คุณเคยไหม ใช้หรือเห็นอะไรสักอย่างจนกลายเป็นเคยชิน และไม่รู้สึกพิเศษกับมันอีก? ไมโครซอฟท์ แบรนด์ที่มีผู้ใช้งานมากถึง 90% ของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์กำลังเผชิญกับปัญหาดังกล่าว เมื่อผลวิจัยเรื่องทัศนคติต่อแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้สึกพบว่า เมื่อคิดถึงไมโครซอฟท์ผู้บริโภคจะรู้สึกว่าคุ้นเคยมากเกินไป จนไม่มีอะไรแปลกใหม่สำหรับลูกค้าอีกแล้ว ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ไมโครซอฟท์จึงต้องทำแคมเปญ Microsoft, Great Time Together ซึ่งเป็น Global Campaign ที่ใช้ 35 ประเทศ ตัวโฆษณามีทั้งหมด 7 เวอร์ชั่น เล่าเรื่องราวที่ผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ที่ช่วยทำให้ครอบครัวมีเวลาสนุกสนานร่วมกันมากขึ้น ในไทยไมโครซอฟท์คัดเลือกเรื่องราวมา 2 เรื่อง Baby และ Dog.ptt ที่ตรงกับสินค้าไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 7 และไมโครซอฟท์ออฟฟิศ 2010...
หลังจากเห็นความสำเร็จของ แบรนด์ เปปทีน และมาม่า ที่ใช้กิจกรรมติวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นเวทีเข้าหากลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปี ซีพี-เมจิ ก็เห็นประโยชน์จากกิจกรรมลักษณะนี้เช่นกัน แต่ถ้าหากว่าจะเข้าไปสู่ตลาดเดียวกันก็จะกลายเป็นผู้เล่นรายที่ 4 ในกิจกรรมนี้ ดังนั้น ซีพี-เมจิ จึงหาช่องงว่างของตัวเองแล้วทำโครงการ “เมจิ เทนไซ ติวน้องสู่เส้นชัย เข้าม.1” จับกลุ่มเป้าหมายประมาณ ป.5-ป.6 ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายตรงของนมพาสเจอร์ไรซ์ ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวถึงกิจกรรมของแบรนด์อื่นที่จับเรื่องติวมาก่อนหน้านี้ว่า “เป็นโปรแกรมที่ดี เสริม Brand Value ได้พอสมควร แต่เราก็มีจุดของลูกค้าเราเอง ในเมื่อเป็นโปรแกรมที่ดีเราก็เรียนรู้และทำต่อได้ เพราะนอกจากจะทำให้เกิด Brand...
การยกระดับ แชมพู “แพนทีน” จากแชมพูระดับแมสไปสู่ความเป็น “พรีเมียม” ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญของพีแอนด์จี หลังจากพบว่า ตลาดแชมพูระดับพรีเมียมมีอนาคตสดใสกว่าแชมพูระดับแมส จากปัจจุบันแชมพูพรีเมียมมีสัดส่วน40% แชมพูระดับแมสมีสัดส่วน 60% แต่การเข้าสู่ตลาดแชมพูพรีเมียม ต้องทำด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค จากปัจจุบันผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์เพียง 2-3 ขั้นตอนเป็นส่วนใหญ่ คือ แชมพู และคอนดิชันเนอร์ หรือทรีตเมนต์ เพิ่มขั้นตอนการดูแลเหมือนผิว คือ 6-7 ขั้นตอน ซึ่งหมายถึงโอกาสในทำรายได้จากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมากขึ้น วรศิษย์ ตุรงค์สมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ ประจำประเทศไทย บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย)...
ถ้านึกถึงค่ายเวิร์คพอยท์ หลายคนนึกถึง “เสี่ยตา ปัญญา หม่ำ เท่ง โหน่ง ตุ๊กกี้” แต่แค่นี้ไม่พอ เพราะเวลานี้ “เสี่ยตา” อยากให้แฟนๆ รู้สึกว่าถ้านึกถึงคอนเทนต์บันเทิง “เกาหลี” ก็ขอให้นึกถึงค่าย “เวิร์คพอยท์” บ้าง ความหมายที่มากกว่านั้นคือ “เวิร์คพอยท์” อยากได้ฐานที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น จากเดิมที่สินค้าส่วนใหญ่ในค่ายเน้นผู้ชมทั่วประเทศ ที่ส่วนใหญ่นับวันเริ่มแก่ตามสินค้าเด่น จนแบรนด์เวิร์คพอยท์เริ่มห่างไกลจากวัยรุ่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กลายเป็นโจทย์ล่าสุดที่ “ปัญญา นิรันดร์กุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) บอกกับทีมงานว่าให้ลองหาธุรกิจใหม่ที่ทำแล้วได้เสียงกรี๊ดจากวัยรุ่น จนเป็นจุดเริ่มต้นการตั้งสำนักพิมพ์ “กิมชิค” ภายใต้บริษัทเวิร์คพอยท์ พับลิชชิ่ง จำกัด ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2554 ...
“ลองไปดูสิ ที่ Dean&Deluca คนใช้ไอโฟน ไอแพด ออนไลน์กันทั้งนั้น” ภาพนี้สำหรับ “ศุภลักษณ์ อัมพุช” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป ทำให้ไอเดียของเธอบรรเจิดได้อีก ไลฟ์สไตล์คนอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้น พลังของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คที่เติบโตไม่หยุด ทำให้การลงทุนต่ออีก 100 ล้านบาทสำหรับ “ศุภลักษณ์” มั่นใจว่าจะคุ้มค่า กับ “ธุรกิจ” ใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์”โซเชี่ยลคอมเมิร์ซ” ที่ mglobemall.com ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซภาคต่อจากที่เดอะมอลล์ลงทุนไปเกือบ 100 ล้านบาทเมื่อปี 2554 ในคอนเซ็ปต์ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ บนเว็บไซต์ mods.co.th ในปี 2555 สำหรับเดอะมอลล์กรุ๊ป จะพาคนช้อปปิ้งทั้ง On Ground OnAir และ Online...
Path จัดเป็น App บนโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คที่กำลังมาแรงที่สุดในเวลานี้ ด้วยจุดเด่นที่รวมเอาความสนุกของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คอื่นๆ มาไว้ที่ “Path” เพียงตัวเดียว แถมยังเล่นได้ข้ามแพลตฟอร์ม ทั้งโทรศัพท์มือถือระบบ iOS และ Android จุดเด่นของ Path คือ การตั้งสเตตัสแบบเดียวกับเฟซบุ๊ก เช็กอินได้เหมือนโฟร์สแควร์ โพสต์รูปได้คล้ายอินสตาแกรมเพราะผู้เล่นสามารถแต่งรูปด้วยฟิลเตอร์สวยๆ ที่ติดมากับแอพพลิเคชั่น แถมด้วยระบบการโพสต์เพลง สิ่งที่ Path เพิ่มเติมกิมมิกน่ารักๆ เข้ามา ก็คือฟีเจอร์ Sleep เมื่อเวลานอน และตอนตื่นนอนเมื่อกด Awake ระบบจะเช็กเวลาตื่นและนอนให้เสร็จสรรพว่านอนไปกี่ชั่วโมง ความแตกต่างของ Path กับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็อยู่ที่การเผยความเป็นส่วนตัวมากว่าเฟซบุ๊ก ผู้ที่เล่น Path จะต้องคิดให้ดีก่อนรับใครเป็นเพื่อน...
หากมองธุรกิจในปัจจุบัน เราจะเห็นธุรกิจที่เป็นอยู่ ทั้งเป็นผู้นำ ผู้ท้าชิง ผู้ตาม และผู้ที่แยกตัวออกเป็นสวนย่อย หรือ Niche เหล่านี้จะเกิดในกลุ่มธุรกิจเกือบทุกธุรกิจก็ว่าได้ คงจะไม่มีธุรกิจใดที่อยู่และทำธุรกิจได้โดยไม่มีคู่แข่ง อย่างน้อยถึงท่านไม่แข่งกับคนอื่นก็ต้องแข่งกับตนเอง หรือแข่งกับสภาวะแวดล้อม สิ่งที่มากระทบต่างๆ อาจเป็นจุดพลิกให้บางธุรกิจหายไป หรือบางธุรกิจต้องตกไป หรือหายออกไป หากมองดูธุรกิจ ลองตั้งข้อสังเกตในแต่ละธุรกิจ จะมีกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจ โดยคร่าว cellpadding="2" cellspacing="2">Market Leader (ผู้นำ) 40% Market Challenger (ผู้ท้าชิง) 30% Market Follower (ผู้ตาม) 20% Market Nicher (กลุ่มเฉพาะ) 10%...
นอกจากบ้านในกรุงเทพฯ ราคา 50 ล้านบาท การสะสมรายได้ของเอ ศุภชัย เท่าที่เขาเปิดเผยได้ จะอยู่ในรูปเงินสด และซื้อที่ดิน เริ่มมาจากการได้ที่ดินมรดกจากปู่ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชบ้านเกิดของเขา จำนวน 100 ไร่ จากนั้นเขาก็ทยอยซื้อเพิ่ม ปลูกเป็นสวนยาง เงินอีกส่วนจะหมดไปกับการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม Hermes เป็นอีกความคลั่งไคล้ที่เขามีไม่ต่ำกว่า 20 ใบ เอบอกว่าส่วนหนึ่งน้องๆ ในสังกัดซื้อให้เป็นของขวัญ นอกจากนี้เขาลงทุนเปิดร้านขายเสื้อผ้า A’rea ในห้างทีสแควร์ คอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ ย่านทาวน์อินทาวน์ และเพิ่งลงทุนร่วมกับเมย์ เฟื่องอารมณ์ เพื่อนรุ่นน้องตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยรังสิต เปิดร้านส้มตำ 3แห่ง ใช้ชื่อ ตำแหล ที่รัชโยธิน หลังการบินไทย และอิมพีเรียลสำโรง ซึ่งเอบอกว่าเปิดเล่นๆ...
ดาราดังระดับซุป'ตาร์ของเมืองไทยเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็น ณเดชน์ คูกิมิยะ อั้ม พัชราภา ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ, มาริโอ้ เมาเร่อ, ปู ไปรยา สวนดอกไม้ เคน ภูภูมิ, หมาก ปริญ ล้วนมาจากฝีมือของนักปั้นมืออาชีพ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ทั้งสิ้น ความดังของซูเปอร์สตาร์เหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญ แต่ได้ผ่านกระบวนการคิด จับความต้องการของตลาดได้อยู่หมัด ทำให้ “ดารา” กับ “สินค้า” กลายเป็นของคู่กัน จังหวะการวางสินค้า รู้ว่าควรโปรโมตอย่างไร เวลาไหนควรเก็บเกี่ยว นับเป็นโมเดลที่น่าศึกษายิ่ง ในฐานะนักปั้นดารา เอ ศุภชัย...





