USA – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 08 Jul 2024 10:45:06 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Boeing สารภาพข้อหาสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐฯ ในคดีเครื่องบิน 737 MAX ตกในอินโดนีเซียและเอธิโอเปีย https://positioningmag.com/1481765 Mon, 08 Jul 2024 05:12:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1481765 ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่อย่าง โบอิ้ง (Boeing) ได้สารภาพข้อหาสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐฯ ในคดีเครื่องบิน 737 MAX ตกในอินโดนีเซียและเอธิโอเปียในปี 2018 และ 2019 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และยังสร้างผลกระทบต่อความเชื่อถือของบริษัท

Boeing ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้รับสารภาพข้อหาสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐฯ ในคดีเครื่องบิน 737 MAX 8 ตกในอินโดนีเซียและเอธิโอเปีย ในปี 2018 และ 2019 ตามลำดับ ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันมากถึง 346 ราย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นต่อเนื่องมาจากคดีในปี 2021 ที่ Boeing ถูกดำเนินคดีอาญาจากกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากพบว่าบริษัทละเมิดข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุร้ายแรง

อัยการสหรัฐฯ ชี้ว่านักบินของ Boeing สองคนปกปิดข้อมูลสำคัญจากหน่วยงานกำกับด้านการบินของสหรัฐฯ เกี่ยวกับระบบควบคุมอัตโนมัติใหม่ หรือ MCAS ในเครื่องบินรุ่น 737 MAX ซึ่งตัวระบบดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุขัดข้องของเครื่องบินที่ตกในอินโดนีเซียและเอธิโอเปีย

เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมยังกล่าวว่า ผู้ผลิตเครื่องบินรายนี้ยังจะต้องจ่ายค่าปรับทางอาญาจำนวน 243.6 ล้านดอลลาร์ และบริษัทตกลงที่จะลงทุนอย่างน้อย 455 ล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อที่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

กรณีเครื่องบิน 737 MAX 8 ตกในอินโดนีเซียและเอธิโอเปียห่างกันในระยะเวลา 5 เดือน สร้างผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทไม่น้อย เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินทั่วโลกได้สั่งให้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวต้องจอดไว้ชั่วคราว เพื่อที่จะตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้มีการซื้อกิจการของ Spirit AeroSystems เพื่อแก้ปัญหาผลิตเครื่องบินไม่ทัน เนื่องจากปัญหาของคุณภาพชิ้นส่วนในการผลิต หรือแม้แต่เรื่องความปลอดภัย

ขณะเดียวกันหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินเองก็ห้าม Boeing เพิ่มกำลังการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 MAX จนกว่าจะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย

การสารภาพข้อหาสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐฯ ของ Boeing นั้นยิ่งทำให้เพิ่มความยากลำบากในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้ผลิตเครื่องบินรายนี้กลับมา แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาบริษัทพยายามในเรื่องดังกล่าวแล้วก็ตาม

ที่มา – Reuters, CNBC, BBC

]]>
1481765
Boeing ซื้อกิจการซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนเครื่องบิน Spirit AeroSystems เพื่อแก้ปัญหาผลิตเครื่องบินไม่ทัน https://positioningmag.com/1480550 Mon, 01 Jul 2024 15:29:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1480550 ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง ‘โบอิ้ง’ ล่าสุดได้ควักเงินมากถึง 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อกิจการซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนเครื่องบิน Spirit AeroSystems เพื่อแก้ไขปัญหาที่บริษัทผลิตเครื่องบินไม่ทัน รวมถึงความปลอดภัยในชิ้นส่วนเครื่องบิน ซึ่งส่งผลกับความน่าเชื่อถือของบริษัทในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

Boeing ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ประกาศเข้าซื้อกิจการของ Spirit AeroSystems ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนเครื่องบิน โดยดีลดังกล่าวนั้นมีมูลค่า 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 172,480 ล้านบาท

Pat Shanahan ซึ่งเป็น CEO ของ Spirit AeroSystems ได้กล่าวว่า ดีลการซื้อกิจการดังกล่าวทำให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถร่วมกันทำงานในด้านวิศวกรรมและด้านการผลิตได้อย่างเต็มที่ รวมถึงในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยของชื้นส่วนเครื่องบิน

สำหรับ Spirit AeroSystems เคยเป็นส่วนหนึ่งของ Boeing ก่อนที่จะมีการแยกกิจการออกไปในปี 2005 โดยซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนเครื่องบินรายนี้มีลูกค้าที่คิดเป็นสัดส่วนรายได้มากกว่า 70% ของบริษัทนั่นก็คือ Boeing รองลงมาคือ Airbus ผู้ผลิตเครื่องบินจากยุโรปที่ 25%

ขณะที่ธุรกิจของ Spirit AeroSystems ในทวีปยุโรปนั้นทาง Airbus จะซื้อกิจการดังกล่าว เพื่อที่จะทำให้บริษัทสามารถผลิตเครื่องบินรุ่น A220 และ A350 ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมาผู้ผลิตเครื่องบินจากสหรัฐรายนี้ประสบปัญหาในการประกอบเครื่องบิน โดยในปี 2023 บริษัทได้กล่าวว่าปัญหาใหญ่มาจากเรื่องของ Supply Chain ส่งผลทำให้การผลิตและส่งมอบเครื่องบินเป็นไปอย่างล้าช้ากว่าที่คาดไว้

ขณะเดียวกัน Boeing ยังประสบปัญหาในเรื่องความน่าเชื่อถือของเครื่องบิน ในเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่เครื่องบินรุ่น 737 MAX 8 ตก 2 ครั้ง จนทำให้หน่วยงานด้านการบินทั่วโลกสั่งหยุดบินเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะไฟเขียวให้เครื่องบินรุ่นนี้กลับมาบินได้อีกครั้ง

หรือแม้แต่กรณีชิ้นส่วนหลุดออกจากเครื่องบินรุ่น 737 MAX 9 ของสายการบิน Alaska จนทำให้หน่วยงานกำกับดูแลการบินของสหรัฐอเมริกาต้องออกมาสั่งให้ Boeing ห้ามเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องบินรุ่นดังกล่าว จนกว่าจะทำให้หน่วยงานกำกับดูแลพึงพอใจในเรื่องของความปลอดภัย

การตัดสินใจดังกล่าวดำเนินการขึ้นในขณะที่ Boeing พยายามที่จะแก้ไขวิกฤตองค์กรและภาพพจน์ของอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งท้ายที่สุดบริษัทได้เลือกการซื้อกิจการของ Spirit AeroSystems กลับมา

ที่มา – The Guardian, CNN, CBS News

]]>
1480550
ลือ! Bosch สนใจซื้อกิจการ Whirlpool รุกเข้าสู่ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพิ่มมากขึ้น https://positioningmag.com/1479945 Thu, 27 Jun 2024 07:17:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1479945 บ๊อช (Bosch) ผู้ผลิตเครื่องมือไฟฟ้าและอะไหล่รถยนต์จากเยอรมนี สนใจที่จะซื้อกิจการของ เวิร์ลพูล (Whirlpool) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ภายในบ้านรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา โดยปัจจัยสำคัญคือการรุกเข้าตลาดผลิตภัณฑ์ภายในบ้านเพิ่มมากขึ้น นอกจากการผลิตอะไหล่รถยนต์ที่เป็นรายได้สำคัญของบริษัท

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ว่า Bosch ผู้ผลิตเครื่องมือไฟฟ้าและอะไหล่รถยนต์จากเยอรมนี สนใจที่จะซื้อกิจการ Whirlpool ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งแบรนด์ดังกล่าวมีชื่อเสียงโดยเฉพาะเครื่องซักผ้า

ความเคลื่อนไหวล่าสุด Bosch ได้พูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อที่จะเสนอซื้อกิจการของ Whirlpool คาดว่ามูลค่าในการซื้อกิจการนั้นจะไม่น้อยกว่า 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 177,000 ล้านบาท

การซื้อกิจการของ Whirlpool ยังช่วยให้ Bosch เข้าถึงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้มากขึ้น ซึ่งปกติบริษัทผลิตเครื่องมือไฟฟ้าและอะไหล่รถยนต์ให้กับบริษัทยานยนต์ ซึ่งบริษัทมีลูกค้าหลายราย BMW และ Volkswagen อย่างไรก็ดีสถานการณ์ดังกล่าวนั้นไม่สู้ดีนักจากยอดขายที่ชะลอตัวลง

นอกจากนี้เหตุผลในการซื้อกิจการของ Whirlpool ของ Bosch คือ การเข้ามาของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนที่มีจำนวนมากขึ้น จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้บริษัทสนใจซื้อกิจการผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะปกป้องส่วนแบ่งตลาดของบริษัท

Stefan Hartung ซึ่งเป็น CEO ของ Bosch เคยกล่าวว่าบริษัทต้องการที่จะเติบโตในตลาดสหรัฐอเมริกา และหนึ่งในการเติบโตคือการเข้าซื้อกิจการนั่นเอง

อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวชี้ว่าดีลดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ และตัวแทนบริษัทของ Whirlpool และ Bosch กล่าวว่าไม่ขอให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องข่าวลือแต่อย่างใด

]]>
1479945
จากศัตรูสู่มิตร! Meta พูดคุยกับ Apple ถึงความเป็นไปได้ในการเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ https://positioningmag.com/1479480 Tue, 25 Jun 2024 05:05:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1479480 ยักษ์ใหญ่ Social Network อย่าง Meta ได้มีการพูดคุยกับ Apple เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายเคยมีความขัดแย้งระหว่างกันมาแล้ว อย่างไรก็ดีในฝั่งของผู้ผลิต iPhone มีึความกังวลในเรื่องของความเป็นส่วนตัวของโมเดลปัญญาประดิษฐ์ของ Meta

Wall Street Journal รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Meta เจ้าของ Social Network อย่าง Facebook และ Instagram ได้มีการพูดคุยกับ Apple เพื่อที่จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัทเข้าผนวกกับระบบ Apple Intelligence

Meta ที่กำลังพัฒนาโมเดล AI อย่าง Llama ซึ่งแข่งขันกับคู่แข่งจากบริษัทเทคโนโลยีหลายราย ได้พยายามที่จะใช้ความได้เปรียบของจำนวนผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Apple เพื่อที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ จึงทำให้มีการพูดคุยในเรื่องดังกล่าวขึ้น

ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ Apple ได้เปิดตัว Apple Intelligence ขึ้น โดยมีการผนวก AI จาก OpenAI ซึ่งถือว่าเป็น AI ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเวลานี้ ซึ่งดีลดังกล่าวนั้น ผู้ผลิต iPhone ไม่ได้มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าของ ChatGPT แต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้สำหรับ Meta และ Apple เองเคยมีกรณีกระทบกระทั่งระหว่างกันบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของความเป็นส่วนตัว และผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวทำให้เจ้าของ Facebook และ Instagram นั้นมีรายได้ลดลงจากเรื่องดังกล่าวมาแล้ว

กรณีการกระทบกระทั่งกันนั้นทำให้หัวเรือใหญ่อย่าง Mark Zuckerberg นั้นเคยออกมาวิจารณ์การกระทำของ Apple หลายครั้ง หรือแม้แต่ Tim Cook เองก็ได้กล่าวย้ำถึงความเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทมาโดยตลอด และมีการวิจารณ์ในเรื่องของการเก็บข้อมูลของยักษ์ใหญ่เจ้าของเครือข่ายสังคมด้วย (แม้ไม่ได้พาดพิงตรงๆ ก็ตาม)

โมเดลธุรกิจระหว่าง Apple กับ OpenAI ที่นำเทคโนโลยี AI เข้ามาผนวกใน Apple Intelligence นั้นทำให้ Meta เองมองเห็นถึงโอกาส จึงทำให้เกิดการพูดคุยของทั้ง 2 ฝ่ายในเรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ดี สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานล่าสุดว่า Apple ได้ยกเลิกการพูดคุยกับทาง Meta โดยยักษ์ใหญ่ผู้ผลิต iPhone นั้นมีความกังวลในเรื่องความเป็นส่วนตัวของโมเดล AI ดังกล่าว และชี้ว่าการพูดคุยของทั้ง 2 ฝ่ายนั้นเป็นเพียงเริ่มต้น ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม

ที่มา – Bloomberg, Wall Street Journal

]]>
1479480
สหรัฐฯ เตรียมควบคุมการลงทุนในจีน เช่น AI ควอนตัมคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การผลิตชิป ชี้เป็นภัยความมั่นคงของประเทศ https://positioningmag.com/1477005 Mon, 24 Jun 2024 05:47:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1477005 สหรัฐอเมริกา เตรียมที่จะควบคุมการลงทุนในจีน เช่น AI ควอนตัมคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การผลิตชิป ชี้เรื่องดังกล่าวนั้นเป็นภัยความมั่นคงของประเทศ และปกป้องการลงทุนที่อาจส่งผลย้อนกลับมาทำร้ายประเทศได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นของ 2 มหาอำนาจ

รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ได้ออกร่างกฎหมายที่เตรียมควบคุมให้บริษัทหรือนักลงทุนรายบุคคลต้องมีการแจ้งเตือนรัฐบาลถ้าหากมีการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควอนตัมคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่เทคโนโลยีการผลิตชิป

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตามหลังมาจากในเดือนสิงหาคมปี 2023 ที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้เตรียมออกกฎเกณฑ์กำหนดให้บุคคลและบริษัทในสหรัฐฯ ต้องส่งเรื่องให้กับหน่วยงานรัฐเพื่อพิจารณาว่าธุรกรรมการลงทุนในประเทศจีน ซึ่งบางธุรกรรมอาจถูกจำกัดหรือมีสิทธิ์ที่จะถูกแบนได้

ร่างดังกล่าวนั้นส่งผลต่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทั้งในหุ้นบริษัท หุ้นกู้ หรือแม้แต่การกู้เงิน และยังรวมถึงการร่วมทุนกับบริษัทหรือบุคคลในฝั่งจีนด้วย

Paul Rosen ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ที่ดูแลด้านความมั่นคงด้านการลงทุน ได้กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวที่เสนอนี้ทำให้ความมั่นคงของชาติของเราก้าวหน้าขึ้นโดยป้องกันผลประโยชน์การลงทุนของสหรัฐฯ ที่บางประเทศที่ใช้เพื่อคุกคามความมั่นคงต่อประเทศชาติ

แผนการดังกล่าวนี้ต้องการที่จะชะลอในการพัฒนาเทคโนโลยีที่คุกคามความมั่นคงขอสหรัฐฯ ซึ่งจีนต้องการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำหรือไล่ตามสหรัฐฯ ให้ใกล้เคียงมากที่สุด และจำกัดไม่ให้จีนเข้าถึงด้านเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งสามารถที่จะนำไปใช้ในทางทหารได้

นอกจากนี้ร่างกฎหมายยังห้ามไม่ให้บริษัทหรือนักลงทุนรายบุคคลลงทุนในเทคโนโลยี AI ที่มีความเสี่ยงว่าจะใช้ในการทหาร และยังจะต้องมีการแจ้งเตือนรัฐบาลถ้าหากมีการพัฒนาเทคโนโลยี AI หรือแม้แต่ในด้านเซมิคอนดักเตอร์

ในช่วงที่ผ่านมาสหรัฐได้ออกมาตรการเพื่อไม่ให้จีนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดไม่ให้เข้าถึงชิปเร่งการประมวลผล AI ของ Nvidia จนทำให้ภาคเอกชนจีนต้องรีบซื้อชิปดังกล่าวจำนวนมาก หรือแม้แต่การขอร้องให้ชาติพันธมิตรอย่าง ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ไม่ให้จีนเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิปรุ่นใหม่ล่าสุด

ไม่เพียงเท่านี้บริษัทในสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เน้นลงทุนในเหล่าสตาร์ทอัพ (VC) ได้ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะชะลอตัวลงไปเนื่องจากความขัดแย้งของ 2 มหาอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา

และกรณีดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่เริ่มลุกลามบานปลายเพิ่มมากขึ้น ไม่มีท่าทีที่จะชะลอตัวลงแต่อย่างใด

ที่มา – Al Jazeera, Reuters

]]>
1477005
เมื่อ PayPal ปรับกลยุทธ์บริษัท ออกบริการที่ใช้ AI เพิ่มขึ้น ตั้งธุรกิจด้านโฆษณา ชูจุดเด่นรู้ว่าใครซื้ออะไรจากที่ไหน https://positioningmag.com/1479094 Fri, 21 Jun 2024 01:44:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1479094 สำหรับเพย์พาล (PayPal) แล้ว หลายคนอาจรู้จักในส่วนที่ว่าบริษัทเป็นบริการจ่ายเงิน หรือ Payment Gateway แต่ล่าสุดบริษัทได้มีการตั้งผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังรวมถึงทิศทางบริษัทที่เน้นการนำเทคโนโลยี AI มาเน้นกับลูกค้าหรือแม้แต่การหารายได้จากโฆษณา

PayPal ผู้ให้บริการจ่ายเงินรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ล่าสุดบริษัทได้ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีรายใหม่ Srini Venkatesan ซึ่งอดีตนั้นเป็นผู้บริหารของ Walmart โดยทิศทางหลังจากนี้บริษัทจะเน้นในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาบริการให้กับลูกค้าของบริษัทเพิ่มมากขึ้น

ทิศทางของบริษัทที่เปลี่ยนไปนั้น ส่วนหนึ่งมาจากที่บริษัทได้ CEO คนใหม่คือ Alex Chriss ซึ่งเขาเองเป็นผู้บริหารจากบริษัทซอฟต์แวร์อย่าง Intuit

ซึ่ง CEO รายนี้เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ว่า “ข้อมูลที่บริษัทมีและความสามารถของบริษัทในการดูสิ่งที่ผู้คนซื้อและรู้ว่าผู้ค้ารายใดพยายามหาเป้าหมาย” นั่นคือสิ่งที่เขาคิดว่า AI ถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับบริษัท

หลังจากการเข้ามาของ CEO รายใหม่ PayPal ได้ประกาศการนำเทคโนโลยี AI มาให้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยให้ร้านค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ตามประวัติการซื้อครั้งก่อน ซึ่งบริษัทมีข้อมูลในการซื้อขายของลูกค้าเป็นจำนวนมาก

บริษัทยังออกผลิตภัณฑ์อย่างใบเสร็จอัจฉริยะ ที่ใช้เทคโนโลยี AI ซึ่งใบเสร็จรับเงินทางอีเมลของลูกค้าจะมีการแนะนำสินค้าที่เหมาะสม รวมถึงโปรโมชั่นคืนเงินให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ PayPal ยังได้ Mark Grether ซึ่งเคยเป็นหัวเรือที่คุมธุรกิจโฆษณาของ Uber โดยบริษัทได้แต่งตั้งในตำแหน่งรองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของแผนกโฆษณาซึ่งเป็นแผนกที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ ในบทบาทใหม่นั้น เขาจะรับผิดชอบในการพัฒนารูปแบบโฆษณาใหม่ รวมถึงดูแลการขายโฆษณา

ไม่เพียงเท่านี้ด้วยข้อมูลที่ PayPal มีมหาศาล บริษัทยังเตรียมขายข้อมูลให้กับผู้ที่ต้องการลงโฆษณาเพื่อที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ข้อมูลในไตรมาส 1 ของปี 2024 นั้น PayPal ประมวลผลการจ่ายเงินมากถึง 6,500 ล้านธุรกรรม คิดเป็นจำนวนลูกค้าที่ใช้งานมากถึงราวๆ 400 ล้านราย ทำให้มีข้อมูลต่างๆ จำนวนมาก

เป้าหมายของ PayPal หลังจากการได้ทีมผู้บริหารชุดใหม่ คือการหารายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจอื่นๆ นอกจากบริการรับจ่ายเงิน

ที่มา – PayPal, The Verge, Reuters [1], [2]

]]>
1479094
Bain คาด ตลาดสินค้าหรูเติบโตเพียงแค่ 4% ในปีนี้ ผลจากชาวจีนและสหรัฐฯ ลดการจับจ่ายใช้สอย https://positioningmag.com/1478719 Wed, 19 Jun 2024 03:02:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1478719 Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ ได้ออกคาดการณ์ตลาดสินค้าหรูในปี 2024 นี้อาจเติบโตได้แค่ 4% เท่านั้น สาเหตุสำคัญมาจากชาวจีนและสหรัฐฯ ลดการจับจ่ายใช้สอย และคาดว่าตลาดสินค้าหรูอาจต้องใช้เวลาสักพักในการฟื้นตัวกลับมา

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวโดยอ้างอิงข้อมูลจาก Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำได้คาดการณ์ถึงตลาดสินค้าหรูในปี 2024 นี้จะเติบโตเพียงแค่ 4% เท่านั้น ซึ่งการเติบโตดังกล่าวนี้เป็นการเติบโตที่อ่อนแอมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวเลขตลาดสินค้าหรูเติบโตได้ถือว่าน้อยมากนั้นมาจากเรื่องของเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีนและสหรัฐอเมริกา ที่ลดการจับจ่ายใช้สอย โดยในสหรัฐฯ นั้นมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง ส่งผลทำให้ลูกค้าที่เป็นชนชั้นกลางหรือกลุ่มวัยรุ่นชะลอการซื้อสินค้าหรู

แต่ในรายงานดังกล่าวของ Bain ยังชี้ว่า สำหรับกลุ่มลูกค้าร่ำรวยในสหรัฐอเมริกานั้นเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวแล้ว

รายงานของ Bain ยังชี้ว่าในประเทศจีนการชะลอตัวสามารถเห็นได้ชัดเจนสุดเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อสินค้าหรู นั่นก็คือชนชั้นกลางจีน ผลกระทบดังกล่าวยังส่งผลต่อชาวจีนผู้มั่งคั่งที่ยังสามารถซื้อของหรูเหล่านี้ได้ก็ต้องระมัดระวังในการแสดงตน

Federica Levato ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ของ Bain ได้กล่าวในเรื่องดังกล่าวว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีนที่คนซื้อสินค้าหรูเหล่านี้จะต้องระมัดระวังในการแสดงตน หรือ Luxury Shame

ไม่เพียงเท่านี้ ในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราการว่างงาน วิกฤตทางสังคมและเศรษฐกิจ ส่งผลทำให้ชาวจีนที่ร่ำรวยกว่าที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ย้ายการจับจ่ายใช้สอยไปยังต่างแดน ซึ่งความกังวลดังกล่าวมาจากยอดขายสินค้าของบางแบรนด์ในแดนมังกร เช่น Gucci ที่มีฐานลูกค้าชาวจีนจำนวนมากนั้นมียอดขายลดลง

สอดคล้องกับกลยุทธ์ของหลายแบรนด์ดังเองที่เริ่มหาตลาดใหม่ๆ นอกจากจีนและสหรัฐอเมริกา เนื่องจากหลายประเทศมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

การเติบโตของตลาดสินค้าหรูนั้นในปี 2022 นั้นเติบโตที่ 13% ขณะที่ปี 2023 เติบโตที่ 8% และรายงานดังกล่าวของ Bain ยังมองว่าตลาดสินค้าหรูต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวสักพัก

]]>
1478719
รัฐบาลสหรัฐฯ ฟ้อง Adobe ในข้อหาเอาเปรียบผู้บริโภค บีบให้สมัครสมาชิกบริการรายปี ถ้ายกเลิกโดนชาร์จค่าธรรมเนียมแสนแพง https://positioningmag.com/1478546 Tue, 18 Jun 2024 10:08:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1478546 คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ ได้ยื่นฟ้อง Adobe บริษัทซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบชื่อดัง จากเรื่องการปกปิดในเรื่องการคิดค่าธรรมเนียม และมีการซ่อนรายละเอียดไว้ โดยถ้าหากลูกค้ายกเลิกการสมัครเป็นสมาชิกจะถูกหักค่าธรรมเนียมที่แสนแพง ทำให้ผู้บริโภคต้องทนใช้งานบริการเป็นระยะเวลา 1 ปี อย่างไรก็ดีบริษัทได้เตรียมตัวสู้คดีดังกล่าว

คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) ได้ยื่นฟ้อง Adobe บริษัทซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบชื่อดัง จากเรื่องการปกปิดในเรื่องการคิดค่าธรรมเนียม และมีการซ่อนรายละเอียดไว้ ถ้าหากลูกค้าต้องการยกเลิกบริการล่วงหน้าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยบริษัทนั้นเตรียมตัวที่จะต่อสู้ในคดีดังกล่าวถึงที่สุด

ในเอกสารของ FTC ที่เผยแพร่กับสื่อได้ชี้ว่า Adobe ล้มเหลวในการเปิดเผยข้อกำหนดแก่ลูกค้า มีการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมถ้าหากมีการยกเลิกสมาชิกก่อนกำหนด ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวผู้ใช้งานไม่ได้สังเกตเห็นได้ง่าย รวมถึงกระบวนการในการยกเลิกสมาชิกที่ถือว่ายุ่งยากรวมถึงบริษัทยังปฏิเสธที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเนื่องจากจะส่งผลเสียต่องบการเงินของบริษัท

สำหรับค่าใช้จ่ายในการยกเลิกสมาชิกที่ FTC กล่าวถึงคือ Adobe จะมีการหักค่าใช้จ่าย 50% ของค่าสมาชิกในแต่ละเดือนที่เหลือ

Samuel Levine ผู้อำนวยการของ FTC ได้กล่าวว่า ชาวอเมริกันรู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่บริษัทต่างๆ ซ่อนเงื่อนไขต่างๆ ระหว่างการสมัครสมาชิก แล้วพยายามกีดขวางไม่ให้ผู้ใช้งานยกเลิกสมาชิก และ Adobe ได้พยายามให้ลูกค้าเป็นสมาชิกตลอดทั้งปีด้วยค่าธรรมเนียมยกเลิกก่อนกำหนด และยังไม่ให้ลูกค้าสามารถยกเลิกการเป็นสมาชิกอย่างง่ายดาย

แนวทางในการฟ้องร้อง Adobe นั้น FTC ได้ใช้แนวทางเดียวกับการฟ้องร้องเช่นเดียวกับกรณีของ Amazon ที่ให้สมาชิกสมัครใช้งาน Amazon Prime แต่สร้างเงื่อนไขทำให้การยกเลิกสมาชิกเป็นไปอย่างยากลำบาก

ในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ หรือ FTC ได้พยายามเข้ามาควบคุมดูแลบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ซึ่งกรณีล่าสุดที่บริษัทเทคโนโลยีได้ถูกสอบสวนคือกรณีการผูกขาดเทคโนโลยี AI

ขณะเดียวกัน Adobe เองก็ถือว่าถูกหน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาสอดส่องอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีการซื้อบริษัทซอฟต์แวร์อย่าง Figma มูลค่า 20,000 ล้านเหรียญ ก่อนที่จะมีการยกเลิกดีลดังกล่าว เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลมองว่าบริษัทมีโอกาสที่จะผูกขาดมากขึ้น

อย่างไรก็ดี Dana Rao ที่ปรึกษาทั่วไปของ Adobe ได้โต้แย้งข้อเรียกร้องดังกล่าวและกล่าวว่าจะสู้คดีดังกล่าวจนถึงที่สุด โดยกล่าวว่า บริษัทมีความโปร่งใสกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงการสมัครสมาชิกของเรา และมีกระบวนการยกเลิกสมาชิกที่เรียบง่าย”

ที่มาBBC, The Verge

]]>
1478546
แบรนด์เสื้อผ้าหลายแห่งในสหรัฐฯ เริ่มเห็นเทรนด์ ‘ไซส์เล็ก’ ขายดีอีกรอบ หลังปากกาลดน้ำหนักได้รับความนิยมล้นหลาม https://positioningmag.com/1478357 Mon, 17 Jun 2024 06:07:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1478357 เหล่าแบรนด์เสื้อผ้าหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาเริ่มเห็นเทรนด์เสื้อผ้าขนาดไซส์เล็กลงขายดีหรือแม้แต่มีการเช่าเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องนั้นคาดว่าเกี่ยวข้องกับปากกาลดน้ำหนักที่กำลังได้รับความนิยม แม้ว่าค่าใช้จ่ายของปากกาลดน้ำหนักดังกล่าวนั้นจะมีราคาแพงก็ตาม

รายงานจาก Wall Street Journal สื่อธุรกิจสหรัฐฯ ได้ชี้ถึงสถานการณ์แบรนด์เสื้อผ้าหลายแห่งนั้นพบว่าเสื้อผ้าไซส์เล็กได้กลับมาขายดีอีกรอบ เนื่องจากผลของปากกาลดน้ำหนัก หรือ Ozempic ขายดี จนทำให้เหล่าสาวๆ นั้นมีน้ำหนักลดลงจนกลับมาสามารถใส่เสื้อผ้าขนาดเล็กลงได้

สื่อรายดังกล่าวได้รายงานว่าผู้บริหารของแบรนด์เสื้อผ้าหลายแห่งนั้นไม่แน่ใจว่าการกลับมาของเสื้อผ้าไซส์เล็กนั้นมีความเกี่ยวข้องกับปากกาลดน้ำหนักหรือไม่ แต่พวกเขามองว่าการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถือว่าแตกต่างกับในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากปกติแล้วการออกแบบเสื้อผ้าจะเน้นขนาดไซส์ใหญ่ และมีการออกแบบที่พรางรูปร่าง

แบรนด์เสื้อผ้าหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาได้กลับมามีการเติมสต๊อกสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าไซส์เล็กลง นอกจากนี้บางแบรนด์ยังตอบสนองความต้องการลูกค้าด้วยการเพิ่มลุคที่ดูโปร่งเพื่อที่จะเห็นรูปร่างมากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่การออกแบบที่ดูหรูหรา

Lafayette 148’s ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ผู้บริหารได้กล่าวว่า 5% ของลูกค้าได้ซื้อเสื้อผ้าที่มีขนาดไซส์เล็กลงเนื่องจากสาวๆ ที่เป็นลูกค้ามีน้ำหนักลดลง ซึ่งลูกค้าบางรายที่ได้ใส่เสื้อผ้าขนาดไซส์ 12 ได้ลดไซส์ลงมาเหลือไซส์ 8 หรือบางรายได้ลดลงมาเหลือไซส์ 6 ด้วยซ้ำ

ปากกาลดน้ำหนัก – ภาพจาก Shutterstock

หรือแม้แต่ Rent the Runway บริการเช่าเสื้อผ้าในสหรัฐอเมริกา ได้มีการเปลี่ยนไซส์เสื้อผ้าครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี โดยนำเสื้อผ้าขนาดไซส์เล็กลงมาให้เช่า โดยผู้บริหารได้กล่าวว่าลูกค้า (ที่น้ำหนักลดลง) เริ่มมีความมั่นใจเริ่มลองเสื้อผ้าที่โชว์สัดส่วนของตัวเองมากขึ้น

หญิงสาวรายหนึ่งอายุ 32 ปีได้ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal เธอได้กล่าวว่า ในอดีตนั้นตัวเธอไม่มีความมั่นใจในรูปร่างของเธอเลยด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่เธอได้ใช้ปากกาลดน้ำหนัก ส่งผลทำให้น้ำหนักของเธอลดลงไปมากถึง 60 ปอนด์ (หรือประมาณ 27 กิโลกรัม) ทำให้เธอกลับมามีความมั่นใจอีกรอบ กล้าที่จะลองใส่เสื้อผ้ามากขึ้น

สำหรับปากกาลดน้ำหนัก หรือ Ozempic ใช้งานโดยฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ซึ่งตัวยานั้นมีการสังเคราะห์ฮอร์โมนคล้ายกับฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่หิว และทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวได้รับอนุมัติจากหน่วยงานด้านสุขภาพในหลายประเทศ

อย่างไรก็ดีปากกาลดน้ำหนักอาจใช้ไม่ได้ผลสำหรับบางคน และอาจมีผลข้างเคียงในการใช้ นอกจากนี้การใช้งานอาจต้องมีการปรึกษาขอคำแนะนำจากแพทย์ที่เกี่ยวข้อง โดยราคาของปากกาลดน้ำหนักมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นบาทขึ้นไป

รายงานดังกล่าวยังชี้ว่าการที่เสื้อผ้ามีขนาดไซส์เล็กลงยังช่วยให้ผู้ผลิตเสื้อผ้านั้นกลับมามีกำไรจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง และยังทำให้ค้าปลีกแบรนด์เสื้อผ้านั้นกลับมามียอดขายกระเตื้องมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความมั่นใจในรูปร่างตัวเอง

]]>
1478357
Visa และ Mastercard ยื่นข้อเสนอ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ยุติคดีผูกขาด แต่ผู้พิพากษาสหรัฐฯ เตรียมปัดตกดีลดังกล่าว https://positioningmag.com/1478305 Mon, 17 Jun 2024 01:40:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1478305 วีซ่า (Visa) และ มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) ได้ยื่นข้อเสนอที่จะยอมความในคดีผูกาขาด ซึ่งมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรที่เหล่าภาคธุรกิจในสหรัฐฯ มองว่าแพงมากเกินไป อย่างไรก็ดีในคดีความดังกล่าวผู้พิพากษาในคดีความนี้เตรียมที่จะปัดตกในข้อตกลงยอมความ

Visa และ Mastercard ได้ยื่นข้อเสนอมากถึง 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1.1 ล้านล้านบาท ในการยุติคดีผูกขาดซึ่งกินระยะเวลาเกือบ 20 ปี หลังจากที่ผู้ประกอบการรายย่อยในสหรัฐอเมริกาได้ฟ้องร้องว่าทั้ง 2 นั้นผูกขาดในธุรกิจ ทำให้เกิดต้นทุนในการจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตสูงเกินไป

ตามบันทึกของศาลในสหรัฐอเมริกา Margo Brodie ผู้พิพากษาในเขตบรูคลิน ได้กล่าวกับทนายความของฝั่ง Visa และ Mastercard ในการพิจารณาคดีว่าเธอ “มีแนวโน้มจะไม่อนุมัติข้อตกลงในข้อเสนอดังกล่าว”

ผู้พิพากษาในเขตบรูคลินรายนี้ยังกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่าข้อตกลงที่เหมาะสมจะเป็นอย่างไร แต่ฉันรู้ว่าฉันรู้สึกหนักใจกับข้อตกลงนี้ และไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่ฉันได้ยินในวันนี้แล้วสามารถเปลี่ยนใจได้ว่า ข้อตกลงนี้ควรจะได้รับการอนุมัติ”

สำหรับคดีความดังกล่าวผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในสหรัฐอเมริกาได้ฟ้องร้อง Visa และ Mastercard ในปี 2005 ว่าทั้ง 2 นั้นมีการผูกขาดตลาด ส่งผลทำให้ต้นทุนในการจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตสูงเกินไป และยังมีการขัดขวางไม่ให้ธุรกิจต่างๆ ในการหาวิธีที่ทำให้มีการจ่ายเงินได้ถูกลง

คดีความดังกล่าวนี้ได้มีการยอมความเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา โดย Visa และ Mastercard จะลดค่าธรรมเนียมลงอย่างน้อยปีละ 0.04% เป็นเวลา 3 ปี และสามารถขยายได้ถึง 5 ปี รวมถึงสามารถให้ลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กสามารถให้ทางเลือกในการจ่ายเงินรูปแบบอื่นแก่ลูกค้าได้

ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกามากกว่า 90% ของผู้ค้าที่ตกลงที่จะยุติคดีความดังกล่าวกับ Visa และ Mastercard

สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ (NRF) มองว่าการยุติคดีดังกล่าวนั้นไม่ได้มอบผลประโยชน์ให้เหล่าธุรกิจมากพอ รวมถึงข้อเสนอจาก Visa และ Mastercard ถือว่ามีระยะเวลาสั้นไป รวมถึงการลดค่าธรรมเนียมลงนั้นถือว่าน้อยมาก และข้อตกลงดังกล่าวยังทำให้ 2 บริษัทควบคุมค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรต่อไปได้

ปัจจุบันค่าธรรมเนียมรูดบัตรของ Visa และ Mastercard อยู่ในช่วง 1.5% ถึง 3.5%

ภาคธุรกิจในสหรัฐอเมริกาได้มีความพยายามอย่างหนักในการที่จะลดค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรลงมา อย่างไรก็ดีนอกจาก Visa และ Mastercard ที่ได้รับค่าธรรมเนียมแล้ว ทางธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น JPMorgan Chase Bank of America และ Citibank รวมถึงธนาคารรายอื่นก็ได้รับค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วย

ในกรณีการยอมความดังกล่าวผู้พิพากษา Margo ยังเตรียมวางแผนที่จะเขียนความคิดเห็นเพื่ออธิบายการตัดสินใจพร้อมทั้งยกเหตุผลว่าทำไมเธอถึงปัดตกในเรื่องการยุติคดี

ที่มา – Reuters, Bloomberg

]]>
1478305