุนเเรงขึ้น โดยเพิ่มเป็นเกือบ 2 ใน 3 เมื่อกลางเดือนธันวาคม

 

ที่มา : Reuters , BBC 

 

]]>
1311500
“อังกฤษ-ฝรั่งเศส-เยอรมนี” สั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ รอบ 2 หลัง COVID-19 กลับมาระบาดหนัก https://positioningmag.com/1303966 Sun, 01 Nov 2020 10:10:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1303966 ยุโรปกำลังอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เมื่อ COVID-19 กลับมาเเพร่ระบาดเป็นระลอกสองยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ทำให้หลายประเทศต้องประกาศล็อกดาวน์เพื่อสกัดไวรัสอีกครั้ง

ล่าสุด นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบที่ 2 ตั้งเเต่วันที่ 5 .. ไปจนถึงวันที่ 2 .. 2020 หลังพบผู้ติดเชื้อทะลุ 1 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 4.6 หมื่นราย โดยเเนะนำให้ประชาชนอยู่ในบ้าน ส่วนธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริการที่ไม่จำเป็นจะถูกสั่งปิดทั้งหมด อย่างไรก็ตาม โรงเรียนและสถานศึกษาอื่น ๆ ยังสามารถเปิดได้ ขณะที่เยอรมนีเเละฝรั่งเศสได้ประกาศยกระดับล็อกดาวน์ไปเเล้ว เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

เราไม่อาจปล่อยให้ไวรัส มาทำลายอนาคตลูกหลานของเรามากไปกว่านี้แล้วบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุ

สำหรับการล็อกดาวน์ในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ สกอตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ และเวลส์) นั้น จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 .. – 2 .. 2020 โดยร้านค้าเเละบริการที่ไม่มีความจำเป็น เช่น ร้านอาหาร ผับ และธุรกิจบริการต่าง ๆ จะต้องปิดนาน 1 เดือน ยกเว้นร้านอาหารที่เปิดให้บริการแบบเดลิเวอรี่” 

พร้อมเเนะนำให้ประชาชนอยู่ในที่พัก เเละออกจากบ้านด้วยเหตุผลบางอย่างเท่านั้น เช่น เดินทางไปยังสถานศึกษาทำงาน ออกกำลังกาย การดูแลผู้อื่นตามหน้าที่ รวมถึงกรณีทางการแพทย์

คริสต์มาสปีนี้จะไม่เหมือนเดิม แต่รัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวได้พบหน้ากันให้ได้ในช่วงคริสต์มาส

ด้านประเทศยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่างเยอรมนี ได้ประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง หลังมีผู้ติด COVID-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงใกล้ฤดูหนาวที่มีอากาศเย็น

โดยมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ของเยอรมนี จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 .. (ตามเวลาท้องถิ่น) และจะสิ้นสุดในวันที่ 30 .. ซึ่งร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ จะต้องปิดให้บริการ การชุมนุมในที่สาธารณะอนุญาตให้ไม่เกิน 2 ครัวเรือน หรือไม่เกิน 10 คน ห้ามจัดงานเทศกาลขนาดใหญ่ ปิดโรงหนัง สระว่ายน้ำ ยิม ฟิตเนส ฯลฯ

ขณะที่ “ฝรั่งเศส” ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ครั้งที่ 2 โดยให้มีผลบังคับใช้ ตลอดเดือนพ.. จนถึงวันที่ 1 .. “เป็นอย่างน้อยโดยประชาชนจะสามารถออกนอกบ้านได้ เฉพาะกรณีที่ต้องไปทำงานที่จำเป็น หรือด้วยเหตุผลทางการแพทย์ เเละช่วงเคอร์ฟิวต้องอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่ 21:00 – 06:00 น.เท่านั้น นอกจากนี้ ยังสั่งให้ธุรกิจที่ไม่มีความจำเป็นปิดบริการลงชั่วคราว เช่น ร้านอาหาร และบาร์ แต่โรงเรียนและโรงงาน ยังคงเปิดทำการได้เพื่อให้เศรษฐกิจยังดำเนินต่อไป

การประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้มีขึ้น ขณะที่ฝรั่งเศสมียอดผู้เสียชีวิตรายวันจาก COVID-19 สูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.. และเมื่อวันที่ 27 ..ที่ผ่านมา มีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อรายใหม่เพิ่มถึง 33,000 คน

 

ที่มา : BBC (1) , (2)

]]>
1303966
อนาคตเเรงงาน อีก 5 ปี “หุ่นยนต์-ระบบอัตโนมัติ” จะทำงานเเทนมนุษย์กว่า 85 ล้านตำเเหน่ง https://positioningmag.com/1302589 Thu, 22 Oct 2020 03:54:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1302589 การเเพร่ระบาดของ COVID-19  เร่งให้ตลาดแรงงาน เปลี่ยนจากการพึ่งพาแรงงานมนุษย์ ไปพึ่งพาแรงงานหุ่นยนต์เร็วขึ้น

จากรายงาน World Economic Forum ฉบับล่าสุด เปิดเผยว่า การมาของ COVID-19 ที่ระบาดทั่วโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้มีการเปลี่ยนเเปลงทางเทคโนโลยีในสถานที่ทำงาน โดยตำเเหน่งงานของมนุษย์กว่า 85 ล้านตำแหน่งจะถูกทดเเทนด้วยระบบอัตโนมัติภายใน 5 ปีข้างหน้า

“กว่า 2 ใน 5 ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ถูกสำรวจ มีแผนจะลดพนักงานลง เนื่องจากการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน”

จากการสำรวจบริษัททั่วโลกเกือบ 300 แห่ง พบว่า 4 ใน 5 ของผู้บริหารระดับสูง กำลังวางเเผนที่จะปรับการทำงานให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น ให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ประชุมงานผ่านวิดีโอคอล เเละจะมีการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะในด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง บริการอีคอมเมิร์ซ เเละการสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์

World Economic Forum ระบุว่า ภายในปี 2025 งานที่ถูกทำโดยมนุษย์จะถูกทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติ มากถึง 85 ล้านตำแหน่ง ทั้งงานผู้ช่วยธุรการ พนักงานบัญชี ฝ่ายจัดการข้อมูล พนักงานบริการลูกค้า ฝ่ายบริการธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ยังมีความต้องการใช้ทักษะความสามารถของมนุษย์ มาช่วยควบคุมเเละดูเเลในงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้นอย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ระบบคลาวด์การพัฒนาผลิตภัณฑ์เเละธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนเเละสิ่งเเวดล้อม

การเพิ่มขึ้นของระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ก็สามารถสร้างงานให้มนุษย์เพิ่มขึ้น 97 ล้านตำแหน่งทั่วโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้าเช่นกัน

ต่อไปนี้บริษัททั่วโลกจะมีการฝึกอบรมอัพสกิลเเละรีสกิลพนักงานที่มีอยู่มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังมีพนักงานกว่าครึ่งหนึ่งที่ยังต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพื่อให้ทำงานกับระบบอัตโนมัติในเร็ววันนี้

โดยบริษัทชั้นนำมองว่า ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ จะมีความสำคัญกับการทำงานในองค์กรในอนาคต เเละคาดว่าพนักงานจะมีทักษะความอดทน ยืดหยุ่น และการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ หลังผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาด COVID-19

 

ที่มา : CNN , weforum

]]>
1302589
เศรษฐกิจจีน “ฟื้นเร็ว” หลังวิกฤตไวรัส ประกาศ GDP ไตรมาส 3 เติบโต 4.9% https://positioningmag.com/1302064 Mon, 19 Oct 2020 07:27:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1302064 เศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวได้ดี รอดพ้นภาวะถดถอย ขณะที่หลายประเทศทั่วโลก ยังคงต้องหาทางออกจากความวุ่นวายของผลกระทบจาก COVID-19

ล่าสุด สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เปิดเผยตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 3/2020 ระบุว่า เศรษฐกิจประเทศจีนเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย GDP ในไตรมาส 3 เติบโต 4.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการขยายตัวต่อเนื่องไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากไตรมาส 2/2020 ขยายตัว 3.2% เเต่ในไตรมาสแรกของปีนี้ติดลบ 6.8% ทำให้ GDP โดยรวมงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัวอยู่ที่ 0.7%

อย่างไรก็ตาม การขยายตัว 4.9% ของ GDP จีน ก็เป็นการขยายตัวที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของเหล่านักวิเคราะห์ที่ประเมินไว้ว่าจะขยายตัว 5.2% ในไตรมาสสะท้อนว่าจีนยังต้องจัดการกับปัญหาที่ท้าทายเเละมีปัจจัยไม่แน่นอนจำนวนมาก

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าจีนจะเป็นเศรษฐกิจใหญ่ของโลกเพียงแห่งเดียวที่ GDP เป็นบวกได้ในปีนี้ โดยประเมินว่าจะขยายตัวที่ 1.9% ก่อนที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 26.8% ในปี 2021”

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวเป็นบวกนั้น เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ผ่านพ้นวิกฤตโระระบาด โดยภาคค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนกันยายนและปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% ในไตรมาส 3 ด้านภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 6.9% ส่งผลให้การผลิตภาคอุตฯ 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโต 1.2% ส่วนภาคบริการ เพิ่มขึ้น 4.3% อัตราว่างงานลดลงเหลือ 5.4% 

จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ หลังจากการเเพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มขึ้นในจีนเมื่อช่วงปลายปี 2019 ตอนนี้หลายประเทศก็ยังคงต้องต่อสู้กับวิกฤตไวรัส เเละได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างเเสนสาหัส

เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวค่อนข้างรวดเร็ว หลังรัฐบาลปักกิ่งบังคับใช้นโยบายการล็อกดาวน์และการติดตามประชากรที่เข้มงวด โดยปัจจุบันสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศมียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลกเเละกำลังเผชิญกับวิกฤตเเรงงาน ขณะที่ยุโรปก็มีการเเพร่ระบาดระลอกสอง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจยิ่งทรุดลงไปอีก

 

ที่มา : CNN , Bloomberg

]]>
1302064
“อเมริกา” ประกาศ “ไม่ให้วีซ่า” นักศึกษาต่างชาติรายใหม่เข้าประเทศ ให้ลงเรียนแต่ออนไลน์ https://positioningmag.com/1289699 Mon, 27 Jul 2020 12:20:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1289699 รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศจะไม่ออกวีซ่าเข้าประเทศให้กับนักศึกษาต่างชาติที่สมัครเรียนหลังวันที่ 9 มี.ค.ไปแล้วหากว่านักศึกษารายนั้นลงเรียนแต่คอร์สออนไลน์ตลอดทั้งภาคการศึกษาฤดูใบไม่ร่วง ไม่สนใจว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหรัฐฯ มีแผนที่จะยังคงสอนทางออนไลน์ต่อไป หลังจากวิกฤต COVID-19 ในประเทศยังสาหัส

อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานว่า 1 สัปดาห์หลังจากที่รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยอมยกเลิกมาตรการสั่งขับนักศึกษาต่างชาติในสหรัฐฯ ที่ต้องลงเรียนทางออนไลน์เนื่องมาจากมหาวิทยาลัยไม่เปิดสอนแบบชั้นเรียนตามปกติ

ล่าสุดวันที่ 24 ก.ค.ในบันทึกความเข้าใจจากสำนักงานบังคับใช้ด้านศุลกากรและการเข้าเมืองสหรัฐฯ ICE (US Immigration and Customs Enforcement) แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ในอเมริกาว่า นักศึกษาใหม่ซึ่งเป็นนักศึกษาต่างชาติที่ไม่ได้สมัครเรียนก่อนวันที่ 9 มี.ค. 2020 จะไม่ได้รับวีซ่าเข้าสหรัฐฯ หากนักศึกษาเหล่านั้นลงทะเบียนเรียนเฉพาะคอร์สออนไลน์

สื่อกาตาร์รายงานว่า การประกาศล่าสุดกระทบต่อกลุ่มนักศึกษาต่างชาติที่กำลังจะสมัครในมหาวิทยาลัยที่มีการสอนแบบออนไลน์เท่านั้นเนื่องมาจากสถานการณ์โรคระบาด COVID-19ในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม อาจเป็นการเกิดปัญหาเพราะเป็นต้นว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ประกาศก่อนหน้าว่า นักศึกษาระดับปริญญาตรีทั้งหมดจะต้องเรียนทางไกลในภาคการศึกษาที่กำลังจะเปิดฤดูใบไม้ร่วงนี้ และการเปิดเรียนเฉพาะทางออนไลน์ยังเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัย UC Berkeley ในรัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นหนึ่งในจุดร้อนของการระบาดโรคไวรัส COVID-19 ในสหรัฐฯ

สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่อยู่ในสหรัฐฯ หรือที่มีวีซ่าอยู่แล้ว แต่เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านและเตรียมจะกลับเข้ามาจะยังคงได้รับอนุญาตให้สามารถลงทะเบียนคอร์สออนไลน์ได้ทั้งภาคการศึกษา ถึงแม้ว่าในตอนเริ่มแรกจะได้เข้าเรียนในชั้นตามปกติ แต่หลังจากนั้นทางมหาวิทยาลัยเปลี่ยนให้เป็นการสอนแบบออนไลน์ก็ตาม

ซึ่งกฎใหม่นี้ทาง ICE จะใช้กับกลุ่มนักศึกษาใหม่ที่จะสมัครเรียนหลังจากวันที่ 9 มี.ค.ไปแล้วเท่านั้น และในบันทึกความเข้าใจของ ICE ที่ส่งไปยังตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ยังเตือนไม่ให้ทางมหาวิทยาลัยส่งฟอร์มวีซ่า I-20 ไปยังนักศึกษาต่างชาตินอกสหรัฐฯ ที่ประสงค์จะสมัครเรียนสำหรับคอร์สออนไลน์ทั้งหมด

ทั้งนี้ทาง ICE ได้ยกเลิกนโยบายที่อาจส่งผลทำให้มีการเนรเทศนักศึกษาต่างชาติจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในระดับปริญญาตรีแต่มีบางส่วนอยู่ในระดับบัณฑิตศึกษากลับประเทศ

ในรายงานของ ICE สำหรับปี 2020 พบว่ามีนักศึกษาต่างชาติราว 1.55 ล้านคนกำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐฯ ปี 2018 และมีราว 1.3 ล้านคนกำลังศึกษาอยู่ในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรี

Source

]]>
1289699
“ลัตเวีย” จัดพิธีรับปริญญา Drive-in ตามกระแสมาตรการป้องกัน COVID-19 https://positioningmag.com/1289639 Sun, 26 Jul 2020 07:23:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1289639 เมื่อเทรนด์การจัดอีเวนต์แบบ Drive-in กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เพราะเข้ากับกระแสมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นอย่างดี ตอนนี้มีทั้งคอนเสิร์ต ดูภาพยนตร์ มาจนถึงงานรับปริญญาแล้ว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มหาวิทยาลัยเทคนิคริกา (Riga Technical University) ได้ปิ๊งไอเดียใหม่ เป็นการจัดพิธีรับปริญญาบัตรแบบไดรฟ์-อิน หรือขับรถยนต์เข้ามาร่วมพิธีการ ณ ท่าอากาศยานสไปร์ฟ กรุงริกา เมืองหลวงของลัตเวีย

ซึ่งพิธีการนี้เป็นการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก ช่วยเพิ่มระยะห่างต่อกันได้

โดยนอกจากพิธีการรับปริญญาแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เสริม เหล่าบัณฑิตใหม่ยังได้เพลิดเพลินกับคอนเสิร์ตกลางแจ้งหลังเสร็จสิ้นพิธีอีกด้วย

]]>
1289639
ภาคธุรกิจบริการ “จีน” ฟื้นตัวแรงหลังวิกฤตไวรัส แต่บริษัทยังระวังตัว ไม่จ้างงานเพิ่ม https://positioningmag.com/1281880 Wed, 03 Jun 2020 09:42:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1281880 ผ่านไปเกือบ 3 เดือนหลังประเทศจีนควบคุมโรคระบาด COVID-19 ได้ และอนุญาตให้บริษัทห้างร้านกลับมาเปิดทำการตามปกติ ในที่สุด เศรษฐกิจจีนบางส่วนเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวแล้วเริ่มจาก “ภาคธุรกิจบริการ” อย่างไรก็ตาม ภาคผลิตและส่งออกยังซึมเนื่องจากทั้งโลกเพิ่งเริ่มควบคุมการระบาดได้ ทำให้ภาพรวมการจ้างงานของจีนยังไม่เติบโตเพราะบริษัทยังควบคุมต้นทุน

สถาบันสำรวจเอกชน Caixin/Markit เปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ซึ่งเน้นสำรวจการจัดซื้อของบริษัทเอกชนและธุรกิจขนาดเล็กในจีนเป็นหลัก พบว่าดัชนี PMI ในภาคธุรกิจบริการเพิ่มขึ้นจาก 44.4 ในเดือนเมษายน เป็น 55.0 ในเดือนพฤษภาคม

ดัชนีที่ขึ้นไปสูงกว่า 50.0 นั้นสะท้อนให้เห็นการเติบโตในภาคธุรกิจ นับเป็นการเติบโตครั้งแรกตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาเมื่อเดือนมกราคม และยังเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2010 ด้วย

หากรวมดัชนี PMI ทั้งภาคบริการและภาคการผลิต จะเพิ่มขึ้นจาก 47.6 ในเดือนเมษายน เป็น 54.5 ในเดือนพฤษภาคม เป็นการเติบโตที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2011

ภาคธุรกิจบริการของจีนเป็นเซคเตอร์ที่สำคัญมาก เพราะคิดเป็น 60% ของเศรษฐกิจประเทศและเป็นแหล่งงานสำคัญ โดยการเติบโตสูงในช่วงหลังจากผ่านวิกฤต COVID-19 เกิดจากบริษัทท้องถิ่นเปิดใหม่เป็นจำนวนมาก และเป็นการเติบโตที่มากที่สุดในรอบเกือบสิบปี

 

การจ้างงานยังต่ำ บริษัทคุมต้นทุน

อย่างไรก็ตาม จากดัชนี PMI จะเห็นได้ว่าภาคการผลิตยังเติบโตไม่สูงนัก เพราะการส่งออกของจีนยังคงหดตัว เนื่องจากพื้นที่อื่นของโลกยังควบคุมโรคระบาดไม่ได้หรือเพิ่งเริ่มควบคุมได้เท่านั้น ทำให้ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่ และส่งผลต่อเนื่องถึงการจ้างงาน

(photo: pixabay)

แดน หวัง นักวิเคราะห์จาก Economist Intelligence Unit กล่าวว่า ภาคบริการของจีนช่วยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการล็อกดาวน์ต่างๆ ผ่อนคลายลง มีผลต่อเนื่องให้ภาคการผลิตฟื้นตัวขึ้นบ้างจากความต้องการภายในประเทศ แต่เมื่อดีมานด์ต่างประเทศยังต่ำ คาดว่าจะเกิดกำลังผลิตส่วนเกินในช่วงปลายปีนี้และมีผลกับการจ้างงาน ทำให้อัตราว่างงานของจีนมีแนวโน้มสูงขึ้นไปแตะ 18% ภายในไตรมาส 2 ของปี

หวัง เจ้อ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Caixin กล่าวเช่นกันว่า แม้ดัชนี PMI จะสูงขึ้น แต่การจ้างงานยังน่าเป็นห่วง เพราะบริษัทส่วนใหญ่ที่สำรวจแสดงออกถึงนโยบายระมัดระวังตัวในการจ้างงานเพิ่ม เพราะต้องการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพจากสิ่งที่มีอยู่

“โดยทั่วไปแล้ว การฟื้นตัวของดีมานด์-ซัพพลายในช่วงนี้ยังไม่สามารถเทียบได้กับส่วนที่หายไปในช่วงที่เกิดโรคระบาด และเศรษฐกิจจีนยังต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อกลับไปสู่สภาวะปกติ” หวังกล่าว

ถึงอย่างนั้น บริษัทส่วนมากยังมองอนาคตในแง่บวก และรอคอยนโยบายของรัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลจีนได้แสดงท่าทีออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า รัฐบาลได้พับแผนไปสู่ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ตั้งเป้าไว้ แต่จะหันมาเน้นเรื่องการสร้างงานแทน

Source

]]>
1281880
ผลพวงจากล็อกดาวน์! ทำรายได้จากการท่องเที่ยวเดือนเม.ย.ของ “สเปน” เป็นศูนย์ https://positioningmag.com/1281642 Tue, 02 Jun 2020 04:42:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1281642 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานสถิติของสเปน (INE) เปิดเผยว่าสเปนไม่ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและไม่มีรายได้จากการท่องเที่ยวในเดือนเมษายน สืบเนื่องจากข้อจำกัดล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19

สำนักงานฯ ระบุในรายงานประจำเดือนว่าข้อจำกัดข้างต้นส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนสเปนในเดือนมีนาคมลดลง 64% หลังประเทศปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.

ขณะเดียวกัน การที่ว่าข้อจำกัดการเดินทางยังคงถูกบังคับใช้ต่อเนื่องตลอดเดือนพฤษภาคม เท่ากับว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และรายได้จากภาคการท่องเที่ยวในเดือนดังกล่าวเป็นศูนย์เช่นกัน

ในทางกลับกัน เมื่อเดือนเมษายน 2019 สเปนต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศถึง 7.2 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวแต่ละคนใช้จ่ายเป็นเงินโดยเฉลี่ย 990 ยูโร (ประมาณ 34,000 บาท) สร้างรายได้รวม 7,095 ล้านยูโร (ประมาณ 249.57 ล้านบาท) ระหว่างเดือนข้างต้น

โดยรวมแล้วในปี 2019 สเปนต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 84 ล้านคน ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวครองสัดส่วนร้อยละ 12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP)

ด้านเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าสเปนจะยุติข้อจำกัดการกักกัน เพื่ออนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวในประเทศในเดือนกรกฎาคม

]]>
1281642